“นายหนวด! นายเข้ามาได้ยังไง”
นิชาดาอุทานเสียงดังทันทีพร้อมถอยหลังพัลวันเพราะอีกฝ่ายก้าวมาด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อยหากก็น่ากลัวสำหรับเธอ
“กุ๊ก คุณวัช พี่ริน ทุกคนไปไหนกันหมดคะ”
เธอตะโกนหาคนอื่นอย่างหวาดหวั่น แล้วกัญญาก็เปิดประตูก้าวพรวดเข้ามา
“กุ๊กเรียกคุณวัชเร็วเข้า บอกให้มาจับตัวนายคนขับรถเถื่อน”
“เอ่อ อะไรนะ”
เพื่อนร่วมห้องสาวมีสีหน้าแปลกใจ เธอไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อวานให้อีกฝ่ายฟังรวมถึงมธุรินด้วย เพราะคิดว่าอาจทำให้ทั้งสองคนกังวลเหมือนเช่นตน
“เร็วซี่...”
เธอไม่ตอบแต่ย้ำ ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงเข้มของวัชพลดังหน้าประตู
“มีอะไร เสียงดังอะไรกันเหรอกุ๊ก”
“คุณวัชคะ ช่วยด้วยค่ะ”
นิชาดาตะโกนอีกครั้ง ขณะจ้องร่างสูงใหญ่ที่ยืนล้วงกระเป๋าเฉยด้วยท่าทางไม่ยี่หระอย่างหวาดระแวง
กัญญาขยับเข้ามาด้านในด้วยท่าทางอึกอัก แล้ววัชพลกับมธุรินก็เข้ามา เธอจึงรีบบอก
“นี่ไงคะ คนขับรถเถื่อนที่ฉันเล่าให้คุณวัชฟังเมื่อวาน”
ผู้จัดการกับเลขาสาวมองเธอ แล้วมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก่อนจะหันมองหน้ากัน และก็เป็นวัชพลที่เอ่ยขึ้น
“หมอกคงเข้าใจผิดน่ะ นี่นาย...”
นิชาดาตัวแข็งทื่อ รู้สึกตัวเย็นเฉียบทั้งใบหน้าจรดปลายเท้า และถอยหลังอีกก้าวด้วยปฏิกิริยาระวังตัว ขณะได้ยินผู้จัดการหนุ่มอธิบายต่อ
“เจ้าของไร่ดิฐวัฒน์ คุณธีรดนย์ เมื่อวานคนขับรถที่หมอกพูดถึงเหมือนจะเป็นนาย พอหมอกถามถึงคนชื่อธีรดนย์ ผมก็เลยคิดว่าคงเข้าใจผิด อธิบายกันตอนเจอหน้าน่าจะเข้าใจง่ายกว่า”
คำบอกนี้ทำให้เธอเหลือบไปสบตากับดวงตาคู่คมเข้มนิ่งลึก ทุกอย่างในหัวดูจะหยุดไปชั่วขณะ ก่อนเอ่ยเสียงสั่น
“นาย...แต่...นายจะ...”
ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นชี้แต่ร่างสูงใหญ่กลับก้าวพรวดเข้ามาด้วยความรวดเร็ว นิชาดาถอยหนีทว่าไม่ทัน ร่างอชรถูกรวบไปชิดร่างหนา ทั้งท้ายทอยยังถูกดันอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวแล้วใบหน้าคมเข้มด้วยหนวดเคราก็เคลื่อนมาประชิด
“อื้อ”
ริมฝีปากที่รกครึ้มกดลงมาทันท่วงที หญิงสาวสะบัดหน้าหนี ความหวาดกลัวพุ่งขึ้นพร้อมกับดิ้นขยับขลุกขลักไปมาแต่ก็ทำได้เพียงอยู่ในอ้อมแขนที่รัดแน่น เธอทั้งทุบอกผลักไสหน้าคมเข้มอย่างแรง ในหัวก็แปลกใจว่าเหตุใดไม่มีใครเข้ามาช่วยเธอ
หรือคนพวกนี้รวมหัวกัน ไร่นี้เป็นไร่หลอกลวงหรืออย่างไร
มือบางถูกจับรวบไว้ขณะที่อีกฝ่ายยอมถอยห่าง
“ไอ้บ้า อื้อ...”
จูบหนักบดเบียดมาพร้อมด้วยหนวดเคราที่ทำให้คันคะเยอไปทั้งปากแก้ม ลามไปถึงคอเพราะความรังเกียจ นิชาดายิ่งบ่ายหน้าหนีไม่ยอม ก่อนอีกฝ่ายจะกระซิบเสียงเข้มใกล้แก้มตน
“โธ่ ที่รัก โกรธมากถึงกับใส่ร้ายกันเลยเหรอ หายงอนเถอะนะคนดี”
“ที่รักบ้าบออะไร ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนาย ปล่อยนะ...คุณวัชช่วยด้วยค่ะ นายคนนี้มันบ้า”
“เอ่อ นาย...ผมว่า...”
เหมือนวัชพลจะเพิ่งหาเสียงของตัวเองเจอ
“ฉันจะไม่แอบนอนกับสาวคนไหนอีกแล้ว ฉันสัญญา”
นิชาดาหน้าเหวอไปชั่วอึดใจกับคำพูดอีกฝ่ายที่ช่างเอ่ยออกมาได้อย่างหน้าไม่อาย แต่ก็ได้สติดึงมือตัวเองพร้อมดิ้นเพื่อให้หลุดแต่ไม่สำเร็จ
“พูดบ้าๆ ปล่อย ฉันไม่รู้จักนายคนนี้จริงๆ อย่าไปเชื่อเขานะ”
เธอพยายามแย้ง เห็นชัดว่าสายตาแต่ละคนดูลังเลและเกรงใจผู้ชายตัวโต วัชพลขยับเท้าจะเข้ามา ขณะที่มธุรินกับกัญญายืนนิ่งอึ้งตัดสินใจไม่ถูก ทว่าเสียงเข้มเอ่ยพลางขยับยกเธอขึ้นพาดบ่าราวไร้น้ำหนักทันใด
“มีอะไรจะประชุมก็คุยต่อไปเลย ฉันกับแฟนจะไปเคลียร์กันที่อื่น”
“ฉันไม่มีอะไรจะเคลียร์ ฉันไม่ไป ปล่อยฉัน กุ๊กช่วยฉันด้วย”
นิชาดาโวยวายแต่ก็ดิ้นไม่หลุด เธอส่งสายตาขอร้องเพื่อนร่วมห้องสาวที่มองมาด้วยสายตาลังเลระคนเห็นใจทว่าก็เหมือนไม่กล้าห้ามด้วยความท้อแท้ใจ ไม่ว่าจะทุบหลังไหล่ ตีขาไปมาอย่างไรอีกฝ่ายก็ยังแบกเธออย่างป่าเถื่อนได้มั่นคงออกมาจากสำนักงาน ท่ามกลางสายตาลำบากใจของผู้จัดการ เลขาและพนักงานต้อนรับของไร่
ร่างอรชรถูกพามายัดใส่รถทั้งอีกฝ่ายยังกดตัวเธอจับคาดเข็มขัดล็อกไว้ แม้ว่านิชาดาจะทุบตีผลักไสพร้อมตะโกนลั่นจนคอแหบแห้งก็ไม่เป็นผล
“ฉันไม่ไปนะไอ้บ้า! ไอ้คนป่าเถื่อน!”
ใบหน้าคมเข้มขยับมาระยะใกล้ พร้อมมือหน้าบีบข้างแก้มของเธออย่างแรง ดวงตาคู่คมเข้มฉายแววดุดัน
“เอาเลย ด่าให้เต็มที่ แต่ตอนฉันคิดบัญชีคืนอย่าร้องไห้คร่ำครวญก็แล้วกัน”
======
มาถึงก็ทั้งจูบ ตู่ว่าเป็นแฟน แล้วแบกออกมาเลย หมอกตั้งรับไม่ทันเลยจ้า^^"
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ