“โอ๊ย!!.."
"เสือ!เป็นยังไงบ้างลูก!"
"ผมปวดท้อง...แม่!...ช่วยผมด้วยครับ”
เสียงร้องโอดโอยโวยวายของผู้ชาย ที่กรรวีได้ยินมาจากด้านนอก บอกเลยว่ามันดังมากจนทะลุกำแพงห้องของเธอเข้ามาถึงด้านใน…
เสียงของผู้ชายร้ายกาจคนนั้น...ซึ่งเธอก็ไม่อยากจะได้ยินมันสักเท่าไหร่
เธอกำลังฝันร้ายอยู่ใช่ไหม...ลูกกวาง?
“เสือ”
นั่นคือชื่อของเขา...
จะเป็นจะตายยังไง...เธอก็ไม่อยากจะสนใจ...
ถึงแม้ไม่เห็นหน้าแต่แค่ได้ยินเสียงของเขา ก็ทำเอากรรวีรู้สึกขนลุกขนพอง...
...เป็นอะไรนักหนาถึงได้ร้องโวยวายลั่นบ้านขนาดนั้นกันล่ะ..
ก็นะ...ปกติไม่มีอะไรก็ชอบทำเสียงใหญ่อยู่แล้วเหอะ!
ผ่านมาหลายปี...ความรู้สึกเกลียดที่มีต่อเธอจะเจือจางลงบ้างหรือเปล่า...
กรรวีไม่อยากประจันหน้ากับเขาเลยให้ตาย!..
“วอก...บอกให้ลุงหมึกเอารถออก...รีบพาพี่เสือไปส่งโรงพยาบาลก่อนเถอะลูก”
เสียงของมนต์สิงหาผู้เป็นมารดาเอ่ยกับลูกชายคนสุดท้อง ขณะกำลังประคองลูกชายคนโตออกมาจากห้อง และกำลังจะพาเขาลงบันไดไปที่ชั้นล่าง แต่ลูกชายคนโตกลับทรุดตัวลงนั่งอาเจียนอยู่ตรงนั้น
ซึ่งดูจากอาการที่กำลังเป็น...มันน่าจะรุนแรงจนยาสามัญประจำบ้านเอาไม่อยู่แล้วนั่นแหละ
“ผมพาไปเองดีกว่าครับแม่...เวลานี้ลุงหมึกคงยังไม่ตื่น”
หนุมานรีบขันอาสา แล้วพาตัวเองวิ่งลงมาจากชั้นบน
เขาก้าวเท้ายาวๆ ลงบันไดทีละสองขั้นอย่างรีบเร่ง…เมื่อเห็นพี่ชายของตัวเองกำลังเกร็งกับอาการปวดท้องอย่างหนักจนเกินจะทนไหว
เพราะโดยปกติพี่ชายคนนี้ของเขาจะ...อึด...ถึก...ทน...สมกับที่ชื่อมนต์พยัคฆ์เลยนั่นแหละ...แต่ไหงวันนี้ถึงได้กลายเป็นเสือหมดฤทธิ์ไปเสียได้...
กรรวีตัดสินใจตลบผ้าห่มออกจากตัว พลางก้มมองตัวเองในชุดนอน ก่อนเดินไปส่องกระจกแล้วหยิบหวีขึ้นมาสางผมอย่างไม่เร่งรีบเท่าไหร่
จากนั้นจึงเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วคว้าเอาเสื้อคลุมมาสวมทับให้มันดูเรียบร้อย...ก่อนปล่อยลมหายใจแล้วสูดเข้าไปอีกครั้งอย่างต้องการให้กำลังใจกับตัวเองสักพัก จากนั้นจึงตัดสินใจเปิดประตูออกไป
เจ้าของร่างบางชะโงกหน้า พร้อมกับกวาดนัยน์ตากลมโตมองไปทั่วบริเวณนั้น ก่อนชะงักงันเมื่อหันไปปะทะกับดวงตาคู่คม..ของอีกคนเข้าอย่างจัง!
คิ้วเข้มทอดขนานไปบนดวงตาสีรัตติกาล...ที่มีแรงดึงดูดมหาศาล...และมันสามารถสะกดทุกความเคลื่อนไหวให้หยุดอยู่กับที่...
กรรวีเบิกตากว้างเมื่อได้เจอกับสายตาดุ ๆ คู่นั้นเข้าให้ เพราะนัยน์ตาของร่างใหญ่ทำเอาเธอตัวชา..และยืนนิ่งอยู่ท่าเดิม…
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี...นั่นเป็นเพราะกรรวีต้องคอยหลบหลีกการเผชิญหน้า และเพื่อตัดปัญหาการเจอกันระหว่างเขาและเธอออกไป อีกทั้งเพื่อความสบายใจของทุกคนในบ้าน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเห็นด้วยนักกับข้อนี้...
แต่ขอทีเถอะ!...เพราะแบบนี้มันทำให้กรรวีรู้สึกสบายใจมากกว่าอะไรทั้งนั้น
เจ้าของร่างใหญ่ยังคงเป็นผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีใบหน้าหล่อเข้มคมคาย แบบที่ไม่ติดอะไรสักอย่าง และยังคงมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามอยู่เสมอยกเว้นเธอ
แต่ถึงให้หล่อมากแค่ไหน กรรวีก็ไม่อยากจะเข้าใกล้คนที่ได้ลั่นวาจา ว่าเกลียดเธอนักหนา...
ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี...แต่ปากของผู้ชายคนนี้ก็ร้ายพอ ๆ กับหน้าตาของตัวเองเลยเหอะ!...
“ลูกกวาง ตื่นแล้วเหรอ....มาช่วยแม่พยุงพี่เสือลงไปที่ด้านล่างก่อนเถอะลูก”
เสียงของมนต์สิงหา สามารถดึงกรรวีให้ออกมาจากภวังค์ความคิด ก่อนตัดสินใจเดินออกมาประจันหน้ากัน
แต่ทว่าหญิงสาวยังไม่ทันได้เดินไปถึงร่างใหญ่...ก็มีเสียงของอีกฝ่ายตวาดไล่ใส่เธอเสียงดังลั่น...
“ไม่ต้อง!..อย่ามาแตะตัวฉัน...ไป๊!..ยายเด็กขยะ!”
อ้วกก!.
นั่นไง...
กรรวีชะงักค้าง...พลางมองเจ้าของร่างใหญ่ที่ทำนัยต์ตาขุ่นขวางอีกทั้งยังเกรี้ยวกราดใส่ แต่หลังจากนั้นไม่นานอีกฝ่ายก็โก่งคออาเจียนออกมามากมายจนแทบจะหมดใส้หมดพุง จะเหลือก็แค่น้ำย่อยสีเหลืองใสปะปนออกมาในตอนท้ายด้วยเท่านั้น
ปากของมนต์พยัคฆ์คล้ายกับกรรไกร อีกทั้งยังมีนิสัยหยาบคาย ที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด...
การพัฒนาการทางด้านอารมณ์กับจิตใจ ไม่เคยพัฒนาทั้ง ๆ ที่อายุอานามก็น่าจะย่างเข้าเลขสามไปแล้วละมั้ง
หากเธอยังยืนอยู่ตรงนี้ อาจทำให้มนต์พยัคฆ์มีอาการหนักมากกว่าที่เห็นกันนั่นก็เป็นได้...
คนตัวเล็กกว่าทอดสายตามองเจ้าของร่างหนา ที่นอนแผ่หลาอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า...
หากเธอไม่เห็นแก่พ่อแม่ของเขา ที่รักเธออย่างจริงใจกับความสงบภายในบ้าน..จ้างให้เธอก็ไม่มีวันยอมเขาหรอก...เขาต้องการไล่เธอออกไปให้พ้นหน้า เหมือนกับที่เคยเจอกันทุกครั้งนั่นแหละ…
จนสุดท้ายกรรวีก็พาตัวเองหายหน้าหนีไปจากเขายาวๆ...ส่วนเขาก็ได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองคนไม่เคยได้ประจันหน้ากันอีกเลย
ถามว่าตอนนี้กรรวีรู้สึกกลัวเขาไหม?…
บอกได้เลยว่า…
กลัวสิคะ...อย่าได้ถาม..
แต่ถ้าชั่งน้ำหนักทั้งสองอย่างในตอนนี้ ระหว่างกล้ากับกลัวนะ...ตาชั่งน่าจะเอียงมาทางกลัวมากกว่า...กลัวจนแทบล้มเลยนั่นหละ...
โลกมันกลมนะว่าไหม...เพราะในที่สุดทั้งสองคนก็วนกลับมาเจอกันอีกจนได้..
โบราณว่าไว้...เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้...มันก็ต้องหลบหลีกกันไปมาแบบนี้...
เสือคนละรอบอีกด้วยนี่สิ...เพราะมนต์พยัคฆ์แก่กว่ากรรวีถึงสิบสองปี...
ขุ่นเอาไว้ใน ใสเอาไว้นอก..แม่ชีสอนเธอมาแบบนั้น...
หลวงตาก็เช่นกัน...อภัยทานคือทานสูงสุด..ถึงได้ไม่มีปากมีเสียงเถียงเขาอยู่นี่ไง...
กรรวีคิดว่ากลับบ้านมาในวันนี้คงไม่ได้เจอกันแน่ๆ...แต่สวรรค์ก็ดันกลั่นแกล้งกันอย่างเห็นได้ชัดเจน...
หากเป็นเมื่อก่อน..คนเป็นมารดาต้องเอ็ดมนต์พยัคฆ์หากเห็นว่าลูกชายคนโตเกเรใส่ลูกสาวคนเล็กนั่นแหละ แต่ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน คนเป็นมารดาน่าจะต้องห่วงอาการของลูกชาย ที่กำลังเป็นอยู่นี่มากกว่าอะไรทั้งนั้น
“เสือ..ไหวไหมลูก?”
“แม่ครับ...ผม...โอ้ย!”
มนต์พยัคฆ์เอ่ยเรียกมารดาเสียงอ่อน ก่อนอุทานออกมาเสียงดัง ทำเอามนต์สิงหาถึงกับหน้าถอดสี...
เพราะแต่ไหนแต่ไรมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่...มนต์พยัคฆ์ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยหนัก ๆ เลยสักครั้ง…
มนต์พยัคฆ์ทิ้งหัวลงบนตักของคนเป็นมารดา แต่ทว่าได้ไม่นานนักเขาก็ตะแคงหัวออกจากตัก แล้ว...
“....อ้วกก!”
ออกมาด้วยใบหน้าแดงกล่ำ...และทำท่าหมดแรง
เจ้าของร่างหนานอนอาเจียนอยู่ท่านั้นอย่างต่อเนื่อง...เขาไม่มีแรงแม้จะหาเรื่องเอากับอีกคน หรือปฏิเสธ มือเล็กๆ ขาวๆ ที่ยื่นกระโถนส่งมาให้ ถึงแม้จะรู้ว่าเธอคือใครก็ตามที…
แล้วกรรวีก็พอจะรู้ว่าเสือร้ายอย่างมนต์พยัคฆ์...ชักเริ่มจะหมดฤทธิ์ไปบ้างแล้วนั่นแหละ
แต่ทว่าคิ้วสวยของหญิงสาวกลับเลิกขึ้นสูงเชิงสงสัย เมื่อได้เห็นสิ่งที่ชายหนุ่มอาเจียนออกมาทีหลังนั่น..
มันมี สีดำ ปะปนออกมาด้วย
คุณพระช่วย!
คุณเสือไปทำอีท่าไหน...ถึงได้ถูกคุณไสย์เล่นงานเข้าให้แบบนี้กันหละ..
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย SET ที่มีด้วยกันสามเรื่อง พระเอกของทุกเรื่องจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่สามารถแยกอ่านได้ค่ะ
1.ต้องมนต์พยัคฆ์ แนวสายมูทั้งเรื่องค่ะ
2.จังหวะรักต้องมนต์ มีมูมาเกี่ยวข้องเล็กน้อย
3.ต้องมนต์ร้ายนายมาเฟีย มีมูเข้ามาเกี่ยวพันด้วยนิดหน่อยค่ะ
กรรวีมองสบตากับมนต์สิงหาด้วยความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน...คนเป็นมารดาถึงกับหน้าถอดสี...ก่อนปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่กำลังวิ่งก้าวขึ้นบันไดของลูกชายคนสุดท้อง... จากนั้นจึงช่วยกันพยุงร่างของลูกชายคนโตขึ้นรถ...แล้วรีบนำเขาส่งโรงพยาบาล ด้วยเกรงว่าจะไม่ทันการเพราะเวลานี้เจ้าตัวไม่มีแรงแม้จะทรงตัวยืนเองได้เลยกรรวียืนมองท้ายรถที่กำลังแล่นออกไปอย่างรู้สึกเป็นกังวล...เมื่อมองเห็นลมที่กำลังพัดผ่านบริเวณหน้าบ้านเริ่มกรรโชกหนัก...หลังจากนั้นสักพักก็พัดเอาเมฆฝนดำทะมึนลอยมาราวกับสั่งได้...และเธอค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนต์พยัคฆ์นั้น...มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ...“พี่ลิงคะ..หมอบอกว่าอาการของคุณเสือเป็นอย่างไรบ้างคะ?”กรรวีโทรถามอาการของมนต์พยัคฆ์เอากับหนุมาน...เมื่อเวลาผ่านไปนานถึงสองชั่วโมง แต่ยังไม่มีใครส่งข่าวสารมาให้เธอได้รู้บ้างเลย….ความจริงแล้วกรรวีก็ใช่ว่าจะสนใจ แต่ที่ถามไปนั่นมันก็แค่ตามมารยาทเท่านั้น..เพราะทุกคนในครอบครัวของเขา ต่างก็มีบุญคุณกับหญิงสาวมากมาย...และเธอเองก็ไม่ต้องการทำให้ทุกคนต้องมาทนลำบากใจ(“หมอเอ็กซ์เรย์ดูภายในแล้วบอกว่าไม่มีอ
เมื่อกรรวีไปถึงโรงพยาบาล ก็ได้พบกับวาสุกรีพี่ชายคนกลาง ที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องของคนไข้วาสุกรีเพิ่งมาถึง...เขาจึงพยักหน้ารับเมื่อเห็นกรรวียกมือขึ้นไหว้ขณะที่เดินเข้ามาหา...พี่ชายคนกลางอ้าแขนออกกว้าง..พลางโอบกอดร่างบางอย่างถือวิสาสะ...และฉวยจังหวะนั้นกดจูบหน้าผากของน้องสาวด้วยความเร็วปานแสงจุ๊บ!“งื้อออ.พี่งูแกล้ง!นี่มันโรงพยาบาลนะคะ...แล้วลูกกวางก็โตเป็นสาวแล้วด้วย” กรรวีเงยหน้าขึ้นโวยวายใส่วาสุกรี ก่อนขืนตัวเอาไว้เมื่อเห็นพี่ชายก้มหน้าลงมาแล้วทำท่าจะจูบซ้ำ“พี่ทำกับน้องแบบนี้มันผิดด้วยเหรอวะ..แล้วอันไหนที่เรียกว่าโต...หัวเนี่ยเหรอ” เขาว่ายิ้มๆ...ก่อนจะคลายวงแขนออกให้ แล้วเปลี่ยนเป็นเลื่อนมือขึ้นไปวางไว้บนหัวของน้องสาว จากนั้นจึงจับโยกไปมาเบาๆ ราวกับว่ามันคือของเล่น..“พี่งูแกล้ง...ลูกกวางจะไม่มาให้เห็นหน้าอีกแล้ว”ริมฝีปากบนของหญิงสาวเชิดขึ้นเกือบถึงปลายจมูกโด่งเล็กตอนว่าออกไป ก่อนค้อนใส่พี่ชายคนกลางอย่างมีแง่งอนตอนหมุนตัวเดินหนี แต่ถูกวาสุกรีคว้าข้อมือเอาไว้ได้หมับ!“มานี่เลย..จะไปไหน...เดี๋ยวนี้พี่กอดนิดหอมหน่อยไม่ได้หรือไง..งอนพี่จริงเหรอ”“จริง!”“แล้วทำยังไงจะหายงอนพี่ละหื้ม”
มนต์สิงหาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ เป็นเหตุให้ทุกคนในที่นี่พร้อมใจกันเงียบเสียงของตัวเองลงไป ก่อนมีสีหน้าตื่นตกใจขึ้นมาแทนที่รวมไปถึงคนแกล้งนอนหลับอยู่บนเตียงคนป่วยนี้ด้วยอีกคน….มนต์พยัคฆ์คิดคนเดียวในใจว่า...เขาโดนของอย่างงั้นเหรอ ของที่ว่านี่สมัยนี้มันยังมีอยู่จริงใช่ไหม..แล้วใครมันช่างกล้าทำใส่เขาวะ..ห่าเอ้ย!อย่าให้กูรู้นะว่าใคร...จะเหยียบให้ตายคาตีนแม่งเลย...สัด!กรรวียืนฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย...ไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกอะไรออกมาเลยสักนิด เธอคิดไว้แล้วว่าต้องใช่ ตอนอยู่ที่วัดใครต่อใครต่างก็มาขอให้หลวงตาของเธอแก้ให้...ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน จนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนเล่นของแบบนี้อยู่ทั่วไป แต่แค่ไม่มีใครรู้เท่านั้นเองการทำคุณไสย์ใส่กันมันเป็นการฆ่าคนโดยใช้วิธีสกปรก ถึงแม้ไม่ผิดกฎหมายแต่ก็ผิดกฎแห่งกรรมอย่างรุนแรงสายมูตัวแม่อย่างมนต์สิงหา ย่อมรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่เคยคิดว่า เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเธอได้ ในเมื่อมันได้เกิดขึ้นกับคนเป็นลูกชาย คนเป็นแม่ก็ต้องหาทางแก้ไขให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปให้ได้...ส่วนคนเป็นพ่อของเจ้าพวกนี้ก็ไม่อยู่ช่วยเสียด้วยสิ ธรากรต้องไปดูงานของสาขาที่อยู่ในต
เมื่อกรรวีถูกมนต์พยัคฆ์ออกปากไล่ เธอจึงตัดสินใจเดินออกไปจากห้อง แต่กลับถูกมนต์สิงหารั้งมือของเธอไว้“ช่วยพี่เสือด้วยนะลูกกวาง..แม่ขอร้องละ”“ไม่นะแม่ผมไม่อยากให้ยายเด็กนี่ช่วยผม..โอ๊ย!แม่...ผมปวดท้อง!”มนต์พยัคฆ์เอ่ยแทรกและร้องลั่น นั่นจึงเป็นเหตุให้วาสุกรีทนไม่ไหว..เขาจึงตวาดใส่พี่ชายออกไปเสียงดัง...“หุบปาก! แกไปเลยนะไอ้เเสือ..แกไม่นึกถึงตัวเองก็ให้นึกถึงแม่บ้าง..จะตายห่าอยู่รอมร่อแล้วยังมาแอ็คอยู่ได้...”ซึ่งไม่เคยมีใครเห็นอารมณ์นี้ของวาสุกรีบ่อยนัก เพราะเขาเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์เย็น...แต่คนอารมณ์เย็นแบบนี้เวลาร้ายขึ้นมาอาจจะน่ากลัวไม่น้อยไปกว่า คนที่อารมณ์ร้อนแบบคนเป็นพี่ชายก็ว่าได้แต่เป็นเพราะวาสุกรีเห็นสีหน้าของมารดา และดูก็รู้ว่าท่านเครียดมากแค่ไหน...เขาจึงทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้“ก็ดีเหมือนกันนะพี่จงอาง...หากพี่เสือตายซะได้..เราก็จะเหลือตัวหารมรดกน้อยหน่อยไง....”หนุ่มอารมณ์ดีประจำบ้านอย่างหนุมาน ก็เอ่ยเข้าข้างพี่ชายคนกลางตามมาด้วยอีกคน...ไม่ว่าจะเรื่องคอขาดบาดตายแค่ไหน คนอย่างหนุมานก็สามารถทำให้ตลกไปได้เช่นเดียวกัน“นั่นสิ...ตายศพไม่สวยด้วยนะ ผับก็ไม่ได้เที่ยว...หญิงก็ไม่ได้เอา.
ของที่กรรวียัดเข้าปากของมนต์พยัคฆ์มันมีลักษณะคล้ายกับลูกกวาด...ซึ่งมีรสชาติเฝื่อนๆ ฝาด ๆ ติดจะเปรี้ยวนิดหน่อย ต่อเมื่อค่อยๆ กลืนมันลงไปในร่างกาย อาการที่กำลังปวดเหมือนมีใครมาบิดไส้ ก็ค่อยๆ หายไปในที่สุดราวกับปาฏิหาริย์...ไม่ใช่ฝัน!...รึเปล่าวะ?...บนโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้คนเราพิศวงได้อีกไหม...ถ้าไม่พิสูจน์ทุกอย่างได้ด้วยตัวเองแบบเขาเนี่ย..“มันก็แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นค่ะ...ไม่ใช่ตลอดไป”เธอเอ่ยกับชายหนุ่มเมื่อเห็นสีหน้าของเขาดูดีขึ้น..ซึ่งอีกฝ่ายก็เงียบเสียงของตัวเองลงไป เหมือนรอให้เธอพูดกับเขาต่อจากนั้น“หลับตาพักก่อนนะคะ...หากมองหน้ากวางมาก ๆ อาจทำให้คุณเสืออาการแย่ลง”มนต์พยัคฆ์สะอึก...ก่อนสะบัดหน้าหันไปอีกทางเมื่อถูกหญิงสาวจับได้ว่า เขาเอาแต่มองหน้าเธอไม่วางตา...ก็คนมันอึ้งนี่หว่า..ไม่ได้พิศวาสอะไรนักหนาหรอก...เฮอะ!“แม่คะ เราพาคุณเสือกลับบ้านกันเถอะค่ะ...ผลไม้เสกของหลวงตา คงระงับได้เพียงแค่ชั่วคราว เราต้องรีบกันแล้ว”“เดี๋ยวนะ.. ลูกกวาง...พี่สงสัยว่ะ....พี่ขอถามเราสักสามข้อได้ไหม ”หนุมานเอ่ยถามกรรวีขึ้นมา เมื่อเห็นมารดาออกจากห้องไปทำเรื่องของมนต์พยัคฆ์ เพื่อให้เจ้าต
และใช้เวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น...แล้วมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่าง เหมือนที่พี่ชายของเธอต้องการจะให้มันเป็น...“เฮ้ย!!”สองพี่น้องอุทานออกมาพร้อมกันเสียงหลง มองหน้ากันแบบงงๆ...วันนี้พวกเขา เฮ้ย! ไปกี่ทีแล้ววะเนี่ยวาสุกรียืนทื่อ..ก่อนยกมือขึ้นตบข้างแก้มตัวเองเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้ฝัน..เพราะว่าไอ้ที่อยู่ในอุ้งมือของน้องชายนั่นมันคือหลักฐานให้เห็นกันชัดๆ ด้วยตาเนื้อรึเปล่า!...มันใช่นะ!..ใช่ไหมวะ...เออ...สมองของเขากำลัง ERROR รวนไปแล้ว...ต้องรีเซตระบบใหม่ทั้งหมดก็คราวนี้แหละมั้ง...หนุมานอยากให้พี่ชายตบกบาลเขาบ้างแต่ไม่กล้า เพราะกลัวว่า ฝ่ามือของพี่ชายอาจทำให้สมองของเขาเตลิดออกไปแล้วหาทางกลับไม่เจอนี่นะสิ..มันจะยุ่งกันใหญ่“วันนี้ผมไม่ไปกองถ่ายแล้วนะพี่งู ผมจะอยู่กับลูกกวางให้น้องมันสอนวิชาให้ดีกว่า ผมว่านะ...อยู่กับหลวงตาน้องต้องมีอะไรดีมากกว่านี้แน่เลย พี่ว่าไหม”“จะว่าห่าอะไรละ...คิดเหมือนแกแหละ วันนี้พี่ไม่เข้าบริษัทแล้วว่ะ... ช่างแม่ง! ป่ะ เราตามลูกกวางไปดีกว่า...เดินออกจากห้องไปแล้วนั่น เดี๋ยวไม่ทัน...”สองพี่น้องเดินตามกรรวีออกไปโดยไม่สนใจอีกคน ที่ทำหน้าเหรอหราอยู่บนเตีย
“กวางไม่ได้เสกเองหรอกค่ะ..หลวงตาท่านส่งมาให้ ท่านบอกว่าคุณเสือจะได้ทรมานน้อยลง....อ้าปากสิคะอย่ามัวแต่อึ้งอยู่...”เธอเอ่ยต่อจากนั้น…เหมือนอ่านสายตาเขาออก..ขณะเดียวกันก็ยัดลูกสีดำเข้าปากชายหนุ่มไปด้วย..เพราะเห็นว่าเขาอ้าปากค้างไว้อยู่แล้วอะไรวะ!...ถึงขนาดสื่อสารกับหลวงตาได้ นี่เธอมีญาณชั้นไหน...ตัวเท่านี้นี่นะหึ่ย!น่ากลัวฉิบหายเลย!...กลัวแต่ก็ยอมกลืนเข้าไปแต่โดยดี“คุณเสือจะต้องอ้วก..อ้วกใส่ผ้าขาวนี่เลยนะคะ...มันจะออกมาหลายอย่าง”เธอบอกตามมาพร้อมกับอธิบาย...ขณะหยิบผ้าขาวที่อยู่บนถาดมาวางไว้ข้างๆ ร่างสูงใหญ่...แล้วเอ่ยเตือนเขาอีกครั้งว่า“เห็นอะไรห้ามทัก...อย่าตกใจนะคะ..”ได้เหรอวะ!..แค่นี้..หัวใจเขาก็แทบจะวายตายห่าแล้วเหอะ...จะยังไงต่ออีกล่ะทีนี้...“มากันแล้ว”เธอเอ่ยลอย ๆ คล้ายกับรำพึงกับตัวเอง...จากนั้นจึงหมุนตัวเข้าหาหิ้งพระแล้วนั่งขัดสมาธิพร้อมกับหลับตาลงในจังหวะนั้นเองที่มนต์พยัค์ได้เห็นกลางหน้าผากของกรรวี..มีอักษรคล้ายอุณาโลมเปล่งแสงสีทองสว่างวาบขึ้นมาแค่เสี้ยววนาที...มันพูดไม่ออก..นี่มันอะไรกันวะ?..เชี่ย! นี่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม...แต่อาการปวดภายในช่องท้องที่ทวีความรุนแรงขึ้น
“ค่ะหนึ่งเดือนไม่ขาดไม่เกิน...แม่ต้องเป็นคนไปซื้ออาหารมาทำให้คุณเสือทานในระหว่างนี้...และห้ามซื้ออาหารที่ทำจากข้างนอกมาให้คุณเสือทานอย่างเด็ดขาดนะคะ...”กรรวีเอ่ยกับมนต์พยัคฆ์..และบอกมารดาไปพร้อมกัน หญิงสาวเอ่ยต่อจากนั้นเมื่อเห็นว่าทุกคนต่างพากันจ้องหน้าและรอฟังเธออย่างตั้งใจ โดยไม่เอ่ยถามอะไรออกมาเลย“หลวงตาบอกว่า ให้เอาตะกรุดของหลวงตาที่แม่มี ให้ลูกชายของแม่ทั้งสามคนพกติดตัวไว้ก่อน..ในระหว่างที่รอให้ท่านกลับมาจากธุดงค์ แล้วค่อยพาไปฝังตะกรุดกับท่าน ทุกคนจะได้มีของไว้คุ้มครองอยูในตัวเลยค่ะ...เผื่อบางทีอาจลืมพกติดตัวไปด้วย”กรรวีเว้นจังหวะ เพราะหลวงตาท่านสั่งเธอหลายอย่าง ต่อเมื่อคิดได้เธอจึงเลื่อนสายตามาที่พี่ชายคนสุดท้าย“พี่ลิงย่างเข้าเบญจเพสหลวงตาท่านบอกให้บวชค่ะ...อ้อ..เรื่องของคุณเสือยังไม่จบ..คุณเสือต้องสวดมนต์รักษาศีลและห้ามกินเนื้อสัตว์""ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นคนทำของใส่ฉัน”จู่ ๆ มนต์พยัคฆ์ก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมาแทรกถามด้วยความอยากรู้จนเก็บอาการไม่อยู่“ต้องถามตัวคุณเสือเองค่ะว่า ก่อนมีอาการคุณเสือกินอะไรของใครเข้าไปบ้าง”“ฮ่ะๆๆๆ...ไอ้เสือมันกินมั่วอ่ะดิ...สาวที่ไหนส่งเหล้าใ
“อยากรู้อะไรบ้างถามแม่นี่...”“แม่รู้!”ลูกชายคนที่สองและสามเอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกัน ส่วนลูกชายอีกคนนั่นอยากรู้จนตัวสั่นแต่กลับเก็บอาการนั้นไว้“เออ..ถ้าแม่ตอบได้ก็จะตอบให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เจ้าตัวเขาไม่อนุญาต หรือไม่อยากให้ใครรู้แม่ก็ขอปฏิเสธแล้วกันนะ”“ครับ...แม่รู้เรื่องตาที่สามของน้อง”หนุมานเอ่ยถามมารดาก่อนใคร มนต์สิงหาจึงพยักหน้าให้กลับไปแทนเสียง“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับแม่”“ตั้งแต่เห็นน้องครั้งแรกที่วัด...แล้วน้องก็ไม่ได้มีแค่ตาที่สามเพียงอย่างเดียว...น้องเรามีมากกว่านั้น...”“โห...ผมว่าแม่เล่าไปเลยดีกว่าไหมครับแบบนี้น่ะ...” วาสุกรีเอ่ยขึ้นมาบ้าง ขณะเอนหลังพิงพนักโซฟาในท่าสบายๆ เพราะรอฟังอย่างเดียวไม่ไหว“ไม่ดีกว่า..แม่ไม่เล่าแล้ว...เพราะแม่รับปากกับน้องเอาไว้ ถ้าพวกแกอยากรู้อะไร..เอาไว้พี่น้องไปถามกันเองดีกว่า”“ถามอะไรละครับ..พรุ่งนี้ลูกกวางก็จะกลับเพชรอีกแล้ว...อยู่กับยายกันย์ที่เพชรบุรีดูน้องมีความสุขดีอยู่หรอก แต่ไป ๆ มา ๆ น่าสงสาร สอบเข้ามหาลัยได้เห็นบอกว่าจะไปอยู่คอนโดใกล้ ๆ กับมหาลัย ชวนมาอยู่ด้วยกันที่นี่ก็ไม่ยอม เพราะพี่เสือแท้ ๆ เชียว” หนุมานเล่าถึงกรรวีก่อนหันมาตวัดสา
“ค่ะหนึ่งเดือนไม่ขาดไม่เกิน...แม่ต้องเป็นคนไปซื้ออาหารมาทำให้คุณเสือทานในระหว่างนี้...และห้ามซื้ออาหารที่ทำจากข้างนอกมาให้คุณเสือทานอย่างเด็ดขาดนะคะ...”กรรวีเอ่ยกับมนต์พยัคฆ์..และบอกมารดาไปพร้อมกัน หญิงสาวเอ่ยต่อจากนั้นเมื่อเห็นว่าทุกคนต่างพากันจ้องหน้าและรอฟังเธออย่างตั้งใจ โดยไม่เอ่ยถามอะไรออกมาเลย“หลวงตาบอกว่า ให้เอาตะกรุดของหลวงตาที่แม่มี ให้ลูกชายของแม่ทั้งสามคนพกติดตัวไว้ก่อน..ในระหว่างที่รอให้ท่านกลับมาจากธุดงค์ แล้วค่อยพาไปฝังตะกรุดกับท่าน ทุกคนจะได้มีของไว้คุ้มครองอยูในตัวเลยค่ะ...เผื่อบางทีอาจลืมพกติดตัวไปด้วย”กรรวีเว้นจังหวะ เพราะหลวงตาท่านสั่งเธอหลายอย่าง ต่อเมื่อคิดได้เธอจึงเลื่อนสายตามาที่พี่ชายคนสุดท้าย“พี่ลิงย่างเข้าเบญจเพสหลวงตาท่านบอกให้บวชค่ะ...อ้อ..เรื่องของคุณเสือยังไม่จบ..คุณเสือต้องสวดมนต์รักษาศีลและห้ามกินเนื้อสัตว์""ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นคนทำของใส่ฉัน”จู่ ๆ มนต์พยัคฆ์ก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมาแทรกถามด้วยความอยากรู้จนเก็บอาการไม่อยู่“ต้องถามตัวคุณเสือเองค่ะว่า ก่อนมีอาการคุณเสือกินอะไรของใครเข้าไปบ้าง”“ฮ่ะๆๆๆ...ไอ้เสือมันกินมั่วอ่ะดิ...สาวที่ไหนส่งเหล้าใ
“กวางไม่ได้เสกเองหรอกค่ะ..หลวงตาท่านส่งมาให้ ท่านบอกว่าคุณเสือจะได้ทรมานน้อยลง....อ้าปากสิคะอย่ามัวแต่อึ้งอยู่...”เธอเอ่ยต่อจากนั้น…เหมือนอ่านสายตาเขาออก..ขณะเดียวกันก็ยัดลูกสีดำเข้าปากชายหนุ่มไปด้วย..เพราะเห็นว่าเขาอ้าปากค้างไว้อยู่แล้วอะไรวะ!...ถึงขนาดสื่อสารกับหลวงตาได้ นี่เธอมีญาณชั้นไหน...ตัวเท่านี้นี่นะหึ่ย!น่ากลัวฉิบหายเลย!...กลัวแต่ก็ยอมกลืนเข้าไปแต่โดยดี“คุณเสือจะต้องอ้วก..อ้วกใส่ผ้าขาวนี่เลยนะคะ...มันจะออกมาหลายอย่าง”เธอบอกตามมาพร้อมกับอธิบาย...ขณะหยิบผ้าขาวที่อยู่บนถาดมาวางไว้ข้างๆ ร่างสูงใหญ่...แล้วเอ่ยเตือนเขาอีกครั้งว่า“เห็นอะไรห้ามทัก...อย่าตกใจนะคะ..”ได้เหรอวะ!..แค่นี้..หัวใจเขาก็แทบจะวายตายห่าแล้วเหอะ...จะยังไงต่ออีกล่ะทีนี้...“มากันแล้ว”เธอเอ่ยลอย ๆ คล้ายกับรำพึงกับตัวเอง...จากนั้นจึงหมุนตัวเข้าหาหิ้งพระแล้วนั่งขัดสมาธิพร้อมกับหลับตาลงในจังหวะนั้นเองที่มนต์พยัค์ได้เห็นกลางหน้าผากของกรรวี..มีอักษรคล้ายอุณาโลมเปล่งแสงสีทองสว่างวาบขึ้นมาแค่เสี้ยววนาที...มันพูดไม่ออก..นี่มันอะไรกันวะ?..เชี่ย! นี่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม...แต่อาการปวดภายในช่องท้องที่ทวีความรุนแรงขึ้น
และใช้เวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น...แล้วมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่าง เหมือนที่พี่ชายของเธอต้องการจะให้มันเป็น...“เฮ้ย!!”สองพี่น้องอุทานออกมาพร้อมกันเสียงหลง มองหน้ากันแบบงงๆ...วันนี้พวกเขา เฮ้ย! ไปกี่ทีแล้ววะเนี่ยวาสุกรียืนทื่อ..ก่อนยกมือขึ้นตบข้างแก้มตัวเองเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้ฝัน..เพราะว่าไอ้ที่อยู่ในอุ้งมือของน้องชายนั่นมันคือหลักฐานให้เห็นกันชัดๆ ด้วยตาเนื้อรึเปล่า!...มันใช่นะ!..ใช่ไหมวะ...เออ...สมองของเขากำลัง ERROR รวนไปแล้ว...ต้องรีเซตระบบใหม่ทั้งหมดก็คราวนี้แหละมั้ง...หนุมานอยากให้พี่ชายตบกบาลเขาบ้างแต่ไม่กล้า เพราะกลัวว่า ฝ่ามือของพี่ชายอาจทำให้สมองของเขาเตลิดออกไปแล้วหาทางกลับไม่เจอนี่นะสิ..มันจะยุ่งกันใหญ่“วันนี้ผมไม่ไปกองถ่ายแล้วนะพี่งู ผมจะอยู่กับลูกกวางให้น้องมันสอนวิชาให้ดีกว่า ผมว่านะ...อยู่กับหลวงตาน้องต้องมีอะไรดีมากกว่านี้แน่เลย พี่ว่าไหม”“จะว่าห่าอะไรละ...คิดเหมือนแกแหละ วันนี้พี่ไม่เข้าบริษัทแล้วว่ะ... ช่างแม่ง! ป่ะ เราตามลูกกวางไปดีกว่า...เดินออกจากห้องไปแล้วนั่น เดี๋ยวไม่ทัน...”สองพี่น้องเดินตามกรรวีออกไปโดยไม่สนใจอีกคน ที่ทำหน้าเหรอหราอยู่บนเตีย
ของที่กรรวียัดเข้าปากของมนต์พยัคฆ์มันมีลักษณะคล้ายกับลูกกวาด...ซึ่งมีรสชาติเฝื่อนๆ ฝาด ๆ ติดจะเปรี้ยวนิดหน่อย ต่อเมื่อค่อยๆ กลืนมันลงไปในร่างกาย อาการที่กำลังปวดเหมือนมีใครมาบิดไส้ ก็ค่อยๆ หายไปในที่สุดราวกับปาฏิหาริย์...ไม่ใช่ฝัน!...รึเปล่าวะ?...บนโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้คนเราพิศวงได้อีกไหม...ถ้าไม่พิสูจน์ทุกอย่างได้ด้วยตัวเองแบบเขาเนี่ย..“มันก็แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นค่ะ...ไม่ใช่ตลอดไป”เธอเอ่ยกับชายหนุ่มเมื่อเห็นสีหน้าของเขาดูดีขึ้น..ซึ่งอีกฝ่ายก็เงียบเสียงของตัวเองลงไป เหมือนรอให้เธอพูดกับเขาต่อจากนั้น“หลับตาพักก่อนนะคะ...หากมองหน้ากวางมาก ๆ อาจทำให้คุณเสืออาการแย่ลง”มนต์พยัคฆ์สะอึก...ก่อนสะบัดหน้าหันไปอีกทางเมื่อถูกหญิงสาวจับได้ว่า เขาเอาแต่มองหน้าเธอไม่วางตา...ก็คนมันอึ้งนี่หว่า..ไม่ได้พิศวาสอะไรนักหนาหรอก...เฮอะ!“แม่คะ เราพาคุณเสือกลับบ้านกันเถอะค่ะ...ผลไม้เสกของหลวงตา คงระงับได้เพียงแค่ชั่วคราว เราต้องรีบกันแล้ว”“เดี๋ยวนะ.. ลูกกวาง...พี่สงสัยว่ะ....พี่ขอถามเราสักสามข้อได้ไหม ”หนุมานเอ่ยถามกรรวีขึ้นมา เมื่อเห็นมารดาออกจากห้องไปทำเรื่องของมนต์พยัคฆ์ เพื่อให้เจ้าต
เมื่อกรรวีถูกมนต์พยัคฆ์ออกปากไล่ เธอจึงตัดสินใจเดินออกไปจากห้อง แต่กลับถูกมนต์สิงหารั้งมือของเธอไว้“ช่วยพี่เสือด้วยนะลูกกวาง..แม่ขอร้องละ”“ไม่นะแม่ผมไม่อยากให้ยายเด็กนี่ช่วยผม..โอ๊ย!แม่...ผมปวดท้อง!”มนต์พยัคฆ์เอ่ยแทรกและร้องลั่น นั่นจึงเป็นเหตุให้วาสุกรีทนไม่ไหว..เขาจึงตวาดใส่พี่ชายออกไปเสียงดัง...“หุบปาก! แกไปเลยนะไอ้เเสือ..แกไม่นึกถึงตัวเองก็ให้นึกถึงแม่บ้าง..จะตายห่าอยู่รอมร่อแล้วยังมาแอ็คอยู่ได้...”ซึ่งไม่เคยมีใครเห็นอารมณ์นี้ของวาสุกรีบ่อยนัก เพราะเขาเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์เย็น...แต่คนอารมณ์เย็นแบบนี้เวลาร้ายขึ้นมาอาจจะน่ากลัวไม่น้อยไปกว่า คนที่อารมณ์ร้อนแบบคนเป็นพี่ชายก็ว่าได้แต่เป็นเพราะวาสุกรีเห็นสีหน้าของมารดา และดูก็รู้ว่าท่านเครียดมากแค่ไหน...เขาจึงทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้“ก็ดีเหมือนกันนะพี่จงอาง...หากพี่เสือตายซะได้..เราก็จะเหลือตัวหารมรดกน้อยหน่อยไง....”หนุ่มอารมณ์ดีประจำบ้านอย่างหนุมาน ก็เอ่ยเข้าข้างพี่ชายคนกลางตามมาด้วยอีกคน...ไม่ว่าจะเรื่องคอขาดบาดตายแค่ไหน คนอย่างหนุมานก็สามารถทำให้ตลกไปได้เช่นเดียวกัน“นั่นสิ...ตายศพไม่สวยด้วยนะ ผับก็ไม่ได้เที่ยว...หญิงก็ไม่ได้เอา.
มนต์สิงหาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ เป็นเหตุให้ทุกคนในที่นี่พร้อมใจกันเงียบเสียงของตัวเองลงไป ก่อนมีสีหน้าตื่นตกใจขึ้นมาแทนที่รวมไปถึงคนแกล้งนอนหลับอยู่บนเตียงคนป่วยนี้ด้วยอีกคน….มนต์พยัคฆ์คิดคนเดียวในใจว่า...เขาโดนของอย่างงั้นเหรอ ของที่ว่านี่สมัยนี้มันยังมีอยู่จริงใช่ไหม..แล้วใครมันช่างกล้าทำใส่เขาวะ..ห่าเอ้ย!อย่าให้กูรู้นะว่าใคร...จะเหยียบให้ตายคาตีนแม่งเลย...สัด!กรรวียืนฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย...ไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกอะไรออกมาเลยสักนิด เธอคิดไว้แล้วว่าต้องใช่ ตอนอยู่ที่วัดใครต่อใครต่างก็มาขอให้หลวงตาของเธอแก้ให้...ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน จนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนเล่นของแบบนี้อยู่ทั่วไป แต่แค่ไม่มีใครรู้เท่านั้นเองการทำคุณไสย์ใส่กันมันเป็นการฆ่าคนโดยใช้วิธีสกปรก ถึงแม้ไม่ผิดกฎหมายแต่ก็ผิดกฎแห่งกรรมอย่างรุนแรงสายมูตัวแม่อย่างมนต์สิงหา ย่อมรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่เคยคิดว่า เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเธอได้ ในเมื่อมันได้เกิดขึ้นกับคนเป็นลูกชาย คนเป็นแม่ก็ต้องหาทางแก้ไขให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปให้ได้...ส่วนคนเป็นพ่อของเจ้าพวกนี้ก็ไม่อยู่ช่วยเสียด้วยสิ ธรากรต้องไปดูงานของสาขาที่อยู่ในต
เมื่อกรรวีไปถึงโรงพยาบาล ก็ได้พบกับวาสุกรีพี่ชายคนกลาง ที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องของคนไข้วาสุกรีเพิ่งมาถึง...เขาจึงพยักหน้ารับเมื่อเห็นกรรวียกมือขึ้นไหว้ขณะที่เดินเข้ามาหา...พี่ชายคนกลางอ้าแขนออกกว้าง..พลางโอบกอดร่างบางอย่างถือวิสาสะ...และฉวยจังหวะนั้นกดจูบหน้าผากของน้องสาวด้วยความเร็วปานแสงจุ๊บ!“งื้อออ.พี่งูแกล้ง!นี่มันโรงพยาบาลนะคะ...แล้วลูกกวางก็โตเป็นสาวแล้วด้วย” กรรวีเงยหน้าขึ้นโวยวายใส่วาสุกรี ก่อนขืนตัวเอาไว้เมื่อเห็นพี่ชายก้มหน้าลงมาแล้วทำท่าจะจูบซ้ำ“พี่ทำกับน้องแบบนี้มันผิดด้วยเหรอวะ..แล้วอันไหนที่เรียกว่าโต...หัวเนี่ยเหรอ” เขาว่ายิ้มๆ...ก่อนจะคลายวงแขนออกให้ แล้วเปลี่ยนเป็นเลื่อนมือขึ้นไปวางไว้บนหัวของน้องสาว จากนั้นจึงจับโยกไปมาเบาๆ ราวกับว่ามันคือของเล่น..“พี่งูแกล้ง...ลูกกวางจะไม่มาให้เห็นหน้าอีกแล้ว”ริมฝีปากบนของหญิงสาวเชิดขึ้นเกือบถึงปลายจมูกโด่งเล็กตอนว่าออกไป ก่อนค้อนใส่พี่ชายคนกลางอย่างมีแง่งอนตอนหมุนตัวเดินหนี แต่ถูกวาสุกรีคว้าข้อมือเอาไว้ได้หมับ!“มานี่เลย..จะไปไหน...เดี๋ยวนี้พี่กอดนิดหอมหน่อยไม่ได้หรือไง..งอนพี่จริงเหรอ”“จริง!”“แล้วทำยังไงจะหายงอนพี่ละหื้ม”
กรรวีมองสบตากับมนต์สิงหาด้วยความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน...คนเป็นมารดาถึงกับหน้าถอดสี...ก่อนปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่กำลังวิ่งก้าวขึ้นบันไดของลูกชายคนสุดท้อง... จากนั้นจึงช่วยกันพยุงร่างของลูกชายคนโตขึ้นรถ...แล้วรีบนำเขาส่งโรงพยาบาล ด้วยเกรงว่าจะไม่ทันการเพราะเวลานี้เจ้าตัวไม่มีแรงแม้จะทรงตัวยืนเองได้เลยกรรวียืนมองท้ายรถที่กำลังแล่นออกไปอย่างรู้สึกเป็นกังวล...เมื่อมองเห็นลมที่กำลังพัดผ่านบริเวณหน้าบ้านเริ่มกรรโชกหนัก...หลังจากนั้นสักพักก็พัดเอาเมฆฝนดำทะมึนลอยมาราวกับสั่งได้...และเธอค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนต์พยัคฆ์นั้น...มันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ...“พี่ลิงคะ..หมอบอกว่าอาการของคุณเสือเป็นอย่างไรบ้างคะ?”กรรวีโทรถามอาการของมนต์พยัคฆ์เอากับหนุมาน...เมื่อเวลาผ่านไปนานถึงสองชั่วโมง แต่ยังไม่มีใครส่งข่าวสารมาให้เธอได้รู้บ้างเลย….ความจริงแล้วกรรวีก็ใช่ว่าจะสนใจ แต่ที่ถามไปนั่นมันก็แค่ตามมารยาทเท่านั้น..เพราะทุกคนในครอบครัวของเขา ต่างก็มีบุญคุณกับหญิงสาวมากมาย...และเธอเองก็ไม่ต้องการทำให้ทุกคนต้องมาทนลำบากใจ(“หมอเอ็กซ์เรย์ดูภายในแล้วบอกว่าไม่มีอ