แชร์

บทที่ 15 ทนไม่ไหว

ผู้เขียน: ฮิวโก้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 12:36:51

สามวันผ่านไป

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณมี่ วันนี้จะรับอาหารเช้าเป็นอะไรดีครับ” ครามทักทายหญิงสาวที่เพิ่งมาใหม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

เดมี่สวมชุดนักศึกษา สีหน้าของเธอสดชื่นแจ่มใสเตรียมตัวไปเรียนเหมือนอย่างเช่นทุกวัน

ต่างจากอีกคนที่ขอบตาดำคล้ำคล้ายกับพักผ่อนไม่เพียงพอหรือมีเรื่องให้คิดหนัก

ดวงตาคู่สวยปรายหางตามองร่างสูงที่กำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หัวโต๊ะแต่ไม่ได้กล่าวคำทักทาย

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในคืนนั้น เธอก็ไม่อยากเข้าใกล้เขาอีก

“มี่เอาโจ๊กหมูใส่ไข่สองฟองเหมือนเดิม ขอช็อกโกแลตร้อนแก้วนึงด้วยนะคะ”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้”

เดมี่มองไปยังตุ๊กตาตัวเก่าที่วางอยู่บนเก้าอี้ประจำตำแหน่งพร้อมกับยิ้มกว้างสดใส

“มอนิ่งน้องไข่ หายหน้าหายตาไปไหนตั้งหลายวัน คิดถึงมี่บ้างหรือเปล่า” เธอเอื้อมมือไปสัมผัสที่ตุ๊กตาตัวนั้นอย่างเบามือเพราะรู้ว่าบุรินทร์หวงมาก เวลาไปไหนมาไหนเขามักจะพกมันติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ

“…..”

“คุณมี่ลองนั่งรถเมล์แล้วเป็นยังไงบ้างครับ”

“สนุกดีค่ะ มีเพื่อนคุยเยอะแยะเลย”

“เก่งมากครับ”

“…..”

“นายจะรับอะไรเพิ่มอีกไหมครับ” ครามหันมาถามเจ้านายหนุ่ม บุรินทร์ถอนหายใจหนัก เคาะนิ้วลงบนโต๊ะอาหารราวกับใช้ความคิด

เขานั่งอยู่หัวโต๊ะมานานสองนาน แต่กลับถูกเด็กฝรั่งตาน้ำข้าวคนนี้มองข้ามทำเหมือนไม่มีตัวตน

“ไปเตรียมรถให้พร้อม อีกสิบนาทีกูจะออกไปท่าเรือ”

“ได้ครับ”

ครามก้มหัวรับคำสั่ง พร้อมกับมองตามแผ่นหลังของเจ้านายที่เดินออกจากบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด

โกดังสินค้า

“งานง่ายๆ แค่นี้พวกมึงยังทำผิดพลาด จะไปไหนก็ไป อย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก”

“…..” ลูกน้องชายฉกรรจ์หน้าโหดนับสิบต่างพากันยืนก้มหน้าเมื่อถูกผู้เป็นนายเรียกพบด่วนหลังจากทำงานเสร็จ

สองสามวันนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูเหมือนจะขัดหูขัดตาบุรินทร์ไปเสียหมด

“พวกมึงรีบออกไปก่อน ตอนนี้นายน้อยกำลังอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวกูคุยให้เอง” ครามรีบออกหน้ารับแทน อยู่กันมานานก็พอจะคาดเดาความคิดของเจ้านายได้

“ครับลูกพี่”

“นายน้อยใจเย็นๆ ก่อนนะครับ อย่าเพิ่งหงุดหงิด”

มาเฟียหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ริมฝีปากคล้ำอัดควันบุหรี่เข้าปอดหนักๆ ก่อนจะโยนทิ้งลงพื้นแล้วหยิบมวนใหม่ขึ้นมาสูบต่อ

“มึงก็อีกคน ทำงานไม่ได้เรื่อง! ไสหัวไปไหนก็ไป”

“…..”

แกร๊ก…เมื่อบานประตูห้องทำงานของผู้เป็นนายถูกเปิดออก กลุ่มลูกน้องรีบพากันวิ่งเข้ามาฟังข่าว

“เป็นไงพี่คราม นายน้อยโอเคหรือยัง”

“โอเคกับผีอ่ะสิ กูเพิ่งโดนตบกกหูมา” ครามยกมือลูบใบหน้าปอยๆ ด้วยความเจ็บ แต่ไม่คิดถือสาเพราะที่ครอบครัวมีกินอยู่อย่างสุขสบาย มีบ้านมีรถมีเงินทองให้ใช้แบบไม่ขาดมือก็เพราะบุรินทร์ เขาจึงรักและเคารพเสมือนผู้มีพระคุณ

“สองสามวันนี้นายน้อยไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า ถึงมีอารมณ์หัวฟัดหัวเหวี่ยงทั้งวัน”

“ทะเลาะกับเมีย” ครามตอบสั้นๆ นอกจากเรื่องของเดมี่ก็ไม่เห็นว่าเจ้านายจะเป็นเดือดเป็นร้อนกับใครที่ไหน

“เมีย? คนอย่างนายน้อยเนี่ยนะจะมีเมีย” ทวนถามราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง อย่าว่าแต่เมียเลย แม้กระทั่งมีความรักก็ยังว่ายาก

“ก็เออน่ะสิ! ทะเลาะกับเมีย”

“แล้วนายหญิงของเราเป็นใคร ทำไมพวกเราไม่เคยเห็น”

“จะไม่เคยเห็นได้ยังไง ก็คุณเดมี่นั่นไงที่เป็นนายหญิงของพวกมึง!”

“กูว่าแล้วต้องใช่…เวลาที่นายน้อยมองคุณเดมี่มันแปลกๆ ไม่เหมือนพี่น้องกันเลยสักนิด”

“…..”

“เพราะคุณเดมี่คนเดียวเลย ทำให้นายหงุดหงิดแล้วพาลมาลงที่พวกเราแบบนี้”

“พวกมึงอยากตายกันหรือไง รีบหุบปากเดี๋ยวนี้ ถ้านายน้อยผ่านมาได้ยินเดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีก”

เวลาต่อมา

“ทำอะไรอยู่ครับ”

“มี่กำลังทำรายงานส่งอาจารย์ค่ะ” เดมี่ยิ้มกว้างสดใสเงยหน้าขึ้นมองครามที่เดินเข้ามาหาพร้อมขนมมากมายนำมาให้เธอ

“แล้วนายล่ะครับ มานั่งทำอะไรตรงนี้” เหลือบสายตามองเจ้านายหนุ่มที่นั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่ทางด้านหลัง

ครามเองก็รู้ว่าคงจะตามมาคอยเฝ้าเดมี่อีกเหมือนเคย เพราะปกติบุรินทร์ไม่เคยย่างกรายเข้ามานั่งเล่นในห้องนี้

“ก็นี่มันบ้านกู…กูจะนั่งตรงไหนก็เรื่องของกู”

“ครับ…”

“มี่ขอตัวออกไปนั่งเล่นที่ศาลาริมน้ำก่อนนะคะ อากาศคงเย็นสบายดีค่ะ” เป็นโอกาสเหมาะที่จะได้รีบออกไปจากตรงนี้ ไม่ว่าเธอจะอยู่ไหน บุรินทร์มักจะตามมาอยู่ใกล้ๆ ไม่ให้คลาดสายตา

“…..” ใบหน้าคมคายทอดสายตามองตามหญิงสาวที่รีบหอบข้าวของหนีจากเขาไป

“ไม่ตามนายหญิงออกไปเหรอครับ”

“มึงเรียกใครนายหญิง?”

“ก็คุณเดมี่เป็นเมียนายน้อย พวกผมต้องเรียกว่านายหญิง” ถ้าเจ้านายไม่สนใจก็คงเฉดหัวทิ้งหรือไม่ก็ยกเดมี่ให้พวกเขาต่อ

“…..”

“ถ้านายไม่ชอบ…พวกผมจะได้ไม่เรียกครับ”

“ไม่ต้อง! ให้เรียกเดมี่ว่านายหญิงเหมือนเดิม”

กลางดึกของคืนนั้น

แกร๊ก…บานประตูห้องนอนถูกเปิดออกในยามวิกาล บุรินทร์วาดสายตามองไปบริเวณรอบห้องของหญิงสาวผ่านความมืด ก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียง

ดวงตาเฉียบคมไล่สายตามองหญิงสาวที่สวมชุดนักศึกษาหลับตาพริ้ม เธอเองคงผล็อยหลับไปก่อนหน้านั้นแบบไม่รู้ตัว

“อืม…” เสียงหวานร้องครางเบาๆ ในลำคออย่างงัวเงีย สะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งรบกวนที่กำลังซุกไซ้ไปตามซอกคอ “แด๊ดดี้…เข้ามาทำอะไรในห้องมี่!”

ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างมองเห็นเงาดำที่กำลังคลอเคลียอยู่บนตัวเธอ ต่อให้ไม่เห็นหน้าแต่ก็จำกลิ่นน้ำหอมประจำตัวได้ว่าเป็นใคร

“ทำไมจะเข้าไม่ได้ ที่นี่มันบ้านฉัน”

เดมี่มองไปยังคนที่มาใหม่อย่างตื่นตระหนก ร่างกายท่อนบนของบุรินทร์ที่เปลือยเปล่าโชว์รอยสักน่าเกรงขาม ส่วนท่อนล่างสวมใส่กางเกงสแล็คสีดำสุภาพ

“แต่แด๊ดดี้เมามากแล้ว อย่ามากวนมี่ได้มั้ย” มือเล็กดันใบหน้าหล่อเหล่าให้ถอยห่าง กลิ่นแอลกอฮอล์เจือกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ที่ลอยคละคลุ้งพ้นผ่านทางลมหายใจ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาคงดื่มหนักมาก่อนหน้านั้น

“…..”

พรึ่บ…ร่างของหญิงสาวลอยขึ้นเหนือพื้นหลังจากถูกชายหนุ่มอุ้มกระเตงขึ้นไว้แนบอก

สองขารีบเกี่ยวเอวสอบไว้แน่นตามสัญชาตญาณพร้อมยกแขนโอบรัดลำคอหนาเพราะกลัวหล่น

ใบหน้าทั้งสองแนบชิด ปลายจมูกคลอเคลียกันไปมา จนเกือบจะจูบกันรอมร่อ

“ปะ…ปล่อยมี่ลงนะ จะพามี่ไปไหน”

ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดพวงแก้มอมชมพู โน้มใบหน้าคมคายเข้าใกล้พลางกระซิบข้างใบหู “ไปเอากันที่ห้องฉัน”

“อื้อ…” เสียงหวานกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อถูกมาเฟียหนุ่มประกบจูบแนบชิด ลมหายใจของเขาร้อนผ่าว ริมฝีปากหนาเผยอขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสอดเรียวลิ้นร้อนเข้ามาสำรวจสอดลึกจนน้ำลายใสไหลเฉอะแฉะเปียกย้อยทั่วปลายคาง “แต่พรุ่งนี้มี่มีเรียนเช้า”

“ช่างหัวมัน”

“แต่มี่ไม่อยากหยุดเรียนเพราะแด๊ดดี้นะ”

“ไม่ได้เอาหลายวัน คิดถึงแด๊ดดี้มั้ย”

“…..” เสียงหอบกระเส่าของชายหนุ่มและสรรพนามใหม่ที่เขาใช้เรียกตัวเอง ทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรง

“จะเอาอะไรก็ให้ ขอแค่เลิกปั่นหัวฉันแบบนี้สักที”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 5 – จุดสุดท้ายของชีวิต

    โรงพยาบาล “น้องจิ๋วมาแล้ว” “ไหนๆ ขอดูบ้าง” “ทำไมน้องไม่ลืมตา” “ตัวนิ่มมากเลย ลองจับดูสิ” เสียงบทสนทนาของพวกเด็กน้อยกำลังพูดคุยกันอย่างไร้เดียงสา ยืนล้อมวงจ้องมองสมาชิกใหม่ที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วัน “ตัวเป็นอะไร ทำไมไม่มาดูน้องคนใหม่” ฟรานเดินเข้าไปถามแฝดน้องที่เอาแต่นั่งกอดอกทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมพูดจา “เบื่อ! เค้าไม่อยากได้น้องผู้ชาย เค้าอยากมีน้องผู้หญิง” เด็กชายบ่นพึมพำพลางเบือนหน้าหันหนี “ผู้ชายก็ดีนะ ตัวจะได้ไม่เหงา จะได้มีเพื่อนเล่นไง” “เล่นแต่ฟุตบอลกับปั่นจักรยานจนเบื่อแล้ว อยากเล่นอย่างอื่นบ้าง” “แล้วอย่างอื่นที่แฝดว่ามันคืออะไร อยากเล่นขายของหรือเล่นตุ๊กตาเหรอ” ใบหน้าน้อยๆ ของฟรานเอียงคอมองน้องชายฝาแฝดอย่างไม่เข้าใจ “เพราะหม่ามี๊เลือกน้องให้เราไม่ได้” “แล้วทำไมแด๊ดดี้ถึงมีแต่ลูกผู้ชาย ทำไมถึงไม่มีลูกผู้หญิงบ้าง” เด็กชายตัดพ้อทำสีหน้าเศร้า ถ้ามีน้องผู้ชายเพิ่มขึ้นมาอีกคนคงได้ปวดหัวกว่าเดิม “เพร

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 4 ไม่ได้เป็นตุ๊ด

    หลายเดือนผ่านไป “อาการของคุณฟาเรนดีขึ้นมากเลยค่ะ วันนี้ทำกายภาพได้หลายอย่างเลย” เดมี่ยิ้มกว้างพร้อมกับหัวใจที่พองโตหลังจากได้ยินข่าวดีจากพยาบาลที่ดูแลลูกชาย ตั้งแต่ได้รับตัวยาชนิดใหม่จากบุรินทร์ อาการของฟาเรนก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จากกล้ามเนื้อที่เคยอ่อนแรงค่อยๆ ขยับได้มากขึ้น กลายเป็นช่วยเหลือตัวเองได้ดีและเดินเองได้ในที่สุด “ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลฟาเรนให้เป็นอย่างดี” “คุณฟาเรนใจสู้มากค่ะ อีกไม่นานคงวิ่งเล่นกับพวกพี่ๆ ได้อย่างแน่นอน” “มี่รักแด๊ดดี้นะ รักที่สุดในโลก” หญิงสาวเดินเข้าไปกอดชายหนุ่มไว้แน่นแทนคำขอบคุณ ใบหน้าจิ้มลิ้มซบลงบนแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน “อะไรของเธอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองการกระทำเหล่านั้น ถึงแม้จะดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจแต่หัวใจของเขายังคงเต้นแรงกับผู้หญิงคนนี้อยู่ตลอด ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอมา “เพราะมีแด๊ดดี้ ฟาเรนถึงมีอาการดีขึ้นในทุกวัน ถ้าไม่ได้แด๊ดดี้ช่วยดูแล ลูกคงแย่แน่เลยค่ะ” บุรินทร์อ

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 3 หลานน้อยน่ารัก

    “ฟาเรน!” เด็กชายหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ไปหน้าน้อยๆ เอียงคอมองด้วยความสงสัยเมื่อเห็นพี่สาววิ่งเข้ามากอด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าบอกว่าปู่จะพาไปเที่ยวต่างประเทศ “ไหนบอกว่าปู่จะพาไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นไง” “ไม่อยากไปแล้ว เอาไว้ให้ฟาเรนหายป่วย พวกเราค่อยไปด้วยกัน” ฟรานโผกอดน้องชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นวิลแชร์ด้วยความคิด เด็กหญิงไม่ได้คิดเสียใจหรือเสียดายเลยสักนิด พวกเขาสามคนตกลงกันแล้วว่าจะไม่ขอไปเที่ยวถ้าเกิดไม่มีฟาเรน หรือถ้าจะไปก็ต้องไปพร้อมกัน “ไปวิ่งเล่นกัน แด๊ดดี้ทำสนามเด็กเล่นให้พวกเราอันใหม่ใหญ่เบ้อเริ่มเลย” “แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ออกจากบ้านนะ เดี๋ยวไม่สบาย” ฟาเรนพูดเสียงเบา สีหน้าดูซึมลงอย่างน่าสงสาร เขารู้ตัวเองเสมอว่าไม่ใช่เด็กปกติเหมือนคนทั่วไป “ตอนนี้แด๊ดดี้ไม่อยู่ ทางสะดวกแล้วนะ อยากไปไหม” “ยะ…อยากไป” พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะวาดสายตาหันซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ “งั้นก็รีบขี่หลังพี่เลย” “จะไม่โดนแด๊ดดี้ตีใช่ไหม”

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 2 สาเหตุของการป่วย

    “ทำอะไรอยู่ตัวเล็ก” “ก่อประสาททรายอยู่ครับ” ฟาเรนเด็กชายวัยห้าขวบหันไปตอบผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันกลับมาสนใจสิ่งตรงหน้าดังเดิม “เล่นคนเดียวเหงาไหม” บุรินทร์ยืนมองลูกน้อยที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกล ข้างกายของฟาเรนมีรถเข็นวิลแชร์ประตำแหน่งและพยาบาลพิเศษมากถึงสามคนคอยประคบประหงมอยู่ไม่ห่าง ถึงแม้ว่าฟาเรนจะมีอายุห้าขวบ แต่น้ำหนักและสัดส่วนค่อนข้างตกเกณฑ์ต่ำกว่าเด็กปกติทั่วไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลข้างเคียงมาจากการคลอดก่อนกำหนด “หนูอยากมีเพื่อน” เด็กชายบอกผ่านน้ำเสียงเศร้าสร้อยท่าทางซึมลงจนสังเกตได้ ตั้งแต่จำความได้ เขาถูกเลี้ยงดูแตกต่างจากเด็กทั่วไป ในขณะที่พวกพี่ได้วิ่งเล่นแต่ฟาเรนทำได้แค่นั่งมองอยู่ในห้องพักปลอดเชื้อต้องให้ยาทุกสี่ชั่วโมง “อย่านั่งตากแดดนาน เดี๋ยวไม่สบาย” “คุณปู่ไม่รักฟาเรนเหรอครับแด๊ดดี้ ทำไมถึงไม่พาหนูไปเที่ยวด้วย” คำถามของลูกชายทำเอามาเฟียหนุ่มหยุดชะงักนิ่งไป หัวอกคนเป็นพ่อสั่นไหวค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงข้าง

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   ตอนพิเศษ 1 – ยอมจำนน

    “แฟรงก์มา!”เด็กน้อยที่นั่งอยู่ต่างหันขวับกันอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าน้อยๆ ของหลานฉีกยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นปู่ที่เดินเข้ามาหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน“แฟรงก์…แฟรงก์!” เด็กหญิงตะโกนเรียกซ้ำๆ กระโดดโลดเต้นดีใจรีบวิ่งเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงวันนี้ในมือปู่มีขนมแถมยังหิ้วของเล่นมาฝากหลานเยอะแยะ ตามใจกว่าแด๊ดดี้และหม่ามี๊ก็คงจะเป็นผู้ชายคนนี้“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกปู่ ข้าไม่ใช่เพื่อนเล่นของพวกเอ็งนะ” คนเป็นปู่ถอนหายใจมองหน้าไอ้พวกเด็กฝรั่งที่ไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอนแต่ได้พอสบสายตาอันไร้เดียงสาเหล่านั้น หัวใจแกร่งก็ยอมโอนอ่อนให้โดยดี“ปู่คืออะไร” ฟาโรห์ตัวป่วนเอียงคอถามอย่างสงสัย“คือพ่อของพ่อไง”“แล้วพ่อคือใคร” พอได้ยินแบบนั้นยิ่งทำให้งงไปกันใหญ่“พ่อก็คือแด๊ดดี้ไง ภาษาไทยเขาเรียกว่าพ่อ”“เข้าใจแล้ว”“เดี๋ยวนี้ลืมกันแล้วสิ ทำไมพวกเอ็งถึงไม่ไปหาปู่บ้างเลย” บุรินทร์ภัทรแสร้งทำท่าทางตัดพ้อน้อยใจ อยู่ที่บ้านก็เอาแต่ชะเง้อคอคอยมองทางหลานน้อยอยู่ทุกวัน“ไม่ได้ลืมสักหน่อย แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ไป” เด็กหญิงพูดแทรกน้ำเสียงเจื้อยแจ้วแต่สีหน้ากลับดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัด“อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปเที่ย

  • ถ้ายังรักได้โปรดหยุดร้าย   บทที่ 70 บทสรุปของความรัก THE END

    ห้างสรรพสินค้า“อ้าปากสิ เดี๋ยวฉันป้อน” มาเฟียหนุ่มบรรจงตักไอศกรีมคำโตจ่อไปที่ริมฝีปากเล็ก“…..” เดมี่ส่ายหน้าปฏิเสธ เธอเอาแต่คิดถึงลูกน้อยจนไม่เป็นอันทำอะไร“ไหนเคยบอกว่าอยากกินไอติม ก็พามาแล้วยังจะต้องการอะไรอีก”“มี่อยากรู้ว่าลูกเป็นยังไงบ้าง”“ไว้ถึงบ้านแล้วค่อยคุย”“มี่อยากรู้เดี๋ยวนี้ ตอนนี้มะ…มันไม่มีจิตใจอยากทำอะไรแล้ว” ดวงตาคู่สวยสั่นคลอนอย่างหนัก หยดน้ำตาไหลอาบใบหน้าอย่างสุดกลั้น “ทำไมแด๊ดดี้ถึงไม่บอกกันสักคำว่าลูกเป็นอะไร”“…..”ยิ่งเขาไม่พูดมันออกมา ยิ่งทำให้เธอแทบเสียสติ ในสมองมันเอาแต่คิดมากไปเองต่างๆ นานา “อยากเห็นมี่ขาดใจตายก่อนเหรอ”“ที่ไม่บอกเพราะลูกไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องร้องไห้” บุรินทร์ถอนหายใจหนัก เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาออกให้ ความทุกข์ของเดมี่ตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวก็คือเรื่องลูก “ทางโรงพยาบาลเขาโทรมาแจ้งข่าวดี”“ข่าวดี?” คนตัวเล็กรีบยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแบบลวกๆ หลังจากได้ยินประโยคที่เฝ้ารอมานานแสนนาน“อาการลูกดีขึ้นมาก ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราจะได้ไปรับลูกออกจากโรงพยาบาลด้วยกันอาทิตย์หน้า”“พูดจริงใช่ไหม อย่าหลอกให้ดีใจนะ” รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าแสนห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status