 INICIAR SESIÓN
INICIAR SESIÓN“ฉันเป็นหมอ มาตรวจอาการของคุณ รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ”
เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนนึกชื่นชมตัวเองที่เก็บอาการได้มิดชิด
คนเจ็บกดยิ้มเล็กน้อย ยิ้มหยันและแววตาเยือกเย็น
“ก็ดี ดีที่ยังไม่ตาย”
ตอบด้วยน้ำเสียงกวนอารมณ์และเริ่มออกแรงฉุดเธอเข้าไปใกล้เตียงมากขึ้น ภายใต้หน้ากากอนามัยสองชั้น เชิญขวัญบิดปาก หมั่นไส้คนเจ็บปางตายที่กำลังแสดงให้เห็นว่าเขาแข็งแรงดีแค่ไหน เธอขืนตัวไว้ในอาการสงบ
“รบกวนปล่อยมือหมอด้วยค่ะ เจ็บแผลหรือปวดตรงไหนไหม”
“ปวด”
แล้วคนเจ็บก็กระตุกแรงกระชากตัวเธอจนเสียหลักล้มลงไปทับแผงอกกว้าง แขนแข็งแรงข้างหนึ่งตวัดมากอดเอวเธอกดไว้ อารามตกใจ เชิญขวัญใช้มือยั้งตัวเองไว้ แต่มือเจ้ากรรมกดลงบนแผ่นท้องแน่นตึงบนแผลที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าก๊อซสีขาว เธอได้ยินเสียงเขาสูดปาก มือเธอรับรู้ถึงความเปียก ผ้าก๊อซสีขาวถูกย้อมด้วยสีแดง เธอรีบผละมือออก
“ทำอะไร”
เสียงที่ถามออกไปแทบเป็นกระชาก พยายามดันร่างกายขึ้น ตาเขียวปัดยามมองหน้าหล่อเหลาที่เจื่อนสีเลือดไปมาก แต่สีหน้ายียวนกวนอารมณ์ ไม่ลดความน่าหมั่นไส้ลง
“ปล่อยด้วยค่ะ”
“คุณหมอนางฟ้าชุดขาวอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าผมปวดตรงไหน ถ้าอยากรู้ชัด ๆ จะขึ้นมานั่งคร่อมหน้าขาผมก็ได้นะ”
เชิญขวัญอยากตะกุยหน้ากับอยากหาอะไรยัดปากเขานัก เธอนึกอยากกดมือลงไปบนแผลเขาอีกสักรอบ คราวนี้จะขย้ำให้เลือดทะลักเลยทีเดียว
“คุณอาจกำลังเบลอฤทธิ์ยา กรุณาปล่อยหมอด้วยค่ะ”
อัคนินทร์แค่นหัวเราะลอดไรฟันกับน้ำเสียงของคุณหมอคนสวย แม้ดวงตาที่อยู่เหนือหน้ากากอนามัยจะดูราบเรียบ แต่เขารู้ว่าเธอกำลังตื่นตระหนกกับการถูกคุกคาม
“แผลคุณอาจจะปริแล้ว ขอหมอดูหน่อยนะคะจะได้เรียกพยาบาลมาทำแผลให้ใหม่”
ทำหน้าที่ได้ดีเลิศ สมกับที่อยากเป็นหมอ...
“แล้วถ้าผมอยากให้คุณหมอเป็นคนทำล่ะ คุณหมอคนเก่งเป็นคนทำให้มันปรินี่นะ”
“ก็ได้ค่ะ รบกวนปล่อยหมอก่อน”
“ผมหลับไปกี่วัน”
“สามวันค่ะ”
“อืม คราวนี้หนักแฮะ” เขาแสยะยิ้ม นึกถึงหน้าพวกที่ทำให้ตนเองมีสภาพนี้ เขาเจ็บหนัก พวกมันตาย อย่างทรมานที่สุด ก็สาสมดีแล้ว
“ผมอยากเช็ดตัวด้วย”
“หมอจะเรียกพยาบาลให้ค่ะ”
อัคนินทร์กวาดมองใบหน้าที่ถูกซุกซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากอนามัย เธอไม่ดิ้นรนตะเกียกตะกายหนี มีเพียงสองมือยันไหล่เขาไว้แข็งขันและดวงตาที่ทอดมองสบตาอย่างออกคำสั่งและมั่นใจในตัวเอง
ดี! เขาชอบคนมีความตั้งใจ
“ผมบอกคุณ ก็ควรเป็นคุณที่ต้องทำ”
หากกระชากหน้ากากเฮงซวยนั่นออก เขาจะได้เห็นสีหน้าแบบไหนกันนะ เธอกำลังเม้มปากหรือแอบด่าทอเขาอยู่หรือเปล่า อัคนินทร์กระตุกยิ้มกับความคิดของตนเอง
ชายหนุ่มยอมคลายมือออกจากเอวคอด คุณหมอสาวหยัดตัวขึ้นรวดเร็ว จากนั้นหันไปสนใจแผล มือเรียวเล็กทำงานว่องไว เสียงใสราบเรียบเอ่ยแนะนำถึงการดูแลแผลระหว่างจัดการกับแผลของเขา ไม่นานผ้าก๊อซสีขาวสะอาดก็ถูกปิดลงบนแผลแทนอันเดิม ตลอดเวลานั้น ตาคมไม่ได้ละจากวงหน้ารูปไข่ กระทั่งเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาพร้อมด้วยอ่างใบเล็กพร้อมผ้าสำหรับเช็ดตัว
เตียงถูกปรับขึ้นเพื่อให้คนเจ็บนั่งได้โดยไม่กระเทือนแผลตรงเอวมากเกินไป
“ขออนุญาตนะคะ”
หมอสาวเอ่ยเสียงเรียบเช่นเคยก่อนจะช่วยถอดเสื้อบนกายแกร่งโดยไม่มีอาการเกร็งหรือเคอะเขิน
“ถอดกางเกงด้วย ผมอยากเช็ดทั้งตัว”
ท่าทางนิ่งสงบของเธอทำให้อัคนินทร์นึกหมั่นไส้
“ถ้างั้นหมอจะเรียกบุรุษพยาบาลให้ค่ะ”
ร่างบางขยับไปหาหัวเตียงเพื่อกดสัญญาณเรียกผู้ช่วย แต่ก่อนมือเรียวจะถึงปุ่มมันกลับถูกจับไว้โดยมือใหญ่
“เมื่อกี้ผมเพิ่งพูดไปเองไม่ใช่เหรอ ผมบอกคุณ คนที่ทำก็ต้องเป็นคุณ”
“แต่”
“ทำไม ทำไม่ได้หรือกลัวอะไร”
ครั้งนี้ อัคนินทร์ได้เห็นนัยน์ตาคู่สวยกลอกไหวก่อนที่เจ้าตัวจะปรับมันรวดเร็วและพยักหน้าเป็นการตอบรับ ผ้าห่มถูกตลบออกไปจากร่างกายส่วนล่าง มือเรียวยื่นมาแตะเอวกางเกงที่มีตราโรงพยาบาลรชานันท์
“คุณดูใจเย็นนะ ทั้งที่คนไข้ชายกำลังร้องขอให้ถอดกางเกงเขา”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเยาะ ทว่ามันไม่ได้หยุดมือเล็กลง เอวกางเกงซึ่งเป็นยางยืดถูกดึงลงโดยที่คนไข้ชายที่ว่าช่วยยกสะโพกขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก
หากก่อนที่กางเกงจะพ้นหน้าตัก ผ้าห่มก็ถูกดึงมาคลุมไว้
“อันที่จริง หมอไม่ได้อายหรอกนะคะ กว่าจะเป็นหมอจนทุกวันนี้ หมอเห็นส่วนนั้นของผู้ชายมาเยอะค่ะ แต่คุณคงรู้ใช่ไหมว่า ห้องพักวีวีไอพีห้องนี้มีกล้อง หมอคิดว่าคุณคงไม่อยากโชว์ให้เจ้าหน้าที่หลังกล้องเห็นหรอก”
หมอสาวเอ่ยเมื่อกางเกงถูกรูดพ้นข้อเท้าออกไป เสร็จแล้วเธอหันไปหยิบผ้าจากอ่างน้ำขึ้นมาบิดพอหมาด ก่อนจะนำมาเช็ดร่างกายผึ่งผายท่อนบน
อัคนินทร์หัวเราะเยาะหยันลอดลำคอ ในอกกรุ่น ๆ ความหงุดหงิดขึ้นมาอย่างที่เขารู้สาเหตุดี ยอมนั่งนิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายวุ่นวายกับการเช็ดร่างกาย เธอเช็ดท่อนบนเสร็จก็หันไปเช็ดท่อนล่าง เฉพาะท่อนขาทั้งสองข้าง ระมัดระวังเป็นพิเศษตรงแผลถูกยิง เว้นบางจุดไว้ เขาเองก็ไม่ได้ไล่บี้ให้ต้องทำ กระทั่งเธอเอาอ่างใบนั้นเข้าไปเก็บในห้องน้ำ ออกมาอีกครั้งด้วยเสื้อผ้าของโรงพยาบาลชุดใหม่สะอาด
“อุ๊ย!”

“คนเลว”“ไม่ยอมบอกไม่หยุดนะ”เธอไม่น่าถูกเขาล่อลวงเลย หลังจากถูกบังคับให้อยู่กับอัคนินทร์มาสามวัน โทรศัพท์ถูกยึดติดต่อใครไม่ได้และไม่ได้ไปทำงาน ป่านนี้เธออาจถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว“บอกชื่อมา” อัคนินทร์เอ่ยถามเสียงนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่เร่งรัดด้วยการพาเจ้าเหินลอยเล่นไปมาช้า ๆเชิญขวัญเม้มปากแน่น ทำท่าไม่ยอมเปิดปากชายหนุ่มหัวเราะร่วน เริ่มเพิ่มความเร็วอีกครั้ง ทิ้งตัวลง แล้วพุ่งขึ้นฟ้า ตีลังกาสามตลบ จนคนในอ้อมแขนกรี๊ดลั่นจนหูแทบแตก“บอกแล้ว ยอมแล้ว ปาลิน... ปาลิน ศุภาสิน”เธอได้แต่ร่ำร้องขอโทษรุ่นน้องเพื่อนสนิทในใจ ขืนไม่ยอมพูด เธอได้อ้วกแตกในไม่กี่วินาทีนี้แน่อัคนินทร์กระชับอ้อมกอด พาร่างนุ่มที่สั่นไปทั้งตัวหมุนร่อนลงช้า ๆ จนเท้าแตะพื้นน้ำ วางเธอลงยืน โอบกอดไว้ไม่ปล่อยกำปั้นเล็ก ๆ ระดมทุบตัวเขาไปทั่ว หน้าสวยแดงก่ำด้วยความโกรธและกลัว“คนเลว คุณมันเลวจริง ๆ ปล่อยฉันเลยนะ”“ตอนแรกใครอยากเล่น”“ใครให้เล่นผาดโผนขนาดนี้ล่ะ” ตอนเห็นเครื่องเล่นครั้งแรก เธออยากเล่นเพราะเคยเธอเห็นสาว ๆ ในคลิปวิดีโอลอยตัวสวย ๆ ไม่ใช่ตีลังกา หมุนรอบทิศจนหัวหมุนแบบนี้ชายหนุ่มหัวเราะลอดลำคอเบา ๆ ฉวยจังหวะที่ปากส
เพราะนอนไม่หลับ เชิญขวัญจึงออกมานั่งเล่นบนระเบียงริมน้ำในตอนเช้ามืด ปล่อยให้อากาศเย็น ๆ ลูบไล้ผิวกาย ถึงอากาศจะเย็นไปสักหน่อย เธอไม่คิดจะกลับเข้าห้องด้านในอีกคนที่นอนไม่หลับ เพราะเฝ้ามองเจ้าของร่างนุ่มมาตลอด เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังคนตัวบางที่นั่งกอดเข่าเจ่าจุกอัคนินทร์สบถคำหยาบคายออกมา ก่อนกระชากร่างเล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้า“บางทีถ้าเธอแทงฉันคืนสักแผลสองแผล อาจทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ”มีดแหลมคมเล่มหนึ่งถูกยัดใส่มือบาง ก่อนจะถูกจับกดลงบนอกกระด้างเปล่าเปลือยเชิญขวัญตาโต จุดที่ปลายมีดปักลงคืออกด้านซ้าย เลือดสีสดซึมออกมาให้เห็น ขณะที่หัวใจเธอกระตุกวาบด้วยความสับสนและใจหายเธอพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุม ขืนแรงเต็มที่ไม่ให้กดปลายมีดลงไปมากกว่านั้น จมูกอบอวลด้วยกลิ่นเหล้าจากลมหายใจอุ่น“คุณเป็นบ้าหรือไง”เธอสับสนทำตัวไม่ถูกเรื่องพ่อก็จริง แต่ไม่เคยคิดจะฆ่าใครอัคนินทร์หัวเราะเสียงเครียด ยอมปล่อยมือบาง เธอก็ขว้างมีดเล่มนั้นทิ้ง ระดมกำปั้นทุบตีกายแกร่งไม่เลือกที่“กี่ครั้งที่ฉันต้องช่วยชีวิตคุณไว้ แล้วคุณยังกล้ายัดเยียดให้ฉันเป็นฆาตกรอย่างนั้นเหรอ คนบ้า ไอ้บ้า เอาหัวสมองส่วนไหนคิด เลว
ที่นี่ไกลจากรชานันทร์พอสมควร“คุณไม่มีงานทำหรือไง คอยวอแวฉันอยู่ได้”อัคนินทร์ทอดสายตามองวงหน้าเนียนสวยนิ่งนาน นึกถึงรายงานที่ได้จากลูกน้อง“ผู้หญิงที่อุ้มท้องลูกเฮียตุลย์คือใคร”คำถามแรกที่เขาเปิดมาทำเอาเชิญขวัญชะงัก“ฉัน... จะไปรู้ได้ยังไง”ค่ำคืนนี้อัคนินทร์ดูเคร่งขรึมกว่าทุกวัน นัยน์ตาคมจ้องเธอเขม็ง เชิญขวัญหายใจไม่ทั่วท้องร่างสูงจะขยับเข้ามาใกล้ โน้มตัวลงเท้ามือทั้งสองกับพนักโซฟาที่หญิงสาวนั่งอยู่ กักเธอเอาไว้ในวงแขน ลมหายใจอุ่นรินรดหน้างาม ตาจ้องสบตา“เธอคงไม่อยากให้เฮียตุลย์มาเค้นเรื่องนี้เองหรอกใช้มั้ยวุ้น” เขาเองก็ไม่อยาก ทางที่ดีสุดคือ เค้นเธอด้วยตัวเอง“เธอไม่แปลกใจเลยนะ ตอนฉันถามเรื่องลูกเฮียตุลย์ นั่นก็ยืนยันได้ว่า เธอเป็นหนึ่งคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ นอกจากไอ้เตกับอาจารย์หมอที่ตายไปแล้ว”เชิญขวัญเมินหลบแววตาคมกริบที่เหมือนจะมองทะลุไปถึงหัวใจเธอได้“ตอนนั้นเธอเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกงานนี่นะใช่มั้ย”“ถ้ารู้ดีขนาดนั้น จะมาคาดคั้นฉันทำไม ทำไมไม่ไปถามคุณเตโชล่ะ”“ฉันชอบคาดคั้นเธอมากกว่า”หน้าคมก็โน้มลงใกล้อีก ปลายจมูกโด่งสวยคลอเคลียแก้มนุ่ม “ฉันให้เวลาเธอสามวัน หวังว่าฉันจะได้ค
ทว่า เธอคิดผิด เมื่ออีกฝ่ายตักเข้าปากอย่างไม่เดือดร้อน มิหนำซ้ำดูท่าเอร็ดอร่อยเสียอีก“ส้มตำเผ็ด ๆ ทำให้ตาสว่างดีเหมือนกัน”เชิญขวัญเบ้ปาก และลงมือกินบ้างโดยไม่รักษาภาพลักษณ์อะไรทั้งนั้นอัคนินทร์อมยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กโดนขัดใจของเธอ รู้เต็มอกว่าเธออยากแกล้งแต่เขาก็ยอม จริงอยู่ว่าอาหารพวกนี้ไม่ค่อยได้กินแต่ใช่ว่าเขาจะกินไม่ได้ชายหนุ่มหยิบทิชชูยื่นไปเช็ดมุมปากสวยเมื่อเห็นว่ามีเม็ดข้าวติดอยู่“กินเลอะเป็นเด็ก”“ฉันยังเด็กอยู่นี่”“จริงเหรอ”สายตาชนิดหนึ่งที่มองมาทำให้เชิญขวัญหน้าร้อน เธอถลึงตาใส่ ตัดสินใจเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจ“คุณจะวุ่นวายกับฉันไปถึงเมื่อไหร่”“วุ้น” อัคนินทร์หยิบไก่ทอดที่ฉีกเอาแต่เนื้อไปวางบนจานหญิงสาว “แทนตัวเองว่าวุ้นสิ น่ารักดี”“กรุณาตอบให้ตรงคำถามด้วย”เธออยากรู้ว่าเขาจะวอแวเธอไปถึงเมื่อไหร่ จู่ ๆ ก็เข้ามาข่มขู่บังคับ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเมื่อท่าทางสาวเจ้าเอาจริงเอาจัง อัคนินทร์ยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ถูกลมพัดมาระหน้าสวยออก มองสบตากันตรง ๆ“ไม่รู้สิ ตอนนี้ยังไม่คิด”ได้ยินคำตอบ เชิญขวัญก็อยากตะกุยหน้าหล่อ ๆ ให้ลายพร้อยนัก อีกฝ่ายยังอุตส่าห์โน้มหน้าเข้ามาพ
“เรื่องคืนบรรลัยนั่นทำกูเหนื่อยแทบอ้วก หยุดสักเดือนยังน้อยไปเลยเฮีย”ตุลายอมให้ อคิน กันต์กลทีย์ มือหนึ่งด้านการขุดค้นความลับของใครต่อใครปล่อยข้อมูลส่วนตัวออกสู่ตลาดมืดก็เพื่อล่อพวกมดปลวกที่จ้องกัดแทะเขามาตลอดให้เผยตัว พวกมันรวบรวมสมัครนักฆ่ามาเพื่อกำจัดเขาที่บ้านพักหรูหราริมทะเลสาบ นั่นคือคืนแดงเดือดที่อัคนินทร์พูดถึง มีคนตายนับร้อยทั้งฝ่ายนั้นและฝ่ายของพวกเขา และแผนการนั้น กลับทำให้ความลับหนึ่งเผยออกมา เรื่องเกี่ยวกับสายเลือดของตุลาที่เกิดจากการทำกิฟต์ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่อคินสืบไม่ได้ ไม่มีข้อมูลว่าใครคือแม่ของเด็ก ตุลามีความสงสัยว่าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เจ้านายและพี่ชายบุญธรรมของเขาจึงร้อนใจบุกไปหาคนที่รับผิดชอบ นั่นก็คือเตโชเขาคงไม่ยอมโผล่หัวมาหาอีกฝ่าย ถ้าวุ้นแสนหวานจะไม่หลบหนีออกมาทำงานทั้งที่เขายังกักตัวเธอไว้ไม่ครบอาทิตย์เก่งกล้าขนาดนั้น เขาน่าจะจัดหนักจนเธอลุกจากเตียงไม่ไหวให้รู้แล้วรู้รอดไป“อย่างมึงนะจะหยุดสักเดือน แค่สามวันมึงก็คันมือคันตีนออกไปวิ่งไล่เชือดคนเล่นแล้ว กูยังแปลกใจทำไมคราวนี้มึงหายหัวไปเกือบอาทิตย์ได้”อัคนินทร์ไม่ตอบ เขาเป็นแบบนั้นจริง ตลอดหลายปีมานี
กำปั้นเล็ก ๆ เหวี่ยงจะฟาดอกกว้าง อัคนินทร์จับไว้ทัน เธอยกอีกมือมาจะตี เขาก็จับไว้ กดลงกับที่นอนเหนือศีรษะเล็ก ยิ้มเยือนชั่วร้าย“จำได้ไหม ฉันเคยบอกเธอไว้ว่าไง”“อะไร”“เมื่อไหร่ที่ฉันกลับมาทวงเธอคืน ฉันจะขังเธอไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน”ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่คิดว่าอัคนินทร์จะจำเรื่องนั้นได้ เธอขึงตาวาววับ กลับได้รอยยิ้มยียวนเจ้าเล่ห์ร้าย“อยากร้ายแล้วเหรอ” คำถามเจือความรื่นรมย์ ตาคมเปล่งประกายร้อนแรง “ได้สิ แสดงความร้ายกาจได้เต็มที่เลยนะ แม่มดน้อย”แล้วเชิญขวัญก็ต้องอุทาน เมื่อถูกพลิกตัวขึ้นคร่อมทับร่างหนาอย่างรวดเร็ว สองมือถูกรั้งขึ้นไปเหนือหัวเขา ยึดไว้ด้วยมือแกร่งข้างหนึ่ง คนใต้ร่างก็หยัดสะโพกขึ้นส่งความเข้มขึงที่เริ่มเหยียดขยายซุกไซ้ซอกขาเธอ เธอสยิวซ่าน ยกสะโพกหนีทันที“ไม่!” เธอจะไม่ยอมอัคนินทร์หัวเราะร่วนตาพราว จับเอวบางดึงลงต่ำกระทั่งปลายความเป็นชายจดจ่อรวงช่อแสนหวาน ผลักดันความแข็งขึงสอดแทรกสู่กายงามทันทีเชิญขวัญเบิกตาโต เสียววาบที่นวลช่อ ปั่นป่วนในช่องท้อง ช่อสาวปริตึงเต็มแน่น เธอยังคิดจะเด้งร่างหนี แต่ถูกจับแน่น อัคนินทร์ชันท่อนขาแกร่งขึ้น แล้วขยับสะโพกขึ้นบดเบียดกร


![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)





