เข้าสู่ระบบกรรวีมองสบตากับมนต์สิงหาด้วยความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน...คนเป็นมารดาถึงกับหน้าถอดสี...ก่อนปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่กำลังวิ่งก้าวขึ้นบันไดของลูกชายคนสุดท้อง... จากนั้นจึงช่วยกันพยุงร่างของลูกชายคนโตขึ้นรถ...แล้วรีบนำเขาส่งโรงพยาบาล ด้วยเกรงว่าจะไม่ทันการเพราะเวลานี้เจ้าตัวไม่มีแรงแม้จะทรงตัวยืนเองได้เลย
กรรวียืนมองท้ายรถที่กำลังแล่นออกไปอย่างรู้สึกเป็นกังวล...
เมื่อมองเห็นลมที่กำลังพัดผ่านบริเวณหน้าบ้านเริ่มกรรโชกหนัก...หลังจากนั้นสักพักก็พัดเอาเมฆฝนดำทะมึนลอยมาราวกับสั่งได้...และเธอค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนต์พยัคฆ์นั้น...มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ...
“พี่ลิงคะ..หมอบอกว่าอาการของคุณเสือเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
กรรวีโทรถามอาการของมนต์พยัคฆ์เอากับหนุมาน...เมื่อเวลาผ่านไปนานถึงสองชั่วโมง แต่ยังไม่มีใครส่งข่าวสารมาให้เธอได้รู้บ้างเลย….
ความจริงแล้วกรรวีก็ใช่ว่าจะสนใจ แต่ที่ถามไปนั่นมันก็แค่ตามมารยาทเท่านั้น..เพราะทุกคนในครอบครัวของเขา ต่างก็มีบุญคุณกับหญิงสาวมากมาย...และเธอเองก็ไม่ต้องการทำให้ทุกคนต้องมาทนลำบากใจ
(“หมอเอ็กซ์เรย์ดูภายในแล้วบอกว่าไม่มีอะไรนะ...พี่ว่าพี่เสือคงกินเหล้าเคล้านารีเยอะไปมั้ง...ก็ทุกคืนแทบไม่เคยพัก ข้าวปลากินบ้างหรือเปล่าเราก็ไม่รู้...หมอคงให้ยารักษาตามอาการนั่นแหละ ตอนนี้พี่เสือยังหลับอยู่...น่าจะหมดฤทธิ์ละ เห็นแม่บอกว่า พี่เสือเห็นลูกกวางแล้วว้ากแตกเลยเหรอ...ฮ่าๆ”)
หนุมานเล่าอาการของพี่ชายให้เธอฟัง แล้วยังหัวเราะเสียงดังมาตามสายในตอนท้ายที่ถามคนเป็นน้อง...
หนุมานคือบุตรชายคนสุดท้องของมนต์สิงหา เขาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์อีกทั้งยังอารมณ์ดี และเป็นพี่ชายที่สนิทกับกรรวีมากที่สุด
เขามีชื่อเล่นว่า วอก เพราะเกิดปีวอก แต่กรรวีมักจะเรียกพี่ชายของเธอคนนี้ว่าพี่ลิง...
ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มนั่นทำให้เขาได้เป็นนายแบบแถวหน้า และยังได้เป็นดารานักแสดงดาวรุ่งชื่อดังนั่นอีกต่างหาก...
ถึงแม้หนุมานจะไม่ชอบนั่งเก้าอี้บริหารเท่าไหร่นัก...แต่ทว่าสักวันเขาก็ต้องมาทำมันอยู่ดี
“เหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ...พอเขาเจอหน้ากวางทีไร...เหมือนกวางเป็นสารกระตุ้นต่อมอารมณ์ของเขาทุกที ตลกดีเนอะ!”
เธอเอ่ยกับพี่ชายคนเล็กเสียงอ่อย...ก่อนปล่อยลมหายใจออกมา เมื่อนึกย้อนเวลากลับไปในอดีตที่ยาวนานจนเกือบจะเท่ากับอายุของตัวเอง
“พี่เสือ..”
“ฉันไม่มีน้องสาว!..แล้วก็ไม่อยากจะมีด้วย..ไม่ต้องมานับญาติกับฉันเลยนะ ยายเด็กขยะ!”
นั่นน่ะจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สรรพนามที่ใช้เรียกเขานำหน้า ถึงได้แตกต่างไปจากพี่ชายของเธอทั้งสองคน...
ใช่สิ…เธอมันเด็กขยะที่ทั้งสกปรกและยังน่ารังเกียจ จนไม่อยากให้เธอแม้แต่จะเฉียดเข้าใกล้
ขนาดไม่เห็นหน้าเธอมาหลายปี ความเกลียดชังที่เขามีให้ไม่ได้เจือจางลงไปเลยสักนิด
(“อย่าคิดมากน่า..แล้วก็อย่ามาทำเสียงเศร้าแบบนั้นสิ..วันนี้พี่มีถ่ายละครแล้วต้องเข้าฉากกับไอ้ลีโอ...เราเป็นติ่งมันอยู่ไม่ใช่เหรอ..อยากได้ลายเซ็นต์ไหมละ”)
หนุมานเอ่ยปลอบใจน้อง ด้วยการชวนคุยเรื่องของคนอื่น เพราะไม่อยากเห็นคนเป็นน้องสาวต้องเศร้าใจมากไปกว่านี้ เหมือนตอนที่เจ้าตัวยังเป็นเด็กแล้วชอบแอบไปนั่งร้องไห้เพียงคนเดียวตามลำพัง
หนุมานเห็นกรรวีมาตั้งแต่เธอมีอายุได้แค่เพียงสามเดือน...เด็กหญิงหน้าตาน่ารักรูปร่างอ้วนจ้ำหม่ำ ผิวพรรณขาวผ่องมีออร่าพุ่งเข้าตา ที่ดูไม่เหมือนลูกของชาวบ้านธรรมดา...
กรรวีมีดวงตากลมโตสีน้ำตาลเป็นประกายระยิบระยับ..เหมือนกับตากวาง....ลูกกวาง...ชื่อนี้เขาจึงเป็นคนตั้งให้เพราะฟังดูแล้วน่ารักและสมตัวดี
“ว้าว!.เหรอคะ!..ไม่เอาลายเซนต์ค่ะ..แต่ลูกกวางอยากไปกับพี่ลิงด้วยจังเลย”
(“ว่างหรือไงเราน่ะ...”)
“ไม่ว่างค่ะ..ลูกกวางก็พูดไปงั้น ลูกกวางว่าจะกลับไปอยู่บ้านยายกันย์ที่เพชรบุรี..แล้วเลยไปหาแม่ชีกับหลวงตาที่วัดป่าค่ะ.. ไม่อยากอยู่ให้คุณเสือเห็นหน้า เพราะกลัวว่าความดันของคุณเสือจะขึ้นเอานะสิคะ...ฮ่าๆ”
หญิงสาวหัวเราะขำ เพราะชอบแอบนินทามนต์พยัคฆ์ลับหลังกับพี่ชายคนนี้เป็นประจำ...จนทำให้กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
มีบ้านก็แทบไม่ได้อาศัย เพราะต้องระเห็จไปทางนั้นทีทางนี้ทีเพื่อหลบมนต์พยัคฆ์...จะกลับบ้านแต่ละครั้งก็ต้องคอยโทรถามหนุมานว่าอีกคนยังอยู่ไหม...
ช่วงสองสามปีหลังมานี่ดีหน่อยที่มนต์พยัคฆ์...พักอยู่แต่คอนโดมิเนียมนาน ๆ ทีจะกลับมาบ้านใหญ่ให้เห็นหน้ากัน หรือไม่ก็ถูกเรียกตัวจากคนเป็นมารดานั่นละเขาถึงจะรีบกลับมาหาท่านได้...
นั่นจึงทำให้กรรรวีมีโอกาสกลับมาอยู่กับมนต์สิงหาได้ทีละนานๆ
(“ปิดเทอมแล้วนี่..พี่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกับเราเลยนะ จะกลับเพชรบุรีอีกแล้วเหรอ...ไม่ต้องไปใส่ใจกับพี่เสือมากนักหรอก..ขานั้นพี่บอกได้เลยว่าเดี๋ยวก็กลับคอนโด พี่เสือทนอยู่บ้านได้ไม่เกินสามวันหรอก...ร้อน!...”)
“กวางขอคิดดูก่อนนะคะ...ถ้าคุณเสืออยู่..กวางไม่อยากหลบ ๆ ซ่อน ๆ เกรงใจแม่สิงห์ด้วย..รอแม่สิงห์กลับมาก่อน..แล้วกวางค่อยบอกท่านอีกทีค่ะ”
(“เค..งั้นเดี๋ยวเราเจอกันนะ แม่กวักมือเรียกพี่ละ...พี่เสือน่าจะตื่นแล้วมั้ง”)
แต่ทว่าหนุมานยังไม่ทันได้วางสาย กรรวีก็ได้ยินเสียงของมารดาตะโกนผ่านเข้ามาในโทรศัพท์..พร้อมกับพูดให้เธอได้ยินด้วยว่า
“วอกบอกน้องให้ตามมาที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย”
“ครับแม่..”
(“ลูกกวางได้ยินแล้วใช่ไหม?”)
หนุมานตอบรับมารดา แล้วกรอกเสียงของตัวเองเข้ามาถามน้องสาวที่ยังถือโทรศัพท์ค้างไว้
“ค่ะ...กวางจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”
23.50 น.“พี่เสือ...” เสียงหวานเรียกหาเขาดังแว่วมาแต่ไกล...“หืม...เธอมาหาพี่อีกเหรอ?”มนต์พยัคฆ์ขานรับกับเอ่ยถามกลับแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น“มารับลูกกวางสิคะ...ใกล้ถึงเวลาของเราแล้วค่ะ”“ที่ไหน...จะให้พี่ไปรับเธอได้ที่ไหน?”“พี่เสือรู้ว่าลูกกวางอยู่ที่ไหน?”สิ้นเสียงของกรรวี มนต์พยัคฆ์ก็มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหน้าของต้นสาละ ที่ด้านบนของต้นมีดอกของมันดอกหนึ่ง กำลังมีแสงสีทองเปล่งประกายระยิบระยับสว่างวาบ ๆ และกำลังจะผละจากกิ่งลอยลงมาอย่างช้า ๆ ก่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม...เขารู้สึกตื่นเต้น ระคนประหลาดใจ แล้วก็อยากจะร้องไห้ เมื่อดอกไม้ดอกนั้นหายไป แล้วกลายเป็นหญิงสาวที่เขาโหยหามาแสนนาน..และไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เธอคืนกลับมาอีกครั้ง“ลูกกวาง!”กรรวีโผเข้ากอดร่างสูงที่มัวแต่ยืนอึ้ง แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะกอดร่างเล็กของเธอเอาไว้อย่างแนบแน่นด้วยเช่นกันกอดกันอยู่อย่างนั้น...โดยไม่รู้ว่ามีสายตาอีกสองคู่แอบมองอยู่อย่างตกใจ...จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนรัก ดังขึ้นมาจากด้านหลัง เพราะทนแอบดูอยู่ต่อไปไม่ไหว...“ไอ้เสือ!...มึงถูกผีต้นไม้นี่หลอกเอาแล้วนะ มันไม่ไช่ลูกกวางของมึงหรอก...”ชนธั
มนต์พยัคฆ์ยืนกอดอก ขณะแหงนคอมองต้นสาละที่มีความสูงราวยี่สิบเมตร ลำต้นที่มีดอกของมันทั้งตูมและผลิบานประดับอยู่ล้อมรอบจนถึงโคนต้น ส่งกลิ่นหอมละมุนชวนหลงไหล..คล้ายกับเชิญชวนให้เดินเข้าไปใกล้“ถ้ามึงคิดจะโค่นทิ้ง งั้นกูขอ”มนต์พยัคฆ์เอี้ยวคอหันมาพูดกับชนธัญ...ที่ยืนมองเขาอยู่ข้างหลัง...ก่อนจะหันกลับไปมองดอกสาละดอกหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนกับดอกนั้นที่มันหายไปมนต์พยัคฆ์กำลังจะเอื้อมมือขึ้นไปจับ แต่กิ่งของดอกไม้กลับโน้มลงมาหาเขาซะเอง“เฮ้ย!เล่นกูซะกลางวันเลย สัสเอ้ย!” ชนธัญสบถใส่ ในจังหวะที่ก้าวถอยหลังมาสองสามก้าว เพราะรู้สึกไม่ค่อยจะไว้ใจกับต้นไม้ต้นนี้ที่เขาคิดว่ามันมีผีสิง…ยิ่งเขาต่อต้านมันเท่าไหร่ ดูเหมือนกับต้นไม้ต้นนี้จะรู้ และพยายามโต้กลับมาทุกครั้ง แล้วก็ชอบทำให้เขาเห็นอะไรแปลก ๆ แบบนี้ทุกที“แต่กูชอบ..ไหนมึงบอกจะเล่า..กูรอฟังอยู่...”เมื่อถูกมนต์พยัคฆ์ทวงถาม ชนธัญจึงเริ่มเล่าให้เพื่อนฟังต่อจากนั้นว่า“เมื่อสักสองเดือนก่อน..อยู่ ๆ มันก็โผล่ขึ้นมาเอง โดยใช้ระยะเวลาเจ็ดวันในการเจริญเติบโตเป็นต้นเท่านี้ได้...ขนกูลุกไปยันขนตูด..มึงเชื่อกูมั๊ย!”มนต์พยัคฆ์เลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นรับ อีกคนจึ
ต่อให้เกลียดแค่ไหน...ยังไงก็ต้องรัก...สุดท้ายก็ต้องจาก...ในที่สุดเวลาที่มนต์พยัคฆ์รู้สึกกลัวก็เดินทางมาถึง…ชายหนุ่มนั่งกุมมือของหญิงสาวอันเป็นที่รัก ไม่จากไปไหนเลยนานเป็นเวลาหลายชั่วโมง รวมไปถึงทุกคนที่พร้อมใจมารวมตัวกันอยู่ภายในห้องของกรรวี ที่ตอนนี้ดูแคบไปถนัดหญิงสาวนอนเหยียดยาวอยู่บนที่นอนนุ่ม สีหน้าดูดีขึ้นหลังจากที่พูดคุยเข้าใจกันดีแล้วทุกอย่าง รวมไปถึงการจากไปของเธอที่ใกล้จะถึงเวลาอีกในไม่กี่นาทีข้างหน้า...การจุติเป็นมนุษย์ของกรรวีไม่ได้ผ่านครรภ์ของมารดา แต่เกิดจากการสร้างกายหยาบของมนุษย์ขึ้นมา ด้วยมนตราชั้นสูงของผู้ที่มีฤทธิ์มาก...แล้วฝังดวงจิตของเธอเข้าไปไว้ในนั้น...เธอจึงไม่มีพ่อแม่...และไม่เคยถูกใครนำมาทิ้ง…มันเป็นความตั้งใจของเธอเองทั้งสิ้น...การจากไปก็เช่นกัน...มนต์พยัคฆ์ฟุบหน้าลงร้องไห้กับที่นอน เมื่อร่างบางที่เขากำลังกุมมืออยู่เริ่มสลายหายไปจนหมด และตรงตามเวลาที่เธอได้บอกเอาไว้ เหลือเพียงดอกไม้ดอกเดียวที่เธอให้เขาได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก ดอกไม้ประจำตัวของเธอ ที่มีสีชมพูอมเหลืองหรือแดง ด้านในสีม่วงอ่อนอมชมพู มีกลิ่นหอมมาก...หอมอบอวลไปทั่วห้อง ดอกไม้ที่มีเขาเป็นเจ
วาสุกรีเข้าไปรับร่างบางทันที ที่เห็นเธอก้าวเท้าออกมาจากห้องพระ ในสภาพอ่อนแรง ใบหน้าน่ารักปราศจากสีเลือด หน้าผากมนเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ บ่งบอกว่าหญิงสาวเหมือนจะไม่ไหวแต่ก็ยังฝืนใจเอ่ยกับพี่ชายทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงพร่าเครือ“คนพวกนั้นคงไม่มารบกวนครอบครัวของเราแล้วนะคะ”“ลูกกวางไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ พี่จะเราไปพัก”หนุมานเอ่ยออกมาอย่างตะหนก เพราะเคยเห็นอาการของน้องสาวมีสภาพเดียวกันกับที่เขาเคยเห็นเธอที่บ้านโบราณในคืนนั้น…“ลูกกวางอยากไปหาพี่เสือ...พาลูกกวางไปหาพี่เสือนะคะ”วาสุกรีมองสบตากับหนุมาน ก่อนเลื่อนสายตามามองหน้าน้องสาว ที่กำลังมองเขาอยู่ก่อนแล้ว“ไอ้เสือมันสั่งไว้ว่าไม่อยากจะเจอเรา มันจะไม่ออกมาจากห้องถ้าลูกกวางยังอยู่ ”คำพูดตรง ๆ ที่ออกมาจากปากของวาสุกรีทำร้ายจิตใจกรรวีอย่างที่สุด...มนต์พยัคฆ์ไม่อยากเห็นหน้าเธอ ถึงแม้จะรู้ว่า...นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเขาและเธออย่างงั้นเหรอ?แรงสั่นไหวของน้องสาวในอ้อมแขน...บอกเขาได้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ มันทำให้คนเป็นพี่ชายรู้สึกปวดหัวใจแทน แอบไปรักกันลึกซึ้งขนาดนี้โดยที่ไม่มีใครรู้ แล้วจู่ ๆ ก็มารับรู้เรื่องราวของทั้งคู่เอาตอนที่ต้อง
ความเงียบถูกปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณอย่าว่าแต่มนต์พยัคฆ์ตัวชาเลย วาสุกรีกับหนุมานก็รู้สึกไม่ต่างกัน...อยากจะเดินหนีแล้วหายตัวเข้าห้องตัวเองเหมือนกับที่พี่ชายทำ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อน้องสาวยืนร้องไห้จนตัวโยน ก่อนร่างเล็กจะทรุดตัวลงนั่งยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้อยู่คนเดียววาสุกรีหันมามองหน้าน้องชายพยักหน้าให้กันอย่างทำใจ ก่อนจะพากันเดินเขาไปนั่งข้างกันกับน้องสาว เขายกมือหนาขึ้นลูบผมเธออย่างแผ่วเบา พยายามบังคับตัวเองไม่ให้อ่อนไหวมากไปกว่านี้ แล้วเอ่ยกับน้องสาวที่น่ารักเพียงคนเดียวของบ้านคนนี้ว่า“เสือมันคงยังทำใจไม่ได้ เดี๋ยวพ่อกับแม่คงไปคุยกับมันเองนั่นแหละ ว่าแต่เราเถอะ ไม่ร้องไห้แล้วได้มั๊ย?...ไหน ๆ อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะไปแล้ว ”ถึงตรงนี้เสียงของวาสุกรีเริ่มสั่น...เขาหยุดพูดกับกระพริบตาถี่..เพื่อไล่รื้นน้ำตาให้ออกไป แล้วจึงเค้นสียงพูดให้เป็นคำต่อจากนั้นว่า...“เราควรจะกอดกัน ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้กอด...เราควรจะ....”หยุด...เพื่อบังคับน้ำตาตัวเองด้วยการเงยหน้าขึ้น ให้มันไหลกลับเข้าไปในอก แล้วจึงเค้นสียงพูดให้เป็นคำต่อจนจบประโยคว่า“...เราควรจะบอกรักกัน...ก่อนจะไม่ได้พบกันอีกแล้วว่า
ธรากรทำทุกอย่างตามที่บุตรสาวแนะนำอย่างเร่งด่วน ถึงแม้จะกะทันหัน แต่พนักทุกคนต่างก็ช่วยกันอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะฉุกละหุกไปสักหน่อย แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้เหตุผลว่าทำไม? ย่างเข้าวันที่สาม สาขาในเครือของธรากรกรุ๊ปทุกที่ทั่วประเทศได้ทำบุญใหญ่เสร็จสิ้นไปแล้วทุกคนต่างเหนื่อยล้า แต่ก็รู้สึกดีใจที่ทำทุกอย่างให้แล้วเสร็จได้ทันตามเวลา และกลับมารวมตัวกันที่บ้านเหมือนเคยโดยที่ยังไม่มีใครได้รู้ว่าเหลือเวลาอีกเพียงสองวันเท่านั้น สองวันสุดท้ายที่น้องน้อยของบ้านต้องจากไปอย่างที่ไม่มีวันกลับมาวาสุกรีไม่ได้ไปกองถ่าย เขาช่วยงานบุญที่บริษัทร่วมกับพี่ ๆ อย่างเต็มที่จนสุดกำลังความสามารถมนต์พยัคฆ์แทบไม่มีเวลาได้พูดหรือคุยกับกรรวีเลยทั้ง ๆ ที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ ๆ ได้แต่มองตากันอย่างเข้าใจ เพราะต้องคอยหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ใครรู้หรือจับได้สิ่งที่มนุษย์ทุกคนไม่สามารถหยุดได้..นั่นก็คือเวลา...เวลาที่ต้องพลัดพรากจากกันมันใกล้เข้ามาทุกที...สีหน้าที่ดูเศร้าหมองของกรรวี ทำให้มนต์พยัคฆ์จับสังเกตุได้ เขาอยากจะถามว่าเธอกำลังทุกข์อะไร ในเมื่อสามวันที่แล้วเขายังเห็นเธอยิ้มได้อยู่เลยชายหนุ่มได้จังหวะในตอนที่เธอข