เวลาเที่ยงคืน ภายในคฤหาสน์หรูหราในเมืองคานห์ ผู้หญิงวัยกลางคนกับผ้าพันแผลปิดตาข้างขวาสวมใส่ชุดสง่างามและราคาแพง ขณะเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมหนังแท้ ในมือของเธอมีรูปภาพ เป็นรูปภาพของแบลร์ ซีสาวน้อยในรูปภาพนั้นมีหน้าตาสวยงดงามเป็นอย่างมาก เธอนั้นสวยกว่าเด็กที่เป็นนักแสดงเสียอีก โดยเฉพาะดวงตาใหญ่โตคู่นั้นของเธอ มันช่างงดงามเกินไปจริง ๆ ดุจประกายราวกับดวงดาวพร่างพราว มันคงจะไม่มีคู่ดวงตาแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าคน ๆ หนึ่งจะเสาะแสวงหายากเย็นแค่ไหน“สวยมาก สวยงามมากเกินไป” ผู้หญิงคนนี้คือ แชนนอน หลุยส์ นิ้วของเธอจรดไปที่ดวงตาของแบลร์ที่อยู่ในรูปภาพขณะเธอจ้องมองมันอย่างโหยหา“พี่สาว สิ่งที่พี่ต้องการคือกระจกตาของเธอ ไม่ใช่รูม่านตาของเธอ ฉะนั้นมันไม่มีประโยชน์ที่จะหลงรักดวงตาของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นดวงตาของพี่มันก็สวยมากพออยู่แล้ว” ถัดจากเธอไปก็มีเสียงของผู้ชายที่มีโพรงจมูกหนาและพูดกระสับกระส่ายในคำพูดของเขา“กระจกตาของเธอมันช่างน่ารัก” แชนนอนเงยหัวของเธอขึ้นมามองไปที่ชายผู้ซึ่งมีผ้าพันแผลพันคลุมรอบทั้งหัว แชนนอนหน้าบึ้ง “เกิดอะไรขึ้นกับนาย?”ชายผู้นี้คือสตีฟ ฮัดสัน สตีฟขุ่นเคืองขณะเขากล่าว “
ผู้ที่เข้ามาใหม่คือคนที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองคานห์ เดรก ทัคเกอร์ ข้าง ๆ เขานั้นมีกลุ่มคนขนาดใหญ่"ราชาแห่งสื่อยุคใหม่แห่งเมืองคานห์ เฮนรี่ วอคเกอร์" "ราชินีอัญมณีแห่งเมืองคานห์ เจด ลอเรล""ผู้นำนักพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นสูงแห่งเมืองคานห์ โดนัล เลวิส..."คนเหล่านี้ต่างเป็นชนชั้นนำของเมืองคานห์ เพียงแค่พวกเขากระทืบเท้าก็ทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งเมือง แต่ละคนสามารถที่จะเปลี่ยนแชนนอนให้กลายเป็นผงธุลีได้ และตอนนี้ผู้ทรงเกียรติ เดรก ทัคเกอร์ ผู้มั่งคั่งที่สุดในเมือง กับเหล่าผู้นำด้านต่าง ๆ มารวมตัวกัน มันเกิดอะไรขึ้น?ในทันใดความหยิ่งสโยของแชนนอนก็เลือนหายไปในอากาศ แทนที่ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว"แชนนอน เธอนี่มันไม่ธรรมดาจริง ๆ เธอเพิ่งจะแต่งตั้งตัวเองเป็นราชินีแห่งเมืองคานห์งั้นรึ? ถ้าเธอพูดแล้วคนอื่นก็จะไม่กล้าขัด?" น้ำเสียงของเดรกเต็มด้วยความประชดประชัน แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดอย่างเขาก็ยังไม่กล้าที่จะกล่าวอ้างแบบนั้น หนังศีรษะของแชนนอนชาไปทั้งหัวในความกลัว สตีฟผู้ยืนอยู่ใกล้ ๆ รู้สึกตัวเย็นเฉียบ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ชายคนนี้เป็นใคร ไทร์ ซัมเมอร์ และเขายังสามารถที่จะเรียกผู้มีอิทธิ
ไทร์พยักหน้าเห็นด้วยแต่ห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะกล่าวถาม "ตระกูลซีได้รังแกข่มเหงพวกเธอสองคนมาตลอดหลายปี ทำไมเธอถึงยังไม่ตัดขาดกับพวกเขา?""เพราะเลือดมันข้นกว่าน้ำ อีกอย่างพ่อแม่ฉันไม่ได้ทำงานแล้วและแบลร์ก็จำเป็นต้องเข้าโรงเรียน แม้ว่าครอบครัวจะไม่ชอบขี้หน้าเรา การได้ทำงานในบริษัทของตระกูลซีพวกเขาก็ยังคงให้เงินเดือนที่ฉันสมควรจะได้อยู่"ไทร์ไม่ได้ถามต่อ พวกเขาสองคนมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ของตระกูลซีพร้อมกับของขวัญในมือภายในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ตระกูลซี บรรดาสมาชิกคนในครอบครัวนั้นได้นั่งประจำที่เรียบร้อย มันยังมีโต๊ะอยู่สองสามตัวกางออกมาเพื่อกินเลี้ยง ในวันนี้ตระกูลซีได้เตรียมตัวจัดงานเลี้ยง ไม่ใช่เพราะต้องการจะต้อนรับไทร์แต่เพื่อคุณหนูอีกคนของครอบครัวซี ไอลิส ซี และแฟนหนุ่มของเธอ ทราวิส เจนเซ่น "เธอมาแล้ว" ในทันทีที่พวกเขาเข้ามา พวกเขาได้ยินเสียงของชายชรา ชายชราผู้นี้คือเสาหลักของตระกูลซี คุณปู่ของวินนี่เฟรด จอร์จ ซี"คุณปู่" วินนี่เฟรดรีบเร่งพาไทร์ไปด้วย ขณะที่พวกเขามอบของขวัญที่พิถีพิถันเลือกมาจากซูเปอร์มาเก็ตก่อนหน้านี้ "คุณปู่ นี่คือของขวัญที่ไทร์ตั้งใจเลือกมาให้คุณปู่เป็นพิเศษ""เ
การกระทำของไอริสเป็นการดูถูกเหยีดยหยามอย่างมาก อย่างไรก็ตามจอร์จกำลังหลงไหลไปกับชิ้นส่วนของโสมป่า ที่เขานั้นไม่เคยตั้งใจจะใช้เงินซื้อมันมา มันเหมือนกับว่าเขายินยอมอย่างเงียบ ๆ กับกระทำของไอลิสวินนี่เฟรดงุนงง หยั่งรากลึกไปถึงแก่นและรู้สึกกระวนกระวาย นั่นมันคือของขวัญที่เธอและไทร์พิถีพิถันเลือกมาสำหรับจอร์จ แต่ของพวกนั้นกลับถูกมองว่าเป็นขยะ"กินข้าวกันเถอะ" เมื่อทุกคนมาถึง จอร์จก็ประกาศว่าได้เวลาเริ่มรับประทานอาหารทั้งตระกูลนั่งลง วินนี่เฟรดและไทร์ได้นั่งโต๊ะร่วมกับจอร์จ เธอนั้นคือเชื้อสายโดยตรงของครอบครัวสมาชิกตระกูลซีดังนั้นมันจีงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะนั่งตรงนี้ อย่างไรก็ตาม สักพักหนึ่งหลังจากที่พวกเขานั่งลง ไอริสเอามือมาบังปิดจมูกในท่าทางเสียดสี ขณะเธอบ่น "ทำไมโต๊ะนี้มันมีกลิ่นสาปแปลก ๆ ? กลิ่นเหมือนกับถังขยะ"ทันใดนั้นทุกคนต่างมองไปที่ไทร์ การกล่าวขึ้นมาลอย ๆ แบบนี้ มันชัดเจนที่หมายถึงว่าไทร์นั้นเป็นขอทาน และไม่มีใครอยากจะร่วมโต๊ะอาหารกับขอทาน"วินนี่เฟรด พาไทร์ไปกับเธอและไปกินตรงนู้น" จอร์จกล่าวและชี้ไปที่โต๊ะเล็ก ๆ นั่นมันเป็นโต๊ะของเหล่าคนรับใช้เพื่อรับประทานอาหารวินน
ไทร์ไม่เต็มใจที่จะหยุด ทำให้วินนี่เฟรดไม่พอใจ"ไทร์หยุดพูดจาไร้สาระสักที มันไม่มีทางที่ฉันจะได้สิทธินั้น"ไทร์ส่ายหัว "เธอจะรู้ได้ยังไงถ้ายังไม่ได้ลอง?" ไทร์ก็อยากจะบอกว่าเขานั้นคือเจ้าของคนใหม่ผู้ที่ได้เข้าซื้อศูนย์กลางเมือง วินนี่เฟรดเธอคือภรรยาของฉัน ขอแค่เธอยืนยันว่าอยากจะได้มัน การที่มอบให้เธอทั้งศูนย์กลางเมืองไปเลยก็ไม่ใช่ปัญหา ยังน้อยกว่าสิทธิที่จะได้ภายในนั้นเสียอีกอย่างไรก็ตามไทร์ก็ไม่เคยที่จะได้กล่าวเสียงดัง เขารู้ดีว่าพวกเขาก็คงจะทำการเย้าแหย่ใส่อีกรอบ ถึงอย่างไรบทสนทนาของทั้งสองก็ไปจับความสนใจของใคนบางคนเข้าไอริสตั้งใจกล่าวถามสีหน้าเยาะเย้ย "พวกแกกำลังคุยอะไรกันอยู่? นี่พวกแกก็พยายามจะหาสิทธิ์นั้นด้วยงั้นเหรอ?"หลังจากเธอกล่าวจบทั้งห้องก็ระเบิดหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง"ฮ่าฮ่าฮ่า พวกแกไม่เข้าใจคำว่า 'ประเมินตัวเองสูงเกินไป' รึยังไง?""นี่มันไม่ใช่การประเมินตัวเองสูงเกินไป นี่มันคือฝันเฟื่อง""ทำไมแกไม่หันไปมองดูตัวเองให้ดี ๆ? แม้กระทั่งการคิดว่าจะไปทำความรู้จักกับเจ้าของและจะได้เลื่อนขั้น มันช่างไร้สาระ"หน้าของวินนี่เฟรดกลายเป็นสีแดงเพราะความอับอายถึงอย่างไรไทร์ก็กล
เดรกเข้าใจทันทีในความหมายของไทร์ ทราวิส เจนเซ่น และไอริส ซี ทั้งคู่คงได้ไปล่วงเกินไทร์ เดรกไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง เขาจึงรีบตอบตกลงกับคำแนะนำของไทร์ไทร์กล่าวต่อ "อีกอย่างหนึ่ง นายเคยเห็นรูปของภรรยาฉันแล้ว วินนี่เฟรด ซี มอบสิทธิสัญญาการลงทุนให้กับเธอสำหรับกลุ่มเครือซี และให้เธอเป็นคนเซ็นสัญญา"“เข้าใจแล้วครับ ลูกพี่ไทร์”หลังจากมื้อเช้า ไทร์ไปเข้าร่วมมหกรรมการลงทุนผู้ค้ากับวินนี่เฟรด ระหว่างเดินทางไป วินนี่เฟรดรู้สึกประหม่าเหมือนกับว่าเธอกำลังจะไปสอบในสนามสำคัญ“อย่ากังวลไปเลย วินนี่เฟรด เธอจะต้องได้ร่วมทำสัญญาอย่างแน่นอน”“จริงหรือ?”“ใช่ เชื่อฉันสิ”งานมหกรรมการลงทุนผู้ค้านี้จัดขึ้นที่ตึกออฟฟิสชั้นนำที่เดรกเป็นเจ้าของ ในตอนที่ไทร์และวินนี่เฟรดไปถึง คนก็แน่นเต็มงาน ลานจอดรถด้านนอกเต็มไปด้วยรถยนต์หรูหรามากมายหลายแบบ และคนที่ออกมาจากรถเหล่านั้นต่างเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีรายได้สุทธิแต่ละคนเป็นหลักสิบถึงร้อยล้าน เมื่อเทียบกับคนพวกนั้นแล้ว ไทร์และวินนี่เฟรดที่เดินทางมาโดยรถแท็กซี่นั้น ก็ดูยาจกขึ้นมาทันที“ว้าว วินนี่เฟรด เธอมาจริง ๆด้วย” ที่ด้านหลังของพวกเขา ไอริสและทราวิสลงมาจากรถ Me
ภายในสำนักงาน เมื่อเดรกมองไปที่ไอริสครั้งแรก เขาก็ไม่ชอบเธอทันทีกับบุคลิกภาพบ้าตัณหา มันไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมไทร์ไม่ชอบเธอ!“ได้โปรดนั่งลง” เดรกกล่าวจากนิสัยเฉยเมยไอริสรีบนั่งลงตรงข้ามเดรก เมื่อเธอนั่งลงไอริส อดทนรอไม่ไหวที่จะแนะนำตัวเอง “สวัสดี คุณลุงทัคเกอร์ ฉันชื่อ ไอริส ซี เถ้าแก่หนุ่ม ทราวิส เจนเซ่นแห่งสำนักเภสัชสมุนไพรร้อยปีเขาคือ...”อย่างไรก็ตามก่อนที่ไอริสจะพูดจบประโยคเธอก็ถูกขัดจังหวะโดยเดรก“ตารางงานของเราวันนี้ยุ่งมาก ดังนั้นคุณช่วยตัดบทสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกไปที มีหลายคนที่รออยู่ด้านนอก”ไอริสเริ่มมึนงงก่อนจะหยักหน้า “ได้เลย คุณทัคเกอร์”หลังจากนั้นไอริสก็จ้องมองไปที่เดรกอย่างคาดหวัง เธอรอให้เขายื่นมอบสัญญาสิทธิการลงทุนให้เธอเซ็น อย่างไรก็ตามเดรกไม่ได้ทำตามที่เธอหวังไว้ เขามองกลับมาที่ไอริสและถาม “คุณซี สิ่งของที่คุณเตรียมมามันอยู่ไหน?”“สิ่งของ? สิ่งของอะไร?” ไอริสสับสน “คุณทัคเกอร์ เราไม่ได้ส่งใครบางคนมาเพื่อมอบสิ่งของพวกนั้นไปก่อนแล้วหรอกหรอ?”“ผมหมายถึงเอกสารที่คุณเตรียมมา คุณคงไม่สามารถคิดที่จะได้สัญญาสิทธิการลงทุนโดยไม่มีเอกสารใด ๆ เกี่ยวกับการแนะนำและข้อมูล
วินนี่เฟรดอึ้งไปเลย เธอรู้สึกเหมือนกับว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่ความฝัน เธอได้รับสิทธิ์ในการลงทุนนี้อย่างง่ายดายซึ่งครอบครัวซีได้กล่าวว่ามันยากเสียกว่าการได้ขึ้นสวรรค์อีก วินนี่เฟรดลืมไปเลยว่าเธอได้เดินออกจากตึกสำนักงานมาได้ยังไง ข้างนอก ไทร์ยืนอยู่ตรงนั้นและมองเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม มันราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องทำสำเร็จ “ไทร์ ฉันได้รับสัญญาสิทธิ์การลงทุนแล้ว” วินนี่เฟรดโบกมืออย่างตื่นเต้นไปที่ไทร์ และในเวลาต่อมาเขาก็เดินตรงเข้าไปกอดเธอ “ฉันรู้ว่าเธอจะทำสำเร็จ” “แต่ ฉันรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป เหมือนมีอะไรผิดปกติ” “ไม่มีอะไรผิดปกติกับมันหรอกนะ คนที่ทุ่มเทมักจะได้รับรางวัลอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่งานยากสำหรับการเริ่มต้น” ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องประชุมผู้บริหารระดับสูงของซีกรุ๊ป กลุ่มผู้บริหารระดับสูงทุกคนได้รับเชิญให้มารวมตัวกันที่นี่โดยจอร์จ แม้แต่ทราวิสและไอริสก็อยู่ด้วย จอร์จเรียกประชุมด่วนครั้งนี้เพราะแผนการลงทุนในใจกลางเมืองล้มเหลว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหามาตรการรับมือใหม่เพื่อชดเชยหรือมองหาโอกาสอื่นแทน ขณะที่ทุกคนรู้สึกท้อแท้และผิดหวัง ประตูห้องประชุมก็ได้ถูกผลักและเปิดอ