/ โรแมนติก / ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน / บทที่ 15 ความรู้สึกที่แท้จริง

공유

บทที่ 15 ความรู้สึกที่แท้จริง

last update 최신 업데이트: 2025-06-11 22:59:09

อ้อมกอดที่รัดรึงร่างบางอย่างหวงหามาตลอดคืนคลายลงเมื่อแสงแรกของวันใหม่มาถึง แต่ริมฝีปากมูมมามยังคงจูบซ้ำ ๆ อยู่บนหน้าผากมนไม่ห่าง ใบหน้าหวานไม่ห่าง

“อื้ม พอเถอะค่ะ ฉันเหนื่อยแล้ว” ณิชชาเอ่ยพึมพำคล้ายละเมอ เมื่อคืนชลาสินธุ์ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงมากนัก แต่ยาวนานจนเกือบจะถึงเช้า ซึ่งนั่นทำให้หญิงสาวแทบจะหมดแรงไปเหมือนกัน

“เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก เธอก็นอนพักผ่อนซะ แล้วเย็นนี้ก็เตรียมตัวกลับบ้าน” ชายหนุ่มพูดพลางลุกขึ้นจากเตียงนอน โดยไม่มีเสื้อผ้าติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว ก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่หน้าขึ้นสีแดงเรื่อ

“จะออกไปหาคุณกานต์เหรอคะ” ณิชชาถามพร้อมกับโยนผ้าขนหนูมาให้ เขาก็รับไว้แล้วเอามาพันเอวไว้ลวกๆ

 “ใช่ วันนี้กานต์จะกลับกรุงเทพฯ พร้อมพวกเรา”

“คุณจะทำอะไร?” หญิงสาวถาม เธอไม่เชื่อว่าธารากานต์จะยอมกลับไปกับพี่ชายง่ายๆ อันที่จริง ณิชชาพบว่า เจ้านายสาวของตนนั้นมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ และยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก เมื่อได้คบหาดูใจกับพัฒนศักดิ์ เจ้านายของตน

และตอนนี้เธอเห็นแววตาปีศาจผุดวาบออกมาจากนัยน์ตาของเขา

“มีอะไรจะทำก็ทำ ไม่ต้องสงสัยให้มาก”

เจ้านายของเธอหายไปตั้งแต่เช้า หญิงสาวทำงานอย่างไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไร ทำงานผิดพลาดหลายครั้ง ลืมนั่นลืมนี่ก็หลายหน พอช่วงใกล้เที่ยง ณิชชาก็เพิ่งจะจำได้ว่าจะต้องยืนยันการประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อซึ่งจะจัดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า เธอจึงเปิดอีเมล์และพบว่า อีเมล์งานซึ่งเธอใช้ร่วมกับเจ้านายและผู้ช่วยอีกสองคนมันมีเมล์หนึ่งที่แปลกไป

‘จองห้องพัก?’

จองทำไมในเมื่อมีห้องพักอยู่ที่โรงแรมตัวเองอยู่แล้ว

จองทำไมในเมื่อก็ไม่ได้ออกไปจากจังหวัดนี้ มันใกล้มากไม่ถึงร้อยกิโลด้วยซ้ำ?

หญิงสาวรวบรวมสติ พยายามตั้งสมาธิแล้วคิดตรึกตรองให้ได้มากที่สุด

แล้วก็ตาเบิกโตเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ เธอตัดสินใจโทร.หาเบอร์โทรศัพท์ที่แนบมากับอีเมล์ทันที

“สวัสดีค่ะ” เธอกรอกเสียงลงไปเมื่ออีกฝ่ายรับและบอกชื่อโรงแรมตามอีเมล์ “ดิฉันเป็นเลขาคุณชลาสินธุ์ค่ะ ชื่อณิชชา พอดีเจ้านายดิฉันลืมน่ะค่ะว่าจองห้องไว้เป็นห้องวีไอพีหมายเลขห้องอะไร”

หญิงสาวตอบคำถามสองสามคำถามเพื่อแสดงตัวตน และยืนยันว่าเธอมีใบจองของเจ้านายอยู่ในมือจริง จึงได้เลขห้องมาในที่สุด แล้วก็ออกจากที่นั่นทันที

“คุณพัฒนศักดิ์คะ ดิฉันมีเรื่องจะบอก”

ชลาสินธุ์มาปรากฏกายที่คอนโดของณิชชาในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยที่เธอไม่รู้ว่า เขารู้จักตึกและห้องของเธอได้อย่างไร ทั้งที่เขามาส่งเธอที่ริมถนนหน้าคอนโดซึ่งมีถึงสามอาคารเท่านั้น

รอยเขียวช้ำที่บริเวณใบหน้าของร่างหนาทำให้ณิชชาตกใจ แต่ที่สะดุ้งยิ่งกว่าก็คือ แววตาขุ่นจัดที่จ้องตรงมาที่เธออย่างมาดร้าย

ณิชชาไม่รู้ว่าพัฒนศักดิ์จัดการเรื่องระหว่างธารากานต์และชลาสินธุ์อย่างไร รู้แค่เพียงว่า พอเธอเล่าเรื่องที่สงสัยขึ้นมาจบ แววตาของชายหนุ่มที่เป็นที่รู้กันทั่วว่าเป็นคนรักของเจ้านายสาว ก็ไม่ต่างอะไรกับชลาสินธุ์ในตอนนี้

“ตัวแสบ เธอต้องได้รับกรรมจากสิ่งที่เธอทำอย่างสาสม!”

พูดได้แค่นั้น ปิศาจชลาสินธุ์ก็จัดการเหวี่ยงร่างของหญิงสาวลงบนเตียงนอนในห้องทันที หญิงสาวจุกจนไม่อาจขยับตัวได้ แต่ถึงจะทำได้ ด้วยเนื้อที่คอนโดแบบสตูลยี่สิบสี่ตารางเมตร เธอก็แทบจะไม่มีที่จะหนีไปไหนได้เลย

เขาฉีกกินเธออย่างมูมมาม ณิชชาถูกพาสู่ขุมนรกชั้นที่ต่ำที่สุด เลือดและบาดแผลเกิดขึ้นทันทีตั้งแต่การเข้าทำครั้งแรก ฟันคมกัดไปทั่วร่างจนเป็นรอยมากมายราวต่อสู้กับสัตว์ป่า

หญิงสาวคิดว่าจะตายตั้งแต่จบทัวร์นรกครั้งแรก

แต่ไม่ใช่...เขาพาเธอไปยังนรกขุมนั้นซ้ำๆ ชำระแค้นที่ทำให้เขาพลาดการพาธารากานต์กลับบ้าน และยังถูกไอ้เจ้าของโรงงานนั่นพาพวกมารุมจนบาดเจ็บ

หึ...เธอทำฉันเจ็บแสบมาก ณิชชา เธอต้องชดใช้!!!

เสียงโอดครวญด้วยความเจ็บปวดของณิชชาดังขึ้นตลอดคืน ร่างกายของเธอเจ็บจนแทบจะรับไม่ไหว ตอนนี้ตายไปเลยอาจจะดีซะกว่า หญิงสาวปล่อยน้ำตาไหลพรู ความเจ็บปวดมาพร้อมแรงกระแทกกระทั้น เธอกำผ้าปูที่นอนที่บัดนี้ยับย่นเพื่อคลายความรู้สึกนั้น ซึ่งมันไม่อาจจะบรรเทาได้เลยสักนิด

กระทั่งความมืดมาเยือน ชายหนุ่มจึงได้หยุดความคั่งแค้นของตัวเองลง

“ต่อให้คุณทำร้ายฉันแค่ไหน คุณกานต์ก็ไม่มีทางกลับมาหาคุณ”

“โธ่โว้ย!!”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูทำให้ร่างที่นอนซมตั้งแต่เมื่อคืนตื่นขึ้นมา นาฬิกาบอกว่านี่มันข้ามวันใหม่มาแล้ว ร่างบางจะไม่เปิดประตูเลยถ้าจำเสียงคนที่เรียกอยู่ด้านนอกไม่ได้

“ผมโทร.หาคุณไม่รับ ไลน์ก็ไม่ตอบ พอโทร.ไปที่ทำงานเขาบอกว่าคุณไม่ได้ไป ผมก็เลย...เฮ้ย! คุณณิช!!!”

ณิชชานอนค้างที่โรงพยาบาลสุดหรูแห่งนี้มาหลายวันแล้ว เธอไม่ได้บอกกับใคร ไม่ได้ติดต่อที่ทำงาน เพราะมันถึงเวลาที่เธอจะเป็นอิสระจากที่ทำงานนั้นแล้ว

ไม่อยากเชื่อเลยว่า เพื่อแลกกับอิสรภาพ เธอต้องลงทุนมากขนาดนี้

ชินวุฒิพาเธอมารักษาที่นี่ เพราะที่นี่คือโรงพยาบาลของญาติ มันจึงง่าย รวดเร็ว และเป็นความลับมากที่สุดเท่าที่เขาอยากให้เป็นได้

 มือทั้งสองข้างถูกเจาะเอาไว้เป็นที่สำหรับให้น้ำเกลือข้างหนึ่ง   ส่วนอีกข้างใช้เป็นที่ฉีดยา

 “นกฉีดยาแก้ไข้ไปนะคะ” แพทย์หญิงรักชนก ซึ่งเป็นหมอเจ้าของไข้จากการบังคับของญาติผู้พี่บอก หลังจากที่ออกมาจากห้องคนไข้ ซึ่งตอนนี้หลับไปเพราะฤทธิ์ยาแล้ว “คุณณิชชามีไข้สูงมากเกิดจากการอักเสบจากแผลที่ด้านล่าง ซึ่งมัน...” คุณหมอชะงักนิดหนึ่ง พยายามหาคำที่ดีที่สุดมาบอกคนที่ตั้งตนเป็นญาติคนไข้ ทั้งที่ญาติจริงๆ อย่างเธอก็เพิ่งจะเห็นหน้าของผู้หญิงที่ชื่อณิชชาก็วันนี้

“พูดมาเถอะหมอนก พี่รับได้”

“คุณณิชชาถูกกระทำรุนแรงมากนะคะ มีบาดแผลทั้งภายนอกภายใน ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และต้องใช้เวลาหลายวัน นกกลัวว่าจะมีการติดเชื้อขึ้นมาได้ แผลแต่ละจุดค่อนข้างน่ากลัว พี่ชินจะให้นกบันทีกไว้เพื่อนำไปแจ้งความไหม อันที่จริง ถ้าคนไข้มาแบบนี้นกต้องแจ้งความนะ”

“อย่าเพิ่งเลยนก รอให้คุณณิชอาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน” ชินวุฒิตอบอย่างเครียด เขาเป็นห่วงหญิงสาวเป็นห่วงมาก ทั้งกายและใจ

“ทำไมคนเรามันถึงได้ใจร้ายกันขนาดนี้ได้นะพี่ชิน”

“ใช่ ใจร้ายมาก แบบนี้มันเกินไปแล้ว”

ชลาสินธุ์ไม่แปลกใจไม่เห็นณิชชาที่ทำงานในวันนี้ ป่านนี้คง

นอนซมอยู่ที่ห้องนั่นแหละ

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ณิชชาทำผิดมากเกินไป เรื่องที่ไม่ให้ทำ ห้ามทำ แต่กลับยังดื้อดึงทำออกมาอีก ไม่ใช่เพราะณิชชา เรื่องระหว่างเขากับธารากานต์ก็คงจะจบลงแล้ว ธารากานต์จะกลับบ้านกับเขา และเขาจะประกาศให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา โดยที่ไม่ต้องสะบักสะบอมเพราะถูกไอ้พวกบ้านนอกนั่นรุมทำร้ายเอาแบบนี้

หึ บทลงโทษแบบเดิมคงจะเบาเกินไป ไม่สาสมกับสิ่งที่ฉันได้รับ

ดังนั้นสิ่งที่เธอได้รับจากฉันก็เหมาะดีกันแล้ว

ในช่วงเย็นวันนั้น คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงเมื่อมาถึงคอนโดของณิชชาที่เขาใช้สินจ้างนิดหน่อยกับรปภ. จึงได้รู้ว่าอยู่ห้องไหนเมื่อคราวก่อน แต่พบว่า ที่ห้องไม่มีใครอยู่ และมันถูกล็อกจากด้านนอก

เขาเดินรอที่หน้าห้องไปมาอยู่นานเพราะคิดว่าหญิงสาวคงไปซื้ออะไรกิน ไม่นานก็กลับมา แต่สองชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มีวี่แววของเธอ

ชายหญิงคู่หนึ่งมาเปิดประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามกันมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ชลาสินธุ์จำได้ว่า ทั้งคู่เห็นเขามาที่นี่เมื่อวาน

“เอ่อ...เจ้าของห้องนี้เขาไปไหนเหรอครับ พอจะทราบไหม” สูดหายใจเข้าใจ พยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองราบเรียบที่สุด ทั้งโมโหที่มาแล้วไม่เจอเจ้าของห้อง แล้วยังจะมาเจอสายตาเกลียดชังจากคนข้างห้องนี่อีก

...ไอ้บ้า แกมีสิทธิ์อะไรมาใช้สายตาแบบนี้กับฉัน!!!

“คุณณิชไปโรงพยาบาลค่ะ เธอไม่สบายมากและมีคนมารับเธอไป ฉันกับแฟนเป็นคนช่วยพยุงเธอไปส่งที่รถคนที่มารับไปเองแหละค่ะ” ฝ่ายหญิงเป็นคนตอบ ขณะที่ฝ่ายชายนี่มองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เพราะไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ณิชชาเป็นอะไร และถูก ‘ใคร’ ทำร้าย แค่ยับยั้งใจตัวเองไม่ให้ต่อยให้เลวนี่ ก็เป็นเรื่องยากมากแล้วสำหรับชายข้างห้องคนนั้น

ชลาสินธุ์ได้ยินแบบนี้ก็ถึงกับหูดับ

...ถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ?

 “แล้วนี่เขาไปโรงพยาบาลไหน” ชลาสินธุ์ถามเมื่อตั้งสติได้

 “ไม่รู้หรอก พอพาคุณณิชไปถึงรถ ผู้ชายคนนั้นก็ขับรถออกไปเลย แต่คุณไม่ต้องกลัวหรอกนะ คุณณิชปลอดภัยแน่นอน เพราะดูเหมือนผู้ชายคนนั้นจะรักและทะนุถนอมคุณณิชมากเลยล่ะ” คราวนี้ฝ่ายชายเป็นคนพูด เสียงดัง ตาแข็ง โมโหที่ไอ้บ้านี่มันทำร้ายเพื่อนบ้านที่แสนดีของพวกเขา

ชลาสินธุ์ขับรถไปตามถนนอยู่เป็นชั่วโมง มือก็กดโทรศัพท์อยู่ไม่หยุด แต่ไม่ว่าจะกดโทรออกสักครั้ง แต่ก็ไม่มีใครรับสาย เหมือนทุกครั้งนับตั้งแต่ช่วงเย็น จากไม่รับสาย จนกลายเป็นปิดเครื่อง

“โธ่โว้ย!!!”

ชายหนุ่มขว้างโทรศัพท์ลงไปที่พื้นรถอย่างแรง ก่อนที่รถจอดนิ่งสนิทอยู่ข้างสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขาทุบหนัก ๆ ไปที่พวงมาลัยรถอย่างหงุดหงิด

เขาไม่อยากจะเชื่อความรู้สึกตัวเองในตอนนี้ ตอนนี้เขาไม่ได้โกรธณิชชาอีกแล้ว แต่กำลังเป็นห่วง เป็นห่วงมาก เขาหลอกตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เขาเป็นห่วงร่างเล็กที่นอนครวญครางเพราะความเจ็บปวดอย่างน่าสงสารเมื่อวาน ณิชชากรีดร้องจนไม่มีเสียง รับเอาความโกรธ ความเกลียดของเขาเข้าไว้อย่างเต็มที่

แล้วตอนนี้เขาก็หึงด้วย

ชลาสินธุ์ไม่อยากจะคิดถึงต้นเหตุของความรู้สึกนี้ แต่ถึงอย่างนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ควรเป็นของคนอื่น ไม่ควรเป็นของพี่อัคอะไรนั่นด้วย แล้วใครกันที่มันเป็นคนพาคนของเขาไปหาหมอ

เสียงโครมครามในห้องน้ำทำให้คนที่มาใหม่ตกใจอย่างมาก เขารีบวิ่งเคาะประตูห้องน้ำก่อนจะพบว่ามันไม่ได้ล็อก ร่างหญิงสาวในชุดคนไข้กองอยู่ที่พื้น เสาน้ำเกลือล้มระเนระนาด ชินวุฒิทิ้งของที่ถือไว้ในมือทั้งหมดแล้วรีบไปประคองร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน

“คุณณิชเป็นอะไร เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

“ไม่ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรแค่ขาไม่มีแรงก็เลยล้ม” ณิชชาพูดเพียงครึ่งเดียว จริง ๆ แล้ว อาการเจ็บทั่วตัวของเธอยังไม่หายเลย จึงทำให้พยุงร่างกายเอาไว้ไม่อยู่ด้วย

ชายหนุ่มอุ้มร่างของณิชชาไปที่เตียงคนไข้อย่างนุ่มนวล เขาจัดการเรียกพยาบาลให้มาดูแลเรื่องสายน้ำเกลือแล้วหยิบเอาถุงที่ถือมาด้วยขึ้นมาเปิดออก แล้วกลิ่นหอมฉุยจากอาหรหลากหลายชนิดก็ตามออกมาทันที

“ผมซื้อขนมมาฝากน่ะครับ เป็นขนมเพื่อสุขภาพ คุณณิชทานเยอะๆ จะได้หายไวๆ” เขาว่า ก่อนจะหยิบคุกกี้อัลมอนด์ กล้วยตากอบน้ำผึ้ง นมอินทผลัม เค้กข้าวโอ๊ดใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และอีกมากมายหลายอย่างจนเต็มโต๊ะรับแขกไปหมด

“เอ่อ...คุณชินคะ?”

“ครับ?”

“ขอบคุณคุณชินมากนะคะ ได้มาเยอะขนาดนี้คุณชินคงเหนื่อยแย่”

 “ผมเต็มใจ”   

ณิชชารู้สึกขอบคุณเขาอย่างมาก แต่ก็รู้สึกแย่พอ ๆ กัน เรื่องที่เธอเผชิญอยู่ไม่ควรจะให้คนอื่นได้รับรู้ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องฉลองอะไร แต่เป็นเรื่องน่าอายที่ต้องเก็บไว้ในหลืบลึกสุดของลิ้นชักด้วยซ้ำ ทำไมนะ อีกแค่สัปดาห์เดียวแท้ๆ เธอจะพ้นจากขุมนรกนั่นแล้ว แต่กลับลงเอยแบบนี้ เธออายเกินกว่าที่จะสบตาชินวุฒิด้วยซ้ำ

หญิงสาวพยายามข่มน้ำตาที่รื้นออกมาให้กลับเข้าไปในร่างกาย ก็พอดีที่พยาบาลเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหารและแก้วใส่ยา ทำให้เธอมีเรื่องอื่นที่ต้องสนใจ และไม่ต้องหมกมุ่นอยู่กับน้ำตาอีก

พยาบาลยิ้มให้กับคนไข้พิเศษเล็กน้อยก่อนจะวางทุกอย่างลง  ทำการวัดไข้  ชีพจร  และความดัน ก่อนจะปล่อยให้คนไข้ได้รับประทานอาหารและยาที่นำมาให้

ชินวุฒิมองดูอาหารในถาดแล้วก็ยิ้ม เขาเป็นคนจัดการให้ณิชชาได้รับอาหารคอร์สที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลซึ่งหน้าตาของมันก็ดีอย่างที่เขาคิดเอาไว้

ณิชชาหยิบช้อนขึ้นมากินข้าว เธอจะวางช้อนเลิกกินไปหลายครั้ง แต่คนที่จ้องอยู่นั้นไม่ยอม คอยแต่บอกให้กินอีกนิด จนกระทั่งไม่สามารถกินต่อได้จริงๆ

“ณิชกินได้เท่านี้จริง ๆ ค่ะคุณชิน” ณิชชาเอ่ยเสียงเบาอย่างน่าสงสาร เมื่อเห็นว่าชินวุฒิยังคงจ้องเขาไม่วางตา

 “งั้นก็ได้ครับ อย่างน้อยก็ได้ไปตั้งครึ่งชาม ที่ผมบังคับเนี่ยก็เพราะอยากให้คุณณิชหายป่วยให้เร็วที่สุด” ชายหนุ่มพูดพลาง มือก็หยิบยาและน้ำยื่นให้ด้วย

 “ขอบคุณมากนะคะคุณชิน”  ณิชชาพูด น้ำเสียงของเธอ ทำให้ชินวุฒิรู้ว่า คำขอบคุณนั้นไม่ใช่ขอบคุณเรื่องอาหาร  หรือเรื่องหยิบยื่นยา    แต่เป็นการขอบคุณเรื่องอื่นด้วย

 “ถ้าไม่ได้คุณชิน ไม่รู้ว่าณิชจะเป็นยังไงบ้าง” ณิชชาพูดเสียงสั่น น้ำตาที่พยายามห้ามมาตลอดมันเริ่มไหลออกมา

 “อย่าคิดมากเลยครับ เป็นผมเองที่อยากดูแลคุณ”

ณิชชาชะงัก เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าทั้งน้ำตา

“แต่ณิชไม่มีค่ามากขนาดนั้นแล้วค่ะ ณิชน่ารังเกียจ ณิช...ณิช”

“เรื่องนั้นผมไม่ได้สนใจเลย คุณณิชถูกทำร้าย ไม่ได้เต็มใจ ผมจะว่าอะไรได้ ก็ทำได้แค่ดูแลคุณณิชให้ดีที่สุดนับจากนี้” ร่างหนาพูด  พร้อมกับเอื้อมมือมาลูบผมของณิชชา “ให้ผมได้ดูแลคุณณิชนะครับ” เขาคว้ามือเล็กซีดเซียวเข้าไว้ พยายามส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดให้คนตรงหน้าเข้าใจให้มากที่สุด

ชินวุฒิชื่นชอบทุกอย่างที่เป็นณิชชา ทีแรกก็ชอบหน้าตา ณิชชาไมได้เป็นคนสวยจัด แต่เป็นคนที่มองได้ตลอดไม่รู้สึกเบื่อ รสนิยมของทั้งคู่คล้ายกัน เวลาคุยกันถึงเรื่องใดก็แทบจะพูดคำเดียวกันออกมา ทั้งเรื่องงาน เรื่องกิน เรื่องพักผ่อนหย่อนใจ และณิชชาเป็นคนฉลาด มีความคิดก้าวหน้า ทันโลก ยิ่งณิชชาพูด เขายิ่งรู้สึกทึ่งกับความคิดของเธอ ยิ่งอยากให้อยู่

ใกล้ ๆ กัน...ตลอดไป

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status