Share

ตอนที่ 10 ใช้แรงงาน

last update Last Updated: 2025-04-27 19:09:02

“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่กัน” เขาอดถามนางออกไปไม่ได้

หยางฉิงกำลังตั้งใจขุดดินอย่างเอาเป็นเอาตาย นางแทบไม่ค่อยได้ทำงานในไร่แบบนี้เลย ท่าการขุดดินของนางจึงมีท่าทางที่แปลกนัก ขณะที่นางกำลังจดจ่ออยู่กับการขุดดินอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงของหลี่เซิงที่ถามอะไรบางอย่างกับนาง?

“ท่านว่าอย่างไรนะ” นางถามเขาซ้ำอีกครั้ง

“ข้าถามว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”

เขาคงแปลกใจที่นางลุกขึ้นมาจับจอบขุดดินถางหญ้า “ข้าอยากปลูกผักผลไม้ เผื่อว่าจะได้มีผลไม้เอาไว้ขายได้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง” นางบอกถึงเหตุผลให้เขาฟัง

“เจ้าไม่มีเงินแล้วหรือ…” ตอนแยกบ้านเขาเห็นว่านางได้เงินจากท่านแม่มาหลายตำลึงเงิน

“เงินแค่นั้นจะเพียงพอให้ข้าและท่านที่เป็นคนป่วยใช้พอหรือ แต่เรื่องนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้าจัดการได้ ท่านแค่ดูแลตัวเองให้แข็งแรงเร็ว ๆ ก็พอแล้ว” นางตอบเขาออกไปและเริ่มกลับมาสนใจขุดดินของนางต่อ

หลี่เซิงที่มองใบหน้าด้านข้างของหยางฉิง หน้าของนางแดงตัดกับดวงอาทิตย์กลมโตที่ใกล้จะตกดิน พอนางไม่ได้แต่งหน้าขาวแก้มแดงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว นางก็หน้าตาดีเหมือนกัน เขามองลงไปที่รูปร่างของหยางฉิง นางเป็นหญิงสาวที่รักสวยรักงาม หุ่นของนางจึงเหมาะที่จะเป็นแม่พันธุ์ชั้นดี ‘นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่กันเนี่ย’ เขาลบภาพในสมองของเขาออกไปทันทีเมื่อเขาเริ่มคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้

เขานึกถึงวันที่แต่งงานกับหยางฉิง เวลานั้นนางเป็นหญิงสาวเอาแต่ใจ นางชอบเขามากจึงทำทุกวิถีทางได้เขามา หลังจากที่เขาแต่งงานกับนาง เขาต้องออกไปเป็นทหารต่ออีกสามปี จนบาดเจ็บกลับมาจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เข้าหอกับนางเลยเสียครั้งเดียว เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านางมีมุมที่ดีแบบนี้ด้วย เมื่อก่อนถ้านางทำดีกับเขาเหมือนเดิม ไม่รังเกียจที่เขากลายเป็นคนพิการ เขาก็อาจจะรักนางไปแล้วก็ได้

การดูแลเอาใจใส่ของหยางฉิงที่มีต่อเขาตลอดสองวันมานี้ทำให้เขารู้สึกดีกับนางมากขึ้น เขาเลิกมองนางและกลับมานอนพักผ่อนเอาแรง นางเอาหมอนอันใหญ่มาให้เขาหนุ่นนอนอันใหม่ หมอนที่นางนำมาช่างนุ่มยิ่งนัก และนางยังเอาหมอนอีกอันที่มีรูปทรงแปลกตา นางสอนเขาว่า ให้เขาเอาหมอนลูกยาวดันไว้ที่หลังของเขา เวลาเขานอนให้พลิกตัวไปมา ไม่อย่างนั้นก้นของเขาอาจจะเป็นแผลได้ ‘เขาแปลกใจ นางทำไมรู้เรื่องพวกนี้ได้’

ถึงหลี่เซิงจะแปลกใจแต่เขาก็ทำตามคำแนะนำที่นางบอก ถ้ามันเป็นประโยชน์ต่อเขา เขาก็จะทำตาม

หยางฉิงมองเห็นตะวันใกล้ลับขอบฟ้า ความมืดมิดเริ่มคืบคลานเข้ามา นางวางจอบไว้ตรงด้านหลังบ้าน ‘พรุ่งนี้นางค่อยมาทำต่อก็แล้วกัน’ นางเดินกลับเข้ามาในบ้าน เข้าไปในคอนโดและเอาอาหารที่ทำไว้ เอาออกมาให้หลี่เซิง นางจะรอเขากินให้เสร็จก่อน จึงค่อยกลับมากินที่หลัง ตอนนี้นางเริ่มปรับตัวเข้ากับการอยู่ในยุคนี้ได้บ้างแล้ว

หยางฉิงเอาอาหารไปให้เขาในห้อง นางเอาของเสียนำออกไปทิ้ง และล้างให้สะอาดนำกลับมาวางไว้ในห้องเขาเหมือนเดิน เมื่อเช้าเธอทำแผลให้เขาไปแล้ว นางต้องรอสักสองถึงสามวันเพื่อให้แผลของเขาติดกันดีเสียก่อน นางจึงจะเริ่มทำแผลให้เขาอีกครั้ง

หลังจากที่นางดูแลหลี่เซิงให้ยาเขากินเรียบร้อย ก็กลับไปคอนโดเพื่ออาบน้ำ นางนอนแช่ในอ่างน้ำเพื่อผ่อนคลาย และจุดกลิ่นอโรมาเพื่อให้บรรเทาความเมื่อยล้าที่พบเจอมาตลอดทั้งวัน นางไม่ลืมที่จะมาสก์หน้าและทาครีมกันแดดทุกครั้งที่อยู่ที่นั้น นางก็ไม่ต่างจากหยางฉิงคนเดิมตรงที่ ก็เป็นคนรักสวยรักงามเหมือนกัน

กลางดึกหยางฉิงเดินออกไปดูหลี่เซิงอีกครั้ง นางกลัวว่าเขาจะมีไข้ขึ้นอีก พอเดินเข้ามาในห้องของหลี่เซิง นางมองเห็นเขานอนหมอนที่นางให้และใช้หมอนข้างตามวิธีที่สอน เธอเอามือแตะตรงหน้าผากของเขาเพื่อตรวจดูให้แน่ใจ ‘ตอนนี้ตัวของเขาไม่ได้ร้อนแล้ว นางเอาน้ำดื่มวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงและเดินออกจากห้องเขาไป

หลังเสียงประตูปิดลงหลี่เซิงก็ลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด นัยน์ตาของเขามีประกายบางอย่างที่มีชีวิตชีวา เขายิ้มกับตัวเองและนอนหลับไปอีกครั้งด้วยฤทธิ์ยาที่กินไป

เสียงนาฬิกาปลุกส่งเสียงร้องเพื่อปลุกหยางฉิงที่นอนหลับอยู่บนเตียงนอนให้ลืมตาตื่นขึ้น หยางฉิงไม่ลืมที่นางตั้งใจเอาไว้ วันนี้นางจะเริ่มออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายของนางแข็งแรงขึ้น นางเปลี่ยนไปใส่ชุดออกกำลังกาย เป็นกางเกงวอร์มขายาวกับเสื้อแขนยาว นางไม่มีชุดที่เป็นกางเกง จึงต้องใส่ชุดที่มีไปวิ่งแทนเสียก่อน นางล้างหน้าแปรงฟันและกลับมาที่บ้านหลี่เซิง

หยางฉิงมองเห็นท้องฟ้าด้านนอกยังมืดแต่ก็ยังมีแสงสว่างจากดวงจันทร์ที่ส่องแสงลงมา ทำให้มองเห็นทางพื้นที่ด้านหลังไม่มืดมากนักและเริ่มก้าวเท้าวิ่งอยู่บนพื้นที่สองไร้ด้านหลังบ้าน ถึงจะมีหญ้าขึ้นรกแต่หญ้าเหล่านั้นก็เป็นหญ้าที่ตายแล้ว ความสูงของมันก็ไม่ได้สูงมากเท่าไหร่ ยังพอให้วิ่งได้ นางวิ่งวนไปมาอยู่ห้ารอบ จึงได้หยุดวิ่งเป็นเวลาที่แสงแดดของวันใหม่สาดส่องมาที่นางพอดี จึงรีบกลับไปในบ้านเปลี่ยนชุดกลับมาเป็นแบบเดิม นางกลัวว่าชาวบ้านจะมองเห็นนางในชุดแปลกตา

ในระหว่างที่หยางฉิงตื่นมาวิ่งตั้งแต่เช้า ก็มีสายตาคู่หนึ่งคอยมองจ้องนางอยู่ตลอดเวลา

หลี่เซิงตื่นเช้าเป็นประจำเพราะเขาเคยเป็นทหารมาก่อน เขาต้องตื่นไปฝึกร่างกายของเขาอยู่เสมอ ตื่นขึ้นมาเขาก็ได้ยินเสียงคนวิ่งไปมาอยู่หลังบ้าน เขาเพ่งสายตามองก็เห็นว่าคนที่วิ่งนั้นเป็นหยางฉิง นางแต่งชุดแปลกตาผมของนางมัดขึ้นสูงเผยให้เห็นลำคอเพียวยาวรับกับใบหน้าเรียวเล็กแต่มีแก้ม ตาของนางกลมโตหวานเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล เขานอนมองดูนางวิ่งไปมาจนเสร็จ นางก็หายไปจากสายตาของเขา พอนางหายไป เขาก็รู้สึกเหมือนขาดหายอะไรบางอย่างขึ้นมาในใจ

หลังจากที่หยางฉิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย นางก็เตรียมของทุกอย่างให้หลี่เซิงเหมือนเช่นทุกวัน เดี๋ยวนี้เธอทำเรื่องเหล่านี้จนชินเสียแล้ว นางทำทุกอย่างเสร็จก็ไปขุดดินที่ด้านหลังบ้านต่อ นางใช้เวลาขุดดินอยู่ครึ่งวันโดยมีสายตาของหลี่เซิงมองดูเธอทำงานอยู่ตลอด นางมองเห็นชาวบ้าน เดินผ่านนอกรั้วบ้านไปมาต่างทักทายนางด้วยท่าทางที่ดีขึ้น หยางฉิ่งมองดูพื้นที่ครึ่งไร่ที่ขุดจนเสร็จด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ ‘ขุดเสร็จแล้วต้องทำอย่างไรต่อละ’นางยังไม่มีเมล็ดพันธุ์ของผลไม้สักอย่างเดียวเลย

นางเดินเข้าไปตรงหน้าต่างที่หลี่เซิงนอนอยู่ “ท่านรู้หรือไม่ว่า ข้าจะซื้อเมล็ดพันธุ์ได้ที่ไหนบ้าง” นางค้นหาในความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไม่พบเจอสิ่งใด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 102 รักษาสัญญา [จบ]

    วันหนึ่ง นางเดินทอดน่องชมร้านดอกไม้ มีเพียงบ่าวรับใช้หนึ่งคนติดตามมาด้วย ขณะกำลังเพลิดเพลินกับดอกไม้ตรงหน้า นางก็เดินชนใครบางคนเข้าอย่างจังสายตาทั้งคู่สบกันหัวใจของหลี่หยูฟางพลันเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่นางจดจำได้ไม่ลืม เพียงแวบเดียว...นางรู้ทันทีว่าเขาคือใครทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยทัก เขาก็เบือนหน้าหนีแล้วรีบเดินจากไป‘เขาหนีข้าไปอีกแล้ว...’ นางคิดในใจด้วยความเจ็บปวด คราวนี้นางไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว นางเติบโตพอจะออกเรือนได้ด้วยซ้ำ...ฝ่ายชายหนุ่มเมื่อเหลือบเห็นสีหน้าผิดหวังของหญิงสาว ก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ นางโตขึ้นมากจริง ๆ งดงามยิ่งนักผู้ติดตามที่คอยเฝ้าดูอยู่ข้างกายเขา ถึงกับไม่เชื่อสายตาตนเอง เมื่อนายท่านของเขาแย้มยิ้มอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตานั้น ชายหนุ่มจึงหุบยิ้มลงทันที สายตาเหม่อมองเมืองหลวงเบื้องหน้า เมืองที่เขาเคยมาเมื่อห้าปีก่อน บัดนี้เปลี่ยนไปมากจนแทบจำไม่ได้...เว้นเสียแต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของนาง ที่ยังคงติดอยู่ในใจเขาไม่จางหายหลังจากวันนั้น เขาก็หาเรื่องใกล้ชิดนางอยู่หลายครั้ง บ้างแกล้งเดินชน บ้างแกล้งทำของตก เพื่อให้มีโอกาสพูดค

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 101 ส่งถึงฝั่ง

    ด้านหลี่หยูฟาง นางลอบออกมานอกเรือน เดินไปยังจุดที่เคยพบเด็กชายผู้นั้น ตามที่นางสังเกต เด็กคนนั้นน่าจะมีอายุมากกว่านางเล็กน้อย และอาจจะน้อยกว่าพี่ชายของตนอยู่บ้างแต่เมื่อมาถึงจุดเดิม กลับไม่พบร่างของเด็กชายคนนั้นเสียแล้ว...นางถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความเสียดาย แล้วกำลังจะหันหลังกลับทว่าในเงามืดเบื้องหลัง ปรากฏร่างของเด็กชายผู้หนึ่ง ผมยาวสลวยรวบเป็นมวยต่ำด้านหลัง ใบหน้าขาวกระจ่าง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมีแววเจ้าเล่ห์แฝงอยู่เพียงชั่วครู่ เขามองเด็กหญิงวัยสิบขวบตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเฉยเขาเห็นว่านางกำลังมองหาใครบางคนอยู่ และเฝ้ามองนางเงียบ ๆ ไม่เผยตัว จนกระทั่งนางหันหลังกลับ จึงจงใจขยับตัวให้เกิดเสียงเสียงเบา ๆ ที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลี่หยูฟางหันขวับไปมอง และเมื่อพบว่าเป็นคนที่นางกำลังตามหา ดวงตาของนางก็เปล่งประกายทันใด “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย! ข้านึกว่าเจ้ากลับไปเสียแล้ว” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีเด็กชายผู้นั้นกลับไม่ตอบอะไร เพียงจ้องมองนางอย่างนิ่งเงียบเมื่อนางไม่ได้รับคำตอบ สีหน้าของหลี่หยูฟางก็พลันหม่นลงเล็กน้อย นางรู้สึกเสียใจลึก ๆ กับท่าทีเย็นชาของเขา...เมื่อเห็นเขาไม่ตอบ หลี่หยูฟางจึงถ

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 100 เติบโต

    ภายในห้องนอน หยางฉิงหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยล้า โดยมีหลี่เซิงนอนกอดอยู่เคียงข้าง ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันตลอดทั้งคืน จนกระทั่งยามนี้จึงได้หลับพักผ่อนอย่างแท้จริงเมื่อทั้งสองตื่นขึ้นมาก็สายมากแล้ว จึงออกมาจากมิติ หลี่เซิงดูสดชื่นกว่าทุกวัน เพราะเมื่อคืนเขาได้เติมเต็มช่วงเวลาที่ขาดหายไป หยางฉิงมองเขาอย่างหมั่นไส้น้อย ๆ เมื่อออกจากห้อง นางก็พบว่าลูกชายทั้งสองออกจากห้องไปนานแล้ว ตอนนี้พวกเขาโตพอที่จะไม่ติดแม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว...เวลาแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้เข้าสู่ปีที่สอง หยางฉิงตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว ท้องครั้งนี้ของนางไม่ใหญ่เท่าตอนท้องลูกชาย ทำให้นางคิดว่าน่าจะได้ลูกเพียงคนเดียวนางมาพักอยู่ในเรือนที่เมืองหลวง เพราะอย่างน้อยก็สามารถออกมานั่งเฝ้าร้าน ดูแลกิจการหน้าร้านได้บ้าง จึงไม่รู้สึกเบื่อมากนักเมื่อเข้าสู่เดือนที่เก้า หยางฉิงคลอดลูกตามที่คาดหวังไว้ เป็นเด็กหญิงตัวอวบอ้วนน่ารักน่าชัง เด็กน้อยเปรียบเสมือนสีสันใหม่ของครอบครัว หยางฉิงจึงตั้งชื่อให้ลูกสาวว่า ‘หลี่หยูฟาง’ แปลว่า กลิ่นหอมละมุน เพราะนางเกิดมาพร้อมกลิ่นกายหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์ ใครเข้าใกล้ก็อดที่จะอยากอุ้มนางไม่

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 99 สั่งสอน (แสดงความรักนิดหน่อย)

    เมื่อชายชรานั่งรถเกวียนมาจนถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ก็มีผู้คนออกมาต้อนรับมากมาย พร้อมกับเสียงเรียกขานว่า“เชิญเสด็จพะยะค่ะ ฝ่าบาท!”เสียงเรียกขานเปี่ยมด้วยความยินดีดังขึ้นพร้อมกันเมื่อชายชราได้ยินคำเรียกขานนั้น เขาถึงกับถอนหายใจเบา ๆ ความสนุกตลอดหลายวันที่เขาแอบออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ตนเคยปกป้องดูแล บัดนี้จำต้องวางลงเสียแล้ว...ทางด้าน หยางฉิง นางยืนอยู่ต่อหน้าเด็กน้อยทั้งสองคนที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งสุขุมเยือกเย็น อีกคนกลับซุกซนเอาเรื่อง นางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะส่ายหน้าให้ลูกชายคนโตหยางฉิงเพิ่งได้ฟังเรื่องราวจากท่านตาโจวเล่อ นางหันไปมองหลี่เต๋อชางด้วยแววตาภาคภูมิใจ เขาช่างละม้ายคล้ายสามีของนาง เพียงแต่เงียบขรึมกว่า ต่างจากหลี่เจียเฉิงโดยสิ้นเชิงนางถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ เมื่อคิดว่าลูกชายคนโตแอบออกไปเล่นตอนไหน ถึงกับไปแกล้งลูกของท่านอ๋องสามจนร้องไห้ ดีที่ท่านอ๋องไม่ติดใจเอาความอะไรหยางฉิงปรายตามองหลี่เจียเฉิงด้วยสายตาดุเมื่อหลี่เจียเฉิงเห็นสายตาของมารดา เขาก็หลบตาลงทันที“เจ้ารู้ไหมว่าวันนี้เจ้าทำอะไรผิดไป?” นางถามด้วยน้ำเสียงเข้มได้ยินเช่นนั้น หลี่เจียเฉิงสะด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 98 ชายชรา

    หลี่เจียถิง บุตรชายคนโต เป็นเด็กฉลาด ช่างพูด และกล้าแสดงออก ต่างจากหลี่เต๋อชาง ซึ่งเป็นเด็กช่างสังเกต เงียบขรึม และไม่ค่อยพูดเท่าใดนัก นางให้ลูกทั้งสองทดลองฝึกงานในกิจการของนางทั้งหมด หลี่เจียถิงชอบฝึกฝนในโรงเตี๊ยมและโรงทำน้ำมันพริก ส่วนหลี่เต๋อชางกลับชอบกิจการในเมืองหลวงและโรงเรือนทำยามากกว่า โดยเฉพาะเรื่องสมุนไพรที่เขาสนใจเป็นพิเศษนางไม่คิดจะบังคับ หากพวกเขาชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด นางก็จะตามใจ ไม่ว่าในอนาคตพวกเขาจะสานต่อกิจการหรือไม่ก็ตาม เพราะตอนนี้พวกเขายังเด็กนัก นางจึงไม่อยากให้ต้องคิดมากเหมือนผู้ใหญ่วันหนึ่ง ขณะที่นางกำลังยุ่งกับการดูแลร้านเทียนเจินถัง นางจึงฝากหลี่เต๋อชางให้อยู่กับท่านตาโจวเฉียวทางด้านโจวเฉียวกำลังนั่งคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาได้ทำงานกับหยางฉิงมาเกือบห้าปีแล้ว เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงานที่นี่ ตอนนี้โจวเล่อก็เติบโตพอจะช่วยงานได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเด็กเรียนดี เขาจึงไม่ค่อยเป็นกังวลนักโจวเฉียวเหลือบมองหลี่เต๋อชาง ซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะคิดเงินด้วยท่าทางตั้งอกตั้งใจ เขารู้สึกเอ็นดูเด็กชายผู้นี้เหมือนเป็นหลานแท้ ๆ หลี่เต๋อชางเป็นเด็กฉลาดเกินวัย นั่นทำให้เขาอด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 97 เป็นคนดี?

    เมื่อพูดจบ นางก็เหลือบมองสีหน้าของทั้งสองคนอ๋องสามที่รู้ว่ายาร้าน เทียนเจินถัง เป็นของดีจริง ๆ เคยกลับไปเพื่อซื้อยาเพิ่ม แต่กลับได้รับข่าวว่ายาทั้งหมดถูกขายหมดไปแล้ว ช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าอาจารย์ของนางจะส่งยาชนิดใหม่มา เขาจึงไม่อยากพลาดโอกาสนี้เช่นกัน“ถ้าอาจารย์ของเจ้านำยาเข้ามาขายอีก เจ้าส่งคนมาแจ้งข้าได้หรือไม่?” เขาถามเสียงเรียบหวังจวิ้นเจี้ยงที่ถูกท่านอ๋องตัดบทไปก็รีบพูดขึ้นทันที “ถ้าเช่นนั้น เจ้าส่งคนมาแจ้งข้าด้วย ข้าเองก็อยากรู้ว่ายาตัวใหม่ของอาจารย์เจ้าจะเป็นยาแบบใดกันแน่”หยางฉิงเห็นความวุ่นวายตรงหน้าแล้วอดยิ้มไม่ได้ “ท่านทั้งสองวางใจได้เจ้าค่ะ ข้าจะให้คนเข้าไปแจ้งทั้งสองท่านอย่างแน่นอน”เมื่อพูดจบ นางก็แย้มยิ้มออกมา อาจารย์ที่ว่านั้นก็คือตัวนางเอง หากมีเวลาว่างเมื่อใด นางก็จะคิดค้นและปรุงยาขึ้นในเวลานั้น ร้านของนางไม่ได้เป็นร้านขายยาโดยตรง เพียงแต่นำยามาขายเสริม แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ร้านของนางเป็นที่อิจฉาของร้านยาดัง ๆ หลายแห่งแล้ว อย่างไรก็ตาม นางยังโชคดีที่มีคนคอยคุ้มกันอย่างดี พวกนั้นจึงไม่กล้าก่อเรื่องกับครอบครัวของนางโดยตรงเมื่อทั้งสองได้รับคำมั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status