LOGINบทที่3 ปากหวาน
พนิดาtalk "มากินข้าวสิลูกคนดีของแม่" "มามะ วันนี้มีกับข้าวที่หนูชอบด้วย มีทอดตับไก่กระเทียมแล้วก็ปลาทูทอด ปลาทูแม่แกะก้างแยกเอาเนื้อใส่จานไว้ให้เรียบร้อยแล้ว มากินร็วๆ" เสียงแม่สมใจดังแว่วอยู่ข้างนอก ท่านเสียงอ่อนเสียงหวานฃ ผิดจากที่ว่าฉันกับชบา เมื่อตอนกลางวันมาก "เร็วสิจ้ะ ของที่หนูชอบทั้งนั้นเลย" ถึงท่านจะปากเสีย แต่เวลาเรียกลูกทานอาหาร เรียกซะน่ารักเลย ฉันอยากมีโมเม้นแบบนี้ ฉันอยากมีแม่คอยเรียกฉันทานอาหารแบบนี้จัง แต่เชื่อไหมว่า หลังจากวันนั้นวันที่แม่ออกจากบ้าน ท่านก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย "อีบา" ฉันสะกิดเพื่อนเบาๆ ขณะที่มันกำลังใส่ต่างหู วันนี้มันสวยเซ็กซี่มาก ผู้ชายในคลับคงจ้องเพื่อนฉันเป็นตาเดียวแน่คืนนี้ เพราะเพื่อนฉันแซ่บไฟลุกมาก "อืม" มันพยักหน้า "แม่มึงเรียกกินข้าวอยู่ข้างนอกน่ะ แกเสียงอ่อนเสียงหวานเชียว เวลาไม่บ่นก็น่ารักมากๆ" "หึ!" เพื่อนฉันแค่นหัวเราะในลำคอ "กูลืมบอกมึงอย่างหนึ่งอีนิดา" "อะไร?" "ที่แม่กูเสียงอ่อนเสียงหวานก็เพราะแกเรียกอีไข่ขาวไปแดกข้าวไง!" "ไข่ขาวคือใครอะ?" ยังงงอยู่ค่ะ ไข่ขาวคือใคร หรือจะเป็นหลานแก จะว่าไปฉันมาที่นี่หลายครั้งก็ไม่เคยเจอคนที่ชื่อไข่ขาวเลย "หลานแกเหรอ?" "หมาสีขาวเพิ่งได้มาใหม่เมื่อสองวันที่แล้ว แม่กูจะเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนั้นแหละ" ยังไม่ได้พูดอะไรต่อเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น จะเรียกเคาะก็ไม่ถูก ต้องเรียกทุบมากกว่า "อีชบาแดกข้าวเร็ว เรียกเพื่อนมึงออกมาแดกด้วย" "นี่คือการเรียกกินข้าวที่แท้ทรูของแม่กู" มันหัวเราะออกมาเบาๆ "มึงคิดดูกูกับหมา ใครจะได้มรดก อีไข่ขาวมันมาแย่งความรักจากแม่กูหมดแล้ว อีกไม่นานกูกับพี่คงถูกเอาไปปล่อยที่วัด" "บ้าบอ! มึงก็พูดเกินไป ใครจะไล่ลูกไปอยู่วัดแทนหมาล่ะ" "ฮ่าๆ แม่คนอื่นอาจจะไม่แต่แม่ของกูไม่แน่ รีบแต่งตัวให้เสร็จ จะรีบพาไปกินพอเป็นพิธี เราต้องกินเพราะคุณนายสมใจมาเชิญถึงหน้าห้องถึงแม้ว่าจะเป็นคำเชิญที่ระคายหูมากก็เถอะ กินเสร็จจะได้จะได้ไปดื่มกัน" "อืม" ฉันพยักหน้าแล้วรีบแต่งตัว ฉันไม่กลับบ้านแต่อาศัยเสื้อผ้าของเพื่อนสวมใส่ไปที่คลับ ฉันไม่อยากกลับไปเจอหน้าพ่อฉันไม่อยากกลับไปเจอหน้าเมียพ่อ ฉันไม่อยากจะได้ยินเรื่องที่พ่อต้องการให้ฉันแต่งงานกับไอ้เวรนั้น ฉันไม่เคยเห็นหน้าเขา ฉันไม่เคยรู้จัก และไม่อยากรู้จัก แต่ฉันรู้จักเพื่อนพ่อคนนี้ ท่านชื่อคริสเตียนเป็นคนของตระกูลดำรงค์พงษ์เมธา ไม่มีใครไม่รู้จักเขา เพราะเขาเป็นมาเฟียที่ใครๆต่างเกรงขามและเกรงกลัว ชื่อเสียงของท่านในบรรดาน้องชายของท่านต่างโหดร้าย ถ้าใครคิดจะทำร้ายหรือทำให้ตระกูลนี้ไม่พอใจ นอกจะตายอย่างทรมานแล้วแม้แต่ร่างก็อาจจะไม่เจอ ส่วนบรรดาลูกๆหลานๆของท่านฉันไม่ค่อยรู้จักหรอก เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใครลูกหลานตระกูลนี้เยอะจะตาย ถ้าจะให้ฉันไปนั่งนับฉันคงสับสนตายห่า ฉันเองก็แปลกใจหรือคนทั้งที่ฉันทำตัวเสเพลทำตัวน่ารังเกียจทุกสิ่งทุกอย่าง คนคริสเตียนยังจะให้ลูกชายมาแต่งงานกับฉัน ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้ใหญ่ฝ่ายนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผู้ใหญ่ฝ่ายของฉัน ฉันรู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรพ่อของฉันกับเมียใหม่อยากจะให้ฉันกระเด็นออกไปจากบ้าน ไปให้พ้นหน้าพ้นตา ไม่ต้องการอยู่ให้รกหูรกตา หลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยฉันกับชบาก็ลงมาข้างล่างนั่งร่วมรับประทานอาหารอยู่กับครอบครัวของชบา ครอบครัวของเพื่อนไม่ใช่ครอบครัวใหญ่อะไรหรอกค่ะ ทานอาหารกันแค่ 3-4 คนส่วนบรรดาเพื่อนๆของพี่เช น่าจะกลับกันไปหมดแล้ว เพราะลงมาก็ไม่เห็น "ไข่ขาวอร่อยไหมลูก" แม่สนใจพูดกับหมาพร้อมกับตักอาหารให้ทาน "มึงก็ดูสิอีนิดา แม่กูสองมาตรฐานชัดๆ ตักอาหารให้หมากินส่วนลูกจะแดกอะไรก็เชิญ ลูกรักกับลูกชังมันช่างต่างกันเหลือเกิน" ชบาพูดพร้อมกับค่อนขอดแม่ของมัน "ใช่ไง อีไข่ขาวมันลูกรักของกู ส่วนมึงรีบแดกได้แล้วอย่าพูดมาก แล้วดูการแต่งตัวของพวกมึงสองคนสิ จะแต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้อะไรขนาดนั้น" "ก็คนมันสวยนี่แม่" "สวยสยองทุกสองนาที" ท่านค่อนขอดก่อนจะหันมามองฉัน เอาแล้ว กูจะโดนด่าไปด้วยไหมนี่ "รีบกินได้แล้ว มาทำหน้าซื่อบื่ออยู่ได้ ไปเที่ยวก็อย่ากับดึกกันมาก ห้ามอะไรไม่เคยจะฟังกันเลย วันนี้จะให้ไอ้เชไปด้วย" "ค่ะแม่สมใจ" "ได้ไงแม่ เอาไอ้พี่เชไปด้วยก็ไม่สนุกน่ะสิ!" "หุบปาก เดี๋ยวกูไล่ไปอยู่วัด ทีแรกกูก็เอาแต่โทษนิดามัน ที่ชวนมึงไปเสเพล แต่ที่จริงแล้วมึงก็ใช่ย่อยอีลูกเวร!" "แม่อ่ะ" "น้องโตแล้ว ปล่อยให้น้องไปเปิดหูเปิดตาออกไปดูโลกภายนอกบ้าง โลกในตอนนี้มันเปลี่ยนไปมากแล้วจะให้ลูกๆมาทำตัวโบราณเหมือนแม่ มันก็ไม่ได้นะครับแม่ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว" พี่เชพูดขึ้น "แม่รู้ว่าทุกอย่างมันเปลี่ยน แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามมันทุกอย่าง เป็นสาวเป็นนางไปเที่ยวสถานที่แบบนั้น ใครก็ต้องคิดเป็นธรรมดา" "ผมจะดูแลพวกเธอเอง!" พี่เชยิ้มให้ฉัน ฉันยิ้มตอบแล้วนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ พอทานอาหารเสร็จเราก็พากันมาที่คลับเปิดใหม่ โดยมีพี่เชเป็นคนขับรถให้ ฉันนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังกับชบา พี่เขามองฉันแทบตลอดเวลาผ่านกระจกหลัง ฉันดึงเกาะอกขึ้นก่อนจะผินหน้ามองข้างทาง "กูโทรนัดอีขวัญตาอีนิชาแล้ว เดี๋ยวมันก็มา" "อืม" ฉันพยักหน้าให้เพื่อนเบาๆ ผ่านไปประมาณสิบนาทีก็มาถึงคลับหรูกลางเมือง ฉันลงจากรถแล้วเดินเข้าไปข้างใน โดยมีเพื่อนเดินตาม แต่จังหวะที่ฉันจะเดินเข้าไป ร่างเล็กของฉัน ก็ชนกับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนอย่างจัง ปึก "ว้าย!" ฉันหวีดร้องอย่างตกใจ ร่างเซถลาจะล้มลง แต่เอวของฉันถูกคว้าเอาไว้ ฉันอ้าปากค้างมองคนตรงหน้า ผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่ฉันยื่นข้อเสนอให้เขานอนกับฉัน เป็นคนคว้าตัวฉันไว้ ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ร่างกายปึกบืนสมส่วน เขาหล่อและดูดี องค์ประกอบที่รวมอยู่บนหน้า มันเพอร์เฟคไปทุกส่วน แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้เพลิดเพลินกับความหล่อเหลาของเขาต่อ ร่างเล็กของฉันก็ถูกปล่อยลงพื้นทันที ตุบ "โอ้ย!" ปล่อยลงมาได้ ก้นกบฉันหักหมดแล้วมั้ง "ผู้หญิงแบบเธอ ฉันไม่น่าช่วยเลย เสนียดมือจริงๆ" ว่าจบก็เดินไป ทิ้งให้ฉันอ้าปากค้างอย่างงงๆดาราเริ่มคล้อยต่ำๆเพื่อให้พากันกลับหน้าแรกที่บ้านพักริมชายฝั่งเพื่อเตรียมการสุดยอดที่ตั้งใจทำร่วมกันกลิ่นถ่านไม้และควันบางลอยขึ้นในอากาศเต็มรูปแบบของการรั่วไหลของของเหลวเมื่อหยดน้ำจากปลาหมึกสดกระเด็นโปรตีนย่างมาลิซาอาสาเป็นย่างอาหารทะเลวีนัสน้ำจิ้มส่วนผู้ชายช่วยกันสำหรับเครื่องดื่มในช่วยยกถ้วยกับจานออกมาวางเรียงตามลำดับ“ให้พี่ช่วยโหราศาสตร์ผักไหมวี” คชรินดึงถ้วยจานไปศูนย์กลางแล้วพิจารณาเดินเข้ามาช่วยวีนัสส่วนหนึ่งของเธอจานนี้ทำได้ ให้ช่วยดึงจาน โขกพริกเป็นผักที่เขาสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้“เป็นพี่ชิน” “ให้พี่ช่วยเถอะนะให้พี่ทำอะไรก็ได้พี่อยาก” “แล้วพี่ชินล้างต้นหอมผักชีและส่วนประกอบของผ่ามะนาววีก็ได้ค่ะ” “ครับ” คชินทร์รีบดึงต้นหอมผักชีไปล้างให้อย่างง่ายว่าดีเคยเข้าครัวช่วยอีกครั้งทำโน่นทำนี่สมัยเรียนมัธยมศึกษาพื้นฐานในการล้างผัก… ปรุงรสตามชอบแล้วใส่ต้นหอผักชีที่คชินทร์ช่วยให้แน่ใจว่า“พี่ชรินลองชิมน้ำจิ้มของวีดูค่ะว่าอร่อยพอใช้ได้หรือเปล่า?” เธอใช้ตักช้อนโต๊ะน้ำจิ้มแล้วยื่นให้“ป้อนพี่สิ” คชินทร์เอ่ยถึงรสชาติยิ้มกรุ้มกริ่ม“พี่ก็อ้าปากสิคะ” วีนัสไม่ได้ที่เขาจะอยากให้ป้อนลงไปป้อนพ
“แพ้แล้ว อย่าลืมรางวัลพี่ิล่ะ มาลิสา” “แหม่ไอ้เชนทร์ มึงเลิกพูดเล่นได้แล้ว กูว่าพวกเราไปหาที่ดื่มดริ๊งดันดีกว่า” ภูเมศเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง “เออ นั่นดิ สอบเสร็จแล้ว จะดื่มดริ๊งให้ฉ่ำปอดก่อนเลย” คชรเอ่ยเสริม พร้อมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ “กูว่าพวกเราขับรถไปบ้านพักกันดีกว่า” “เออ กูเห็นด้วย” คชินทร์เอ่ย “กูเหมื่อยว่ะ หิวด้วย” “เออ ดีเหมือนกัน” ภูเมศเอ่ย ก่อนจะขับรถไปที่บ้านริมทะเลสุดหรูของคนในตะกูล รถหรูทั้งสี่คันแล่นมาหยุดที่หน้าบ้านพักริมทะเลหลังใหญ่ บ้านไม้สีขาวสะอาด มีระเบียงกว้างมองเห็นคลื่นซัดชายหาดอยู่ไม่ไกล “โอโห… วิวดีขนาดนี้! บ้านก็โคตรสวย” มาลิสาอุทานเสียงใส ขณะเปิดประตูรถลงมา ลมทะเลพัดผมเธอปลิวไปตามแรงลม “แน่นอนสิ บ้านของคุณชายคเชนทร์ทั้งที” คชรพูดยิ้มแซว บ้านหลังนี่เป็นบ้านพี่ชาย ที่เคยมาซื้อเอาไว้ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ที่จริงบ้านพักแบบนี้พวกเขามีหลายหลัง แต่ตรงนี้วิวสวยสุด เหมาะสำหรับการพักผ่อน “อย่าเรียกคุณชาย” “มึงรวยสุดในกลุ่ม” คชินทร์พูดพลางโยนกุญแจรถขึ้นหมุนเล่น “เออ ใช่ แล้วมึงก็ขับรถเร็วสุดในกลุ่มด้วย” ภูเมศเอ่ย “กูแค่ขับไว เพราะมีแรงจูงใจดี ๆ” คเชนทร
วันและเวลาส่วนใหญ่ต่างอาบน้ำแต่งตัวกันอย่างรีบเร่งเป็นครั้งแรกเป็นวันที่ทุกคนนัดกันขับรถไปเยี่ยมชมที่นักท่องเที่ยวที่ตรวจสอบตามปกติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา“ทำข้าวกล่องให้ลูกๆ หิวระหว่างทางจะได้กิน” พนิดายื่นตะกร้าอาหารให้คชรกำลังตรวจสอบรถอยู่หน้าบ้านส่วนภูเมศขับรถมาหน้าบ้านพอดีตรวจสอบมาวีนัสกับมาลิสาลงรถมาด้วย“ขอบคุณครับคุณแม่จะดูแลทุกคนเอง” “ดูแลตัวเองด้วยเถอะไม่รู้จักตัวเองมาก” “แม่รู้จักลูกชายน้อยไปที่นั่นครับ” ซิ่งนั้นอยู่ในสายเลือดและพร้อมขับแบบเร็วแรงทะลุนรกพร้อมลงนรกตลอดเวลา!” คชินทร์ภาพยนตร์“ไอ้ชิน!” คชรฟังเอ็ดพี่ชายทันควันในคนเป็นพี่เริ่มปากมาก“ขับดีทุกอย่างล่ะไม่จำเป็นต้องทำอย่างตอนพ่อยังจะได้ติดตามกลางเขารสชาติ” คาร์เตอร์เดินออกมาพร้อมแก้วกาแฟใน เอ่ยถึงคุณลองซะเลย” คชินทร์สายการบินก่อนหนุ่มควบคุมรถตรวจสอบของรถสปอร์ตดังกระ ตรวจสอบความต้านทานคเชนทร์อย่างต่อเนื่องขึ้นรถอีกคันมาใกล้มาลิสาที่ต่อเนื่องลดกระจกลง“สามาขึ้นคันเดียวกับพี่มา” คเชนทร์เอ่ย “ใช่ค่ะพี่เชนทร์ สาไปนั่กับพี่เมศพี่เชนทร์ไปคันเดียวกับวีนัสนะคะ” “สำหรับ…สา” วีนัสทำหน้าบอกบุญไม่รับที่เสาจริงเป็นเมื่อก่อน
หลังจากนั้นหมูกระทะตั้งเตาได้สักพักกลิ่นเนื้อหมักและน้ำจิ้มรสเด็ดก็ทำให้ทุกคนดูล้อมวงคาร์เตอร์ไม่ให้กินหมูกระทะในหลายๆ ส่วนมาเธอร์มกับเด็กกระทะอีกนำซ้ำยังสั่งหมูกระทะมาเพิ่มชุด “เหมือนเหมือนก่อนเลยนะที่นิดาตักให้พี่กินแบบนี้” พนิดาตักเนื้อให้สามีคาร์เตอร์ยิ้มรับด้วยเดี๋ยวตาเอ็นดู ต่อให้ใช้ชีวิตคู่กับพนิดามานานและสืบสวนที่ต่อเลยไม่เคยลดน้อยลงลง นับวันมันเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ“ใช่” ความรักพี่เตอร์บ่นว่าเนื้อสุกช้าเอาไปต้มจนเกือบหมด” พนิดาดูหนังแม้ว่าบางครั้งจะมีความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับสามีและไปถึงทั้งสุขทุกข์เศร้าแต่สิ่งดี ๆ และประสิทธิภาพปกติมากกว่า “ ก็มันช้าไม่ทันใจพี่นี่นา” “ขนาดกุ้งพี่เอาไปลงทั้งเปลือกเลยไม่ยอมแกะ นิดาต้องมาแกะ” “พี่ก็แกะให้นิดากินเมือง” “แหม่ๆ ทั่วทั้งเมืองกันซะอย่างเห็นได้ชัด” คชรแซว“ก็ธรรมดา เช่นกัน” คนแห่งความรัก แล้วชรล่ะมีหรือยัง?” “ผมว่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า” “ฮ่าๆ” สายการบินของทุกคนดังขึ้นในวงหมูกระทะร้อน พูดคุยเสียงพูดคุยหยอกล้อมาลิสามองภูเมศยิ้มบางเป็นพิเศษคีบเนื้อยื่นให้ “พี่เชนเนื้อย่าง” “เอาสิ ” เขายื่นจานให้เครื่องเทศวางเนื้อย่างใส่อย่างจานอ
ตอนพิเศษ 1 “พี่เชนทร์คะ?” น้ำเสียงหวานใสดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มที่กำลังนั่งสูบบุหรี่หน้าบ้านหันไปมอง วีนัสหญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ผมยาวสลวยรวบหางม้าไว้หลวม ๆ ใบหน้าสดใสมีเหงื่อเกาะจาง ๆ อยู่ในชุดนักศึกษายืนอยู่ที่หน้าประตู ในมือถือดอกกุหลาบสีแดง ฉีกยิ้มให้เขาอย่างสดใส “อ้าว วี มากับไอ้เมศเหรอ?” ถามอย่างไม่ใส่ใจมากนัก แต่วีนัสรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยที่เขาเอ่ยถามเธอแบบนี้ ปกติแล้วเขาจะค่อยสนใจถามไถ่หล่อนมากนัก “ค่ะ วีมากับพี่เมศ” วีนัสยังคงส่งยิ้มอย่างสดใสให้ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ แล้วยื่นดอกกุหลาบให้ “วีให้พี่เชนทร์ค่ะ” “ให้พี่ทำไม?” คเชนทร์ขมวดคิ้วเบา ๆ มองดอกกุหลาบในมือเรียวสวย “กะ…ก็วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์” เสียงหวานเอ่ยเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มที่พยายามซ่อนความขวยเขินไว้ใต้แก้มแดงระเรื่อ “วีเลยเอาดอกกุหลาบมาให้พี่ค่ะ” “ให้พี่ทำไม” เขาถามเสียงเรียบ ดวงตาคมจับจ้องที่กลีบกุหลาบ ไม่ยื่นมือมารับ แต่เลือกที่จะดูดบุหรี่แล้วปล่อยควันขาวลอยคลุ้ง “วี…อยากให้ค่ะ” หญิงสาวกำชายกระโปรง แต่ในแววตาเต็มไปด้วยความประหม่า “เพราะพี่เชนเป็น…คนพิเศษของวี” “คนพิเศษ?” “ค่ะ คนพิเศษ คนพิเศษของวี” “พูดอะไรของเราเนี
บทที่55งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ พนิดาฉีกยิ้มอย่างมีความสุขในวันสำคัญ ถึงแม้ว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะเป็นรอบที่สอง แต่เธอรู้สึกสุขใจมากกว่า การแต่งครั้งแรกมาก วันนี้เธอมีผู้ชายที่รักอยู่เคียงข้าง คาเตอร์อยู่ในชุดเจ้าบ่าวยืนรับแขกด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข แขกเหรื่อมากมายต่างมาร่วมแสดงยินดี "แต่งรอบสอง อย่าให้มีรอบสามนะมึง" ฉลามเอ่ยแล้วรดน้ำสังข์ให้พนิดากับคาเตอร์"ไม่มีแต่งอีกรอบแล้ว ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย" คาเตอร์ยิ้มให้ฉลาม แล้วหันมาสบตาพนิดา เธออยู่ในชุดไทยสีชมพูหวาน ผมถูกเกล้าขึ้นประดับด้วยดอกไม้กับปิ่นราคาแพง เธอสวยมาก สวยกว่าเมื่อก่อน เขามองเธอด้วยความรัก ในขณะที่เธอก็มองมาที่เขาเช่นกันเธอฉีกยิ้มให้เขา แต่รอยยิ้มนั้นมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขารับรู้ ว่าเธอมีความสุขมากแค่ไหนในวันสำคัญ"ให้มันจริงเหอะ เลวอีกคราวนี้หมาเลยนะ""กูไม่ทำอีกแล้ว มึงเชื่อกูสิ ถึงกูจะเป็นผัวที่แย่ผัวที่ไม่ได้เรื่อง แต่ทุกๆวันกูก็พยายามปรับปรุงตัว ทำให้ครอบครัวของตัวเองมีความสุข พนิดาเธอมีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะเสมอ ชีวิตกูกำลังจะมีอีกชีวิตมาเติมเต็ม กูคงไม่เอาความสุขทั้งชีวิตของกู ไปแลกกับการทำเลวระยำ







