Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-02-03 00:31:24

‘พี่เหนือคะ เสื้อตัวนี้น่ารักไหมคะ’

‘น่ารักครับ เหมาะกับน้องดานะ เอาไหมพี่ซื้อให้’

‘ขอบคุณนะคะ พี่เหนือน่ารักกับน้องดาที่สุดเลย’

นั่นคือคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างพี่เหนือกับเด็กคนนั้น ดารินหรือน้องดา น้องข้างบ้านที่ไม่ได้อยากเป็นแค่น้อง คลิปเสียงเหล่านี้ส่งมาหาฉันเกือบจะทุกวัน แรก ๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่พอนานวันเข้าที่ต้องได้ ฟังแบบนี้แทบทุกวัน มันก็ไม่ไหวปะ ใครไม่หึงก็บ้าแล้ว

มีใครบ้างจะใจดีให้แฟนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ?

เขาบอกไม่ได้คิดอะไรแค่เอ็นดูเหมือนน้องสาว แต่นี่มันมากไปไหม ลืมนัดฉันแล้วพาเด็กคนนั้นไปเที่ยวแบบนี้มันใช้ได้เหรอ หรือเห็นว่าฉันไม่ว่าอะไรเขาเลยได้ใจ จะต้องร้ายใช่ไหม...พี่เหนือคนดีคนเดิมของฉันถึงจะกลับมา

เหนื่อยเหมือนกันนะที่ต้องคอยตามตลอดแบบนี้ ผลัดนัด มาสาย เมื่อก่อนโคตรจะตรงเวลา เผลอ ๆ มาก่อนฉันด้วยซ้ำ เดี๋ยวนี้สิหน้ามือเป็นหลังมือเชียว หรือจะเป็นเหมือนที่คนเขาว่า แรก ๆ อะไรก็ดี แต่พอนานวันจะถึงจุดอิ่มตัว หรือที่ใคร ๆ เรียกกันว่า หมดโปร

ฉันกับพี่เหนือก็คบกันมานานแล้วนะคะ ประมาณหนึ่งปีได้แล้ว เราคบกันก่อนที่พี่พายุจะขอน้ำมนต์เป็นแฟนซะอีก พูดไปก็อิจฉาเพื่อนคนนี้เหมือนกันนะ เพราะพี่พายุเขาน่ารักมากจริง ๆ เสมอต้นเสมอปลายตลอด ถ้าพี่เหนือเป็นแบบนั้นบ้างก็คงดี

เฮ้อ คิดแล้วก็เศร้า แบบนี้ต้องหาที่ระบายความเครียด ในเมื่อวันนี้เขาผิดนัดฉัน ฉันก็จะทำตัวโสดหนึ่งวันก็แล้วกัน ก่อนอื่นต้องโทรนัดแนะหาเพื่อนไปด้วยก่อน   

ตืด... ตืด... ตืด... 

“ว่า” รอไม่นานปลายสายก็กดรับ 

“ไปเที่ยวกัน ฉันเบื่อ” 

“พี่เหนือผิดนัดอีกแล้วเหรอ”

“อืม”

“โอเค ที่ไหนล่ะ”

“ที่ผับแล้วกันแก แค่แกกับฉันสองคนก็พอ คนอื่นปล่อยให้หวานกับแฟนไป”

“โอเค แล้วเจอกัน ฉันจะรีบไป” ว่าจบก็วางสายไป

คนที่ฉันโทรไปคุยด้วยคือเพื่อนฉันเอง น้ำพิ้งค์ ที่เลือกชวนยายพิ้งค์ไปเพราะมันไม่ค่อยมีปัญหากับคู่ตัวเอง ส่วนเพื่อนอีกสองคน น้ำมนต์กับน้ำหวานไม่ต้องพูดถึง พี่เหนือกับพี่ดินหวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ ฉันไม่อยากชวนพวกมันสองคน เพราะถ้ามันมาแฟนมันก็ต้องมา และพี่เหนือก็จะตามมาด้วย ฉันไม่อยากเจอเขาตอนนี้ ฉันยังไม่พร้อมจริง ๆ

ที่สำคัญฉันยังไม่อยากทะเลาะกับเขาด้วย เขาหวงฉันนะ ห้ามฉันเที่ยวผับ มันก็ดีอยู่หรอก ถ้าเขาไม่เอาเวลาที่ควรจะเป็นของฉันไปอยู่กับเด็กนั่น ไม่รู้ว่าน้องแบบไหนถึงได้ดูเอาใจใส่กันขนาดนี้

ช่างเรื่องนั้นเถอะ ฉันไว้ใจเขา ไว้ใจว่าเขาไม่มีทางหักหลังฉัน แม้ว่าช่วงหลัง ๆ เราสองคนจะห่างกันไปบ้างก็ตามที

เอาเป็นว่าวันนี้ฉันจะไปปลดปล่อยความเศร้าให้เต็มที่เลย

T ผับ

แสง สี เสียง บรรยากาศที่เหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลายชอบกันนักหนา ตอนนี้   น้ำทิพย์คนนี้ได้มาถึงแล้วค่า... ผับนี้เป็นผับเปิดใหม่ย่านใจกลางเมืองกรุงเทพ ฉันจึงเลือกมาที่นี่เพราะจะปราศจากคนที่รู้จักคุ้นเคย และข่าวการเที่ยวผับของฉันจะไม่ล่วงรู้ถึงหูพี่เหนือ  

ถึงแม้จะเป็นผับที่เปิดใหม่ได้ไม่นาน แต่นักท่องเที่ยวที่นี่ก็เยอะในระดับหนึ่ง ภายในผับถูกจัดสรรปันส่วนเป็นอย่างดี ฉันชอบการออกแบบของที่นี่อย่างหนึ่ง ด้านนอกตัวผับจะถูกจัดเป็นร้านนั่งชิล (chill) เหมาะสำหรับนั่งฟังเพลงเพลิน ๆ สบาย ๆ ส่วนด้านในจะเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการเต้นหรือมาปลดปล่อยโดยเฉพาะ ยิ่งโซนหน้าเวทีจะดูคึกคักเป็นพิเศษ

จุดขายของร้านและผับแต่ละที่นอกจากจะเป็นการออกแบบร้านสวยบริการดีแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยคือเสียงเพลงและนักดนตรี ร้านไหนพนักงานและนักดนตรีหน้าตาดี ร้านนั้นคนจะเยอะมากจนสังเกตได้

และใช่ค่ะ ร้านนี้ก็เช่นกัน นักดนตรีหล่อมาก พนักงานชายหญิงก็หน้าตาดีทั้งร้าน รวม ๆ แล้วถือว่าเป็นร้านที่เหมาะกับการมาเที่ยวที่สุด

มาครั้งแรกก็ติดใจซะแล้ว แบบนี้คงต้องมาบ่อย ๆ หึ!

“โซนไหนดีครับ”

“ด้านนอกแล้วกันค่ะ”

“เชิญด้านนี้เลยครับ รับอะไรเป็นพิเศษไหมครับ”

“ไม่ค่ะ แค่เปิดโปรธรรมดาก็พอ ขอแก้วสองใบนะคะ”

“ครับ รอสักครู่นะครับ”

พนักงานร้านเข้ามาแนะนำและพาฉันมายังโต๊ะที่ต้องการ ก่อนจะสอบถามเกี่ยวกับพวกเครื่องดื่มนิดหน่อยแล้วแยกตัวออกไป ฉันละสายตาไปมองดูเหล่าผีเสื้อราตรีที่มาท่องเที่ยวทั้งหลายและมองไปยังประตูทางเข้าว่าเมื่อไหร่เพื่อนของฉันจะมาเสียที

รอไม่ถึงห้านาทีโปรเครื่องดื่มที่ฉันเปิดก็ถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมกับแก้วสองใบ พนักงานบริการตักน้ำแข็งใส่แก้วให้ฉันหนึ่งใบและรินเบียร์ให้ฉันด้วย

ส่วนเรื่องราคาแอลกอฮอล์นั่น ต้องบอกว่าโปรที่นี่ราคาไม่แพง โปรธรรมดาเพียงแค่สามร้ายเก้าสิบเก้าบาท จะได้เบียร์มาสามขวด ถ้าอยากได้เครื่องดื่มนอกจากนี้เพิ่มเติมก็สั่งพนักงาน ราคาแต่ละอย่างก็จะแตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน ถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับเครื่องดื่มนั้น ๆ

ที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นเด็กนั่งดริงก์ (drink) ย้ำว่าดริงก์ จริง ๆ เพราะที่ร้านไม่มีนโยบายขายบริการ พนักงานที่นี่ก็มีแต่เกรดดี ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษาที่มาหารายได้ระหว่างเรียน น้องพนักงานบอกฉันว่าเด็กเสิร์ฟผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา ส่วนเด็กนั่งดริงก์จะเป็นคนที่ทำอาชีพนี้อยู่แล้ว ซึ่งจะขึ้นชื่อเรื่องจริตจะก้านการอ้อนขอทิปจากแขก เสน่ห์แพรวพราวและที่สำคัญคอต้องแข็ง! ถ้าคอไม่แข็งนี่เจอไปห้าดื่มสิบดื่มก็น็อกแล้ว

ปึก!

แก้วสีอำพันที่บรรจุเบียร์ไว้ถูกฉันยกกระดกดื่มครั้งเดียวเสียหมดแก้ว ก่อนจะวางมันลงที่โต๊ะและรินเบียร์ในขวดใส่ไว้อีกครั้ง  

“เดี๋ยวค่ะ ปกติที่นี่คนเยอะแบบนี้ไหม”

“เป็นแบบนี้ทุกวันค่ะลูกค้า ยิ่งวันศุกร์กับวันเสาร์คนจะเยอะเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวันหยุดค่ะ”

“อ๋อ เป็นผับเปิดใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวอย่างดีเลยนะ”

“ค่ะลูกค้า ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะ” พนักงานบอกฉันก่อนจะรีบขอตัวออกไป ฉันหันไปมองด้านในโซนหน้าเวทีอีกครั้ง ที่ตอนนี้ขาแดนซ์ (dance) ทั้งหลายได้จับจองพื้นที่เต้นกันอย่างเมามันพลอยทำให้ฉันรู้สึกสนุกไปกับคนเหล่านั้นด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 62 จบ

    ฉันผละออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของพี่เหนือ ก่อนจะเช็ดน้ำตาของตัวเองแล้วยิ้มให้เขาอย่างมีความสุขที่สุดตอนแรกที่เขาบอกว่าอย่าร้อง ฉันก็กะว่าจะไม่ร้องไห้นั่นแหละ แต่ใครมันจะไปอดทนได้เล่า ในเมื่อเขาน่ารักขนาดนี้คิดดูสิบรรยากาศภายในร้าน และอะไรต่าง ๆ ที่เขาทำวันนี้เป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงทั้งสิ้นว่าเขาจะทำ เพราะสิ่งที่เขาทำวันนี้มันตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิญพี่เหนือไม่ใช่คนที่โรแมนติก เขาค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีนิสัยไม่ยอมคน สายเอาแต่ใจ ที่สำคัญเขาหื่นมาก เพราะฉะนั้นการจัดตกแต่งร้านแบบน่ารัก ๆ ที่ฉันเห็นนี่มันสวนทางกับพี่เหนืออย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ที่ฉันเดินลงจากรถและเดินเข้ามา สองข้างทางล้วนประดับประดาไปด้วยหลอดไฟเล็ก ๆ น่ารัก ๆ หน้าประตูถูกประดับไปด้วยดอกไม้ที่ฉันชื่นชอบ ยิ่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน ฉันยิ่งรู้สึกประทับใจ เพราะมันเต็มไปด้วยดอกไม้ ลูกโป่ง และรูปของเรา ที่ขาดไม่ได้เลยคือป้ายคำว่า‘Anniversary 2 years’หลังจากที่เห็นทุกอย่างแล้ว และคิดถึงนิสัยของเขามันเลยทำให้ฉันตื้นตันใจจนอยากร้องออกมาแต่ก็ต้องกลั้นไว้เมื่อเขาห้าม แต่พอฟังเขาพูดประโยคพวกนั้นจบฉันก็ไม่สามารถกักเก็บความรู้สึ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 61

    “พี่เหนือ นี่จะพาทิพย์ไปไหนคะ ไม่เห็นบอกเลยอยู่ดี ๆ ก็บอกให้แต่งตัว”น้ำทิพย์ถามผม เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของเรา ผมจึงจะพาเธอไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้เราอยู่ที่คอนโดครับ ผมกับน้ำทิพย์กลับมาจากบ้านสวนได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว กลับมากรุงเทพเราก็ใช้ชีวิตไปตามปกติอ้อ ผมไม่ได้อยู่กับเธอตลอดเวลานะครับ เพื่อเป็นการให้เกียรติเธอและทางครอบครัว ผมจะมานอนกับเธอที่ห้องหรือให้เธอไปนอนที่ห้องกับผมแค่อาทิตย์ละสามวันเท่านั้นนอกจากนี้ผมยังให้คุณแม่ของผมคุยเรื่องการหมั้นหมายของผมกับเธอไปคร่าว ๆ ทางโทรศัพท์กับคุณพ่อคุณแม่ของเธอแล้วด้วยก่อนผมจะกลับกรุงเทพนั่นเองซึ่งผลจากการที่ผู้ใหญ่คุยกันเรื่องนี้นั้นได้ข้อสรุปว่า หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่กลับกรุงเทพแล้ว พวกท่านจะคุยเรื่องนี้และข้อตกลงกันต่าง ๆ กันอีกที ซึ่งผมและน้ำทิพย์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะถือว่าได้บอกความต้องการของตัวเองออกไปแล้ว ต่อไปก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เขาคุยและตกลงกัน“อ้าวพี่เหนือถามไม่ได้ยินเหรอคะ จะไปไหน” น้ำทิพย์ถามผมหน้ายุ่ง“พาไปที่ที่สำคัญของเราสองคนไงครับ”ผมตอบเธอพร้อมกับยิ้ม น้ำทิพย์ย่นคิ้วคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า“จะพา

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 60

    ระหว่างทาผมก็ถามพนักงานชายไปด้วยว่าทำแบบนี้ทำไม ซึ่งคำตอบที่ได้รับทำให้ผมตาโตด้วยความไม่เชื่อ เพราะพนักงานคนนั้นบอกว่าถ้าทาแป้งและขี้เถ้าแล้วมดแดงมันจะไม่กัด เป็นความเชื่อที่คนโบราณทำสืบต่อกันมา ซึ่งพอเวลาผ่านไปการทำแบบนี้ก็เริ่มไม่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพนักงานของที่นี่เขาค่อนข้างจะเชื่อคำคนโบราณจึงได้เอามาทำที่ไร่นี้ พอว่าที่พ่อตามาเห็นและรู้ว่าได้ผลจึงไม่ได้ห้ามตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะได้ผลจริง แต่พอขึ้นไปบนต้นมะม่วงแล้วก็ต้องชะงัก เพราะสิ่งที่ผมไม่เชื่อกลับสามารถได้ผลดี แต่ใช่ว่าจะไม่โดนกัดเลย มันก็มีกัดบ้างแต่ไม่เท่ากับสามต้นแรกที่ผมไม่ได้ทาพวกมันแล้วขึ้นไปเก็บเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล สำหรับผมแล้วผมเชื่อครับเพราะมันใช้ได้จริงหลังจากเก็บมะม่วงสองต้นสุดท้ายเสร็จแล้วผมกับว่าที่พ่อตาก็กลับมาอาบน้ำที่บ้านก่อนจะมานั่งทานข้าวที่ถูกเตรียมไว้แล้วมื้ออาหารกลางวันเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ไม่มีเสียงกระทบกระทั่งกันไปมาของผมและคุณพ่อของน้ำทิพย์ถึงผมจะค่อนข้างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะไม่ต้องการจุดฉนวนให้ตัวเองโดนเล่นง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 59

    หลังจากที่เมื่อวานได้เปิดอกเปิดใจคุยกับคุณพ่อของน้ำทิพย์แล้ว วันนี้ผมก็ต้องมาทำงานใช้แรงงาน เพราะว่าที่พ่อตาท่านบอกว่าจะมานั่งกินนอนกินไม่ได้ จะมาอยู่ก็ต้องมาช่วยกันทำงาน แม้ว่าที่บ้านสวนจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของพวกท่านก็ตามแต่พวกท่านก็ไม่ได้พักอย่างที่ใครคิด การพักผ่อนของพวกท่านคือการใช้ชีวิตชาวสวน วันนี้ผมจึงต้องมายืนสอยมะม่วงบ้าง ปีนต้นมะม่วงจนมดแดงกัดอยู่แบบนี้ไงครับ“ใช่ ๆ พวงนั้นแหละ ลูกมันดก ขนาดกำลังกิน”เสียงของว่าที่พ่อตาตะโกนส่งมาไม่ขาดสาย ในขณะที่ผมทั้งตัดพวงมะม่วง ทั้งปัดป่ายมดแดงที่ขึ้นอยู่ตามตัวและก็ไอ้มดแดงที่กำลังกัดผมอยู่นี่แหละ ที่ผมกินไข่ของพวกมันเมื่อวานนี้เห็นแบบนี้ก็อดยอมรับนับถือคนงานไม่ได้ที่ต้องมายืนแหงนคอสอยรังของมดแดง เพื่อที่จะนำไข่ของมันไปประกอบอาหารขนาดผมปีนต้นไม้เพื่อเก็บมะม่วงยังโดนกัดขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่ากว่าพวกเขาจะสอยได้แต่ละรังกว่าจะได้ไข่มาต้องลำบากกันขนาดไหน“มัวคิดอะไรอยู่ บอกเอาพวงนั้น พวงนั้น”“ผมก็ตัดอยู่นี่ไงครับว่าที่พ่อตา อย่าเร่งสิครับ มดมันกัดผมอยู่” ผมตะโกนโต้กลับกับคนที่ยืนชี้นิ้วสั่งผมอยู่ด้านล่าง“ผิวหนังด้าน ๆ อย่าง

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 58

    บ้านสวนของน้ำทิพย์มีคนอยู่ไม่มากนัก จะมีแค่คุณพ่อคุณแม่ของเธอที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจตามเวลาที่สะดวก มีน้ำทิพย์ และคนสวนที่ดูแลที่นี่เพียงสองคน คนดูแลบ้านอีกสองคน หลัก ๆ แล้วคนที่อยู่ที่นี่แค่สี่คนเท่านั้น ส่วนลุงเชิดกับป้าชมนั้นเป็นสามีภรรยากัน ลุงเชิดเป็นคนขับรถส่วนป้าชมเป็นหัวหน้าแม่บ้านและเป็นคนสนิทของคุณแม่ของน้ำทิพย์ด้วยเช่นกันอ้อ ผมลืมบอกไปที่เรียกว่าบ้านสวน เพราะบริเวณรอบบ้านของเธอล้วนปลูกผักผลไม้ทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเป็นที่ดินด้านหลังบ้านที่ถัดออกไปอีกไม่ไกล มีเพียงคลองส่งน้ำเล็ก ๆ ขวางกั้นเท่านั้นเพียงก้าวข้าวสะพานไม้ที่ทำไว้ก็จะเจอกับสวนมะม่วงที่ให้คนงานลงปลูกไว้ขึ้นเต็มไปหมดผมโชคดีที่หน้านี้มะม่วงกำลังติดลูก คิดว่าคงจะได้เดินไปชมสวนของบ้านเธอแน่ ๆ ครับ เพราะนอกจากจะปลูกไว้กินแล้วเนี่ย ทางบ้านของน้ำทิพย์ยังส่งมะม่วงให้ตลาดในตัวอำเภอเพื่อขายอีกด้วย“เหม่ออะไรอยู่ ไปได้แล้วลูกเมียฉันรอ ไร้มารยาทจริง”ผมหลุดจากความนึกคิดของตัวเองแล้วเขม่นตามองว่าที่พ่อตาที่เดินนำออกไปไกลแล้ว จึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินตามท่านไปบ้าง“ขอโทษที่มาช้าครับ” ผมรีบพูดทันที เพราะคุณแม่ของน้ำทิพย์กำลังนั่งรออยู่จ

  • ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า   บทที่ 57

    “เจ้าบ้านเขาไม่ต้อนรับก็ยังจะหน้าด้านอยู่อีก” คำกล่าวทักทายแรกหลังจากที่ออกมาจากห้องพัก ก็โดนพ่อตากระแหนะกระแหนใส่ซะแล้ว“คุณพ่อครับ ถ้าไม่เต็มใจต้อนรับผมจะได้พักที่ห้องข้าง ๆ ทิพย์เหรอครับ”“ใครพ่อแก!”“อา... ลืมไปว่าไม่ใช่ งั้นคงต้องเรียกว่า...”“ว่าอะไร”“พ่อตา”“ไอ้เหนือ!”ผมพูดเสร็จก็รีบพาตัวเองเดินลงมายังชั้นล่างของบ้านทันที โดยไม่สนใจคนที่กำลังทำหน้าราวกับจะฆ่าคนของคุณพ่อตาสักนิด แถมยังมียิ้มให้ก่อนจะเดินออกมาด้วย“คุณนทีเป็นอะไรคะ เสียงดังมาถึงข้างล่าง” คุณแม่ของน้ำทิพย์เดินมาชะเง้อขอถามตรงตีนบันได ซึ่งสวนกับที่ผมเดินลงไปพอดีผมยิ้มให้ท่านแล้วเดินจากมา แต่พอมาถึงโซฟาก็เจอน้ำทิพย์ยืนกอดอกขมวดคิ้วอยู่“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“ทิพย์ต่างหากที่ควรถามพี่เหนือว่าเป็นอะไรถึงได้กวนคุณพ่อ จนคุณพ่อเสียงดังแบบนี้”“พี่เปล่าทำอะไรสักหน่อยนะครับ” ผมตีหน้าซื่อตาใสไม่ยอมรับ“พี่เหนือ เราคบกันอยู่แล้วทำไมทิพย์จะไม่รู้สันดาน เอ๊ย!นิสัยของพี่เหนือล่ะคะ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงหน่อยสิคะ”“โธ่... ที่รักก็คุณพ่อของทิพย์ท่านชอบว่าพี่นี่”“แต่ถ้าพี่เหนือยอมท่านปล่อยเวลาไปสักพัก ให้ท่านได้มีเวลายอมร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status