ดีลลับ หมอมาเฟีย

ดีลลับ หมอมาเฟีย

last updateLast Updated : 2025-04-08
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
37Chapters
88views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

"ทุกอย่างมีราคาต้องจ่าย..." ชายหนุ่มบอกกับฉันว่าอย่างนั้น ในความหมายของเขา คือหากต้องการเงิน ก็ต้องเอาร่างกายมาแลก ภายใต้หน้ากากกระต่ายที่เขาใช้บดบังใบหน้าเพื่อปกปิดตัวตน ฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจมากที่สุด แม้ว่านั่น จะแลกมาด้วยอิสระที่หายไปร่วมสองเดือน ไม่ว่าเขาจะเรียกเมื่อไหร่ฉันก็ต้องมา เขาต้องการที่ไหน เมื่อไหร่ ท่าไหน ฉันก็ต้องทำ และกฎเพียงข้อเดียวที่ต้องรักษา คือ...ห้ามเห็นหน้าเขาอย่างเด็ดขาด "ทุกอย่างมีราคาต้องจ่าย อ้าขาออก"

View More

Chapter 1

บทที่ 1 ทำไมต้องมีแค่ฉันที่เจ็บปวด...

โลกนี้มันไม่มีหรอก คนที่จะโชคร้ายไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะเจอเรื่องเลวร้ายมากมายแค่ไหนในชีวิต แต่สุดท้ายแล้วก็จะมีสักวันที่เป็นของเรา...

ฉันเองก็เชื่ออย่างนั้นมาตลอด จนกระทั่งได้รับข้อความแบบนี้จากทางโรงพยาบาล

‘คุณแม่ของหนูจะต้องใช้ตัวยาที่แพงขึ้นในการรักษา แต่ว่าทางเราไม่สามารถเบิกจ่ายยาตัวนั้นมาใช้ได้ ยังไงรบกวนจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่ค้างเอาไว้ก่อนนะคะ’

บางทีฉันก็ตลกชีวิตตัวเองนะ แม่เคยเล่าว่าแม่เป็นลูกสาวของตระกูลผู้ดีเก่า ยายของฉันมีเชื้อสายของผู้ดีในวังซึ่งตอนนี้มีธุรกิจติดต่อกับต่างชาติทรัพย์สินกว่าร้อยล้าน แต่เพราะเรื่องที่แม่ท้องตอนอายุ 15 กับผู้ชายที่ท่านไม่รู้แม้แต่ชื่อ ทำให้ท่านถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมทั้งห้ามเอ่ยถึงเรื่องที่มีเชื้อสายกับตระกูลนั้นอีก ตั้งแต่เกิดมาฉันเคยเจอยายครั้งหนึ่งตอนที่อายุ 7 ขวบ ตอนนั้นแม่ที่ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าว ได้บากหน้าพาฉันไปขอเงินจากยาย ฉันจำได้ติดตาว่ายายโยนเงินมาให้หนึ่งพันบาท หลังจากนั้นก็ไล่ตะเพิดเราสองแม่ลูกออกมา

ฉันในวัยเพียง 7 ขวบ มองเข้าไปในบ้านที่แสนโอ่อ่าหลังนั้น ก่อนจะพบว่ายายเองกำลังเอาอกเอาใจเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน ทำให้ฉันตั้งคำถามกับแม่ซ้ำๆ

ฉันผิดอะไร แม่ผิดอะไร...ทำไมเราทั้งคู่ต้องถูกเกลียดด้วย แต่แม่ไม่เคยพูดถึงยายในทางที่ไม่ดีเลย ท่านมีเพียงคำว่า ท่านเสียใจที่ทำให้ยายร้องไห้ ถ้าทำได้ ท่านก็อยากขอโทษเพื่อให้ฉันได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

แต่สำหรับฉันแล้ว คนที่ไม่เห็นค่าของเรา คนที่ทำเหมือนกับว่าเราไม่ใช่คนพวกนั้น เราไม่จำเป็นต้องขอโทษหรือรู้สึกผิด ฉันเลยไม่เสียใจที่ต้องต่อสู้กับชีวิตที่โหดร้ายอยู่กับแม่เพียงสองคน

เพียงแต่ตอนนี้...แม่กำลังจะตาย ท่านเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย ค่ารักษาของแม่แพงหูฉี่จนฉันไม่อาจสู้ไหว แต่ฉันก็ยังกัดฟันทั้งเรียนทั้งทำงานเพื่อหาเงินมารักษาแม่ ทั้งยังพาแม่มารักษาในโรงพยาบาลที่เขาว่าดีที่สุดเรื่องการรักษามะเร็ง ด้วยเหตุผลเดียว...ฉันไม่อยากเสียแม่ไป

เรามีกันแค่สองคน ถ้าเสียท่านไปฉันคงไม่เหลืออะไรเลย

“มีอะไรแกบอกฉันได้นะดา ฉันอยู่ข้างแกเสมอนะ”

เสียงจากด้านหลังดังขึ้นพร้อมทั้งเพื่อนรักอย่าง เอแคลร์ เดินเข้ามานั่งที่ข้างฉัน เธอตบไหล่ฉันน้อยๆ เชิงให้กำลังใจก่อนจะยื่นกระป๋องโคล่ามาให้

“ขอบใจนะแคลร์”

ฉันรับมันมาเปิดดื่มโดยไม่ปฏิเสธ สายตาก็มองออกไปเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ตอนนี้เราโดดเรียนออกมานั่งเล่นที่ฝายน้ำล้นใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัย ซึ่งตรงนี้มีแม่น้ำใหญ่และสะพานกว้าง พร้อมทั้งเนินหญ้าที่เหมาะสำหรับมานั่งปิกนิก นอกจากพวกเราก็มีนักศึกษาคนอื่นๆ และชาวบ้านที่มาตกปลาเพื่อหาเลี้ยงชีพอยู่ด้วย

บรรยากาศมันช่างดีนัก ลมเย็นๆ กับเครื่องดื่มสุดสดชื่น มันผิดกับอารมณ์ของฉันในตอนนี้เลย

“เรื่องแม่แกอีกแล้วเหรอ ฉันบอกแล้วไงว่ายืมเงินฉันไปก็ได้ แม่รู้เรื่องนี้นะ ท่านไม่ว่า ไม่คิดดอกเบี้ยด้วย”

เอแคลร์พยายามที่จะยื่นข้อเสนอนี้มาให้ฉันหลายครั้ง ทว่าฉันกลับปฏิเสธเพราะไม่อยากรบกวนเพื่อนจนเกินไป แค่นี้เธอก็ช่วยฉันมามากพอแล้ว

เราทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง ด้วยความที่เธอเป็นสาวขี้อาย ผิดกับฉันที่ปากกล้าและหน้าด้าน เลยทำให้ฉันได้ออกหน้าช่วยเธอในหลายๆ เรื่อง แต่ในสังคมมหาวิทยาลัยที่ผู้คนเหยียดกันเรื่องความรวยความจน เอแคลร์เป็นคนเดียวที่ไม่สนฐานะของฉัน และยังดีกับฉันมาจนถึงทุกวันนี้

ผิดกับคนอื่นๆ ในกลุ่มของเธอ ยัยพวกนั้นน่ะป่าเถื่อน รวยซะเปล่าแต่นิสัยไม่ดี

“ขอบใจมากนะ แต่เอาเป็นว่าฉันพาแกหนีเรียนครั้งนี้ก็มากพอแล้ว แกไม่ต้องช่วยเรื่องนั้นฉันหรอก”

“ได้ไงล่ะ เราเพื่อนกันนะ”

เราทั้งคู่นั่งดื่มกันไปคุยกันไปจนกระทั่งเครื่องดื่มหมดลง เป็นเวลาเดียวกับที่มือถือของเอแคลร์ดังขึ้นมาพอดิบพอดี

“สงสัยทรายโทร.ตามแล้วล่ะ ทำไงดี”

เธอยกมือถือของตัวเองขึ้นมาตรงหน้าฉัน ในนั้นแสดงชื่อของคนที่เธอได้บันทึกเอาไว้

ทรายแก้ว...กำลังโทรหาคุณ

ยัยนี่แหละคือคนนิสัยไม่ดีที่ฉันว่า เธอเป็นลูกสาวของอธิบดีมหาลัยเรา คิดว่าตัวเองทั้งสวยรวยเก่ง พ่อแม่ก็มีอำนาจ ก็เลยชอบใช้ความรวยมาข่มฉันบ่อยๆ แต่ด้วยความที่ฉันไม่ใช่คนเล่นง่าย เวรกรรมเลยไปตกที่เอแคลร์ผู้อ่อนแอแทน

“แกจะกลับไปเรียนก็ได้นะ ฉันต้องเข้างานแล้ว ขอโดดคาบนี้แล้วกัน”

ฉันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้ก็บ่ายโมงครึ่งแล้ว ฉันต้องไปถึงร้านก่อนบ่ายสองเพื่อเตรียมเปิดร้าน ดูท่าว่าจะไปหาแม่ก่อนคงไม่ทัน

“เอาอย่างนั้นเหรอ” เอแคลร์ยังคงชั่งใจอยู่

“อืม แกกลับไปเถอะ บอกพวกทรายด้วยว่ารายงานพรุ่งนี้ฉันปริ้นไปให้นะ ไม่ต้องห่วง”

“ก็ได้ๆ ถ้ายังไงถึงร้านแล้วทักบอกด้วยนะ”

“จ้า”

เธอโบกมือหย็อยๆ ให้ฉันก่อนจะเดินไปขึ้นรถเก๋งคันหรูของตัวเองแล้วขับออกไปจากตรงนี้ ส่วนฉันก็เรียกแกร๊บแล้วตรงไปที่ร้านในทันที

คลับ KMnxx

ที่นี่คือที่ทำงานของฉันเอง เป็นคลับขนาดกลางที่มีกลุ่มลูกค้ากว้างที่สุดในย่านเลยก็ว่าได้ การตกแต่งของที่นี่นั้นจะเน้นความหรูหราที่ทันสมัย ทว่าก็มีความงดงามประณีตให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในปราสาทหรูๆ หลังหนึ่ง ดังนั้นกลุ่มลูกค้าหลักก็จะเป็นคนมีเงินที่เป็นวัยทำงานขึ้นไป แต่ในโซนหน้าเวทีด้านล่างเองก็มีลูกค้าวัยรุ่นมาใช้บริการกันเยอะ โดยที่ทุกคนต้องมีคุณสมบัติเดียวกัน นั่นก็คือ มีเงิน

“มาเร็วจังเลยนะ เจ๊บอกว่ามาสักบ่ายสามก็ได้ ไม่ซีเรียสหรอก”

คนที่ออกมาจากหลังร้านทักทายฉันอย่างอารมณ์ดีคนนี้คือ เจ๊น้ำหวาน คนที่เป็นยายทวดของทวดของทวดรหัสของฉันเอง พี่แกเรียนจบมาหลายปีแล้วและได้ทำงานเป็นผู้จัดการที่นี่ เลยใช้เส้นยัดฉันเข้ามาทำงานทั้งที่การแข่งขันสูงปรี๊ด ด้วยความที่เป็นคลับถูกกฎหมายและยังมีแต่ลูกค้าทิปหนัก เลยทำให้มีนักศึกษาอยากเข้ามาทำงานพาร์ทไทม์ที่นี่กันเป็นจำนวนมาก

“หนูโดดเรียนเพราะไม่ชอบอาจารย์น่ะค่ะ เลยเข้ามาเร็ว”

ฉันตอบออกไปตามตรง อันที่จริงก็ไม่ถือว่าไม่ชอบอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าการเข้าไปฟังเจ๊แกเล่าประวัติชีวิตตัวเองเทียบกับการมาหาเงินรักษาแม่ อันหลังน่าจะดีกว่า

“ตายแล้วนังเด็กนี่ พูดจาแบบนี้เดี๋ยวแม่ก็หยิกกีเขียวเลย มีโอกาสเรียนไม่เรียน”

“เอาน่าเจ๊ หนูยังโดดได้อีกคาบสองคาบ ไม่เป็นไรหรอก”

ระหว่างนั้นฉันก็เอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่หลังร้าน ที่นี่นั้นจะแบ่งโซนของพนักงานเอาไว้เป็นสัดส่วน พนักงานประจำจะแต่งตัวและเก็บของที่ชั้นบนซึ่งหรูหราและดูดีกว่าตรงนี้มาก ส่วนพนักงานพาร์ทไทม์อย่างฉันจะมีล็อกเกอร์ส่วนตัวพร้อมกระจกเล็กๆ ให้ที่ฝาล็อกเกอร์ ห้องแต่งตัวก็คือห้องน้ำ และมีชุดที่คนข้างบนใส่จนเบื่อแล้วมาแขวนไว้ให้เปลี่ยน แต่ถ้าใครมีชุดมาเองไม่อยากใส่ตรงนี้ก็ไม่ว่ากัน

“เออนี่ดา ฉันยังไม่ได้ถามเลยว่าแม่แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้ยุ่งๆ เลยไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเลยอะ”

ตอนที่เปลี่ยนชุดอยู่เจ๊น้ำหวานก็เข้ามาถามพร้อมทั้งช่วยฉันรูดซิปชุดไปด้วย ที่ฉันเลือกวันนี้เป็นเดรสสีแดงสดที่พอดีตัวที่สุดในราว มันเป็นเดรสกำมะหยี่เรียบๆ มีสายเดี่ยวเล็กๆ พอให้มันไม่หล่นไปกองที่พื้น เพราะหน้าอกหน้าใจของฉันก็ใช่ว่าจะมีพื้นที่ให้เกาะอะไรมากมาย

“หมอว่าอาการไม่ค่อยดีเลยค่ะเจ๊ หนูว่าต้องเพิ่มกะกลางวันเข้าไปด้วยแล้วเพราะหมอบอกว่าต้องใช้เงินเยอะ แล้วหนูต้องจ่ายค่ารักษาที่ค้างแล้วด้วย”

“เท่าไหร่ล่ะเผื่อเจ๊ช่วยได้”

“อืม...ก็เกือบสามล้านอะ”

“ตาเถร!! เยอะอย่างนั้นเชียว”

เจ๊น้ำหวานถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่แปลกหรอก แค่ฉันคิดถึงยอดก็ท้อแล้ว ทั้งชีวิตนี้ฉันจะไปหามาจากไหนกันนะ แล้วในระยะเวลาอันสั้นอีก

“ฉันล่ะสงสารแกจริงๆ เลยดานิกาเอ๊ย เกิดมามีเวรมีกรรมอะไรนักหนา”

“หนูต้องขอบคุณเจ๊นะคะที่ให้หนูได้มาทำงานที่นี่ อย่างน้อยๆ บางวันที่หนูได้หลายพันก็พอเอาไปจ่ายให้หนี้มันลดลงได้บ้าง”

“แต่มันไม่พอไง แกต้องทำงานกี่ปีหนี้ถึงจะหมดล่ะนั่น”

“หนูไม่รู้จะทำยังไงดีนี่คะ จะให้ไปประมูลซิงอย่างที่เจ๊เคยบอกเหรอ หนูไม่เอาด้วยหรอก งานขายร่างกายมันไม่ได้ต่ำนะ แต่หนูคงทำไม่ได้”

ที่นี่ไม่ได้มีแค่เรื่องถูกกฎหมายเท่านั้น แต่ที่ชั้น VVIP ก็มีเรื่องอย่างนั้นเช่นกัน และที่ยิ่งไปกว่าค้าบริการ เรื่องที่รู้กันเฉพาะคนวงในนั่นก็คือ การประมูลซิง โดยจะต้องเป็นหญิงสาวที่มีคุณสมบัติสามประการ

1.สวย

2.หุ่นดี

3.ยังเวอร์จิ้น

การประมูลนั้นก็แสนจะสบาย บางรายก็ได้เงินหลักล้าน หลักสิบล้านกลับบ้าน โดยที่คนประมูลนั้นแค่มีอะไรด้วยคืนเดียวแล้วก็ไม่ยุ่งด้วยอีกเลย แต่ก็มีบางคนที่ได้ทำสัญญาเป็นเด็กเลี้ยงอารมณ์ประมาณเด็กเสี่ย มีเงินเดือนใช้ไปหลายปี เลยทำให้มีคนหลายคนอยากเข้าร่วม แต่สำหรับฉันแล้วคิดว่าตัวเองคงไม่มีคุณสมบัติพอ

เรื่องความสวยเหรอ ฉันก็ไม่เท่าไหร่ แค่พอไปวัดไปวา หุ่นดีเหรอ ถ้าตามที่แขกว่ากันก็ออกจะผอมแห้งแรงน้อยไปหน่อย ส่วนซิง...อันนี้ได้แค่ข้อเดียว

“ไม่ลองก็ไม่รู้นะแก ใครๆ ก็อยากทำกันทั้งนั้น เอาไว้แกอยากทำเมื่อไหร่ค่อยมาบอก ฉันลัดคิวให้ได้เลย”

“เจ๊นี่เหมือนแม่เล้าเข้าไปทุกทีแล้วนะ” ฉันแซวขำๆ ไม่คิดว่าเจ๊น้ำหวานจะวี้ดว้ายออกมาเสียงดัง

“อีบ้า แม่เล้าบ้าบออะไร”

“ล้อเล่นน่า หนูไปเช็กสต๊อกก่อนนะเจ๊ ก่อนคนอื่นมา”

“อืมๆ”

เจ๊พยักหน้าตอบ ฉันเลยจะเดินออกไปจากห้องล็อกเกอร์เพื่อดูภายในร้านต่อ แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นธรณีประตูก็ถูกเรียกไว้อีกครั้ง

“เออๆ เดี๋ยวก่อนดา”

“คะ?”

“เย็นนี้มีแขกวีไอพีจองโต๊ะไว้ อยากได้เด็กไปดูแล สนใจไหม?”

คำว่า แขกวีไอพี ทำให้ฉันตาโตทันที ใครๆ ต่างก็รู้ว่าแขกกลุ่มนี้นั้นทิปหนัก แล้วยังสุภาพสมกับเป็นคนรวย งานสบายแล้วยังเงินดี ก็ตอบแบบไม่ต้องคิดมากไปเลยสิคะ

“เอาค่ะ!”

“แต่แขกคนนี้เอาใจยากหน่อยนะ เห็นว่าเป็นน้องชายคุณคามินทร์”

“น้องชาย?”

คามินทร์ คัลเลน เขาเป็นเจ้าของที่นี่ เป็นผู้ชายหน้าตาดีตัวสูงโปร่งเหมือนนายแบบ ออร่ากระจายแบบที่ใครเห็นเป็นต้องหลง แต่ที่พูดนี่ฉันยังไม่เคยเจอหรอกนะ เพราะทางเข้าของคนอย่างเขาไม่ใช่ทางที่พนักงานระดับล่างอย่างฉันจะเจอได้ง่ายๆ

แต่จะว่าไป...ถ้าฉันได้ไปดูแลน้องชายของเขา ก็หมายความว่าต้องได้เจอเขาด้วยน่ะสิ โอกาสดีๆ แบบนี้จะหาได้ที่ไหนอีกล่ะ

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
37 Chapters
บทที่ 1 ทำไมต้องมีแค่ฉันที่เจ็บปวด...
โลกนี้มันไม่มีหรอก คนที่จะโชคร้ายไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะเจอเรื่องเลวร้ายมากมายแค่ไหนในชีวิต แต่สุดท้ายแล้วก็จะมีสักวันที่เป็นของเรา...ฉันเองก็เชื่ออย่างนั้นมาตลอด จนกระทั่งได้รับข้อความแบบนี้จากทางโรงพยาบาล‘คุณแม่ของหนูจะต้องใช้ตัวยาที่แพงขึ้นในการรักษา แต่ว่าทางเราไม่สามารถเบิกจ่ายยาตัวนั้นมาใช้ได้ ยังไงรบกวนจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่ค้างเอาไว้ก่อนนะคะ’บางทีฉันก็ตลกชีวิตตัวเองนะ แม่เคยเล่าว่าแม่เป็นลูกสาวของตระกูลผู้ดีเก่า ยายของฉันมีเชื้อสายของผู้ดีในวังซึ่งตอนนี้มีธุรกิจติดต่อกับต่างชาติทรัพย์สินกว่าร้อยล้าน แต่เพราะเรื่องที่แม่ท้องตอนอายุ 15 กับผู้ชายที่ท่านไม่รู้แม้แต่ชื่อ ทำให้ท่านถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมทั้งห้ามเอ่ยถึงเรื่องที่มีเชื้อสายกับตระกูลนั้นอีก ตั้งแต่เกิดมาฉันเคยเจอยายครั้งหนึ่งตอนที่อายุ 7 ขวบ ตอนนั้นแม่ที่ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าว ได้บากหน้าพาฉันไปขอเงินจากยาย ฉันจำได้ติดตาว่ายายโยนเงินมาให้หนึ่งพันบาท หลังจากนั้นก็ไล่ตะเพิดเราสองแม่ลูกออกมาฉันในวัยเพียง 7 ขวบ มองเข้าไปในบ้านที่แสนโอ่อ่าหลังนั้น ก่อนจะพบว่ายายเองกำลังเอาอกเอาใจเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอายุรุ่นราวคราวเดีย
last updateLast Updated : 2025-04-02
Read more
บทที่ 2 เป็นงานหน่อย
[Navin’s part]“กูบอกมึงแล้วว่าให้จัดการตั้งแต่เนิ่นๆ ยังจะปล่อยให้มันเป็นหนามตำใจมึงอยู่ได้ เป็นไงล่ะ ต้องถึงมือกูอีกตามเคย”ผมมาที่นี่เพื่อจะฟังมันบ่นอย่างนั้นสินะ ตลอดทั้งวันผมต้องเจอกับปัญหามากมายกับธุรกิจที่ลงทุนอยู่ กะว่าจะมาหาพี่ชายฝาแฝดเพื่อผ่อนคลายสมองสักหน่อย แต่ดันมาเจอมันสวดตั้งแต่ทางเข้ายันบนห้องก็ยังไม่หยุด เอาอะไรยัดปากดี น่ารำคาญฉิบหาย“แล้วนี่นะถ้ามึงไม่ออกหน้าสักครั้ง ไอ้ปู่นั่นก็จะเอาเรื่องที่มึงเรียนไม่จบแพทย์ประจำบ้านเหี้ยอะไรนั่นมาเล่นมึงไม่เลิก เป็นกูนะเอาปืนเป่าหัวไปตั้งนานแล้ว”คามินทร์ว่าพลางยกเหล้าขึ้นมาจิบด้วยความหงุดหงิด มันก็อย่างนี้ ใจร้อนกับทุกอย่างจนทำให้งานเกือบพังหลายครั้ง ก่อนมาที่นี่เราก็ไปงานเลี้ยงเปิดตึกของโรงพยาบาลเดิมที่ผมเคยไปทำงานช่วงใช้ทุน ด้วยความที่ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านยังคงนึกถึงผมในฐานะ นายแพทย์นาวินทร์ คัลเลน หมอหนุ่มไฟแรงที่เมื่อก่อนเป็นที่รักและเอ็นดูของอาจารย์หมอและเพื่อนๆ พี่ๆ หมอในวงการ แต่ด้วยเหตุการณ์สะเทือนใจระหว่างศึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ ทำให้ผมเลือกจะล้มเลิกแล้วมาเปิดโรงพยาบาลโดยไม่แตะงานด้านการรักษาอีกเลยเพราะอย่างนั้นเลยมี
last updateLast Updated : 2025-04-02
Read more
บทที่ 3 ทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ!
[Danica’s part]แม่เจ้าโว้ยยยย ทำไมเจ๊หวานไม่บอกฉันก่อนว่าคุณคามินทร์และน้องชายของเขานั้นหล่อมากกกก หล่อลากดินชนิดที่ว่าดาราเกาหลียังต้องชิดซ้าย ฉันไม่เคยพบเคยเจอความหล่อระดับนี้มาก่อนในชีวิต...เอ่อ...ถ้านับชีวิตฉันที่เจอผู้คนน้อยถึงน้อยมากอะไรพวกนั้นน่ะนะแต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ใบหน้าคมเข้มของเขานั้นเกลี้ยงเกลาอย่างกับไม่รู้จักคำว่ารูขุมขน คิ้วดกดำหนากำลังดี ดวงตาเรียวยาวทว่ากลับซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ในนั้นบอกไม่ถูก จมูกโด่งเป็นสันตามแบบฉบับลูกครึ่ง ริมฝีปากก็บางเฉียบเป็นสีชมพูระเรื่อมองแล้วอยากจะพุ่งเข้าไปจับจุ๊บให้รู้แล้วรู้รอด แม้ว่าหน้าเขาจะเหมือนกับคุณคามินทร์อย่างกับแกะ แต่กลับมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันหยุดจ้องเขาไม่ได้เลยแล้วไหนจะรูปร่างสูงโปร่งเหมือนต้นไม้ใหญ่ให้พึ่งพิงของเขา มันทำให้หัวใจฉันเผลอเต้นแรงไปวูบหนึ่งยามที่จ้องมอง แล้วมันก็กลับมาเต้นแรงอีกครั้งเพราะคำถามของเขา“แล้วนี่...ทำอะไรเป็นบ้างล่ะเรา?”การที่เขาถามแบบนี้นั่นหมายความว่าเขาจะเคลมฉันแล้วจริงๆ ใช่ไหม ตายล่ะ ฉันไม่ได้ถามเจ๊น้ำหวานเลยว่าแล้วทำได้ไหม แต่ปกติต้องไม่ได้สิ ฉันเป็นพนักงานระดับล่างที่ทำได้แค่บริการทั่
last updateLast Updated : 2025-04-02
Read more
บทที่ 4 ทุกอย่างต้องเกิดขึ้น
โรงพยาบาล KL โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียงหนึ่งปีครึ่งเท่านั้น ด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ทำให้ที่นี่นับเป็นศูนย์รักษามะเร็งที่ดีที่สุดในประเทศไทยคำโฆษณาที่น่าตื่นตาตื่นใจนี่แหละที่พาฉันและแม่มาจนถึงที่นี่ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่มันเป็นความคิดที่ดีหรือแย่ แต่รู้ว่าพอแม่มาที่นี่แล้ว จากอาการของคนที่รอความตายนอนพะงาบๆ ในโรงพยาบาลที่ใช้สิทธิ์รักษาฟรี ก็กลับมามีชีวิตชีวาสามารถยิ้มแย้มได้อีกครั้งแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าโชคจะเข้าข้างเราตลอดไป“ดาดูนี่สิลูก นางเอกเรื่องนี้เป็นมะเร็งเหมือนแม่เลยเห็นไหม เขายังสาวยังสวยอยู่เลยนะ แต่ดันโดนสามีนอกใจแล้วไม่มาจ่ายค่ารักษาพยาบาล น่าสงสารน่าดูเลย”ฉันกลับมาที่โรงพยาบาลหลังจากที่เลิกงานแล้ว ดูเหมือนว่าแม่ยังคงไม่รู้เรื่องที่ฉันได้รับข้อความนั้น บนใบหน้าซีดเซียวของแม่ยังคงมีรอยยิ้มพลอยทำให้คนรอบข้างยิ้มตามไปด้วย มันน่าเศร้าตรงที่โรคร้ายมันทำให้แม่ทรมานจนบางครั้งฉันก็เห็นแม่แอบร้องไห้อยู่คนเดียวบ่อยๆ แต่ต่อหน้าฉันแม่กลับทำเป็นร่าเริงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เพราะแม่เป็นอย่างนี้ไงเลยทำให้โลกใบนี้ใจร้ายกั
last updateLast Updated : 2025-04-02
Read more
บทที่ 5 มันกำลังแย่ลง...
ชีวิตฉันต้องสั้นไปอีกสิบปีแน่ๆ ตอนนี้ฉันมาอยู่ที่หน้าตึกคณะของตัวเองอย่างปลอดภัยและทันเวลาพอดีเป๊ะ แต่ว่าหน้าของฉันกลับชาไปหมด ทั้งคอก็เจ็บเพราะกรี๊ดมาตลอดทาง“ฮ่าๆๆๆ สนุกดีเนอะ”ในขณะที่เขาหัวเราะชอบใจ แต่ฉันไม่รู้สึกสนุกด้วยแม้แต่นิดเดียว เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ รถของเขาก็ไม่ใช่ แถมยังเพิ่งจะขับครั้งแรก แต่กลับพาฉันซิ่งมุดข้างรถคันนั้นคันนี้อย่างกับการแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบาก หัวใจอีดานิกาจะวายตาย ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดมาจนถึงตรงนี้ได้“คะ...คุณรีบเอารถไปคืนเดี๋ยวนี้เลยนะคะ เดี๋ยวเจ้าของเขามาหาแล้วจะไม่เจอ”ฉันบอกเขาเสียงสั่น ตอนนี้ความเจ็บจากการล้มก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดมันก็เป็นเพราะเขานั่นแหละ“เอาไปคืนที่ไหน นี่รถฉันเอง”ทว่าเขากลับเอ่ยออกมาอย่างนั้นหน้าตาเฉย“อ้าว ก็เมื่อกี้คุณบอกว่า...”โอเค เห็นรอยยิ้มของเขาฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงสามารถขับรถซิกแซกได้ขนาดนั้น ที่แท้ก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นเจ้าของรถคันนี้นี่เอง ผู้ชายเจ้าเล่ห์ เขานึกสนุกอะไรถึงมารังแกคนอย่างฉัน งานการไม่มีทำหรือยังไงกันตั้งแต่ในห้องวันนั้นเขาเองก็แกล้งฉันจนหนำใจแล้วมันยังไม่พอสินะ หรือว่า
last updateLast Updated : 2025-04-02
Read more
บทที่ 6 ทางเลือกสุดท้าย
ฉัน...ถูกไล่ออกฉันยังพูดไม่ชัดพอเหรอ เธอถูกไล่ออกคำพูดของอาจารย์ยังคงดังอยู่ในหูแม้ว่าฉันจะออกมาจากตรงนั้นแล้วก็ตาม ในวินาทีที่ทุกอย่างเป็นอย่างนั้น ฉันได้แต่เดินออกมาจากห้องเรียนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก สายตาของเพื่อนทั้งชั้นมองฉันนิ่งๆ ไม่ได้เห็นใจหรือสมน้ำหน้า ทว่าคู่กรณีอย่างทรายแก้วกับน้ำหอมกลับหัวเราะสะใจแต่ในขณะที่ฉันถูกไล่ออก คนที่เริ่มก่อนอย่างทรายกลับถูกเรียกเข้าไปนั่งเรียนที่เดิมเสียอย่างนั้นโลกใบนี้มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคนจนเสมอแหละ ฉันไม่เคยอยากจะคิดอย่างนั้นเลย มันไม่ต่างอะไรจากการเอาความจนมาเป็นเกราะป้องกันความล้มเหลวของตัวเอง แต่พอคิดถึงชีวิตที่ผ่านมาของฉัน ทั้งยายที่ทำเหมือนฉันกับแม่เป็นเพียงขยะที่ไม่ได้เกิดจากตระกูลของเขา หมอที่พูดอย่างเลือดเย็นว่าแม่อาจจะตายถ้าฉันไม่มีเงิน และผู้คนที่ดูถูกฉันในชั้นเรียนก่อนหน้านี้...ทำไม ต้องเป็นฉันด้วย ทำไม...ฉันออกมานั่งที่บันไดหน้าตึกพลางมองออกไปเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง มันไม่ได้อยากร้องไห้ออกมา แต่ก็มีความหน่วงอยู่ในอกที่บอกไม่ถูก และมันทรมานกว่าการร้องไห้ออกมาหลายเท่า“เธอลืมกระเป๋า”เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลัง
last updateLast Updated : 2025-04-08
Read more
บทที่ 7 งานประมูลใต้หน้ากาก
คอนโด KLฉันเงยหน้ามองคอนโดของเจ๊น้ำหวานที่เด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้า ชิดภูที่มาส่งฉันเองก็มองมันพลางพึมพำออกมา“พวกคัลเลนอีกละ ไปที่ไหนก็เจอเนอะ”“อะไรเหรอ?”สีหน้าของเขาเหมือนขยะแขยงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าชอบกล แต่ฉันกลับรู้สึกคุ้นกับสิ่งที่เขาพูดออกมามากกว่า“คัลเลนน่ะ นามสกุลของเจ้าของโรงพยาบาลที่แม่เธอรักษาอยู่ไง ที่นี่ก็อยู่ในเครือเดียวกันนั่นแหละ โรงแรมที่ดังๆ อยู่ตอนนี้ก็ใช่ มหา’ลัยที่เราเรียนอยู่หุ้นส่วนใหญ่ก็เป็นของตระกูลนี้ทั้งนั้น”ถ้าจำไม่ผิด เป็นนามสกุลของคุณคามินทร์เจ้าของคลับที่ฉันทำงานอยู่ และของคุณนาวินทร์ด้วยสินะ ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันมีปัญหากับคนที่อำนาจล้นฟ้าขนาดนี้ แค่คิดยังไม่กล้าฝันเลย“ยังไงก็ขอบใจนะที่มาส่ง”“ด้วยความยินดี”ชิดภูได้ขับรถจากไปแล้ว ส่วนฉันก็เดินขึ้นมาบนห้องของเจ๊แล้วตรงไปยังห้องที่คุ้นเคยในทันที ทว่าฉันยังไม่ทันได้กดกริ่งที่หน้าห้อง จู่ๆ ประตูก็ได้ถูกเปิดออกจากคนข้างใน“อุ๊ย แขกของเจ๊เหรอครับ ตามสบายนะ”คนที่เปิดออกมานั้นเป็นผู้ชายกล้ามใหญ่ยิ้มหวานคนหนึ่ง เขาโค้งน้อยๆ ให้ฉันก่อนจะเดินออกจากห้องไปท่ามกลางความงุนงงของฉัน“มาแล้วเหรอ เข้ามาๆ เจ๊กำลังเสร็จงา
last updateLast Updated : 2025-04-08
Read more
บทที่ 8 ลูกแมวตกน้ำ
[Navin’s part]ย้อนกลับไปเมื่อสิบสามชั่วโมงก่อนหน้านี้“อย่าหาว่าหมอใจร้ายเลยนะ แต่ยิ่งรักษาก็มีแต่ยิ่งแย่ ถึงที่นี่จะมีเทคโนโลยีการรักษามะเร็งที่ดีที่สุด แต่ก็ทำได้แค่ยื้ออาการรอวันตาย ถ้าอยากให้แม่รอดจริงๆ หนูต้องใช้เงินเยอะมาก ไม่รู้ว่างานอะไรที่จะได้เงินเยอะอย่างนั้นในเวลาอันสั้น”“มึงพูดอย่างนี้ได้ไงวะไอ้เหี้ยหมอ!!”เสียงเอะอะโวยวายที่หน้าห้องผ่าตัดทำให้ผมหยุดมองด้วยความสนใจ แต่แล้วก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือดานิกาเธออีกแล้วสินะ แต่ไม่ใช่ว่าผมเพิ่งไปส่งเธอที่มหา’ลัยมาเหรอ ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ ซ้ำยังมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นเสียงดังตรงนั้นอีก“อะไรวะนั่น คนทะเลาะกันเหรอ”คามินทร์ที่ตามมาทีหลังเองก็หยุดดูเช่นกัน มันระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคนตรงนั้นคือใคร“เด็กนี่อีกแล้วเหรอ บังเอิญไปมั้งอะไรจะเจอกันบ่อยขนาดนี้”“อืม ก็บังเอิญแหละ”บังเอิญที่ผมดันรู้ว่าแม่เธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย บังเอิญที่ผมจงใจเอาโบรชัวร์ของโรงพยาบาลไปหย่อนไว้ที่หน้าห้องเช่าของเธอ บังเอิญที่ผมไปบอกน้ำหวานว่าให้ชักชวนดานิกาไปทำงานที่คลับของคามินทร์และจับตาดูเธอเอาไว้ให้หน่อย
last updateLast Updated : 2025-04-08
Read more
บทที่ 9 ทีเด็ดลูกแมวเหมียว
[Danica’s part]เจ๊น้ำหวานไม่เห็นเคยบอกเลยว่ามีอย่างนี้ด้วย ตอนนี้ร่างกายฉันถูกเขารบกวนจนปั่นป่วนท้องน้อยไปหมด ที่ตรงนั้นถูกเขาใช้ปลายนิ้วเขี่ยจนเกิดเป็นความรู้สึกประหลาด คล้ายว่าจะมีไฟฟ้าแล่นผ่านร่างจนฉันสั่นสะท้านไปหมดแล้ว...“สั่นเป็นลูกแมวเลยนะ อย่างนี้จะทำฉันพอใจยังไง หืม?”เขายังคงใช้คำพูดอย่างนั้นเพื่อกระตุ้นให้ฉันทำสิ่งที่บ้ายิ่งกว่านี้ ในขณะที่ร่างกายของฉันสะท้านไหวไปกับการกระทำของเขา แต่ก็ต้องจำอย่างหนึ่งที่เจ๊น้ำหวานสอนให้ขึ้นใจ‘แขกเขามาหาความสนุก ความสุขที่ได้จากหญิงสาวเวอร์จิ้นคือความไร้เดียงสาแต่ก็ต้องมีลีลาที่ดี เรื่องนี้ห้ามลืมอย่างเด็ดขาด’ลีลาดีแต่ไร้เดียงสาอย่างนั้นเหรอ? คนไร้เดียงสามันจะไปมีลีลาดีได้ยังไง ซ้ำตอนนี้ร่างกายของฉันถูกเขารบกวนไม่ยอมหยุด แม้แต่จะคิดยังคิดอะไรไม่ออกแต่เมื่อแหงนหน้ามองรูปร่างของเขาที่ตอนนี้เสื้อผ้าท่อนบนได้ถูกถอดออกไปแล้ว กล้ามอกแน่นที่มีรอยสักรูปมังกรสลักอยู่บริเวณหน้าอกข้างซ้าย ความคิดที่อยากจะสัมผัสก็แวบเข้ามาในหัว“ลูกแมวมัน...อ๊ะ...เลียเก่งนะคะ อยากลองไหม”ฉันกลั้นใจพูดออกไปเสียงแผ่ว ทว่าพอเห็นท่าทีของคนตรงหน้า จากความกลัวก่อนหน้านี
last updateLast Updated : 2025-04-08
Read more
บทที่ 10 ความช่วยเหลือที่ไม่ต้องการ
แม่ออกมาจากห้องผ่าตัดได้หลายวันแล้ว ช่วงนี้เพราะฉันไม่ต้องไปเรียนฉันเลยมีเวลาอยู่กับแม่ได้อย่างเต็มที่ เอแคลร์ที่รู้เรื่องก็โทรมาร้องไห้กับฉัน เธอบอกว่าตัวเองไม่อยากทำร้ายฉันเลย แต่พวกยัยทรายบังคับ ซึ่งฉันก็เข้าใจดีเลยไม่ได้ว่าอะไรส่วนแม่ ฉันทิ้งให้ท่านนอนพักผ่อนและออกมาหาอะไรดื่มแก้ง่วงกับชิดภู บังเอิญว่าเขามาหาพี่ชายที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลนี้พอดี เลยแวะมาเยี่ยม“นายมีพี่ชายเป็นหมอด้วยเหรอ ดีจังนะ”ฉันจิบกาแฟไปคุยไประหว่างที่เดินกลับขึ้นตึก ในมือก็ถือถุงเค้กพะรุงพะรังไปหมด เพราะเงินที่ได้มาวันนั้นมันยังเหลืออยู่นิดหน่อย ฉันเลยสามารถเจียดเงินร้อยสองร้อยไปเปย์ตัวเองได้โดยไม่รู้สึกผิดเมื่อก่อนอย่าว่าแต่เค้กเลย ข้าวราดแกงจานละห้าสิบบาทยังต้องเป็นรางวัลที่ฉันให้ตัวเองนานๆ ครั้ง ส่วนใหญ่จะได้กินข้าวฟรีที่ป้าแม่บ้านของโรงพยาบาลเอามาให้ตอนเช้า ส่วนมื้อเย็นก็มีสวัสดิการพนักงานที่คลับทำให้ไม่ต้องเสียเงินค่าข้าว แต่ก็นั่นแหละ หลายครั้งฉันเองก็อยากกินอะไรที่คนอื่นได้กินเหมือนกัน“อืม ลูกพี่ลูกน้องน่ะ ก็ไม่ใช่พี่ที่สนิทอะไรมากหรอก แต่ย่าติดต่อพี่ไม่ได้ อยากให้กลับไปคุยเรื่องงานหมั้น เลยวานฉันมา”
last updateLast Updated : 2025-04-08
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status