LOGIN02 หวนกลับมาเจอกัน
'อคิราห์' หรือ โซ่ ที่เพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้เพียงสองอาทิตย์ ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนสนิททั้งสองคน เขากับปรเมศเคยเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนไฮสคูลด้วยกันจนกระทั่งเขาย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย แต่ก็ยังติดต่อกับปรเมศตลอด แต่เมื่อสามปีที่แล้วปรเมศประกาศคบกับศรุตาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนเหมือนกัน เขาเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจู่ๆเพื่อนทั้งสองจะมาลงเอยกันได้ ส่วนข้างกายของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่ดูโดดเด่นสะดุดตาคนในงานก็คือดาราสาวดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังมีกระแสอยู่ในขณะนี้ ‘แพรขวัญ’ ใช้มือโอบท่อนแขนล่ำอย่างแนบชิดแสดงความเป็นเจ้าของ และเป็นที่น่าตกอกตกใจเป็นอย่างมากเพราะอคิราห์ที่ขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิงกล้าพาแพรขวัญมาเปิดตัวในงาน เจ้าหล่อนยิ้มหน้าระรื่น โบกมือทักทายแขกในงานตามประสาคนเป็นดารา ส่วนอคิราห์นั้นมีสีหน้านิ่งเรียบไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะไม่ได้เต็มใจให้แพรขวัญมาด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผู้ชายอย่างเขาเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่นและไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธได้ลง ด้วยความเพรียบพร้อมทั้งหน้าตาและชาติตระกูลทำให้เขากลายเป็นที่หมายปองของสาวๆที่ใครๆต่างก็อยากเป็นเจ้าของหัวใจ แต่อคิราห์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดใจให้ใครสักที อย่างมากก็แค่ควงเล่นๆ พอเบื่อก็ทิ้งเหมือนผู้หญิงหลายๆคนที่ผ่านมา จนปรเมศยกให้เขาเป็นเสือผู้หญิงอันดับหนึ่งของกลุ่ม และทันทีที่ก้าวผ่านประตูเข้ามา ปรเมศก็รีบลุกจากเก้าอี้แล้วตรงเข้าไปหาเพื่อนสนิทพร้อมเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง “กว่าจะมาได้นะครับคุณชาย มัวแต่หลงสาวอยู่หรอ” ปรเมศเอ่ยแซวแล้วหันไปยิ้มให้ดาราสาวที่ยืนแนบชิดร่างหนาราวกับจะหล่อหลอมเป็นร่างเดียวกัน “มึงก็รู้ว่าย่านนี้รถติด กูมาทันก็บุญหัวแล้ว” “ครับคุณชาย งั้นเชิญที่โต๊ะเลยครับ” ปรเมศเดินนำไปยังโต๊ะด้านหน้าสุดติดกับขอบเวที มีกระเป๋าสีชมพูของผู้หญิงวางอยู่บนโต๊ะ เมื่อเห็นดังนั้นอคิราห์ก็เค้นหัวเราะในลำคอเบาๆ “ไม่คิดว่ามึงจะกล้าเอากิ๊กมางานเปิดตัวสนามกอล์ฟของเมีย” “กิ๊กบ้าอะไร! นี่พนักงานกูเว้ย กูไม่ใช่มึงนะที่จะเปลี่ยนคู่ควงอาทิตย์ละคน” “หนุ่มโสด จะทำอะไรก็ได้” อคิราห์พูดโดยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ จนเจ้าหล่อนหน้าเจื่อน “พูดอะไรเกรงใจคุณแพรขวัญบ้างสิวะ แบบนี้เธอก็เสียความรู้สึกแย่เลยสิ” “…” อคิราห์ไม่ได้ตอบอะไร เพียงอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะปรายตามองไปยังกระเป๋าสีชมพูที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วนิ่งไป เพราะมันทำให้เขาหวนกลับไปนึกถึงใครบางคนที่ชอบสีชมพูเป็นชีวิตจิตใจ แต่เขาก็ต้องสลัดความคิดนั้นออกไปเพราะเรื่องนี้มันจบไปนานถึง 5 ปีแล้ว เขาเป็นฝ่ายเดินออกมาจากความสัมพันธ์อันแสนเจ็บปวดเพราะไม่สามารถไปต่อกับผู้หญิงคนนั้นได้ เขาเกลียดเธอ เกลียดครอบครัวของเธอ เกลียดน้าสาวของเธอ เกลียดชนิดที่ชาตินี้ก็จะไม่มีวันหันหลังกลับไปเด็ดขาด ในเมื่อครอบครัวของเธอหักหลังเขาก่อน ก็อย่าหวังว่าชีวิตนี้จะได้พบเจอสิ่งดีๆอีกเลย และถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเจอเธออีกครั้ง …เขาจะเป็นฝ่ายลงทัณฑ์เธอกับครอบครัวเอง ให้สาสมกับความรู้สึกที่เสียไป! “แล้วน้องพนักงานของมึงไปไหน” “น่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่พนักงานกูสวยนะเว้ย มึงอย่าไปม่อใส่น้องเขาเด็ดขาด” “หึ! ระดับกูไม่มีทางลดตัวลงไปยุ่งกับพนักงานทั่วไปหรอก” “ครับพ่อเสือผู้หญิง มีคุณแพรขวัญอยู่แล้วหวังว่าจะหยุดความเจ้าชู้ของมึงได้นะ” อคิราห์อมยิ้มมุมปากก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพราะเขารู้สึกอึดอัดที่แพรขวัญชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ “เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” เขาก้มหน้าลงพูดกับแพรขวัญ ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนสนิทต่อ “ฝากคุณแพรขวัญด้วยนะ เดี๋ยวกูมา” หลังล้างมือเสร็จเรียบร้อยแล้วยืนสงบสติอยู่พักหนึ่งปรางปรีญาจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ รู้สึกอึดอัดกับสายตาของผู้คนโดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจชายที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆที่เอาแต่จ้องมองมาที่เธอ จนไม่กล้านั่งอยู่ต่อจึงรีบปลีกตัวออกมาอยู่ข้างนอก และในขณะที่ปรางปรีญากำลังจะเดินกลับโต๊ะ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับเธออย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะเธอดันไปเดินชนกับชายรูปร่างสูงโปร่งที่เดินเลี้ยวออกมาจากมุมตึกพอดี ปึก!! “อ้ะ!!” เสียงอุทานหลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ พร้อมกับร่างของเธอที่ล้มลงไปกองอยู่บนพื้น ทำให้ชุดเดรสที่สวมใส่ร่นขึ้นมาจนเห็นต้นขาขาวเนียน ไร้เสียงขอโทษใดๆจากผู้ชายคนนั้น เขายังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะก้มลงมาช่วย แล้งน้ำใจที่สุด “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันระวังเอง” เมื่อทรงตัวได้ ปรางปรีญาค่อยๆพาร่างของตัวเองลุกขึ้นแล้วเอ่ยปากขอโทษทั้งๆที่ฝ่ายชายควรเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างสูงทำให้เธอแทบลืมหายใจ หัวใจดวงน้อยหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ร่างทั้งร่างแข็งทื่อราวกับโดนคำสาป ดวงตากลมโตทั้งสองข้างเบิกกว้างอย่างตกตะลึงเพราะไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ ผู้ชายที่ทิ้งเธอไปอย่างเลือดเย็นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว “พี่โซ่….” -----------------------05 เธอกับครอบครัวต้องชดใช้!“จอดให้ฉันลงเดี๋ยวนะ!”“ฉันจอดแน่ ถ้าถึงที่หมาย” แต่แทนที่อคิราห์จะจอด กลับเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนปรางปรีญาแทบนั่งไม่ติด เอาแต่หลับตาปี๋ “ทำไม กลัวหรอ”“คุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบให้คุณขับรถเร็ว”“แล้วยังไง มันเป็นอดีตไปแล้ว ฉันไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะรู้สึกยังไง ในเมื่อเธอกับครอบครัวหักหลังฉันก่อน!” อคิราห์ตวัดตาดุจัดมองอีกฝ่ายด้วยแววตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ปรางปรีญากลัวจนน้ำตาเอ่อคลอและกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูทั้งๆที่รถกำลังแล่นด้วยความเร็วสูง ทำให้อคิราห์รีบหักพวงมาลัยจอดข้างทางกะทันหันแล้วเอื้อมมือไปกระชากต้นแขนเล็กเข้ามาหาตัวจนใบหน้าเนียนสวยทิ่มกับแผงหน้าอก“ทำบ้าอะไรของเธอ!!”“ฉันบอกให้คุณจอด ฉันไม่อยากไปกับคุณ”“อยากตายนักใช่ไหม ห้ะ!” อคิราห์ตะคอกเสียงดังลั่น พร้อมกับใช้มือตะปบเข้าที่ปลายคางมน ออกแรงบีบจนอีกฝ่ายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด “ถ้าเธออยากตายนัก ฉันจะทำให้เธอได้ตายอย่างสมใจ”“ปล่อยนะ คุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้!”“ของมันเคยๆกันแล้วจะอายทำไม”“แต่เรายังไม่เคยมีอะไรกัน!” ปรางปรีญารวบรวมแรงทั้งหมดปัดมือของเขาออก รีบพาต
04 เธอต้องไปตกลงกับฉันและเมื่อกลับเข้ามาในงานอีกครั้งปรางปรีญาถึงกับเข่าอ่อน เพราะบนโต๊ะไม่ได้มีแค่ปรเมศแต่มีผู้ชายที่เพิ่งดูถูกเธอที่หน้าห้องน้ำนั่งร่วมโต๊ะด้วย ส่วนข้างกายของเขาก็คือดาราสาวดาวรุ่งพุ่งแรงริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความรู้สึกประหม่า ก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่โต๊ะ“นั่นไง พนักงานของกูมาพอดี” ปรเมศที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าปรางปรีญากับอคิราห์เคยคบกัน รีบแนะนำพนักงานให้เพื่อนสนิทรู้จัก “นี่คุณปรางปรีญา พนักงานปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ในบริษัทของกู คุณปรางครับ....นี่คือคุณอคิราห์เพื่อนสนิทของผมเอง”“สะ…สวัสดีค่ะคุณ…เอ่อ….อคิราห์” ปรางปรีญายกมือไหว้โดยไม่สบตาอีกฝ่าย แค่การกลับมาเจอกันก็แย่มากพอแล้ว นี่ยังต้องมานั่งร่วมโต๊ะกับเขาอีก “สวัสดีครับ….คุณปรางปรีญา ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ริมฝีปากร้ายกระตุกยิ้ม อดไม่ได้ที่จะแอบลอบมองพิจราณาเรือนร่างบอบบางซึ่งอยู่ในชุดเดรสสีครีม ถึงจะเป็นชุดมือสองจากตลาดนัด แต่ก็ส่งให้ปรางปรีญาดูโดดเด่นกว่าแพรขวัญซึ่งเป็นดาราระดับแถวหน้าด้วยซ้ำ “เช่นกันค่ะ” เธอพยายามไม่มองฝ่าย แต่ก็พอรับรู้ได้ว่าสายตาคมคู่นั้นเอาแต่จ้องมอง“ส่วนนี่คุ
03 ไม่ยังไม่จบ...แต่มันเพิ่งเริ่มปรางปรีญารีบขยับร่างออกห่าง พร้อมกับก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวเพื่อเอาตัวออกไปให้ไกลจากร่างผู้ชายใจร้ายคนนี้ ผู้ชายที่ทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆจนยับเยิน จนกลายเป็นคนกลัวความรักไปเลยทันที เพียงเพราะคำว่าพ่อของเธอแอบยักยอกเงิน น้าสาวของเธอแอบเป็นบ้านเล็กของคุณลุง ทำให้เขาตัดสัมพันธ์กับเธออย่างเลือดเย็นทั้งๆที่ตอนนั้นแม่ของเธอเพิ่งเสีย เป็นช่วงที่เธออ่อนแอและต้องการเขามากที่สุด...แต่สุดท้ายคำว่ารักก็ไม่สามารถรั้งผู้ชายคนนี้ไว้ได้“นี่คงเป็นวิธีการอ่อยเหยื่อของเธอสินะ” ริมฝีปากหยักเปล่งเสียงเย็นเฉียบพรางกวาดตามองพิจารณาเรือนร่างบอบบางอันแสนคุ้นเคยที่เขาเคยกอดมานับครั้งไม่ถ้วนนานแล้วที่เขาไม่ได้เจอผู้หญิงคนนี้ เธอแทบไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยเพียงแต่ใบหน้าที่เคยมีแก้มป่องๆนั้นดูเรียวขึ้น ปรางปรีญาสวยกว่าเมื่อก่อนเสียด้วยซ้ำ ต่อให้เธอจะสวยหมดจดแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันลืมสิ่งที่เธอกับครอบครัวทำลงไป หลอกให้เขารัก หลอกให้เขาหลง สุดท้ายก็แว้งมากัด และเขาจะไม่มีวันหลงกลผู้หญิงหน้าซื่อใจทรามคนนี้อีกแล้ว“วิธีแบบนี้ใช้มากี่คนแล้วล่ะ” ดวงตากลมโตคู่นั้นตวัดขึ้นมองทัน
02 หวนกลับมาเจอกัน'อคิราห์' หรือ โซ่ ที่เพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้เพียงสองอาทิตย์ ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนสนิททั้งสองคน เขากับปรเมศเคยเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนไฮสคูลด้วยกันจนกระทั่งเขาย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย แต่ก็ยังติดต่อกับปรเมศตลอด แต่เมื่อสามปีที่แล้วปรเมศประกาศคบกับศรุตาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนเหมือนกัน เขาเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจู่ๆเพื่อนทั้งสองจะมาลงเอยกันได้ส่วนข้างกายของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่ดูโดดเด่นสะดุดตาคนในงานก็คือดาราสาวดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังมีกระแสอยู่ในขณะนี้ ‘แพรขวัญ’ ใช้มือโอบท่อนแขนล่ำอย่างแนบชิดแสดงความเป็นเจ้าของ และเป็นที่น่าตกอกตกใจเป็นอย่างมากเพราะอคิราห์ที่ขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิงกล้าพาแพรขวัญมาเปิดตัวในงาน เจ้าหล่อนยิ้มหน้าระรื่น โบกมือทักทายแขกในงานตามประสาคนเป็นดารา ส่วนอคิราห์นั้นมีสีหน้านิ่งเรียบไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะไม่ได้เต็มใจให้แพรขวัญมาด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้วผู้ชายอย่างเขาเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่นและไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธได้ลง ด้วยความเพรียบพร้อมทั้งหน้าตาและชาติตระกูลทำให้เขากลายเป็นที่หมายปองของสาวๆที่ใครๆต่างก็
01 จะลบอดีตต้องทำยังไง?‘พี่สัญญานะว่าถ้าปรางเรียนจบเมื่อไหร่ พี่จะขอปรางแต่งงานทันที’ จบประโยคมือใหญ่ค่อยๆรูดแหวนเพชรลงที่นิ้วนางข้างซ้าย ถือว่าเป็นการหมั้นหมายเอาไว้ก่อน หญิงสาวค่อยๆเผยอหน้าขึ้น ยิ้มรับด้วยความตื้นตันจนน้ำตาเอ่อคลอดวงตากลมโตสุกใส ก่อนที่เธอจะวาดแขนโอบกอดร่างหนาของชายที่รักหมดหัวใจแต่….พรึ้บบ!!!“ฝันแบบนี้อีกแล้วหรอ” ร่างเล็กสะดุ้งตื่นกลางดึก เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเต็มใบหน้า แต่ที่หนักกว่านั้นก็คือ…ทุกครั้งที่ฝันถึงอดีตรักอันแสนเจ็บปวด น้ำตามักจะไหลออกมาไม่รู้ตัวราวกับว่าเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานทั้งๆที่ผ่านมานานถึง 5 ปีแล้ว “คนใจร้าย….” เธอยกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วก้มมองแหวนวงนั้นที่นิ้วนางข้างซ้าย แหวนวงนี้ที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนสวมให้ ซ้ำยังพร่ำบอกคำว่ารักทุกวัน ทำให้เธอหลงรักจนหมดหัวใจแล้วก็ทิ้งไปอย่างไม่ใยดีแต่เธอก็ยังสวมแหวนวงนี้อยู่แม้ว่าจะเลิกกันไปแล้วก็ตาม ร่างเล็กค่อยๆเอนหลังนอนราบบนที่นอน ปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาทางหางตา ดวงตากลมโตว่างเปล่าคู่นั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความเศร้าและความเสียใจ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เธอไม่กล้าเปิดใจให้ใค







