บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว
ชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง
“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก
“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง
“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ
“คือ...เอ่อ...”
“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเองตอนนี้ หญิงสาวคงทนไม่ได้
“คือเกรงว่า คุณสินธุ์อาจจะไม่ได้อยากเห็นหน้าณิชน่ะค่ะ”
“เพราะอะไรคะ เพราะคุณมีคนรักใหม่แล้วน่ะเหรอ” เสียงเสียดแทงหัวใจเอ่ยขึ้นอย่างโหดร้าย “ธารไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณณิชเลิกกับแฟนคนปัจจุบันแล้วมาหาพี่สินธุ์หรอกนะ ธารไม่ได้ใจแคบขนาดจะต้องให้คุณมาดูแลพี่ชายธารที่ป่วย ธารและพี่ ๆ ทุกคนช่วยกันดูพี่สินธุ์ได้ แค่ธารไม่เข้าใจว่า อะไรทำให้คุณใจร้ายใจดำขนาดแม้แต่ถามถึงคุณณิชก็ยังไม่ทำ”
“มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ” เสียงตอบนั้นแผ่วเบา
“ไม่สงสาร หรือเห็นใจอะไรสักนิดเลยเหรอคะ ไม่สงสัยเลยเหรอ ว่าใครกันที่ขับรถชนพี่ใหญ่”
“คุณธาร ให้ดิฉันออกไปทำงานเถอะนะคะ” หญิงสาวตัดสินใจพูด เธอทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว
...เป็นห่วงเหลือเกินอยากไปหาใจจะขาด...
การไปต่างจังหวัดสองต่อสองกับอัครชัยไม่อาจทำให้ลืมชลาสินธุ์ได้เลย ยิ่งระยะทางห่างไกลก็ยิ่งคิดถึง ร่างเล็กคอยแต่หาทางคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้คิดถึงชลาสินธุ์...หากเป็นแบบนี้ต่อไปคงจะไม่มีใครมีความสุข
แต่ชลาธารไม่ได้เข้าใจจิตใจของณิชชามากนัก หญิงสาวรู้สึกผิดหวังกับคนรักของพี่ชายมาก ที่ได้ยินคำพูดตัดเยื่อไยแบบนั้น ไม่เคยคิดว่าณิชชาจะใจดำได้ขนาดนี้
“ถ้าคุณณิชคิดว่า นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้ก็เชิญเถอะค่ะ ธารก็คงจะต้องบอกให้พี่ชายตัดใจจากคุณณิชสักที ถ้าพี่สินธุ์ไม่เอาแต่คิดเรื่องคุณณิช ไม่เอาแต่กินเหล้าเพราะคิดถึงคุณณิช พี่สินธุ์ก็คงมีสติกว่านั้น รถคันนั้นคงไม่ชนเอาได้ง่าย ๆ ธารไม่ได้อยากคิดร้าย ๆ นะคะ แต่มันจะดีแค่ไหน ถ้าคุณณิชไม่ได้เข้ามาในชีวิตของพี่ชายธารตั้งแต่ต้น”
ณิชชาน้ำตาเอ่อ จะไปเล่าให้ใครฟังว่า เธอเสียใจและตกใจขนาดไหนกับเรื่องอุบัติเหตุของชลาสินธุ์ตอนนี้ก็คงไม่มีใครเชื่อแล้ว และเธอเองก็ไม่ต้องการให้คนเชื่อตามนั้นด้วย
อย่างที่เคยคิดและจะตอกย้ำกับตัวเองเสมอ ชลาสินธุ์มีน้องอีกสามคนพร้อมทั้งผู้คนล้อมรอบกายที่มาคอยดูแล แต่อัครชัยไม่มีใคร ดังนั้นไม่ว่าตอนนี้เขาจะคิดถึงอีกคนแค่ไหน
แต่อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว
“เป็นอะไรไปครับคนดี ร้องไห้ทำไม”
ณิชชาสะดุ้ง ไม่คิดว่าอัครชัยจะกลับเร็วขนาดนี้ เพราะเมื่อเช้า
ชายหนุ่มบอกว่ามีงานต้องเคลียร์อยู่เยอะมาก ร่างบางเกาะลูกกรงระเบียง ปาดน้ำตาที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เจ้าของเสียงทุ้มเมื่อครู่ดึงเธอเข้าไปกอดเอาไว้แน่น นัยต์ตาตัวเองก็มีน้ำตาคลอ เขารู้ว่า ณิชชาพยายามจะมอบความรักพยายามจะมอบความสุขให้...แต่ทำไมความรักครั้งนี้ มันดูฝืนใจเหลือเกิน...
เสียงโทรศัพท์ของณิชชาดังขึ้นเป็นเบอร์ศูนย์สองที่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าโทรมาจากที่ไหน อัครชัยปล่อยคนในอ้อมกอดแล้วเดินไปหยิบเอามาให้คนรัก
“สวัสดีค่ะ”
“...”
“ฮัลโหล ได้ยินมั้ยคะ” ร่างเล็กพูดเสียงดังขึ้นนิด เมื่อไม่ได้ยินเสียงใครตอบกลับมา รออยู่เป็นครู่จนตัดสินใจว่าจะวางสาย ก็ต้องชะงักและน้ำตาไหลพรั่งพรูลงมาอีกเมื่อได้ยินเสียงอ่อนล้าแหบแห้งมาตามสาย
“ฉันแค่อยากได้ยินเสียงเธอ”
ณิชชาได้ยินมันเต็มสองหู แต่ไม่สามารถตอบอะไรได้ สิ่งที่ร่างกายทำได้ตอนนี้ คือสะอึกสะอื้นราวกับน้ำตกถล่ม
อัครชัยเดินไปในห้องนอนพยายามหาทิชชู่มาให้คนรัก ณิชชาหันหลังให้อัครชัยซะไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาเลย
แต่เธอพลาดแล้ว น้ำตาที่ไหลออกมามันหยุดไม่อยู่ซะแล้ว
“สบายดีหรือเปล่า” น้ำเสียงห่วงหาเดินทางมาตามสัญญาณโทรศัพท์
ณิชชาส่ายศีรษะน้อย ๆ พยายามกลั้นสะอื้น
...ฉันจะสบายดีได้ยังไง ในเมื่อคุณกำลังไม่สบาย...
มือบางกำรั้วระเบียงแน่นคล้ายจะถ่ายเทความเจ็บปวดที่ใจไปไว้ที่ระเบียงให้หมด แต่ก็รู้ว่ามันไม่สามารถทำได้ ความโหยไห้ยังกองอยู่ที่เขาเต็มที่ ทับถมเหมือนใบไม้แห้ง ที่นานวันเข้าก็จะแตกสลาย และไม่มีใครสามารถคว้ามันเอาไว้ได้
“ฉัน...” เสียงแหบนั้นช่างฟังดูเหนื่อยล้า
ณิชชาอยากจะโอบไหล่ใหญ่นั้นไว้ แล้วปลอบว่าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว อยากให้พักผ่อนจะได้หายเร็ว ๆ จะได้ปลอดภัย กลับมาเป็นคุณสินธุ์ของทุก ๆ คนเหมือนเดิม แต่ก็พูดออกไปไม่ได้ มือเล็กถูกยกขึ้นมาปิดปากเพราะกลัวเสียงสะอื้นจะไปถึงหูคนที่อยู่ในห้อง
“ฉัน...ฉันคิดถึงเธอ” สิ้นเสียงนั้น เรี่ยวแรงทั้งหมดของณิชชาก็หายไป หญิงสาวปล่อยร่างกายให้ทรุดกองลงที่พื้น ร้องไห้จนคนในสายพลอยจะขาดใจตามไปด้วย พวกเขาถือโทรศัพท์แนบหูไว้อย่างนั้น ไม่มีใครเอ่ยอะไรกันออกมาอีก รู้แต่เพียงว่า ความคิดถึงทำงานของมันอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ได้เห็นหน้า แต่ทั้งคู่รู้ว่า น้ำตาพวกเขาไหลไม่ต่างจากเลือดไหลที่หัวใจที่ถูกกรีด
เสียงร้องไห้นั้นไม่ได้กรีดหัวใจของชลาสินธุ์และณิชชาเท่านั้น หากยังกวัดแกว่งไปทำร้ายคนที่ทำเหมือนว่า ตัวเองไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนั้นด้วย
อัครชัยยืนนิ่งงัน ฟังเสียงสะอึกสะอื้นของณิชชา เขารู้ว่าคนรักเจ็บปวด และเขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ตอนที่ณิชชารับสายทำให้พอจะเดาได้ว่า ใครคือคนที่อยู่ปลายสาย สัญญาณโทรศัพท์นั้นราวกับเป็นสายฟ้าปลายแหลมที่มาทิ่มที่ตรงหัวใจเขาอย่างไม่ยั้งมือ
แม้น้ำตาไม่มีสักหยด แต่อัครชัยรู้ว่า ตัวเองกำลังจะรับไม่ไหว ความรักของณิชชาที่มอบให้เขา...เขารับมันไม่ไหวแล้ว
ความพยายามที่จะมอบความรัก ให้กับคนที่ไม่ได้รักแล้ว มันช่างสร้างความเจ็บปวดให้กับทุกคน
เคยรู้แต่ว่า เมื่อรักแล้วไม่ได้รักตอบมันเจ็บปวด แต่ไม่เคยรู้เลยว่า แม้ได้รับความรักตอบก็อาจจะเจ็บปวดมากเช่นเดียวกัน
“ขอโทษนะณิช พี่หาทิชชู่ไม่เจอ เอาผ้าเช็ดหน้าพี่ก่อนก็แล้วกันนะ วันนี้พี่ยังไม่ได้ใช้เลย” ชายหนุ่มยื่นผ้าเช็ดหน้าสีเขียวอ่อนกลิ่นสะอาดให้เมื่อหญิงสาววางสายไปแล้ว แต่พอมือเล็กจะรับ เขากลับปฏิเสธแล้วเช็ดน้ำตาให้คนรักเสียเอง อัครชัยจับปลายคางของคนรักบังคับให้คนที่ยังนั่งกับพื้นเงยหน้าขึ้นมามองกัน
“คุณชลาสินธุ์โทร.มาใช่มั้ย”
“พี่อัค” พยายามหลบตาแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะยังถูกจับอยู่ที่ปลายคางไม่ปล่อย
“มีความสุขหรือเปล่าที่อยู่กับพี่” เสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยถาม มือที่เลิกรั้งปลายคางหันมาจัดผมของคนรักให้เข้าที่ แววตาของณิชชาที่กระตุก วูบไม่ได้เล็ดลอดสายตาของอัครชัยเลย
“ณิชมีความสุขค่ะ” เลือกที่จะโกหกตัวเอง หวังว่าอัครชัยจะมีความสุขจากการโกหกในครั้งนี้
อัครชัยก็ไม่ว่าอะไรแม้จะรู้อยู่เต็มหัวใจว่าคำตอบนั้น...มันไม่จริง
“แต่อยู่กับเขา จะมีความสุขกว่าใช่หรือเปล่า” ชายหนุ่มยังคงถามต่อด้วยน้ำเสียงห่วงใย อย่างไรซะคนคนนี้ก็คือคนที่เขารักมากที่สุด
“ไม่ใช่นะคะพี่อัค ไม่ใช่ ณิชมีความสุขเมื่ออยู่กับพี่ ณิช...” ณิชชาละล่ำละลัก
“เขาไม่ได้เป็นแค่เจ้านายใช่หรือเปล่า”
“พี่อัค...” ณิชชาก้มหน้า หลบสายตา รู้สึกผิดที่อัครชัยจับเรื่องนี้ได้ แต่จากนี้เธอจะอยู่กับชายหนุ่มเพียงคนเดียว หากต้องทำร้ายใคร หรือแม้กระทั่งต้องทำร้ายตัวเอง แต่คนคนเดียวที่จะไม่ถูกทำร้ายคือพี่อัค
...พี่อัค เทวดาประจำตัวของณิช...
“ณิชรักพี่อัคนะคะ แล้วเราก็เป็นแฟนกัน ณิชไม่มีทางรักคนอื่นได้นอกจากพี่อัคหรอกค่ะ”
“พี่รู้ พี่ก็รักณิช” เสียงอ่อนพูดขึ้น ก่อนจะดึงร่างบางเข้าไปกอด “แล้วพี่ก็อยู่ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีณิช แต่พี่เชื่อว่าสักพักพี่ก็จะดีขึ้น”
“พี่อัคหมายความว่ายังไงคะ” หญิงสาวผละจากอ้อมกอดแข็งแรงเพื่อให้หันหน้าคุยกันได้เต็มที่ ดวงตาคมโตมองหน้าคนรัก แต่อัครชัยกลับไม่ตอบคำถาม
“ที่ผ่านมารอพี่หรือเปล่า”
“พี่อัค...ณิชรักพี่อัคมากนะคะ ณิชรอพี่อัคมาตลอด”
“ความรักของณิชที่มีต่อพี่เมื่อสองปีก่อน กับตอนนี้ยังเป็นความรักแบบเดิมอยู่หรือเปล่า”
ณิชชาก้มหน้า หญิงสาวตอบคำถามนี้ไม่ได้ซะแล้ว
“ไปหาเขาเถอะ” อัครชัยตัดสินใจพูด แม้ตัวเองจะเจ็บ แต่นี่อาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดของพวกเขาทั้งสามคนก็ได้ เขาขาดณิชชาไปก็อาจจะเสียใจ เสียใจไปนาน แต่ถ้าณิชชาและชลาสินธุ์ต้องขาดจากกัน นั่นอาจจะหมายถึง ชีวิตของทั้งคู่จะกลายเป็นชีวิตที่ไร้หัวใจไปตลอดก็ได้
“พี่อัค ไม่เอานะคะ” ณิชชาเริ่มน้ำตาไหลลงมาอีกหน มือบางคว้าเอามือคนรักมาจับไว้แน่น
อัครชัยจึงรวบมือน้อยนั้นเอาไว้เสียเอง “พี่รู้ว่าความรักที่ณิชมีต่อพี่ยังอยู่ และพี่เองก็ยังเก็บเอาความรักที่มีต่อณิชเอาไว้เหมือนเดิม แต่พี่อยากให้คนที่พี่รักมีความสุขที่สุด ซึ่งหมายถึง ณิชต้องไปหาเขา”
“พี่อัค ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ทำไมบังคับให้ณิชต้องทำร้ายพี่ พี่เป็นคนที่ณิชรักนะคะ”
“พี่ก็ไม่อยากให้ณิชเสียใจ และไม่มีความสุข เพราะพี่ก็รักณิชมากเช่นกัน เราลากันตรงนี้ ตอนที่เรายังรักกันและตอนที่พี่พอจะทำอะไรเพื่อให้ณิชมีความสุขได้บ้างน่าจะดีกว่านะ”
“พี่อัค” ณิชชาร้องเรียก ส่ายหน้ารัว ราวกับจะปิดกั้นการรับรู้
ทุก ๆ คำพูดของอัครชัย“เลิกร้องไห้ได้แล้วคนดี ณิชกำลังทำให้พี่รู้สึกผิดที่เป็นคนทำให้
ณิชต้องร้องไห้ถึงสองครั้งสองคราในชีวิตนะ ช่างเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ ที่ผ่านมาพี่เอาแต่ใจตัวเองมาตลอดโดยไม่ได้ฟังเสียงณิชเลย ทั้งที่ณิชอยากให้พี่อยู่ใกล้ ๆ สู้ไปด้วยกัน พี่ก็กลับทิ้งณิชไปตั้งไกล แล้วก็ไปตั้งนาน จนมีคนมาดูแลณิชให้ ตอนนี้พี่อยากให้ณิชตามใจตัวเอง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของพี่บ้าง” อัครชัยบอก พร้อมกับใช้นิ้วนุ่มไล้น้ำตาจากใบหน้าของคนรักที่ไหลเอ่อไม่ขาดสาย“พี่อัคเป็นแฟนที่ดีนะคะ แล้วพี่อัคก็เป็นลูกที่ดีด้วย ตอนนั้นถึงจะร้องไห้แต่ณิชก็เข้าใจพี่อัคนะ”
“แล้วตอนนี้ล่ะ เข้าใจพี่ไหม เข้าใจหรือเปล่าว่า พี่อยากเห็นณิชมี ความสุข พี่มั่นใจว่าพี่รักณิช แต่พี่ไม่มั่นใจเลยว่าจะทำให้ณิชมีความสุขได้ คุณสินธุ์ซะอีกที่ทำให้ณิชมีความสุขได้ ถึงตอนนี้ณิชเข้าใจพี่ได้ไหมว่า พี่อยากเป็นพี่ชายของณิช พี่ชายที่อยากจะทำให้น้องสาวมีความสุข”
“พี่อัคคะ...” ณิชชายังดึงดันปฏิเสธ แต่อีกคนกลับขัดเอาไว้
“ไปหาเขาซะ”
“ไม่เอา ณิชไม่ไป ณิชจะอยู่กับพี่อัค ถ้าพี่อัคไม่อยู่กับณิช แล้วพี่อัคจะอยู่กับใคร” ณิชชาสะอื้นจนตัวโยน เธอจะทิ้งอัครชัยไปได้อย่างไร
“อย่าดื้อนะ แล้วก็ไม่ต้องห่วงพี่” อัครชัยกอดร่างบางเอาไว้แน่นให้ตัวเองได้รับรู้ถึงความอุ่นซ่านในอ้อมกอดนี้
...อ้อมกอดที่เขาจะไม่ได้รับมันอีกแล้ว...
ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว
บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ
บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ
บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ
บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ
บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว