Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาพบรักกับเมน / บทที่ 26 กลับมาพร้อมชัยชนะ

Share

บทที่ 26 กลับมาพร้อมชัยชนะ

last update Last Updated: 2025-10-11 20:00:56

บทที่ 26

กลับมาพร้อมชัยชนะ

         ขบวนทัพเดินผ่านเข้าประตูเมืองมาด้วยความสง่าผ่าเผย เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เหล่าราษฎรมายืนเรียงแถวรอต้อนรับท่านเจ้าเมืองกับทหารของเขาเต็มสองข้างทาง พวกเขาต่างตั้งหน้าตั้งตาคอยวีระบุรุษผู้ปกป้องรักษาบ้านเมืองเอาไว้ รอที่จะกล่าวขอบคุณอย่างยิ่งใหญ่

         เซียวป๋อเหวินขี้ม้าสีดำคู่กายเข้ามาในประตูเมืองตามด้วยทหารองรักษ์คนสนิทและเหล่าแม่ทัพนายกองอีกหลายคน

         เขาโบกมือและยิ้มทักทายให้กับทุกคนพร้อมประกาศชัยชนะในครั้งนี้ “ชาวเมืองถู่หยางทุกคน บัดนี้พวกโจรภูเขาทั้งหลายได้ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นแล้ว หลังจากนี้ต่อไปเมืองถู่หยางของพวกเราจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตตามปกติและทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป อย่าได้เป็นกังวล”

         “ท่านเจ้าเมืองของพวกเราเก่งที่สุด ท่านสามารถทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้แล้ว” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น

         “ใช่ ๆ ท่านเจ้าเมืองของพวกเราเก่งที่สุด” หลายคนตะโกนรับ

         เจ้าเมืองหนุ่มสูดลมหายใจเข้าคราหนึ่งจากนั้นจึงพูดตต่อ “เอาละทุกท่าน ข้ายังมี่คำมั่นสัญญาหนึ่งจะมอบให้กับชาวเมืองถู่หยาง นับแต่นี้เป็นต้นไปข้ากับเหล่าทหารทุกคนจะปกป้องเมืองถู่เหยางและชาวเมืองทุกคนเป็นอย่างดี ไม่ให้ผู้ใดเข้ามากร้ำกรายได้”

         เสียงเฮดังขึ้นอีกครั่งก่อนขบวนทหารจะเคลื่อนตัวกลับสู่จวนว่าการ ระหว่างทางราษฎรต่างก็นำสิ่งของต่างมามอบให้เหล่าทหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผัก ผลไม้ บรรดาหญิงสาวต่างก็นำดอกไม้มามอบให้ หลายคนโยนผ้าเช็ดหน้าให้กับเซียวป๋อเหวินทว่าเจ้าเมืองหนุ่มเพียงแค่ยิ้มตอบรับและกล่าวขอบคุณเท่านั้น มิได้รับผ้าเช็ดหน้าจากผู้ใด แต่หญิงสาวพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรอก เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของเขาตอบกลับมาพวกนางก็ใจละลายแล้ว

         ขบวนทหารเดินผ่านหน้าทางเข้าตลาดก็ปรากฏหญิงสาวที่มีใบหน้าคุ้นตาโผล่ออกมาต้อนรับ ฟางหนิงฮวาที่อยู่ด้านหน้าฝูงชนโบกไม้โบกมือให้กับเซียวป๋อเหวินด้วยความดีใจ ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายพวกเขาจึงไม่สามารถคุยกันได้สะดวกนัก เซียวป๋อเหวินจึงชี้ไม่ชี้มือไปทางจวนของตัวเองเพื่อบอกกับหญิงสาวว่าให้ไปพบกันที่จวน

         “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าไปที่จวนท่านเจ้าเมืองก่อน” ฟางหนิงฮวากลับเข้าในร้านแล้วรีบหยิบกล่องออกมาใส่ซาลาเปารสชาติใหม่แล้วก็ติ่มซำชนิดต่างๆ อย่างเร่งรีบ

         “เจ้าจะเอาไปให้ท่านเจ้าเมืองชิมอย่างนั้นหรือ” ฟางตวนถาม

         “ใช่เจ้าค่ะ ท่านเจ้าเมืองกลับมาแล้วน่าจะทั้งเหนื่อยทั้งหิว ให้ท่านได้กินของอร่อยหน่อยจะได้มีแรง” หญิงสาวพูดไปจัดของไปอย่างร่าเริง

         ฟางตวนเห็นอาการของบุตรสาวแล้วก็ได้แต่ยิ้มและส่ายหัวน้อย ๆ ไม่คิดว่านางจะคลั่งไคล้ท่านเจ้าเมืองไปกับหญิงสาวพวกนั้นด้วย “เจ้าไม่ต้องรีบถึงเพียงนี้ก็ได้ กว่าท่านเจ้าเมืองจะสรุปเรื่องการศึกที่จวนว่าการเสร็จก็คงจะเย็นนู่นแหละ ตอนนี้เจ้าไปก็ยังไม่ได้พบเขาหรอก”

         “อ้อ...เจ้าค่ะ” ฟางหนิงฮวาได้ฟังแล้วก็คิดได้ว่าเป็นอย่างที่บิดาพูดจริง ๆ

        

ตกเย็นหญิงสาวก็อุ่นอาหารที่เตรียมเอาไว้ นิ่งหรงมารดาของนางทำซุปเยื่อไผ่ฝากให้นางไม่มอบให้กับท่านเจ้าเมืองด้วย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์ดี วันนี้เป็นวันดีที่จะได้พบพูดคุยกับเซียวป๋อเหวินหลังจากที่ไม่ได้พบกันเป็นเดือนสองเดือน แล้วจะไม่ให้ดีใจได้อย่างไร

         “อ้าว...หนิงฮวา วันนี้เหตุใดถึงได้มาตอนเย็นล่ะ” น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยทักทาย เป็นเสียงของพ่อบ้านประจำจวนเจ้าเมืองนั่นเอง

         “ท่านเจ้าเมืองบอกให้มาพบที่นี่เจ้าค่ะ ข้าก็เลยคิดว่าท่านน่าจะอยากกินอาหารอร่อย ๆ จึงได้เอาซาลาเปารสชาติใหม่กับพวกติ่มซำมาให้เขาลองชิมดู” ฟางหนิงฮวาตอบพร้อมรอยยิ้ม นางเปิดฝากล่องอาหารให้พ่อบ้านดูเล็กน้อย

          “ดีเหมือนกัน ท่านเจ้าเมืองยังไม่ได้กินอาหารที่เจ้าคิดค้นขึ้นมาใหม่เลย รสชาติอร่อยแบบนี้ท่านต้องชอบเป็นแน่” พ่อบ้านว่า เป็นเพราะว่าก่อนหน้าพ่อบ้านเองก็ทนเสียงเล่าลือเรื่องติ่มซำกับซาลาเปาไส้ปลาเค็มของร้านฟางไม่ไหวจึงลองซื้อมากินดูบ้าง ก็เลยรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร

         “เจ้าเข้าไปรอที่สวนก่อนเถอะ ประเดี๋ยวท่านเจ้าเมืองก็จะกลับมาแล้ว” พ่อบ้านบอก

         “เจ้าค่ะ” ฟางหนิงฮวารับคำ จากนั้นก็เดินไปนั่งรอที่สวนด้านข้างเรือนหลักอย่างที่เคยทำทุกครั้ง

         เสียงฝีเท้าม้าวิ่งมาหยุดที่หน้าประตูจวน เซียวป๋อเหวินยื่นบังเหียนม้าให้กับทหารองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ด้านหน้า จากนั้นก็เดินเข้ามาในจวนด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย เป็นเพราะบัดนี้ภารกิจอันหนักหน่วงได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว เขาเองก็จะได้ใช้ชีวิตตามปกติเสียที

         “ยินดีต้อนรับกลับ วีระบุรุษแห่งเมืองถู่หยางของพวกเรา” หมอหลิวเดินเข้าไปต้อนรับสหายในทันที พลางสำรวจดูเนื้อตัวของเซียวป๋อเหวินว่ามีส่วนไหนบาดเจ็บบ้างหรือไม่

         “ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง” เซียวป๋อเหวินตอบ “ว่าแต่เจ้ามาต้อนรับข้าที่นี่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับข้าใช่หรือไม่”

         “มีอยู่เรื่องหนึ่ง” หมอหลิวพูด

         “ว่ามาเลย” เซียวป๋อเหวินพูดพลางเดินนนำเข้าไปที่เรือนหลัก

         “หญิงสาวคนนั้นมารอเจ้าตั้งหนึ่งชั่วยามแล้ว ข้าไล่เท่าไรก็ไม่ไป เถียงกับข้าอยู่ตั้งนาน นางบอกว่าเจ้าให้นางมาหาเจ้าที่นี่ เป็นไปได้อย่างไรกัน อย่างเจ้ามีหรือจะนัดหญิงสาวให้มาพบ” หมอหลิวพูดอย่างอารมณ์เสีย

         “ข้านัดนางมาจริง ๆ” เซียวป๋อเหวินพูด

         คำพูดนี้ทำเอาใบหน้าของหมอหลิวถึงกับแตกเพล้งลงตรงนั้น ที่เขาทำเพื่อปกป้องสหายทั้งหมดกลับพังลงในพริบตา เขาได้แต่ส่ายศีรษะแล้วทอดถอนใจออกมาเท่านั้น

         “นางอยู่ที่ใด” เซียวป๋อเหวินถาม เขาสอดส่องสายตาเพื่อมองหาหญิงสาวที่นัดไว้

         “ในสวน” หมอหลิวตอบจากนั้นก็เดินนำหน้าไปด้วยสีหน้าที่เหนื่อยหน่าย

         เซียวป๋อเหวินเข้าเรือนหลักไปถอดชุดเกราะออกก่อนจากนั้นค่อยมาพบกับฟางหนิงฮวาที่สวนข้างเรือนหลัก กลิ่นของอาหารที่หญิงสาวถือมานั่นหอมกรุ่นจนไปเตะจมูกของเขาเข้าตั้งแต่เดินมายังไม่ถึงเสียด้วยซ้ำ

         “เจ้าเอาอะไรมาด้วยหรือ” เซียวป๋อเหวินมองไปที่กล่องอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ

         “เป็นซาลาเปารสชาติใหม่แล้วก็อาหารติ่มซำฝีมือข้าเจ้าค่ะ” ฟางหนิงฮวาตอบอย่างภาคภูมิใจ

         “ติ่มซำ” เซียวป๋อเหวินทวนคำเป็นเชิงถาม

         “ใช่แล้วเจ้าค่ะ” ฟางหนิงฮวาพยักหน้า

         “ข้าเห็นว่าท่านกับท่านหมอหลิวยังไม่เคยได้ลองชิมวันนี้ก็เลยเอามาให้ชิมถึงที่” หญิงสาวพูดพร้อมกับเปิดกล่องอาหารออก เผยให้เห็นอาหารมากมายอยู่ในนั้น ทั้งซาลาเปารสชาติต่าง ๆ ขนมจีบ เกี๊ยว ฮะเก๋า หมูพันสาหร่าย ผักกาดขาวห่อหมู ทั้งยังมีน้ำจิ้มสีดำอยู่ข้าง ๆ อีกด้วย

         “เจ้ายังไม่เคยกินเหรอ” เซียวป๋อเหวินหันไปถามหมอหลิว

         “ยัง เพราะข้าไม่เคยผ่านไปที่ร้านของนางเลย” หมอหลิวตอบ

         “ถ้ายังไม่เคยกินก็กินเลยเจ้าค่ะ รับรองว่าต้องอร่อยแน่” ฟางหนิงเลื่อนกล่องอาหารไปตรงหน้าชายทั้งสอง

         ทั้งเซียวป๋อเหวินและหมอหลิวลองชิมติ่มซำฝีมือของฟางหนิงฮวาดูก็ปรากฏว่าอร่อยมาก โดยเฉพาะเซียวป๋อเหวินที่ตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะไม่ได้กินอาหารพวกนี้นานแล้วตั้งแต่มาเข้าร่างนี้ การได้กินติ่มซำครั้งนี้ทำให้มีความสุขไม่น้อย ส่วนหมอหลิวนั้นก็เพลิดเพลินกับอาหารเป็นอย่างมาก

         เซียวป๋อเหวินกับหมอหลิวนั่งกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขาพูดคุยกันไปด้วย เซียวป๋อเหวินเล่าถึงเหตุการณ์ช่วงที่ทำศึกให้กับฟางหนิงฮวาและหมอหลิวฟัง ฟางหนิงฮวาเองก็เล่าเรื่องที่ปรับปรุงร้านซาลาเปาเป็นร้านติ่มซำ ส่วนหมอหลิวเองก็เล่าเรื่องที่ตัวเองเตรียมการที่จะไปหาตัวยาสำคัญที่เมืองอื่นให้พวกเขาฟังเช่นกัน

         เซียวป๋อเหวินมองติ่มซำในกล่องเหล่านั้นอย่างพิจารณาก่อนที่จะเกิดความคิดสงสัยขึ้นมาว่าฟางหนิงฮวารู้จักวิธีทำติ่มซำพวกนี้ได้อย่างไร เท่าที่เขาเคยศึกษาประวัติศาตร์มาในยุคนี้ไม่น่าจะมีผู้ใดทำอาหารติ่มซำ โดยเฉพาะในเมืองที่ห่างไกลจากเมืองหลวงถึงเพียงนี้

         “อาหารพวกนี้เจ้าคิดขึ้นมาเองหรือ” เซียวป๋อเหวินถาม

         “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้าคิดขึ้นมาเอง” ฟางหนิงฮวาตอบ นางตบหน้าอกตัวเองสองสามทีอย่างภาคภูมิใจ

         “อืม...ความคิดเจ้าสร้างสรรค์มาก ๆ” เซียวป๋อเหวินพูด เขายกนิ้วโป้งให้นางเป็นการชื่นชม

         “ใช่ ๆ เยี่ยมมาก” หมอหลิวพยักหน้า

         คิดดูแล้วก็น่าจะเป็นอย่างที่ฟางหนิงฮวาบอกจริง ๆ ว่านางคิดสูตรอาหารนี้ขึ้นมาเอง นางคงไม่โกหกหรอก

         ‘เอ๊ะ...หรือว่าฟางหนิงฮวาผู้นี้จะเป็นต้นตำหรับของติ่มซำกันนะ’ เขาคิด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 30 วุ่นอยู่กับการทำศึกแต่ในใจก็คิดถึงเช่นกัน

    บทที่ 30 วุ่นอยู่กับการทำศึกแต่ในใจก็คิดถึงเช่นกัน อีกด้านเซียวป๋อเหวินตอนนี้กำลังทำศึกอยู่ที่ชายแดนเหนือบริเวณแม่น้ำฉางเป่ย การต่อสู้ครั้งนี้ใช้กองทัพเรือ เป็นการต่อสู้กับชนเผ่าเฮยจั้งที่พยายามจะตีเอาดินแดนเหนือของแคว้นรวมทั้งเมืองเสวี่ยคังด้วย เดิมทีชนเผ่าเฮยจั้งอยู่เหนือขึ้นไปหลายพันลี้ทว่าด้วยภัยความหนาวทำให้อากาศแห้งแล้ง ปลูกพืชผลก็ไม่ได้ เลี้ยงสัตว์ก็ไม่ได้ เลยทำให้พวกเขาต้องอพยพลงใต้มาตายเอาดาบหน้า หวังว่าจะมีที่ดินทำกินให้คนในเผ่าได้มีชีวิตรอด ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ชนเผ่าก็จริงทว่าชาวเฮยยจั้งนั้นรวม ๆ แล้วก็มีไม่ต่ำกว่าแสนคน ที่เป็นทหารได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็น่าจะราว ๆ สามหมื่น พื้นฐานของพวกเขาเป็นคนที่มีร่างกายที่ทรหดอดทนมาก ทั้งยังสามารถอดอาหารได้เป็นเวลานาน ทำให้ศึกครั้งนี้เซียวป๋อเหวินรับมือยากอยู่เล็กน้อย “ลูกธนู

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 29 และแล้วก็ต้องจากกัน

    บทที่ 29 และแล้วก็ต้องจากกัน ขบวนของท่านเจ้าเมืองเคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองไปแล้วท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องแสดงความยินดีและน้อมส่งท่านเจ้าเมืองไปยังเมืองเสวี่ยคัง ขบวนนั้นยาวเหยียดเต็มไปด้วยทหารที่มาจากมืองเสวี่ยคังและทหารบางส่วนที่ติดตามท่านเจ้าเมืองไปด้วย ความยิ่งใหญ่นี้ทำให้ชาวเมืองทั้งดีใจและรู้สึกเศร้าใจในเวลาเดียวกัน “พวกเราจะคิดถึงท่านเจ้าเมือง” “ท่านเจ้าเมืองอย่าได้ลืมพวกเรานะขอรับ ส่วนพวกเราจะไม่มาทางลืมท่านอย่างแน่นอน” “น้อมส่งท่านเจ้าเมือง” “ขอให้ท่านเจ้าเมืองโชคดีขอรับ” เสียงของชาวเมืองยังคงกล่า

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 28 เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย

    บทที่ 28 เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย เมื่อได้ยินข่าวว่าเซียวป่อเหวินได้เลื่อนตำแหน่งและต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองเสวี่ยคังฟางหนิงฮวาก็ทั้งดีและเศร้าใจ การที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสิ่งที่ดี อีกอย่างครั้งนี้เข้าได้เป็นถึงแม่ทัพรับรองว่าอนาคตของเขาจะต้องรุ่งเรื่องเป็นแน่ แต่เพราะเมืองเสวี่ยคังอยู่ไกล จะไปมาหาสู่กันก็ลำบาก จะพบหน้ากันเช่นทุกวันนี้ก็คงเป็นไปได้ยาก “หนิงฮวา เจ้าเองก็อยากให้เขาเจริญก้าวหน้ามิใช่หรือ แล้วจะมานั่งเศร้าทำไมกัน” ต้าเป่าเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วถามด้วยความเป็นห่วง “ที่จริงข้าก็ยินดีกับเขานั่นแหละ แต่ถ้าเขาไปอยู่ที่เมืองเสวี่ยคังข้าก็คงจะไม่ได้พบกับเขาอีก” ฟางหนิงฮวาพูดออกมาอย่างเศร้าใจ “ต่อให้ไม่ได้พบกันก็เขียนจดหมา

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 27 ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่

    บทที่ 27 ข้าว่าจะเปิดร้านอาหาร ท่านว่าดีหรือไม่ ฟางหนิงฮวาเอาซาลาเปามาส่งทุกวัน ทุกครั้งทั้งสองก็จะพูดคุยกันและสนิทกันมากขึ้น สำหรับเซียวป๋อเหวินนอกจากหมอหลิวแล้วก็แทบจะไม่มีสหายที่สามารถพูดคุยยกันเรื่องทั่วไปได้เลย ส่วนมากก็จะพูดแต่เรื่องที่เป็นทางการกับองครักษ์แล้วก็ทหารเท่านั้น แต่กับฟางหนิงฮวาเขากลับรู้สึกว่าทั้งเขาและนางมีอะไรที่คล้าย ๆ กัน ทั้งความคิดความสนใจในสิ่งต่าง ๆ จึงได้สนิทกันอย่างรวดเร็ว ฟางหนิงฮวาเองเมื่อได้พูดคุยกับเซียวป๋อเหวินก็เหมือนกับได้พูดคุยกับหยางจื้อเจ๋อ จึงมีความสุขทุกครั้ง “ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งจะมาถามความเห็นจากท่าน” ฟางหนิงฮวาพูดขณะที่เอากล่องใส่ซาลาเปาวางลงบนโต๊ะอาหารของเซียวป๋อเหวิน “อะไรหรือ น่าสนใจหรือไม่&

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 26 กลับมาพร้อมชัยชนะ

    บทที่ 26 กลับมาพร้อมชัยชนะ ขบวนทัพเดินผ่านเข้าประตูเมืองมาด้วยความสง่าผ่าเผย เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เหล่าราษฎรมายืนเรียงแถวรอต้อนรับท่านเจ้าเมืองกับทหารของเขาเต็มสองข้างทาง พวกเขาต่างตั้งหน้าตั้งตาคอยวีระบุรุษผู้ปกป้องรักษาบ้านเมืองเอาไว้ รอที่จะกล่าวขอบคุณอย่างยิ่งใหญ่ เซียวป๋อเหวินขี้ม้าสีดำคู่กายเข้ามาในประตูเมืองตามด้วยทหารองรักษ์คนสนิทและเหล่าแม่ทัพนายกองอีกหลายคน เขาโบกมือและยิ้มทักทายให้กับทุกคนพร้อมประกาศชัยชนะในครั้งนี้ “ชาวเมืองถู่หยางทุกคน บัดนี้พวกโจรภูเขาทั้งหลายได้ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นแล้ว หลังจากนี้ต่อไปเมืองถู่หยางของพวกเราจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตตามปกติและทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป อย่าได้เป็นกังวล” “

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 25 กำจัดโจร

    บทที่ 25 กำจัดโจร ภายในกระโจมบัญชาการกลางค่ายทัพ ธงประจำเมืองถู่หยางปักอยู่เหนือศีรษะ ตะเกียงน้ำมันให้แสงสว่างสลัว เหล่าแม่ทัพนายกองกว่าสิบชีวิตนั่งล้อมวงรอบโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ซึ่งปูด้วยแผนที่ผืนใหญ่ที่แสดงแนวเขาและเส้นทางรอบบริเวณซ่อนตัวของพวกโจรภูเขาอย่างชัดเจนท่านเจ้าเมืองเซียวป๋อเหวินผู้มีรูปลักษณ์สง่างามในชุดเกราะสีเข้มประดับลวดลายเมฆายกมือขึ้นเรียกความสงบ "พวกเราต้องหาทางกำจัดพวกโจรโดยไม่ให้เสียเปรียบ นำกองทัพบุกโจมตีตรงๆ ย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ดี"แม่ทัพหวังเจี้ยนผู้ช่ำชองด้านการรบในพื้นที่ป่าเขากล่าวขึ้น "ท่านเจ้าเมืองกล่าวถูกต้อง ที่ซ่อนของพวกมันมีทั้งถ้ำลึกและหุบเขาคดเคี้ยว หากเราบุกเข้าไป โอกาสเสียเปรียบสูงมาก ทั้งยังมีกับดักซ่อนอยู่ทุกแห่งหน""พวกมันรู้พื้นที่ดีกว่าเรา อีกทั้งสามารถกระจายตัวซ่อนตามซอกหินและป่าได้ง่าย หากเราบุกเข้าไป ผลลัพธ์อาจกลายเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง" รองแม่ทัพหลี่ซงหยูเสริม"ดังน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status