Share

บทที่ 8 ดูแล

last update Last Updated: 2025-06-27 11:00:54

เหล่าทหารช่วยกันขนปลาและหอยมาให้ไต้ฝูหรงที่โรงครัว ก่อนจะไปช่วยกันทำคอกให้เจ้าลูกหมูป่าตัวน้อย

  ส่วนหมูป่าที่พวกเขาล่ามาได้นั้นไต้ฝูหรงจัดการแล่มันออกเป็นชิ้นๆและนำไปตากแห้ง ส่วนผักกรูดที่เหล่าทหารเก็บมาได้จากในป่านั้นนางก็นำมันไปวางไว้ในกระบุง ไต้ฝูหรงบอกให้ทหารที่มาช่วยทำครัวช่วยกันทำปลาและล้างหอย ส่วนนางก็นำผักกรูดไปล้างจนสะอาด และนำไปผัดน้ำมัน ส่วนรากของมันนางนำไปตากแห้งเก็บเอาไว้ เพราะรากผักกรูดมีสรรพคุณช่วยรักษาพิษแผลในกระเพาะได้ เผื่อว่าจะเกิดประโยชน์ยามต้องการใช้สอย

เหล่าทหารช่วยทำปลาและล้างหอยจนสะอาด ไต้ฝูหรงนำปลาพวกนั้นมานึ่งกับสมุนไพร และส่วนหนึ่งแบ่งไปทำน้ำแกงปลา ส่วนหอยตลับนั้นนางนำมาล้างให้สะอาดและทำเมนูหอยตลับสอดไส้หมูสับ หอยตลับมีรสชาติหวานและเค็ม อีกทั้งมีรสเย็น มีฤทธิ์ขับความร้อนและล้างพิษ ส่งเสริมการขับปัสสาวะและลดอาการบวม อีกทั้งยังส่งเสริมการสมานแผล ดีต่อเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลย ส่วนเนื้อหมูป่าบางส่วนนางก็นำมาย่างไฟอ่อนๆ ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย พร้อมกับตบท้ายด้วยขนมหวานคือขนมน้ำตาลดอกกุ้ย มื้อนี้ก็นับว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

นางตักแบ่งอาหารส่วนหนึ่งใส่กล่องอาหารและมุ่งหน้าไปที่กระโจมของกงเหล่ยเช่นที่เคยทำทุกวัน

ตั้งแต่ที่นางเป็นแม่ครัวทำอาหาร กงเหล่ยรู้สึกว่าตนเองกิินข้าวได้มากกว่าแต่ก่อนไม่น้อย อีกทั้งยังเจริญอาหารมากด้วย แม้แต่เฉิงซุนยังชมว่าเขาดูอิ่มเอมขึ้นเป็นกอง เหล่าหทารเองก็มีความสุขเพราะได้กินอาหารดีดี เมื่ออารมณ์ดีพละกำลังก็ดีตามไปด้วย

หลังจากที่ส่งอาหารให้เขาแล้วนางก็ไปทำงานที่ตนทำค้างเอาไว้ เรื่องซักผ้าอันใดเทือกนั้นเหล่าทหารไม่ให้นางทำ เพราะทหารในค่ายมีหลายแสนหลายหมื่นนาย นางทำคนเดียวย่อมไม่ไหว หน้าที่นี้จึงละเว้นไปเสีย

ด้านกงเหล่ยนั้นหลังจากกินอาหารอิ่มแล้ว  เฉิงซุน เซียวเย่และเฉิงซานที่เพิ่งกินอาหารอิ่มแล้วเช่นกันก็มาหาเขาที่กระโจม  พร้อมกับรายงานความเป็นไปในระยะนี้ให้เขาฟัง

เมื่อได้ฟังจบกงเหล่ยก็ถึงกับส่งเสียงเหอะออกมา เว่ยอ๋องคนดีถึงกับเกณฑ์เหล่าชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดมาออกรบด้วย พวกเขาไม่เคยฝึกฝนอีกทั้งยังไม่เคยออกรบ ทำเช่นนี้เท่ากับลากคนบริสุทธิ์มาตายแทนตน ยิ่งสร้างความเกลียดชังให้บ่มเพาะในใจของราษฎรมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

แต่อย่างไรสงครามย่อมต้องดำเนินต่อไป

"พวกเจ้าคงรู้ดีว่าต้องทำเช่นไร ทหารที่ฝึกฝนกับเหล่าชาวบ้านที่ถูกเกณณ์บังคับมาออกรบฝีมือย่อมแตกต่างกัน หากพวกเขาสู้ไม่ไหวและยอมถอยก็อย่าได้สังหาร แต่จับตัวไว้เผื่อเป็นประโยชน์ในภายหน้า ส่วนทหารที่มาจากราชสำนักและทหารของเว่ยอ๋องก็สังหารทิ้งให้หมด ไม่ต้องละเว้น อีกสองวัน เราจะต้องบุกเข้าประตูเมืองหลวงแคว้นเว่ยให้ได้ หลังจากนั้นก็สังหารเว่ยอ๋องซะ อย่าให้มันมีหน้าหนีไปแคว้นเกาได้เป็นอันขาด อีกเรื่องหนึ่ง ข้าส่งจดหมายไปหาหลัวเยี่ย บอกให้เขาเตรียมกำลังเสริมเอาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว"

ทุกคนพยักหน้ารับ เมื่อวางแผนหารือกันเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงแยกย้ายไปพัก

กงเหล่ยยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้วตน ระยะนี้เขาค่อนข้างเหนื่อยล้าไม่น้อย ไหนจะต้องรับศึกที่เข้ามาประชิด  ไหนจะต้องจัดการรายงานทางทหารในแต่ะวัน ช่างวุ่นวายไม่น้อยเลย

แต่ก่อนตอนที่ท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ เขาเองก็มักจะเคยเห็นท่านพ่อวุ่นวายเช่นนี้จนแทบไม่มีเวลากลับจวน ยามนั้นเขายังไม่เข้าใจในความลำบากของท่านพ่อ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว

นอกจากจะต้องสะสางปัญหาในแต่ละวันแล้ว ยังต้องสร้างขวัญกำลังใจให้กับเหล่าทหารนับหมื่นนับแสนที่ฝากความหวังเอาไว้กับตนอีกด้วย

ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอันใดไปเรื่อยเปื่อย ก็ได้ยินเสียงทหารด้านนอกเอ่ยว่าไต้ฝูหรงมาขอพบ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะบอกว่าให้นางเข้ามาได้ เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าไปมองก็พบว่านางกำลังยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน

"ท่านอ๋อง ข้ามาเอาเสื้อผ้าของท่านไปซักเจ้าค่ะ"

กงเหล่ยเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยกับนางทันที

"ข้าจะให้ทหารเอาไปจัดการเอง เจ้าไม่ต้องลำบากหรอก มีหน้าที่ทำอาหารก็พอแล้ว"

"ทหารเหล่านั้นล้วนมือไม้หยาบกระด้าง อีกทั้งข้ายังเห็นว่าเสื้อผ้าของท่านอ๋องมีหลายตัวที่ขาดแล้ว ข้าจะนำไปประชุนให้ ให้ข้าทำเถอะนะเจ้าคะ ข้าเต็มใจทำ ท่านไม่ต้องจ่ายเงินให้ข้า ข้ายินดีทำด้วยใจเจ้าค่ะ"

"ข้าบอกว่าไม่ต้อง!"

อาจเพราะความเหนื่อยล้าและเคร่งเครียดทำให้น้ำเสียงที่เขาเอ่ยกับนางออกจะแข็งกระด้างไปเสียหน่อย ไต้ฝูหรงชะงักไปทันที ดวงตากลมโตฉายแววผิดหวัง ใบหน้าสวยหวานคล้ายจะหม่นหมองลงไปอย่างเห็นได้ชัด

อยู่ๆกงเหล่ยก็รู้สึกผิดในใจขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

บัดซบ เหตุใดเขาจะต้องมารู้สึกผิดด้วย!

"ท่านอ๋องเจ้าคะ ข้าเพียงอยากจะดูแลท่าน ตอบแทนท่านเท่านั้น"

น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยเจือแววตัดพ้อและออดอ้อนในคราเดียวกัน อยู่ๆกงเหล่ยก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองแข้งขาอ่อนขึ้นมาอีกครา น้ำเสียงที่เอ่ยกับนางก็ดูอ่อนลงกว่าคราแรกเป็นอย่างมาก

"เช่นนั้นก็ตามใจเจ้าเถิด แต่อย่าทำจนไม่มีเวลาพักเล่า ข้าไม่อยากได้ชื่อว่าทารุณสตรี"

เมื่อได้ยินเขาเอ่ยเช่นนั้นแววตาของไต้ฝูหรงพลันทอประกายเจิดจ้าอย่างไม่ปิดบัง นางยิ้มให้เขา ก่อนจะจัดการนำเสื้อผ้าของเขาไปซัก กงเหล่ยมองดูสตรีน้อยที่มีท่วงท่าคล่องแคล่วด้วยความสนใจคราหนึ่ง

นางไม่เคยแสดงท่าทียั่วยวนเขาเยี่ยงสตรีนางอื่นๆ แต่มันกลับทำให้เขาใจสั่นหวาบหวิวได้อย่างน่าประหลาด 

อยู่ๆร่างกายของชายหนุ่มก็เริ่มร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกหน 

ความรู้สึกเช่นนั้นเกิดขึ้นกับเขาอีกแล้ว

        มารดามันเถอะ เห็นทีคืนนี้ถ้าไม่ชักออกเขาคงต้องอัดอั้นจนตายเป็นแน่!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 20 ตอนจบ

    ด้านไต้ฝูหรงนั้นตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยและมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา นางเดินวนไปวนมาอยู่ในเรือนเพื่อรอฟังข่าวของกงเหล่ยเกาฮ่องเต้หนีหัวซุกหัวซุนด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่่ว่าจะหนีไปทางไหนก็มีแต่เหล่าทหารไล่ล่าเขา เกาฮ่องเต้ถึงกับก้าวขาไม่ออก ไม่คาดคิดว่าตนเองจะมีวันนี้เดิมทีเขาสะกดวิญญาณของกงอวี้ไปแล้ว และไม่เชื่อว่ากงเหล่ยจะสามารถสังหารตนได้แต่ยามนี้เขารู้แล้วว่าตนเองคิดผิดเกาฮ่องเต้เริ่มลนลานด้วยความหวาดกลัว เขาไม่สนใจคำเตือนของทหาร วิ่งหนีออกมาจากวงล้อมป้องกัน สุดท้ายเมื่อได้เห็นคนตรงหน้าที่กำลังยื่นดาบพาดบนลำคอของเขา เกาฮ่องเต้ก็ถึงกับก้าวขาไม่ออก"เจ้า!""ไม่ได้พบกันานเลยนะ ท่านลุงเกา!"เกาฮ่องเต้มือไม้สั่นเทิ้มไปหมด เมื่อนึกถึงศีรษะของเกาข่ายบุตรชายอันเป็นที่รักซึ่งถูกกงเหล่ยสังหาร เขาก็กัดฟันกรอด"ข้าจะฆ่าเจ้า เอาหัวเจ้ามาเซ่นสังเวยให้กับวิญญาณของบุตรชายข้า!"กงเหล่ยเมื่อได้ฟังกลับส่งเสียงหัวเราะออกมา เกาฮ่องเต้ที่เห็นอย่างนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลซึมออกมาเต็มแผ่นหลัง กงเหล่ยยกมือขึ้นส่งสัญญาณ หลัวเยี่ยก็พุ่งเข้าจัดการสังหารทหารและแม่ทัพใหญ่ของเกาฮ่องเต้ตกตายไปจนหมด เกาฮ่องเต้ร้องคำรา

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 19 ล้มตระกูลเกา

    สงครามจบสิ้นลง ทหารของเกาข่ายล้วนถูกสังหารจนหมดสิ้นไม่เหลือซาก ครั้งนี้กงเหล่ยไม่ได้ใจดีเฉกเช่นครั้งก่อน ที่จะเก็บทหารจงรักภักดีกลับใจเอาไว้ใช้งาน อย่างไรทหารพวกนั้นก็ถูกเกาฮ่องเต้ฝึกฝนมานานหลายสิบปี ไม่เหมือนกับชาวบ้านที่มีใจภักดี เขาจึงไม่คิดจะเก็บเอาไว้แม้เพียงคนเดียวแคว้นเซี่ยตอนนี้กลับสู่ความสงบเฉิงซานและหลัวเยี่ยนั้นได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก แต่ทว่าเซียวเย่กลับได้รับบาดเจ็บที่แขนเป็นแผลใหญ่ กว่าจะห้ามเลือดได้ต้องใช้เวลาอยู่นาน โชคดีที่เขาไม่ได้เสียแขนไป ไต้ฝูหรงและท่านหมอจ้าวสลับกันช่วยดูแลเขา เซียวเย่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดเล็กน้อย เขาเอ่ยขอบคุณท่านหมอจ้าว ก่อนจะหันมาเอ่ยกับไต้ฝูหรง"ศิษย์น้องเล็ก ข้าปลอดภัยดีแล้ว เจ้าไปดูศิษย์ใหญ่กงเถอะ หากเจ้ายังไม่ไปอีก พี่ใหญ่กงคงได้ตามมากระทืบข้าซ้ำแน่ ข้ายังไม่อยากถูกเขากระทืบจนตายหรอกนะ สตรีในหอนางโลมยังรอข้าอยู่"ไต้ฝูหรงหัวเราะออกมาเล็กน้อย แม้นางจะแต่งงานกับกงเหล่ยแล้ว แต่เซียวเย่ยังคงยืนยันที่จะเรียกนางว่าศิษย์น้องเล็ก นางเองก็ไม่ถือสาอันใด อย่างไรสำหรับนางแล้ว เขานับว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีสำหรับนางเมื่อทุกคนปลอดภัยไร้กัง

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 18 ชัยชนะที่วาดหวัง

    ไต้ฝูหรงตกใจจนแทบสิ้นสติ นางหันมองซ้ายขวาตอนนี้มีแต่ห่าธนูที่พุ่งเข้ามาหมายจะสังหารพวกนาง แต่ยามนี้ไม่อาจปล่อยให้ท่านเฉิงซุนอยู่ที่นี่ต่อได้ โลหิตของเขาไหลออกมามากเกินไป ต้องหาทางผ่าเอาลูกธนูออกและห้ามเลือดโดยเร็วที่สุด!ไต้ฝูหรงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะตัดสินใจประคองท่านเฉิงซุนขึ้นมาและพาเขาเดินฝ่าลูกธนูออกไปโดยมีเหล่าทหารที่ยังรอดชีวิตคอยคุ้มกัน ท่านเฉิงซุนยังไม่ได้หมดสติ เขาจ้องมองสตรีข้างกายที่ประคองตนเดินฝ่าลูกธนูอย่างไม่เกรงกลัวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย"นะ นายหญิง ปล่อยข้าเอาไว้บนนี้เถอะขอรับ! "ไต้ฝูหรงเม้มริมฝีปากแน่น นางพาเฉิงซุนลงมาด้านล่างได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เขาจะหมดสติไป พลันได้ยินเสียงของนางเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ข้าไม่มีวันทิ้งท่าน พวกเราถ้าอยู่ก็อยู่ด้วยกัน ถ้าตายก็ต้องตายด้วยกัน กงเหล่ยยังอยู่ข้างนอก เขาเคารพท่านดั่งบิดา ข้าเองก็เช่นกัน เฉิงซานหลานของท่านและแม่ทัพทุกคนก็ยังรอให้ท่านต้อนรับพวกเขากลับเข้าเมืองหลังจากพวกเรารบชนะ หากท่านตาย ข้าคงไม่อาจมองหน้าพวกเขาได้ ท่านจะต้องอดทนไว้นะเจ้าคะ ข้าจะไม่มีทางยอมให้ท่านตายเด็ดขาด!"ท่านเฉิงซุนยิ้มอย่างอ่อ

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 17 ศึกครั้งใหญ่

    เสียงต่อสู้ดงกึกก้องไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ยามนี้กองทัพแคว้นเซี่ยกำลังสู้รบกับกองทัพของเกาข่ายอย่างไม่กลัวตาย พวกเขาใช้สมุนไพรพิษที่ไต้ฝูหรงมอบให้นำไปอาบย้อมบนอาวุธ ก่อนจะเข้าห่ำหั่นกับศัตรู กงเหล่ยควบม้าห้อตะบึงอยู่ท่ามกลางซากศพของเหล่าทหารทั้งสองฝ่าย ใบหน้าหล่อเหลามีโลหิตสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง ขับเน้นให้ใบหน้าเย็นชาของเขาดูดุดันขึ้นไปอีกหลายเท่าวิธีของไต้ฝูหรงนั้นใช้ได้ผล ทหารของฝ่ายตรงข้ามเพียงถูกพิษนั้นเข้าสู่โลหิตไม่นานก็ค่อยๆอ่อนแรงและล้มตายลงไปในที่สุด เพียงไม่นานกำลังทหารของเกาข่ายก็ลดลงไปมากกว่าครึ่งเกาข่ายมองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาตื่นตระหนก เห็นๆอยู่ว่าแรกเริ่มนั้นเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่แท้ๆ แต่แล้วเหตุใดสถาณการณ์จึงพลิกผันเช่นนี้เล่าชายหนุ่มกัดฟันกรอด พลางมองไปเบื้องหน้า "ห้ามถอย ต้องตัดหัวกงเหล่ยและสังหารทหารแคว้นเซี่ยให้จงได้!"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ พลางกำมือแน่น ชายหนุ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ไม่รู้ว่าผิดปกติตรงที่ใด เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดวันนี้ทหารแคว้นเซี่ยจึงใช้ผ้าปิดบังใบหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นเพียงดวงตา หรือว่าพวกมันกลัวตาย หากว่าเจ้าน

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 16 สมุนไพรพิษ

    ไต้ฝูหรงมุ่งหน้ามายังภูเขาลูกหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับวัดบนเขา ห่างจากเมืองหลวงของแคว้นเซี่ยมาไม่ไกลมากนัก ฮูหยินผู้เฒ่าให้เหล่าทหารติดตามมาพร้อมสาวใช้อีกหลายคน ไม่นานรถม้าก็หยุดลง ไต้ฝูหรงจึงรีบลงจากรถม้าพร้อมกับเอ่ยกำชับสาวใช้และทหาร"พวกเจ้าคงจำลักษณะของสมุนไพรที่ข้าบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้แล้ว รีบเก็บมาให้มากหน่อย ยิ่งมากยิ่งดี เข้าใจหรือไม่"เหล่าสาวใช้และเหล่าทหารต่างพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบแยกย้ายกันไปเก็บสมุนไพรตามที่เจ้านายของตนสั่ง ไต้ฝูหรงเองก็เดินขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรหลายอย่างมาเพิ่มเช่นเดียวกัน นางสะพายกระบุงไว้บนหลังตน และเก็บสมุนไพรอย่างรวดเร็ว เหล่าสาวใช้และทหารต่างมองนางด้วยสายตาที่ตกตะลึง นายหญิงของพวกเขายามปกติดูบอบบางและน่าทะนุถนอมยิ่ง แต่ในยามนี้กลับดูแข็งแรงและว่องไวมาก แรกเริ่มพวกเขาต้องขึ้นลงเขาเพื่อหาสมุนไพรจึงรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน แต่เมื่อได้เห็นว่านายหญิงยังไม่บ่นสักคำ อีกทั้งยังไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย พวกเขาจึงมีแรงใจมากยิ่งขึ้นใช้เวลาไม่นานก็สามารถเก็บสุมนไพรที่ต้องการได้สำเร็จ ไต้ฝูหรงยิ้มด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบเดินทางกลับจวน จากนั้นจึงจัดการล้างทำความส

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 15 ออกรบ

    กงเหล่ยรีบเปลี่ยนมาสวมชุดเกราะ ก่อนจะมุ่งหน้ามายังค่ายทหารในช่วงกลางดึก เมื่อมาถึงก็พบว่าตอนนี้เหล่าทหารต่างเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว สีหน้าทุกคนมีความมุ่งมั่นปรากฏชัดบนใบหน้า ไม่มีความเกรงกลัวใดใดให้เห็นเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความฮึกเหริมและพร้อมออกรบเพื่อปกป้องแว่นแคว้น กงเหล่ยยืนอยู่เบื้องหน้าเหล่าทหาร ในมือถือดาบเอาไว้ แววตาฉายแววมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งเกาฮ่องเต้ไม่มีทางปล่อยแคว้นเซี่ยไป อีกทั้งยังไม่มีทางยอมให้คนตระกูลกงเหลือหนทางรอด ศึกครานี้หนักหนาไม่น้อย อีกทั้งอาจจะต้องสูญเสียกำลังพลไปไม่น้อยเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาย่อมไม่อาจถอย หลายปีที่หลบซ่อนตัวเขาได้ซ่องสุมกำลังทหารลับเอาไว้ร่วมหลายแสนนาย ยามนี้ถึงเวลาที่จะต้องเรียกออกมาใช้งานแล้ว"ศึกครานี้ใหญ่หลวงนัก แต่ข้าเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะผ่านมันไปได้ ขอให้พวกเจ้าเชื่อมั่นในตัวข้า เชื่อมั่นในตัวเอง ช่วยกันปกป้องแว่นแคว้นและขจัดคนชั่วไปให้หมดจากแผ่นดินนี้เสีย!"ทันทีที่กงเหล่ยเอ่ยจบเหล่าทหารต่างชูดาบขึ้นสูง พลางตะโกนกู่ร้องก้องแผ่นดินแคว้นเป่ยและแคว้นฉีบุกประชิดชายแดน อีกทั้งยังยึดเมืองด่านหน้าสำคัญต่างๆของแคว้นเซี่ยไปได้หลายเมือง และ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status