แชร์

บทที่6 นำของไปบำรุงลูกสาว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-16 11:15:01

หลังจากที่เหอเสี่ยวหงขายไข่ไก่ให้คุณป้าคนนั้นแล้วเหอเสี่ยวหงก็ยังขายสบู่ในราคาก้อนละ 3 หยวน และเอาผลไม้อย่างอื่นออกมาขายอีกเล็กน้อยก็ได้เงินทั้งหมด 51 หยวน 8 เฟิน! เป็นเงินเดือนสามีของเธอเกือบ 2 เดือน!

แม้นิยายในปี2022 ที่เหอเสี่ยวเคยอ่านหลาย ๆ เรื่องจะเห็นว่ามาขายครั้งหนึ่งได้เป็นร้อย ๆ หยวนก็ตาม แต่นี่คือชีวิตจริง!

 หากเธอจะขายของได้เป็นร้อย ๆ หยวนคงต้องใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง! เพราะแค่นี้เธอก็ขายของ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ และเธอคงจะฝืนร่างกายเหนื่อยอยู่หรอก! กว่าจะปั่นจักรยานกลับบ้านอีก!

เมื่อขายของเสร็จแล้วเหอเสี่ยวหงก็ปั่นจักรยานมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าในอำเภอและเข้าไปดูของข้างใน 

แต่เพราะมันเป็นช่วงปลายเดือน ของจึงยังไม่มาเติม และหากของมาเติม ไม่ถึงวันก็ไม่น่าพอเพราะของน้อยมาก ตอนนี้ของน้อยชนิดที่ว่าเหลืออันละไม่เกิน 3 ชิ้น!

‘แบบนี้ฉันจะเอาอะไรกลับไปให้บ้านใหญ่กับโจวมี่เล่า’ เหอเสี่ยวหงคิดในใจ 

ที่เธอจะไม่เอาของในมิติให้ก็เพราะไม่อยากให้ทั้งสองสงสัยว่าเอาของมาจากไหนในเวลาที่ของหายากแบบนี้ 

‘งั้นเอาแอปเปิลให้สัก 2 ลูกก็ได้’ เหอเสี่ยวหงตอบตัวเองในใจ 

เหอเสี่ยวหงที่ขี่จักรยานออกจากห้างสรรพสินค้าก็ปั่นดูรอบ ๆ อำเภอ

 ตอนยังเรียนอยู่ในอำเภอเหอเสี่ยวหงไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมากนัก ส่วนมากจะอยู่ที่โรงเรียนและหอพัก 

ไม่ได้รู้จักคนมากแต่ก็มีเพื่อนเพราะเป็นคนที่สวย แต่ก็นั่นแหละเพราะถ้าไม่อยู่ห้องแล้วก็โรงเรียนก็กลับบ้านแค่นั้น

รถจักรยานเกือบ 50 คัน ปั่นสวนกันไปมาในท้องถนนของอำเภอที่มีหลายคนมอง

เมื่อก่อนรถจักรยานมีไม่มากนัก บ้านเหอที่ว่ามีฐานะก็เพราะว่าพ่อของเหอเสี่ยวหงกับเหอหรงหรงนั้นเป็นทหารที่พลีชีพเมื่อหลายปีที่แล้ว

 หลังจากพ่อของเหอเสี่ยวหงเสียชีวิต อาสามกับอาสี่ที่เป็นน้องชายของพ่อก็ได้ไปเป็นทหารแทน

 หลังจากนั้นทั้งสองก็ส่งเงินมาให้แต่หลังจากบ้านเหอเกิดเรื่องก็ไม่ได้ส่งเงินมาอีกเลย เพราะฉะนั้นบ้านเหอจึงเหลือเพียงหลานสาวสองคน 

เมื่อปั่นจักรยานวนดูรอบ ๆ ในระแวกหนึ่ง เหอเสี่ยวหงก็ตัดสินใจกลับบ้านเพราะกว่าจะถึงบ้านก็น่าจะค่ำแล้ว เดี๋ยวลูกสาวกับคนอื่นๆจะเป็นห่วง

จึงหาเช่าเกวียนวัวในอำเภอเพื่อขนของกลับไปยังบ้านให้ เพราะของที่จะเอากลับบ้านมีหลายอย่าง แค่จักรยานคันเดียวของเธอมันคงจะเอาไปไม่หมดแน่ ๆ

พอหาเช่าเกวียนได้แล้วเหอเสี่ยวหงก็นัดแนะเวลาสว่าต้องมารับของที่ไหน เพราะเธอยังไม่ได้เอาของออกมา จึงต้องหามุมอับเพื่อเอาของออกมาก่อน

เหอเสี่ยวหงมองซ้ายขวาอย่างระวังเพราะกลัวว่าจะมีคนมาเห็น จากนั้นนึกถึงสิ่งที่อยากเอาออกมา สิ่งแรกก็คือจักรเย็บผ้าขนาดกลางที่สามารถยกไปไหนมาไหนได้ อมันต่างจากจักรเย็บผ้าของที่นี่ ซึ่งเหอเสี่ยวหงจะบอกคนในบ้านว่าสหายส่งมาให้

ตามด้วยม้วนผ้าคละสีหลายม้วนที่เลือกหยิบ ๆ มา ตามด้วยด้ายสีที่แถมมากับม้วนผ้า และยังไหมพรมอีกที่เหอเสี่ยวหงจะเอาเป็นถักเวลาว่าง

ข้าง ๆ กันเหอเสีายวหงก็เอากระติกน้ำร้อนโบราณออกมา 1 ใบ แก้วเก็บอุณหภูมิที่แถมมาอีก 2 ใบ และขวดเก็บอุณหภูมิ 4 ขวดวางไว้ข้างจักรเย็บผ้า และไม่ลืมที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาอีก ที่บ้านก็มีใช้แต่มันเก่ามากแล้ว

นำเครื่องปรุงที่เป็นของแห้งออกมาอย่างละ 2 ชั่ง ส่วนพวกที่เป็นของเหลวเอาออกมาอย่างละขวด

 นำไปวางใส่ตะกร้าที่หยิบออกมาเช่นเดียวกัน ส่วนอีกใบที่เอาออกมาด้วยเหอเสี่ยวหงจะเอาใส่พวกผักที่มีในมิติ

นำตะกร้าขนาดใหญ่ออกมาเก็บพวกเครื่องปรุงใส่ พร้อมทั้งหยิบพวกของแห้งอย่างปลากระป๋อง ทูน่า โจ๊ก และข้าวต้มอบแห้งออกมาด้วย

นำกะละมังขนาดกลางอีกอันออกมาวางไว้แล้วหยิบพวกจาน ชาม ลงใส่กะละมัง ของที่มีในบ้านมันเก่ามากแล้ว วางทับด้วยน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก แปรงสีฟัน ยาสีฟัน

อีกทั้งยังเอาธัญพืชที่มีออกมาอีกอย่างละห้าชั่ง ของพวกนี้เธอเอามาหลอกตาคนบังคับเกวียนเฉย ๆ เพราะหากใกล้ถึงบ้านจะเอาของออกมาอีก เพราะแค่นี้ก็เยอะมากแล้ว

“โอ้! ดูนั่นสิ สะใภ้รองบ้านโจวซื้อของมาเต็มคันรถเลย!” ชาวบ้านที่เพิ่งเลิกงานชี้ให้คนที่ยืนอยู่ด้วยกันดู

ช่วงสายที่ผ่านมามีหลายคนเห็นว่าสะใภ้รองโจวปั่นจักรยานออกจากหมู่บ้าน ทั้งยังได้คุยถึงเรื่องที่บ้านรองโจวพาบ้านใหญ่แยกบ้านอีกด้วย ทั้งที่ตวามเป็นจริงบ้านหลังนั้นควรจะเป็นของบ้านใหญ่

“นางไปซื้อของมาจริง ๆ “ คนข้างบ้านโจวอีกคนอุทานขึ้นมา

กลุ่มคนที่นินทาสะใภ้รองบ้านโจวเมื่อช่วงสายก็ยังอยู่ระแวกนี้เหมือนกัน อันที่จริงก็มีหลายคนที่ดักรออย่างอยากรู้อยากเห็น

“โอ้! นางซื้อกะละมัง!” ชาวบ้านที่ยืดคอมองของในรถชี้บอก กะลังมังหนึ่งใบเกือบสามหยวนและต้องใช้คูปอง อีกอย่างถ้าจะซื้อมันก็ไม่ได้หาซื้อง่าย ๆ

“ฉันเห็นเครื่องปรุง”

“น้ำมัน!”

“น้ำมันขวดใหญ่มาก!”

“นางคิดอะไรอยู่ถึงซื้อมันมา”

“ของเยอะมาก ต้องใช้เงินเยอะแน่”

“นางหลี่ซือรู้ยัง! สะใภ้ของนางเอาเงินไปซื้อของสิ้นเปลืองแบบนี้ โอ้ สวรรค์!”

“เดี่ยวอะไรกับนางหลี่ซือล่ะ พวกเขาแยกบ้านกันแล้ว”

“หากเจ้ารองโจวไม่กลับมานางกับลูกเดือดร้อนแน่ ๆ “

“เป็นสะใภ้ที่ใช้เงินสิ้นเปลืองจริง ๆ”

“เงินนั่นไม่ควรเป็นของนาง”

“ควรเป็นของแกหรือยังไง? ไป ๆ เงินของนางนางจะใช้ยังไงก็เรื่องของนางสิ”

“แก!”

เหอเสี่ยวหงไม่ฟังเสียงนินทาของชาวบ้านที่พบเห็น เธอนับถือคนที่นี่จริง ๆ นินทาเมื่อเช้ายังไม่พอกันอีกเหรอ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เหอเสี่ยวหงเอาของที่ถูกในยุคนี้ขึ้นไว้ด้านบน

หากพวกชาวบ้านรู้ว่าเธอจะเอานมผงออกมาใช้ด้วยจะไม่กระอักเลือดกันเลยหรือ แค่ซื้อของมาใช้

ในบ้านยังถูกนินทาว่าสิ้นเปลือง ยิ่งหากจำไม่ผิดชาวบ้านที่ชี้เธออยู่สนิทกับแม่เลี้ยงของสามี!

เมื่อเกวียนเคลื่อนผ่านกลางหมู่บ้านและผ่านทางบ้านโจว เหอเสี่ยวหงก็เห็นนางหลี่ซือที่กำลังยกของที่เหลือจากการแยกบ้านออกมาวางหน้าบ้าน พอนางหลี่ซือมองเห็นของที่เหอเสี่ยวหงซื้อนางก็มองด้วยความโกรธ

ของพวกนั้นควรเป็นของครอบครัวพวกนาง ของลูกชายของนาง ไม่ใช่ของสะใภ้ที่นางเกลียดชังมาตลอด

สามวันก่อนหลังจากแยกบ้านกันแล้วนางหลี่ซือก็ได้ไปหาแม่สามีเพื่อเอาของจากลูกสะใภ้คืน แต่พ่อสามีไม่ยอมเพราะบ้านใหญ่กับบ้านรองเรียกได้ว่าเป็นบ้านหลักมากว่าบ้านสามของพวกนางซะอีก นางหลี่ซื่อจึงทำได้เพียงคับแค้นใจ

เหอเสี่ยวหงเห็นแววตาความแค้นของแม่สามี แต่เธอไม่ได้สนใจ แยกบ้านกันแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ รีบบอกทางให้คนบังคับเกวียนรีบไปที่บ้านเพราะค่ำแล้ว

อีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านเหอเสี่ยวหงอาศัยจังหวะที่คนบังคับเกวียนเผลอเอาผ้าที่กั้นตัวเกวียน

กับคนบังคับเกวียนลง จากนั้นก็เริ่มหยิบของออกมา แม้ของบางอย่างยังไม่จำเป็นแต่เหอเสี่ยวหงก็เอาออกมาเพื่อให้คนในบ้านไม่สงสัย

ผลไม้อย่างแอปเปิล พุทรา สาลี่ เหอเสี่ยวหงก็เอาออกมา มันเป็นผลไม้ที่ควรจะใช้บำรุงลูกสาวแต่ละคน และยังเอาแครอท ข้าวโพด หัวไชเท้า เนยจืด เนยเค็มออกมาอีก จะเอาไว้ทำขนม

เหอเสี่ยวหงรีบกวาดสายตามองของในเกวียนว่าขาดอะไรอีก ซึ่งของที่เธอมีมันก็เยอะมาก จึงไม่รู้ว่าจะเอาอะไรออกมาบ้าง อีกอย่างขอฃที่ใหญ่เกินไปก็เอาออกมามากไม่ได้ เดี๋ยวคนบังคับเกวียนสงสัย

‘ปากกา สมุด เทียน หนึ่ง…สอง…สาม ครบ ยาสระผม ครีมนวด ครบ สบู่ทดลองครบ’

สบู่ทดลองที่เหอเสี่ยวหงเอาออกมาใหม่มันแค่เป็นตัวทดลองที่ทางโรงวานส่งมาให้ใช้ดู มันเป็นสูตรเฉพาะที่เหอเสี่ยวหงสั่งผลิตมาทดลองใช้ตั้งแต่เข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เหอเสี่ยวหงไม่ร่อยมีเวลาออกไปไหนด้วย

ต้องพัฒนาสวนที่คุณย่าทิ้งไว้ให้จนลืมของที่เคยหยิบใส่มิติไปหลายอย่าง และส่วนมากของในมิติก็เป็นสบู่ไปแล้วมากกว่าครึ่ง!

เหอเสี่ยวหงหยิบช็อกโกแลตชิบ นมผง นมอัลมอนด์ นมอัดเม็ด เวย์เพิ่มกล้ามเนื้อ ซาลาเปากับขนมจีบและขนมอื่น ๆ ออกมาไว้ด้านนอก

“ลืมอะไรอีกเนี่ย” เหอเสี่ยวหงพึมพัม

เธอรู้สึกว่ามันขาดหายไปบางอย่าง จึงต้องกวาดสายตาเพื่อมองหาสิ่งที่ตามหาอีกรอบพร้อมกับคิดไปด้วย

“ผัก ผลไม้ ธัญพืชอเครื่องปรุง นมผง น้ำยาล้างจาน… ครบอยู่นี่” เหอเสี่ยวหงเอ่ยออกอย่างแผ่วเบา เรียกได้ว่าเบากว่าเสียงกระซิบซะอีก

เธอนึกออกแล้ว! เธอลืมเนื้อสัตว์ไปสนิทเลย เหอเสี่ยวหงจึงรีบหยิบเนื้อในมิติออกมาใส่ในเกวียนเพราะเห็นว่าจะถึงบ้านแล้วเลยไม่ได้คิดว่าจะเอาอะไรออกมา

“พี่สะใภ้รอง!”

“คุณแม่!”

เมื่อเหอเสี่ยวหงลงมาเปิดประตูบ้านเพื่อจะยกของเข้าบ้านก็เห็นน้องสาวสามีกับลูกสาวของเธอนั่งรออยู่พื้นหน้าบ้าน

 ยิ่งพอเห็นคนเป็นแม่ลูกสาวของเธอก็รีบวิ่งมาหา เหอเสี่ยวหงจึงต้องรีบก้มไปอุ้มลูกสาวคนเล็กอย่างโจวลิ่วนีที่อายุเพิ่งสองขวบขึ้นมาอุ้ม

“หนูรอแม่เหรอจ๊ะ”

“ใช่ค่ะ!” เป็นเสียงจากโจวเอ้อร์หง หรือ โจวเอ้อร์นี ลูกสาวคนโตของเธอที่ปีนี้อายุแปดขวบแล้ว

“คุณแม่หายไปไหนมาคะ” ตามมาด้วยเสียงของลูกสาวคนรองอย่าง โจวซานหงหรือโจวซานนีที่ตอนนี้อายุเจ็ดขวบ

“แม่! แม่หายไปไหนมาคะ” และเสียงนี้เป็นเสียงของลูกสาวคนกลาง โจวอู๋หงหรือโจวอู๋นี ปีนี้อายุห้าขวบ หล่อนเดินมากอดขาเธอแน่น

“แม่ไปซื้อของมาจ้ะ” เหอเสี่ยวหงตอบลูกสาว

“หนูนึกว่าคุณแม่จะทิังไปแล้ว ฮืออออ”

เป็นโจวเอ้อร์นีที่พูดพร้อมกับเสียงที่หล่อนร้องไห้จริง ๆ เหอเสี่ยวหงจึงต้องนั่งลงกอด แล้วเด็ก ๆ ที่เหลือก็เข้ามากอดจนกลายเป็นก้อนกลม ๆ

โจวเอ้อร์นีโตพอที่จะรู้เรื่องหลาย ๆ อย่างแล้ว แม่ของพวกเธอบอกว่าจะไปข้างนอกช่วงสาย แต่ใกล้จะมืดแล้วแม่ยังไม่กลับมาเธอจึงพาน้องๆออกมารอลานหน้าบ้าน พอคุณอาเห็นจึงออกมารอเป็นเพื่อน

“โอ๋ ๆ นะจ๊ะ แม่ซื้อของมาเยอะเลยนานน่ะ น้องสาวเล็กจ๊ะ ช่วยพี่ยกของหน่อยจ้ะ” พูดกับลูกสาวก่อนจะหันไปบอกน้องสาวสามี 

“ได้ค่ะ!” โจวมี่รับคำ 

“เด็ก ๆ ไปช่วยกันยกของเถอะจ้ะ” เหอเสี่ยวหงว่าพลางปล่อยลูกสาวคนเล็กลงพื้น 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทพิเศษ 1 หยาดฟ้า

    เรื่องราวของหยาดฟ้าที่เหอเสี่ยวหงคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไรทั้งนั้นหยาดฟ้าในวัยสิบสองขวบเป็นเด็กสาวที่น่าสงสารคนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยเห็นหน้าผู้เป็นพ่อสักครั้ง แม่ให้เหตุผลว่าเลิกกันก่อนที่เธอจะลืมตาดูโลก และเล่าให้ฟังว่าพ่อติดเหล้าหนักมาก และชอบทุบตีแม่ที่กำลังท้องเธอเกือบห้าเดือน สุดท้ายแม่ทนไม่ไหวก็เลยเก็บเงินที่ซ่อนไว้หนีมาบ้านเกิดผู้เป็นยายและยายของเธอก็เป็นเพื่อนวัยเด็กของคุณย่าเหอ คุณย่าเหอที่สงสารก็เลยรับแม่ของเธอมาเป็นคนสนิท จนกระทั่งเธออายุสิบสองขวบก็เกิดข่าวร้ายแม่ของเธอมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงหลังจากที่คลอดเธอออกมา และไม่ยอมเข้ารักษาอาการป่วยจนเกิดเรื้อรัง สุดท้ายจึงจากเธอไปวันนั้นหยาดฟ้าจำได้ดี เธอร้องไห้แทบใจขาดเมื่อคนที่อยู่กับเธอมาตลอดจากไป และเป็นวันเดียวกันที่มีคนเข้ามาช่วยพยุงเธอเอาไว้ นั่นก็คือคุณย่าเหอกับเหอเสี่ยวหง เพื่อนสนิทสาวพ่วงตำแหน่งเจ้านายของเธอ ถึงคุณย่าเหอกับเหอเสี่ยวหงไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการกับตำแหน่ง และเธอก็ถือว่าเป็นหลานบุญธรรมของท่านแล้ว แต่เธอก็รู้ตัวดีว่าไม่ควรเอาตัวเองไปเทียบกับเหอเสี่ยวหงคุณย่าเหอเ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 77 บทส่งท้าย

    เหอเสี่ยวหงรู้สึกว่าช่วงนี้ดวงของสามีตกมาก เมื่อได้ที่ดินคืนมาแล้วทั้งโจวเหวินหลงกับพี่ชายใหญ่ก็จะพากันกลับ แต่ก็เกิดเรื่องอีกครั้งโจวกว่างโมโหที่ผู้เป็นพ่อยกบ้านและที่ดินให้กับพี่ชาย จึงลงมือกับคนเป็นแม่ด้วยอาการมึนเมา มีคนเข้าไปช่วยทันแต่อาการนางหลี่ซื่อก็หนักมาก เพราะไม่มีเงินไปหาหมอโจวเหวินหลงรับรู้และเขาก็ยังกลับฉงชิ่งไม่ได้ การกลับบ้านจึงต้องเลื่อนออกไปอีกหลายวัน ถึงนางหลี่ซื่อไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของโจวเหวินหลง โจวจือหยวน และโจวมี่ แต่นางก็เลี้ยงโจวมี่มา โจวมี่เลยมาขอร้องพี่ชายให้พานางหลี่ซื่อไปโรงพยาบาล“ถ้าคุณพานางไป ก็ไม่ต้องกลับมา” เหอเสี่ยวหงกล่าวเสียงเรียบในวันที่เธอแท้งลูก นางหลี่ซื่อไม่มีแม้แต่เชิญหมอมารักษาหรือพาเธอไปหาหมอ ปล่อยให้เธอแท้งลูกซ้ำยังบอกย่าโจวว่าเธอสะดุดขยะในห้องล้มอีก แม้นางหลี่ซื่อตายเธอก็ไม่เสียใจ‘ผมบอกพวกเขาแล้วครับ’มีไม่กี่เรื่องที่เหอเสี่ยวหงจะปฏิเสธสามี และครั้งนี้ต่อให้ใครมาขอร้องเหอเสี่ยวหงก็ไม่ยอม ลูกชายและลูกสะใภ้ หลานของนางก็ยังอยู่ ทำไมถึงต้องมาพึ่งสามีเธอด้วย อีกอย่างก่อนที่พวกเธอจะออกจากหมู่บ้าน นางหลี่ซื่อยังอยู่ในกลุ่มที่มาไล่พวกเธอเลย“ฉัน

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 76 สิ้นย่าโจว

    เข้าสู่วันที่ห้าของการกลับบ้านของโจวเหวินหลง เหอเสี่ยวหงก็ได้รับข่าวร้าย สกุลโจวได้สิ้นผู้อาวุโวอย่างย่าโจวไปแล้ว นางจากไปด้วยโรคชราที่เป็นปัญหามาหลายปีเหอเสี่ยวหงส่ายหน้าเมื่อวางสายจากสามีไปหลังเขาติดต่อมา ในร้านน้ำชามีโทรศัพท์จึงไม่แปลกที่เหอเสี่ยวหงจะได้รับการติดต่อจากสามี ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการย่าโจวทรุดหลังจากที่เธอพาครอบครัวกลับ“มีอะไรหรือเปล่าครับ”เป็นผู้จัดการหลงที่เก็บโต๊ะเสร็จถามเหอเสี่ยวหง เขาเห็นเจ้านายนั่งคุยกับปลายสายไม่นาน แต่ตอนนี้หล่อนกลับมีสีหน้าที่เคร่งเครียด“ไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวถ้าเอาบัญชีร้านขึ้นไปบนห้อง ตามโจวต้านีให้ด้วยนะคะ” เหอเสี่ยวหงส่ายหน้า“ได้ครับ”โจวต้านียังไม่กลับมาทำงาน คงเพราะหลานสาวตัวน้อยของเธอป่วย อันที่จริงเธอก็บอกหล่อนแล้วว่าไม่ต้องมา แต่โจวต้านีก็รั้นมาจนได้“แม่คุยอะไรกับพ่อเหรอคะ”พอผู้จัดการหลงเดินออกจากร้านไป ก็เป็นซานนีที่ประจำร้านอยู่เอ่ยถาม หล่อนรู้แค่ว่ามารดาคุยกับใคร แต่จับใจความไม่ค่อยได้“ย่าโจวเสียแล้ว” เหอเสี่ยวหงถอนหายใจสำหรับเหอเสี่ยวหงแล้วเธอรู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วมาก อีกอย่างเรื่องที่เธอแท้งเมื่อยี่สิบปีก่อนก็ยังไม่ได้บอกย่าโจ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 75 เฟยฮวา

    เหอเสี่ยวหงมองหน้าหลานสาวตัวน้อยนามเฟยฮวาวัยห้าเดือนในอ้อมแขนแล้วถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าสกุลเฟยตาบอดหรือยังไง ทำไมถึงมองไม่เห็นความน่ารักของหลานสาวตัวน้อยคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อมองลูกสาวช่วยคนอื่นขนของโจวต้านีลงจากรถ หรือเพราะเธอไม่บังคับลูกสาวกันนะ ถึงไม่ได้มีหลานให้อุ้มแบบนี้ได้แต่อิจฉาสะใภ้ใหญ่ที่ได้ลูกเขยก่อนคนอื่น แล้วยังได้หลานก่อนคนอื่นอีก ยังดีที่สหายของเธอยังไม่มีหลาน เหอเสี่ยวหงจึงไม่ต้องทนฟังเสียงอวดหลาน“ให้ฉันอุ้มหลานบ้างสิ”สะใภ้ใหญ่เดินเข้ามาหาผู้เป็นน้องสะใภ้และน้องสาว ตั้งแต่ที่ลูกสาวอุ้มหลานสาวลงรถมา นางก็ยังไม่ได้อุ้มหลานเลย มีแต่เหอเสี่ยวหงที่อุ้มหลานแล้วไม่ยอมปล่อยให้ใครอุ้มต่อ“เดี๋ยวพี่ก็ได้อุ้มแล้ว” เหอเสี่ยวหงแย้งอย่างไม่จริงจังนักโจวต้านีขอเข้าทำงานพร้อมสามีในร้านผู้เป็นอากับอาสะใภ้ โดยที่แม่ของหล่อนยินดีที่จะดูแลหลานระหว่างที่พ่อกับแม่ของหลานทำงานแบบไม่เอาเงินสักเฟิน“หลับแล้ว” สะใภ้ใหญ่บอก“อืม”เหอเสี่ยวหงส่งหลานสาวให้ผู้เป็นยายแท้ ๆ อุ้ม แล้วตัวเองก็ออกมาช่วยทุกคนขนของเข้าบ้านตึกแถว ยังไงโจวต้านีก็แต่งออกแล้วจะให้ไปอยู่รวมกับครอบครัวก็ไม่ใช่ อีกอย

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 74 เอ้อร์นีมีความรัก

    จากที่จะกลับไปพักผ่อนอยู่บ้านเกิดในช่วงปิดเทอมตามคำขอของสาว ๆ บ้านรองโจวก็ต้องกลับมาอยู่ที่ฉงชิ่ง เหอเสี่ยวหงเอ่ยขอโทษลูกสาวกับหลานสาวที่ต้องพากลับกระทันหัน ยิ่งกับอาสามแล้วเหอเสี่ยวหงยิ่งเอ่ยขอโทษอยู่หลายครั้งเหอเสี่ยวหงรู้ว่าอาสามอยากอยู่ที่บ้านเหอ แต่พอเหอเสี่ยวหงจะกลับเขาก็ไม่สามารถอยู่ต่อได้ เป็นห่วงหลาน ๆ หากปล่อยให้มาด้วยกัน“เอาไว้เรียนจบแม่ค่อยพากลับไปดีกว่า” เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาวอีกตั้งหลายปีที่เด็ก ๆ จะเรียนจบ ทุกคนในหมู่บ้านก็คงจะลืมไปแล้ว อีกอย่างทุกคนก็รู้กฎหมายกันอย่างดี เหอเสี่ยวหงจึงไม่กลัวที่จะกลับไป แต่ครั้งนี้มันตั้งตัวไม่ทัน“ไม่กลับก็ได้ค่ะ อยู่นี่ก็ดีแล้ว” เอ้อร์นีเอ่ยตอบเป็นคนแรกหล่อนอยากกลับไปที่บ้านเกิดก็จริง แต่หล่อนกลัวเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีก ลึก ๆ แล้วหล่อนรู้ว่าแม่ของหล่อนเป็นห่วงเรื่องการบังคับแต่งงาน เอ้อร์นีไม่ใช่คนโง่ หล่อนถูกมารดาเลี้ยงมาอย่างดีแต่ก็ไม่ได้เลี้ยงให้โง่เขลา แม่ของหล่อนไม่ชอบการบังคับ หล่อนก็ไม่ชอบการบังคับเช่นเดียวกัน“ใช่ค่ะ ไม่กลับไปแล้วก็ได้” ลิ่วนีเอ่ยด้วยความหวาดกลัว หล่อนเป็นเด็กที่ตั้งแต่จำความได้ก็เติบโตมาในเมือง จึงไม่ร

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 73 ลูกสาวบ้านรองโจว

    เหอเสี่ยวหงเดินนำลูกสาวตามโจวเหวินหลงเข้าไปภายในบ้าน ชาวบ้านที่มามุงแหวกออกให้เข้าไป แต่พอเข้าไปแล้วก็กลับมามุงเหมือนเดิมครั้งก่อนอยู่เพียงนอกบ้าน แต่ครั้งนี้ที่ต้องเข้ามาในบ้านเพราะย่าโจวล้มป่วยอีกแล้ว ภายในบ้านที่ไม่ใหญ่จึงแคบลงถนัดตาเมื่อมีคนล้อมรอบ‘หลานสาวบ้านโจวแน่ ๆ’‘ฉันต้องทาบทามจากย่าโจวแล้ว’‘ฝันอยู่เหรอ บ้านรองโจวอยู่ในมือสะใภ้รองโจว คงจะให้ลูกสาวแต่งมาอยู่ชนบทหรอก!’‘ใครจะไปรู้ อีกอย่างสะใภ้ก็ต้องเชื่อฟังครอบครัวของสามี’‘ไม่ใช่ว่าแต่งงานกันแล้วรึ อายุขนาดนี้แล้ว’‘จริง ถ้ายังไม่แต่งคงจะไม่มีใครเอา’เหอเสี่ยวหงหันไปมองชาวบ้านที่นินทาลูกสาวของเธอ เรื่องที่ลูกสาวจะแต่งกับใครเหอเสี่ยวหงไม่ได้ห้าม ต่อให้ฝ่ายชายไม่มีเงินแต่ง ถ้าลูกสาวจะแต่งเธอก็ให้แต่ง สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เป็นไร แต่คนอื่นจะเดือดร้อนด้วยทำไม“ลูกสาวฉันไม่แต่งงานแล้วทำไม”ชาวบ้านที่ซุบซิบอยู่หน้าบ้านเงียบปากกันลงทันที เมื่อสะใภ้รองโจวพูดขึ้น ใคร ๆ ก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเหอเสี่ยวหง“นี่ย่าทวด เป็นย่าของพ่อเรา”เหอเสี่ยวหงแนะนำย่าโจวให้ลูกสาวทำความเคารพ ซึ่งเด็ก ๆ รู้จัก แต่นี่ก็ไม่ได้มาเจอกันนานแล้ว เธอจึง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status