โดยในระหว่างที่เตชินท์ก้มลงไปทำแบบทดสอบที่เธอให้ ธารดาราก็ทำเป็นหยิบหนังสือสอนภาษาในกระเป๋าขึ้นมาเปิดอ่าน แต่ความจริงแล้วเธอกำลังแอบใช้ดวงตากลมโตของตนเองลอบมองไปที่เด็กหนุ่มฝั่งตรงข้าม
‘เตชินท์เป็นคนหน้าตาดี ผิวขาว รูปร่างสมส่วนแบบชายไทย แต่ติดตรงที่ใบหน้าของเจ้าตัวออกไปทางหวานมากเกิน ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะริมฝีปากที่มันออกสีชมพูระเรื่อ หรือไม่...ก็อาจจะเป็นเพราะขนตา ก็ขนตาของเตมันทั้งงอนทั้งยาวเลยหนิ!’ ธารดาราแอบคิดในใจ แล้วก็นึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดในร้านคาราโอเกะเมื่อสามวันก่อน...
วันนั้นหลังจากเลิกงานธารดารากับกลุ่มเพื่อนพากันไปกินเลี้ยงที่ร้านคาราโอเกะ เนื่องในโอกาสที่สถาบันสอนภาษายิ้มรับของพวกเธอเริ่มได้รับผลกำไรตอบกลับมาบ้างแล้ว ซึ่งกว่าจะมีวันนี้พวกเธอทั้งสี่คนก็ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเลย
แล้วในระหว่างที่ธารดาราเดินออกมาจากห้องร้องคาราโอเกะเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เธอก็เจอเข้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งมันเกิดขึ้นกับคนที่เธอเคยสนิทแต่ก็ไม่เจอกันมานานหลายปี
“ปล่อย! กูบอกให้ปล่อย!!” เตชินท์ตวาดใส่คิมหันต์ เนื่องจากตอนนี้อีกฝ่ายจับเท้าขวาของเขาเอาไว้
“ทำไม? มึงอายหรือวะ สามปีที่ผ่านมามึงไม่รู้จริง ๆ หรือว่ากูชอบมึง!” พูดจบ คิมหันต์ก็ปล่อยมือจากเท้าข้างที่เตชินท์ใช้ถีบตนจนตกลงมาจากเก้าอี้เมื่อครู่ แล้วรีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปกอดคนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
ผลัวะ!!
“กูเห็นมึงเป็นแค่เพื่อน! กูไม่ได้ชอบมึงไอ้คิม!!” เตชินท์จ้องคนที่ล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้งอย่างเอาเรื่อง
“แต่ที่ผ่านมากูก็ยังไม่เคยเห็นมึงมองผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนเลยสักคน ใครมาสารภาพรักกับมึง มึงก็ปฏิเสธเขาไปหมด แฟนสักคนมึงก็ยังไม่เคยมีเลยด้วยซ้ำ วัน ๆ กูเห็นมึงอยู่แต่กับเกมส์หรือไม่ก็อยู่กับพวกกู จนกูคิดว่ามึงอาจจะชอบ...กู”
“มึงคิดไปเอง” เตชินท์เริ่มหนักใจเพราะถีบก็แล้ว ต่อยก็แล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าคิมหันต์จะยังพูดไม่รู้เรื่อง สงสัยก่อนที่เขาจะเดินทางมาถึงร้าน อีกฝ่ายน่าจะดื่มเข้าไปไม่น้อยแล้วเป็นแน่
เตชินท์จึงแอบคิดเอาไว้ว่าหากคิมหันต์พุ่งตัวเข้ามาหาเขาอีกครั้ง เขาก็คงต้องใช้มวยไทยที่เคยไปเรียนมาจัดการจนกว่าอีกฝ่ายจะสลบ เผื่อว่าหลังจากฟื้นเจ้าตัวอาจจะมีสติขึ้นมาบ้าง แต่...เมื่อยืนมองคิมหันต์ต่อไปอีกสักพัก อีกฝ่ายกลับร้องไห้ออกมาอย่างหมดรูป เขาจึงหันหลังเพราะคิดจะไปตามเพื่อนในห้องร้องคาราโอเกะออกมาช่วยลากคิมหันต์กลับบ้าน
“เดี๋ยว! ไอ้เต...หรือว่ามึงชอบไอ้วิน? แต่ไอ้วินมันมีแฟนแล้วนะโว้ย!”
เตชินท์ถอนหายใจออกมาอย่างแรงหนึ่งครั้ง ก่อนจะหันกลับไปตวาดว่า
“กู...”
“ผึ้ง แกแอบมองใครอยู่น่ะ?”
หลังจากได้ยินเสียงทักของวิวรดา ธารดาราก็รีบพุ่งตัวเข้าไปปิดปากของอีกฝ่าย ก่อนจะลากเจ้าตัวกลับห้องร้องคาราโอเกะทันที
แล้วก็ด้วยเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น วันถัดมาธารดาราจึงคิดจะแอบถามเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเตชินท์จากคนเป็นแม่ แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก...สายธารแม่ของเธอก็เล่าเรื่องที่ภัสสรกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้กับเตชินท์ ซึ่งภัสสรสนใจอยากจะจ้างครูจากสถาบันสอนภาษายิ้มรับของเธอ เมื่อได้ยินเช่นนั้นธารดาราจึงรีบเสนอตัวเองทันที
แต่ก็ด้วยความที่ธารดาราไม่ได้เจอกับภัสสรและเตชินท์มาเกือบเจ็ดปี แล้วในวัยเด็กเธอก็มักจะชวนเตชินท์ออกไปเล่นซน ซึ่งในบางครั้งก็มีไปทะเลาะวิวาทกับเด็กแถวบ้าน แล้วก็บ่อยครั้งที่ความซนและความไม่ค่อยยอมคนของเธอ ทำให้เตชินท์ต้องเจ็บตัวและได้แผลกลับไปอวดคนที่บ้าน พอมาถึงตอนนี้ที่เธอคิดอยากจะเข้าไปสังเกตการณ์ เพราะอยากรู้ว่า...อดีตน้องชายข้างบ้านได้เปลี่ยนความชอบไปแล้วจริงหรือเปล่า? เธอจึงตัดสินใจเลือกกลับไปเจอคนทั้งสองอีกครั้งในฐานะของติวเตอร์น้ำหวานแทน!
ซึ่งเอาเข้าจริงธารดาราก็ยังหาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้เลยว่าทำไมเธอถึงได้อยากรู้ว่าเตชินท์เปลี่ยนความชอบไปแล้วจริงหรือเปล่า? เพราะถ้าหากว่าเตชินท์เปลี่ยนไปชอบผู้ชายแล้วจริง ๆ ธารดาราก็ใช่ว่าจะรับไม่ได้ เนื่องจากตัวเธอเองก็มีทั้งเพื่อนเกย์และเพื่อนสาวเทียมอยู่รอบตัวไม่น้อยเลย แล้วอีกอย่างคู่รักแบบชายชายหรือคู่รักแบบหญิงหญิงในสายตาของเธอก็ไม่ต่างอะไรเลยกับคู่รักแบบหญิงชาย
ยิ่งในตอนนี้แม้แต่ตัวธารดาราเองก็แทบจะกลายเป็นสาววายไปแล้วครึ่งตัว เพราะตั้งแต่วันที่เธอเผลอกดเข้าไปดูซีรีส์วายเรื่องหนึ่งตามคำชักชวนของเพื่อนสาวตัวดี ซึ่งมาจนถึงทุกวันนี้ธารดาราก็ยังหาทางออกจากซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แต่เรื่องที่ธารดารากำลังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องความชอบของเตชินท์ก็มีเพียงแค่เพื่อนสาวทั้งสามคนของเธอเท่านั้นที่รู้ ซึ่งซูซี่หรือมนตรีเพื่อนสาวเทียมในกลุ่มก็ได้บอกวิธีสังเกตพฤติกรรมที่จะใช้วัดเรื่องนี้กับเธอมาบ้างแล้วด้วย
แล้วถึงแม้ตอนนี้ธารดาราจะยังไม่รู้ว่าตนเองจะอยากรู้เรื่องความชอบของเตชินท์ไปทำไม แต่เธอก็ตั้งใจเอาไว้ว่า...หลังจากนี้เธอจะคอยสังเกตพฤติกรรมของเด็กหนุ่มอย่างเงียบ ๆ
“พี่น้ำหวาน...พี่น้ำหวานครับ ผมทำแบบทดสอบเสร็จแล้วครับ”
ธารดาราหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเตชินท์ แล้วเมื่อสติกลับมาเธอก็ต้องรีบขยับตัวถอยหลัง เนื่องจากเด็กหนุ่มที่เคยนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้เจ้าตัวได้ย้ายมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ซึ่งอีกฝ่ายกำลังก้มลงมาจ้องหน้าเธอ โดยระยะห่างระหว่างใบหน้าของเตชินท์กับใบหน้าของเธอ มันก็ช่าง...
“เออ...เสร็จแล้วหรือคะ อย่างนั้นเตช่วยไปหยิบแบบทดสอบที่ทำเสร็จแล้วมาให้พี่ตรวจได้ไหมคะ?”
“ได้ครับ”
ธารดาราแอบผ่อนลมหายใจของตนเองออกมา เมื่อเห็นว่าเตชินท์ยอมขยับตัวถอยออกไปแล้ว
.......................................................................
ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ
“เตคะ พรุ่งนี้เตต้องเข้าไปที่โรงงานกี่โมงหรือคะ?” ธารดาราเอ่ยถามเตชินท์ แต่มือทั้งสองข้างกับดวงตาก็ไล่ตรวจดูของใช้ในตะกร้า และกระเป๋าเสื้อผ้าให้กับบุตรทั้งสอง “ไม่เข้าครับ เพราะผมสั่งให้ไอ้นัฐเข้าไปตรวจดูการติดตั้งแทนผมแล้ว” “อย่างนั้นวันพรุ่งนี้...” พูดยังไม่ทันจบ เสียงของบุตรชายก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน “คุณแม่ครับ น้าซูซี่โทรมาครับ” “ขอบคุณครับลูก” จากนั้นธารดาราก็เดินไปคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสาว แต่ผ่านไปไม่ถึงสองนาที เธอก็เดินกลับมาหาเตชินท์ แล้วก็คงจะด้วยเพราะระยะเวลาในการพูดคุยที่ไม่ปกติ รวมกับความไม่พอใจเล็กน้อยที่เธอน่าจะเผลอแสดงออกทางสีหน้า เตชินท์จึงเอ่ยถามออกมาว่า “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือปล่าครับ?”
ธารดารานั่งมองความวุ่นวายในห้องรับแขก เนื่องจากตอนนี้พี่ธีร์หรือเด็กชายธีร์ธาดางามรุ่งวัยห้าขวบกำลังรับบทลงโทษจากผู้เป็นพ่อด้วยการไปนั่งเข้ามุมเป็นเวลาสามนาที หลังจากที่เจ้าตัวกระชากหุ่นยนต์ตัวโปรดออกมาจากมือของน้องฟ้าหรือเด็กหญิงเนตรนภา งามรุ่งวัยสามขวบครึ่ง เป็นเหตุให้น้องฟ้าล้มก้นกระแทกพื้นร้องไห้จ้า ซึ่งเหตุผลที่พี่ธีร์กระชากหุ่นยนต์ออกมาจากมือน้องฟ้าก็เพราะว่า น้องฟ้าจับหุ่นยนต์ตัวโปรดของพี่ธีร์ฟาดลงกับพื้นไปแล้วสองครั้ง ธารดาราก้มมองบุตรสาวตัวน้อยบนตัก เมื่อครู่เจ้าตัวเพิ่งจะร้องไห้ฟ้องพ่อว่าโดนพี่ชายแกล้ง แต่เวลานี้กลับนั่งอมยิ้มกินขนมอยู่บนตักของเธอเสียแล้ว นี่ขนาดเธอกับเตชินท์มีบุตรด้วยกันเพียงแค่สองคนนะเนี่ย! แล้วถ้าหากในวันนั้นชายหนุ่มไม่ยอมเปลี่ยนความคิดของตัวเอง แล้วยังคงยืนยันที่จะมีลูกด้วยกันให้ได้หกคนตามความคิดของเธอ
เตชินท์เดินออกมาจากห้องน้ำ เขาก็ไม่เห็นธารดารานั่งรออยู่บนเตียง หรือที่โต๊ะเครื่องแป้งเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา แล้วเมื่อเขาหันไปมองแถวโถงทางเดิน เขาก็เห็นหญิงสาวกำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์น้ำ ‘ผึ้งดื่มเบียร์!’ ตั้งแต่รู้จักกันมาธารดาราไม่ใช่คนดื่ม หากไม่ใช่ในงานเลี้ยงหรืองานสังสรรค์ หญิงสาวไม่เคยหยิบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ขึ้นมาดื่มให้เห็นเลยสักครั้ง ‘แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น?’ เตชินท์เดินเข้าไปหาธารดาราพร้อมกับเอ่ยเรียก และเอื้อมมือไปเขย่าที่ต้นแขนของหญิงสาวเบา ๆ “ผึ้งครับ” “เตอาบน้ำเสร็จแล้วหรือคะ?” “ครับ เออ...ผึ้งเป็นหรือเปล่าครับ? หรือว่ามี...” ถามยังไม่ทันจบ ธารดาราก็ลากเตชินท์
“เตคะ ตื่น! วันนี้เรามีแพลนที่ต้องไปทำกันหลายอย่างเลยนะคะ” ธารดาราเขย่าแขนคนที่โอบกอดร่างกายของเธอเอาไว้ จนเธอไม่สามารถขยับตัวออกมาได้ “ตอนนี้กี่โมงแล้วหรือครับ?” “สิบโมงค่ะ” “เมื่อรู้สึกตัว...ก็รีบปล่อยผึ้งได้แล้วค่ะ ผึ้งจะได้ลุกไปอาบน้ำ” “แต่ผมยังไม่อยากลุกเลยนี่ครับ” ธารดารามองสามีของตัวเองอย่างระอา เวลานี้อ้อมแขนของอีกฝ่ายก็ยังคงกอดรัดร่างกายเธอเอาไว้จนแน่น แถมเตชินท์ก็ยังขยับใบหน้าเข้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอของเธออีก ธารดาราจึงกล่าวเสียงเข้มขึ้นว่า “เตคะ เราคุยกันไว้แล้วไม่ใช่หรือคะ? และวันนี้...มันก็วันที่ห้าแล้วนะคะ ที่ผึ้งยังไม่ได้ก้าวขาออกจากบ้านพักไปไหนเลย” “ขอโทษครับ” 
แล้วเมื่อเตชินท์ได้รับอนุญาต เขาก็กระตุกปมสายผูกเอวของหญิงสาวใต้ร่างพร้อมกับแหวกชุดคลุมออกทันที “อ่ะ! เตคะ!” ธารดาราตกใจจนเผลอยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้าอกพร้อมกับหนีบขาของตนเองเอาไว้ “ผึ้งสวยขนาดนี้ อย่าปิดเลยนะครับ” พูดจบ เตชินท์ก็ยกมือทั้งสองข้างของธารดาราขึ้นมาจูบ ก่อนจะจับกางออก จากนั้นเขาก็ก้มลงจูบที่ริมฝีปาก ก่อนจะผละออกมาไล่เลียพร้อมกับขบเม้มไปตามร่างกายขาวผ่องของอีกฝ่าย ซึ่งในขณะเดียวกันฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างของเตชินท์ก็ขยับกลับเข้ามาบีบขยำหน้าอกพอดีตัวของธารดารา แล้วเพียงไม่นานริมฝีปากหนาก็ก้มลงไปครอบครองยอดอกของหญิงสาวใต้ร่างทันที “อื้อ...เตคะ เต...” ธารดาราสั่นสะท้านเมื่อต้องรับสัมผัสจากฝ่ามือหนาที่เข้ามาบดคลึงอยู่ที่ทรวงอกของเธอ ไปพร้อมกับปลายลิ้นร้ายและริมฝีปากของคนบนร่างที่ทั้งไล่เลีย ขบกัด ดูดดึงยอดอกทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมา ซึ่งบางทีก็คล้ายกับว่าจะ
หลังจากวันที่ธารดารารับปากเรื่องแต่งงานกับเตชินท์ พ่อกับแม่ของเธอและแม่ของเตชินท์ก็นัดกันไปดูฤกษ์แต่งงานให้กับพวกเธอทันที ซึ่งวันมงคลสมรสที่ผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวหามาได้มีทั้งหมดสามวัน โดยเตชินท์กับธารดาราตกลงใจเลือกวันมงคลที่อยู่ในช่วงเดือนสิบสองของปีนี้ แล้วหลังจากนั้นความวุ่นวายจากการจัดเตรียมงานแต่งก็เริ่มต้นขึ้นทันที แต่ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยหรืออาจจะมีบางเรื่องที่มันดูติดขัดไปบ้าง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ตลอดจนถึงวันแต่งงาน... วันงานมงคลสมรส... ในช่วงเช้าเริ่มต้นด้วยฝ่ายเจ้าบ่าวอย่างเตชินท์เดินทางมาจัดเตรียมขบวนขันหมาก ก่อนจะเคลื่อนขบวนตั้งแต่ปากซอยทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งพอมาถึงประตูบ้านเจ้าสาว...ขบวนเจ้าบ่าวก็ต้องหยุดชะงัก เพราะเจอเข้ากับเพื่อนเจ้าสาวของธารดารา รวมไปถึงบรรดาคุณครูในสถาบันสอนภาษายิ้มรับที่มาช่วยกันกั้นประตูเงินประตูทอง แต่ขบวนเจ้าบ