Beranda / มาเฟีย / ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย / บทที่ 13 เป็นของบุรินทร์

Share

บทที่ 13 เป็นของบุรินทร์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-06 12:36:32

ตุ๊บ! ร่างของเดมี่ถูกเหวี่ยงขึ้นมาบนเตียงนอนภายในห้องทันทีที่กลับมาถึง กระโปรงสีชมพูอ่อนที่สวมใส่ร่นขึ้นมากองอยู่ที่ต้นขาขาวจนเกือบจะเห็นเพนตี้ตัวบางอยู่รอมร่อ

แววตาคู่สวยสั่นระริกพร้อมเนื้อตัวสั่นเทา หญิงสาวยกมือสองข้างกุมท้องไว้แน่นด้วยความจุก เหลือบมองเลือดสีแดงสดที่กำลังไหลอาบท่อนแขนแกร่ง

บุรินทร์ทำราวกับไม่รู้สึกเจ็บปวดที่บาดแผลหรือสนใจมันเลยสักนิด

“เดี๋ยวมี่ช่วยทำแผลให้นะคะ”

“ไม่ต้องเล่นละครทำเหมือนว่าเป็นห่วงฉัน” บีบท้ายทอยบอบบางให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา แววตาใสซื่อคู่นี้กำลังจะทำให้เขาร้อนรนจนแทบบ้า “เธอคิดจะไปอยู่แล้ว จะสนใจทำไม”

“…..”

“ถอดเสื้อผ้าออกสิ ฉันจะได้รีบเอาให้มันเสร็จๆ”

“แต่แด๊ดดี้เจ็บอยู่…”

“ฉันมีปัญญาแตกใส่เธอก็แล้วกัน”

“…..” ริมฝีปากอิ่มสวยเม้มเข้าหากันแน่นพร้อมกับมองคนตัวสูงอย่างชั่งใจ

“บอกให้ถอดเสื้อผ้าออก!”

“…..” เดมี่เอื้อมมือสั่นเทาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้นอย่างไม่มีทางเลือก จนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าต่อหน้าชายหนุ่ม

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ คงไม่คิดเสียใจเพราะมันคือการตัดสินใจของเธอเอง บุรินทร์คือคนที่ชุบเลี้ยงเธอมา ให้ในสิ่งที่เขาต้องการก็เหมือนไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน

“เงยหน้ามา ฉันจะจูบ”

หญิงสาวทำตามคำสั่งแบบไม่อิดออด เงยหน้าขึ้นรอรับสัมผัสที่คุ้นเคย

“อื้อ…” เสียงหวานกลืนหายลงไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากหนาโน้มลงมาประกบจูบแนบชิดเอาเป็นเอาตาย ปลายเรียวลิ้นสอดแทรกเข้ามาดูดกลืนกินน้ำลายของเธอจนเหือดแห้ง

จูบนี้หวานลึกซึ้งและเร่าร้อนกินเวลานานกว่าทุกครั้ง สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวเจือกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ที่กำลังเป่ารดพวงแก้ม

“อืม…” มาเฟียหนุ่มเป็นฝ่ายถอนจูบออกก่อน ถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่อย่างไม่รีบร้อนมากนัก

ความเร่าร้อนก่อตัวขึ้นภายในกายเมื่อมองเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวเนียน

เดมี่คุกเข่านั่งลงก่อนจะคลานเข้าไปหยุดอยู่กลางหว่างขา แววตาปรากฏความอ้อนวอนร้องขอแต่เขากลับไม่รู้สึกเห็นใจเธอเลยสักนิด ซ้ำยังมองด้วยสายตาว่างเปล่าเหมือนเช่นเคย

เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นตามใบหน้าจิ้มลิ้ม มองเห็นความเป็นชายขนาดใหญ่เกือบเท่าข้อมือที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า

เพียงแค่คิดว่ามันกำลังจะเข้ามา ร่างกายก็สั่นเกร็งอย่างหนัก

“อ้าปากสิเด็กดี” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนเกือบจะหลุดออกจากอก เมื่อบุรินทร์บีบปลายคางของเธอเพื่อให้ยอมเปิดริมฝีปาก ก่อนจะจับแก่นกายใหญ่สอดใส่เข้ามาแล้วขยับเอวสอบด้วยจังหวะเนิบนาบ

“อึก…”

น้ำลายใสเปียกทั่วริมฝีปากไหลเยิ้มลงมาถึงปลายคาง กลีบปากที่เคยอมชมพูค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงช้ำหลังจากถูกแก่นกายเสียดสี ซ้ำแล้วซ้ำอีก

บุรินทร์นั่งอยู่บนขอบเตียง ก้มลงมองหญิงสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขา บีบท้ายทอยบอบบางให้ขยับขึ้นลงตามจังหวะที่ตัวเองต้องการจนศีรษะของเธอสั่นคลอน

“ทำเหมือนเด็กอนุบาลแบบนี้เมื่อไหร่จะแตก” บอกผ่านน้ำเสียงหงุดหงิด หยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ แล้วดึงเธอมาจูบอีกครั้ง

รสชาติกลิ่นหอมหวานรสวนิลาจากลูกอมที่เธอกินก่อนหน้านั้น ทำให้เขาแทบคลั่งไม่อยากให้ห่างไปไหน

“แด๊ดดี้อย่าโกรธมี่เลย มะ…มี่ไม่เคยทำ”

“เลียให้ทั่วแล้วดูดตรงหัวแรงๆ ไหนลองทำให้ฉันดู”

เดมี่พยักหน้าเงอะงะรีบทำตามคำสั่ง ใช้สองมือน้อยๆ ประคองท่อนเอ็นลำใหญ่ก่อนจะชักรูดขึ้นลงอย่างเบามือ

ดวงตาคู่สวยฉ่ำเยิ้มดูดน้ำล่อลื่นสีใสที่ไหลซึมออกทางส่วนปลาย ความรู้สึกแปลกใหม่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

“ฉันบอกให้ทำแรงๆ” แค่ยัยเด็กฝรั่งอมแล้วดูดต่อเบาๆ ก็เหมือนจะแตกคาปากอยู่รอมร่อ มีเหรอที่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไป

“มี่กลัวแด๊ดดี้เจ็บ”

“อีกหน่อยคนที่ต้องเจ็บคือเธอ ไม่ใช่ฉัน”

ริมฝีปากอิ่มสวยครอบลงบนแก่นกายแข็งขืน ค่อยๆ ใช้ลิ้นอุ่นลากเลียวนตั้งแต่โคนจรดปลายจนเกิดเป็นเสียงน้ำลายเฉอะแฉะ

ขนาดที่ใหญ่เกินมาตรฐาน ทำให้เข้าปากเธอได้เพียงนิด

บุรินทร์ยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเดมี่ตอบสนองเขาถึงใจมากกว่าที่คิด ยิ่งเห็นใบหน้าดื้อรั้นยิ่งอยากครอบครองเป็นเจ้าของไว้เพียงคนเดียว

ฝ่ามือหนากดศีรษะของหญิงสาวไว้มั่นก่อนจะกระแทกเอวสอบเร่งจังหวะเข้าออกเมื่อมองเห็นปลายทางรำไร

“อืม…เด็กดี”

ลาวาขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าสู่โพรงปากเล็ก ก่อนจะค่อยๆ ไหลย้อนกลับทะลักเลอะเทอะไปทั่วปลายคาง เดมี่กลืนมันลงคอจนเกือบหมด พลางสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่

“อยากให้ฉันใส่เข้าไปหรือยัง”

หญิงสาวถูกอุ้มกระเตงขึ้นมาไว้แนบอก ก่อนที่ชายหนุ่มจะวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ

“อย่าทำแรงนะคะ…มี่กลัว” เกิดเป็นความสับสน หัวใจเต้นแรงมองเห็นบาดแผลและได้กลิ่นคาวเลือดของร่างสูงที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณห้องนอน

“ถ้ากลัวก็อย่ามอง

มือหนาเอื้อมไปคว้าเนกไทเส้นโปรดที่วางอยู่บนหัวเตียงขึ้นมาปิดตาของเดมี่ไว้แน่น การกระทำของคนตัวสูงเมื่อครู่ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกังวลมากขึ้นไปอีก

“อึก…แด๊ดดี้มี่กลัว”

“อย่าลืมตาจนกว่าฉันจะสั่ง!”

“…..”

หญิงสาวสะดุ้งเฮือก หุบขาเข้าหากันแน่นตามสัญญาณเมื่อมาเฟียหนุ่มแทรกตัวเข้ามาอยู่กลางหว่างขา ใช้ส่วนปลายหัวถูไถย้ำๆ ที่ช่องทางรักสีหวาน ก่อนจะหยดน้ำลายใส่เพื่อให้เธอได้ปรับตัว “ของแด๊ดดี้ใหญ่เกินไป มะ…มี่รับไม่ไหวแน่เลย”

บุรินทร์หัวเราะเบาๆ ราวกับถูกใจนักหนาให้กับท่าทางใสซื่อ ถ้าเป็นคนอื่นคงสั่งลูกน้องหิ้วปีกไปโยนทิ้งข้างทาง

แต่กับเดมี่เขาไม่ได้รู้สึกรำคาญแต่ยังชอบที่เธอเป็นแบบนี้ หรือไม่ว่าเธอจะเป็นยังไงเขาก็ชอบทั้งนั้น

“อย่าดูถูกตัวเองขนาดนั้น”

“แต่มี่…”

“เชื่อสิว่าเธอรับมันได้หมดแน่” มาเฟียหนุ่มมองหญิงสาวที่นอนหอบหายใจหนัก เนื้อตัวของเธอสั่นเทิ้มยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ดิบของเขาได้เป็นอย่างดี

ฝ่ามือหนาขยับปลายนิ้วลงต่ำลูบไล้กลางจุดอ่อนไหวเพื่อเล้าโลม ใช้หัวแม่มือบดคลึงปุ่มกระสันย้ำๆ พร้อมกับสอดนิ้วกลางขยับหมุนวนเข้าออกในช่องทางรักให้เธอได้ปรับตัว

“อื้อ…แด๊ดดี้”

ริมฝีปากบางแห้งผากเมื่อทุกอย่างดำมืดสนิทมองไม่เห็นสิ่งรอบตัว ส่งผลให้หญิงสาวรู้สึกเคลิบเคลิ้มตกอยู่ในภวังค์ของเขาอย่างง่ายดาย

“มี่เสียว…อย่าจับตรงนั้น” ปลายเท้าของเดมี่จิกเกร็ง เสียงหวานร้องครวญครางปานจะขาดใจ

ปัก!

“กรี๊ดดด…อึก”

เล็บสวยจิกลงบนผ้าปูที่นอนไว้แน่นจนยับยู่ยี่ เขาปล่อยเธอให้เสพสมอยู่บนสวรรค์ไม่กี่นาที จากนั้นไม่นานเหมือนถูกฉุดให้กลับลงมาอยู่ที่ก้นเหวดังเดิม

เดมี่สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกเจ็บปวดราวกับช่องทางคับแคบจะปริแตก ความจุกแน่น อึดอัดถาโถมเข้ามาสุดความยาว สอดใส่เข้าออกจนขาทั้งสองสั่นเกร็ง

สะโพกสอบอัดกระแทกความเป็นชายเข้ามาในช่องทางรักแบบที่เธอไม่ทันตั้งตัว

ส่งผลให้เลือดบริสุทธิ์หยดแล้วหยดเล่าไหลหยดจนเปียกผ้าปูที่นอนราคาแพง

ปลายจมูกโด่งคมคลอเคลียดอมดมไปตามซอกคอขาวเนียนพร้อมกับสูดกลิ่นกายหอมของหญิงสาวพร้อมกับขยับเอวสอบอย่างคลั่งไคล้

“ของเธอเล็กมาก แน่นมากเด็กดี”

“มันเจ็บจังเลยแด๊ดดี้” หยดน้ำสีใสเอ่อคลออยู่บนดวงตาทั้งสองข้าง นับจากนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าบุรินทร์คือผู้ชายคนแรกของเธอ

“มันเจ็บแค่ครั้งแรก เดี๋ยวก็ชินไปเอง”

สะโพกสอบอัดกระแทกกระทั้นกับต้นขาขาวอวบจนเกิดเป็นเสียงน่าอายดังลั่น

บุรินทร์ใช้ฟันคมขบไปตามร่างกายของเธออย่างแรงจนเกิดรอยช้ำ

กลิ่นหอมแป้งเด็กที่ผ่อนคลายและรู้สึกหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น จนเผลอปล่อยสัญชาตญาณป่าเถื่อนออกมาแบบไม่รู้ตัว

“ดะ…แด๊ดดี้”

ผิวชื้นเหงื่อเสียดสีกันให้ความรู้สึกหวาบหวาม เดมี่สัมผัสได้ถึงความป่าเถื่อนและอ่อนโยนเวลาเดียวกันจนเธอเองก็สับสนว่าตัวตนที่แท้จริงของเค้านั้นเป็นคนแบบไหน

ก๊อก…ก๊อก!

เดมี่สะดุ้งเฮือกหวาดกลัวจนถึงขีดสุด เมื่อได้ยินเสียงคนเคาะประตูในขณะที่บุรินทร์กำลังทำเรื่องอย่างว่า

มาเฟียหนุ่มรีบดึงผ้านวมหนาขึ้นมาปกปิด ก่อนที่บานประตูจะถูกเปิดออกในเวลาต่อมา

“ผมเอายาแก้ปวดและยาแก้อักเสบมาให้นายครับ”

ลูกน้องคนสนิทปรายตามองภาพเร่าร้อนบนเตียงเบื้องหน้า ถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่ก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเขาที่มักจะเห็นบุรินทร์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่นอนอยู่เสมอ

ถ้าเจ้านายกินเสร็จอีกไม่นานพวกลูกน้องอย่างเขาก็ได้กินต่อ ที่ผ่านมามันเป็นแบบนี้อยู่เสมอ

แต่สำหรับเดมี่…

ครามเองก็เริ่มไม่แน่ใจว่าเจ้านายจะยอมปล่อยเหมือนที่ผ่านมา หรือบางครั้งเดมี่อาจจะเป็นข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียว

“อยากให้ไอ้ครามมันยืนดูตอนที่เราเอากันไหม” ใบหน้าคมคายยกยิ้มมุมปากก้มลงกระซิบถามข้างใบหู พลางอัดสะโพกสอบใส่คนที่นอนใต้ร่างจนเกิดเป็นเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นไปทั่วบริเวณ

“มี่อยากให้แด๊ดดี้เห็นคนเดียว”

ใบหน้าคมเข้มเผยรอยยิ้มบางอย่างพอใจในคำตอบ ยัยเด็กฝรั่งคนนี้มักจะมีคำพูดที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอยู่เสมอ

“วันนี้ฉันจะตามใจเด็กดีก็แล้วกัน”

หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงกรีดร้อง ร่างกายของเธอสั่นคลอนกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกที่อยู่เบื้องล่าง

“รีบไสหัวออกไป อย่าให้ใครเข้ามาจนกว่ากูจะเอาเด็กนี่เสร็จ”

“ครับนาย”

“แด๊ดดี้ช่วยใจดีกับมี่หน่อย” มือเล็กปัดป่ายไปทั่วแผงอกกำยำ จิกเล็บลงบนไหล่หนาซ้ำแล้วซ้ำอีก ได้แต่นอนกัดฟันข่มความเจ็บปวด โดยที่ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์จะจบลงเมื่อไหร่ “พะ…พอแล้วมี่ไม่อยากทำแล้ว มันเจ็บ”

“อยากโดนxxxเองจะมาเรียกร้องอะไร”

“ดะ…แด๊ดดี้…”

มาเฟียหนุ่มก้มลงมองจุดเชื่อมสัมพันธ์ที่กำลังรวมกันเป็นหนึ่ง พลางกลั้นหายใจกัดกรามแน่น เห็นแก่นกายที่เปียกแฉะมันวาวชะโลมไปด้วยเลือดบริสุทธิ์ก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วส่งแรงอัดกระแทกหนักๆ เข้าไปในตัวเธออีกรอบ

“ถ้าไม่อยากท้องตอนนี้ก็อย่าเรียกชื่อฉันบ่อย”

“…..”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 5 – จุดสุดท้ายของชีวิต

    โรงพยาบาล “น้องจิ๋วมาแล้ว” “ไหนๆ ขอดูบ้าง” “ทำไมน้องไม่ลืมตา” “ตัวนิ่มมากเลย ลองจับดูสิ” เสียงบทสนทนาของพวกเด็กน้อยกำลังพูดคุยกันอย่างไร้เดียงสา ยืนล้อมวงจ้องมองสมาชิกใหม่ที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วัน “ตัวเป็นอะไร ทำไมไม่มาดูน้องคนใหม่” ฟรานเดินเข้าไปถามแฝดน้องที่เอาแต่นั่งกอดอกทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมพูดจา “เบื่อ! เค้าไม่อยากได้น้องผู้ชาย เค้าอยากมีน้องผู้หญิง” เด็กชายบ่นพึมพำพลางเบือนหน้าหันหนี “ผู้ชายก็ดีนะ ตัวจะได้ไม่เหงา จะได้มีเพื่อนเล่นไง” “เล่นแต่ฟุตบอลกับปั่นจักรยานจนเบื่อแล้ว อยากเล่นอย่างอื่นบ้าง” “แล้วอย่างอื่นที่แฝดว่ามันคืออะไร อยากเล่นขายของหรือเล่นตุ๊กตาเหรอ” ใบหน้าน้อยๆ ของฟรานเอียงคอมองน้องชายฝาแฝดอย่างไม่เข้าใจ “เพราะหม่ามี๊เลือกน้องให้เราไม่ได้” “แล้วทำไมแด๊ดดี้ถึงมีแต่ลูกผู้ชาย ทำไมถึงไม่มีลูกผู้หญิงบ้าง” เด็กชายตัดพ้อทำสีหน้าเศร้า ถ้ามีน้องผู้ชายเพิ่มขึ้นมาอีกคนคงได้ปวดหัวกว่าเดิม “เพร

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 4 ไม่ได้เป็นตุ๊ด

    หลายเดือนผ่านไป “อาการของคุณฟาเรนดีขึ้นมากเลยค่ะ วันนี้ทำกายภาพได้หลายอย่างเลย” เดมี่ยิ้มกว้างพร้อมกับหัวใจที่พองโตหลังจากได้ยินข่าวดีจากพยาบาลที่ดูแลลูกชาย ตั้งแต่ได้รับตัวยาชนิดใหม่จากบุรินทร์ อาการของฟาเรนก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จากกล้ามเนื้อที่เคยอ่อนแรงค่อยๆ ขยับได้มากขึ้น กลายเป็นช่วยเหลือตัวเองได้ดีและเดินเองได้ในที่สุด “ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลฟาเรนให้เป็นอย่างดี” “คุณฟาเรนใจสู้มากค่ะ อีกไม่นานคงวิ่งเล่นกับพวกพี่ๆ ได้อย่างแน่นอน” “มี่รักแด๊ดดี้นะ รักที่สุดในโลก” หญิงสาวเดินเข้าไปกอดชายหนุ่มไว้แน่นแทนคำขอบคุณ ใบหน้าจิ้มลิ้มซบลงบนแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน “อะไรของเธอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองการกระทำเหล่านั้น ถึงแม้จะดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจแต่หัวใจของเขายังคงเต้นแรงกับผู้หญิงคนนี้อยู่ตลอด ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอมา “เพราะมีแด๊ดดี้ ฟาเรนถึงมีอาการดีขึ้นในทุกวัน ถ้าไม่ได้แด๊ดดี้ช่วยดูแล ลูกคงแย่แน่เลยค่ะ” บุรินทร์อ

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 3 หลานน้อยน่ารัก

    “ฟาเรน!” เด็กชายหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ไปหน้าน้อยๆ เอียงคอมองด้วยความสงสัยเมื่อเห็นพี่สาววิ่งเข้ามากอด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าบอกว่าปู่จะพาไปเที่ยวต่างประเทศ “ไหนบอกว่าปู่จะพาไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นไง” “ไม่อยากไปแล้ว เอาไว้ให้ฟาเรนหายป่วย พวกเราค่อยไปด้วยกัน” ฟรานโผกอดน้องชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นวิลแชร์ด้วยความคิด เด็กหญิงไม่ได้คิดเสียใจหรือเสียดายเลยสักนิด พวกเขาสามคนตกลงกันแล้วว่าจะไม่ขอไปเที่ยวถ้าเกิดไม่มีฟาเรน หรือถ้าจะไปก็ต้องไปพร้อมกัน “ไปวิ่งเล่นกัน แด๊ดดี้ทำสนามเด็กเล่นให้พวกเราอันใหม่ใหญ่เบ้อเริ่มเลย” “แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ออกจากบ้านนะ เดี๋ยวไม่สบาย” ฟาเรนพูดเสียงเบา สีหน้าดูซึมลงอย่างน่าสงสาร เขารู้ตัวเองเสมอว่าไม่ใช่เด็กปกติเหมือนคนทั่วไป “ตอนนี้แด๊ดดี้ไม่อยู่ ทางสะดวกแล้วนะ อยากไปไหม” “ยะ…อยากไป” พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะวาดสายตาหันซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ “งั้นก็รีบขี่หลังพี่เลย” “จะไม่โดนแด๊ดดี้ตีใช่ไหม”

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 2 สาเหตุของการป่วย

    “ทำอะไรอยู่ตัวเล็ก” “ก่อประสาททรายอยู่ครับ” ฟาเรนเด็กชายวัยห้าขวบหันไปตอบผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันกลับมาสนใจสิ่งตรงหน้าดังเดิม “เล่นคนเดียวเหงาไหม” บุรินทร์ยืนมองลูกน้อยที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกล ข้างกายของฟาเรนมีรถเข็นวิลแชร์ประตำแหน่งและพยาบาลพิเศษมากถึงสามคนคอยประคบประหงมอยู่ไม่ห่าง ถึงแม้ว่าฟาเรนจะมีอายุห้าขวบ แต่น้ำหนักและสัดส่วนค่อนข้างตกเกณฑ์ต่ำกว่าเด็กปกติทั่วไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลข้างเคียงมาจากการคลอดก่อนกำหนด “หนูอยากมีเพื่อน” เด็กชายบอกผ่านน้ำเสียงเศร้าสร้อยท่าทางซึมลงจนสังเกตได้ ตั้งแต่จำความได้ เขาถูกเลี้ยงดูแตกต่างจากเด็กทั่วไป ในขณะที่พวกพี่ได้วิ่งเล่นแต่ฟาเรนทำได้แค่นั่งมองอยู่ในห้องพักปลอดเชื้อต้องให้ยาทุกสี่ชั่วโมง “อย่านั่งตากแดดนาน เดี๋ยวไม่สบาย” “คุณปู่ไม่รักฟาเรนเหรอครับแด๊ดดี้ ทำไมถึงไม่พาหนูไปเที่ยวด้วย” คำถามของลูกชายทำเอามาเฟียหนุ่มหยุดชะงักนิ่งไป หัวอกคนเป็นพ่อสั่นไหวค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงข้าง

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 1 – ยอมจำนน

    “แฟรงก์มา!”เด็กน้อยที่นั่งอยู่ต่างหันขวับกันอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าน้อยๆ ของหลานฉีกยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นปู่ที่เดินเข้ามาหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน“แฟรงก์…แฟรงก์!” เด็กหญิงตะโกนเรียกซ้ำๆ กระโดดโลดเต้นดีใจรีบวิ่งเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงวันนี้ในมือปู่มีขนมแถมยังหิ้วของเล่นมาฝากหลานเยอะแยะ ตามใจกว่าแด๊ดดี้และหม่ามี๊ก็คงจะเป็นผู้ชายคนนี้“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกปู่ ข้าไม่ใช่เพื่อนเล่นของพวกเอ็งนะ” คนเป็นปู่ถอนหายใจมองหน้าไอ้พวกเด็กฝรั่งที่ไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอนแต่ได้พอสบสายตาอันไร้เดียงสาเหล่านั้น หัวใจแกร่งก็ยอมโอนอ่อนให้โดยดี“ปู่คืออะไร” ฟาโรห์ตัวป่วนเอียงคอถามอย่างสงสัย“คือพ่อของพ่อไง”“แล้วพ่อคือใคร” พอได้ยินแบบนั้นยิ่งทำให้งงไปกันใหญ่“พ่อก็คือแด๊ดดี้ไง ภาษาไทยเขาเรียกว่าพ่อ”“เข้าใจแล้ว”“เดี๋ยวนี้ลืมกันแล้วสิ ทำไมพวกเอ็งถึงไม่ไปหาปู่บ้างเลย” บุรินทร์ภัทรแสร้งทำท่าทางตัดพ้อน้อยใจ อยู่ที่บ้านก็เอาแต่ชะเง้อคอคอยมองทางหลานน้อยอยู่ทุกวัน“ไม่ได้ลืมสักหน่อย แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ไป” เด็กหญิงพูดแทรกน้ำเสียงเจื้อยแจ้วแต่สีหน้ากลับดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัด“อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปเที่ย

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   บทที่ 70 บทสรุปของความรัก THE END

    ห้างสรรพสินค้า“อ้าปากสิ เดี๋ยวฉันป้อน” มาเฟียหนุ่มบรรจงตักไอศกรีมคำโตจ่อไปที่ริมฝีปากเล็ก“…..” เดมี่ส่ายหน้าปฏิเสธ เธอเอาแต่คิดถึงลูกน้อยจนไม่เป็นอันทำอะไร“ไหนเคยบอกว่าอยากกินไอติม ก็พามาแล้วยังจะต้องการอะไรอีก”“มี่อยากรู้ว่าลูกเป็นยังไงบ้าง”“ไว้ถึงบ้านแล้วค่อยคุย”“มี่อยากรู้เดี๋ยวนี้ ตอนนี้มะ…มันไม่มีจิตใจอยากทำอะไรแล้ว” ดวงตาคู่สวยสั่นคลอนอย่างหนัก หยดน้ำตาไหลอาบใบหน้าอย่างสุดกลั้น “ทำไมแด๊ดดี้ถึงไม่บอกกันสักคำว่าลูกเป็นอะไร”“…..”ยิ่งเขาไม่พูดมันออกมา ยิ่งทำให้เธอแทบเสียสติ ในสมองมันเอาแต่คิดมากไปเองต่างๆ นานา “อยากเห็นมี่ขาดใจตายก่อนเหรอ”“ที่ไม่บอกเพราะลูกไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องร้องไห้” บุรินทร์ถอนหายใจหนัก เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาออกให้ ความทุกข์ของเดมี่ตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวก็คือเรื่องลูก “ทางโรงพยาบาลเขาโทรมาแจ้งข่าวดี”“ข่าวดี?” คนตัวเล็กรีบยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแบบลวกๆ หลังจากได้ยินประโยคที่เฝ้ารอมานานแสนนาน“อาการลูกดีขึ้นมาก ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราจะได้ไปรับลูกออกจากโรงพยาบาลด้วยกันอาทิตย์หน้า”“พูดจริงใช่ไหม อย่าหลอกให้ดีใจนะ” รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าแสนห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status