1
ชีวิตของเรนโบว์
“พอดีว่าถ่ายตอนกลางคืนกว่าจะถ่ายเสร็จก็ดึกมากกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ใช้เวลาเดินทางอีกหลายชั่วโมงเลยมาถึงเช้า” รมิดาบอกกับแม่ของเธอแล้วก็เดินไปเตรียมอาหารเช้ามาให้หลานกับแม่แล้วก็ของเธอเอง
“ข้าวต้มปลาของคุณยาย ข้าวต้มกุ้งของพราวรุ้ง ข้ามต้มหมูของพลอยดาวกับน้าเรนโบว์ เรามากินพร้อมกันให้หมดเลยโอเคมั้ยคะ” รมิดาพูดอย่างนั้นเด็ก ๆ ก็เริ่มกินไปพร้อม ๆ กับผู้ใหญ่
ตอนนี้สองแฝดอายุ 5 ขวบแล้ว ทั้งสองเป็นเด็กเลี้ยงง่ายมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่มีพ่อกับแม่แต่เด็ก ๆ ก็ไม่เคยขาดเพราะน้าของเด็ก ๆ พร้อมสนับสนุนหลานสาวตัวน้อยของเธอมาก ๆ
“พรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของสองจิ๋วแล้วนะคะแม่ และก็เป็นวันครบรอบการจากไปของพี่ฝนทิพย์ เราไปทำบุญกันดีมั้ยคะ พาเด็ก ๆ ไปด้วย” รมิดาที่ไปส่งเด็ก ๆ ที่โรงเรียนกลับมาก็มานั่งคุยกับแม่ที่กำลังนั่งจัดดอกไม้ใส่แจกันเตรียมไปไหว้พระ
“ก็ดีเหมือนกันนะ แม่ก็คิดถึงพี่สาวแกเหมือนกันป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง” สายฝนที่ยังคงคิดถึงลูกสาวคนโตอยู่ทุกวันแต่ก็คลายเหงาได้บ้างเพราะมีสองแฝดคอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับบ้านที่เงียบเหงาหลังนี้
“พี่ฝนทิพย์ตอนนี้หนูคิดว่าน่าจะสบายดีเพราะเราหมั่นทำบุญไปให้ไงคะ แม่อย่าคิดมากเลยนะคะ สองแฝดก็เหมือนเป็นตัวแทนของพี่นะ หนูเองก็สู้ได้ทุกวันนี้ก็เพราะหลานทั้งสองนะคะ แม่เองก็ต้องสู้เพื่อหลาน ๆ นะคะ” รมิดาพูดขึ้นมาพร้อมกับกอดแม่ของเธอไว้แน่น
“หนูก็อย่าทำงานหนักเกินไปนะลูก แม่รู้ว่าหนูทำเพื่อหลานสาวตัวน้อย ๆ ทั้งสองแต่หนูก็ควรพักผ่อนบ้างนะดูสิซูบลงไปเยอะแล้วนะ” สายฝนพูดขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ลูกสาวแล้วก็ลูบผมอย่างเอ็นดูไม่ว่าลูกสาวของเธอจะโตมากแค่ไหนแต่เธอก็ยังเป็นเด็กสำหรับคนเป็นแม่อยู่ดี
หลายวันผ่านไปรมิดาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดสามวันเพื่อถ่ายทำละคร เธอต้องเดินทางอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ แต่เธอก็เลือกงานมากไม่ได้ทำให้เธอต้องทำเพื่อความอยู่รอดของเธอและครอบครัวของเธอ
“เด็ก ๆ อยู่กับคุณยายไม่ดื้อไม่ซนนะคะ น้าเรนโบว์ไปทำงานสามวันแล้วจะกลับมานะคะ” รมิดาบอกกับเด็ก ๆ อย่างนี้ทุกครั้งที่จะไปทำงานที่ต่างจังหวัด
“น้าเรนโบว์อย่าลืมซื้อของเล่นมาฝากหนูด้วยนะคะ หนูด้วยค่ะ” สองจิ๋วช่วยกันพูดเพราะรู้ว่าน้าของพวกเธอใจดีทุกครั้งที่ขอของเล่น
“ได้สิคะ อยากได้อะไรคิดไว้เลยนะคะ แต่ต้องไม่แพงมากไปโอเคมั้ยคะ” รมิดาตามใจเด็ก ๆ แต่ก็มีลิมิตตามความเหมาะสมซึ่งเด็ก ๆ ก็เข้าใจและไม่งอแงเลยสักครั้ง
“น้าไปแล้วนะคะ” รมิดากอดหลานสาวของเธอทั้งสองแล้วก็หอมแก้มคนละทีที่แก้มป่อง ๆ ของทั้งพลอยดาวและพราวรุ้ง
“เดินทางปลอดภัยนะลูก ไม่ต้องเป็นห่วงแม่กับหลานนะ แม่แข็งแรงดีสบายมาก” สายฝนบอกกับลูกสาวแล้วก็กอดเธอหนึ่งทีแล้วก็ลูบหัวเป็นการให้กำลังใจ
รมิดาไม่ได้อยากไปทำงานที่ไหนไกล ๆ เลยแต่เป็นเพราะหน้าที่การงานของเธอที่ต้องเดินทางอยู่บ่อย ๆ ทำให้เธอเลือกไม่ได้ว่าเธออยากไปหรือไม่อยากไป เธอเป็นห่วงแม่กับหลานมาก ๆ เธอตั้งใจว่าเธอจะหาแม่บ้านมาอยู่เป็นเพื่อนแม่กับหลาน ๆ หลังจากที่เธอจ่ายค่าบ้านเสร็จซึ่งอีกไม่นานเธอน่าจะจ่ายหมด
รมิดาน้ำตาคลอทุกครั้งเมื่อนึกถึงพี่สาวเพราะเธออยากให้พี่สาวเห็นว่าลูก ๆ ของเธอกำลังน่ารักมากแค่ไหนแต่สิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้ก็คือเธอต้องดูแลแม่และหลาน ๆ ให้ดีเหมือนที่พี่สาวของเธอดูแลเธอมาอย่างดีเช่นกัน
พี่สาวของเธอไม่เรียนต่อก็เพื่อที่จะไปทำงานเพื่อนำเงินมาให้เธอเรียนพี่สาวของเธอเสียสละทุกอย่างให้กับเธอเพราะฉะนั้นแล้วเธอก็ตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อพี่สาวของเธอ
9พระเอกตัวจริง รมิดาออกมากับธันวาเพราะเขาจะพาเธอมาซื้อเค้กที่จูเลียได้ทำมันพังให้กับเธอใหม่อีกครั้ง “จริง ๆ พี่ธันวาไม่ต้องลำบากก็ได้นะคะ เพราะเรื่องนี้พี่ก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย คนที่ผิดคือนางเอกจูออนมากกว่านะคะ” รมิดาเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับเรียกจูเลียว่าจูออน “ฮ่า ๆ ๆ จูออน ก็เหมือนนะฉีดผิวจนขาวแทบไม่มีเลือดอย่างนั้น จูออนจริง ๆ ด้วย” ธันวาพูดขึ้นมาแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ รมิดาก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “พี่ธันวาชอบชื่อนี้หรือเปล่าค่ะ” รมิดาเอ่ยถามเธอขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ธันวา นอกจากคำตอบที่เธออยากได้จากเขาก็คงเป็นเขาแล้วแหละ คนอะไรทั้งหล่อทั้งดูดี ยิ่งได้มองใกล้ ๆ ยิ่งทำให้หัวใจแทบละลายเลยทีเดียว “พี่ชอบสิ ชื่อจูออนเหมาะกว่าจูเลียซะอีกถ้าใช้ชื่อจูออนป่านนี้ดังกว่าจูเลียไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆ” ธันวาหัวเราะชอบใจ เขาไม่ได้หัวเราะอย่างนี้นานมาก ๆ แล้ว ธันวารู้สึกว่าการได้อยู่ใกล้ ๆ เธอมันทำให้เขาไม่ต้องคิดมากอะไรเลย “พี่ธันวาก็พูดไปกับเรนโบว์ไปเรื่อย ฮ่า ๆ ๆ” รมิดาเองก็กลั้นขำไว้ไม่อยู่เช่นกัน รมิดาคลั่งไคล้หลงใหลเขามากขึ้น
8ตัวร้ายหรือตัวเลว รมิดาเดินไปหาชนาธิปเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทในวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอแบ่งหน้าที่กับพี่อ้อมแล้วแต่เจ้ากรรม ชนาธิปมีข้อแม้บ้าบอเหมือนอยากแกล้งเธอ “นี่บทละครวันนี้ หวังว่าคงพอใจแล้วเพราะฉันมาด้วยตัวเอง” รมิดามาถึงเธอก็วางบทให้กับเขาและจูเลียแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจเธอที่พูดไม่ไพเราะเสนาะหูของเขา “นี่เธอไม่มีมารยาทบ้างเลยหรือไง วางกระดาษแรง ๆ อย่างนี้กับนักแสดงชื่อดังถึงสองคน แม่เธอไม่สอนเรื่องมารยาทบ้างเลยหรือไง” จูเลียพูดขึ้นมาอย่างไม่ให้เกียรติเธอ รมิดาทนได้ที่ว่าให้กับเธอแต่มาว่าให้แม่ของเธอ ที่เลี้ยงเธอมาอย่างดีด้วยตัวคนเดียวแล้วก็สอนเธอมาเป็นอย่างดีแล้วอยู่ ๆ จูเลียจะมากล่าวหาแม่ของเธออย่างนี้ เธอไม่ยอมง่าย ๆ แน่นอน “นี่เธอมันมากไปหรือเปล่า ว่าฉัน ฉันทนได้แต่คุณไม่ควรพูดให้กับแม่ของฉันอย่างนี้” รมิดาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเพราะแม่ของเธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ อีกอย่างแม่ของเธอก็เลี้ยงและสอนให้เธอเป็นคนดีมาตลอด “ก็มันจริง ดูนิสัยของเธอสิต่ำยิ่งกว่าบัวที่อยู่ในตมซะอีก” จูเลียพูดขึ้นมาพลางมองหน
7เค้กก้อนนี้จะอยู่ไปตลอดชีวิตของฉัน ปราบกลับมาที่กองถ่ายตามเดิม เขาเริ่มทำงานทันทีโดยไม่ได้สนใจเรื่องที่ผ่านมาและเขาก็ไม่ได้ตำหนิผู้ช่วยของเขาอย่างรมิดาเพราะเขาทำงานนี้มานานเขารู้จักนิสัยของนักแสดงดี บางคนก็นิสัยดี ง่าย ๆ สบาย ๆ บางคนก็เอาแต่ใจนิสัยเสียมาก ๆ ก็มี “วันนี้ไม่ต้องห่วงนะเรนโบว์พี่จัดการเอง” ปรีติพูดขึ้นมาพลางยักษ์คิ้วให้กับเธอ “หยุดก็หยุดถูกวันซะด้วย วันนี้ทำไมไม่หยุดเทพบุตรของฉันมาทั้งคนฉันไม่กลัวใครทั้งนั้น” รมิดาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของปรีติงอน ๆ แล้วก็เดินไปจากตรงนั้นเพื่อทำหน้าที่ของเธอ วันนี้รมิดาไม่ยอมไปคุยบทกับจูเลียและชนาธิปเพราะเธอขอร้องให้พี่อ้อมเป็นคนไปคุย ส่วนเธอก็เลือกไปคุยกับธันวาแทน ในตอนแรกพี่อ้อมก็ไม่ยอมแต่เธอขอร้องจนพี่อ้อมยอมทำตามที่เธอขอในที่สุด “พี่อ้อมน่ารักที่สุดเลย ไว้หนูเลี้ยงหมูกระทะนะคะพี่อ้อมคนสวย” รมิดาพูดขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของเธออย่างอารมณ์ดีที่ได้อย่างใจที่เธอต้องการ “พี่ตามใจอย่างนี้อารมณ์ดีเชียวนะ” อ้อมพูดแซว ๆ เธอที่โดนตามใจจนอารมณ์ดีขึ้นมา “ขอบคุณมากนะคะ ต
6ตัวร้ายในเรื่องและนอกเรื่อง หลังจากวันที่กาแฟของชนาธิปหก รมิดาก็ยังไม่ได้เจอเขาอีกเพราะยังไม่มีฉากของเขา แต่วันนี้เป็นวันที่เขาต้องมาเข้าฉากแต่วันนี้ธันวาเทพบุตรของเธอไม่ได้มาที่กองถ่ายเพราะไม่มีฉากของเขา ทำให้รมิดาไม่มีกำลังใจในการทำงานเลย “วันนี้พี่ปราบไม่มานะเรนโบว์เธอต้องทำหน้าที่แทนพี่ปราบนะ ส่วนงานอย่างอื่นพี่ทำให้เอง” พี่อ้อมทีมงานอีกคนเดินมาบอกกับเธอยิ้ม ๆ แต่คนได้ฟังไม่ยิ้มเลยเพราะเธอยังไม่เคยเป็นผู้กำกับจริง ๆ เลยสักครั้งนอกจากเป็นผู้ช่วยปรีติเท่านั้น “ทำไมต้องมาหยุดวันนี้ด้วยนะพี่ปราบวันนี้ซาตานก็มาที่กองถ่ายซะด้วย ปวดหัวจริง ๆ” รมิดาไม่อยากกำกับในวันที่ซาตานอย่างชนาธิปมาแสดง “นักแสดงพร้อมแล้วนะคะพี่เรนโบว์ ฉากก็พร้อมแล้วค่ะ ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ” ทีมงานอีกคนมาบอกกับรมิดาเพื่อให้เธอเริ่มถ่ายทำได้แล้ว ชนาธิปที่เห็นเธอนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์เขาก็เริ่มอยากแกล้งเธอขึ้นมาเพราะวันนี้เขารู้ว่าธันวาไม่ได้มาก็ไม่มีใครมาช่วยเธอได้แน่นอนเพราะไม่มีเทพบุตรสุดหล่อคอยปกป้องเขาก็มีสิทธิ์ที่จะแกล้งเธออย่างเต็มที่ เมื่อการถ่า
5พระเอกสุดหล่อของเรนโบว์ วันนี้เป็นวันแรกของละครเรื่องใหม่ที่รมิดาต้องออกกองไปถ่ายทำ รมิดาเตรียมตัวตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปที่ต่างจังหวัดเพื่อถ่ายละคร ซึ่งเธอต้องไปอยู่ที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาหนึ่งเดือน “แม่คะหนูไปแล้วนะคะ” รมิดาบอกกับสายฝนแม่ของเธอก่อนที่จะออกจากบ้านของเธอ “ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก ไม่ต้องห่วงแม่แล้วก็ไม่ต้องห่วงหลานนะ เดี๋ยวแม่ดูแลเอง ส่วนนี้พระที่แม่ศรัทธาพกติดตัวไปด้วยนะ” สายฝนบอกกับลูกสาวพร้อมกับยื่นพระหนึ่งองค์ให้กับเธอ “ขอบคุณนะคะแม่ แม่ก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ แล้วก็ฝากหลานด้วยนะคะ มีอะไรโทรหาหนูได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” รมิดาบอกกับแม่แล้วก็เดินออกจากบ้านไปเพื่อโบกแท็กซี่ไปทำงาน รมิดาไปรวมตัวกับผู้กำกับและทีมงานอีกหลายคนเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางด้วยรถตู้ของทางบริษัท “พี่ปราบเราต้องไปเป็นเดือนอย่างนี้ พี่ไม่คิดถึงแฟนแย่หรอเนี่ย” รมิดาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของปรีติผู้กำกับที่เธอร่วมงานเป็นประจำ” “พี่ก็คงคิดถึงแต่ทำไงได้พี่ก็ต้องอดทนเพราะต้องหาเงินให้ลูกให้เมียนี่ไง ว่าแต่เราเถอะ แม่กับหลา
4ชีวิตของธันวา ธันวาเป็นนักแสดงหน้าตาดี เขาเป็นพระเอกชื่อดังในตอนนี้ เขาเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั้งสาวน้อย สาวใหญ่ สาวแท้ สาวเทียม เขาคือสามีแห่งชาติที่ผู้หญิงหลายคนหมายปอง “วันนี้มีสองฉากที่พี่ธันวาต้องได้ถ่ายนะคะ ฉากแรก...” ทีมงานสาวน้อยที่เพิ่งมาทำงานวันแรกเธอเป็นแฟนคลับของธันวา เธอพูดไปก็เขินไปจนธันวาหัวเราะให้กับความน่ารักของเธอ “ไม่ต้องเกร็งอย่างนั้นก็ได้ พี่ก็เป็นคนธรรมดาอย่างหนูนั่นแหละ ไม่ต้องเกร็งนะ” ธันวาพูดออกมายิ่งทำให้เธอเขินไปกันใหญ่ เพราะความหล่อ น่ารัก อบอุ่นของเขาทำให้เธอแทบคลั่ง “ไม่เขินได้ไงก็หล่อขนาดนี้ พี่เห็นเกือบทุกวันพี่ยังอดเขินไม่ได้เลย” พี่ช่างแต่งหน้าพูดขึ้นมาเมื่อเดินมาได้ยิน “พี่ก็พูดไป หล่ออะไรก็หน้าตาเหมือนคนทั่ว ๆ ไปนั่นแหละครับ อย่าชมนักเลย” ธันวาบอกกับเธอก่อนที่จะรับบทละครมาจากสาวน้อย “หนูขอตัวก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้นหนูต้องละลายแน่ ๆ พี่ธันวาหล่อ น่ารัก อบอุ่นเกิน หนูไปแล้วนะคะ” นี่คือสิ่งที่ธันวาได้เห็นอยู่บ่อย ๆ คือการที่เห็นสาว ๆ เขินเขาอย่างนี้เป็นประจำ ธันวาเป็นพระเอกห