ที่แผนกประสานงานขายต่างประเทศ
ปวริศายื่นมือไปรับสูทหรูราคาแพงเปื้อนคราบกาแฟ ที่เธอเป็นคนทำ จากมือของศศิวิมลแล้วกล่าวว่า
“เดี๋ยวแป้งเอาไปส่งซักให้เองค่ะพี่ศศิ”
“ก็ต้องเป็นเธออยู่แล้วแหละยายแป้ง เฮ้อ... วันนี้เธอเป็นอะไรของเธอนะ ทั้งซุ่มซ่าม ทั้งเหม่อลอย มีสติหน่อยสิคะคุณน้อง”
ศศิวิมลบ่นอุบอิ่มแล้วส่งสูทให้ ส่วนปรียาพรเพื่อนของเธอก็อมยิ้มทำหน้าล้อเลียน ขณะที่กำลังทายาให้มือขาวที่มีรอยแดงเป็นจ้ำอยู่
“เอ๊ะ.. หรือว่าเธอตกตะลึงในความหล่อของบอสคนใหม่ของเราจ๊ะแป้ง”
“เอ่อ.. แป้งคงจะมึนๆค่ะ เมื่อคืนนอนน้อยด้วย เอ.. แถวนี้มีร้านซักแห้งที่รับงานด่วนบ้างไหมนะ แป้งไม่ค่อยรู้จักด้วยสิ”
ปวริศาแก้ต่างไปพร้อมกับสีหน้าที่กังวลครุ่นคิด ปรียาพรก็พิมพ์อะไรยุกยิกในโทรศัพท์มือถือแล้วก็ยิ้มออกมา
“ไม่เห็นจะยากเลย ก็ถามอากู๋สิ นี่ไงมีร้านรับซักรีด ซักแห้งรับงานด่วนรอรับได้อยู่ในซอยยี่สิบสี่เลยสี่แยกไฟแดงไปหน่อยนึง ไม่ไกลนะ แต่ออกไปตอนนี้รถคงติดน่าดู”
“ขอบใจจ้ะหม่อน เดี๋ยวแป้งนั่งวินไปดีกว่า เอ่อ.. พี่ศศิคะ แป้งเคลียร์งานไว้หมดแล้วค่ะ ไม่ค่อยมีอะไรด่วนแป้งขอออกไปเคลียร์เรื่องสูทก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว รีบไปตอนนี้เลย รีบไปรีบกลับ เมื่อกี้พี่ก็ลืมถามคุณเจฟฟ์ด้วยสิว่าจะใช้กี่โมง ได้ยินแค่ว่าเย็นนี้มีนัดกับคู่ค้า เธอรีบไปจัดการให้เรียบร้อยละกันแป้งนี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่จะให้เธอแก้ตัวเพื่อลดโทษที่ทำไว้นะ”
“พี่ศศิก็ขู่จัง ดูสิเพื่อนหม่อนหน้าซีดเป็นไก่ต้มไปหมดแล้ว รีบไปแป้งเดี๋ยวเราโทรเรียกแก๊ปให้เอง”
“ขอบใจมากนะหม่อน ไปก่อนนะคะพี่ศศิ”
ปวริศาเดินเข้าไปกอดและบอกขอบคุณเพื่อนรัก ที่วันนี้ดูจะเป็นที่พึ่งให้กับเธอผู้ไม่ค่อยมีสติได้เป็นอย่างดี และหันไหว้ลาผู้เป็นหัวหน้า ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าและเสื้อสูทเจ้าปัญหาเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูแล้วลูกบิดก็ถูกบิดออก พร้อมกับมีสาววัยสามสิบสี่ย่างสามสิบห้าอย่างภาวินีเลขาของประธานบริษัทและดูแลส่วนบริหารกลาง เดินเข้ามาในห้องทำงานของเจฟฟ์
“คุณเจฟฟ์คะ เรื่องชุดสูทของคุณเจฟฟ์ให้ภาวินีไปเอาชุดที่คอนโดให้ไหมคะ จะได้ไม่ต้องรอชุดที่ไปส่งซักค่ะ”
ภาวินีเลขาของท่านประธานผู้ที่ดูแลและจัดแจงเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจัดหาคอนโดให้เจฟฟ์ผู้เป็นนายใหม่อีกคน ทราบข่าวเรื่องที่พนักงานเดินชนผู้บริหารคนใหม่แล้วทำกาแฟหกรดชุดสูท จึงรีบเข้ามาดูแล เนื่องจากเจฟฟ์พึ่งจะเดินทางมาอยู่ไทยได้ไม่กี่วัน และพึ่งเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศวันแรกก็เกิดเรื่องเสียแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอตัวนั้นดีกว่า เพราะเป็นชุดที่เข้าเซตกับกางเกงที่ผมใส่ตัวนี้ครับ”
“อ๋อ ค่ะ.. เอแล้ววันนี้คุณเจฟฟ์มีนัดกับคู่ค้าไหนหรือคะ ภาวินีไม่เห็นตารางนัดของคุณเจฟฟ์ค่ะ ภาวินีต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่ไม่ทราบตารางนัดค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้สำคัญอะไรผมเลยไม่ได้แจ้งคุณภาวินีครับ”ภาวินีทำหน้างง เพราะเท่าที่ได้ยินมาเหตุการณ์เมื่อครู่ดูคุณเจฟฟ์ซีเรียสมากแต่แล้วทำไมตอนนี้บอกว่าไม่ได้สำคัญอะไร นี่เธอคงต้องปรับจูนกับเจ้านายใหม่อีกพักหนึ่ง
“ท่านประธานให้ภาวินีจัดหาเลขาหรือผู้ช่วยไว้ให้คุณเจฟฟ์ค่ะ คุณเจฟฟ์ต้องการระบุคุณสมบัติใดพิเศษไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับผมยังรับมือไหวอยู่ ขอบคุณคุณภาวินีมากเลยครับ”
“เรียกว่านีก็ได้นะคะ ถ้าบอสไม่รังเกียจ”
“ครับคุณนี”
“ถ้าช่วงนี้มีอะไร บอสบอกพี่นีได้เลยนะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”ภาวินีโค้งศีรษะลงเล็กน้อยแล้วออกจากห้องไป บ่อยให้บอสคนใหม่อยู่ตามลำพัง
ส่วนเจฟฟ์ได้แต่ยิ้ม วันนี้เขามาทำงานในออฟฟิศที่ไทยวันแรก เขาตื่นเต้นมาก ที่ได้จะเผชิญหน้ากับอีกคนที่เขาเฝ้ารอคอย เฝ้าคิดถึง และเขาก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้ ใครจะรู้บ้างไหมว่า เขาต้องอดทนอดกลั้นไม่ให้ก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากบางที่แต้มลิปสติกสีอ่อนแลดูสุขภาพดีแค่ไหนในจังหวะที่คว้าเอวบางที่สะดุดมาชนเขาไว้ในอ้อมกอด ดวงตาคู่สวยสบตาเขา ที่เต็มไปแววตาตื่นตระหนก ตกใจ สงสัย และเขาก็ได้ยินเสียงหวานเรียกชื่อเดิมเขาออกมา “เจย์เดน” ใช่ชื่อเดิมเขาคือเจย์เดน แต่พอไปเรียนที่อเมริกา คุณย่าก็ให้ผมใช้ชื่อที่ท่านตั้งไว้ให้ตั้งแต่เด็ก “เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล”
ความจริงวันนี้เขาไม่ได้มีนัดหมายอะไรสำคัญ ก็เป็นแค่นัดในกลุ่มเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันที่อเมริกา มาพบปะทักทายกันก็แค่นั้น แต่ตัวของเจฟฟ์เองต่างหากที่ต้องการแกล้งเจ้าหล่อน
เวลาผ่านไป เจฟฟ์มองนาฬิกาที่บอกเวลา 15.00 น. เขาเก็บของแล้วเดินออกจากห้อง แล้วมายืนหยุดที่แผนกประสานงานขายต่างประเทศ พูดคุยกับปรียาพรแล้วยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งส่งให้หนึ่งใบ
ปวริศาเดินถือสูทออกจากลิฟต์เร่งเท้ามาที่แผนกของตน แล้วก็มายืนถอนหายใจหอบที่หน้าโต๊ะทำงาน มองเวลาที่นาฬิกา 15.15 น. ยังไม่ทันได้พักหายใจ ปรียาพรเพื่อนรักก็ยื่นกระดาษโน้ตใบน้อยมาให้หนึ่งใบ เธอก็รับมาด้วยสีหน้างง งง
“อะ..นี่ บอสฝากไว้ให้”
“คืออะไรอ่ะ หม่อน”
“ก็บอสให้เธอเอาไปให้ที่นี่ บอกว่าให้ไปถึงก่อนสี่โมงเย็น และเน้นย้ำว่าให้เธอไปเองด้วย ห้ามช้านะ เขาไม่ชอบคนผิดนัด”
“อะไรนะ สี่โมงเย็น ที่โรงแรมนี้อะนะ นี่มันก็ 15.15 น.แล้ว เหลืออีก 45 นาที ใครจะไปทัน เมื่อกี้ตอนเข้ามารถติดหนักมาก”ปวริศาหันไปดูเวลาอีกครั้งแล้วถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้วก็ไม่รู้ จะไปยังไงให้ทัน กว่าจะลงจากตึก ก็คงต้องพึ่งแก๊ปสองล้ออีกแล้ว เฮ้อ
‘เจย์เดน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม เฮ้อ.. ลืมไปนายคือเจฟฟ์สินะ ไม่ว่าจะเจฟฟ์หรือเจย์เดน ฉันมั่นใจว่านี่คือความจงใจตั้งใจของนายแน่ๆ เฮ้อ’
“เฮ้อ..”
“ฉันเสนอตัวแล้วนะแป้งว่าจะช่วยเอาไปให้แทนเธอแต่บอสไม่ยอมอ่ะ”
ปวีณาพูดบ้าง แล้วปรียาพรก็รีบพูดว่า
“มัวแต่ยืนถอนหายใจ รีบไปเถอะแป้งเดี๋ยวไม่ทันหรอก เวลานี้รถติดมากด้วยนะ มาเดี๋ยวฉันเรียกแก๊ปให้เธอรีบลงไปรอที่หน้าตึกเลย ส่วนรถของเธอก็จอดทิ้งไว้ที่นี่แหละ”
“ขอบใจมากนะหม่อน เฮ้อ.. วันนี้เป็นวันอะไรนะ ทำไมแป้งถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้นะ”
“วันนี้ก็เป็นวันที่ฉันได้เจอเนื้อคู่ เป็นบอสเจฟฟ์สุดหล่อไง”
“เพ้ออ่ะ ยายวี โหดแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ ฉันขอบายดีกว่า”“ดีตัดคู่แข่งไปได้อีกหนึ่ง”
ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์