5.อดีต 2
“ยากจังเลยค่ะพี่ภพ” บ่นไปพรางเคี้ยวขนมไปพรางจนแก้ตุ้ย
“แค่นี้บ่นยาก แล้วจะสอบติดหมอหรอ”
“น้องวีจะพยายามค่ะ น้องวีจะต้องเป็นหมอ และมารักษาคุณหญิงให้หายให้ได้เลย” วีรดาเงยหน้าขึ้นมาสบตาตรีภพด้วยสีหน้าจริงจัง เธอเรียกคุณแม่ของตรีภพว่าคุณหญิงเสมอ แม้คุณแม่ของเขาจะให้เรียกคุณป้าเธอก็ไม่ยอม บอกแม่ของเธอสั่งมาให้เรียกคุณหญิงเท่านั้น คุณหญิงมีบุญคุณมากมาย ต้องรักและเคารพท่าน ต่อให้ท่านจะเอ็นดูและเมตตามากแค่ไหน ก็ห้ามหลงระเริงเด็ดขาด ต้องเจียมตัว
ตรีภพมองเด็กน้อยของเขาด้วยแววตาอ่อนโยนระคนเอ็นดู มือหนายื่นไปหยีกลางกระหม่อมจนผมแกละยุ่งเหยิงเป็นรังนกไปแล้ว
“พี่ภพอ่ะ ผมน้องวียุ่งหมดเลย” วีรดายู่หน้าใส่ลูกชายเจ้าของบ้าน แล้วก็ก้มลงแก้โจทย์ข้อต่อไป
วีรดาอาจเห็นเขาเป็นแค่พี่ชาย แต่เขาจะอายุ 15 แล้ว ทำไมจะไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อเด็กน้อยตรงหน้านี้คือความรักไม่เคยคิดว่าเธอคือน้องสาวเลยซักครั้งอยากให้เธอเติบโตเคียงบ่าเคียงไหล่เขาตลอดไป เขายังจำวันแรกที่พบเธอได้เด็กน้อยจ้ำม่ำตัวขาวแก้มแดงถือไม้กวาดที่ขนาดพอๆ ตัวเอง พยามกวาดใบ้ไม้แห้งไปร่วมเป็นกองเดียวกัน สีหน้าและแววตามุ่งมั่น ถึงแม้ใบไม้มันจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือเธอเท่าไร ยิ่งกวาดยิ่งปลิวกระจาย
‘ลูกใครนะเรา ไม่เคยเห็นหน้า’
‘ลูกแม่ดาค่ะ’
‘แม่ดา แม่ดาไหน’ ตรีภพจำได้ว่า บ้านเขาไม่มีคนงานชื่อนี้
‘แม่ดา เป็นแม่ของน้องวีค่ะ เป็นแม่บ้านคนใหม่ของคุณผู้หญิงที่อยู่บนตึกใหญ่ตรงนู้น’ นิ้วป้อมๆ ชี้ไปยังคฤหาสน์สามชั้น
‘แล้วเรามาทำอะไรตรงนี้ บ้านนี้ไม่ใช้แรงงานเด็กหรอกนะ แม่เธอสั่งให้ทำหรือไง’
‘แม่ดาไม่ได้สั่งให้ทำค่ะ แต่น้องวีอยากช่วยแม่ดาแม่ดาจะได้ไม่เหนื่อย’ เด็กน้อยยิ้มจนตาหยี แก้มที่ป่องยิ่งป่องเข้าไปอีก
‘มา พี่ช่วย กวาดแบบนั้นกว่าจะเสร็จเป็นลมแดดพอดี’ มือหนายื่นไปคว้าไม้กวาดมากวาดเอง
‘โอ้โห พี่เก่งจังเลยค่ะ แปปเดียวใบไม้แห้งไปรวมกันหมดเลย น้องวีกวาดตั้งนานยังไม่ได้เยอะเท่าพี่เลย พี่ชื่ออะไรค่ะหนูชื่อน้องวีค่ะ’
‘พี่ชื่อภพ’
ความทรงจำในวัยเด็กก็มีแต่ความสุขนี้น่า แล้วทำไมเน้อ
56.ไม่อาจหายใจร่วมกันได้ จบบริบูรณ์วีรดา ค่อยๆ ก้าวเดินเข้าในรั้วคฤหาสน์ชินณรงค์ ความทรงจำมากมายที่เกิดขึ้นที่นี่ วันแรกที่เธอก้าวเข้าเมื่อ 20ปี ก่อนเธอจำได้ดี วันที่เสียเสาหลักของครอบครัว แม่ดาจูงมือน้อยๆ ของเธอเดินผ่านรั้วสีทองเข้ามาใน กว่าจะเดินมาถึงตัวตึกเล่นเอาเด็กอายุเพียง 5 ขวบอย่างวีรดาเหงื่อซึม แต่เธอไม่ร้องโยเย ไม่งอแง เพราะรู้ดีว่าแม่พามาหาที่พึ่งพิง หากไม่ได้เข้าทำงานที่นี่ เธอกับแม่อาจต้องอดตาย อดมื้อกินมื้อมาหลายวันแล้ว ไม่นึกเลยว่าที่พึ่งพิงสุดท้ายกลับกลายเป็นที่ตายของแม่เธอ“วี” คุณหญิงปานวาดวิ่งออกมารับวีรดา หลังจากที่ยามหน้าประตูบอกว่าวีรดากลับมาแล้ว“วี วีให้อภัยแม่นะ แม่ผิดไปแล้วลูก ให้แม่ทำอะไรก็ได้ ขอแค่วีกลับมา”“เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ แดดร้อน” วีรดาพยักหยักหน้าเรียกให้คนที่มากับเธอตามเข้าตึกไปด้วยเธอไม่ได้มาเพียงลำพัง พี่ชาติและพี่มุกขอตามมาด้วยไม่งั้นจะไม่ให้มา เธอจึงยอมวีรดานั่งลงบนโซฟา แจ้งคุณหญิงปานวาดว่าต้องการคุยกับทุกคนของชินณรงค์ เธอนั่งรออย่างใจเย็น รอ รอจนทุกคนมาครบ“วี” ตรีภพวิ่งเข้ามาสวมกอดทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาแทบจะเหาะกลับบ้าน ที่เธอยอมกลับมา
55.สุดท้ายผ่านไปเกือบสามเดือนที่วีรดาหายตัวไป ตรีภพมาทำงานด้วยสภาพร่างกายไม่ต่างจากศพ เขาโหมงานหนัก ทั้งเลขาอย่างมุกมณีก็ลาออก เลขาคนใหม่ก็ทำงานยังไม่คล่อง ทำให้เหนื่อยอีกเท่าตัวตรีภพเปิดรูปภาพในโทรศัพท์ขึ้นดู เดือนแรกที่เธอหายไปเขาให้นักสืบหยุดตามหาเธอ เพราะละอายใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่แล้วในที่สุดเขาก็ทนความคิดถึงไม่ไหว จึงให้ตามหาเธออีกครั้ง เขาไม่ได้ไปหาไปหาเธอ เพียงเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ เท่านั้น แค่อยากรู้ว่าเธอสบายดีมั้ย ไม่เคยคิดที่จะตามเธอกลับมา ผิดกับคุณแม่ ที่อยากให้เขาพาเธอกลับมา คุณแม่ยังเชื่อมั่นว่าวีรดารักเขา หากเขาออกปากคุยกับเธอให้อภัย โดยนิสัยของวีรดาต้องยอมอภัยให้เธอยิ่งถ้าเขาทำให้เธอท้องได้ หลานจะทำให้วีรดาไม่ทิ้งครอบครัวชินณรงค์ไปไหน เขาจึงทำได้เพียงแค่บอกว่ายังหาวีรดาไม่เจอข่าวลือว่าวีรดาย้ายออกจากคฤหาสน์ จนถึงขั้นว่าตรีภพกับวีรดาเลิกลากันแล้ว เหตุจากมือที่สามทำเอาพริมาเนื้อเต้น ในที่สุดเวลาของเธอก็มาถึง ตอนนี้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตหรูหราแบบเก่าได้อีกต่อไป คุณปู่ตัดเงินกงสีเธอจริงๆ เพราะตรีภพสั่งหยุดโครงปูเเลยมโนว่าเป็นเพราะเธอ เธอพยายามอธิบายแล้วว่าไม่เค
54.หมด 2สิ้นเสียงสุชาติ ก็เกิดความชุนละมุน คุณหญิงปานวาดหมดสติไป ตรีภพต้องปล่อยมือวีรดาเพื่ออุ้มคุณหญิงขึ้นรถ ขับบึ่งไปโรงพยาบาลทันทีโชคดีที่ท่านแต่เป็นลมหมดสติไป พอวางใจเรื่องคุณแม่แล้ว เขาจึงให้คุณพ่อเฝ้าดูอาการของคุณแม่รีบขับรถกลับบ้าน เพราะเขาโทรหาก็ปิดเครื่อง ข้อความไปก็ไม่อ่าน เมื่อถึงบ้านกลับไม่เจอคนที่ตามหา วีรดา สุชาติแม้แต่ลุงชม ก็หายไปโดยไม่ได้เอาอะไรไปด้วยเลย ข้าวของเสื้อผ้าอยู่ครบทุกชิ้นตรีภพตัดสินใจโทรพาพาทิศให้ถามจากพรนับพันให้ที่ ซึ่งก็ไม่ไเ้คำตอบ พรนับพันก็ติดวีรดาไมด้เหมือนกันเวลาผ่านไป จากวัน เป็นอาทิตย์ จนคุณหญิงออกจากโรงพยาบาล วีรดาก็ยังไม่ติดต่อกลับ จนตรีภพทนไม่ไหว ถามตรีดนัย“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับคุณพ่อ ที่ผมเงียบ เพราะผมรอได้ยินจากปากคุณพ่อเอง แต่จนแล้วรอเล่าจนจะบ้าตายอยู่แล้วคุณพ่อก็เงียบ เมียผมหายไปกับไอ้ชาติทั้งคน”ในเมื่อปิดไม่ได้อีกต่อไป ตรีดนัยจึงพาตรีภพออกมานั่งที่สวนเพื่อบอกความจริงทั้งหมดตรีภพนั่งฟังสิ่งที่คุณพ่อเล่าตั้งแต่ต้นจนจบ ดวงตาค่อยๆ แดงก่ำ“ทำไม คุณพ่อกับคุณแม่ทำกับวีแบบนี้”“มันเป็นอุบัติเหตุ” ตรีดนัยพูดเพียงสั้นๆ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้
53.หมด 1สุชาติขับรถเข้ามาภายในคฤหาสน์ เข้าเดินมุ่งหน้าไปยังตัวตึกอย่างไม่ลังเล ตอนบอกเรื่องนี้กับวี เขาจำเป็นต้องยืนอยู่ข้างๆ เธอ“ชาติจะไปไหนเหรอ”“ผมมีธุระคุณกับน้องวีครับ” สุขาติหลบสายตาคุณตรีดนัย เขาเริ่มกลัวผู้ชายคนนี้“ชาติ เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว บ่อยให้มันถูกลืมไปกับกาลเวลาได้มั้ย ฉันของร้อง ฉันรู้ว่าที่ขอมันมากไป มันเป็นแค่อุบัติเหตุ อย่าไปเรื้อฟื้นมันอีกเลย” ลูกน้องโทรมาแจ้งว่า มือปืนที่จ้างวานทำงานไม่สำเร็จ มีคนไปช่วยจอมพลเอาไว้ในเมื่อวีรดาอยู่บ้าน แสดงว่าคนที่ช่วยคงเป็นสุชาติ และคงรู้เขทั้งหมดจากจอมพลแล้ว“น้องวีแค่ต้องการรู้ความจริง ให้น้องวีดูหลักฐานทั้งหมดแล้วตัดสินใจเองเถอะครับว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเปล่า”“ทำไมที่ผ่านมา ฉันไม่แอะใจซักนิด ว่าวีกับชาติ สืบเรื่องดามาตลอด” ถ้าเขาแอะใจซักนิด เขาคงปิดปากจอมพลตั้งแต่ในคุกไปแล้ว“ทำไมครับ ถ้าคุณรู้คุณจะฆ่าปิดปากพยานบุคคลแบบที่ทำวันนี้เหรอครับ”“นายออกไปจากบ้านฉันซะ ก่อนที่ฉันจะให้คนมาลากนายกับพ่อออกไป” ตรีดนัยย่างสามขุมประชิดตัวสุชาติ แววตาแข็งกร้าว เขาพูดจริง หากยังไม่หยุดเขาคงไม่แต่ไล่ออกจากบ้านไป“วี วี ได้ยินพี่มั้ย วีออกมา
52.ปิดไม่ได้อีกต่อไป 3จอมพล หนีหัวซุกหัวซุก จากเดิมตั้งใจไปเข้าหาคุณหญิงปานวาดเพื่อข่มขู่ของเงินเพิ่ม แต่กลับถูกคนของตรีดนัยตามล่า เขาคาดไม่ถึงว่าคนที่จิตใจดีแบบตรีดนัยแล้วคุณหญิงปานวาด จะกล้าลงมือเหี้ยมโหดได้ขนาดนี้ หากมือปืนไม่ยิงพลาด วันนี้เขาคงได้ไปเยี่ยมยมบาลแล้ว จอมพลยกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้า“ขอบคุณที่ช่วยลุงเอาไว้”“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รู้ว่าใครปองร้ายคุณลุง แต่ที่ผมช่วยในวันนี้ ผมหวังประโยชน์” นักสืบแจ้งว่าเจอจอมพลแล้ว เขาจึงรีบขับรถมาหา คาดไม่ถึงว่ารถของจอมพลกำลังถูกประกบไล่ยิง“ผมไม่อ้อมค้อมก็แล้วกัน ผมกำลังสืบเรื่องน้ารดา คนที่ประสบอุบัติเหตุตกบันไดในคฤหาสน์ชินณรงค์เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมกับวีรดาลูกสาวของคนตาย วีจะให้เงินคุณลุง 1 ล้าน แลกกับคุณลุงต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นทั้งหมด”จอมพลกลืนน้ำลาย ดูจากที่ตรีดนัยส่งมือปืนมาคงไม่ต้องการเจรจาและถูกเขาขู่เอาเงินแน่นอน หากไม่หนีไปคงไม่มีชีวิตรอด “ผมจะมั่นใจได้ยังไงว่า คุณจะไม่ฆ่าผม”“ถ้าคิดแบบนั้นคงไม่เสี่ยงเข้ามาช่วย”จอมพลพยักหน้า พอสุชาติโทรศัพท์มาอัดวีดีโอ จอมพลจึงเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด “ผมเป็นรุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัย
51.ปิดไม่ได้อีกต่อไป 2ข้อศึเท้าหัวเข่าทั้งสองข้าง มือหนากุมขมับ สุชาติหลังจากที่วีรดาให้หาข้อมูลพนักงานที่ชื่อจอมพล ด้วยอำนาจหน้าที่ของรองผู้จัดการแผนกบุคคลทำให้เขาเขาถึงข้อมูลพนักงานได้ไม่อยาก ในเมื่อรู้ชื่อขนาดนั้นแล้ว สุชาติคิดว่าเรื่องมันจะง่ายดาย เขาไม่พบพนักงานชื่อจอมพล ชื่อใกล้เคียง อายุราวๆ 50 ไม่มีเลย เขามั่นใจส่าวีรดาไม่มีทางจำผิด จึงสืบเรื่องการทุจริตเมื่อ สิบกว่าปีก่อน พบว่าพนักถูกพ้นสภาพและดำเนินคดีความ เขาจึงนั่งงมเข็มโดยการให้นักสืบหาผู้ต้องหาที่ชื่อจอมพล ที่ถูกตัดสินคดีในข้อหา ลักทรัพย์นายจ้าง ในระยะเวลา 10-15 ปีที่แล้วใช้เวลาอยู่หลายวันในที่สุดนักสืบก็ส่งข่าวกลับมา นายจอมพล อัสสะ ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี 6 เดือน เพิ่งพ้นโทษเมื่อต้นปีที่แล้ว ข้อมูลนี้ไม่น่าหนักใจเท่าอีกเรื่อง นักสืบเข้าไปหามูลวีรดาได้มาอย่างง่ายดาย แต่ข้อมูลของน้ารดากลับได้มาอย่างยากลำบาก เพิ่งถึงมือเขาสดๆ ร้อนเมื่อกี้อีกนี้เอง หลังอ่านจบ สุชาติถึงกับต้องนั่งกุมขมับ เขาไม่คิดจะปิดบัง แต่ก็ยังไม่พร้อมจะบอกเธอตอนนี้เช่นเดียวกัน ขอเวลาเขาอีกหน่อย ขอหลักฐานเพิ่มเติมอีกซักนิด จริงๆ เขาพอจะเดาสาเหตุการตายของน้า