Accueil / โรแมนติก / ตรวนรักไร้ใจ / บทที่ 6 กลั่นแกล้ง

Share

บทที่ 6 กลั่นแกล้ง

last update Dernière mise à jour: 2025-12-01 21:26:14

นับจากมานีเดินทางมาพักที่ไร่ส้มเกือบหนึ่งสัปดาห์ ไม่มีวันไหนเลยเดือนฉายจะไม่ถูกหญิงวัยกลางคนรังแกด้วยสารพัดวิธี บ่อยครั้งรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำชั่วร้ายของมานีแต่ไม่มีสิทธิ์ตอบโต้ ทำได้แค่ข่มความรู้สึกไว้ในใจอย่างเงียบ ๆ

“กาแฟค่ะ”

วันนี้ก็เป็นอีกวัน เดือนฉายต้องคอยดูแลมานีตามคำสั่งของภูเมฆ แม้ไม่อยากทำมากแค่ไหนก็ต้องฝืนทน

“วางสิ! ต้องให้บอกทุกอย่างเลยเหรอ”

“ค่ะ”

ระหว่างเดือนฉายกำลังจะย่างกรายนำเอาเครื่องดื่มไปวางบนโต๊ะตัวเตี้ยตรงหน้ามานีในห้องนั่งเล่น จู่ ๆ อีกคนยื่นขาออกมา ส่งผลให้หญิงสาวสะดุดเกือบล้มลง ทว่าโชคดีจับถาดกาแฟไว้แน่นจึงไม่ตกหล่นกระทบพื้น

“ซุ่มซ่าม” ว่าแล้ว เบะปากใส่เดือนฉายอย่างสะใจ

หญิงสาวทำได้แค่ส่งยิ้มอ่อน ๆ วางของในมือลงอย่างใจเย็น พยายามระงับโทสะไม่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกไป

“โอ๊ย!! กาแฟอะไรของเธอเนี่ย ขมชะมัด” ทันทีมานีลิ้มลองรสชาติกาแฟได้เพียงนิดหน่อยถึงขั้นพ่นออกมา แล้วหันไปตำหนิเดือนฉาย

“กาแฟดำไงคะ แบบที่ป้านีต้องการ”

“นี่แกเถียงฉันเหรอ” หญิงวัยกลางคนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงไปประชันหน้ากับเดือนฉาย

“ฉายแค่อธิบายเฉย ๆ ยังไม่ได้เถียงเลย”

เพียะ! คนตัวเล็กพูดจบไม่ถึงนาที ฝ่ามือเหี่ยวฟาดเข้ากับพวงแก้มขาวใสอย่างจัง จนใบหน้าจิ้มลิ้มหันไปอีกด้าน

“จำไว้นะ แกมันก็แค่ผู้อยู่อาศัย อย่าสะเออะมาเทียบกับฉัน” ว่าแล้ว จี้ขมับหญิงสาวแรง ๆ ก่อนหยิบถ้วยกาแฟบนโต๊ะปาลงบนพื้นห้อง จนแตกกระจัดกระจาย

“จัดการด้วย” พูดจบเดินตัวปลิวไปจากห้อง ทิ้งหญิงสาวไว้เพียงคนเดียวด้วยความสะใจที่ได้แกล้ง

“เฮ้อ” พ้นร่างมานีเพียงไม่นาน คนตัวเล็กทรุดกายนั่งลงบนพื้นดั่งคนไร้เรี่ยวแรง พยายามข่มน้ำตาสุดขีดไม่ให้ไหลริน

“อย่าร้องนะเดือนฉาย เธอมันเข้มแข็งอยู่แล้ว” ทำได้แค่พูดปลอบตัวเองเบา ๆ ทั้งที่น้ำตาคลอ

“เป็นยังไงบ้างคะ คุณฉาย” ป้าบัวที่อยู่บริเวณนั้น ทันเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่ เมื่อพ้นร่างมานีรีบรุดมาดูเดือนฉายด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรค่ะ” ส่งยิ้มอ่อนให้แก่ป้าบัว อย่างน้อยทำให้รู้ว่าในบ้านหลังนี้ยังมีป้าบัวคอยห่วงใยตนเอง 

“คุณมานีแกค่อนข้างอารมณ์ร้าย คุณฉายต้องระวังด้วย”

“ค่ะ” อันที่จริงก็พอทราบมาบ้าง เพราะตั้งแต่แต่งงานกับภูเมฆ มักจะโดนมานีรังแกทุกครั้งที่อีกฝ่ายมาพักไร่ส้ม แต่หนนี้รุนแรงกว่าปกติ หากเป็นที่ผ่านมาจะแค่โดนด่าหรือตำหนิเท่านั้น ไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือ ทำลายข้าวของแบบเมื่อสักครู่

“เดี๋ยวป้าช่วยเก็บ”

“ไม่ต้องค่ะ ป้านีเป็นคนสั่งให้ฉายเก็บ ฉายไม่อยากให้ป้าบัวต้องมาพลอยโดนตำหนิไปด้วย”

“แต่...”

“ไม่เป็นไรค่ะ ป้าบัวไปทำงานอย่างอื่นเถอะ”

“ถ้ามีอะไรเรียกป้าได้ตลอดเลยนะคะ”

“ค่ะ” พยักหน้ารับ ก้มหน้าเก็บแก้วบนพื้นต่อ

หลังจากหญิงสาวเก็บเศษแก้วพร้อมกำจัดคราบกาแฟบนพื้นเสร็จเรียบร้อย ก็เตรียมตัวจะเดินกลับห้องนอน แต่ไม่ทันได้ก้าวเท้าขึ้นบันไดบ้าน ทันใดนั้นเสียงสาวใช้คนหนึ่งดังขึ้น

“มีอะไรหรือเปล่า มะลิ” เดือนฉายหันหลังมองตามเสียงเรียก

“คุณมานีสั่งให้มะลิมาบอกคุณฉาย เที่ยงนี้ให้คุณฉายเป็นคนทำอาหารให้ท่านทานค่ะ”

“เขาได้บอกไหมอยากกินอะไรเป็นพิเศษ” เธอมองมะลิหลานสาวป้าบัวอย่างลุ้น ๆ ในคำตอบ

“ไม่ค่ะ แค่บอกว่าอยากให้คุณฉายทำอาหารให้กิน”

“อืม ขอบใจนะมะลิ” ส่งยิ้มอ่อนให้แก่เด็กสาวตรงหน้า

“มีอะไรจะให้มะลิช่วยไหมคะ” เด็กสาวยังคงยืนนิ่งรอคำสั่งจากคนเป็นเจ้านาย

“ไม่มี มะลิไปช่วยงานป้าบัวเถอะ เรื่องอาหารฉันจัดการเอง”

“ค่ะ” เด็กสาวพยักหน้ารับและจากไปทันใด

“ทำอาหารเหรอ” เสียงหวานพึมพำด้วยความแปลกใจ รู้สึกตงิดใจกับคำสั่งมานี เนื่องจากอีกคนไม่เคยกินอาหารรสมือเธอสักครั้ง เลยไม่รู้ว่ามานีจะมาไม้ไหนอีกกันแน่ ถึงกระนั้นจำเป็นต้องทำอย่างไม่ขัดข้อง

เมื่อถึงเวลาเตรียมอาหาร ก็มุ่งหน้าไปในห้องครัวทันทีด้วยความกลัวว่าหากทำอาหารเสร็จช้า มานีจะตำหนิเอาได้

เมนูที่เลือกทำ คือแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย เธอเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างเพียงลำพัง โดยไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวายหรือช่วยเหลือ

หญิงสาวใช้เวลาไม่นานนัก อาหารทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยทันถึงมื้อเที่ยงพอดี จึงยกไปเสิร์ฟให้แก่มานีที่นั่งคอยอยู่ในห้องอาหาร

“มาแล้วค่ะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะในมือถือถาดอาหาร

“ช้า”

“ขอโทษค่ะ”

“รีบวางลงสิ หิวจะแย่อยู่แล้ว”

“ค่ะ” เมื่อได้ยินคำสั่งดังกล่าว เดือนฉายรีบวางแกงเขียวหวานร้อน ๆ ลงบนโต๊ะตรงหน้ามานี ก่อนรู้สึกประหลาดใจกับสีหน้าอีกคน “มีอะไรหรือเปล่าคะ ป้านี”

“นี่แก!! จงใจจะฆ่าฉันใช่ไหม”

“คะ” ใบหน้าหวานมองมานีอย่างฉงนในคำพูดเมื่อสักครู่ เธอพยายามจะถามซ้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่ได้ยินไม่ผิดใช่ไหม แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนมีของร้อนราดใส่มือตัวเอง

“โอ๊ย!!” รีบชักมือหนีทันใด “ป้านีทำแบบนี้ทำไมคะ”

“แกไม่รู้เหรอ ฉันแพ้กะทิ” มานีโวยวายใส่เดือนฉาย

“ฉายไม่รู้ค่ะ” ส่ายหัวไปมาเชื่องช้า “ฉายขอโทษ”

“นังโง่!!” สิ้นคำพูด มานีตบหน้างดงามของเดือนฉายเต็มแรง แล้วเดินสะบัดก้นออกไปจากห้องอาหารทันใด

“แพ้กะทิเหรอ” คนตัวเล็กถึงขั้นแข้งขาไร้เรี่ยวแรง ล้มลงกองกับพื้นห้อง ขณะเดียวกันน้ำตาคลอด้วยความรู้สึกเจ็บปวดโดนแกงร้อน ๆ ลวกมือ

“คุณฉายเป็นยังไงบ้าง”

ทุกคนในห้องอาหารต่างพากันตกใจกับการกระทำมานี ป้าบัวเป็นคนแรกเข้ามาหาหญิงสาวหลังมานีจากไป

“ป้านีแพ้กะทิเหรอคะ” เงยหน้ามองหญิงวัยกลางคนข้างกาย

“ป้าก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เหมือนจะเคยเห็นคุณมานีกินอาหารที่มีส่วนผสมกะทิอยู่”

“งั้นเหรอคะ” คำพูดของป้าบัวทำให้เข้าใจได้ทันที มานีไม่ได้แพ้กะทิเพียงแค่หาเรื่องกลั่นแกล้งกันเท่านั้น พอคิดแบบนี้แล้วรู้สึกอยากร้องไห้เหลือเกิน เธอทำอะไรผิดนักหนาเหรอ ทำไมถึงต้องโดนอะไรแบบนี้อยู่เรื่อย

“มือเป็นยังไงบ้าง”

“เจ็บ”เสียงหวานสั่นเครือ

“นังมะลิ แกรีบหยิบทิชชูสิ ฉันจะรีบเช็ดคราบแกงบนมือคุณฉายออก” ป้าบัวหันไปกล่าวกับหลานสาว ซึ่งยืนมองเดือนฉายด้วยความเป็นห่วงกับสิ่งที่ต้องประสบ

“เอานี่ยาย” เด็กสาวทำตามคำสั่งผู้เป็นยายอย่างรีบร้อน ป้าบัวซับคราบแกงบนหลังมือเรียวจนหมดเกลี้ยง

“เดี๋ยวป้าไปหายามาให้นะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉายอยากพักแล้ว” พยุงกายลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากก่อนตรงไปห้องนอน จากนั้นทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดคิงไซซ์

“พ่อแม่...ฉายทำอะไรผิดนักหนาเหรอ ทำไมทุกคนถึงเกลียดฉายมากขนาดนี้”

ร่างเล็กโอบกอดตนเองด้วยความรู้สึกเดียวดาย หยาดน้ำใสไหลรินตกลงบนหมอนใบใหญ่ กระทั่งผล็อยหลับในที่สุด

ณ ช่วงเวลาเย็น เดือนฉายหลับใหลไปหลายชั่วโมงกว่าจะตื่นก็เป็นช่วงเวลาเลิกงานของภูเมฆพอดี

“พี่เมฆกลับมาแล้วเหรอ” ขณะกำลังเบิกตาขึ้นบังเอิญได้ยินเสียงรถแล่นจอดหน้าบ้าน ไม่ต้องเดาพอรู้เป็นรถใคร จึงรีบลุกขึ้นและกระโดดจากเตียงเพื่อตรงไปหาเขาเนื่องจากมีเรื่องสำคัญจะคุย

“พี่เมฆ” เธอวิ่งมาหยุดตรงหน้าคนกำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน

“มีอะไร” สายตาคมมองคนตัวเล็กตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า “เพิ่งตื่นเหรอ”

“ค่ะ” พยักหน้าหงึก ๆ แล้วจัดแต่งทรงผมให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม

“เธอมีอะไรจะพูดกับฉัน”

“ฉายคิดว่าป้านีป่วย พี่เมฆต้องพาไปรักษานะคะ ฉายทนไม่ไหวแล้ว”

“พูดอะไรของเธอ” เขาทำสีหน้างุนงงกับประโยคนั้น

“ก็ป้านีเอาแต่กลั่นแกล้งฉาย ทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อยก็มาตบตีฉาย คนปกติที่ไหนเขาจะทำถึงขนาดนั้นคะ”

“นี่เธอ! หาว่าป้าฉันเป็นบ้าเหรอ” ด้วยความโมโหเดือนฉายต่อว่ามานีคนที่เขานับถือเยี่ยงมารดา เลยเอื้อมมือหนาบีบหัวไหล่กลมกลึงอย่างแรง “อย่าพูดจาพล่อย ๆ นะเดือนฉาย ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

“ฉายพูดจริงนะคะ ป้านีเคยถูกทิ้งมาก่อน บางทีอาจส่งผลต่อจิตใจก็ได้ ฉายว่าพี่เมฆควรพาไปรักษาเถอะ”

“หยุดพูดอะไรไร้สาระได้แล้ว!!” ตะคอกใส่หน้าคนตัวเล็ก

“มันไม่ได้เสียหายเลยนะคะ แค่ลองพาป้านีไปพบจิตแพทย์ก่อนก็ได้”

“รำคาญวะเดือนฉาย รู้ไหมวันนี้ฉันเหนื่อยแค่ไหน ไร่ก็เพิ่งโดนไฟไหม้กลับบ้านต้องมาฟังเธอพูดจาน่าหงุดหงิดอีก เคยรับรู้อะไรบ้างไหมนอกจากเรื่องของตัวเอง” เขาพลั้งมือผลักคนตัวเล็กเต็มแรง จนอีกคนล้มลงกระแทกพื้นอย่างจัง

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ตรวนรักไร้ใจ   บทที่ 7 เดาอารมณ์ไม่ถูก

    “พี่เมฆ” เรียกเขาด้วยเสียงสั่น ๆ ตอนนี้เจ็บกายไม่เท่าไรแต่เจ็บใจเหลือเกิน ผู้ชายตรงหน้าไม่เคยเชื่อคำพูดกันสักครั้ง“ลุกขึ้นแล้วไสหัวไปซะ อย่ามาทำตัวสำออยตรงนี้”“ฉายว่าคนที่ต้องพบจิตแพทย์ คือพี่เมฆต่างหากไม่ใช่ป้านีหรอก”เพียะ! ไม่ใช่ฝีมือของภูเมฆแต่เป็นฝีมือของมานีซึ่งบังเอิญมาได้ยินประโยคนั้นเข้าพอดี หญิงวัยกลางคนคร่อมร่างเดือนฉาย แล้วตบหน้าหญิงสาวแบบไม่ยั้ง“ป้านีครับ ใจเย็นก่อนเถอะ” ชายหนุ่มคว้าตัวผู้เป็นป้าแต่ช้าไปแล้วเพราะเดือนฉายถูกตบหน้าไปหลายที จนสภาพสะบักสะบอม“ปล่อยป้านะเมฆ ป้าจะตบสั่งสอนนังนั้น” มานีดิ้นพล่านไปมาหวังให้หลุด“พอเถอะครับ ผมขอร้อง”“เมฆ”“นะครับป้านี” เขามองมานีด้วยแววตาเว้าวอน“ก็ได้ ป้าจะยอมเพราะเห็นแก่เมฆหรอกนะ”“รีบไปสิ” ชายหนุ่มหันไปกล่าวกับคนบนพื้นได้ยินดังนั้นเดือนฉายรีบพยุงกายลุกขึ้นวิ่งออกจากบ้านไป ทำภูเมฆตกใจไม่น้อย คาดไม่ถึงจะวิ่งไปข้างนอกแทนที่จะกลับห้องนอน“เดือนฉาย” เขาตั้งท่าจะตามเธอไป แต่ไม่วายถูกมานีรั้งไว้“อย่าไปนะเมฆ ปล่อยมันไปเถอะ”“แต่...”“ไม่ฟังคำพูดของป้าแล้วใช่ไหม ป้าคงทำอะไรไม่ได้แล้วใช่ไหม งั้นก็อย่าสนใจคนแก่คนนี้เลย” มานีสะบัดมือ

  • ตรวนรักไร้ใจ   บทที่ 6 กลั่นแกล้ง

    นับจากมานีเดินทางมาพักที่ไร่ส้มเกือบหนึ่งสัปดาห์ ไม่มีวันไหนเลยเดือนฉายจะไม่ถูกหญิงวัยกลางคนรังแกด้วยสารพัดวิธี บ่อยครั้งรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำชั่วร้ายของมานีแต่ไม่มีสิทธิ์ตอบโต้ ทำได้แค่ข่มความรู้สึกไว้ในใจอย่างเงียบ ๆ“กาแฟค่ะ”วันนี้ก็เป็นอีกวัน เดือนฉายต้องคอยดูแลมานีตามคำสั่งของภูเมฆ แม้ไม่อยากทำมากแค่ไหนก็ต้องฝืนทน“วางสิ! ต้องให้บอกทุกอย่างเลยเหรอ”“ค่ะ”ระหว่างเดือนฉายกำลังจะย่างกรายนำเอาเครื่องดื่มไปวางบนโต๊ะตัวเตี้ยตรงหน้ามานีในห้องนั่งเล่น จู่ ๆ อีกคนยื่นขาออกมา ส่งผลให้หญิงสาวสะดุดเกือบล้มลง ทว่าโชคดีจับถาดกาแฟไว้แน่นจึงไม่ตกหล่นกระทบพื้น“ซุ่มซ่าม” ว่าแล้ว เบะปากใส่เดือนฉายอย่างสะใจหญิงสาวทำได้แค่ส่งยิ้มอ่อน ๆ วางของในมือลงอย่างใจเย็น พยายามระงับโทสะไม่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกไป“โอ๊ย!! กาแฟอะไรของเธอเนี่ย ขมชะมัด” ทันทีมานีลิ้มลองรสชาติกาแฟได้เพียงนิดหน่อยถึงขั้นพ่นออกมา แล้วหันไปตำหนิเดือนฉาย“กาแฟดำไงคะ แบบที่ป้านีต้องการ”“นี่แกเถียงฉันเหรอ” หญิงวัยกลางคนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงไปประชันหน้ากับเดือนฉาย“ฉายแค่อธิบายเฉย ๆ ยังไม่ได้เถียงเลย”เพียะ! คนตัวเล็กพูดจบไม่ถึงน

  • ตรวนรักไร้ใจ   บทที่ 5 ทำอะไรไม่เคยถูกใจสักอย่าง

    ภูเมฆกระโดดลงจากเตียงเพื่อวิ่งตามหลังคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว ก่อนคว้าเธอเข้าสู่วงแขนได้ทัน กระชับกอดเธอแน่นเพื่อรั้งไม่ให้หนีไปไหน“ปล่อยนะพี่เมฆ ฉายจะไปอาบน้ำ” พยายามขัดขืนสุดฤทธิ์ ขณะนี้อยากเอาตัวเองออกห่างเขามากที่สุด เนื่องจากบทสนทนาระหว่างกันก่อนหน้ายังคงตอกย้ำความรู้สึกได้ดี เจ็บปวดรวดร้าวไปหมดทั้งใจ ไม่ต่างถูกเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มแทง “ที่เธอพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง”“ก็อย่างที่พูดนั่นแหละค่ะ”“เดือนฉาย!!” บีบท่อนแขนเล็กแน่น จ้องเขม็งคนในอ้อมกอดด้วยแววตาเกลียดชังปนขยะแขยงในถ้อยคำนั้น “ทำไมล่ะคะ ฉายจะให้เด็กที่พ่อไม่ต้องการเกิดมาทำไม”“ฉันไม่คิดเลยเธอจะจิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้ เลวที่สุด!!” ตะคอกใส่หน้าหวานเสียงดังสนั่น จนเธอสะดุ้งเฮือกหนึ่ง“ใช่ ฉายมันเลว เพราะฉายไม่เคยเป็นที่ต้องการของใครเลย” ประโยคท้ายเริ่มเบาลงเรื่อย ๆ ตามด้วยเสียงสะอึก“ไม่ต้องมาแกล้งบีบน้ำตาหรอกนะ ฉันเคยบอกแล้วไงน้ำตาของเธอไม่ได้ทำให้ฉันหวั่นไหวสักนิดเดียว”“ทำไมฉายต้องรักคนอย่างพี่เมฆด้วยนะ ฉายเกลียดตัวเองเหลือเกิน” ยกหลังมือเล็กขึ้นซับน้ำตาบริเวณพวงแก้มนวลเธอไม่เข้าใจตัวเองสักนิด ทำไมถึงยังรักผู้ชายคนนี้ คนท

  • ตรวนรักไร้ใจ   บทที่ 4 ค่ำคืนวาบหวาม Nc+

    “ลุกขึ้นไปจากตัวฉายเดี๋ยวนี้เลยนะคะ ฉายหนัก” คนตัวเล็กพยายามออกแรงผลักคนเหนือร่างไปพ้น แต่แรงอันน้อยนิดไม่ทำให้เขาขยับตัวแม้แต่น้อย“เมื่อกี้ฉันทำให้เธอมีความสุขแล้ว เธอต้องตอบแทนกันบ้างสิ” เขาเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อยที่เธอต่อต้านไม่เลิก ก่อนถอดอาภรณ์ออกจากกายแกร่งจนหมดแล้วทาบกายลงบนร่างเล็กอีกครั้ง“ฉายไม่ได้ขอ พี่เมฆ...อุ๊บ” เสียงหวานกลืนหายลงในลำคอ เมื่อถูกริมฝีปากหยักได้รูปจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว คนตัวเล็กดิ้นพล่านไปมาใต้กายแกร่งหวังให้หลุดพ้นจากการกระทำดิบเถื่อนความปรารถนาของเขาไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น พ่อเลี้ยงหนุ่มเลื่อนใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ลำคอขาวเนียน กลิ่นกายเฉพาะจากตัวเธอทำเอาหลงใหลยิ่งนัก ก่อนกดจูบอย่างหนักหน่วง ไม่วายทิ้งรอยแดงสีกุหลาบมากมาย“อื้อ พี่เมฆ”“หลังจากนี้ฉันจะไม่หยุดแล้วนะ” ฝ่ามือใหญ่ประคองแก้มนุ่มนิ่ม สบตาคู่งามของเธอพลางทาบริมฝีปากหยักบนหน้าผากมนภูเมฆคุกเข่าตรงหน้าคนตัวเล็ก จับขาเรียวชันขึ้นเป็นรูปตัวเอ็มพร้อมแยกออกกว้าง ๆ นำท่อนเอ็นขนาดใหญ่ถูไถร่องสวาทเปียกชื้น สอดเข้าข้างในโพรงอ่อนนุ่มจนสุดลำ“อ๊ะ พี่เมฆ” ร่างเล็กสะดุ้งตัวโหยงอย่างตกใจ เดือนฉายกำผ้าปูเตียงแน่น

  • ตรวนรักไร้ใจ   บทที่ 3 หน้าที่รองรับอารมณ์ 18+

    เดือนฉายเหลือบมองคนตัวโตเดินกลับไปทำงานต่อ ซึ่งทิ้งเธอไว้กลางห้องบนพื้นแบบไม่สนใจไยดี หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเชื่องช้า พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลพรากไปมากกว่านี้ จากนั้นพยุงกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับหมุนตัวเดินออกจากห้องทันใด ไม่แม้เหลียวมองคนข้างหลัง “แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ” สายตาคมกริบมองประตูห้องที่พ้นร่างเล็กไม่นาน ก่อนเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ“ใจร้ายที่สุดเลย” เอ่ยขึ้นหลังจากเดินออกมา มือเล็กยกขึ้นเช็ดคราบน้ำตาบริเวณพวงแก้มขาวเนียน แล้วตัดสินใจก้าวเดินไปเบื้องหน้าเพื่อตรงกลับบ้านหลายวันต่อมา นับจากเธอกับเขามีปากเสียงกันในครั้งนั้น ทั้งคู่แทบไม่ได้คุยกันเลย ทุกครั้งบังเอิญเจอหน้ากัน เดือนฉายจะทำเมินมองไม่เห็นเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ใส่ใจนักกับการกระทำของเธอในเมื่ออยากพยศดีนักเขาก็ไม่อยากแยแส แต่ความปรารถนาที่มีต่อเธอ ทำให้ยอมลดศักดิ์ศรีไปหาหญิงสาวช่วงกลางดึก“หลับยังนะ” เสียงทุ้มพึมพำพลางเอื้อมมือจับลูกบิดประตูและผลักเข้าข้างใน ก่อนพบว่าภายในห้องมีเพียงแสงไฟสลัวจากโคมไฟสาดส่องใบหน้างดงามของคนตัวเล็กที่หลับปุ๋ยไปแล้วภูเมฆเดินย่องไปหาคนบนเตียง จากนั้นล้มตัวน

  • ตรวนรักไร้ใจ   บทที่ 2 คำพูดแย่ ๆ

    หลังจากมาถึงไร่ส้ม เดือนฉายก็ได้รับงานที่มอบหมายจากภูเมฆ ซึ่งเขาไม่สนใจเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับคำสั่งของตัวเอง นอกจากอยากสั่งสอนคนปากดีเช่นเธอ เดือนฉายเองไม่มีสิทธิ์โต้แย้งยอมทำตามอย่างว่าง่ายงานที่เขาให้เธอทำคือเก็บเกี่ยวผลส้มท่ามกลางแสงแดดจ้า หญิงสาวทำอย่างตั้งใจไม่ปริปากบ่นสักคำ“ฉาย”“อ้าวพี่หมอก” เสียงเรียกของคนมาใหม่เรียกความสนใจจากคนตัวเล็กหันมอง เธอส่งยิ้มให้แก่สายหมอกหรือผู้จัดการไร่ ที่มีศักดิ์เป็นเพื่อนสนิทภูเมฆ“โดนไอ้เมฆใช้งานอีกแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดขึ้นเหมือนล่วงรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเดือนฉาย“...” หญิงสาวไม่ได้ตอบโต้ ทำได้แค่มองเขาแวบหนึ่งก่อนเก็บผลส้มต่อ“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ได้นะครับ”“ค่ะ” เงยหน้ามองเขาอีกครั้ง จังหวะเดียวกันนัยน์ตาคู่งามเหลือบเห็นใครคนหนึ่งกำลังก้าวเดินมาทางนี้ด้วยใบหน้าบึ้งตึง“ทำหน้าแบบนี้ แสดงว่าไอ้เมฆกำลังมาทางนี้ใช่ไหม”“มาทำอะไรตรงนี้” ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะเอ่ยปากตอบคำถามผู้จัดการไร่ เสียงทุ้มของใครอีกคนแทรกขึ้น ก่อนตบบ่าบึกบึนของสายหมอกเบา ๆ ทว่าสายตาดันจับจ้องมองเดือนฉายอย่างคาดโทษ“กูแค่แวะมาคุยกับน้องฉาย”“มึงไม่มีงานทำเหรอ” ปากก

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status