Share

ความฝันของนาง

Penulis: zuey
last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-23 23:32:19

สิ่งของเหล่านี้ล้วนถูกซ่อนเอาไว้ภายในห้องของนาง ดูเหมือนตัวประกอบหญิงที่ไร้ค่าคนนี้จะซ่อนอาหารเอาไว้ทานเพียงคนเดียวไม่น้อยเลย ช่างเห็นแก่ตัวจริงๆ ทั้งที่เป็นเพียงตัวประกอบในนิยายที่ไม่มีแม้แต่ชื่อ กลับมีผลต่อการมีชีวิตรอดของตัวร้ายมากกว่าใคร

“คุณชาย ข้าป้อนให้ท่านดีหรือไม่ รับรองว่าอาหารที่ข้าทำต้องอร่อยถูกปากท่านแน่นอน เพราะน้องๆ ของข้าพูดเสมอว่าข้าทำอาหารเก่ง”

ลู่หยวนซีพยายามพูดตะล่อมเอาใจให้เขารู้สึกถึงความเป็นมิตรของนาง แต่กู้จิ่งเหยียนกลับยังคงนิ่งเฉย ตอนนี้นางไม่รู้แล้วว่าควรทำเช่นไรต่อไปดีให้เขารู้สึกว่านางไม่ได้มาร้าย ถ้าหากจะให้บังคับนางก็กลัวว่าเขาจะตั้งกำแพงกับนางสูงมากกว่าเดิม

“หรือไม่อย่างนั้น ถ้าไม่ชอบให้ข้าป้อนท่านก็ทานเองดีหรือไม่ มาเถอะข้าช่วยพยุง”

ลู่หยวนซีมองปฏิกิริยาเล็กน้อยที่เขาตอบสนองด้วยใบหน้าพอใจ เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ตั้งแง่กับนางมากจนเกินไป ลู่หยวนซีจับมือของกู้จิ่งเหยียนให้จับชามและตะเกียบ จากนั้นนางคีบอาหารลงไปในชามให้เขา กู้จิ่งเหยียนรอสักพักก่อนจะยอมทานอาหารแต่โดยดี ที่เขาทำเช่นนั้นก็เพราะเขารอให้ได้ยินเสียงขยับตะเกียบทานอาหารในชามของนางก่อน

ทั้งข้าวในชามและน้ำแกงกระดูกหมูที่นางทำ กู้จิ่งเหยียนยอมทานเข้าไปทั้งหมด หลังจากนางยกชามเปล่าออกจากห้องไปนางก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง

ร่างบางนั่งอ่านหนังสือนิยายที่ยังคงอ่านค้างเอาไว้ที่โต๊ะข้างเตียงเงียบๆ มีเพียงเสียงเปิดหน้ากระดาษเบาๆ ให้รู้ว่านางยังคงนั่งอยู่ในห้องนั้น ถึงแม้นางจะดูเหมือนกำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือนิยายตรงหน้า แต่ลู่หยวนซีก็เงยหน้ามองกู้จิ่งเหยียนเป็นระยะ ตอนนี้เขาเองก็นั่งพิงหัวเตียงเงียบๆ โดยไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา

“คุณชายท่านนอนพักผ่อนดีหรือไม่ อาหารที่ทานเข้าไปคงจะย่อยไปบ้างแล้ว อีกสองสามวันข้าจะสั่งทำรถเข็นให้ท่านสักตัว เวลาเบื่อๆ จะได้ออกไปนั่งเล่นหน้าเรือนอาบแดดบ้าง”

ลู่หยวนซีช่วยพยุงร่างของกู้จิ่งเหยียนให้นอนลง ก่อนที่ตัวนางเองจะกลับมาอ่านนิยายช่วงสุดท้ายให้จบ

ลู่หยวนซีบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนปิดปากหาวเบาๆ นางเหลือบตามองไปยังร่างผอมที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเขาหลับไปแล้วนางก็เป่าตะเกียงให้ดับก่อนปีนขึ้นเตียงข้ามไปนอนอีกฝั่ง จากนั้นจึงห่มผ้าแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว เพราะวันนี้นางทำความสะอาดเรือนหลังนี้ทั้งวันจึงทำให้รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว

หลังจากที่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของนางดังขึ้นแผ่วเบา กู้จิ่งเหยียนที่ลู่หยวนซีเข้าใจว่าหลับไปนานแล้วก็ลืมตาขึ้น ก่อนจะหันหน้าไปทางหญิงสาวที่นอนเคียงข้างตน เขาแน่ใจว่าสตรีนางนี้จะต้องมิใช่สาวใช้คนนั้นที่เคยอาศัยอยู่ที่เรือนหลังนี้กับเขามาสองปี แต่เหตุใดเล่าน้ำเสียงของนางถึงได้เหมือนกันทุกอย่าง แตกต่างเพียงกิริยาท่าทาง เสียงก้าวเดินที่มั่นคง และรสชาติการทำอาหาร ยังมีนิสัยที่แปลกประหลาดของนางเพิ่มเข้ามาอีก สรุปแล้วนางเป็นใครกันแน่

แน่นอนว่าสาวใช้คนก่อนหน้า เป็นสตรีที่ทั้งร้ายกาจและเกียจคร้าน นางขี้เกียจแม้แต่จะอาบน้ำให้ตนเอง เวลาเดินเข้ามาภายในห้องของเขากลิ่นกายของนางนั้นทำให้เขาแทบอยากจะอาเจียนออกมา

แต่สตรีนางนี้กลับแตกต่างออกไป นางอาบน้ำให้เขา นางทำความสะอาดเรือน กลิ่นเหม็นหืนที่เคยได้กลิ่นจากตัวนางเวลานี้หายไปแล้ว กู้จิ่งเหยียนนอนนิ่งๆ คิดหลายเรื่องอยู่ภายในหัว แต่แล้วแขนและขาของสตรีที่นอนข้างกายก็พาดมาที่หน้าอกอย่างพอดิบพอดี ก่อนนางจะกอดกระชับเข้าหาตนเอง กู้จิ่งเหยียนโมโหจนอยากจะสังหารนางทิ้งเสียตอนนี้ แต่เสียงพึมพำที่ดังออกมาจากปากของนางทำให้เขาจำต้องหยุดชะงักไป

“ไอ้สารเลวหลินห่าวหยาง!! ไอ้คนเฮงซวย!! นายกล้านอกใจฉันอย่างนั้นหรือ วันนี้ฉันจะประจานพวกเธอสองคนให้คนทั้งมหาวิทยาลัยได้รู้ ว่าพวกเธอมันแย่แค่ไหน มู่หยุนถิงเธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันมาตั้งสี่ปี เธอกล้าหักหลังแอบคบกับแฟนของฉันได้ยังไง พวกเธอทั้งสองคนมันแย่ยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อนเสียอีก”

จากนั้นลู่หยวนซียังละเมอด่าออกมาอีกหลายคำ กู้จิ่งเหยียนใช้มือผอมบางของตนคลำไปยังที่มาของเสียง ทำให้สัมผัสได้ว่าหัวคิ้วทั้งสองข้างของนางขมวดเข้าหากันแน่น ใบหน้าด้านข้างเวลานี้เปียกชื้นไปด้วยคราบน้ำตา แม้กู้จิ่งเหยียนจะมองไม่เห็น แต่เสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเป็นระยะของนาง ทำให้เขารู้ว่านางกำลังร้องไห้เสียใจอย่างหนัก

สตรีบ้าผู้นี้กำลังละเมอพูดถึงใครกัน เหตุใดถึงได้ดูโมโหมากมายเช่นนั้น แล้วยังภาษาที่นางพูดอีกช่างฟังแล้วรู้สึกแปลกหูยิ่งนัก แม้จะไม่เหมือนภาษาแคว้นจ้าวแต่ก็สามารถฟังรู้เรื่องได้ มีเพียงแค่บางคำที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

กู้จิ่งเหยียนนอนฟังเสียงละเมอของลู่หยวนซีจนตัวเขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งร่างที่เคยนอนอยู่ข้างกายก็ไม่อยู่แล้ว แต่เสียงฝีเท้าด้านนอกทำให้เขารู้ว่านางกำลังเดินตรงมาทางนี้

“คุณชาย ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้ายกน้ำอุ่นมาให้ท่านล้างหน้า มาเถอะข้าช่วยเอง”

ลู่หยวนซีพยุงร่างผอมของเขาให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนหยิบผ้าขาวชุบน้ำอุ่นบิดจนหมาดวางเอาไว้ในมือของชายหนุ่ม เขาทำตามที่นางบอกอย่างเงียบๆ มิได้แสดงอาการต่อต้านอย่างเมื่อวาน

“เช้านี้มีโจ๊กใส่ไข่ ล้างหน้าเสร็จ ท่านทานอะไรรองท้องสักหน่อย ข้าจะเข้าเมืองไปดูเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ท่านพร้อมทั้งเครื่องนอนด้วย”

ลู่หยวนซีมิได้บอกเขาว่าชุดที่เขาใส่อยู่นั้นเป็นชุดของนาง เพราะกลัวว่าตนเองจะถูกชายหนุ่มฆ่าปิดปากหลังจากที่เขาหายดี กู้จิ่งเหยียนยังคงนั่งเฉยฟังสิ่งที่นางพูดโดยมิได้ตอบโต้กลับไป นางเห็นว่าวันนี้เขามีท่าทีเป็นมิตรมากกว่าเมื่อวานนางก็รู้สึกดีไม่น้อย

หลังจากที่วางชามโจ๊กที่ยังอุ่นลงในมือของเขานางก็ผละจากไป เมื่อเสียงฝีเท้าที่ดังห่างออกไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ยินแล้ว กู้จิ่งเหยียนจึงหันมาทานโจ๊กที่อยู่ในมือ รสชาติของวันนี้ต่างจากโจ๊กชามเมื่อวานเล็กน้อย แต่ก็อร่อยอย่างที่นางเคยคุยโวก่อนหน้านี้

หลังจากทานโจ๊กเข้าไปจนหมด กู้จิ่งเหยียนก็รู้สึกว่าตนเองต้องการจะเข้าห้องน้ำ แต่เวลานี้เขาอยู่ที่เรือนหลังนี้เพียงลำพังแล้วใครเล่าจะมาช่วย ร่างผอมแห้งพยายามใช้แขนพยุงตนเองลงมาจากเตียง แต่ด้วยความที่ดวงตามองไม่เห็น ทำให้เขาตกลงมาจากเตียงเหมือนเมื่อวานอีกครั้ง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   รักษาคนอีกครั้ง

    ลู่หยวนซีมิได้ตอบคำถามของเขา นางพูดเรื่องอื่นขึ้นเพื่อเบี่ยงประเด็นคำถามของเขาออกไป และกู้จิ่งเหยียนรู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่นางถนัดนัก เขาที่รู้ทันก็มิได้เปิดโปงหรือเอ่ยเซ้าซี้นางอีก เอาเถอะเอาไว้รอให้นางพร้อมเมื่อใดนางคงจะพูดออกมาเอง“ได้ เรื่องนี้ข้าให้เจ้าตัดสินใจ”ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ทั้งสองคนพูดคุยกันมากขึ้น กู้จิ่งเหยียนเองก็เหมือนจะเปิดใจให้นางมากกว่าเดิม บางครั้งต่อให้นางยังไม่ได้พูดกับเขา เขาก็จะเป็นฝ่ายที่เริ่มประโยคสนทนาขึ้นมาก่อน เรื่องนี้ทำให้ลู่หยวนซีเบาใจลงไม่น้อยเพราะในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นางอาจจะต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดไป อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงคุณชายจากจวนขุนนาง หากวันหน้าเขาหายดีนางก็คงจะถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีบุญคุณต่อเขาอยู่กระมัง“ข้าหิวแล้ว เจ้าทำอาหารง่ายๆ สักสองสามอย่างมาทานด้วยกันดีหรือไม่”กู้จิ่งเหยียนเองก็พยายามเพื่อนางเช่นกัน เขาไม่อยากให้สตรีผู้นี้รู้สึกไม่สบายใจหรือทุกข์ใจ หาอะไรให้นางทำเผื่อว่านางจะลืมเรื่องที่อยู่ในใจไปได้บ้าง“ท่านหิวแล้วหรือเจ้าคะ”ลู่หยวนซีมองออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเบี่ยงไปอีกด้านเล็

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อยู่ให้ห่างจากพวกเขา

    สิ่งที่ระบบยังไม่ทันได้บอกลู่หยวนซีก่อนที่เขาจะหายไปคือ การมาของเฮ่อเหวินเจ๋อเป็นตัวแปรอีกตัวแปรหนึ่งที่กำลังจะทำให้เนื้อเรื่องในนิยายเปลี่ยนไปลู่หยวนซีพูดคุยกับเฮ่อเหวินเจ๋ออยู่ภายในศาลาหน้าเรือนอยู่นาน นางพยายามพูดวกไปวนมาเพื่อให้เขาลืมเรื่องการรักษาของนาง และก็เป็นไปตามที่ลู่หยวนซีต้องการ เขาไม่เซ้าซี้ถามนางอีกว่าเหตุใดบาดแผลของเขาถึงได้หายดีในชั่วพริบตาแต่กลับมีบุคคลอีกคนหนึ่งที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ภายในห้อง การมาของเฮ่อเหวินเจ๋อเขาสามารถรับรู้ได้ก่อนลู่หยวนซีเสียอีก ฝีเท้าแผ่วเบาที่ก้าวอย่างมั่นคงเข้ามาในลานเรือน เขารู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้มีวรยุทธกู้จิ่งเหยียนสามารถจดจำเสียงฝีเท้าของบุรุษทั้งหกที่เข้าไปในป่าก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมด ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดทั้งร่างกายและประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาเฉียบคมขึ้นทุกที ตั้งแต่......ตั้งแต่ที่เขาดื่มเลือดของนางเข้าไป ทุกอย่างที่ผ่านตาของและเสียงทั้งหมดที่ได้ยินเขาสามารถจดจำและรับรู้ได้ไม่ลืม ความรู้สึกนี้มันช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก“ข้าสั่งให้พักผ่อนเหตุใดถึงได้ยังนั่งคุยกับผู้อื่นอยู่อีก”กู้จิ่งเหยียนเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด สตรีผู้นี้ดูแล้วเห

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   เจ้าเหนื่อยที่ต้องดูแลข้าหรือ

    “คุณชายท่าน...มองเห็นข้าหรือเจ้าคะ”กู้จิ่งเหยียนรีบมองไปด้านหน้าเพื่อกลบเกลื่อนอาการของตน“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”ลู่หยวนซีเห็นสายตาที่เขามองไปด้านหน้า นางก็ยกมือขึ้นโบกไปมาเพื่อทดสอบดูว่าเขามองเห็นหรือไม่ แต่ดวงตากู้จิ่งเหยียนไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ นางจึงถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าคงจะคิดมากไปเอง เห็นดวงตาของคุณชายกลับมาเป็นสีปกติ คิดว่าท่านอาจจะกลับมามองเห็นได้แล้วเสียอีก”ท่าทางของนางทำให้กู้จิ่งเหยียนรู้สึกเจ็บแปลบลึกๆ ในใจ หรือว่านางเบื่อที่จะดูแลคนพิการอย่างเขาแล้ว ร่างสูงที่นั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางน้อยใจ“เจ้าเหนื่อยอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นก็ไม่ต้องดูแลข้าแล้ว พาข้ากลับไปที่เตียงแล้วเจ้าก็ไปพักเถอะ”ลู่หยวนซีมองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้ก็เห็นนั่งเงียบไม่ตอบโต้อะไร พอมาตอนนี้กลับพูดเสียยาวเหยียด ทั้งยังแสดงท่าทางห่วงใยกลัวว่านางจะเหนื่อยอีก คนผู้นี้ยังใช่กู้จิ่งเหยียนคนเดิมอยู่หรือไม่ ท่าทางของเขาช่างดูแปลกตานักลู่หยวนซีไม่กล้าขัดใจคุณชายผู้เอาแต่ใจของนาง หลังจากพาร่างสูงไปส่งยังเตียงนอนในห้องใหญ่ นางก็ออกมาข้างนอกเพื่อยกชามโจ๊กท

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อารมณ์ที่ไม่มั่นคงของกู้จิ่งเหยียน

    “โอ้ย!! หนิงเอ๋อเหตุใดเจ้าถึงทำร้ายข้า”ลู่หยวนซีส่งเสียงหึ!ออกมาเสียงหนึ่ง ก่อนใช้สายตามองต่ำลงไปยังบัณฑิตชุดขาวที่นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้น“กล้าเอ่ยวาจาล่วงเกินคุณชายของข้า ลองเป็นง่อยดูบ้างเป็นอย่างไร บางทีอาจจะทำให้เจ้าเลิกปากเสียแล้วเอาเวลาไปดูแลขาของเจ้าแทน”เอ่ยจบร่างบางที่แบกชายหนุ่มเอาไว้บนหลังก็เดินจากไป ทิ้งให้บุรุษอีกหกคนที่ยืนมองดูอยู่ห่างๆ ตกตะลึงกับการกระทำของนาง สตรีผู้นี้ฝีเท้ารวดเร็วเหลือเกิน ปากไม่พูดแต่กลับตีคนอย่างหน้าตาเฉย ลู่หยวนซีเดินไปได้สักพัก นางก็หันกลับไปมองพรรคพวกอีกหกคนที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม“พวกท่านไม่ไปหรือ”นางตะโกนถามพวกเขาก่อนออกเดินไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ เฮ่อเหวินเจ๋อและคนของเขาได้สติกลับมาหลังจากเสียงเรียกของนางดังขึ้น ทุกคนรีบก้าวยาวๆ ตามไปเพื่อเดินให้ทันนาง“คุณชายท่านอย่าได้ใส่ใจคำพูดที่ออกมาจากปากเน่าๆ ของเจ้าบัณฑิตนั่นเลยนะเจ้าคะ เมื่อก่อนข้าอาจเลอะเลือนและดูแลท่านได้ไม่ดี แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว ข้าสัญญาว่าจะหาทางรักษาท่านให้หายดี ขอเพียงท่านเชื่อมั่นในตัวข้าก็พอ”ลู่หยวนซีเอ่ยเสียงเบากับคนที่นางกำลังแบกเอาไว้บนหลัง ไร้เสียงตอบกลับ

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อย่าเข้าใกล้นางอีก

    ชายชุดดำที่หายจากอาการตกตะลึง รีบออกคำสั่งให้พวกของตนรีบตามคนทั้งสองไป ลู่หยวนซีออกวิ่งเต็มกำลังแต่ก็ไม่สามารถหนีพ้นสี่คนที่ใช้วิชาตัวเบาทะยานตามมาได้ กระบี่สีขาววาววับที่สะท้อนแสงแดดส่องกระทบดวงตาของนาง ร่างบางที่แบกกู้จิ่งเหยียนเอาไว้ ด้านหลังหลับตาลงคิดว่าตนเองคงจะหลบการแทงนี้ไม่พ้นแล้วแต่เสียงเคร้ง!!ก็ดังขึ้นข้างหูของนาง อาวุธลับสีนิลลอยกระเด็นไปปักอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไป ลู่หยวนซีที่เตรียมใจตายเอาไว้แล้วหรี่ตาขึ้นมองเหตุการณ์ตรงหน้า พบว่าชายชุดดำทั้งสี่ถูกปลิดชีพลงอย่างง่ายดายด้วยน้ำมือของใครบางคน และเมื่อลู่หยวนซีได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก“เป็นท่านเองหรือ”กู้จิ่งเหยียนขมวดคิ้วอย่างสงสัย สายตาจับจ้องไปยังชายร่างสูงใหญ่ในชุดอาภรณ์สีนิลพร้อมกับผู้ติดตามทั้งหก พลางคิดในใจว่านางไปรู้จักกับคนน่าสงสัยเหล่านี้ได้อย่างไร“แม่นางข้าให้คนตามหาเจ้าตั้งหลายวัน หากไม่ได้ยินเสียงร้องของมือสังหารเหล่านั้นคงตามมาที่นี่ไม่ทันการณ์เป็นแน่”ลู่หยวนซียิ้มรับคำพูดของเขาอย่างยินดี นางไม่คิดว่าที่ระบบสั่งให้นางช่วยชีวิตเขา จะทำให้นางได้รับการตอบแทนเป็นความช่วยเ

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มดีขึ้น

    ลู่หยวนซีถามกู่จิ่งเหยียนอย่างหน้าตาเฉย เมื่อก่อนเขามองไม่เห็นก็แล้วไป แต่ตอนนี้ดวงตาของเขากลับมามองเห็นเป็นปกติแล้วจะให้นางช่วยเรื่องนั้นได้อย่างไร กู้จิ่งเหยียนส่ายหน้าปฏิเสธถึงแม้เขาจะเริ่มรู้สึกปวดเบาขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดที่จะปล่อยต่อหน้านางเป็นแน่ ลู่หยวนซีพยักหน้ารับรู้ก่อนวางกระโถนเอาไว้มุมหนึ่งของถ้ำ จากนั้นจึงหันไปล้มตัวลงนอนบนที่นอนของตนที่ปูเอาไว้คนละฟากของกองไฟเสียงลมหายใจที่ดังอย่างสม่ำเสมอทำให้ชายหนุ่มแน่ใจว่านางนั้นได้หลับไปแล้ว กู้จิ่งเหยียนกำลังจะคลานไปที่กระโถนใบนั้นแต่แล้วลู่หยวนซีก็ลุกขึ้นนั่ง นางหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังค้างอยู่ในท่าจับขอบกระโถนเอาไว้ด้วยสายตามึนงง ก่อนจะถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงงัวเงีย“คุณชายท่านปวดเบาหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านไม่ปลุกข้า ข้าเองก็ลืมว่ายังมิได้เปลี่ยนชุดให้ท่านเลย มาเถอะข้าช่วย”กู้จิ่งเหยียนยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากปฏิเสธ ลู่หยวนซีก็ถึงตัวเขาเสียแล้ว ความอับอายที่มิอาจบรรยายเป็นคำพูดได้มันถูกอัดแน่นอยู่ภายในอก นางช่วยเขาถ่ายเบาทั้งยังจับเขาเปลื้องผ้าและเช็ดตัวให้ หญิงผู้นี้ไม่รู้จักคำว่าอายหรืออย่างไร นางเป็นสตรีนะหลังเปลี่ยนชุดให

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status