ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน
“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”
“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”
“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”
ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน
“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”
ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา
“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเคสนี้ผมสามารถแจ้งความได้เลยนะ”
“ไม่นะคะ... บอส ฮือ.. ได้โปรดเมตตาหม่อนด้วย หม่อนไม่มีที่ไปแล้ว”
ปวริศาเห็นอาการของปรียาพรแล้วรู้สึกสงสารจับใจ
“บอส”
ปวริศาส่งสายตาเชิงขอร้องและอ้อนวอนไม่ให้เจฟฟ์ไล่ปรียาพรออกหรือแจ้งความ
“ดูเหมือนเพื่อนร่วมงานของคุณ เขาจะรักคุณมากนะ คุณปรียาพร แต่ทำไมคุณถึงทำกับเขาได้นะ คุณนี่มันใจร้ายและเห็นแก่ตัวที่สุด เอาไว้เดี๋ยวผมจะพิจารณาโทษคุณอีกทีแล้วกัน อาจจะให้คุณปวริศาร่วมออกความเห็นด้วย เพราะถ้าเป็นผมคงมีคำตอบเดียว”
ปรียาพรยกมือไหว้เจฟฟ์อีกครั้ง แล้วหันไปจับมือปวริศา
“แป้งฉันขอโทษ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว เธอช่วยคุยกับบอสให้ฉันทีนะ”
ปวริศาพยักหน้า แล้วเจฟฟ์ก็มาดึงตัวปวริศาออกมา
“ผมว่าเรากลับกันเถอะ นี่ก็ดึกแล้วปล่อยให้คุณปรียาพรเธอพักผ่อนและทบทวนความคิดของตนเองไปก่อน”
“ฉันไปก่อนนะหม่อน ไม่ต้องคิดมาก ฉันไม่โกรธเธอแล้วเดี๋ยวฉันช่วยคุยกับบอสให้นะ”
“จ้ะ ขอบใจนะแป้ง”
แล้วปวริศากับเจฟฟ์ก็เดินออกจากห้องพักของปรียาพรไป ปรียาพรมองตามได้แต่ยิ้มสมเพชตัวเอง
“เธอเป็นคนที่จิตใจดีแบบนี้นี่เองทุกคนถึงได้ตกหลุมรักเธอ จริงอย่างที่ทุกคนพูดฉันสามารถก๊อปเธอได้เพียงแค่ภายนอก แต่ฉันไม่สามารถแทนที่เธอได้จริงๆ”
พอปวริศากับเจฟฟ์เดินมาขึ้นรถ เจฟฟ์ทำท่าจะเอื้อมมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้แต่ปวริศารู้ทันจึงรีบคาดเองเสียก่อน เจฟฟ์เห็นอาการของตุ๊กตาหน้ารถของเขาวันนี้แล้วก็ยิ้ม
“คืนนี้ไปค้างที่คอนโดผมนะ”
ปวริศาหันหน้ามาควับ
“ไม่ ฉันจะกลับบ้าน”
“พี่แป้งทำไมพูดจาไม่น่ารักเลย”
“ถ้าไม่พากลับบ้านก็จอดเดี๋ยวจะลงเรียกแท็กซี่เอง”
“พี่แน่ใจหรือว่าจะลงไปเรียกแท็กซี่ในชุดนี้ ถ้าแท็กซี่รับ พี่คิดว่าเขาจะไปส่งพี่ที่ไหน คืนนี้พี่ทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ขนาดนี้”
เจฟฟ์จงใจมองปวริศาด้วยสายตากระลิ้มกระเหลี่ย
“นี่ไม่ต้องมาทำหน้าโรคจิตมองแบบนี้เลยนะ”
“แต่ผมอยากคุยกับพี่ก่อน เรามีเรื่องต้องคุยกันหลายเรื่องเลยนะ”
“ตอนนี้มันดึกแล้ว”
“งั้นพรุ่งนี้ผมไปหาพี่ที่บ้าน แต่พี่ห้ามหนีผมเหมือนครั้งก่อนอีกนะ”
“ไม่เคยหนี”“ก็แล้วแต่ถ้าพรุ่งนี้ผมไปหาแล้วไม่เจอพี่ พี่ก็เตรียมบอกเพื่อนพี่ให้หางานใหม่ได้เลย”
“ไม่นะ”
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ผมไปส่งพี่กลับบ้าน แล้วพรุ่งนี้ผมจะไปหาพี่แต่เช้า ให้พี่ทำกับข้าวให้กินด้วย”
“อย่าเยอะ”
“ก็แล้วแต่ พี่คิดว่าชีวิตเพื่อนพี่สำคัญขนาดไหนล่ะ สำหรับผมถ้าเขาออกไปผมก็แจ้งให้การบุคคลจัดหาคนเข้ามาใหม่ก็แค่นั้น ไม่ได้มีอะไรยาก ผมสามารถให้เขาออกได้ทันทีเลยนะ เพราะผมไม่มีความจำเป็นอื่นใดที่จะให้เขาอยู่”
“ก็ได้ อยากมาก็มา แล้วอยากกินอะไรล่ะ”
เจฟฟ์ยิ้มจนแก้มตุ่ย ในขณะที่อีกคนทำหน้างอน“อยากกินพี่แป้ง อยากกินมาก หิวพี่แป้งเป็นที่สุด”
“ฝันไปเถอะ ออกรถได้แล้ว”
“ครับคุณแม่”
“ทะลึ่ง”
ปวริศามองไปข้างทางแล้วมีบางครั้งที่แอบอมยิ้มบ้าง ส่วนเจฟฟ์ก็ขับรถออกไปอย่างอารมณ์ดี ไม่นานรถก็มาจอดที่ข้างรั้วสีขาว เจฟฟ์รีปเดินออกมาเพื่อที่จะเปิดประตูให้ปวริศา ปวริศาเดินออกจากรถกำลังจะเข้าบ้านก็หันมามองเจฟฟ์ที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
“จะมายืนอยู่ทำไม กลับไปได้แล้ว”
“พี่แป้งขอจูบหน่อยได้ไหม ผมคิดถึงพี่นะ”
“ไม่”“นะครับ ผมอยากได้กู๊ดไนท์คิส”
ปวริศาหันมามองแล้วทำหน้าค้อนใส่เขาแต่ยืดตัวขึ้นไปจุ๊บสัมผัสที่ริมฝีปากของชายหนุ่มแล้ววิ่งเข้าบ้านด้วยความเร็ว ทำเอาเจฟฟ์ยืนยิ้มแก้มแทบแตกแล้วเดินขึ้นรถไป ส่วนปวริศาพอเข้าถึงห้องก็ยืนยิ้มให้กลับตัวเอง เพราะวันนี้เธอรู้สึกปลดล็อกหลายๆ อย่าง แต่ก็แอบเสียใจเพราะไม่คิดว่าคนที่ทำจะเป็นปรียาพรเพื่อนรักของเธอ
เช้าวันรุ่งขึ้นเจฟฟ์มาถึงบ้านปวริศาแต่เช้า เขามาใส่บาตรด้วย เสร็จแล้วก็เก็บของเข้าบ้าน แล้วเดินตามปวริศาไปในครัว
“จะเข้ามาทำไม เกะกะ ไปคุยแม่ข้างนอกโน่น”
“ให้ผมช่วยพี่ดีกว่า เดี๋ยวพี่เหนื่อย”
“แค่นี่ก็เหนื่อยใจจะแย่อยู่แล้ว”
“ผมขอโทษ ต่อไปผมจะเชื่อฟังพี่คนเดียว ผมจะไม่ดื้อไม่งอแงกับพี่”
“ถ้าทำไม่ได้ไม่ต้องพูด”
“ทำได้ครับ ทำได้ เอ่อ.. แล้วพี่จะทำอะไรให้ผมกินครับ”
เจฟฟ์เข้าไปสวมกอดจากด้านหลังแล้วแอบหอมแก้มปวริศาไปหนึ่งที
“หยุด อย่ามายุ่มย่ามสิ จะกินไหมสปาเกตตีอ่ะ”
“กินครับ พี่แป้งจำของโปรดของผมได้ด้วยหรือ น่ารักที่สุด”“กินครั้งนี้อย่ามูมมาม อย่าทำเลอะเทอะนะ ไม่งั้นจะตีให้”
“นึกว่าจะพาผมไปอาบน้ำเหมือนตอนเด็กๆ อีก”“ฝันไปเถอะ”
ปวริศาทำการลวกเส้นสปาเกตตี และทำน้ำซอสสำหรับเตรียมราด เธอยังจับสะโพกไก่ และอกไก่ที่หมักปรุงรสไว้แล้วจับใส่หม้อทอด ไม่นานทุกอย่างก็เตรียมเสร็จ โดยมีเจ้าคนตัวโตที่ทำตัวเป็นเด็กคอยอ้อนคอยกวนใจอยู่ไม่ห่าง แล้วคนตัวโตก็อ้อนอีก
“พี่แป้งหายโกรธผมหรือยัง”
“ยัง”
“โถ่ พี่แป้งอ่ะ แต่ผมรักพี่แป้ง
“ดีแต่พูด”
“พี่แป้งผมขอบคุณพี่แป้งมากนะครับ ที่อดทนเพื่อผม ผมมันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”
ปวริศาทำหน้างง เจฟฟ์โอบเอวปวริศามือจับที่ปลายคางอย่างทะนุถนอม
“ผมรู้เรื่องในอดีตทั้งหมดแล้ว ผมขอบคุณพี่มากจริงๆ ที่ทำเพื่อผมขนาดนี้”
“เจย์เดนรู้”
เจฟฟ์พยักหน้ายิ้มรับแล้วก้มมามอบจุมพิตที่อ่อนโยนให้กับหญิงสาว ทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่มและโหยหาซึ่งกันและกัน เจฟฟ์ถอนจูบแล้วป้อนอีกหนึ่งคำถามที่เขาคาใจ
“แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากถาม คือคนที่พี่เอามาจัดฉากถ่ายรูปให้แม่ผมส่งไปให้ผมเขาคือใครเหรอ ทำไมต้องถ่ายแนบชิดขนาดนั้นด้วย”
“ฮาโหล ยายแป้งชะนีน้อยของฉัน”
เสียงชายหนุ่มที่ออกสาวทักทายมาก่อนที่ตัวจะมาถึงเสียอีก
“ว้ายตายแล้วขอโทษค่ะ เอ๊ย..ขอโทษครับ”
นัตที่เดินเข้ามาเห็นภาพสองคนกำลังกอดกันกลมก็ตกใจพูดผิดพูดถูก ปวริศารีบดันเจฟฟ์ให้ออกห่าง แล้วนัตก็มาจับแขนปวริศาแล้วกระซิบกระซาบโดยมีเจฟฟ์มองตาไม่กะพริบ
“นี่แก.. คนหล่อคนนี้คือใคร ทำไมมายืนกอดกันกลมแบบนี้ หรือว่าเขาคือคนนั้นหรือ”“อืม”
ปวริศาพยักหน้าแล้วตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่ออกมาจากลำคอ
“ดีกันแล้ว”
“มั้ง”
“กอดกันกลมแบบนี้คงยังไม่ดีหรอกมั้ง”
ด้วยความที่กายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงของนัตทำให้ตอนที่คุยกระซิบกระซาบกับปวริศา เขามีการถูกเนื้อต้องตัวกันบ้าง แล้วเหมือนนัตจะเริ่มรู้สึกตัวว่ามีสายตาหนึ่งมองมาด้วยความไม่พอใจ เขาจึงรีบปล่อยมือปวริศาแล้วถอยห่างออกมาก้าวหนึ่งแล้วยิ้มแหยให้เจฟฟ์
“ขอโทษครับ ผมนัตเป็นเพื่อนยายชะนีน้อย เอ๊ย...เป็นเพื่อนยายแป้งครับ เราเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันมาครับ”
“ครับ”ปวริศาเดินไปหยิกแขนเจฟฟ์หนึ่งที
“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนี้เลย อยากรู้จักไม่ใช่เหรอผู้ชายในรูปนั้นนะ ก็คนนี้ไง เพื่อนผู้ชายคนเดียวของแป้ง นัตหรือนัตโตะ”
นัตทำหน้าเลิกลั่ก ส่วนเจฟฟ์ก็หลุดยิ้มขึ้นมา
“อะไรหรือแก”
“ไม่มีอะไรหรอก ไปกินกันดีกว่า มาได้จังหวะพอดีเลยนะ”
“ก็เพื่อของกินฝีมือแป้ง นัตโตะคนนี้ต้องรีบมาอยู่แล้ว”
แล้วนัตก็หันไปยิ้มให้เจฟฟ์
“ผมขอร่วมโต๊ะด้วยนะครับ”
เจฟฟ์มองหน้าปวริศา
“พอดีแป้งนัดกับนัตไว้ก่อน ก่อนใครบางคนด้วย ถ้าไม่พอใจก็เชิญกลับไปก่อนได้นะ”
“ไม่เอาแป้ง.. ถ้าคุณเขาไปพอใจ ฉันมากินวันหลังก็ได้แล้วเดี๋ยวค่อยนัดยายกีมากินด้วย”
“ไม่เป็นไร กินด้วยกันเยอะๆ สนุกดี พี่แป้งว่าอย่างไร ผมก็ว่าอย่างนั้นครับ”
“อร๊ายยย แกร... นอกจากหล่อแล้วยังน่ารัก เชื่อฟังแบบนี้ วาสนาของปวริศาชัดชัด อิจฉาแกรโคตรโคตรแม่ชะนีน้อย”
ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์