Share

บทที่ 4 ตำหนักเย็น

last update Last Updated: 2025-03-29 02:06:41

บทที่ 4 ตำหนักเย็น

เฟยเฟยนั่งอยู่ในศาลาเล็กภายในสวนตำหนักของเจ้าของร่างเดิม แสงแดดยามเช้าอาบผ่านใบไม้ที่ปลิดปลิวลงมาจากต้นไม้ใหญ่ สายตาคมของหญิงสาวมองไปที่ศาลาอีกหลัง ที่ยังคงมีร่องรอยเผาไหม้อยู่ไกล ๆ

บรรยากาศที่นี่ดูสงบแต่ใจของเธอกลับไม่สงบตามไปด้วย ชีวิตใหม่ในร่างของกุ้ยเฟยไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยคาดคิดไว้ เธอคิดว่าจะได้ไปเมาให้หายเครียดก่อนจะหางานใหม่ต่างหาก

การเป็นพระสนมเอกดูเหมือนจะนำมาซึ่งอำนาจและความสุขสบาย แต่ในความเป็นจริง ชีวิตของเธอกลับเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวและความกดดัน

“นี่มันไม่ใช่สิ่งที่คิดไว้เลย...จะโดนฆ่าเมื่อไรก็ไม่รู้” เธอพึมพำกับตัวเอง สายตามองไปยังสวนที่เงียบเหงา สถานที่ที่ควรจะเต็มไปด้วยคนรับใช้และของประดับหรูหรา กลับเหลือเพียงความว่างเปล่า

เฟยเฟยพยายามปรับตัวกับชีวิตในตำหนักที่ถูกลดความสำคัญจนแทบไม่มีใครเหลียวแล เหลือเพียงแค่สาวใช้เพียงคนเดียวและขันทีชั้นผู้น้อยที่คอยดูแลเธอ แม้ทั้งสองจะซื่อสัตย์และนอบน้อม แต่ความเป็นอยู่ของเธอก็เรียกว่ายังต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในฐานะกุ้ยเฟย

“พระสนมเพคะ วันนี้ของที่นำมาจากคลังหลวงถูกยึดไปอีกแล้วเพคะ” สาวใช้รายงานด้วยเสียงอันเศร้าสร้อย ขณะที่วางถาดอาหารเช้าธรรมดาลงบนโต๊ะ

“อีกแล้วหรือ” เฟยเฟยเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัพย์สินและสิ่งของที่ควรจะได้รับตามฐานะของเจ้าของร่างนี้ถูกยึดไป เธอรู้ดีว่ามันเป็นการกลั่นแกล้งเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเหล่าสนมคนอื่นที่ต้องการให้กุ้ยเฟยรู้สึกต่ำต้อย แต่เธอไม่คิดจะยอมแพ้ต่อเรื่องนี้ง่าย ๆ หรอก เล่นเป็นเด็กกันไปได้ หญิงสาวคิดอย่างรำคาญใจพลางมองอาหารตรงหน้า

“พวกเขาจะให้ข้ากินแค่ข้าวต้มแบบนี้ ทั้งที่ข้าเป็นกุ้ยเฟยเนี่ยนะ” เฟยเฟยตักอาหารในจานที่ดูจืดชืด ทั้งอาหารและของใช้ที่ได้รับไม่เคยตรงตามที่ควรจะเป็น เธอเคยอ่านมาบ้างว่า ตามปกติสนมในวังจะได้รับการปันส่วนข้าวของที่หรูหรา ทั้งอาหารนานาชนิด นางกำนัลคอยรับใช้หลายคน และขันทีที่คอยดูแลตามยศตามตำแหน่ง แต่สำหรับเธอแล้ว สิ่งเหล่านั้นเหมือนถูกลบเลือนไป

“พระสนม... ข้าน้อยเกรงว่า หากท่านไม่จัดการเรื่องนี้ สถานการณ์อาจยิ่งเลวร้ายขึ้นอีก แม้แต่ข้าวสารพวกเรา ก็คงจะหามาไม่ได้แล้ว” ขันทีชั้นผู้น้อยที่ดูแลเธออยู่เอ่ยด้วยความเป็นห่วง

เฟยเฟยพยักหน้า เธอไม่ต้องการอยู่ในสภาพที่ไร้ความสะดวกสบาย หลังจากคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงตัดสินใจทำสิ่งที่คงไม่มีพระสนมคนไหนทำมาก่อน

“ข้าจะไปเบิกของกับพวกเจ้าด้วย” หญฺิงสาวพูดด้วยรอยยิ้ม ที่ของถูกขโมยไปเพราะจูหลิงเป็นนางกำนัลไม่มีขั้น ขันทีน้อยก็หนักกว่าทั้งไม่มีขั้นและยังไม่ได้รับการต้อนรับจากเหล่าขันทีด้วยกัน

แต่ถ้าหากเธอที่เป็นถึงกุ้ยเฟยไปด้วยจะมีใครกล้ากับคนของเธอ แม้จะดูแปลกไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าอดตาย

ช่วงบ่ายวันนั้น เมื่อของที่นำมาจากคลังหลวงถูกส่งมาถึงตำหนัก เฟยเฟยก็ก้าวออกมาพร้อมกับขันทีและสาวใช้ เธอยืนอยู่ตรงประตูตำหนัก จ้องมองพวกที่นำของมาด้วยสายตาเย็นชา

“วันนี้ ข้าจะดูของด้วยตัวเอง” เธอพูดเสียงเย็น ทำให้นางกำนัลจากตำหนักอื่นที่กำลังจะเข้ามาขโมยของชะงักงันไป

“เอ่อ... พระสนม ข้าน้อยไม่คิดว่า...” หนึ่งในนางกำนัลจากตำหนักอื่นรีบกล่าวอย่างเกรงกลัว แต่ไม่ทันจะได้พูดจบ เฟยเฟยก็หยุดนางไว้ด้วยมือที่ยกขึ้นเบา ๆ

“ข้าจะไม่ฟังคำแก้ตัว หากวันนี้ของที่ควรมาถึงข้าอยู่ไม่ครบ ข้าคงต้องรายงานให้ราชองครักษ์ตรวจสอบ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

นางกำนัลตำหนักอื่น ๆ ลอบมองหน้ากันอย่างตระหนก เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ง่ายดายอย่างเคย พวกนางก็ต่างรีบถอยกลับไป เฟยเฟยมองตามพวกนางด้วยสายตานิ่ง ก่อนจะหันไปหาขันทีน้อยที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“พวกเขามักจะขโมยของไปเช่นนี้เสมอหรือ” เธอถามด้วยความสงสัย

ขันทีพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “เหล่าสนมคนอื่นทำการกลั่นแกล้งพระสนมมาตลอด แม้กระทั่งฮ่องเต้ยังไม่ได้ออกคำสั่งให้ยึดข้าวของเหล่านี้แต่นางกำนัลของพระสนมอื่น ๆ ก็มาเอาไป สิ่งที่ท่านประสบเป็นเพียงความอิจฉาของเหล่าสนมเท่านั้น”

เฟยเฟยขมวดคิ้ว “งั้นหรือ... ข้าคิดว่าฮ่องเต้สั่งลงโทษและลืมข้าไปแล้วเสียอีก”

“ไม่ใช่เช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง ทำให้เฟยเฟยหันไปมอง เป็นราชองครักษ์ที่มาตรวจสอบเรื่องไฟไหม้ในคืนก่อน เขาเดินเข้ามาใกล้และโค้งคำนับให้เฟยเฟย

“พระสนมยังคงเป็นที่โปรดปราน อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ได้ถูกส่งไปตำหนักเย็นหรือริบตำหนักคืน”

เฟยเฟยมองเขาด้วยความสงสัย “แล้วทำไมข้าถึงตกอยู่ในสภาพนี้”

ราชองครักษ์พยายามหลบสายตาของเธอ เขารู้ดีว่าหากเขาพูดความจริงมันอาจเป็นการเปิดเผยเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา แต่เมื่อเห็นสายตาของกุ้ยเฟยที่เต็มไปด้วยความสับสน เขาจึงตัดสินใจตอบ ใครจะรู้ว่าวันข้างหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้จะมีตำแหน่งเป็นอะไร

“ที่เรื่องราวเป็นเช่นนี้ก็เพราะข่าวลือที่เกิดขึ้นก่อนหน้า และฝ่าบาทก็ยังไม่ได้รับสั่งอะไร ทั้งยังไม่เสด็จมาที่ตำหนักหลินอันเช่นทุกครั้ง ทุกคนจึงคิดว่าพระสนมถูกทอดทิ้งแล้ว”

เฟยเฟยถอนหายใจเบา ๆ “เป็นอย่างนี้นี่เอง เช่นนั้น ข้าก็ต้องสู้กลับสินะ...”

ราชองครักษ์ไม่ได้กล่าวอะไร นี่เป็นเรื่องของเจ้านาย ต่างคนก็ต่างสรรหาปัญหามาให้กันได้ในแต่ละวัน หน้าที่ของพวกเขาก็แค่ทำให้พระราชวังยังคงสงบสุขเท่านั้น

“ข้าน้อยจะช่วยเท่าที่ทำได้”

และด้วยความช่วยเหลือของราชองครักษ์และขันทีที่ยังภักดีต่อกุ้ยเฟย เฟยเฟยจึงสามารถได้รับข้าวของและสิ่งจำเป็นที่เธอควรจะได้รับกลับคืนมา

แม้ว่าจะไม่ได้ต้องการต่อสู้กับใครโดยตรง เพราะหน้าฮ่องเต้เธอก็ยังไม่ได้เห็นเลยด้วยซ้ำ ใครจะไปอยากแย่งผู้ชายที่ไม่รู้จัก เธอก็แค่อยากกินอยู่สบายให้สมฐานะหน่อยก็เท่านั้น

หากเธอจะอยู่ในฐานะกุ้ยเฟยต่อไป ชีวิตของเธอก็ต้องสบายกว่านี้ เฟยเฟยยิ้มก่อนจะหยิบผลไม้ส่งเข้าปาก

“อา...อร่อยจัง” อดไม่ได้ที่จะชื่นชม ชีวิตก่อน ผลไม้ดี ๆ ได้กินเพียงแค่วันเงินเดือนออกเท่านั้น แต่การเป็นพระสนมแค่เพียงนั่ง ๆ นอน ๆ ก็มีของกินมาส่งถึงตำหนัก ชีวิตที่สุขสบายขนาดนี้ เหตุใดเจ้าของร่างเดิมถึงได้ไม่รักชีวิต ทิ้งมันไปได้อย่างง่ายดาย ก็แค่ถูกชายที่มีหญิงสาวมากมายรายล้อมหลงลืม

จากชีวิตเด็กกำพร้าที่ต้องปากกัดตีนถีบมาตลอด ทั้งทำงานพิเศษไม่รู้กี่งาน นอนบนฟูกเก่าในห้องเช่าที่แทบจะล้มพัง ความฝันที่จะมีชีวิตสบายถูกลืมไปตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้…กลับต้องมานั่งในตำหนักเย็น ท่ามกลางกำแพงสูงและลานกว้างเหมือนคุกที่ไม่มีทางออก

นั่ง ๆ นอน ๆ ยังมีคนรับใช้เอาอาหารมาเสิร์ฟถึงที่ ขนาดในห้องเช่าของเธอยังไม่มีแบบนี้!

“ตำหนักเย็นแค่นี้เองเหรอ สบายยิ่งกว่าชีวิตก่อนเสียอีก” เธอพูดกับตัวเองพลางนอนเหยียดกายลงกับเตียง หัวเราะคิกคัก เพราะรู้สึกว่าชีวิตแบบนี้มันน่าขำจริง ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตำหนักเย็นก็แค่สนามเด็กเล่น   บทที่ 30

    บทที่ 30ไม่นานหลังจากนั้น ตัวแทนของบริษัทก็เข้ามาพบเธอ พวกเขาอธิบายถึงเงินชดเชยที่เธอจะได้รับเพื่อไม่ให้ฟ้องร้องบริษัท แม้จะรู้ว่าเป็นหัวหน้างานที่ทำผิด แต่บริษัทก็ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“เราขอโทษจริง ๆ ครับสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ” ตัวแทนกล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษ “เราหวังว่าคุณจะยอมรับเงินชดเชยนี้และพักฟื้นอย่างสบายใจ”เฟยเฟยมองเงินก้อนโตที่อยู่ตรงหน้า เธอรู้ว่าการตัดสินใจในวันนี้จะส่งผลต่ออนาคตของเธอ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจรับเงินก้อนนั้นไว้เพื่อไม่ให้ฟ้องบริษัท และเพื่อใช้เวลาพักผ่อนกับตัวเอง “ขอบคุณค่ะ” เธอพูดออกมาด้วยน้้ำเสียงเด็ดขาดราวกับยังคงอยู่ในยุคโบราณเฟยเฟยใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลพักใหญ่ ก่อนที่หมอและพยาบาลจะปล่อยให้เธอกลับบ้าน เธอตัดสินใจที่จะไม่กลับไปทำงานที่บริษัทนี้อีก เธออยากเริ่มต้นใหม่ แต่ก่อนหน้านั้นเธอจะต้องพยายามอยู่กับปัจจุบันให้ได้ซะก่อน ในทุกคืนหญิงสาวยังคงฝันถึงชายหนุ่มคนรักที่ห่างกับเธอตอนนี้เป็นร้อยเป็นพันปี เธอมั่นใจว่าเขาจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ กับการจากมาของเธอเฟยเฟยออกไปซื้อด้ายและผ้ามาทำผ้าเช็ดหน้า เธอไม่เคยทำพวกนี้ได้ แต่ตอนนี้กลับทำม

  • ตำหนักเย็นก็แค่สนามเด็กเล่น   บทที่ 29

    บทที่ 29บั้นปลายชีวิตของหลี่อวิ๋น เขาสละราชบัลลังก์ให้กับน้องชายและใช้ชีวิตอยู่ที่สุสานของฮองเฮาเพียงคนเดียวของเขาสุสานแห่งนี้มีขนาดใหญ่โต สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวสะอาดตา มีการแกะสลักลวดลายดอกไม้บานสะพรั่งรอบ ๆ เหมือนสวนของพวกเขา เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความทรงจำ หลี่อวิ๋นเลือกสถานที่นี้เพราะมันตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม มีดอกไม้หลากหลายชนิดบานสะพรั่งรอบ ๆ ราวกับว่าดอกไม้เหล่านั้นก็รู้ดีถึงความรักที่เขามีต่อเฟยเฟยจึงผลัดกันบานไม่เคยหยุด “เฟยเฟย...” เสียงที่เคยหนุ่มกลับแหบแห้งและขาดหายแบบคนมีอายุ เขายังคงจดจำรอยยิ้มของนางอันเป็นที่รักได้ “ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน แม้จะไม่อยากรบกวนเจ้าแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมานั่งอยู่ตรงนี้”เขานั่งอยู่กับสุสานนานหลายชั่วโมง น้ำตาที่รินไหลลงมาบนแก้ม กลายเป็นน้ำตาที่ซึมซาบลงไปในดินที่รอบ ๆ สุสาน มือที่แห้งเหี่ยวปัดฝุ่นบนจารึกหินอ่อนและยิ้มจาง ๆ “อีกไม่นานข้าก็คงจะตามไปเจอเจ้าแล้วไม่ว่าที่ไหนก็ตาม” วันนั้นหลี่อวิ๋นไม่ได้กลับออกไปจากสุสาน เขายังคงอยู่ที่สุสานแห่งนี้ สถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความเจ็บปวดของเขาร่างของอดีตฮ่องเต้ถูกพบหลังจากน

  • ตำหนักเย็นก็แค่สนามเด็กเล่น   บทที่ 28

    บทที่ 28ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันทำให้หลี่อวิ๋นและเฟยเฟยเข้าใจว่าแม้จะมีอุปสรรคใด ๆ แต่หากพวกเขาอยู่เคียงข้างกันก็จะสามารถก้าวข้ามไปได้อย่างมีความสุขโดยไม่คิดเลยว่าเรื่องราวมันจะบานปลายไปได้ถึงเพียงนี้แม้ทุกคนจะรู้ว่ามีการต่อต้านเฟยเฟยอย่างรุนแรง แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าความเกลียดชังจะนำไปสู่การทำร้ายถึงชีวิตได้ หลี่อวิ๋นระแวดระวังทุกย่างก้าวของเฟยเฟย เพราะรู้ดีว่ามีภัยซ่อนเร้นอยู่ใกล้แค่เอื้อมค่ำคืนหนึ่งขณะที่หลี่อวิ๋นทำงานอยู่ในห้องทรงงาน เขาได้ยินเสียงเฟยเฟยเรียกชื่อเขา “หลี่อวิ๋น ช่วยด้วย” เมื่อเขารีบเข้าไปที่ห้องบรรทมก็พบว่าเฟยเฟยนอนหมดสติอยู่ที่พื้นทั้ง ๆ ที่เขาไม่สนอะไรและนำตัวหญิงสาวมาอยู่ตำหนักเดียวกันแล้วแท้ ๆ ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด หลี่อวิ๋นตกใจและรีบเข้าไปกอดนางแน่น เขารู้สึกถึงความเย็นและร้อนของร่างกายที่แปลกประหลาด“ตามหมอหลวงเร็ว และปิดตำหนักเดี๋ยวนี้” หลี่อวิ๋นตะโกนเสียงดังเมื่อหมอหลวงมาถึง หลี่อวิ๋นที่แทบจะตั้งสติไม่ได้ก็ทำได้แค่เดินไปมาและจ้องมองหมอหลวงรักษาหญิงสาวที่รักด้วยความกระวนกระวาย “นางต้องฟื้นคืนมา ข้าขอร้อง” เขาพูดเสียงสั่น หมอพยักหน้าแต่สีหน้าก็ไม่มั่นใจ

  • ตำหนักเย็นก็แค่สนามเด็กเล่น   บทที่ 27

    บทที่ 27วันเวลาผ่านไป ภายในพระราชวังยังคงมีเสียงกระซิบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลี่อวิ๋นและเฟยเฟยอยู่ แม้ขุนนางส่วนใหญ่เริ่มยอมรับนาง แต่กระแสต่อต้านก็ยังไม่สิ้นสุด ขุนนางบางคนมักบอกว่านางเป็นปีศาจที่ล่อลวงคนพ่อและยังล่อลวงคนลูกอีกด้วย ความไม่พอใจเหล่านี้ทำให้เกิดความตึงเครียดและข่าวลือที่อาจจะทำให้ตำแหน่งของหญิงสาวสั่นคลอนแต่ในช่วงเวลาที่ทั้งสองเหนื่อยล้าจากหน้าที่ พวกเขาก็มักจะมานั่งคุยกันในสวน “หากการรับสนมจะทำให้พวกเขาหยุดพูด...” “ข้าไม่รับใครนอกจากเจ้า” เฟยเฟยยังไม่ทันพูดจบ หลี่อวิ๋นก็ขัด เรื่องในพระราชวังตอนนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นเพราะอยากได้อำนาจ“ข้ารักแต่เจ้าไม่สามารถแสร้งทำเป็นรักคนอื่นได้หรอก” เฟยเฟยมองหลี่อวิ๋นด้วยความรักแล้วหญิงสาวก็แอบแปลกใจว่า วันเวลามันเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร จากคนแปลกหน้าที่ไม่มีวันได้พบ ตอนนี้กลายเป็นคู่ชีวิตที่นางพร้อมจะรับฟังคำของอีกฝ่าย“อย่าได้ห่วงไปเราจะดูแลเจ้าอย่างดี คงต้องเพิ่มคนดูแลเจ้าอีกหน่อย เรื่องพวกนั้นก็คงต้องปล่อยให้พูดไป คนเชื่อจริงไม่มีหรอก แค่อยากรู้เท่านั้นว่าใครยังกล้าถึงเพียงนี้ มิเห็นตระกูลหนิงหรืออย่างไร”“แม้ข้าจะพยายามทำให้

  • ตำหนักเย็นก็แค่สนามเด็กเล่น   บทที่ 26

    บทที่ 26หลี่อวิ๋นฟังคำนั้นก็หัวเราะเบา ๆ “คิดว่ากำลังจะตัดใจจากเจ้า แต่น่าแปลกเมื่อเห็นเจ้า… ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป”เฟยเฟยรู้สึกถึงความร้อนผ่าวในใบหน้า ขณะที่หญิงสาวนึกถึงช่วงเวลานั้น นางจำได้ว่ารู้สึกแปลก ๆ เมื่อได้สบตากับเขา “ข้าดีใจที่เราได้เจอกัน” หญิงสาวพูดออกมาจากใจ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่นำพานางมาที่นี่นางขอบคุณหลี่อวิ๋นกระชับตัวหญิงสาวที่เดินมาข้างกันให้แน่นขึ้นอีก เขาจับมือของนางอย่างเบามือ “ข้าก็ดีใจที่ได้พบกับเจ้า ทันเวลา...” หลี่อวิ๋นรู้ดีว่าตอนนั้นเขาเพียงแค่รู้สึกว่าต้องทำตามสัญญาหลังจากรู้สึกไม่ดีมานานนับปีและอีกฝ่ายก็เลี่ยงที่จะพบเจอเขา สุดท้ายเขาตั้งใจจะจบทุกอย่าง แต่คนที่เคยหลีกเลี่ยงเขาอย่างเฟยเฟยกลับเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ที่จริงวันนั้นเขาคงตัดใจจากเฟยเฟยในยามเด็กที่กลายเป็นสนมของเสด็จพ่อไปได้ แต่กลับตกหลุมรักคนเดิมอีกครั้ง มีหลายครั้งที่เขาสงสัยถึงท่าทางแปลก ๆ และความสามารถที่เคยมีและเคยไม่มี แต่ยามนี้เขาไม่สนแล้ว นางคือเฟยเฟยของเขาหลี่อวิ๋นหันไปสบตากับหญิงสาวอีกครั้ง ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยนแล่นผ่านไปทั่วร่าง สายลมที่พัดผ่านทำให้ดอกไม้รอบตัวไหวเอน เหมือน

  • ตำหนักเย็นก็แค่สนามเด็กเล่น   บทที่ 25

    บทที่ 25หลังจากเรื่องราววุ่นวายผ่านไปไม่นาน เมื่อหลี่อวิ๋นเริ่มจัดการทุกอย่างในพระราชวัง ราชกิจต่าง ๆ ก็เป็นชายหนุ่มที่จัดการ เมื่อทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางฮ่องเต้ก็หมดห่วงและจากไปในพระราชวังที่เคยมีความรุ่งเรืองและอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ ขณะนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบสงัด เดินผ่านไปทางไหนก็ได้ยินเพียงเสียงแผ่วเบาของการร้องไห้ ทุกซอกทุกมุมของวังเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความเศร้าโศกฮ่องเต้สิ้นพระชนม์แล้ว การจากไปของเจ้าชีวิตทิ้งความว่างเปล่าไว้ในใจของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพระสนม ข้าราชบริพาร หรือแม้แต่ชาวบ้านที่อยู่ภายนอกวังหลวง ทุกคนล้วนแต่รู้สึกเสียใจจากการสูญเสียครั้งใหญ่นี้เฟยเฟยยืนอยู่ที่กลางพระตำหนัก น้ำตาไหลอาบแก้ม ใจของนางเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยเมื่อคิดถึงอีกฝ่าย หลังจากเรื่องของนางและหลี่อวิ๋นชัดเจนขึ้นมา หญิงสาวก็ได้เข้าเฝ้าทั้งฮ่องเต้และฮองเฮาบ่อยครั้ง ทั้งสองเหมือนเป็นคนเติมตะเกียงเพื่อส่องทางให้แสงสว่างในชีวิตที่จะต้องใช้ในวันข้างหน้าของหญิงสาว แม้จะเตรียมใจแต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องสูญเสียพระองค์ไปเร็วเช่นนี้ ความรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดกัดกินหัวใจของทุกคนในพระราชวังหลี่อวิ๋นประ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status