Share

สับสน 4

Author: lianlian
last update Huling Na-update: 2025-07-07 10:06:02

นางพยายามยืนหลบไม่ให้เกิดเงาพาดผ่านประตู ได้แต่รอฟังว่าจิ้งเหอเจ็บป่วยสิ่งใด

"บาดแผลเพิ่งทุเลาไม่นานก็เร่งรุดกลับมาซีหนิง นายท่านช่างไม่ดูตัวเองเอาเสียเลย" เสียงจื่อหนี่ดังแว่วออกมา

หัวใจหมิงเสวี่ยกระตุกวูบ บาดแผล? บาดแผลอันใดกัน?

"แล้วเจ้าจะให้ทำอย่างไร รอพักฟื้นอย่างเร็วหกเดือน อย่างช้าหนึ่งปีอย่างที่หมอหลวงบอกรึ?!" เสียงเฉี่ยวเหมยโวยตามด้วยเสียงผ้าชุบน้ำ

"นายท่านห่วงเสวี่ยเอ๋อร์ยิ่งกว่าตัวเองเสียอีก เจ้าก็รู้ดี"

"แล้วนางเคยรู้หรือไม่ มีแต่ทำให้นายท่านลำบากใจไม่เว้นแต่ละวัน!" คราวนี้เสียงของจื่อหนี่เจือสะอื้นขึ้นมา "ท่านดูสิ บาดแผลกรีดผ่านหัวใจจนอาการสาหัสเพียงนี้! เพราะใครกัน?! เพราะสัญญากับนางใช่หรือไม่ ฆ่าฉู่หลานเทียนแล้วอย่างไร ตัวเองก็เกือบตายไปพร้อมกันเช่นนี้น่ะหรือ!?"

"..." คราวนี้ไม่มีคำพูดจากเฉี่ยวเหมยอีก

"พวกเจ้า...หยุดพูดเสียที" คราวนี้เป็นเสียงอ่อนแรงของจิ้งเหอที่ดังออกมา

หมิงเสวี่ยแข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงนั่งพับเพียบกับพื้นด้วยสมองที่ขาวโพลน

"ข้าฝังเข็มให้ท่านแล้ว อาการทุเลาลงบ้างหรือไม่เจ้าคะ"

"ดีขึ้น" เขาตอบ "จื่อหนี่ ข้าวานเจ้าให้นำสำรับไปให้เสวี่ยเอ๋อร์ทีได้หรือไม่?" ทั
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • ตื๊อรักวาณิช   แก้ตัว 2

    นางหยุดยืนข้างเขาด้วยท่วงท่าสง่างามและส่งยิ้มหวาน มือประสานไว้ด้านหน้าคล้ายคุณหนูจากตระกูลผู้ดี หากทว่า พอเขาตอบนางเสร็จ นางก็ลบรอยยิ้มเหล่านั้น สองมือเปลี่ยนเป็นเท้าสะเอวแทนและพูดด้วยเสียงอันดังว่า"ไป๋จิ้งเหอ! ท่านฟังให้ดี! นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเป็นสาวใช้ของท่าน และข้าจะเกี้ยวท่านให้สำเร็จให้จงได้!"นางพูดไปหน้าก็เริ่มแดง "หากไม่สำเร็จ ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าเสวี่ยเอ๋อร์! เข้าใจหรือไม่?!""..." คราวนี้ท่าทีน้อยใจถูกแทนที่ด้วยความงุนงง จะเกี้ยวเขาอีกครั้งหรือ? นางกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า? "เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้าคิดจะทำอะไร?""ข้าบอกว่าอย่าเรียกข้าเสวี่ยเอ๋อร์ไงเจ้าคะ!" นางเถียง "นายท่าน!"ไป๋จิ้งเหอครุ่นคิด เขาทำสัญญาณมือว่าให้นางรออยู่ตรงนี้ก่อน จากนั้นเขาก็เดินออกไปหน้าห้องและเรียกจื่อหนี่มากระซิบถาม "เจ้าให้นางกินอะไรหนี่เอ๋อร์?""เปล่าเจ้าค่ะ ข้าแค่พูดอะไรกับนางไปสองสามคำ" อีกฝ่ายกระซิบตอบ "นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลดีเพียงนี้”"พูดอะไร?" "ก็แค่ บอกให้นางลองคิดว่าหากนางเป็นท่านนางจะทำอย่างไรเท่านั้นเจ้าค่ะ""แค่นี้รึ?""เจ้าค่ะ"จิ้งเหอหันไปมองหมิงเสวี่ยที่ยืนชะเง้อมองเขาอย่างน่ารัก "นา

  • ตื๊อรักวาณิช   แก้ตัว 1

    นอกจากความรักทำให้หัวตื้อ ความหิวกลับทำให้นางคิดอะไรไม่ออกอีก หันไปเห็นสำรับอาหารที่ไป๋จิ้งเหอนำมาให้ก็ท้องร้องออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว หลังจากไปหาเขาเสร็จแล้ว นางก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำสิ่งใด ได้แต่ซุกตัวอยู่บนเตียงและครุ่นคิดถึงสิ่งที่นางทำลงไป"เสวี่ยเอ๋อร์" คราวนี้จื่อหนี่เดินมาหานางพร้อมสำรับอีกชุดในมือ "นายท่านบอกว่าให้ข้ามาทานอาหารเป็นเพื่อนเจ้า""ขอบใจนะ หนี่เอ๋อร์" หมิงเสวี่ยยิ้ม"เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้ารักนายท่านหรือไม่?" จื่อหนี่ไม่ตอบคำถามนาง กลับถามนางกลับด้วยคำถามคำถามหนึ่ง"รักสิ...ก็เขาเป็นพ่อของลูก...""ไม่ใช่ หมายถึงในฐานะคนรัก""...รักสิ..." นางตอบเสียงแผ่ว "รักมาก..."จื่อหนี่ถลึงตาใส่หมิงเสวี่ยและวางตะเกียบกับชามข้าวเสียงดังด้วยความโกรธจัด "เจ้ารักเขาแล้วทำเช่นนี้กับเขารึ?! เจ้าโกรธเขาแทบล้มประดาตาย กระทั่งทิ้งลูกไว้ให้เขาเลี้ยง แต่เขาทำทุกอย่างเพื่อเจ้า รักเจ้า ทะนุถนอมเจ้า แต่เจ้าไม่เคยใส่ใจ แต่พอเห็นเขาบาดเจ็บเจียนตายเจ้าก็เกิดจะรู้สึกผิด อยากเปลี่ยนใจกลับมาอยู่กับเขาเช่นนี้น่ะหรือ!" จื่อหนี่พูดจนแทบหายใจไม่ทัน "เจ้าตอบข้ามาสิเสวี่ยเอ๋อร์ ที่เขาทำเพื่อเจ้ามาทั้งหมด ให้เจ้า

  • ตื๊อรักวาณิช   สับสน 4

    นางพยายามยืนหลบไม่ให้เกิดเงาพาดผ่านประตู ได้แต่รอฟังว่าจิ้งเหอเจ็บป่วยสิ่งใด"บาดแผลเพิ่งทุเลาไม่นานก็เร่งรุดกลับมาซีหนิง นายท่านช่างไม่ดูตัวเองเอาเสียเลย" เสียงจื่อหนี่ดังแว่วออกมาหัวใจหมิงเสวี่ยกระตุกวูบ บาดแผล? บาดแผลอันใดกัน?"แล้วเจ้าจะให้ทำอย่างไร รอพักฟื้นอย่างเร็วหกเดือน อย่างช้าหนึ่งปีอย่างที่หมอหลวงบอกรึ?!" เสียงเฉี่ยวเหมยโวยตามด้วยเสียงผ้าชุบน้ำ"นายท่านห่วงเสวี่ยเอ๋อร์ยิ่งกว่าตัวเองเสียอีก เจ้าก็รู้ดี""แล้วนางเคยรู้หรือไม่ มีแต่ทำให้นายท่านลำบากใจไม่เว้นแต่ละวัน!" คราวนี้เสียงของจื่อหนี่เจือสะอื้นขึ้นมา "ท่านดูสิ บาดแผลกรีดผ่านหัวใจจนอาการสาหัสเพียงนี้! เพราะใครกัน?! เพราะสัญญากับนางใช่หรือไม่ ฆ่าฉู่หลานเทียนแล้วอย่างไร ตัวเองก็เกือบตายไปพร้อมกันเช่นนี้น่ะหรือ!?""..." คราวนี้ไม่มีคำพูดจากเฉี่ยวเหมยอีก"พวกเจ้า...หยุดพูดเสียที" คราวนี้เป็นเสียงอ่อนแรงของจิ้งเหอที่ดังออกมาหมิงเสวี่ยแข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงนั่งพับเพียบกับพื้นด้วยสมองที่ขาวโพลน"ข้าฝังเข็มให้ท่านแล้ว อาการทุเลาลงบ้างหรือไม่เจ้าคะ""ดีขึ้น" เขาตอบ "จื่อหนี่ ข้าวานเจ้าให้นำสำรับไปให้เสวี่ยเอ๋อร์ทีได้หรือไม่?" ทั

  • ตื๊อรักวาณิช   สับสน 3

    หมิงเสวี่ยเม้มปาก นางไม่ได้นอนคว่ำตามที่เขาบอก แต่...นางนอนตะแคงหันหลังให้เขา ไป๋จิ้งเหอยิ้มเย็นออกมา เขาเอนกายนอนเคียงข้าง ปลายนิ้วลากไปตามแผ่นหลังเนียน หยุดมือทาบลงที่สะโพกอวบ เขาแอ่นกายท่อนล่างจนตัวตนของเขาถูไถกับสะโพกนั้นและขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว "จำได้หรือไม่...ตอนที่เจ้าตั้งครรภ์ เราก็ทำท่านี้กัน...""พ...พูดมากน่ะ...อึ๊ก" ใบหน้างามซุกหมอนนิ่งเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น ขาเรียวถูกยกขึ้นเพื่อให้เขาสอดใส่ได้ถนัดถนี่ ริมฝีปากบางเม้มแน่นเข้าหากันทั้งสองแนบสนิทเป็นหนึ่งเดียว ไป๋จิ้งเหอขยับสะโพกนำ มือเกี่ยวรัดเอวนางไว้แนบแน่นจนนางสัมผัสได้ถึงการเข้าออกที่เกิดขึ้นภายใน"ตอนนั้นข้ายังสัมผัสได้เลยว่าเด็กๆ กำลังดิ้น" เขากระซิบข้างหูนาง"แต่ตอนนี้ข้าสัมผัสได้ว่า..." เขาเลื่อนมือไปไว้ที่หน้าท้องนางและออกแรงกดเบาๆ พร้อมกับขยับกายเข้าออก "ตัวข้านั้นกำลังโบยบินในร่างกายเจ้า...""อื้อ...หยุดพูดนะ" หมิงเสวี่ยยกแขนกดปากตัวเองไม่ให้ร้องครางอย่างสุขสม...แค่ปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาจนเลยเถิดขนาดนี้ก็น่าอายพอแล้ว ถ้าเกิด..."อ๊ะ"แต่จิ้งเหอกลับดึงมือของนางออกพร้อมกับแรงขยับย้ำที่มากขึ้น "ร้องออกมาเถอะ" เขาเม้

  • ตื๊อรักวาณิช   สับสน 2

    "ข้ารู้...ยิ่งเป็นสัญญาที่ให้กับเจ้า ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะทำให้สำเร็จ"หมิงเสวี่ยพยายามสะกดกลั้น...ไม่อยากซาบซึ้งไปกับเขา นาง...ก็แค่ขอให้เขาช่วยก็เท่านั้น ไม่ได้รู้สึกสนิทเสน่หาอันใด ปลายนิ้วนางจิกใส่แผ่นหลังเขาอีกคราเมื่อเขาออกแรงดูดที่อกอวบอย่างแรง หลังบางแอ่นสะท้าน ศีรษะสะบัดเงยไปด้านหลัง เสียงร้องอืออืมดังจากปากไม่ขาดสาย"ห...เหอ...เหอหลาง..." ความรู้สึกเจ็บปวดถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด สองแขนบอบบางกอดเขาเอาไว้ ปลายนิ้วสอดยังเรือนผมของร่างสูงที่เริ่มปล่อยสยายยาวไป๋จิ้งเหอยอมรับว่าตนสะดุ้งเล็กน้อยด้วยไม่คิดว่านางจะเอ่ยคำเรียกนี้เรียกเขา หรือว่านาง...เกิดอารมณ์ขึ้นมาแล้ว?"เสวี่ยเอ๋อร์" เขาผละจากอกนางอีกครั้ง พบว่าใบหน้าขาวนวลแดงเรื่อ ดวงตากลมเริ่มหวานเชื่อม"ท่าน...ท่านมัน..." นางพูดไม่ออก อับอายเหลือประมาณที่เผลอส่งเสียงน่าอายเช่นนั้น"เรามิใช่คนอื่นไกล จะอายไปไย" เขาก้มหน้าลงทำหน้าที่ต่อคล้ายกับสิ่งที่นางทำช่างเป็นเรื่องธรรมดา"แต่ข้าไม่อยาก...ผูกพันกับท่านอีกแล้ว..." นางว่าเสียงสั่น รู้ตัวอีกทีเขาผละใบหน้าออก แล้วอุ้มนางไปไว้ที่เตียง"สายใยระหว่างเราสองคน...ตัดไม่ขาดได้

  • ตื๊อรักวาณิช   สับสน 1

    พอถึงห้อง หมิงเสวี่ยรอให้จิ้งเหอเข้าไปก่อน ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงลั่นดาลจากด้านใน เขามองหน้าภรรยาอย่างนึกฉงนยิ่ง "เสวี่ยเอ๋อร์?" "ท่านบอกอยากช่วยเหลือข้ามิใช่หรือ?" นางคลายสาบเสื้อออก ท่าทางเหมือนโจรป่าหมายขืนใจดรุณีน้อย "ข้าก็จะให้ท่านช่วยอย่างไรเล่า"ชายหนุ่มมองนางอย่างพินิจตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า "เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้า..." คราวนี้เขาอ้าปากน้อยๆ เมื่อเห็นนางปลดกระทั่งสายเอี๊ยมลงเผยให้เห็นทรวงอกสล้างที่กำลังแดงก่ำราวกับจะปริแตก "ระหว่างที่อยู่ข้างนอก ศีรษะเจ้ากระแทกกับอะไรมาหรือไม่?""เปล่าเลย ข้าไม่ได้เจ็บที่ศีรษะ แต่เจ็บที่ตรงนี้!" หมิงเสวี่ยเอานิ้วชี้ที่อกตนเองใจ? นางเจ็บปวดหัวใจอยู่หรือ? ไป๋จิ้งเหออดนึกสงสารไม่ได้ “ความแค้นที่เจ้ามีต่อข้า...มันคงมากมายนักสินะ”"ใช่ มันมากมายจนแทบจะทะลักล้นออกมาเลยล่ะ!" นางหูอื้อตาลายด้วยความเจ็บจนจับใจความไม่ได้ เลยหลงนึกว่าเขานึกถึงเรื่องหน้าอกนาง ที่ทะลักทะลายน่ะ มันน้ำนมข้าต่างหาก! "เจ็บ...เจ็บเหลือเกิน จิ้งเหอ..."เมื่อเห็นน้ำตาของคนรักเขายิ่งรู้สึกใจสลาย จิ้งเหอดึงนางมากอดแนบแน่นจนหมิงเสวี่ยอยากจะกรีดร้อง มารดามันเถอะ! ยิ่งเขากอดนาง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status