แชร์

ตอนที่ 9 ประหลาดใจ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-26 17:55:00

‘ทุกอย่างกลับมาเท่าเดิม… หรือว่าของทุกสิ่งที่อยู่ในคอนโดแห่งนี้ ไม่ว่านางจะหยิบจับสิ่งใดออกไปใช้ พวกมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม?’

เมื่อคิดได้ดังนั้น ริมฝีปากของนางก็ยกยิ้มขึ้น ‘ถ้าเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลว่าอาหารหรือยาที่อยู่ในนี้จะหมดไปอีกแล้ว’

นางรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยนี่ก็เป็นเรื่องดีเพียงสิ่งเดียวตั้งแต่ที่นางทะลุมิติมายังที่แห่งนี้

หยางฉิงหยิบไข่ไก่ออกมา เปิดเตาแล้วลงมือทำอาหาร นางทำไข่น้ำและข้าวต้มขาวเพื่อให้หลี่เซิงกินเป็นมื้อเย็น เขาเพิ่งหายจากพิษไข้ ควรกินอาหารอ่อน ๆ เพื่อให้ย่อยง่าย จะได้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

‘ข้าต้องบำรุงให้เขามีเนื้อหนังมากกว่านี้ ตอนนี้เขาผอมเกินไปแล้ว…’

ส่วนเรื่องขาที่บาดเจ็บนั้น นางแน่ใจว่าสามารถช่วยให้เขากลับมาเดินได้! แต่เขาคงเดินได้ไม่ปกติอีกต่อไป เพราะเส้นเอ็นที่ขาของเขาถูกตัดขาด อีกทั้งยังขาดการรักษาที่เหมาะสม คนที่นี่ก็คงไม่มีใครรู้วิธีต่อเส้นเอ็นเป็นแน่ ด้วยความล้าหลังของยุคสมัย ทำให้หลายคนต้องกลายเป็นคนพิการโดยไม่รู้ตัว

หยางฉิงหายตัวกลับออกมา ก่อนจะเดินไปดูประตูรั้วบ้านที่พังเสียหาย นางอยากสร้างรั้วใหม่เสียจริง ไหน ๆ มันก็พังไปแล้ว หากนางหาเงินได้ จะสร้างรั้วบ้านให้ดีกว่าเดิม และจะไม่ยอมให้ใครมองเข้ามาในบ้านของนางได้อีก

นางเดินมานั่งที่เก้าอี้ไม้เล็ก ๆ ข้างลำธาร มันตั้งอยู่ริมธารน้ำใสที่ไหลผ่านบ้านหลังนี้ สายตาของนางเหม่อมองไปยังท้องฟ้า ดวงตะวันกลมโตส่องแสงเรืองรอง ลมเย็นพัดผ่านกาย พาให้นางรู้สึกเหงาขึ้นกว่าเดิม หยางฉิงมองออกไปนอกบ้าน เห็นควันไฟลอยขึ้นมาจากเรือนใกล้เคียง กลิ่นดินชื้นและกลิ่นแม่น้ำลอยมาตามสายลม นางสูดหายใจลึก รับอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด อากาศดีเช่นนี้ ไม่มีอีกแล้วในยุคที่จากมา…

ภายในบ้านตระกูลหลี่

หลังจากที่หลี่เจิงเดินกลับบ้านมาด้วยสภาพย่ำแย่ นางก็แสร้งวิ่งร้องไห้เข้ามา บ้านของนางเป็นเรือนชั้นเดียวแต่ใหญ่โตกว่าบ้านอื่นในหมู่บ้าน เพราะสร้างขึ้นจากเงินที่น้องชายคนเล็กส่งมาให้ทั้งหมด

นางกวาดตามองไปรอบ ๆ เพื่อหาท่านแม่ แล้วก็เห็นจางเฟิงกำลังนั่งต่อว่าพี่สะใภ้ใหญ่อยู่ที่โต๊ะด้านในเรือน หลี่เจิงไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปฟ้อง

“ท่านแม่!” นางร้องเรียกเสียงดัง

จางเฟิงหันไปมองตามเสียง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นสภาพลูกสาวสุดรัก หลี่เจิงเนื้อตัวเปื้อนฝุ่น ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง

“หลี่เจิง! เจ้าไปทำอะไรมากันแน่? ข้าให้เจ้าไปดูว่านังหยางฉิงตายหรือยังไม่ใช่หรือ ทำไมกลับมาในสภาพนี้?”

“ตายอะไรกัน! มันนั่นแหละที่ทำให้ข้าเป็นเช่นนี้ ไม่เพียงไม่ตาย ยังตีข้าอีกด้วย ท่านแม่ต้องไปจัดการมันให้ข้านะ!”

นางร้องฟ้อง น้ำเสียงแฝงความอาฆาต พลันเหลือบไปเห็นบิดาเดินออกมาจากตัวเรือน สีหน้าของเขาดูไม่พอใจนัก

ภายในบ้านหลังนี้ หากถามว่านางกลัวใครที่สุด ก็คงเป็นท่านพ่อ เพราะเขาเป็นคนที่ห่วงหน้าตาชื่อเสียงของตระกูลมาก

“ตอนนี้บ้านของเราแยกออกมาแล้ว เจ้ายังจะไปบ้านนั้นทำไม? วัน ๆ เอาแต่หาเรื่อง ถึงได้ไม่มีใครมาสู่ขอเช่นนี้!" หลี่เฉากล่าวเสียงเข้ม "อย่าให้ข้าได้ยินว่าเจ้ายังไปวุ่นวายกับบ้านหลี่เซิงอีก! อย่าให้ชาวบ้านนินทามาถึงข้า! แค่นี้ข้าก็อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!”

“แต่ท่านพ่อ! ท่านไม่คิดจะทวงความเป็นธรรมให้ลูกเลยหรือ ท่านจะปล่อยให้นางหยางฉิงทำร้ายลูก…”

“หุบปาก! โตป่านนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้ ข้าบอกว่าไม่ก็คือไม่!”

เสียงตวาดของหลี่เฉาทำให้หลี่เจิงสะดุ้ง นางรู้ดีว่าบิดาเป็นคนเคร่งครัดและหัวโบราณ เขาให้ความสำคัญกับเกียรติยศของตระกูลมากกว่าสิ่งใด ทั้งยังไม่พอใจที่ลูกสาวของตนหาคู่แต่งงานไม่ได้

“ท่านก็พูดแรงเกินไปหรือไม่ ลูกของเรากำลังเสียใจนะ” จางเฟิงกล่าวขึ้น

“เจ้าก็เลิกตามใจลูกได้แล้ว! เลี้ยงกันแบบนี้ ถึงไม่มีใครมาสู่ขอไง เอาเวลาไปหาคนแต่งงานให้ลูกยังจะดีเสียกว่า!” หลี่เฉาหันไปทางภรรยา “ภายในเดือนหน้า เจ้าต้องหาชายหนุ่มมาแต่งกับนางให้ได้ ปล่อยไว้อีกไม่นานคงไม่มีใครเอาแล้ว!”

หลี่เฉาพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเดินจากไป

“ท่านแม่ ดูสิว่าท่านพ่อพูดกับข้าเช่นไร! ท่านแม่จะไม่ไปจัดการนังหยางฉิงให้ข้าหรือ?”

จางเฟิงมองลูกสาวที่ร้องไห้ฟูมฟาย แล้วถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

“เจ้าคิดหรือว่าข้าจะทำอะไรได้? เจ้าดูพ่อของเจ้าสิ คำพูดของเขาข้าจะขัดได้หรือ? ถ้าเรื่องบานปลาย เจ้าจะเดือดร้อนเสียเอง”

“แต่ท่านแม่...”

“ตอนนี้ เจ้าควรดูแลตัวเองให้ดี แต่งตัวให้สวยเข้าไว้ ข้าจะหาชายหนุ่มฐานะดีจากหมู่บ้านอื่นให้แต่งงานกับเจ้า ดีหรือไม่?”

พอได้ยินเช่นนั้น หลี่เจิงก็หยุดร้องไห้ทันที

“จริงหรือ? ท่านแม่ต้องหาคนดี ๆ ให้ข้านะ!”

ขณะเดียวกัน สายตาของหลี่เจิงก็เหลือบไปเห็นพี่สะใภ้ใหญ่ที่ยืนก้มหน้าฟังพวกนางพูดกันอยู่

“พี่สะใภ้ จะยืนฟังพวกข้าอีกนานไหม?” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงดูแคลน

“ไม่ได้ยินที่ลูกของข้าพูดหรือ? ไป! จะไปไหนก็ไปได้แล้ว! พวกข้าหิวข้าวจะตายอยู่แล้ว ยังจะมายืนเอ้อระเหยอะไรอีก รีบไปทำอาหารเสีย!”

อู๋เจิงได้ยินคำสั่งของแม่สามี นางก็รีบเดินไปยังห้องครัว บางครั้ง นางก็อดอิจฉาน้องสะใภ้เล็กไม่ได้ อย่างน้อยหยางฉิงก็ได้แยกบ้านออกไป ไม่ต้องทนลำบากเช่นนาง…

หยางฉิ่งนั่งอยู่หน้าบ้านไม่นานเท่าไหร่นัก นางเดินเข้าไปตรงที่ดินด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่รกร้างขาดคนดูแลเอาใจใส่ นางมองพื้นที่ว่างเปล่าประมาณสองไร่ ถ้ามองจากพื้นที่ด้านหลังบ้านก็จะสามารถมองเห็นหน้าต่างที่เปิดอ้าออกของห้องนอนหลี่เซิงพอดี ‘นี่เขามองวิวแบบนี้มาตลอดเลยสินะ’ นางอยากทำอะไรบางอย่างให้เขาได้รู้สึกดีแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร นางใช้เวลาที่เหลือมองหาจอบที่พอใช้ขุดหญ้าออกไปได้บ้าง

หยางฉิงเดินไปรอบตัวบ้านสายตาของนางจับจ้องไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อมองหาอุปกรณ์ที่ใช้ได้ นางเดินไปด้านข้างห้องน้ำ นางพบเจอเข้ากับจอบที่มีรอยบิ่นและขึ้นสนิ่มด้ามจับของมันยังพอให้ใช้งานได้อยู่ นางเดินไปหยิบจอบนั้นขึ้นมาขุดดินด้านหลังบ้าน โดยเริ่มจากข้างหน้าต่างห้องนอนของหลี่เซิง นางอยากปลูกเป็นไร่ผสมที่มีความหลากหลายร่วมอยู่ในนั้น

หลี่เซิงมองดูหยางฉิงนางกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าต่างที่เขานอนอยู่ เขามองดูว่านางกำลังทำอะไร ก็เห็นว่านางกำลังขุดหญ้าที่รกร้างขึ้นอยู่เต็มไปหมด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 57 รู้สึกผิด

    แม่ทัพหันกลับไป ก่อนจะใช้มีดสั้นขว้างไปยังพุ่มไม้ที่คาดว่ามีมือสังหารซุ่มอยู่หลังจากที่เขาปราบชายชุดดำจนสิ้นชีพ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้น นางรีบปีนลงจากต้นไม้แล้ววิ่งตรงไปยังจุดที่หลี่เซิงตกลงไป แม่ทัพมองดูนางที่กำลังร่ำไห้ราวกับจะขาดใจ พลางรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยชายหนุ่มเอาไว้ได้เขาเดินไปตรวจดูศพของชายชุดดำที่สังหารเมื่อครู่ เห็นรอยเลือดและร่างไร้วิญญาณที่นอนแน่นิ่ง ‘คนผู้นี้คงเป็นคนของฉินอ๋อง’ แม่ทัพกัดฟันแน่น เป็นความผิดของเขาเอง ที่ต้องให้คนอื่นมาปกป้องตน“หลี่เซิง! ท่านอย่าเป็นอะไรนะ ฮือ!” หยางฉิงคุกเข่าร้องไห้อยู่ริมหน้าผา น้ำตาของนางไหลไม่ขาดสาย‘ถ้าไม่มีเขา ข้าก็อยู่บนโลกนี้ไม่ได้…’ ในใจของนางเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด คำว่า ‘จากลา’ ผุดขึ้นมาในหัว นางอยากกระโจนตามเขาลงไปเสียด้วยซ้ำ…แม่ทัพเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังหญิงสาวที่ปกปิดใบหน้าไว้ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงรู้สึกผิด“ข้าขอโทษ ที่เป็นต้นเหตุให้คนรักของเจ้าต้องตาย”คำพูดของเขาทำให้หยางฉิงตัวสั่นด้วยความโกรธ นางเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาแดงก่ำ “ท่านอย่ามาพูดเช่นนั้น!” นางกัดฟันกรอด ไม่อาจทนฟังได้ “สามีของข้ายังไม่ตาย

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 56 ไม่คาดคิด

    ทั้งสองฟาดฟันกันอยู่ครู่หนึ่ง แต่เพราะหลี่เซิงได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว แรงที่ลงไปในดาบจึงไม่มั่นคง ทำให้การโจมตีพลาดเป้าไปหลายครั้ง พวกเขาผลัดกันรุกผลัดกันรับ สู้กันอย่างไม่มีใครยอมใครกระทั่งหลี่เซิงเห็นจังหวะเหมาะ เขาจึงฟันดาบไปที่ขาของนักฆ่าทันที!นักฆ่าหลบดาบไม่ทัน จึงถูกฟันเข้าจนเกิดบาดแผล แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือความแสบร้อนบริเวณที่ถูกดาบฟัน ราวกับถูกกัดกร่อนจากบางสิ่ง“เจ้า…ทำอะไรกับข้า!?” เขาก้มลงมองบาดแผลตรงขา ก่อนจะเห็นผงสีแดงติดอยู่หลี่เซิงมองแผลของนักฆ่าด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ พลางยิ้มมุมปาก “ไม่รู้สิ…” เขาตอบยั่วอีกฝ่ายอย่างจงใจ‘ต้องถ่วงเวลาอีกสักหน่อย…’นักฆ่าเห็นว่าหลี่เซิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ธรรมดา เขาจึงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ก่อนจะใช้มืออีกข้างหยิบมีดเล็กที่พกติดตัวมา แล้วเหวี่ยงไปทางชายตรงหน้าอย่างรวดเร็ว!หลี่เซิงที่กำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ ไม่ทันสังเกตว่ามีดเล็กพุ่งเข้ามา จึงหลบไม่ทันฉึก!มีดเล่มนั้นปักเข้าที่ขาของเขาทันที!‘มีดนี้มีพิษ!’หลี่เซิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขาข้างที่ถูกมีดปักเริ่มชาและไร้ความรู้สึก เขาจึงจำเป็นต้องใช้ขาอีกข้างพยุงตัวเองเอาไว้นักฆ่าห

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 55 เอาตัวรอด

    เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองอีกครั้ง พระจันทร์ก็เคลื่อนเลยปล่องไปกว่าครึ่งแล้ว‘ข้าต้องรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!’หลังจากเก็บของสำคัญไว้กับตัวเรียบร้อยแล้ว หลี่เซิงก็แอบย่องออกจากห้อง เขาเห็นว่าบริเวณหน้าปากถ้ำ ทหารของฝ่ายตนเริ่มเข้าปะทะกับศัตรูด้านในแล้ว เขาใช้จังหวะที่ผู้คนกำลังสับสน หลบซ่อนตัวออกมาระหว่างทาง แม้เขาจะต้องปะทะกับทหารศัตรูอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือสังหารพวกเขา เพียงแค่จัดการให้ไม่สามารถสู้ต่อได้ ในที่สุด หลี่เซิงก็หลบออกมานอกถ้ำได้อย่างปลอดภัยแต่ทันทีที่เขาก้าวออกมา เขากลับสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนกำลังตามเขามา…“นายท่านขอรับ! มีผู้บุกรุกเข้าไปในถ้ำของเราแล้ว ไม่รู้ว่ามันเอาสิ่งใดออกไปบ้าง ทหารที่เฝ้าประตูถูกฆ่าตายทั้งหมด และตอนนี้คนของท่านแม่ทัพกำลังตรวจค้นและยึดสิ่งของที่เราซ่อนไว้”ชายผู้นั้นรายงานสิ่งที่พบเห็นให้ฉินอ๋องได้รับทราบฉินอ๋องยืนฟังรายงานจากนักฆ่าฝีมือดี พลางจ้องมองไปยังค่ายของตนด้วยสายตาดุดัน เขาสังเกตเห็นเงาคนผู้หนึ่งวิ่งหนีออกมาจากค่าย ดูแตกต่างจากคนอื่น ๆ เขาพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา“เจ้าตามไปจัดการคนผู้นั้น! มันต้องมีของของข้าแน่ ถ้าหาไม่พบ… ก็ฆ่ามันทิ้ง

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 54 ของสำคัญ

    ทางด้านหลี่เซิง เขาหาจุดหลบซ่อนและนำของบางส่วนที่พกมาเก็บไว้อย่างมิดชิด โดยเหลือไว้เพียงสร้อยคอที่สวมติดตัว กับยาที่หยางฉิงให้มา หลังจากนั้นเขาออกค้นหาถ้ำที่ถูกระบุไว้ในจดหมาย จนกระทั่งพบว่า ปากถ้ำมีทหารยามหลายสิบคนเฝ้าอยู่ เป็นเรื่องยากที่เขาจะบุกเข้าไปเพียงลำพัง จึงตัดสินใจรอจังหวะให้คนของท่านแม่ทัพเข้าปะทะกับพวกมันก่อน จากนั้นจึงใช้โอกาสนั้นแทรกตัวเข้าไป ไม่นานนัก เสียงการต่อสู้ก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเขา เสียงดาบกระทบกันดังไปทั่วค่าย“มีคนบุกรุก!”เสียงตะโกนแจ้งเตือนดังขึ้นในค่าย ทำให้พวกมันรีบจุดไฟส่องสว่างและกรูกันออกไปเผชิญหน้ากับศัตรู“พวกเจ้าคอยเฝ้าปากถ้ำ ข้าจะไปช่วยพวกที่อยู่ด้านนอก!”ชายที่ดูเหมือนหัวหน้าสั่งการเสร็จ ก็พาคนออกไปครึ่งหนึ่งเพื่อช่วยต่อสู้ด้านนอกหลี่เซิงเห็นโอกาสดี สายตาเขาเจือความเหี้ยมโหด เขาประทับธนู แล้วยิงลูกศรพุ่งตรงไปยังหน้าอกด้านซ้ายของยามเฝ้าปากถ้ำ สังหารไปสองคนในพริบตาเมื่อพวกยามเห็นพวกพ้องล้มลง หนึ่งในนั้นกำลังจะส่งเสียงเตือน หลี่เซิงไม่รอช้า เขาพุ่งตัวเข้าหาพวกมันอย่างรวดเร็ว ชักมีดออกมาแล้วกรีดผ่านลำคอของทั้งสามคนอย่างแม่นยำ ก่อนที่พวกมันจะได้ทัน

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 53 บุกเข้าถ้ำ

    “ข้าเตรียมอาหารและเงินเล็กน้อยไว้ให้ท่านใช้ในยามจำเป็น นอกจากนี้ อย่าลืมพกยาที่ข้าให้ไปด้วย หากท่านรู้สึกเหนื่อย น้ำในกระบอกนี้เพียงจิบเล็กน้อยก็สามารถช่วยฟื้นฟูกำลังของท่านได้ และนี่คือสร้อยนำโชคที่ข้าทำขึ้นเพื่อท่าน อย่าลืมใส่ติดตัวตลอดเวลา อย่าปล่อยให้ตนเองต้องเผชิญอันตรายลำพัง ท่านอย่าลืมว่าข้ายังรอท่านอยู่ที่บ้าน” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่แฝงด้วยความเป็นห่วงหลี่เซิงรับสร้อยคอจากนาง มันมีลักษณะแปลกตา เป็นลูกกลม ๆ สีแดงที่ด้านในหมุนไปมาอย่างลึกลับ เขานำมันสวมไว้ที่คอ ก่อนพยักหน้ารับคำ “ข้ารู้แล้ว ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”กล่าวอำลาหยางฉิงเสร็จแล้ว หลี่เซิงจึงก้าวออกจากบ้านไป...ขณะมองตามแผ่นหลังของหลี่เซิงที่ค่อย ๆ ไกลออกไป หยางฉิงก็ปิดบ้านให้เรียบร้อย นางเตรียมตัวเดินทางเช่นกัน ภายในมิติของนางมีสิ่งของจำเป็นพร้อมสรรพ นางแต่งกายด้วยชุดสีดำ ข้างในเป็นกางเกง ส่วนด้านนอกเป็นกระโปรงที่ช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวก เสื้อแขนยาวสีดำเชื่อมต่อกับกระโปรง ทำให้นางคล่องตัวขณะเดินป่า และที่คอของนาง... มีเข็มทิศติดตามอยู่หนึ่งอัน...หยางฉิงรอจนกระทั่งหลี่เซิงเดินลับสายตา ก่อนค่อย ๆ ก้าวตามไปอย่างร

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 52 กล่าวลา

    หยางฉิงสังเกตเห็นความผิดปกติของหลี่เซิง จึงเอ่ยถามขึ้น “ท่านเป็นอะไรหรือไม่ เหตุใดจึงดูเศร้าเช่นนี้” นางจ้องเขาด้วยความไม่เข้าใจ“เอาไว้กินข้าวเสร็จก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า” เขาพูดพลางกินข้าวต่อจนหมด วันนี้เขากินน้อยกว่าทุกวันเมื่อได้ฟังคำพูดของหลี่เซิง หยางฉิงก็รู้สึกใจคอไม่ดี นางกินข้าวไปพลางคิดไปว่าหลี่เซิงต้องการจะบอกอะไรกับนางกันแน่หลังจากนางกินเสร็จ หลี่เซิงจึงเอ่ยขึ้น “พรุ่งนี้เราไม่ได้เข้าเมืองไปขายของใช่หรือไม่”“ใช่แล้ว พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเรา” นางตอบพร้อมจิบน้ำ “ท่านมีเรื่องอะไรจะบอกข้าหรือไม่” นางถามสิ่งที่ติดค้างในใจ“ข้ามีเรื่องที่ต้องบอกเจ้า พรุ่งนี้ข้าอาจต้องออกไปทำเรื่องบางอย่าง เจ้าอยู่คนเดียวต้องปิดบ้านให้ดี หากข้าไม่ได้กลับมาหลายวัน เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าอาจต้องใช้เวลานานเสียหน่อย” เขาตัดสินใจบอกนางถึงเรื่องที่ต้องขึ้นเขาหยางฉิงที่ได้ฟังทำหน้าตกใจ “ท่านไปทำสิ่งใด บอกข้าได้หรือไม่ แล้วมันอันตรายหรือเปล่า” นางรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลยหลี่เซิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะมองหน้านางด้วยสายตาลึกซึ้ง ราวกับต้องการจดจำภาพของนางให้ได้นานที่สุด “ทั้งอันตรายและไม่อันตราย ถ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status