Share

ตอนที่ 8 เป็นห่วง

last update Last Updated: 2025-04-25 16:07:15

“พวกนางทั้งสองคนก็ไปแล้ว ถึงข้าจะคิดว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบง่าย ๆ ข้าก็ขอบคุณพวกท่านมากที่มาช่วยปกป้องข้า ตั้งแต่ที่ข้าได้รับอุบัติเหตุ ข้าก็ตั้งใจจะกลับตัว กลับใจเป็นคนที่ดีขึ้น ข้าเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง…” หยางฉิงอธิบายถึงเหตุผลที่นางเปลี่ยนไปให้ชาวบ้านได้ฟัง ‘นางได้เรื่องอ้างถึงนิสัยที่เปลี่ยนไปอยู่พอดี’

ชาวบ้านที่ยังมุงดูอยู่หน้าบ้านหยางฉิง พวกเขาต่างได้ฟังที่นางพูดก็มีส่วนที่ถูกอยู่บ้าง เมื่อคนเราผ่านความเป็น ความตายมา ก็อาจจะรู้ถึงคุณค่าในการใช้ชีวิตมากขึ้น

“พวกเราดีใจที่เจ้ากลับตัวกลับใจเป็นคนที่ดีได้ หลี่เซิงสามีของเจ้าเมื่อก่อนเขาก็ลำบากเพื่อเจ้ามามากมายนัก ต่อไปนี้เจ้าก็ต้องตั้งใจดูแลหลี่เซิงให้ดี ถึงสามีของเจ้าจะกลับมาเดินอีกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าได้รู้จักหาเงินเจ้าก็อยู่ได้สบาย เจ้าดูที่ดินผื่นนี้สิ ที่หลี่เซิงพยายามแย่งมันมาให้เจ้า เอาละพวกข้าเข้าใจแล้ว พวกข้าจะเดินไปบอกผู้ใหญ่บ้านให้เจ้า เจ้าก็เข้าไปทำแผลที่ปากของเจ้าเถอะ และก็ระวังแม่สามีของเจ้าเอาไว้ นางไม่ยอมจบแค่นี้แน่” หลี่จือพูดเตือนหยางฉิงด้วยความเป็นห่วง ที่จริงนางสงสารหยางฉิงมากกว่าเสียอีกที่ต้องแยกบ้านออกมาดูแลสามีที่พิการเช่นนี้

“ใช่! ๆ พวกข้าก็จะเป็นพยานให้เจ้าอีกแรง” ชาวบ้านช่วยกันพูด

“ถ้าอย่างนั้นพวกข้าไปก่อนละ มีเรื่องอะไรก็ร้องดัง ๆ พวกข้าจะมาช่วยก็แล้วกัน” เป็นเสียงของชาวบ้านชายคนหนึ่ง

“ข้าขอบคุณที่พวกท่านทุกคนไม่ถือสา หญิงสาวเช่นข้า ที่เมื่อก่อนข้าอาจจะทำตัวไม่ดีออกไปบ้าง” นางหันไปขอบคุณชาวบ้านที่ยังอยู่หน้าบ้าน

หยางฉิงยืนมองชาวบ้านต่างแยกย้ายเดินกันออกไป หลังเรื่องราวที่น่าตกใจจบลง เรื่องราวของพวกนางก็คงถูกพูดถึงไปอีกนาน….

หยางฉิงเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยความปวดเมื่อยไปทั่วร่างกาย วันนี้นางใช้แรงมากเกินไป ร่างกายนี้คงไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนัก ถึงได้อ่อนแอเช่นนี้ เห็นทีต้องเริ่มออกกำลังกายบ้างแล้ว โชคดีที่ช่วงเช้าที่หมู่บ้านแห่งนี้มีอากาศดีนัก นางจะหาอากาศบริสุทธิ์เช่นนี้ได้จากที่ไหนอีกเล่า?

เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน นางหันไปมองประตูห้องนอนของหลี่เซิง ‘ข้ายังไม่ได้เข้าไปเก็บของที่เขากินทิ้งไว้เลย’

หยางฉิงเคาะประตูสองครั้งก่อนเอ่ยขึ้น “ข้าเข้าไปได้หรือไม่?”

หลี่เซิงที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงของนาง เขาเองก็มีเรื่องที่อยากถามอยู่พอดี เพราะเมื่อครู่เขาได้ยินเสียงดังมาจากหน้าบ้าน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

“เข้ามาได้ ข้าไม่ได้ทำอะไรอยู่”

สิ้นเสียงตอบรับ หยางฉิงเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง หลี่เซิงมองสำรวจใบหน้าของนาง ก่อนสายตาจะสะดุดเข้ากับรอยมือแดงห้านิ้วบนแก้มซ้าย และคราบเลือดจาง ๆ บนริมฝีปากของนาง ‘นางถูกทำร้ายมาหรือ?’

“หน้าเจ้าเป็นอะไร? ใครทำร้ายเจ้า?” เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม้เขาจะไม่ได้ชอบนางนัก แต่เขาไม่เคยคิดจะทำร้ายนางแม้แต่ครั้งเดียว และก็ไม่ยินดีให้ใครมาทำร้ายคนของเขาเช่นกัน

หยางฉิงได้ยินน้ำเสียงห่วงใยของเขา นางจึงตอบเสียงเรียบ “ข้ามีเรื่องนิดหน่อย ท่านไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ข้าจัดการเองได้” นางไม่อยากให้เขาต้องมาห่วงใยเรื่องของนาง แค่ปัญหาของเขาเองก็คงหนักหนาพออยู่แล้ว

หลี่เซิงขมวดคิ้วแน่น ถ้าเขาคิดไม่ผิด คนที่กล้าทำร้ายนางคงมีเพียงพี่สาวของเขาเท่านั้น “พี่สาวของข้าเป็นคนทำร้ายเจ้าหรือ?” เขาถามเสียงเรียบนิ่ง

หยางฉิงพยักหน้า “ใช่แล้ว นางมาที่บ้าน และมีเรื่องกับข้านิดหน่อยเท่านั้น” นางตอบเสียงเบา พลางสังเกตสีหน้าของเขา

“นางมากับพี่หลี่หยินหรือไม่? แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่บอกข้า?” น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นกว่าเดิม เท่ากับว่าหยางฉิงถูกทั้งสองคนรุมรังแก ตัวนางเล็กกว่าทั้งสองคนมาก หากเป็นตอนที่เขายังเดินได้ เรื่องเช่นนี้ย่อมไม่เกิดขึ้นแน่

หยางฉิงฟังเขาบ่นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ นางอดไม่ได้ที่จะถามกลับไป “ท่านเป็นห่วงข้าหรือ?” นางมองหน้าหลี่เซิงเพื่อรอคำตอบ

หลี่เซิงนิ่งไปเล็กน้อยกับคำถามนั้น ก่อนกล่าวเสียงเรียบ “ถึงข้าจะไม่ได้ชอบเจ้ามากนัก แต่ข้าก็ไม่ชอบที่จะเห็นเจ้าถูกผู้อื่นทำร้าย ข้าเคยเตือนเจ้าแล้วว่าตอนนี้ข้าไม่อาจช่วยอะไรเจ้าได้ เจ้าก็ควรหาเรื่องให้น้อยลงหน่อย”

แม้คำพูดจะดูดุดัน ทว่าน้ำเสียงที่ลอดออกมากลับแฝงไว้ด้วยความห่วงใยที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว...

หยางฉิงถูกสายตาคมดุมองกลับมา นางรู้สึกหวาดหวั่นอยู่บ้าง ขนาดเขาเดินไม่ได้ยังดุถึงเพียงนี้ หากเขาเดินได้เล่า? เกรงว่าคงจับนางไปแขวนไว้บนต้นไม้แล้วเอาไม้ตีแน่!

“นางมาหาเรื่องข้าก่อน พวกนางเป็นฝ่ายเริ่มทุกอย่าง ข้าเพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้นเอง”

‘ข้าไม่ได้เริ่มก่อนเสียหน่อย! ก็ใครใช้ให้พวกนางมาว่าข้ากันเล่า?’

หลี่เซิงฟังคำอธิบายของหยางฉิงแล้วก็พอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ไม่นานนักท่านแม่ก็คงมาที่บ้าน หรืออาจจะไม่มาเลยก็ได้ เพราะท่านพ่อของเขาเป็นคนหน้าบาง หากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็คงห้ามพี่สาวกับหลี่หยินไว้

“เจ้าไปทำแผลเถอะ หากครั้งหน้าเกิดเรื่องอันใดขึ้น เจ้าก็มาบอกข้าได้ ถึงข้าจะยังเดินไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าข้าจะปกป้องเจ้าไม่ได้เสียเมื่อไหร่”

เขาบาดเจ็บที่ขาก็จริง แต่สองมือของเขายังมีแรง!

หลี่เซิงก้มมองขาตัวเองก่อนถอนหายใจ ท่านหมอบอกว่าเขาอาจจะเดินไม่ได้อีก เพราะคมมีดที่ฟันลงมาโดนเส้นเอ็นโดยตรง แต่เขายังมีความหวังว่าสักวันจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง

หยางฉิงได้ยินเสียงถอนหายใจของเขา นางเห็นประกายในแววตาของเขาดูว่างเปล่าไปชั่วขณะ คงเป็นเพราะเรื่องที่เขาอาจเดินไม่ได้อีก หรือหากเดินได้ก็อาจจะกลายเป็นคนพิการ ถูกผู้อื่นดูถูกเหยียดหยาม…

‘ข้าจะช่วยเขาให้เต็มที่ก็แล้วกัน!’

“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอเอาถ้วยจานพวกนี้ไปล้างก่อน” หยางฉิงกล่าวจบก็เดินออกจากห้อง ตรงเข้าไปในครัวเพื่อล้างจานจนเสร็จ

เมื่อเสร็จธุระ นางก็หายตัวกลับไปยังคอนโดส่วนตัว เดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลและทายาลงบนบาดแผลที่มุมปาก

“โอ๊ย…เจ็บเหมือนกันนะนี่! พี่สาวของหลี่เซิงคนนั้น คงตั้งใจตีข้าเต็มแรงเลยสินะ?” นางบ่นพึมพำขณะทำแผล

เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว นางก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ากล่องผ่าตัดยังไม่ได้ล้างทำความสะอาด จึงเดินไปดูตรงที่วางไว้ ทว่าทันทีที่สายตาสบเข้ากับกล่องตรงหน้า คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากัน

“เอ๊ะ…ทำไมกล่องผ่าตัดถึงกลับมาอยู่ในสภาพเดิม?”

หยางฉิงรีบเดินเข้าไปจับกล่องแล้วเปิดออกดู สิ่งของทุกชิ้นภายในยังดูเหมือนใหม่ ไม่ต่างจากตอนที่นางเพิ่งได้รับมันมา

“เหมือนไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนเลย…”

นางวางกล่องผ่าตัดลงที่เดิม ก่อนเดินเข้าไปดูวัตถุดิบในครัวที่เคยหยิบออกมาใช้ แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้นางประหลาดใจยิ่งขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 102 รักษาสัญญา [จบ]

    วันหนึ่ง นางเดินทอดน่องชมร้านดอกไม้ มีเพียงบ่าวรับใช้หนึ่งคนติดตามมาด้วย ขณะกำลังเพลิดเพลินกับดอกไม้ตรงหน้า นางก็เดินชนใครบางคนเข้าอย่างจังสายตาทั้งคู่สบกันหัวใจของหลี่หยูฟางพลันเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่นางจดจำได้ไม่ลืม เพียงแวบเดียว...นางรู้ทันทีว่าเขาคือใครทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยทัก เขาก็เบือนหน้าหนีแล้วรีบเดินจากไป‘เขาหนีข้าไปอีกแล้ว...’ นางคิดในใจด้วยความเจ็บปวด คราวนี้นางไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว นางเติบโตพอจะออกเรือนได้ด้วยซ้ำ...ฝ่ายชายหนุ่มเมื่อเหลือบเห็นสีหน้าผิดหวังของหญิงสาว ก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ นางโตขึ้นมากจริง ๆ งดงามยิ่งนักผู้ติดตามที่คอยเฝ้าดูอยู่ข้างกายเขา ถึงกับไม่เชื่อสายตาตนเอง เมื่อนายท่านของเขาแย้มยิ้มอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตานั้น ชายหนุ่มจึงหุบยิ้มลงทันที สายตาเหม่อมองเมืองหลวงเบื้องหน้า เมืองที่เขาเคยมาเมื่อห้าปีก่อน บัดนี้เปลี่ยนไปมากจนแทบจำไม่ได้...เว้นเสียแต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของนาง ที่ยังคงติดอยู่ในใจเขาไม่จางหายหลังจากวันนั้น เขาก็หาเรื่องใกล้ชิดนางอยู่หลายครั้ง บ้างแกล้งเดินชน บ้างแกล้งทำของตก เพื่อให้มีโอกาสพูดค

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 101 ส่งถึงฝั่ง

    ด้านหลี่หยูฟาง นางลอบออกมานอกเรือน เดินไปยังจุดที่เคยพบเด็กชายผู้นั้น ตามที่นางสังเกต เด็กคนนั้นน่าจะมีอายุมากกว่านางเล็กน้อย และอาจจะน้อยกว่าพี่ชายของตนอยู่บ้างแต่เมื่อมาถึงจุดเดิม กลับไม่พบร่างของเด็กชายคนนั้นเสียแล้ว...นางถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความเสียดาย แล้วกำลังจะหันหลังกลับทว่าในเงามืดเบื้องหลัง ปรากฏร่างของเด็กชายผู้หนึ่ง ผมยาวสลวยรวบเป็นมวยต่ำด้านหลัง ใบหน้าขาวกระจ่าง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมีแววเจ้าเล่ห์แฝงอยู่เพียงชั่วครู่ เขามองเด็กหญิงวัยสิบขวบตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเฉยเขาเห็นว่านางกำลังมองหาใครบางคนอยู่ และเฝ้ามองนางเงียบ ๆ ไม่เผยตัว จนกระทั่งนางหันหลังกลับ จึงจงใจขยับตัวให้เกิดเสียงเสียงเบา ๆ ที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลี่หยูฟางหันขวับไปมอง และเมื่อพบว่าเป็นคนที่นางกำลังตามหา ดวงตาของนางก็เปล่งประกายทันใด “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย! ข้านึกว่าเจ้ากลับไปเสียแล้ว” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีเด็กชายผู้นั้นกลับไม่ตอบอะไร เพียงจ้องมองนางอย่างนิ่งเงียบเมื่อนางไม่ได้รับคำตอบ สีหน้าของหลี่หยูฟางก็พลันหม่นลงเล็กน้อย นางรู้สึกเสียใจลึก ๆ กับท่าทีเย็นชาของเขา...เมื่อเห็นเขาไม่ตอบ หลี่หยูฟางจึงถ

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 100 เติบโต

    ภายในห้องนอน หยางฉิงหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยล้า โดยมีหลี่เซิงนอนกอดอยู่เคียงข้าง ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันตลอดทั้งคืน จนกระทั่งยามนี้จึงได้หลับพักผ่อนอย่างแท้จริงเมื่อทั้งสองตื่นขึ้นมาก็สายมากแล้ว จึงออกมาจากมิติ หลี่เซิงดูสดชื่นกว่าทุกวัน เพราะเมื่อคืนเขาได้เติมเต็มช่วงเวลาที่ขาดหายไป หยางฉิงมองเขาอย่างหมั่นไส้น้อย ๆ เมื่อออกจากห้อง นางก็พบว่าลูกชายทั้งสองออกจากห้องไปนานแล้ว ตอนนี้พวกเขาโตพอที่จะไม่ติดแม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว...เวลาแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้เข้าสู่ปีที่สอง หยางฉิงตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว ท้องครั้งนี้ของนางไม่ใหญ่เท่าตอนท้องลูกชาย ทำให้นางคิดว่าน่าจะได้ลูกเพียงคนเดียวนางมาพักอยู่ในเรือนที่เมืองหลวง เพราะอย่างน้อยก็สามารถออกมานั่งเฝ้าร้าน ดูแลกิจการหน้าร้านได้บ้าง จึงไม่รู้สึกเบื่อมากนักเมื่อเข้าสู่เดือนที่เก้า หยางฉิงคลอดลูกตามที่คาดหวังไว้ เป็นเด็กหญิงตัวอวบอ้วนน่ารักน่าชัง เด็กน้อยเปรียบเสมือนสีสันใหม่ของครอบครัว หยางฉิงจึงตั้งชื่อให้ลูกสาวว่า ‘หลี่หยูฟาง’ แปลว่า กลิ่นหอมละมุน เพราะนางเกิดมาพร้อมกลิ่นกายหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์ ใครเข้าใกล้ก็อดที่จะอยากอุ้มนางไม่

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 99 สั่งสอน (แสดงความรักนิดหน่อย)

    เมื่อชายชรานั่งรถเกวียนมาจนถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ก็มีผู้คนออกมาต้อนรับมากมาย พร้อมกับเสียงเรียกขานว่า“เชิญเสด็จพะยะค่ะ ฝ่าบาท!”เสียงเรียกขานเปี่ยมด้วยความยินดีดังขึ้นพร้อมกันเมื่อชายชราได้ยินคำเรียกขานนั้น เขาถึงกับถอนหายใจเบา ๆ ความสนุกตลอดหลายวันที่เขาแอบออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ตนเคยปกป้องดูแล บัดนี้จำต้องวางลงเสียแล้ว...ทางด้าน หยางฉิง นางยืนอยู่ต่อหน้าเด็กน้อยทั้งสองคนที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งสุขุมเยือกเย็น อีกคนกลับซุกซนเอาเรื่อง นางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะส่ายหน้าให้ลูกชายคนโตหยางฉิงเพิ่งได้ฟังเรื่องราวจากท่านตาโจวเล่อ นางหันไปมองหลี่เต๋อชางด้วยแววตาภาคภูมิใจ เขาช่างละม้ายคล้ายสามีของนาง เพียงแต่เงียบขรึมกว่า ต่างจากหลี่เจียเฉิงโดยสิ้นเชิงนางถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ เมื่อคิดว่าลูกชายคนโตแอบออกไปเล่นตอนไหน ถึงกับไปแกล้งลูกของท่านอ๋องสามจนร้องไห้ ดีที่ท่านอ๋องไม่ติดใจเอาความอะไรหยางฉิงปรายตามองหลี่เจียเฉิงด้วยสายตาดุเมื่อหลี่เจียเฉิงเห็นสายตาของมารดา เขาก็หลบตาลงทันที“เจ้ารู้ไหมว่าวันนี้เจ้าทำอะไรผิดไป?” นางถามด้วยน้ำเสียงเข้มได้ยินเช่นนั้น หลี่เจียเฉิงสะด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 98 ชายชรา

    หลี่เจียถิง บุตรชายคนโต เป็นเด็กฉลาด ช่างพูด และกล้าแสดงออก ต่างจากหลี่เต๋อชาง ซึ่งเป็นเด็กช่างสังเกต เงียบขรึม และไม่ค่อยพูดเท่าใดนัก นางให้ลูกทั้งสองทดลองฝึกงานในกิจการของนางทั้งหมด หลี่เจียถิงชอบฝึกฝนในโรงเตี๊ยมและโรงทำน้ำมันพริก ส่วนหลี่เต๋อชางกลับชอบกิจการในเมืองหลวงและโรงเรือนทำยามากกว่า โดยเฉพาะเรื่องสมุนไพรที่เขาสนใจเป็นพิเศษนางไม่คิดจะบังคับ หากพวกเขาชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด นางก็จะตามใจ ไม่ว่าในอนาคตพวกเขาจะสานต่อกิจการหรือไม่ก็ตาม เพราะตอนนี้พวกเขายังเด็กนัก นางจึงไม่อยากให้ต้องคิดมากเหมือนผู้ใหญ่วันหนึ่ง ขณะที่นางกำลังยุ่งกับการดูแลร้านเทียนเจินถัง นางจึงฝากหลี่เต๋อชางให้อยู่กับท่านตาโจวเฉียวทางด้านโจวเฉียวกำลังนั่งคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาได้ทำงานกับหยางฉิงมาเกือบห้าปีแล้ว เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงานที่นี่ ตอนนี้โจวเล่อก็เติบโตพอจะช่วยงานได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเด็กเรียนดี เขาจึงไม่ค่อยเป็นกังวลนักโจวเฉียวเหลือบมองหลี่เต๋อชาง ซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะคิดเงินด้วยท่าทางตั้งอกตั้งใจ เขารู้สึกเอ็นดูเด็กชายผู้นี้เหมือนเป็นหลานแท้ ๆ หลี่เต๋อชางเป็นเด็กฉลาดเกินวัย นั่นทำให้เขาอด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 97 เป็นคนดี?

    เมื่อพูดจบ นางก็เหลือบมองสีหน้าของทั้งสองคนอ๋องสามที่รู้ว่ายาร้าน เทียนเจินถัง เป็นของดีจริง ๆ เคยกลับไปเพื่อซื้อยาเพิ่ม แต่กลับได้รับข่าวว่ายาทั้งหมดถูกขายหมดไปแล้ว ช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าอาจารย์ของนางจะส่งยาชนิดใหม่มา เขาจึงไม่อยากพลาดโอกาสนี้เช่นกัน“ถ้าอาจารย์ของเจ้านำยาเข้ามาขายอีก เจ้าส่งคนมาแจ้งข้าได้หรือไม่?” เขาถามเสียงเรียบหวังจวิ้นเจี้ยงที่ถูกท่านอ๋องตัดบทไปก็รีบพูดขึ้นทันที “ถ้าเช่นนั้น เจ้าส่งคนมาแจ้งข้าด้วย ข้าเองก็อยากรู้ว่ายาตัวใหม่ของอาจารย์เจ้าจะเป็นยาแบบใดกันแน่”หยางฉิงเห็นความวุ่นวายตรงหน้าแล้วอดยิ้มไม่ได้ “ท่านทั้งสองวางใจได้เจ้าค่ะ ข้าจะให้คนเข้าไปแจ้งทั้งสองท่านอย่างแน่นอน”เมื่อพูดจบ นางก็แย้มยิ้มออกมา อาจารย์ที่ว่านั้นก็คือตัวนางเอง หากมีเวลาว่างเมื่อใด นางก็จะคิดค้นและปรุงยาขึ้นในเวลานั้น ร้านของนางไม่ได้เป็นร้านขายยาโดยตรง เพียงแต่นำยามาขายเสริม แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ร้านของนางเป็นที่อิจฉาของร้านยาดัง ๆ หลายแห่งแล้ว อย่างไรก็ตาม นางยังโชคดีที่มีคนคอยคุ้มกันอย่างดี พวกนั้นจึงไม่กล้าก่อเรื่องกับครอบครัวของนางโดยตรงเมื่อทั้งสองได้รับคำมั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status