Home / รักโบราณ / ตำนานรักองค์ชายจอมโจร / ตอนที่ 7 ตำนานรักโจรสลัด!!! 1.2

Share

ตอนที่ 7 ตำนานรักโจรสลัด!!! 1.2

last update Last Updated: 2025-07-12 16:39:24

6 ชั่วโมงผ่านไป

 “จบบริบูรณ์...เสร็จแล้ว! ฉันเขียนตำนานรักโจรสลัดเสร็จแล้วเสี่ยวเยี่ยน!!!”ฉิงชวนส่งเสียงบอกเพื่อนด้วยความดีใจเมื่อเธอสามารถมาถึงตอนจบของบทละครดังกล่าวได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมเงยหน้าขึ้นจากจอโน้ตบุ๊ก

 ในขณะที่เสียงเคาะแท่นพิมพ์บนคีย์บอร์ดยังรัวเป็นปืนกลอยู่ในขณะนั้น จากปลายนิ้วของหยู่เยี่ยนเพื่อนสนิท

 “อือ! ดีใจด้วย..รีบๆ ส่งเข้าเมล์เลยแก เสร็จแล้วจะได้รีบมาทำงานของแกต่อ”หยู่เยี่ยนตอบเพื่อนกลับไปโดยไม่หันกลับมามองหน้าเพื่อนรักแม้แต่น้อย สายตายังคงจับจ้องอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า

 หากแต่ยังมิทันทันที่จะทำอะไรประตูห้องทำงานของเธอก็ถูกเปิดออกกว้าง พร้อมร่างอวบอ้วนของเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลรับผิดชอบแผนกบันทึกข้อมูลของศูนย์วิจัยทั้งหมดปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าประตู เล่นเอาหยู่เยี่ยนแทบจะหลบลงใต้โต๊ะไม่ทัน 

 ผลุบ!!! โชคดีที่ฉิงชวนสายตาไว รีบดึงร่างเพื่อนรักให้หลบลงไปอยู่ใต้โต๊ะได้ทันจังหวะเข้าให้พอดี

 “เสี่ยวชวนเดี๋ยวไปชั้น 11 ห้อง 1112 ไปเอาแฟ้มจากห้องนั้นรีบเอามาลงบันทึกข้อมูลอย่างด่วนเลยนะ หลังจากลงข้อมูลเสร็จแล้วให้ส่งไฟล์ลิงค์เข้าที่แผนก ท่านผู้อำนวยการจะได้เปิดเข้ามาอ่านรายงาน”

 “ค่ะหัวหน้า”เธอรับคำอย่างแข็งขัน 

 ฉิงชวนตั้งใจว่าจะรีบขึ้นไปชั้น 11 หลังจากส่งไฟล์บทละครเข้าอีเมล์ให้อาจารย์ของเธอเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะได้ยินทั้งเสียงและสายตาของหัวหน้าแผนกบันทึกข้อมูลร่างอวบอ้วนยังคงยืนมองอยู่เช่นเดิม

 “รีบไปเลยเสี่ยวชวน...เดี๋ยวนี้! รออะไรอยู่”เสียงหัวหน้าร่างอวบลงน้ำหนักชัดเจนและเข้มมากกว่าเดิม

 “หนูจะไปเดี๋ยวนี้เลยคะ”หญิงสาวลุกออกจากโต๊ะทำงานอย่างรวดเร็วพลางส่งยิ้มเจื่อนๆให้กับหัวหน้าคนดังกล่าว ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไป โดยมีสายตาของหยู่เยี่ยนมองตามหลัง

 เพียงไม่นานร่างระหงของหวังฉิงชวนมายืนเคว้งคว้างอยู่บนชั้น 11 ดวงตากลมโตมองป้ายแขวนห้องที่เรียงรายเป็นทิวแถวจนละลานตาไปหมด

 “โอโห่เพิ่งจะเคยขึ้นมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาทำงานที่นี่เกือบสองปี ทำไมถึงได้มีห้องเยอะขนาดนี้นะ”หญิงสาวบ่นพึมพำสองขาก้าวเดินตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกวาดสายตามองป้ายเลขห้อง

 “เจอแล้วห้อง 1112”ฉิงชวนพูดพร้อมยิ้มกว้างออกมาทันทีด้วยความดีใจ แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักเมื่อเธออ่านป้ายหน้าห้องดังกล่าว

 ห้องชันสูตรโครงกระดูก!!!

 เอื้อก!!! เสียงกลืนน้ำลายลงคอได้ยินออกมาอย่างชัดเจน เมื่อล่วงรู้ว่าห้องดังกล่าวมีไว้สำหรับวิจัยเกี่ยวกับอะไร

 “ก็แค่ห้องพิสูจน์ซากคนตายในยุคโบราณ ไม่ใช่ห้องเก็บศพเธอจะกลัวทำไมฉิงชวน”หญิงสาวพูดปลอบใจกับตัวเอง 

 พู้ววว!! เสียงเป่าปากออกมาชุดใหญ่ พร้อมยกคีย์การ์ดที่อยู่ในมือขึ้นมามอง

 คีย์การ์ดที่อยู่ในมือซึ่งเธอได้รับจากศูนย์รักษาความปลอดภัยก่อนจะขึ้นมาบนตึก ถูกทาบลงบนเครื่องสแกนระบบนิรภัยเพื่อปลดล็อกประตูห้องดังกล่าว

 ติ๊ด!!!! แสงสีเขียวปรากฏขึ้นทันใดพร้อมมือเรียวผลักบานประตูดังกล่าวเข้าไปทันที

 “ขออนุญาตค่ะ”ฉิงชวนเอ่ยพร้อมก้าวเดินเข้าไปภายในห้องดังกล่าว

 “เอ้า! ทำไมไม่เห็นมีใครอยู่ภายในห้องเลย แล้วจะรู้ไหมว่าต้องไปเอาแฟ้มตรงไหน”เธอบ่นพึมพำพลางกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ

 ฉับพลัน ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยหยุดชะงักไปที่เตียงยาว ซึ่งมีวัตถุโบราณที่เรียกว่าศพของคนในยุคโบราณที่ถูกขุดพบภายในแผ่นดินจีน และถูกลำเลียงส่งมาทางสถาบันวิจัยให้ทำการตรวจพิสูจน์ประเมินค่าอายุ 

 หากเป็นศพที่ขุดพบในสุสานหรือขุดพบใต้ดินในสถานที่ต่างๆ จะส่งมาที่แผนกตรวจพิสูจน์โครงกระดูก เพื่อค้นหาว่าอยู่ในยุคสมัยใดหรือมีชีวิตอยู่ในช่วงยุคใดในสมัยโบราณ หากเป็นวัตถุโบราณไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตามจะถูกส่งไปตรวจพิสูจน์ที่แผนกโบราณวัตถุ

 สองขาเรียวยาวค่อยๆ ก้าวเดินตรงไปที่ร่างไร้วิญญาณซึ่งนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงพิสูจน์เพื่อหาค่าวัดต่างๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น มีบางอย่างชักนำให้ฉิงชวนตรงเข้าไปหาซากศพร่างนั้น ซึ่งเหลือแต่โครงกระดูกโดยมิได้มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย 

 ทันทีที่ร่างระหงมาหยุดยืนอยู่ชิดริมเตียงดังกล่าว ดวงตากลมโตคู่สวยมองโครงกระดูกร่างนั้นด้วยความแปลกใจ ความรู้สึกของเธอบอกว่าช่างคุ้นเคยเสียนี่กระไร

 “เป็นใครกันนะ เหลือแต่โครงกระดูกแบบนี้ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”เธอพูดพร้อมก้มลงสำรวจโครงกระดูกด้วยความอยากรู้ว่าเป็นเพศอะไร 

 ดวงตาคู่งามเหลือบไปเห็นสายคล้องแขนตรงข้อมือขวาของซากโครงกระดูกมีข้อความระบุอะไรบางอย่าง ก่อนจะเงยหน้าเหลียวซ้ายแลขวาสำรวจไปทั่วห้องจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่

 “ขออนุญาตดูหน่อยนะว่าคืออะไร ต่อมเผือกทำงานเห็นแล้วอดไม่ได้จริงๆ”หญิงสาวยืนพึมพำพลางเอื้อมมือหยิบป้ายที่คล้องอยู่ตรงข้อมือซ้ายพลิกหงายขึ้นมาเพื่ออ่านข้อความที่ระบุอยู่ภายในนั้น

 “ศพท่านหญิงจากอูเจี๋ยน”หญิงสาวเอ่ยชื่อดังกล่าวจากป้ายคล้องข้อมือพลางขมวดคิ้วสวยเข้าหากันทันที

 “ศพนี้เป็นผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ”ฉิงชวนพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะวางป้ายข้อมือลงตามเดิม

 ฉับพลันเสียงหนึ่งดังแว่วแทรกขึ้นมากระทบโสตประสาทของฉิงชวน

 “เฉียนเฉียน!!!”เสียงเรียกชื่อเล่นของเธอดังขึ้นมาเบาๆ

 และนั่นทำให้ฉิงชวนหยุดชะงักทันใด พร้อมหันกลับไปมองทั่วบริเวณห้องที่ไม่มีใครอยู่เลย นอกจากเธอ

 “เสียงใครเรียกชื่อเล่นเรา...แปลกจัง”ฉิงชวนบ่นพึมพำพลางยักไหล่ไหวไปมาพร้อมก้าวเดินออกจากเตียงพิสูจน์ซึ่งมีโครงกระดูกปริศนานอนสงบนิ่งอยู่ในขณะนั้น

 “เฉียนเฉียนอย่าไป!”เสียงเรียกชื่อเธอรั้งร่างไว้ให้รอ

 และนั่นทำให้ร่างระหงของหญิงสาวซึ่งกำลังเดินออกจากเตียงพิสูจน์ดังกล่าวนิ่งงันไปทันที เมื่อเธอได้ยินเสียงเรียกดังมาจากซากโครงกระดูกที่กำลังนอนสงบนิ่งอยู่ในขณะนี้

 “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีเสียงเรียกดังออกมาจากทางด้านหลังเราว้า มิหนำซ้ำไอ้ที่อยู่ด้านหลังเป็นโครงกระดูกคนตายที่กำลังนอนอยู่ด้วย”ฉิงชวนบ่นพึมพำก่อนจะตัดสินใจหันกลับไปมองทันที

 ขวับ!!! ฉิงชวนหันกลับไปมองอย่างทันทีทันใดเพื่อที่จะได้เห็นว่าเสียงที่เธอได้ยินมาจากที่ใดกันแน่ แต่แล้วสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ากลับเป็นเพียงความว่างเปล่าและซากโครงกระดูกที่ยังคงนอนสงบนิ่งอยู่เช่นเดิม

 เฮ้อ!! เสียงถอนหายใจดังออกมาทันใด พร้อมยกนิ้วเขี่ยเข้าไปในรูหูของเธอ

           “กลับบ้านไปเห็นทีจะต้องแคะหูซะแล้ว ได้ยินเสียงแว่วเรียกชื่อตัวเองไปทั่วแบบนี้”เธอบ่นพึมพำพลางก้มลงมองซากโครงกระดูกตรงหน้า มือทั้งสองข้างเท้าอยู่บนเตียงดังกล่าว ก่อนจะตัดสินใจพูดบางอย่างออกมาตามความคิดของเธอ

           “หรือว่าจะเป็นคุณที่เรียกฉัน เพราะภายในห้องนี้ก็มีแค่ฉันกับคุณเท่านั้น กลัวการอยู่คนเดียวใช่ไหม แต่จะว่าไปก็น่ากลัวอยู่หรอกหากต้องอยู่เพียงลำพังตัวคนเดียวแบบนี้ แต่ไม่ต้องห่วงนะพอพวกเขาตรวจพิสูจน์คุณเรียบร้อยแล้ว จะส่งคุณกลับไปอยู่ในสถานที่พวกเขาจัดให้และดูแลเป็นอย่างดีเลย”

 ฉิงชวนพูดปลอบโยนให้กำลังใจก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ร่างระหงยืนมองซากโครงกระดูกดังกล่าวซึ่งเธอปราศจากความกลัวอย่างสิ้นเชิง

           ทันใดนั้นเอง สิ่งที่เหนือความคาดหมายพลันปรากฏขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เมื่อมือเรียวของหญิงสาวซึ่งอยู่ใกล้กับมือของร่างไร้วิญญาณถูกปลายนิ้วทั้งห้าที่มีแต่โครงกระดูกเคลื่อนตรงเข้าจับมือของฉิงชวน

           ห๊ะ!!! หญิงสาวอ้าปากค้างขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจสุดขีด พร้อมมองตามมือของเธอ ซึ่งกำลังถูกมือที่มีแต่โครงกระดูกรวบมือเรียวสวยเอาไว้จนแน่นพร้อมเสียงเรียกที่ได้ยินเมื่อครู่ดังขึ้นอีกครา

           “เฉียนเฉียน!”เสียงเรียกชื่อเล่นของเธอดังออกมาจากซากโครงกระดูกดังกล่าวพร้อมความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับหวังฉิงชวนขึ้นมาทันที

           ทันทีที่มือของโครงกระดูกรวบมือของเธอพร้อมจับเอาไว้จนแน่น ภาพเหตุการณ์บางอย่างผุดขึ้นมาให้เธอเห็นอย่างรวดเร็วๆ ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกฆ่ารัดคอ งานศพที่มีแต่ผ้าขาวดำประดับไปทั่วจวนใหญ่ และเสียงร่ำไห้ปริ่มใจจะขาดเสียให้ได้ พร้อมเสียงเรียกดังก้องให้เธอได้ยิน

           “เฉียนเฉียน!! เฉียนเฉียน!!”เสียงเรียกยังคงดังกึกก้องอยู่ในโสตประสาทของฉิงชวน

           “คะ..ใคร! คะ..ใคร..สะ..เสียงใคร!!!”ฉิงชวนพูดวนไปมาอยู่เช่นนั้น

           ดวงตาคู่งามที่เบิกค้างเมื่อครู่ที่ผ่านมา เริ่มเลื่อนลอย สติที่เคยมีกำลังดับวูบลงอย่างกะทันหัน ร่างงามเริ่มโงนเงนไปมาแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่ในขณะที่มือของเธอยังถูกมือของโครงกระดูกร่างนั้นจับเอาไว้อย่างมั่นคงประหนึ่งเกรงว่าจะหายไปและแล้วสติสุดท้ายก็ดับลงทันที

           ตุบ!!! ร่างระหงของหวังฉิงชวนล้มทาบทับซากโครงกระดูกลงไปอย่างมิรู้ตัว มือที่มีแต่โครงกระดูกนั้นยังคงจับมือของฉิงชวนเอาไว้จนแน่นยังมิมีทีท่าว่าจะยอมปล่อยแต่อย่างใด ก่อนจะรีบคลายมือออก ทันทีที่เสียงเปิดประตูจากนอกห้องดังขึ้น

           กรี๊ดดดดด!!! เสียงกรีดร้องของเจ้าหน้าที่ประจำห้องพิสูจน์กระดูกแผดดังขึ้นมาทันที ครั้นสายตาเห็นร่างของเด็กสาวล้มฟุบอยู่บนซากโครงกระดูกดังกล่าว

           “ช่วยด้วย!ใครก็ได้เข้ามาในห้องนี้!!!”เจ้าหน้าที่ประจำห้องดังกล่าวส่งเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือดังเอ็ดอึง

           เพียงครู่เจ้าหน้าที่ทั้งชายและหญิงต่างแห่กันเข้ามาภายในห้องดังกล่าว ก่อนจะถูกกันออกไปเมื่อฝ่ายพยาบาลมาถึง และเริ่มลงมือปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับหญิงสาววัยรุ่นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะได้ยินเสียงแผดดังก้อง

           “น้องสาวคนนี้หัวใจวาย! รีบเรียกรถพยาบาลเร็วเข้า! เรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้!!!”เสียงเจ้าหน้าที่พยาบาลตะโกนดังกระหึ่ม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตำนานรักองค์ชายจอมโจร   ตอนที่ 85 สัญญารักมั่นสองเรา 1.3 (ตอนอวสาน)

    ยุคอดีตหอเทพธิดาเมืองอูเจี๋ยนยามนี้ภายในหอเทพธิดาเพิ่งเสร็จสิ้นพิธีบูชาไปได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม กลิ่นกำยานหอมฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ กลิ่นดอกไม้นานาพรรณหอมตลบอบอวล ด้วยเทพธิดาโปรดปรานดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมทุกชนิดและตรงหน้าแท่นทำพิธีปรากฏบุรุษสูงใหญ่อาภรณ์ขาว เกศานิลกาฬรับกับดวงเนตรคู่สวย กำลังนั่งคุกเข่าขอพรจากเทพธิดาอูเจี๋ยนด้วยความรักและคิดถึงคนที่อยู่ในหัวใจอยู่ทุกค่ำคืน คำอ้อนวอนจากหัวใจกำลังพรั่งพรูออกจากปากบุรุษคนดังกล่าว“ข้าน้อยเฉินคัง ขออ้อนวอนเทพธิดาอูเจี๋ยน ฝากคำรักมั่นและสัญญาของหัวใจไปถึงฉิงชวนฮูหยินของข้าที่สถิตอยู่สวรรค์เบื้องบน คำรักมั่นที่สัญญาไว้จะมิวันแปรเปลี่ยนไปจากหัวใจของข้าน้อย ขอเทพธิดาได้โปรดนำคำรักของข้านี้มอบให้แก่นางได้ล่วงรู้ หากแม้นเทพธิดาและสวรรค์เบื้องบนเมตตา ขอให้ข้าน้อยได้พบดวงวิญญาณของนางสักเพียงครั้งด้วยเถิด”คำอธิษฐานเพียรเฝ้าอ้อนวอนอยู่ในห้วงคำนึงขององค์ชายหนุ่มรูปงามดวงเนตรสีนิลกาฬทอดสายตาจับจ้องอยู่แต่ภาพวาดตรงหน้า ซึ่งเป็นผู้ลงมือวาดกับมือด้วยความโหยหาและอาลัยรักเป็นยิ่งนัก ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเต็ม

  • ตำนานรักองค์ชายจอมโจร   ตอนที่ 84 สัญญารักมั่นสองเรา 1.2

    9 เดือนผ่านไปมณฑลฝูเจี๋ยนมณฑลฝูเจี้ยนหรือ มณฑลฮกเกี้ยนเป็นมณฑลชายฝั่งทะเลที่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน อาณาเขตทางภาคเหนือติดกับมณฑลเจ้อเจียง ภาคใต้ติดกับมณฑลกวางตุ้ง ภาคตะวันออกติดกับช่องแคบไต้หวัน ฝูเจี้ยนมาจากอักษรนำหน้าชื่อเมืองสองเมืองรวมกันคือฝูโจวและเจี้ยนโอว ชื่อนี้ได้รับการตั้งในสมัยราชวงศ์ถังในยุคสมัยจ้านกว๋อซึ่งเจ็ดแคว้นใหญ่เรืองอำนาจอยู่ในขณะนั้น มณฑลฝูเจี๋ยนก็คือแคว้นหมิ่นเย่ว ซึ่งรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในยุคโบราณจวบจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังรุ่งเรืองเปลี่ยนผันไปตามยุคสมัยที่ผ่านไปภายใต้เรืองร่างงามระหงของหวังฉิงชวน ที่กำลังยืนอยู่บริเวณท่าเทียบเรือฉวนโจว อันเมืองท่าเก่าแก่มีอายุพันกว่าปีซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางทะเลในยุคโบราณ ดวงตาคู่สวยกำลังเหม่อมองน้ำทะเลสีครามอยู่ตรงเบื้องหน้าภาพในความฝันที่มิอาจลืมเลือนไปจากความทรงจำและจากหัวใจของฉิงชวนไปได้เลย บุรุษรูปร่างสูงใหญ่สวมอาภรณ์ขาว เส้นผมสีดำสนิทยาวจนถึงกลางหลังยืนถือตำราอยู่บนเรือ กำลังสอนหนังสือให้แก่สตรีสาวแสนงามและน้องชายตัวน้อยบนเรือซึ่งเป็นของเจ้าเมืองอูเจี๋ยน

  • ตำนานรักองค์ชายจอมโจร   ตอนที่ 83 สัญญารักมั่นสองเรา 1.1

    “เฉียนเฉียน! เฉียนเฉียนลืมตาขึ้นมาสิเจ้า! เจ้าจะทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้นะ! เฉียนเฉียน! เฉียนเฉียน!!!!!”แปะ! หยาดน้ำตาหลั่งรินออกจากขอบหางตาของใบหน้าสวยของหญิงสาว“เฉียนเฉียน!เฉียนเฉียน!”เสียงเรียกที่ค้นหูเป็นอย่างดียังคงดังขึ้นอยู่ชิดริมหูไม่คลาดคราเปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆ กลอกกลิ้งไปมา พร้อมขนตางอนยาวเริ่มกะพริบขึ้นติดต่อกัน ก่อนจะค่อยๆ เปิดขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพอันพร่าเลือนค่อยๆ แจ่มชัดขึ้นพร้อมเพดานเบื้องบนปรากฏอยู่ตรงหน้า ดวงตากลมโตจับอยู่ที่หลอดไฟสีนวลอ่อนๆ กระจายไปทั่วทั้งเพดานครั้นมองไปทางด้านข้างเสาเหล็กสำหรับแขวนขวดยารักษาอาการของคนป่วยพร้อมสายระโยงระยางต่อตรงเข้ากับท่อนแขนขาวผ่องซึ่งอยู่ในชุดของคนไข้ในโรงพยาบาลของกรุงปักกิ่งดวงตากลมโตดั่งตากวางมองไปทั่วห้องก่อนจะเห็นทิวทัศน์ของเมืองใหญ่ในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้ามากมายตั้งตระหง่านอยู่นอกประตูกระจก“นะ..นี่..นี่..ฉัน..ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง! ทะ...ทำไม!...”ฉิงชวนนอนพึมพำอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความรู้สึกสับสนจน

  • ตำนานรักองค์ชายจอมโจร   ตอนที่ 82 เวลาของเจ้าหมดลงแล้ว 1.4

    พร้อมเสียงของเฉินคังดังก้องขึ้นมาทันที“รีบพาออกไปจากที่นี่! สกัดพิษเอาไว้อย่าให้แพร่กระจาย”สิ้นเสียงของเฉินคังเสิ่นข่ายรีบอุ้มร่างไร้วิญญาณออกจากบริเวณดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ติดตามด้วยองครักษ์คนอื่นๆ รีบประคองร่างของคนที่เหลือออกไปตามคำสั่ง คงเหลือเพียงฉิงชวนและเฉินคังเท่านั้นที่อยู่ภายในบริเวณนั้น “เฉินจิ้น! ปล่อยเฉียนเฉียนของข้าเดี๋ยวนี้!”เสียงตวาดดังกระหึ่ม ดวงเนตรเข็งกร้าวลุกโชนอย่างน่าสะพรึงกลัว แต่มิอาจทำอะไรได้ไปมากกว่านี้ ด้วยเพราะเป็นห่วงฮูหยินของตนเป็นยิ่งนักในขณะที่ทุกคนในที่นั้นต่างพากันตกตะลึงไปตามๆกัน ครั้นเห็นบุรุษสองคนที่มีหน้าตาประดุจพิมพ์เดียวกันจนแยกไม่ออกเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉิงชวนได้แต่มองหน้าของคนทั้งสองสลับไปสลับมาอยู่เช่นนั้น“นะ...นี่...มันอะไรกันรัชทายาทของหมิ่นเย่วเหตุใดจึงมีสองพระองค์”ฉิงชวนเอ่ยออกมาด้วยความงุนงง พร้อมเสียงหัวเราะกึกก้องของเฉินจิ้นดังขึ้นด้วยความขบขัน“เจ้ากล้ามากนักนะ!ที่บุกเข้ามาในวังของข้า อุตสาห์รอดตายมาจากโรคระบาดที่อู

  • ตำนานรักองค์ชายจอมโจร   ตอนที่ 81 เวลาของเจ้าหมดลงแล้ว 1.3

    กำแพงวังทิศเหนือทิศเหนือของพระราชวังหมิ่นเย่วหันหน้าออกสู่ทะเล ระยะทางจากประตูวังทางทิศเหนือเดินทางไปยังเรือของเฉินคังที่จอดรอรับอยู่ภายในบริเวณนั้นใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็เดินทางถึงจุดหมาย ร่นระยะเวลาได้สั้นที่สุดและรวดเร็วบริเวณด้านข้างของกำแพงวังทางทิศใต้เป็นแม่น้ำซึ่งเชื่อมต่อกับทะเล และเบื้องล่างเต็มไปด้วยกองทหารของเฉินคังที่ปลอมตนเป็นทหารรักษาวังปะปนอยู่ภายในวังหลวงมีจำนวนด้วยกันถึงห้าพันนายเลยทีเดียวซึ่งเป็นกำลังพลของเฉินคังสามพันนาย และกองทหารจากตระกูลมู่ของเสิ่นข่ายอีกสองพันนาย ผนึกกำลังล้อมวังกำจัดเฉินจิ้นให้จงได้ ท่ามกลางกระแสลมแรงที่พัดมาจากทะเล พระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายเฉินคัง ฉลองพระองค์สีขาวสูงค่า ประดับกวานสัญลักษณ์ขององค์รัชทายาทซึ่งเป็นฉลองพระองค์ของพระเชษฐษา ที่เสิ่นข่ายนำออกมาให้พระองค์ทรงสวมเพื่อปลอมตนเป็นองค์ชายเฉินจิ้นวรกายสูงสง่า องอาจและผึ่งผาย ยืนอยู่ทางเดินบนกำแพงของวังหลวงทอดพระเนตรเรือใหญ่ของพระองค์เตรียมพร้อมรอรับเสด็จกลับเกาะเผิงหู่พร้อมหยางเฉียนเฉียน พระชายาคนงามที่ยังไม่ล่วงรู้จะมีเหตุการณ์ให

  • ตำนานรักองค์ชายจอมโจร   ตอนที่ 80 เวลาของเจ้าหมดลงแล้ว 1.2

    ในขณะเดียวกันพระตำหนักคร่ำครวญร่างระหงของหยางเสวี่ยเหยาในชุดนักโทษคุมขัง ไร้อาภรณ์สูงค่าห่อหุ้มกาย ไร้เครื่องประดับล้ำค่าประดับกายที่บ่งบอกฐานันดรศักดิ์อันสูงส่งของนาง เส้นผมดำขลับยาวถึงเอวปล่อยลงมิได้เกล้าอย่างสวยงาม รองรับเครื่องประดับของพระชายาซึ่งมีพระสวามีเป็นถึงองค์รัชทายาท เจ้าผู้ครองแคว้นที่จะขึ้นปกครองในเบื้องหน้าร่างงามถูกนำตัวออกมาจากตำหนักเดียวดายเพื่อฟังโทษทัณฑ์ของตน“หยางเสวี่ยเหยามีพระบรมราชโองการ!”เสียงของผู้ถือราชโองการดังขึ้นพร้อมร่างของสตรีสาวที่เคยสูงศักดิ์ถูกกดลงให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อรับราชโองการ“คุกเข่าลง! คุกเข่า!!!”เสียงเจ้าหน้าที่กรมอาญาตวาดดุดันก่อนจะใช้เท้าเตะเข้าที่ข้อพับทั้งสองข้างตุบ! ร่างระหงทรุดฮวบลงกับพื้นทันทีเพื่อฟังราชโองการ“พวกเจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก หาญกล้ากระทำการอันไร้มารยาทเยี่ยงนี้กับข้า ข้ามิใช่นักโทษแต่อย่างใดเหตุไฉนต้องกระทำกับข้าเช่นนี้ด้วย เพียงเพราะถูกกล่าวหายังมิได้เข้ารับการสอบสวนจากองค์ไทจื่อพระสวามีของข้าแต่อย่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status