ที่แผนกประสานงานขายต่างประเทศ
“เดี๋ยวพี่จะไปประชุมกับฝ่ายบริหาร ใครมีอะไรด่วนไหม”
ศศิวิมลสอบถามทีมงานระหว่างที่เก็บของเตรียมไปเข้าประชุม
“ทำไมช่วงนี้พี่ศศิมีประชุมกับฝ่ายบริหารบ่อยจังคะ ปกติแผนกเราจะประชุมกับฝ่ายบริหารก็เดือนละครั้งไม่ใช่หรือคะ นี่พี่ก็พึ่งจะประชุมไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเองนี่คะ”
ปรียาพรถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“ก็ยอดขายไม่ได้เป้าแบบนี้ ก็ต้องโดนเพ่งเล็งเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นดูแลลูกค้าของตัวเองให้ดี อย่าให้ยอดตก อย่าให้ลูกค้าร้องเรียน มิฉะนั้นอาจโดนโยกย้ายโดนเด้งทั้งแผนก รู้แล้วใช่ไหมว่าตอนนี้บริษัทแม่ที่อเมริกาส่งคนมานั่งที่นี่และสำคัญเขาจะมาดูแผนกเราโดยเฉพาะด้วย”
สิ้นสุดเสียงราบเรียบของศศิวิมล ทั้งสามสาวก็หันหน้ามาทางเดียวกัน ปวีณาทำตาโต ส่วนปวริศากับปรียาพรทำหน้าซีด
“ย้ายไปไหนหรือคะ หรือเขาจะให้พวกเราย้ายไปที่อเมริกา แล้วให้คนที่โน่นย้ายมาทำที่นี่ ถ้าเป็นแบบนี้วีณาเต็มใจค่ะ”
“จะบ้าหรือวีณา ถ้าไม่ได้เป้าเขาจะเอาเราไปถ่วงที่อเมริกาทำไม เขาจะแจกซองขาวให้พวกเราก็ไม่ว่าละซิ”
“แหมแก ฉันก็ไม่อยากให้บรรยากาศมันเสียอะนะ ทำซีเรียสไปได้ยายหม่อน”
ศศิวิมลลอบถอนหายใจ แล้วระบายยิ้มอ่อนปลอบใจลูกน้อง
“อย่าพึ่งตีโพยตีพายกันไป ทำงานกับบริษัทฝรั่งเนี่ยเขาดูผลงาน ใครทำงานให้เขาได้เขาก็เอาไว้ ใครทำงานไม่ได้เขาก็แค่จ้างออก แต่พี่ว่าเราต้องดูกันไปก่อน แค่เตือนว่าอย่าให้เกิดความผิดพลาดในหน้าที่การงาน คนที่เขามาใหม่ เขาอาจจะไม่ใจร้ายก็ได้นะ รอดูเขาก่อน และที่สำคัญถ้าเราไม่บกพร่องต่อหน้าที่ ใครก็มาไล่เราออกไม่ได้”
“แล้วคุณคนนั้นเขาจะมาเมื่อไหร่หรือคะพี่ศศิ”
“นี่เธอก็สนใจกับเขาด้วยเหมือนกันหรือแป้ง พี่คิดว่าจะมีแค่วีณากับใบหม่อนเสียอีก”
“อ้าวนี่พี่ศศิกำลังว่าวีณากับใบหม่อนหรือคะ แหมเราก็ต้องสนใจหน่อยสิ เจ้านายใหม่จะมาทั้งที ก็ต้องรู้เขารู้เรากันหน่อย”
ปวีณาพูดไปยิ้มไป จนศศิวิมลแอบหมั่นไส้ไม่ได้
“เหรอจ๊ะ.. เมื่อกี้เห็นเธอสองคนคุยกัน ออกรสชาติเลยเถิดไปจนวางแผนมีลูกกันแล้วนี่นา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ก็วีณาอยากมีลูกหน้าตาน่ารักแบบเด็กฝรั่ง หรือพวกลูกครึ่งไงคะ จะได้ดันลูกให้เข้าวงการ แล้ววีณาจะออกไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวลูกไปเลย”
“ยังไม่ทันไรก็จะใช้แรงงานเด็กแล้วนะ วีณา เอาเป็นว่าพี่เอาใจช่วยนะ เดี๋ยวพี่ไปเล็งให้ก่อนนะ ว่าที่หลานของพี่จะผมสีอะไร”“อุ๊ย.. เขามาวันนี้หรือคะ”
ปวีณาทำเสียงตื่นเต้น หันไปโดดโลดเต้นกับเพื่อนทั้งสอง
“คิดว่านะ เพราะเห็นช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทางคุณภาวินีเลขาก็เร่งจัดห้องใหม่ให้อยู่ แว่วมาว่าเขามาถึงไทยแล้ว แต่น่าจะพักให้ร่างกายชินกับเวลาใหม่ของบ้านเราละมั้ง”
“นี่ยายแป้ง เธอไม่ตื่นเต้นหรือ ยืนนิ่งเชียว”
ปรียาพรทัก
“ตื่นเต้นเหรอ กลัวตกงานมากกว่า ฉันไม่อยากหางานใหม่อ่ะ”
“นี่พี่ทำให้พวกเราคิดมากไปหรือเปล่า ไปไป ไปทำงานต่อ เดี๋ยวพี่ไปดูลาดเลามาให้”
ศศิวิมลเข้าไปแตะไหล่แป้งเบาๆ แล้วเดินออกไป สามสาวก็หันไปสนใจงานของตนกันต่อ จนกระทั่งได้เวลาเบรกช่วงเช้าที่ทุกคนสามารถพักสายตาไปชงชาชงกาแฟจิบแก้ง่วงได้
ปวริศาลุกขึ้นจากโต๊ะทำแล้วบิดตัวไปมาทีหนึ่ง เอามือป้องปากหาวไปหนึ่งหวอดกระพริบตาปริบๆไล่ความง่วงออกไป
“ถ้าจะหาวขนาดนี้ไปเติมคาเฟอีนหน่อยเถอะแป้ง ป๊ะ..ไปกัน”
ปรียาพรชวนปวริศาไปชงกาแฟที่คอฟฟี่คอนเนอร์หรือมุมกาแฟของชั้น ส่วนปวีณาก็นั่งพักสายตาจากคอมพิวเตอร์มาจ้องจอโทรศัพท์แทน ซึ่งในออฟฟิศจะมีช่วงเวลาเบรกให้พนักงานพักจิบชากาแฟเพื่อพักผ่อนสมองช่วงละสิบนาทีทั้งเช้าและบ่าย
“นี่แป้งวันนี้เธอดูไม่ค่อยสดชื่นเอาเสียเลย ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนจ๊ะ แฟนก็ไม่มี เอ๊ะ.. หรือมีแล้วนะ”
“มีที่ไหนละ ถ้ามีจะป่าวประกาศบอกให้ทุกคนรู้เลยจ้า”
“แล้ววิศนุล่ะ พอมีหวังไหม”
“นุเขาก็เป็นคนดีนะ แต่เป็นเพื่อนกันดีกว่า”
“เฮ้อ.. เพื่อนฉันคนดีก็ไม่สน อย่าบอกนะว่าไปแอบรักคนเลวที่ไหนอยู่”
สองสาวชงกาแฟไปคุยกันไป พอใกล้จะหมดเวลาพักเบรกก็ชวนกันเดินกลับโต๊ะ แต่จังหวะที่แป้งหมุนตัวกลับและก้าวออกจากมุมกาแฟ ร่างบางก็ประทะเข้ากับแผ่นอกหนาของใครอีกคนจนเสียหลัก ทำให้กาแฟอุ่นเกือบร้อนในถ้วยกระฉอกใส่เสื้อสูทหรูของอีกคนจนเลอะเป็นวงกว้าง เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมาก เจ้าของสูทหรูใช้วงแขนโอบรับเอวบางไว้ ไม่ให้เสียหลักล้มลงบนพื้น
“ว้าย”
ปวริศาร้องลั่นด้วยความตกใจ และต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ตัวเองชนทำกาแฟหกรดใส่ ดวงหน้าคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งรับกับสันกรามกรอบใบหน้าที่ชัด กับผมสีน้ำตาลอ่อน ใช่ ใช่เขาจริงๆ ด้วย ปวริศาเผลอหลุดพูดชื่อหนึ่งออกมาจากปาก พร้อมกับกลับสายตากลมโตที่เบิกกว้าง
“เจย์เดน”
ปวริศายังคงจ้องหน้าเข้านิ่ง ดวงตาเบิกโต ปากสั่นระริก คนตรงหน้ากระตุกยิ้มที่มุมปาก
“ว้าย ตายแล้วยายแป้ง ทำไมซุ่มซ่ามแบบนี้นะ อุ๊ยตายคุณเจฟฟ์เสื้อเลอะหมดเลย”
เสียงของศศิวิมลร้องดังลั่นฟลอร์เมื่อเห็นลูกน้องคนโปรดของตนทำกาแฟหกใส่สูทหรูราคาแพงของเจ้านายคนใหม่ของพวกเขา และภาพที่เห็นตอนนี้คือปวริศาอยู่ในอ้อมกอดของผู้บริหารคนใหม่ ศศิวิมลรีบเข้าไปดึงตัวปวริศาออกมา แต่ปวริศายังคงจ้องผู้บริหารคนใหม่ไม่วางตา
“นี่ยายแป้งรีบขอโทษบอสใหม่ของพวกเราเร็วสิ”
ปวริศายังคงทำหน้างง หันมามองผู้เป็นหัวหน้าสายตรง
“พี่ศศิว่าอะไรนะคะ”
“ยังบื้ออยู่อีกยายเด็กบ๊อง คนที่ทำกาแฟหกใส่อ่ะคือบอสใหม่ของพวกเราที่มาจากสำนักงานใหญ่ที่อเมริกาไง”“สวัสดีครับ ผม เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล”
ปวริศาทวนชื่อเขาด้วยเสียงแผ่ว สายตายังคงจดจ้องใบหล่อที่หล่อเหลาเบ้าหน้าฟ้าประทานลูกรักของพระเจ้าอันแท้จริง
“ครับ เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล คือชื่อผม หรือจะเรียกผมว่าเจฟฟ์หรือชื่ออะไรก็ได้ที่คุณอยากเรียก คุณ..”
ผู้ชายตรงหน้าปวริศาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ใบหน้านิ่ง เขาจ้องหน้าเธอกลับ สายตาของเขานั้นทำให้ปวริศารู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
“ค่ะ ดิฉันปวริศาค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ”
พูดยังไม่ทันจบศศิวิมลก็รีบดึงตัวปวริศามาไว้ด้านหลังแล้วเข้าไปยกมือไหว้ขอโทษขอโพยเจ้านายใหม่อีกครั้ง
“ศศิขอโทษแทนน้องปวริศาด้วยนะคะบอส น้องเขาไม่ได้ตั้งใจค่ะ น้องเขาทำงานดีมากด้วยนะคะ เอ่อ..เดี๋ยวศศิเอาสูทไปซักให้นะคะบอส”
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจมันเป็นอุบัติเหตุ เรื่องเสื้อผมฝากด้วยแล้วกัน ตอนเย็นนี้ผมมีนัดกับคู่ค้าฝากคุณศศิช่วยเป็นธุระให้หน่อย อ้อ แล้วก็อย่าลืมพาคุณปวริศาไปใส่ยาที่มือด้วยนะครับ มือแดงหมดแล้ว”
เจฟฟ์พูดจบก็ถอดสูทยื่นส่งให้ศศิวิมลแล้วเดินผ่านไป ทิ้งให้ปวริศายืนนิ่งหน้าซีดตัวแข็งทื่ออยู่ ศศิวิมลหันมาตั้งใจจะบ่นลูกน้องคนโปรดเสียหน่อย แต่พอเห็นใบหน้าซีดเผือดของลูกค้าคนโปรดก็อดสงสารไม่ได้ นี่คงกลัวโดนไล่ออกซินะ เธอจึงเปลี่ยนเป็นเดินเข้าไปสวมกอดแทน
“โอ๋.. ไม่ต้องตกใจ คุณเจฟฟ์เธอไม่ใจร้ายไล่ออกหรอกนะ ดูสิหน้าซีด มือเย็นเฉียบไปหมดแล้วยายแป้ง”
ปรียาพรคว้ามือเพื่อนสาวไปดูเห็นรอยแดงชัด
“มือแดงหมดเลยแป้ง ไปนั่งที่โต๊ะก่อน เดี๋ยวเราไปเอายามาทาให้”
ปวริศาแทบไม่ได้ฟังคนทั้งคู่เลยว่าพูดอะไรกัน ในหัวสมองยังมีใบหน้าของเขาคนนั้นวนเวียนก่อกวนไม่จบสิ้น แล้วเธอก็เผลอพูดสิ่งที่คิดในใจออกมา
“เป็นไปไม่ได้ เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล งั้นหรือ เหมือน เหมือนเจย์เดนมากจริงๆ”
“เอ่อ.. นี่ยายแป้งเธอว่าบอสเหมือนใครหรือ”
ศศิวิมลเอียงคอถามด้วยความสงสัยที่ได้ยินลูกน้องสุดเฉิ่มเอ่ยชื่อใครบางคนออกมา
“เอ่อ.. ไม่มีอะไรค่ะพี่ศศิ แป้งเบลอเองค่ะ”
ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์