“เออๆ ไม่ต้องพูดแล้ว”“ครับ” ภูมิเอ่ยรับแล้วยืนรอเจ้านายกลับเข้าห้องไปจัดการธุระส่วนตัว ซึ่งวันนี้ดูเร็วเป็นพิเศษเพราะเวลาประชุมกระชั้นชิดเข้ามาแล้วนั่นเองแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังให้ภูมิไปตามมารีญามาพบ เพราะเธอต้องส่งเขาไปทำงานเหมือนที่เคยทำ แม้จะอยากหลบหน้าเขาแต่มารีญาก็คิดว่าคงทำแบบนั้นได้ไม่ตลอด ทางเดียวคือทำตัวให้เป็นปกติและปล่อยให้เรื่องเมื่อคืนผ่านไปพร้อมน้ำตา“คุณวิชญ์เรียกฉันหรือคะ” มารีญาเอ่ยถามขึ้น ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอไม่กล้ามองหน้าวิชญ์ด้วยซ้ำ“ใช่...เพราะฉันกำลังจะไปทำงานแล้ว”“ค่ะ”“ค่ะก็เข้ามาใกล้ๆ สิ จะยืนห่างแบบนั้นทำไม” เมื่อได้ยินวิชญ์พูดแบบนี้ มารีญาจึงต้องขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้น และเมื่อมากพอวิชญ์ก็รวบตัวเธอเข้าไปกอดจากนั้นก็บดขยี้จูบลงมาปิดกั้นคำประท้วงจูบจากวิชญ์ทำให้มารีญาตกใจจนสตั้นไปหลายวินาที พอตั้งสติได้ก็ผลักไสชายหนุ่มให้ออกห่าง แต่ยิ่งเธอผลักเขาก็ยิ่งเพิ่มแรงจูบมา
“ค่ะ” เมื่อเอ่ยรับเสร็จมารีญาก็ลุกขึ้นแล้วเดินผ่านวิชญ์ออกไป เป้าหมายของเธอคือห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนของชายหนุ่มเมื่อมาถึงก็จัดการเตรียมน้ำให้เหมือนที่เคยทำ กระทั่งน้ำได้ระดับแล้วจึงหมุนตัวเพื่อจะกลับออกไป ซึ่งเป็นจังหวะที่วิชญ์เดินเข้ามาพอดี โดยชายหนุ่มสวมเพียงกางเกงทำงานเท่านั้น ส่วนเสื้อที่ใส่ไปทำงานถอดทิ้งลงตะกร้าไปได้หลายนาทีแล้วแม้จะตกใจที่หันมาเห็นวิชญ์อยู่ในสภาพกึ่งเปลือย แต่ทว่ามารีญากลับเก็บสีหน้าและอาการไว้ได้ดี เพราะตลอดทั้งวันเธอเอาแต่บอกตัวเองว่าห้ามแสดงท่าทางปลื้มหรือเขินอายต่อสิ่งที่วิชญ์ทำ ไม่ว่าเขาจะพูดหรือแสดงออกแบบไหนเธอต้องเฉยให้ได้มากที่สุด นั่นเพราะเธอไม่อยากให้วิชญ์รู้ว่าเขามีอิทธิพลกับเธอ“น้ำได้แล้วค่ะ” น้ำเสียงที่ฟังดูเป็นปกติของมารีญาเอ่ยบอก พลอยทำให้คนที่ตั้งใจแกล้งหงุดหงิดเล็กๆ เพราะเขาอุตส่าห์ลงทุนถอดเสื้อโชว์ซิกแพคที่เธอได้ลูบได้ไล้เมื่อคืนเพื่อยั่วแท้ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับ...ว่างเปล่าแต่มีหรือที่คนอย่างวิชญ์จะถอดใจง่ายๆ“อาบน้ำด้วยกันสิ”“ฉันอาบแล้วค่ะ”
แม้จะต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ แต่ก็เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน เนื่องจากกมลได้รับคำสั่งใหม่จึงจับตามองพศินและแก้วกาญไกลขึ้น ขอแค่รู้ที่อยู่ที่แน่ชัดเพื่อรายงานกลับไปให้วิชญ์ก็พอในขณะที่พศินก็เริ่มลดความระแวงลง หรือเขาจะตาฝาดมองคนผิด เพราะหากเป็นคนของอดีตเจ้านายจริงๆ ป่านนี้คงลงมือจับเขากับแก้วกาญกลับไปแล้ว แต่นี่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“หรือเราจะตาฝาดไปเอง” พศินพึมพำออกมา ก่อนจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง จากที่ต้องอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ก็เริ่มย้ายไปอยู่บ้านเช่าเป็นหลังๆ“จริงเหรอที่บอกว่าคนของคุณวิชญ์ไม่อยู่แถวนี้แล้ว”“ใช่...ตอนนั้นผมอาจแค่ตาฝาดเลยมองคนผิดไป เอาเป็นว่าตอนนี้เรากลับมาใช้ชีวิตที่อยากทำกันเถอะ”“อื้อ” แก้วกาญเอ่ยรับอย่างมีความสุข เพราะเธอเบื่อห้องเช่าแคบๆ สกปรกๆ นั่นเต็มทนแล้วเช่นกัน ทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตด้วยความประมาท หรูหราฟู่ฟ่าเท่าที่เวียงจันทน์จะอำนวยความสะดวกให้โดยทุกๆ อย่างยังคงตกอยู่ในสายตาของกมล ที่ตอนนี้ทำงานรอ
เสียงออดที่ดังขึ้นจากหน้าประตูทำให้มารีญาเดินออกไปเปิด เพราะคิดว่าคนของวิชญ์เอามื้อเที่ยงมาส่งอย่างที่เคยทำในทุกๆ วัน แต่ทว่าเมื่อเปิดประตูออกกลับเจอวิชญ์ก็ต้องตกใจ ซึ่งชายหนุ่มถือกล่องอาหารเต็มไม้เต็มมืออีกต่างหาก“คุณวิชญ์”“ตกใจอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามแล้วเดินถือมื้อเที่ยงเข้ามาภายในเพนต์เฮาส์ ปกติภูมิจะเป็นคนถือมาส่ง แต่วันนี้เขากลับทำเอง“ไม่คิดว่าจะเป็นคุณ” วิชญ์ไม่ตอบอะไร ชายหนุ่มวางมื้อเที่ยงลงบนโต๊ะตรงโซนรับประทานอาหาร จัดการหยิบกล่องอาหารออกมาว่างอย่างคล่องแคล้ว เมื่อตะเกียบในมือพร้อมก็เอ่ยเรียกให้มารีญามานั่ง“ไม่หิวหรือไง”“คุณวิชญ์ลืมของหรือคะ” มารีญาเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะไม่คิดว่าเที่ยงวันนี้วิชญ์จะกลับมากินข้าวด้วย“เปล่า”“แล้วทำไมถึง...”“จะถามอีกนานไหม ถ้านานฉันจะได้กินให้หมด” วิชญ์เอ่ยแทรกขึ้นก่อนจะยื่นตะเกียบมาให้มารีญา ซึ่งเธอก็เดินเข้ามารับมันไว
ครั้งนี้เป็นคำขอบคุณที่เธอส่งยิ้มให้ชายหนุ่มด้วย แม้จะเป็นยิ้มบางๆ ตรงมุมปาก แต่ทว่ามันกลับทำให้คนรับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกมารีญาอยู่ในห้องน้ำเพื่อจัดการธุระด่วนของตัวเอง แต่พอกลับออกมาก็ไม่เห็นวิชญ์ เนื่องจากชายหนุ่มกลับไปทำงานแล้วนั่นเองคืนนั้นเธอจึงถ่างตาอยู่รอรับเขา แม้วิชญ์จะกลับดึกและเธอก็ง่วงมากแค่ไหนก็ตาม กระทั่งเขามาถึงก็ส่งยิ้มให้ ทำเอาวิชญ์งงว่าเธอจะมาไม้ไหน“กลับมาแล้วหรือคะ” เอ่ยบอกเสร็จมารีญาก็เขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มสากๆ ของชายหนุ่ม ทำตามที่เขาสั่งไว้อย่างไม่อิดออด“อืม”“อาบน้ำเลยไหมคะ เดี๋ยวฉันเตรียมน้ำให้”“เอาสิ ส่วนเธอเตรียมน้ำเสร็จก็ไปพักเถอะ ที่เหลือฉันจัดการเอง”“ค่ะ” มารีญาพยักหน้ารับแล้วปลีกตัวไปเตรียมน้ำอุ่นให้วิชญ์ โดยไม่ลืมที่จะแขวนผ้าขนหนูผืนใหม่ตรงราวให้ชายหนุ่มด้วย จากนั้นก็กลับห้องนอนตัวเองไป ซึ่งทันทีที่หัวถึงหมอนมารีญาก็หลับทันทีส่วนวิชญ์ก็รีบจัดการธุร
สองเดือน!เวลาช่างผ่านไปเร็ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความโกรธแค้นในใจของวิชญ์ที่มีต่อแก้วกาญและพศินจะหายไป มันแค่จางลงนิดหน่อยเท่านั้นเอง เขาทำเป็นหูหนวกตาบอด ยังปล่อยทั้งสองคนให้เสพสุขมาจนถึงวันนี้ ไม่ราวีลามไปถึงลูกเมียของพศินก็ถือว่าบุญหัวคนทรยศเท่าไหร่แล้ว เพราะมั่นใจว่าลูกกับเมียของพศินไม่รู้เรื่องนี้ ถ้าเขาคิดผิดเดี๋ยวกรรมก็คงทำหน้าที่ของมันเองวิชญ์ยอมรับว่ามารีญามีส่วนช่วยทำให้ความโกรธแค้นในใจเขาจางลง แต่มันก็ปะทุขึ้นมาใหม่ในบางครั้งที่เห็นเธอนั่งซึมไม่สดใส ผิดจากอีกคนที่ยังคงใช้ชีวิตสุขสบายไม่ได้ทุกข์ร้อน“แต่งตัวสิ”“จะไปไหนหรือคะ” มารีญาเอ่ยถามขึ้น“จะออกไปกินข้าวข้างนอก เบื่อบ้านเต็มทนแล้ว” เขานะไม่เบื่อแต่ที่ตอบคือตอบแทนมารีญามากกว่า“ฉันไม่ไปได้ไหม”“ไม่ได้” น้ำเสียงห้วนๆ ของวิชญ์แย้งขึ้น ทำให้ มารีญาต้องรับคำอย่างช่วยไม่ได้“ค่ะ” เอ่ยรับเสร็จเธอก็กลับ
“คนอะไรเผด็จการชะมัด” ภูมิทำเพียงแค่ยืนฟังสิ่งที่มารีญาพึมพำออกมาโดยไม่ได้เอ่ยตอบอะไร จากนั้นชายหนุ่มก็กลับออกไปจากเพนต์เฮาส์ของวิชญ์ เพื่อให้ มารีญาแต่งตัวอย่างสะดวก โดยจะกลับมารับเธอที่หน้าเพนต์เฮาส์อีกครั้งเมื่อครบสามชั่วโมงซึ่งเมื่อภูมิกลับออกไปแล้ว มารีญาก็ถูกรุมจากบรรดาช่างแต่งหน้าทำผม ส่วนอีกคนก็เลือกชุดรวมไปถึงรองเท้าและเครื่องประดับให้เธออย่างขมักเขม้น เพราะงานนี้ค่าจ้างสูงทีเดียว ถ้าอยากได้งานทำนองนี้บ่อยๆ ก็ต้องทำให้ผู้ว่าจ้างพึงพอใจอย่างที่สุดมารีญานั่งหลังตรงราวกับเป็นหุ่น เพราะตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้คือนั่งนิ่งๆ แล้วทำตามคำสั่งที่นานๆ จะได้ยินเท่านั้น แม้จะรู้สึกเมื่อยแต่กลับพูดออกไปไม่ได้ นั่งทนกระทั่งมีจังหวะลุกไปเปลี่ยนชุด ซึ่งเธอก็ยืนแปลกใจให้ตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ แพขนตางอนที่ถูกดัดและเติมขนตาปลอมนิดหน่อยเพื่อให้เป็นธรรมชาติกะพริบขึ้นลงปริบๆ“นี่เราเหรอ” มารีญาชี้นิ้วมาที่ตัวเอง นั่นเพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยแต่งหน้าทำผมแบบจัดเต็มขนาดนี้มาก่อน จึงแปลกตากับตัวเองมาก รอยคล้ำแดงใต
“อย่าทำให้ฉันขายหน้า ไม่งั้นคืนนี้ฉันจะลงโทษเธอ...มารีญา” คำขู่ของวิชญ์ทำให้ใบหน้าสวยของมารีญาเห่อร้อนขึ้นมา เพราะจู่ๆ สมองก็จินตนาการไปถึงการลงโทษที่แสนเร่าร้อนจากวิชญ์อย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้เขาจะบอกว่าลงโทษแต่เป็นการลงโทษที่บางครั้งเธอก็เผลอตัวโอนอ่อนยอมเขาไปเสียทุกอย่างการปรากฎตัวของนักธุรกิจหนุ่มหล่อมาแรงอย่างวิชญ์เป็นที่สนใจของบรรดาสื่อ เพราะต่างเข้ามารุมล้อมเพื่อถ่ายรูป ยิ่งชายหนุ่มควงคู่มากับหญิงสาวหน้าตาสวยด้วยแล้ว สื่อต่างๆ ก็ยิ่งอยากรู้จักเป็นพิเศษว่าเธอเป็นใคร ทำไมวิชญ์ถึงควงออกงานสังคมเช่นนี้แม้ก่อนหน้าจะมีภาพหลุดของวิชญ์กับผู้หญิงบ่อยๆ แต่เขาก็แทบจะไม่เคยเอ่ยถึง ใครถามก็บอกเป็นเรื่องส่วนตัว ยิ่งพามาเปิดตัวด้วยแล้วก็แทบไม่มี นอกจากบรรดาสื่อที่ให้ความสนใจ บรรดาสาวสวยในสังคมไฮโซที่ปลื้มวิชญ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ให้ความสนใจเช่นเดียวกันคนเหล่านั้นต่างเพ่งมองมายังมารีญาด้วยความสนอกสนใจแกมจับผิด กระทั่งสบโอกาสที่เป้าหมายอยู่ตามลำพัง จึงมีคนหนึ่งเดินเข้าไปหาหมายทำความรู้จัก ว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันแน่ รวมถึงจับผิดว่าเธอคู่ควรกับวิชญ์แ
“อุ๊ย!” เพราะตกใจทำให้มารีญาที่กำลังหั่นผักเผลอทำมีดบาดนิ้ว เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากปากแผล และยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรวิชญ์ก็เข้ามาชาร์ตแล้วดึงมือไปดู ก่อนจะจัดการเปิดน้ำล้างแผลให้ถ้ามารีญาไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป เธอจะเห็นแววตาความห่วงใยที่ชายหนุ่มส่งมาเมื่อครู่ แม้จะเพียงแค่ไม่นานแต่ทว่ากลับทำให้หัวใจของมารีญาเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ“กล่องปฐมพยาบาลอยู่ตรงไหน”“ในห้องรับแขกค่ะ ตรงหลังเก้าอี้ที่คุณวิชญ์นั่งเมื่อกี้” เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ต้องการอยู่ตรงไหน วิชญ์ก็ออกไปหยิบมาทันที จากนั้นก็กลับมาทำแผลติดพลาสเตอร์ยาให้มารีญา ยังดีที่แผลมันไม่ได้ลึกมากแต่ต่อให้แผลจะเล็กแค่ไหน เขาก็ยังเป็นห่วงเธออยู่ดี“ทำอะไรไม่ระวัง”“ก็ใครให้คุณวิชญ์เข้ามาแบบนั้นละคะ”“โทษฉันเหรอ”“ค่ะ”“ขอโทษแล้วกัน” วิชญ์เอ่ยขอโทษ ซึ่งเป็นคำขอโทษที่มารีญาไม่คิดว่าจะได้ยินจากเขา“กับข้าวเหลืออีกแค่อย่างเดียวก็เสร็จแล้ว คุณวิชญ์...” คำพูดต่อจากนั้นของม
มารีญากลับมาบ้าน บ้านที่เธอจากไปด้วยเหตุสุดวิสัยแต่วันนี้ได้กลับมาแล้ว แต่ทว่าเธอไม่ได้กลับมาอย่างมีความสุขแต่กลับแบกน้ำตามากมายกลับมาด้วยความเสียใจจากการสูญเสียแก้วกาญยังคงหลงเหลืออยู่ในแววตาของเธอ รวมถึงความเสียใจที่วิชญ์ปล่อยให้เธอจากมาโดยไม่รั้งแม้แต่คำเดียว ทั้งๆ ที่เธอโหยหาอิสรภาพเช่นในตอนนี้มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เมื่อได้รับมันกลับไม่ได้รู้สึกยินดีแม้แต่น้อยนิดมารีญากวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านที่ทรุดโทรมลงไปทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีความสุขที่ได้อยู่ หญิงสาวเริ่มลงมือทำความสะอาดเพราะไม่ได้กลับมานาน ทั้งภายในตัวบ้านและภายนอกจนรู้สึกเหนื่อย“ตายจริง กลับมาแล้วหรือคะหนูมายด์”“ค่ะ”“ป้าก็เป็นห่วงหนูแทบแย่”“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะป้าน้อย”“ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นเขาทิ้งหนูแล้วเหรอ อุ๊ย! ขอโทษทีนะที่ป้าถามอะไรตรงไปหน่อย แต่ที่ถามก็เพราะว่าป้าเป็นห่วง”“ค่ะ” มารีญาต
“จะตายห่าอยู่แล้วมึงก็ยังไม่เลิกโกหกกู กูรู้หมดแล้วว่ามึงปั้นเรื่องหลอกกูทั้งนั้น เรื่องคลีนิคเรื่องห่าเหวอะไรไม่มีจริงสักอย่าง ความรักจอมปลอมของมึงก็ด้วย อ้อ...สิ่งที่มีจริงคงเป็นเมียกับลูกชายแสนน่ารักนั่นของมึงล่ะมั้ง” สีหน้าและแววตาของพศินตื่นตะลึงอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าแก้วกาญจะรู้เรื่องหมดแล้ว“ตกใจหรือไงที่กูรู้” เอ่ยถามเสร็จแก้วกาญก็หัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ ในขณะที่พศินก็ลนลานเอาตัวรอด แต่กลับถูกแก้วกาญใช้มีดแทงเข้าที่ต้นขาทั้งสองข้าง แม้จะเจ็บปวดแค่ไหนแต่พศินกลับไม่มีเสียงแม้จะเปล่งออกมา แววตาเขาอ้อนวอนขอชีวิตจากแก้วกาญ แต่ทว่าเธอกลับไม่ยอม“กูไม่ยอมให้มึงเสวยสุขอยู่บนโลกนี้คนเดียวแน่ ไอ้สารเลว” แก้วกาญตะคอกบอกก่อนจะกระหน่ำแทงมีดลงไปบนร่างกายของพศิน จนเลือดสาดกระเซ็นเลอะตามตัวเธอจนแดงฉานไปหมดในที่สุดพศินก็สิ้นใจอย่างทรมาน แก้วกาญก็สติหลุดมากขึ้น จากเสียงหัวเราะก็กลายเป็นร้องไห้สลับกันอยู่แบบนี้ ชีวิตของเธอไม่เหลือใครอีกแล้ว ในเมื่อไม่มีใครต้องการแล้วเธอต้องอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปอีกทำไม สู
“คุณวิชญ์ยกโทษให้แก้วแล้วใช่ไหมคะ หลังจากนี้เราก็จะได้กลับไปอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม” แก้วกาญรีบพูดเข้าข้างตัวเอง แต่วิชญ์กลับตอบเสียงเย็นกลับมาเพียงคำเดียว ก็ชัดเจนเสียจนแก้วกาญสะท้านกลัวไปทั้งตัว“เปล่า”“คุณวิชญ์”“ผมยกโทษให้ก็จริง แต่จะให้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมคงไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่แล้วกัน”“แก้วไม่ยอม!” เสียงค้านของแก้วกาญดังขึ้น วิชญ์มองเธอด้วยหางตาเพราะคนอย่างแก้วกาญมีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมรับมันด้วยอย่างนั้นหรือวิชญ์เอื้อมมือมาบีบหน้าของแก้วกาญเต็มแรงจนเธอหน้าเบ้บ่งบอกความเจ็บ เธอพยายามแกะมือของเขาออกแต่กลับทำไม่ได้“ขะ...คุณวิชญ์ แก้วเจ็บ”“เธอมีสิทธิ์พูดคำว่าไม่ยอมด้วยเหรอแก้วกาญ” แววตาของวิชญ์เวลานี้แข็งกร้าวดูน่ากลัว ปกติสายตาแบบนนี้เขาไม่เคยใช้กับเธอมาก่อน นั่นทำให้แก้วกาญยิ่งกลัวแต่ก็พยายามใจดีสู้เสือ“กะ...แก้วจะทำตามที่คุณบอก แต่แก้วก็มีข้
“ฉันนึกว่าเธอท้องแล้วเสียอีก”“ท้อง!” คำว่าท้องทำให้มารีญาหน้าซีด นั่นเพราะเธอยังไม่อยากท้องในตอนนี้ แต่เพราะตัวเองยังมีรอบเดือนอยู่จึงโล่งอกไปได้มาก“เพราะหลายครั้งที่ฉันไม่ได้ป้องกัน”“ถ้าฉันท้องขึ้นมา คุณวิชญ์จะ...”“จะอะไร” เพราะจู่ๆ มารีญาก็หยุดพูดต่อวิชญ์จึงเอ่ยถามขึ้น“จะรับหรือจะสั่งให้ฉันไปทำแท้ง”“ในสายตาเธอคิดว่าฉันเลวร้ายถึงขนาดจะฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้ลงคือเลยหรือไง” น้ำเสียงของวิชญ์ฟังดูห้วนขึ้นด้วยความไม่พอใจ“เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากรู้”“รอให้เธอท้องก่อน ฉันจะตอบ” เอ่ยบอกเสร็จวิชญ์ก็กระชับอ้อมกอดที่มีมารีญาอยู่แน่นขึ้น การกลับมาของแก้วกาญไม่มีผลกระทบอะไรกับเขา แต่กับมารีญาคงไม่ใช่แน่ดีไม่ดีแก้วกาญอาจทำให้มารีญาทุกข์ใจ ซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่การจะตัดแก้วกาญที่จู่ๆ ก็ตาสว่างกลับมาหวังขอโอกาส แม้จะไม
“วันนี้ผมจะออกไปดูความคืบหน้าที่คลีนิคหน่อยนะครับ”“อืม...ไปสิ”“ส่วนนี่เป็นมื้อเที่ยง ผมเตรียมไว้ให้แล้ว” เอ่ยบอกเสร็จพศินก็วางกับข้าวที่เขาออกไปซื้อหามาให้แก้วกาญบนโต๊ะ“จะไปนานขนาดเตรียมมื้อเที่ยงให้ฉันเลยเหรอ”“เผื่อไว้นะครับ กลัวคุณหิว” อีกฝ่ายแก้ต่างได้อย่างไม่มีท่าทางตะกุกตะกักให้เห็นเลยแม้แต่น้อย“ขอบใจมากนะพศิน เธอดีกับฉันมากจริงๆ”“ครับ” พศินเอ่ยรับอย่างไม่ได้นึกระแวงอะไร จากนั้นก็ออกไปจากบ้านเช่า ในขณะที่แก้วกาญก็ให้คนแถวนั้นซึ่งเธอจ้างวานไว้ก่อนหน้านี้แล้วขับรถพาเธอตามพศินไป จึงเห็นกับตาว่าชายหนุ่มมาหยุดอยู่ที่จุดข้ามแดนและทำเรื่องข้ามกลับไปฝั่งไทย ซึ่งแก้วกาญก็ทำเช่นเดียวกันเธอตามพศินมาจนเห็นว่าเขาไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่มาพร้อมลูกน้อย พศินโผเข้าไปกอดคนทั้งคู่แล้วหอมแก้มผู้หญิงคนนั้นก่อนตามด้วยเด็กชาย หลักฐานตำตาเพียงแค่นี้ก็ทำให้แก้วกาญโกรธจนอยากไปอาละวาดให้ร้าน
ข่าวการเปิดตัวคนรักของวิชญ์ ร้อนแรงแซงอุณหภูมิหน้าร้อนของเมืองไทยชนิดไม่เห็นฝุ่น วิชญ์นั่งมองข่าวของตัวเองที่เขาตั้งใจสร้างขึ้นมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย นักข่าวคงได้ข่าวกับคลิปจากงานเปิดตัวไปเยอะพอสมควร ซึ่งวิชญ์สั่งให้ภูมิจัดการใต้โต๊ะให้นักข่าวช่องหนึ่งทำข่าวของเขากับมารีญานานหน่อย เพราะอยากให้ข่าวนี้ถึงหูคนที่อยู่เวียงจันทน์ ที่สัญญาณโทรศัพท์จากไทยน่าจะส่งไปถึงและทุกอย่างก็เป็นจริงอย่างที่วิชญ์คาดการไว้ไม่มีผิด เพราะต่อให้แก้วกาญปิดโทรศัพท์เครื่องเก่าแต่เครื่องใหม่ก็ยังท่องโซเชียลได้ด้วยการใช้ชื่อแฝงเพื่อปกปิดตัวตน หรือแม้จะเลิกรากับวิชญ์แต่เธอก็ยังตามข่าวของเขาอยู่เรื่อยๆ เพราะอยากรู้ว่าเวลานี้ชายหนุ่มเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องของเธอมากแค่ไหนทว่าข่าวที่ได้รู้ก็ทำให้เธอตกใจจนนั่งไม่ติดที่ก็ว่าได้ เมื่อเห็นข่าวชายหนุ่มเปิดตัวผู้หญิงที่กำลังคบหาอยู่อย่างออกหน้าออกตา โดยมีทั้งรูปคู่และคลิปที่เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่เป็นน้องสาวของเธอ...มารีญา“กรี๊ดดดดด” แก้วกาญกรีดร้องออกมา
มารีญานอนหายใจสะท้าน ใบหน้าสวยแดงก่ำ ก่อนจะตกใจเมื่อถูกพลิกให้ขึ้นไปนอนทาบทับอยู่บนตัวของวิชญ์บ้าง ชายหนุ่มกดใบหน้าเธอลงมารับจูบหนักๆ พร้อมกันนั้นก็ลูบไล้สะโพกผายอย่างต่อเนื่อง“ลองกินฉันดูหน่อยสิ ว่ามันจะหวานไหม” เมื่อถอนจูบออก วิชญ์ก็กระซิบบอกแววตาพราวระยับ มารีญากัดริมฝีปากอวบอิ่มราวกับว่ากำลังลังเล แต่สุดท้ายเธอก็โน้มใบหน้าลงไปจูบชายหนุ่มก่อน จากนั้นก็ไล้จูบต่ำลงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงหน้าอกแกร่งของเขา“อืมม” วิชญ์ครางกระเส่าออกมา ก่อนจะสะดุ้งรับเมื่อมารีญากำลังใช้ปากนุ่มและร้อนคลอเคลียกับหน้าอกแล้วรับเอาเม็ดยอดเข้าไปดูดดุน ทำเช่นเดียวกับที่เขาทำให้เธอไปเมื่อครู่ชายอกสามศอกกำลังสะท้านหวั่นไหวกับสัมผัสที่ได้รับ ความไม่ประสาของมารีญาคือเสน่ห์ที่ทำให้วิชญ์ยิ่งคลั่งยามถูกเธอสัมผัสอย่างอยากรู้อยากเห็น สัมผัสอุ่นร้อนของมารีญาค่อยๆ ขยับลงต่ำไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกแพคมารีญาชะงักไปเล็กน้อย เพราะสายตาของเธอมองเห็นบางอย่างที่เวลานี้มันกำลังผงาดท้าทาย เธอค่อยๆ ยื่นมือไปสั
บรรยากาศตอนไปว่าเงียบแล้วตอนกลับเงียบยิ่งกว่า ขนาดเสียงหายใจยังแทบไม่ได้ยินด้วยซ้ำ วิชญ์ทำหน้าที่ขับรถในขณะที่มารีญาก็นั่งเงียบมาตลอดทางเช่นกัน ก่อนที่เธอจะหน้าตาตื่นเมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มก็เลี้ยวเข้าปั๊มเมื่อจอดรถเสร็จวิชญ์ก็เปิดประตูแล้วก้าวลงไป มารีญามองตามจึงเห็นว่าชายหนุ่มเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะหายไปสิบกว่านาทีแล้วกลับมาพร้อมของกินเต็มมือ และเมื่อกลับเข้ามานั่งในรถได้ก็ยื่นแซนวิชที่อบมาร้อนๆ ให้มารีญา“กินสิ”“ฉัน...”“ไม่ต้องโกหกว่าไม่หิว เพราะในงานฉันไม่เห็นเธอหยิบอะไรเข้าปากนอกเสียจากน้ำเปล่า” นั่นเพราะวิชญ์เองก็คอยสังเกตมารีญาอยู่เช่นกัน“ก็ไม่รู้จะกินอะไรนี่ค่ะ” มารีญาตอบอย่างซื่อๆ แม้อาหารในงานจะน่ากินมาก แต่เธอกลับเก้อเขินจนไม่กล้าแม้แต่จะถือจานไปตักใส่ เพราะประหม่ากับสายตาใครหลายคนจับจ้องอยู่“ไม่รู้ว่าจะกินอะไรหรือทำตัวไม่ถูกกันแน่”“ทั้งสองอย่าง ส่วนเรื่องที่เกิดวันนี้..