หน้าหลัก / โรแมนติก / ทรายเทียมเพชร / ถึงคุณจะห้ามยังไง ฉันก็จะไปงานนี้อยู่ดี

แชร์

ถึงคุณจะห้ามยังไง ฉันก็จะไปงานนี้อยู่ดี

ผู้เขียน: พิมพ์พิรดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-10 21:51:51

“แล้วเธอได้มันมาจากไหนล่ะ”

“คุณอยากรู้ไปทำไมคะ หรือว่า...”

“ฉันถามก็ตอบมา เธอไปเอามาจากไหน” เขารีบตัดบทเสียงขุ่น

“มีคนให้ฉันเป็นของขวัญวันเกิดค่ะ”

“ใครให้?” คนถูกถามไม่ตอบ แต่กลับเหลือบมองกระจกมองหลังแทน ทำให้คนถามต้องมองตาม เมื่อได้เห็นรถมินิสีขาวคันนั้นก็นึกรู้คำตอบที่ทำให้ยิ่งขุ่นเคืองใจขึ้นมา เสียงห้าวคำรามในลำคอชวนให้คนฟังชักหวั่นใจ

“อ้อ! มิน่า” ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ จังหวะนั้นสัญญาณไฟจราจรก็เปลี่ยนสีพอดี รถที่ควรจะตรงไปก็แล่นกระชากเปลี่ยนเส้นทางฉับพลัน

“เอ๊ะ!” ผู้โดยสารสาวรีบเอะอะ เพราะรถไปคนละเส้นทางกับทางที่จะกลับบ้าน แถมยังทำให้รถที่ตามมาติดๆ คลาดกันเพราะเลี้ยวรถตามไม่ทัน ศุภิสราเหลียวมองตามรถของโทรินทร์จนลับตา โดยไม่เห็นรอยยิ้มมุมปากอย่างสมใจของอีกฝ่าย

“ไหนคุณว่าคุณท่านให้มารับฉัน” หญิงสาวตั้งป้อมอย่างเหลืออด “นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้าน ตกลงคุณจะพาฉันไปไหนกันแน่”

“ถามทำไม หรือกลัวว่าฉันจะพาเธอไปต้มยำทำแกง”

“ค่ะ ฉันกลัว กลัวมาก คุณพอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็ช่วยปล่อยมือ แล้วก็จอดรถให้ฉันลงไปสักที” ศุภิสราเอ่ยอย่างอ่อนใจ ไม่รู้เขาจะมาไม้ไหนอีก

“ถ้ากลัวก็นั่งเงียบๆ ซะที ฉ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทรายเทียมเพชร   แล้วจำได้หรือเปล่า... ว่าที่นี่เราสองคนเคยสัญญาอะไรกันไว้

    แต่กระนั้นอีกฝ่ายก็หาได้ยอมแพ้ไม่ ชายหนุ่มประทับจุมพิตไว้จนเป็นรอยแดงที่คอขาวนวลอย่างลืมตัว กรุ่นกลิ่นอายอวลแตะจมูกทำให้หัวใจร้อนร้ายเตลิดไปไกล ความหอมหวานชวนฝันตรงหน้าทำให้เขาลืมตัว ลืมบรรยากาศรอบข้างไปชั่วขณะ เช่นเดียวกับสาวน้อยที่ยืนตกตะลึงพรึงเพริดไปกับมนต์ร้ายที่เขากำลังร่ายสะกด แต่พอได้สติ ร่างบางก็เกิดฮึดผลักไสร่างสูงใหญ่อย่างแรงจนหลุดจากการอ้อมแขน มือทั้งสองกำเข้าหากันแน่นก่อนซัดโครมเข้าที่ปากของคนร้ายกาจจนสุดแรงเพื่อเรียกสติผลัวะ! ใบหน้าคมสะบัดไปตามแรงมือ น้ำตาคลอ หากเจ้าตัวกลับไม่สนใจ เธอจ้องหน้าเขาอย่างเสียความรู้สึก แววตาหวานซึ้งปนเศร้าสะท้อนกับแสงจันทร์แวววามจนทำให้พีรภัทรตะลึงงัน ที่แก้มของเขายังชาไม่หาย หากยังน้อยกว่าในอกที่เกิดความรู้สึกหลากหลายสะท้อนไปมาจนเกือบล้นทะลัก “หยุดนะ... คนใจร้าย คุณมันร้ายกาจที่สุด!” เสียงใสสั่นเครือปนสะอื้นอย่างเจ็บช้ำ พลางจ้องหน้าของเขาด้วยแววตาตัดพ้อ“ฉันไม่ใช่ของของคุณ ฉันเป็นคน! มีชีวิต จิตใจ ถึงมันจะไร้ค่าสำหรับคนอย่างคุณ แต่โปรดจำไว้... สักวันหนึ่ง คุณจะต้องเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้!”ขาดคำร่างบางก็วิ่งเตลิดหนีไปทางเรือนเล็กโดยไม่เหล

  • ทรายเทียมเพชร   ทำไมไม่เก่งให้ตลอดล่ะ

    “แต่เงินทุกบาททุกสตางค์นั่นมันไม่ใช่เงินของฉัน ในเมื่อไม่ได้เป็นคนทำงานหาเงินมาได้ด้วยตัวเองสักบาทเดียว แล้วจะให้เอาเงินมาใช้สุรุ่ยสุร่ายได้ยังไง แล้วนี่ก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นมากมายอะไร เรื่องชุดไปงานนั่นฉันจะจัดการเอง รับรองว่าจะไม่ให้คุณต้องขายหน้าใคร หรือถ้าจะขายหน้า ก็แค่หน้าของฉันเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณสักนิด แต่ถ้าคุณไม่อยากขายหน้าก็ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตคนไร้ค่าอย่างฉัน!”พอพูดจบหญิงสาวก็รีบสะบัดแขนออกอย่างแรง ก่อนวิ่งออกไปจากร้านทันที ทิ้งให้คนฟังยืนอึ้งไป ก่อนได้สติร่างสูงจึงรีบวิ่งตามออกไป แต่ก็ช้าไปเพราะร่างระหงวิ่งหายลับไปเสียแล้ว พีรภัทรได้แต่ยืนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่หน้าร้านหนอย... ยัยเด็กบ้านั่น กล้าดียังไงมาทำเป็นปากเก่งสั่งสอนเขา คอยดูนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีลอยนวลแน่ๆ“คุณคะ ชุดได้แล้วค่ะ” เสียงพนักงานสาวหวาดๆ พลางยื่นถุงสินค้าให้ ชายหนุ่มกัดฟันกรอดมองถุงตรงหน้าด้วยสายตาวาวโรจน์ชวนขนลุก... แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ว่าการขัดคำสั่งฉันมันจะเป็นยังไง!ฝ่ายศุภิสราหลังจากวิ่งหนีออกมาจากร้านเสื้อได้ ก็มายืนแกร่วรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าห้างแห่งนั้นอีกพักใหญ่ๆ หญิงสาวชะเง้อรอร

  • ทรายเทียมเพชร    คำก็ไร้ค่า สองคำก็ไร้ค่า

    เวลาผ่านไปพักใหญ่ คนที่หายเข้าไปในห้องลองเสื้อพร้อมชุดราตรีหอบใหญ่ที่พนักงานของร้านช่วยเลือกให้ก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกมาสักที ทำให้คนนั่งคอยเริ่มออกอาการหงุดหงิด ที่ผ่านมาเขาไม่เคยต้องมานั่งรอผู้หญิงคนไหนลองชุด แทบไม่ต้องพูดถึงว่าจะต้องมาคอยเลือกเสื้อผ้าให้ใคร แต่ยัยเด็กกะโปโลนี่กลับทำให้เขาต้องมานั่งเสียเวลานานสองนาน กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องไร้สาระที่น่าหงุดหงิด“ไม่เอาค่ะ” เสียงใสๆ ปฏิเสธอ้อมแอ้มทันที เมื่อเห็นราคาชุดที่พนักงานเลือกมาให้ลอง“แล้วชุดนี้ล่ะค่ะ สีโอลด์โรสจะช่วยขับผิวขาวๆ ของคุณให้นวลเนียนขึ้นมากเลยนะคะ ที่จริงคุณผิวสวยอยู่แล้ว แต่ถ้ายิ่งใส่ชุดนี้จะยิ่งดูสวยมากๆ เลยค่ะ” คำโฆษณานั้นใช่จะเกินจริงทีเดียว หากแต่พอเหลือบเห็นป้ายราคา หญิงสาวก็หน้ามืดแอบกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น“ชุดนี้ก็ไม่เอาค่ะ” ศุภิสราส่ายหน้า กระซิบถามอ้อมแอ้ม “ขอโทษนะคะ คุณมีชุดอื่นที่ราคาถูกกว่านี้ไหม” คำถามนั้นทำเอาพนักงานของร้านเป็นงง เพราะดูจากท่าทางชายหนุ่มที่พามาก็น่าจะมีฐานะร่ำรวยไม่น้อย ถึงจะขรึมๆ ดูเย็นชาไปบ้างก็คงไม่ใจจืดใจดำกับแฟนตัวเองนัก แต่เหตุไฉนเด็กสาวตรงหน้านี้กลับดูเกรงอกเกรงใจเกินเหตุแ

  • ทรายเทียมเพชร   ถึงคุณจะห้ามยังไง ฉันก็จะไปงานนี้อยู่ดี

    “แล้วเธอได้มันมาจากไหนล่ะ”“คุณอยากรู้ไปทำไมคะ หรือว่า...”“ฉันถามก็ตอบมา เธอไปเอามาจากไหน” เขารีบตัดบทเสียงขุ่น“มีคนให้ฉันเป็นของขวัญวันเกิดค่ะ”“ใครให้?” คนถูกถามไม่ตอบ แต่กลับเหลือบมองกระจกมองหลังแทน ทำให้คนถามต้องมองตาม เมื่อได้เห็นรถมินิสีขาวคันนั้นก็นึกรู้คำตอบที่ทำให้ยิ่งขุ่นเคืองใจขึ้นมา เสียงห้าวคำรามในลำคอชวนให้คนฟังชักหวั่นใจ“อ้อ! มิน่า” ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ จังหวะนั้นสัญญาณไฟจราจรก็เปลี่ยนสีพอดี รถที่ควรจะตรงไปก็แล่นกระชากเปลี่ยนเส้นทางฉับพลัน“เอ๊ะ!” ผู้โดยสารสาวรีบเอะอะ เพราะรถไปคนละเส้นทางกับทางที่จะกลับบ้าน แถมยังทำให้รถที่ตามมาติดๆ คลาดกันเพราะเลี้ยวรถตามไม่ทัน ศุภิสราเหลียวมองตามรถของโทรินทร์จนลับตา โดยไม่เห็นรอยยิ้มมุมปากอย่างสมใจของอีกฝ่าย “ไหนคุณว่าคุณท่านให้มารับฉัน” หญิงสาวตั้งป้อมอย่างเหลืออด “นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้าน ตกลงคุณจะพาฉันไปไหนกันแน่”“ถามทำไม หรือกลัวว่าฉันจะพาเธอไปต้มยำทำแกง”“ค่ะ ฉันกลัว กลัวมาก คุณพอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็ช่วยปล่อยมือ แล้วก็จอดรถให้ฉันลงไปสักที” ศุภิสราเอ่ยอย่างอ่อนใจ ไม่รู้เขาจะมาไม้ไหนอีก“ถ้ากลัวก็นั่งเงียบๆ ซะที ฉ

  • ทรายเทียมเพชร   นายต่างหากที่ต้องปล่อย

    “คุณขู่ฉันไม่ได้ เพราะฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ นอกจากเด็กในบ้านที่มาอาศัยใบบุญคุณพ่อของคุณอยู่ นอกนั้นเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แล้วที่สำคัญคือที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านของคุณด้วย” โทรินทร์ยิ้มอย่างโล่งใจ คำนั้นทำให้โลกสว่างสดใสทันตา คุณหมอหนุ่มกระชับมือน้อยๆ แนบแน่นแสดงความเป็นเจ้าของ พลางหันไปมองคู่แข่งอย่างเหนือกว่าก่อนเอ่ยเสียงระรื่น “เอาล่ะ ถ้าได้ยินชัดแล้วก็กรุณาปล่อยมือเธอด้วย พวกเราจะได้ไปกันสักที”“ปล่อย?” พีรภัทรเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาคมวาวโรจน์ขึ้น “นายต่างหากที่ต้องปล่อย”“ว่าไงนะ” โทรินทร์ถามเสียงกร้าวขึ้นชนิดที่คนเป็นน้องยังเสียวสันหลังวาบกับโหมดนี้ของพี่ชาย เหตุการณ์ตึงเครียดทำท่าจะลุกลามบานปลายอาจถึงขั้นแตกหักกันไปข้างหนึ่งในไม่ช้า เมื่อชายหนุ่มทั้งสองต่างจ้องมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร และโทสะของทั้งคู่ ทำเอาทั้งคนกลางรู้สึกอึดอัด อยากจะหนีไปให้พ้นก็ทำไม่ได้เมื่อทั้งสองหนุ่มไม่ยอมปล่อยมือจากตนทั้งๆ ที่พยายามจะดึงมือออกเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากผู้ร่วมเหตุการณ์ระทึกขวัญ ตรีรักษ์หน้าเสียทำอะไรไม่ถูก ในสมองนึกหาวิธีช่วยทั้งคนเป็นเพื่อนและพี่ชายตนให้หลุ

  • ทรายเทียมเพชร    คุณป้าให้ฉันมารับเธอ

    “ไปกันได้หรือยังคะ” ตรีรักษ์แกล้งขัดคอ นั่นแหละเขาจึงต้องเสค้อนคนเป็นน้องสาวไปทีหนึ่ง ก่อนทั้งสามเดินไปที่รถมินิสีขาว ตลอดทางโทรินทร์คอยชายตาแลเพื่อนของน้องสาวอย่างมีความสุข หากทว่าความสุขของเขาก็มีอันต้องถูกขัดจังหวะด้วยเสียงกดแตรยาวของรถหรูอีกคันที่ขับมาจอดเทียบฉับพลัน ทั้งสามพร้อมใจกันหันไปมองอย่างแปลกใจ ร่างสูงในชุดลำลองสุดเท่ก้าวลงมาจากรถคันนั้น ก่อนเดินตรงดิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ศุภิสราเบิกตากว้างตะลึงงัน ใบหน้าหล่อเหลาคมคายมองตรงมาที่เธอ ก่อนเอ่ย“คุณป้าให้ฉันมารับเธอ” สองพี่น้องผู้กลายเป็นส่วนเกินชั่วคราวทำตาปริบๆ แน่นอนว่าโทรินทร์จำอีกฝ่ายได้แม่น นายขี้เก๊กที่จู่ๆ ก็โผล่มาทำท่าจะขโมยซีน เรื่องอะไรเขาจะยอมง่ายๆ “คุณป้าให้ฉันมารับเธอ”ทั้งสามหันขวับไปมองคนมาใหม่แทบพร้อมเพรียง ประโยคนั้นก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่แตกต่างกันไปของคนฟัง ศุภิสรายืนนิ่งอึ้งมองคนมาใหม่ราวกับเห็นวัตถุแปลกประหลาดโผล่มาจากนอกโลก“คุณเพชร!” ร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่าน แววตานิ่งดุจห้วงน้ำลึกจ้องตรงมาเฉพาะเธอชวนให้อึดอัดยิ่งนัก บุรุษหยิ่งผยอง ผู้ที่แสนชังน้ำหน้าเธอเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดในโลก เขาเคยถึงขนาดออกปากห้า

  • ทรายเทียมเพชร   แปลงร่างเป็นเจ้าหญิงแสนสวยเลิศให้ดู

    “โอย อิจฉาเป็นบ้า” “อิจฉาที่ฉันจะได้ไปปล่อยไก่ในงานไฮโซนี่น่ะเหรอ เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจหนักหน่วง จนตรีรักษ์ต้องคิ้วขมวด“เป็นอะไรไป หรือว่ายังกังวลเรื่องยายปากหอยปากปูนั่นอยู่” ตรีรักษ์ทำเสียงฮึ่มฮั่มโกรธแค้นแทนเพื่อน “นอกจากจะปากหอยปากปูแล้ว ยังตาต่ำอีกต่างหาก เสียแรงเกิดมาเป็นคุณหนูลูกผู้ดีตระกูลดังซะเปล่า แหม นี่ถ้าฉันอยู่ด้วยนะ แม่จะตอกกลับให้หน้าหงายเลย คอยดู”ศุภิสรามองอาการฮึดฮัดกระฟัดกระเฟียดของเพื่อนอย่างซาบซึ้งใจ แม้เธอจะเล่าเพียงสั้นๆ เรื่องที่ถูกแม่สาวน้อยตุ๊กตาแสนสวยผู้นั้นปรามาส หากคนเป็นเพื่อนกลับแสดงท่าทีเป็นเดือดเป็นแค้นแทน ทำให้ความขุ่นเคืองมลายหายไปหมดสิ้น ที่จริงเธอไม่คิดติดใจโกรธเคืองอะไรแล้วด้วยซ้ำ“ขอบใจนะตรี ขอบใจจริงๆ”“มาขอบใจทำไม เราเป็นเพื่อนกันนี่นา ว่าแต่เธอเถอะ ไม่ดีใจเหรอ ที่ได้ไปงานนี้น่ะ”“ก็ดีใจอยู่หรอก แต่ก็อย่างที่เธอบอก งานนี้ไม่ธรรมดา แต่ฉันน่ะแค่คนธรรมดา งานหรูแบบนั้นฉันไม่มีอะไรจะใส่ไปงานด้วยซ้ำ เขาคงไม่ปลื้มแน่ถ้าฉันนุ่งอะไรทุเรศๆ ไป แล้วเธอว่ามันน่าอิจฉาอยู่ไหม” คนพูดไหล่ลู่ คอตกเอ่ย “โธ่เอ๊ย... นึกว่าอะไร เรื่องขี้ประติ๋วน่า ฉันพอจะมีเสื้

  • ทรายเทียมเพชร   ถึงจะเป็นแค่เม็ดทราย เธอก็จะไม่ยอมอยู่ใต้ฝ่าเท้าใคร!

    คำพูดที่เน้นหนักทุกคำทำให้สาวน้อยหน้าตุ๊กตาถึงกับหน้าเสีย รีบขยับเข้าไปแอบอิงด้านหลังชายหนุ่มข้างกายราวกับหาที่พึ่ง คุณพรรณรายส่งสายตาเย็นเฉียบให้หลานชายคนโปรดอย่างขุ่นเคืองใจ เหนือฟ้าได้สติเมื่อเห็นว่าน้องสาวตนกำลังทำเสียเรื่อง ชายหนุ่มจึงต้องรีบแก้ไขสถานการณ์โดยไว ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเสียคะแนนจนกู่ไม่กลับ เขารีบยกมือไหว้หญิงมากวัยอย่างนอบน้อม“ผมต้องขอโทษแทนยัยเฟื่องด้วยนะครับคุณป้า ยัยเฟื่องยังเด็กมาก บางทีเขาก็พูดไปไม่ทันคิด ผมขอโทษด้วยนะครับคุณทราย” เหนือฟ้าหันไปเอ่ยกับหญิงสาวหน้าหวานที่ยืนนิ่งเงียบอย่างน่าใจหาย คุณพรรณรายกระแทกลมหายใจข่มความขุ่นเคือง แม้เป็นพี่น้องท้องเดียวกันแต่ถึงอย่างไรเธอก็แยกแยะออกว่าใครผิดใครไม่ผิด สีหน้าเคร่งขรึมจึงผ่อนคลายลง“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะพ่อฟ้า ไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย ความจริงป้าผิดเองที่สอนคนของป้าเสมอว่าให้เขามีน้ำใจและรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น แต่ไม่คิดว่าบางทีมันก็ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ คนนอกน่ะไม่เท่าไหร่ ป้าไม่อยากถือสาอะไรกับพวกปากหอยปากปูพวกนั้น...” คนถูกเหน็บทำปากยื่น หน้างอง้ำ หากคนพูดทำเมินไม่ยี่หระ “แต่กับคนในบ้านด้วยกันเองนี่สิ สงสัยป้าคง

  • ทรายเทียมเพชร   ไม่ใช่คนใช้

    “ยัยทรายน่ะเหรอจ๊ะ” คุณพรรณรายเลิกคิ้ว มองหน้าคนพูดอย่างสงสัย เหนือฟ้าไปรู้จักคนของเธอตอนไหนกัน ยังไม่ทันได้ถามให้หายข้องใจ เสียงเข้มๆ แทรกขึ้นทันควัน“ไม่ได้!” ทุกคนหันขวับมองคนพูดเป็นตาเดียว เหนือฟ้าแยกเขี้ยวใส่เพื่อนทันที หนอย... ไม่ช่วย ยังจะมาขัดคออีก“เอ่อ... ผมคิดว่ามันไม่ค่อยจะเหมาะครับ” พีรภัทรรีบอธิบาย “ในงานมีแต่ผู้ใหญ่ จะให้เด็กคนนั้นไปแทนคุณป้าได้ยังไง เดี๋ยวไปทำขายหน้าเข้าจะเสียมาถึงคุณป้ากับคุณแม่ได้”“เฮ้ย... ไม่เสียหรอกน่า คุณทรายก็อายุพอๆ กับยัยเฟื่องคงเป็นเพื่อนกันได้ ฉันว่านายอย่าคิดมากเกินเหตุ อีกอย่างฉันก็อยู่ทั้งคน ไม่มีอะไรหรอกน่า นะครับคุณป้า รับรองว่าผมจะดูแลคุณทรายอย่างดีเลย ให้เธอไปเถอะนะครับ”“ทรายนี่ใครกันคะพี่ฟ้า” เฟื่องตะวันสะกิดถามพี่ชายเบาๆ แต่อีกฝ่ายทำเป็นไม่สนใจ“ถ้าฟ้าเห็นว่าดี ป้าก็ไม่ขัดข้องอะไรหรอกนะจ๊ะ แต่ยังไงป้าก็ต้องถามเจ้าตัวก่อนว่าอยากไปหรือเปล่า”“ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวผมถามให้เอง” เหนือฟ้ายักคิ้วกวนๆ ให้เพื่อน ก่อนเอ่ยโพล่งขึ้น “ว่าไงครับ คุณอยากไปงานนี้กับผมหรือเปล่า คุณทราย!” คำถามนั้นทำให้คนที่เพิ่งเดินลงจากบันไดและกำลังจะเลี่ยงออกไปท

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status