หน้าหลัก / วาย / ตัวร้ายคนนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการ...ข้าขอนะ / บทที่ 4 (1/2) : กายพร้อม ใจพร้อม หยกห้อยคอก็พร้อม!!! (1)

แชร์

บทที่ 4 (1/2) : กายพร้อม ใจพร้อม หยกห้อยคอก็พร้อม!!! (1)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 15:56:28

     เสียงครางและเสียงหอบหายใจ เดี๋ยวหนัก เดี๋ยวเบา ของเด็กชายบนเตียงเรียกให้จินเฟยเทียนคนใหม่ตื่นจากภวังค์ความคิดของตนเอง 

     จินเฟยเทียนหันกลับมาสนใจเด็กชายบนเตียงอีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปจับเด็กชายให้นอนหงาย แต่เมื่อมือของเขาสัมผัสโดนร่างกายของเด็กชาย มันก็ทำให้เขาไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป... 

     จินเฟยเทียนรีบเอื้อมมือไปหยิบผ้าสะอาดมาชุบน้ำในอ่างล้างหน้าแล้วบิดจนหมาด จากนั้นก็นำไปเช็ดตามหน้าตาและเนื้อตัวของหยางหมิงเซียนวัยเยาว์ เมื่อเช็ดตัวเสร็จเขาจึงประคองอีกฝ่ายขึ้นมาพิงกับอกของตัวเองไว้ จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปรินน้ำใส่ถ้วยชา ก่อนจะนำมาป้อนให้เด็กชายอย่างช้าๆ เพื่อเป็นการระบายความร้อน แล้วเมื่อให้เด็กชายดื่มน้ำเสร็จแล้ว เขาจึงทำการเปลี่ยนชุดให้กับอีกฝ่ายด้วยเสื้อผ้าที่เขาค้นเจอในห้อง และเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ เขาจึงประคองเด็กชายให้กลับลงไปนอนห่มผ้าเหมือนเดิม จากนั้นจินเฟยเทียนจึงเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศในห้องถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้น 

     อาการของหยางหมิงเซียนวัยเยาว์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ เมื่อเห็นดังนั้นจินเฟยเทียนจึงกลับมาดูแลร่างกายที่ตัวเองอาศัยอยู่บ้าง 

     เมื่อดูแลร่างกายของตัวเองเรียบร้อยแล้ว จินเฟยเทียนก็กลับลงมานั่งบนเตียงแล้วมองไปที่ใบหน้าของเด็กชายที่ยังคงหลับไหลไม่ได้สติ

     หยางหมิงเซียนที่จินเฟยเทียนบรรยายเอาไว้ในนิยาย ‘เป็นชายหนุ่มรูปร่างผอมสูง ใบหน้าคมเข้ม นัยน์ตาเจ้าชู้ แต่แฝงด้วยกลิ่นอายของบัณฑิต’ 

     แต่เมื่อนำมาเทียบกับเด็กชายตรงหน้ายามนี้ แม้อีกฝ่ายจะยังอยู่ในวัยเยาว์ แต่ใบหน้าของเด็กชายก็เริ่มมีเค้าโครงที่โตมาแล้ว...น่าจะหล่อเหลาเอาการ แต่ร่างกายของเด็กชายตอนนี้มันช่างดูผอมบางเหมือนเด็กขาดสารอาหาร

     เนื้อหาในนิยายก่อนที่หยางหมิงเซียนจะได้มาเจอกับจินเฟยเทียน เด็กชายคนนี้ได้พบเจอกับเรื่องราวที่หนักหนามาพอสมควร... 

     หยางหมิงเซียนเดิมทีอาศัยอยู่กับบิดา มารดา ที่หมู่บ้านแถบแนวชายแดน บิดาของเขาเป็นทหารลาดตระเวนซึ่งได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยหวัด บิดาของเขาได้นำเบี้ยหวัดมาใช้เลี้ยงดูครอบครัว แล้วให้มารดาของเขามีหน้าที่อยู่ดูแลเรือนและมีหน้าที่อยู่ดูแลบุตรชาย ชีวิตของหยางหมิงเซียนในตอนนั้นถือว่ายังอยู่ในช่วงที่ดีมาก 

     จนกระทั้ง...เมื่อแคว้นฉินได้ทำการเปิดศึกระหว่างแคว้น ฮ่องเต้แคว้นตงจึงสั่งให้ ‘แม่ทัพจินเฟยหมิง’ แม่ทัพใหญ่ของแคว้น จัดทัพลงไปประจำการชั่วคราวที่แนวชายแดน แล้วสงครามระหว่างแคว้นที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น ก็เริ่มทวีความรุนแรงและเริ่มยืดเยื้อ บิดาของหยางหมิงเซียนจึงต้องเข้าร่วมต่อสู้ในศึกครั้งนั้นด้วย และด้วยความรุนแรงของสงครามได้ทำให้บิดาของหยางหมิงเซียนต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างในสนามรบ บิดาของเขาได้กลายเป็นคนพิการ เงินชดเชยที่ได้รับกับเงินเก็บที่มีอยู่...ก็ต้องนำออกมาใช้รักษาผู้เป็นบิดา มารดาของเขาจึงต้องออกไปหางานทำ จากนั้นหน้าที่ดูแลเรือนและหน้าที่ดูแลบิดา...จึงตกมาเป็นหน้าที่ของหยางหมิงเซียน

     มารดาของหยางหมิงเซียนได้เข้าไปทำงานเป็นบ่าวรับใช้ฮูหยินเอกของท่านแม่ทัพใหญ่จินเฟยหมิง ที่ได้ติดตามผู้เป็นสามีมายังชายแดนด้วย แรกเริ่มมารดาของเด็กชายหลังจากได้ออกไปทำงาน อีกฝ่ายก็จะนำเงินและอาหารกลับมาให้หยางหมิงเซียนกับผู้เป็นสามีในทุกๆสามวัน แต่พอนานวันเข้า...ครึ่งเดือนมารดาของเด็กชายถึงจะกลับมาหาเขาและผู้เป็นบิดาหนึ่งครั้ง 

     และเมื่อสงครามที่ยืดเยื้อได้จบลง...แคว้นตงเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ แม่ทัพใหญ่จินเฟยหมิงจึงจัดเตรียมขบวนเพื่อพาครอบครัวและทหารบางส่วนเดินทางกลับไปยังเมืองหลวง และในวันที่ขบวนของท่านแม่ทัพใหญ่เดินทางออกจากชายแดน ก็เป็นวันเดียวกันกับที่มารดาของหยางหมิงเซียนได้แอบกลับมาเก็บเสื้อผ้าและพาตัวเองหนีออกไปจากเรือน โดยทิ้งบุตรชายและผู้เป็นสามีเอาไว้...โดยไม่กลับมาเหลี่ยวแลอีกเลย 

     บิดาของหยางหมิงเซียนเมื่อได้รับรู้เรื่องที่ผู้เป็นภรรยาหนีออกจากเรือน บิดาของเขาก็เริ่มตรอมใจ ไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมกินยา จนร่างกายทรุดโทรมลง...เพียงเวลาไม่ถึงเดือนบิดาของหยางหมิงเซียนก็ได้สิ้นใจจากเขาไป

     หยางหมิงเซียนด้วยวัยเพียงแปดหนาวเมื่อไม่มีบิดาแล้ว เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางตามหาผู้เป็นมารดา หยางหมิงเซียนได้ขอร่วมเดินทางกับขบวนที่นำเสบียงมาส่งให้กับค่ายทหารที่ชายแดนแล้วกำลังจะเดินทางกลับเมืองหลวง และในระหว่างการเดินทางเด็กชายตัวน้อยก็คอยสอบถามว่ามีใครเคยเห็นหรือเคยพบเจอมารดาของเขาบ้างหรือไม่ และเด็กชายตัวน้อยก็คอยสอบถามเส้นทางที่จะไปยังจวนแม่ทัพใหญ่จินเฟยหมิงเอาไว้ด้วย 

     และเมื่อเข้าเขตเมืองหลวง หยางหมิงเซียนก็ขอแยกตัวออกไปยังจวนแม่ทัพใหญ่จินเฟยหมิงเพียงลำพัง แล้วเมื่อเด็กชายไปถึงจวนแม่ทัพ...เขาก็ต้องคว้าน้ำเหลว เพราะไม่มีผู้ใดรู้จักมารดาของเขาเลย แถมตัวเขาเองก็ยังทั้งถูกด่าและถูกไล่...ให้ออกไปให้ไกลจากจวนแม่ทัพด้วย 

     หยางหมิงเซียนเมื่อตามหาผู้เป็นมารดาของตนเองไม่เจอ เด็กชายตัวน้อยก็ไม่รู้แล้วว่า...ยามนี้เขาควรจะต้องทำอย่างไรต่อ แล้วเขาจะกลับเรือนของตัวเองอย่างไรเพราะเขาก็ไม่รู้จักผู้ใดในเมืองหลวงแห่งนี้เลย เด็กชายตัวน้อยจึงทำได้เพียงออกเดินไปเรื่อยๆ และหวังแต่เพียงว่าเขาจะได้เจอผู้เป็นมารดาเข้าสักวัน 

     และหลังจากวันนั้นหยางหมิงเซียนก็ต้องใช้ชีวิตแบบอดมื้อกินมื้อ เก็บเศษอาหารข้างทางกินบ้าง รอคนใจบุญหยิบยื่นเศษอาหารมาให้บ้าง ค่ำไหนนอนนั่น อาศัยเพียงชายคาเรือนของผู้อื่นบังแดด กันลมฝน และใช้หลับนอน จนเขามาสลบที่ข้างเรือนของหยงหม่า 

     นิสัยของหยางหมิงเซียนในยามนี้ไม่ต่างอะไรจากเจ้าลูกกวางตัวน้อยที่พลัดหลงออกจากฝูง...เพราะยามนี้เขาทั้งตื่นกลัวต่อสิ่งต่างๆ รอบกาย ดีใจและเสียใจกับสิ่งเล็กๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว แต่ถ้ามีใครมาทำดีกับเขาแค่เพียงเล็กน้อย เขาก็พร้อมที่จะตอบแทนเป็นเท่าตัว 

     จินเฟยเทียนเมื่อต้องมาเห็นตัวละครของตนเองที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวอักษร แต่กลับมีชีวิตจริงๆ แล้วต้องมาเผชิญกับอุปสรรคที่เขาเป็นคนแต่ง มันก็ทำให้เขาอดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ เขารู้สึกเหมือนตัวเขาเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายชีวิตผู้อื่น...ด้วยมือของเขาเอง 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ตัวร้ายคนนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการ...ข้าขอนะ   บทพิเศษที่ 7 (2/2) : บทสรุป (2) {จบบริบูรณ์}

    “เจ้ามาอีกแล้วหรือหลวนคุน พักนี้เจ้ามาที่นี่บ่อยเกินไปหรือไม่?” “พักนี้ข้าว่างเลยแวะมาเยี่ยมสหายอย่างพวกเจ้าไม่ได้หรือ...” จินเฟยเทียนหลุดจากภวังค์ความคิด เมื่อได้ยินเสียงคนทะเลาะกันหน้าห้องพักของเขา เขาจึงเดินออกมาดูที่หน้าห้องก็เห็นหยางหมิงเซียนกำลังยืนกันชิงหลวนคุนไม่ให้อีกฝ่ายเดินมาหาเขาที่ห้องพัก จากนั้นเขาก็เห็นเจ้าลูกกวางแอบส่งสัญญาณบางอย่างให้กับหลงจิ้นเปียวที่กำลังยืนแอบมองพวกเขาทั้งสองคนจากหน้าห้องผู้ป่วย ด้วยเจ้าตัวแสบหลงจิ้นเปียวยามนี้ได้ขออยู่เล่นกับเกาเล่อและเกาเผิงที่โรงหมอต่อ หลังจากที่ราชครูหลงจิ้นสิงและจางเลี่ยงซูพาอีกฝ่ายแวะมาเยี่ยมพวกเขาที่นี่ “องค์ชายสิบสองพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ช่วยมาดูอะไรกับกระหม่อมสักครู่ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” หลงจิ้นเปียววัยเจ็ดหนาวเดินเข้ามาพูดพร้อมกับกระตุกชุดคลุมของชิงหลวนคุน “เพียงไม่นานพ่ะย่ะค่ะ มันอยู่ใกล้ๆ ตรงนี้เองพ่ะย่ะค่ะ” “ได้ เราจะไปดูก

  • ตัวร้ายคนนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการ...ข้าขอนะ   บทพิเศษที่ 7 (1/2) : บทสรุป (1)

    จินเฟยเทียนลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่...ใบหน้าแรกที่เขาได้เจอก็คือใบหน้าของหยางหมิงเซียน จินเฟยเทียนจึงเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของคนที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างกายเขา... หากนึกย้อนไปในวันแรกที่เขาทะลุเข้ามาอยู่ในโลกแห่งนี้ โดยไม่นับรวมชาติที่เขาตายจากโลกแห่งนี้ไป คนแรกที่เขาเจอก็คือหยางหมิงเซียน และไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข ยามที่เขาหัวเราะหรือแม้แต่ในยามที่เขาร้องไห้ คนที่อยู่ข้างกายเขามาโดยตลอดก็คือหยางหมิงเซียน แม้แต่ในเวลาที่เขารู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด เขาก็มีอีกฝ่ายเป็นที่เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ... “ขอบคุณนะที่รักกัน” “ขอรับ ข้ารักเฟยเกอนะขอรับ” หยางหมิงเซียนเอ่ยตอบอีกฝ่ายพร้อมกับลืมตาขึ้นมามองคนรักของเขา ที่จริงเขารู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่อีกฝ่ายเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าของเขาแล้ว “ข้าก็รักเจ้าหมิงเซียน เจ้าลูกกวางของข้า” “ขอรับ ข้าเป็นเจ้าลูกกวางของเฟยเกอ แต่..

  • ตัวร้ายคนนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการ...ข้าขอนะ   บทพิเศษที่ 6 (2/2) : กินยาผิด (2) (มี nc นิด ๆ นะเจ้าคะ)

    หยางหมิงเซียนรีบประคองจินเฟยเทียนกลับมาที่เรือนของพวกเขา ดีที่พวกเขาสร้างโรงหมอไม่ไกลจากเรือนของพวกเขามากนัก และดีที่ตอนปรับปรุงเรือนหลังเก่าให้กลายเป็นเรือนหอของพวกเขา...ได้สร้างเรือนหลังเล็กแยกไปอีกสามหลัง เพื่อให้เกาเล่อกับเกาเผิงและบ่าวคนอื่นๆ ที่จินเฟยหมิงและราชครูหลงจิ้นสิงส่งมาให้อยู่ดูแลพวกเขาไปพักอาศัยอยู่ที่นั่น เพื่อที่ทุกคนจะได้มีที่พักเป็นสัดส่วนของตัวเอง ดังนั้นในเรือนใหญ่หลังนี้จึงมีเพียงแค่พวกเขาที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันแค่สองคน หยางหมิงเซียนประคองจินเฟยเทียนเข้ามานั่งพักในห้องนอนของพวกเขา ก่อนที่เขาจะลงไปนั่งคุกเข่าและมองคนที่นั่งอยู่บนเตียง ที่ในยามนี้ทั้งผิวหน้าและผิวกายของอีกฝ่ายมีสีแดงไม่ต่างไปจากผลผิงกั่ว ดวงตาของอีกฝ่ายยามนี้ก็เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ริมฝีปากบางของอีกฝ่ายก็กำลังขบเม้มกันแน่น...คนตรงหน้ายามนี้คงกำลังพยายามฝืนความต้องการของตัวเองอยู่เป็นแน่ “เฟยเกอเป็นอย่างไรบ้างขอรับ? ข้าขอโทษนะขอรับ ยาที่ท่านเพิ่งกินเข้าไปไม่ใช่ยาแก้ปวดต

  • ตัวร้ายคนนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการ...ข้าขอนะ   บทพิเศษที่ 6 (1/2) : กินยาผิด (1)

    “อาเล่อเจ้ากำลังทำอะไร?” หยางหมิงเซียนเข้ามาในห้องปรุงยา หลังจากไปส่งยาสมานแผลที่ค่ายทหาร ก็เจอเข้ากับเกาเล่อที่มาก้มๆเงยๆ อยู่แถวชั้นปรุงยาของเขา “ข้าน้อยกำลังจะต้มยาแก้ปวดตัวให้คุณชายใหญ่จินขอรับ” “เฟยเกอเป็นอะไร?” หยางหมิงเซียนรีบเอ่ยถาม เพราะเมื่อเช้าพวกเขาก็ออกมาจากเรือนพักพร้อมกันเหมือนทุกวัน อีกฝ่ายก็ยังปกติดีไม่เห็นมีอาการปวดตัวอะไรให้เห็น “วันนี้คุณชายใหญ่จินมีตรวจรักษาคนไข้ตั้งแต่เช้าเลยขอรับ และวันนี้ก็มีท่านป้าท่านหนึ่งที่ขยับตัวค่อนข้างจะลำบากเข้ามาขอรับการรักษา คุณชายใหญ่จินจึงต้องคอยช่วยนางขยับตัวตอนตรวจรักษาด้วยขอรับ ยามนี้คุณชายใหญ่จินเลยให้ข้าน้อยมาต้มยาแก้ปวดตัวให้ขอรับ” “เจ้ากลับไปช่วยเฟยเกอดูคนไข้ต่อเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการเรื่องยาของเฟยเกอให้เอง อีกสักพักเจ้าค่อยกลับออกมาเอา และข้าฝากบอกเฟยเกอด้วยว่า...ข้ากลับมาแล้ว และเดี๋ยวถ้าข้าต้มยาให้ท่านลุงเจียงเสร็จ ข้าจะรีบเข้าไปหา” “ได้ขอรับ”

  • ตัวร้ายคนนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการ...ข้าขอนะ   บทพิเศษที่ 5 (3/3) : ฝันร้ายของหยางหมิงเซียน (3)

    หยางหมิงเซียนเฝ้ามองตัวเขาในที่แห่งนี้เริ่มทำเรื่องเลวร้ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ยามนี้ตัวเขาในที่แห่งนี้ได้เป็นถึงผู้ช่วยเจ้ากรมกลาโหมแล้ว และตัวเขาในที่แห่งนี้ก็มีเกาเล่อเป็นลูกน้องคนสนิทและยังมีเสี่ยวเปากับเสี่ยวปิงเป็นดั่งมือและเท้าคอยออกไปทำเรื่องเลวร้ายต่างๆ ให้เขา พวกเขาทำตัวไม่ต่างอะไรจากโจร...ทั้งยักยอกของหลวง ทั้งติดสินบน ทั้งตัดเสบียงอาหารและยาที่จะส่งไปยังค่ายทหาร...เพียงเพื่อต้องการกลั่นแกล้งรองแม่ทัพจินเฟยหลง ด้วยเพราะอีกฝ่ายเข้ามาติดพันกับสตรีที่ตัวเขาในที่แห่งนี้กำลังลุ่มหลง จนวันหนึ่งหยางหมิงเซียนเห็นตัวเขาในที่แห่งนี้ได้เจอกับผู้เป็นมารดา จากนั้นชีวิตของตัวเขาในที่แห่งนี้ก็เริ่มเลวร้ายลงไปจากเดิมเป็นเท่าตัว หยางหมิงเซียนมองตัวเขาในที่แห่งนี้ถูกมารดาชักจูงให้ทำเรื่องเลวร้ายต่างๆ มากมาย ไม่เว้นแม้แต่การดึงตัวเขาในที่แห่งนี้เข้าไปร่วมมือกับหานเฟิง ตอนนี้หยางหมิงเซียนมองตัวเขาในที่แห่งนี้ไม่ต่างอะไรจากคนเลวคนหนึ่ง ทั้งลงมือทำร้ายผู้คนอย่างไม่มีเหตุผล ยิ่งกับคนที่เคยทำร้ายจิตใจตัวเองด้

  • ตัวร้ายคนนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการ...ข้าขอนะ   บทพิเศษที่ 5 (2/3) : ฝันร้ายของหยางหมิงเซียน (2)

    “ข้าขอร้องได้หรือไม่ ช่วยปล่อยเด็กคนนั้นไป เด็กคนนั้น...ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าเลย หากคนที่จ้างเจ้าต้องการให้เจ้ามาเอาชีวิตข้า อย่างนั้นเจ้าก็เข้ามาเอาชีวิตข้าไปเสียเถอะ แต่ข้าขออย่างเดียว...ช่วยปล่อยเด็กที่ไม่เกี่ยวข้องคนนั้นไป” จินเฟยเทียนยามนี้เจ็บปวดใจยิ่งนัก เพียงเพราะชีวิตตัวภาระอย่างเขา ทำให้ผู้คนรอบข้างและผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องเดือดร้อน ต้องมาบาดเจ็บล้มตาย เพียงเพราะต้องการช่วยเหลือตัวภาระเช่นเขาแบบนี้ หากไม่มีเขาสักคนทุกคนคงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เป็นแน่... ‘ชีวิตของข้ามันช่างดูไร้ค่า และเป็นภาระของผู้อื่นอย่างที่ฮูหยินรองพูดไว้จริงๆด้วย’ นักฆ่าคนนั้นเดินเข้าไปหาจินเฟยเทียนแล้วก้มลงหยิบดาบของตัวเองขึ้นมา ก่อนที่เจ้าตัวจะโยนร่างของเด็กชายไปยังจุดที่จินเฟยเทียนกำลังยืนอยู่ จินเฟยเทียนที่เห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปประคองเด็กชายให้กลับขึ้นมายืนข้างตัวเองทันที “ข้าคงทำแบบนั้นให้ท่านไม่ได้หรอกคุณช

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status