Semua Bab ทะลุมิติมาพบรักกับเมน: Bab 1 - Bab 10

14 Bab

บทที่ 1 เชฟสาวมือหนึ่งของร้าน

         เสียงเคาะกระทะ เสียงฟู่จากเตาแก๊สและเสียงจัดเรียงจานชามต่าง ๆ ดังอึงอลไปทั้งครัว ร้านอาหารขึ้นชื่อของเมืองปักกิ่งยามนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการทำอาหารให้ทันกับจำนวนออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งเข้ามา เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้คนออกมารับประทานอาหารเย็นกันพอดีร้านแห่งนี้จึงต้องเร่งมือทำอาหารออกมาเยอะเป็นพิเศษร้านนี้ขายดีแบบนี้เสมอแต่เจ้าของร้านกลับขี้เหนียวจ้างเชฟมาเพียงแค่สองคนเท่านั้นแล้วก็มีลูกมืออีกสองสามคน ซูเฟยเป็นหัวหน้าเชฟที่นี่และเธอมักจะทำงานอยู่ที่ร้านจนเลยเวลาเพราะไม่อยากให้เพื่อนที่รับงานต่อจากเธอทำงานหนักเกินไป วันนี้ก็เช่นกัน แต่เมื่อออร์เดอร์เริ่มเบาบางแล้วเพื่อนของเธอก็บอกให้เธอกลับบ้าน"พี่ซูเฟย เหลือออร์เดอร์ไม่เยอะแล้ว เดี๋ยวฉันทำเอง พี่กลับไปพักผ่อนเถอะ" เสียงของเสี่ยวปิงเชฟอีกคนตะโกนบอกซูเฟยในขณะที่เธอกำลังจะเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารซูเฟยรีบหยิบวัตถุดิบเตรียบใส่ใว้ในชามเพื่อที่จะให้เสี่ยวปิงที่มารับช่วงต่อทำงานได้อย่างสะดวกก่อนจะตะโกนกลับไป "ได้ ถ้างั้นฝากเธอด้วยนะ พี่จะกลับก่อนจะรีบไป
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-03
Baca selengkapnya

บทที่ 2 ละครเวที

หนึ่งเดือนต่อมาในวันนี้มีการแสดงละครเวทีของหยางจื้อเจ๋อ ซูเฟยตื่นแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น ละครเวทีจะเริ่มแสดงตอนเก้าโมงเช้าและแสดงยาวแปดชั่วโมงจบอีกทีก็ห้าโมงเย็น วันนี้ซูเฟยจึงตั้งใจแต่งตัวและแต่งหน้าทำผมเป็นพิเศษเพื่อให้ตัวเองดูสวยที่สุดเผื่อว่าหยางจื้อเจ๋อจะมองลงมาจากเวทีแล้วเห็นเธอบ้าง        อากาศเช้านี้สดใสยิ่งจึงทำให้หญิงสาวดูสดชื่น ซูเฟยคิดว่าคงเป็นเพราะวันที่เป็นวันดีของเธอท้องฟ้าก็เลยปลอดโปร่งทั้ง ๆ ที่เป็นฤดูฝนเพื่อให้เธอเดินทางไปดูละครเวทีได้อย่างสะดวกชุดที่เลือกใส่วันนี้เป็นเสื้อเชิ๊ตสีชมพูกับกางเกงยีนส์ตัวเท่ห์และเลือกที่จะปล่อยผมยาวสลวยแต่งหน้าอ่อน ๆ ตามแบบฉบับของสาวมั่นแต่ก็ซ่อนความหวานไว้เล็กน้อย เป็นเพราะสาวในสเป็คที่หยางจื้อเจ๋อเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการนั้นมีลักษณะประมาณนี้ ปากก็บอกว่าไม่ได้คาดหวังอะไรจากการเป็นแฟนคลับของเขาแต่สุดท้ายแล้วก็พยายามทำทุกอย่างเผื่อว่าเขาจะมองมาอยู่ดี              "
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-04
Baca selengkapnya

บทที่ 3 การจากไปของไอดอล

หลังจากจบการแสดงเหล่านักแสดงก็ลงจากเวที พวกเขาจำเป็นต้องออกจากพื้นที่โรงละครก่อนที่ผู้คนที่มาชมการแสดงจะหลั่งไหลกันออกมา ดังนั้นนักแสดงทุกคนจึงต้องออกทางประตูหลัง        เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อจบการแสดงแล้วทั้งเหล่านักแสดงและทีมงานก็จะมีงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณของผู้จัดและฉลองในความสำเร็จ เป็นที่แน่นอนว่าหยางจื้อเจ๋อเองก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วย จะขาดเขาไปได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นนักแสดงนำที่มีบทบาทสำคัญ        งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ไกลจากโรงละครมากนัก บรรยากาศของงานเลี้ยงเป็นไปอย่างสนุกสนาน งานนี้ทุกคนต่างก็กินดื่มกันอย่างเต็มที่ยกเว้นก็แต่หยางจื้อเจ๋อที่จิบไวน์พอเป็นพิธีเพราะพรุ่งนี้ต้องบินแต่เช้าเพื่อไปถ่ายทำซีรี่ย์ที่เหิงเตี้ยนต่อ        หยางจื้อเจ๋อเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของจีน ตอนนี้อายุสามสิบสองปีแล้ว หากจะเทียบดาราคนอื่นที่อายุน้อยกว่
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-05
Baca selengkapnya

บทที่ 4 ข่าวร้าย

ที่โรงละครผู้คนก็ยังเนืองแน่นกันอยู่เพราะการทยอยออกจากโรงละครนั้นต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง ระหว่างที่รอเดินออกไปนั้นพวกเขาต่างก็พากันกล่าวถึงละครเวทีเรื่องนี้กันอย่างออกรส บ้างก็กล่าวชื่นชมว่าทีมผู้จัดสามารถรังสรรค์ละครเวทีในครั้งนี้ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม บ้างก็ว่านักแสดงที่มาแสดงละครเวทีในครั้งนี้มีแต่นักแสดงที่มีคุณภาพทำให้ละครเวทีเรื่องนี้ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ ซูเฟยเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน        ซูเฟยนั่งอยู่โซนที่ติดกับเวทีมากที่สุดซึ่งค่อนข้างไกลจากทางออกจึงไม่ได้รีบร้อนเท่าไร เธอยังคงนั่งรอให้คนอื่นออกไปให้หมดก่อนจากนั้นจึงค่อยออกไปเป็นคนสุดท้าย ระหว่างที่นั่งรอก็นั่งมองรูปของหยางจื้อในโทรศัพท์มือถือไปด้วย ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกชื่นชม ยิ่งรักเขามากขึ้นเรื่อย ๆ        ออกมาโรงละครมาซูเฟยก็มานั่งทานอาหารที่ร้านอาหารริมน้ำแห่งหนึ่ง จนถึงเวลาดึกแล้วจึงได้เรียกแท็กซี่กลับบ้าน ไกลจากร้านอาหารพอสมควรก็พบเห็นว่าข้างทางมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีซากรถตู้สีดำคั
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-06
Baca selengkapnya

บทที่ 5 ร้านขายซาลาเปา

         แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านช่องว่างระหว่างหน้าต่าง แสงที่แยงเข้ามานั้นกระทบเปลือกตาของซูเฟยจนถึงกับทำให้เธอต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่ว่าภาพในตาที่มืดมัวมาบัดนี้สว่างขึ้น หรือว่าจะเป็นเช้าวันใหม่ที่ต้องตื่นไปทำงานแล้ว เถ้าแก่ที่ร้านคงต้องรอก่นด่าเธออยู่เป็นแน่ที่ไปทำงานสายถึงขนาดนี้        เสียงเอะอะโวยวายดังมาอยู่ไม่ไกล ฟังแล้วก็เหมือนกับว่าเป็นเสียงคนหลายคนกำลังซื้ออะไรบางอย่าง เพราะว่าซูเฟยได้ยินคำว่า "เท่าไร" ดังขึ้นมาด้วย ซึ่งถ้าเป็นที่บ้านของเธอต้องไม่มีทางที่จะมีเสียงคนมากมายอย่างนี้เป็นแน่        "เถ้าแก่ข้าเอาซาลาเปาสิบลูก" เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนสั่งซาลาเปาดังมาแว่ว ๆ        "ได้ ๆ รอสักครู่ ชุดนี้กำลังนึ่งใหม่ ๆ ร้อน ๆ เดี๋ย
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-07
Baca selengkapnya

บทที่ 6 ฟางหนิงฮวาคนใหม่

         นับแต่นี้ต่อไปซูเฟยคงต้องปรับตัวเสียใหม่ การมาอยู่ในร่างของฟางหนิงฮวานี้ทำให้นางต้องเปลี่ยนจากหญิงสาววัยทำงานมาเป็นเด็กสาววัยแรกรุ่นก็ออกจะรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงแปลกทั้งหมดเสียทีเดียวเพราะในชีวิตที่ผ่านมานั้นก็เคยผ่านช่วงของความเป็นวัยรุ่นมาแล้ว เพียงแต่ว่าวัยรุ่นของยุคนี้กับยุคนั้นก็คงจะไม่เหมือนกันฟางหนิงฮวาคนใหม่ก้าวเดินลงบันไดไปอย่างไม่รีบร้อนนักเพราะห้องชั้นบนกับร้านขายซาลาเปาที่ชั้นล่างก็ไม่ได้ไกลกัน แต่เมื่อมาถึงชั้นล่างแล้วสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ถึงกับทำให้ฟางหนิงฮวาต้องอ้าปากค้าง ผู้คนที่มาต่อคิวซื้อซาลาเปาที่ร้านของนางนั้นยาวเหยียดราวกับผู้คนที่ไปต่อคิวซื้อสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังในห้างสรรพสินค้าเลยก็ว่าได้ ไม่เพียงแต่ร้านซาลาเปาของนาง ร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งไม่รู้ว่าขายอะไรก็ขายดีเช่นกัน จะว่าไปแล้วก็ไม่คิดว่าในเมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองถู่หยางจะมีการค้าขายที่รุ่งเรืองเช่นนี้        "หนิงฮวา…มัวยืนทำอะไรอยู่ มา
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-08
Baca selengkapnya

บทที่ 7 เด็กส่งซาลาเปา

คว้าเอากล่องซาลาเปาได้แล้วฟางหนิงฮวาก็ออกจากบ้าน ที่แรกที่ต้องไปก็คือสถานศึกษาเพราะว่าใกล้กลับร้านซาลาเปามากที่สุด จากร้านของนางเดินไปยังสถานศึกษาใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งเค่อ ไปถึงแล้วก็ส่งซาลาเปาให้กับลูกมือในครัว ส่วนค่าซาลาเปานั้นนางต้องไปเก็บเอากับอาจารย์ผู้ทำหน้าที่ดูแลบัญชีของสถานศึกษา        "เข้ามาสิ เจ้ามาเก็บค่าอะไรกัน" อาจารย์ผู้ดูแลบัญชีเอ่ยถาม เนื่องจากไม่เคยเห็นหน้าฟางหนิงฮวามาก่อน ปกติแล้วจะเป็นอารองของนางที่ทำหน้าที่นี้        "ข้ามาเก็บค่าซาลาเปาเจ้าค่ะ" ฟางหนิงฮวาตอบอย่าร่าเริง        "ที่ร้านซาลาเปาเปลี่ยนคนส่งของอย่างนั้นหรือ" อาจารย์ผู้นั้นถามอย่างแปลกใจหญิงสาวตอบกลับด้วยเสียงสดใส "ไม่ได้เปลี่ยนหรอกเจ้าค่ะ พอดีว่าท่านอาของข้ากลับบ้านกะทันหันข้าก็เลยต้องมาส่งแทนชั่วคราว" 
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-09
Baca selengkapnya

บทที่ 8 แฟนคลับยุคโบราณ

ที่ด้านนอกของจวนเจ้าเมืองมีหญิงสาวราวสิบกว่าคนยืนออกันอยู่ บางคนก็ถือกล่องใส่อาหาร บางคนถือห่อยา บางคนถือของขวัญอย่างอื่นมามากมาย ตรงนั้นค่อนข้างวุ่นวายจนองครักษ์สองคนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูแทบจะกันเอาไว้ไม่อยู่ ในที่สุดบ่าวรับใช้ในจวนคนหนึ่งที่เฝ้าหน้าประตูเรือนนอนของท่านเจ้าเมืองต้องออกไปช่วยยุติความวุ่นวายด้วย ฟางหนิงฮวามองออกไปก็พอจะดูออกว่าหญิงสาวเหล่านี้น่าจะมาถามข่าวเรื่องการบาดเจ็บของท่านเจ้าเมือง เสียงหญิงสาวเหล่านั้นแย่งกันพูดดังมาแต่ไกลข่าวเรื่องที่เจ้าเมืองได้รับบาดเจ็บนั้นโด่งดังไปทั่วเมืองถู่หยางได้สามวันแล้วนับตั้งแต่วันที่เขากลับมาจากการไปปราบโจรภูเขา จะมีก็แต่ฟางหนิงฮวานี่แหละที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะใช้ชีวิตอยู่แต่ในร้านตลอด อีกทั้งบิดามารดาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ให้ได้ยินด้วย        การพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงท่านเจ้าเมืองกับเหล่าทหารเท่านั้นที่บาดเจ็บ แต่กลับทำให้หัวใจของคนทั่วทั้งเมืองถู่หยางเจ็บปวดไปด้วย เพราะเจ้าเมืองเป็นเหมือนเสาหลักของเมืองนี้ทั้งยังเป็นขุนนางที่มีคุณธรรม
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-10
Baca selengkapnya

บทที่ 9 ว่าที่คู่หมั้น อะไรกันเนี่ย

         เมื่อทำหน้าที่ของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้วฟางหนิงฮวาก็กลับมาที่ร้านอย่างสบายใจ หลังจากนั้นจึงทำหน้าที่ปั้นแป้งซาลาเปาต่อ ร้านนี้ไม่ได้ขายดีเพียงแค่ช่วงเช้าหรือว่าช่วงที่ผู้คนพักกินข้าวกันเท่านั้นแต่ทว่าขายดีทั้งวัน เพราะเมืองถู่หยางนั้นมีผู้คนมากมาย แต่ละคนทำงานไม่เหมือนกันเวลาพักกินข้าวบางครั้งก็ไม่ตรงกัน ดังนั้นซาลาของร้านสกุลฟางจึงขายได้ทั้งวัน        ที่ร้านไม่ได้มีเพียงแค่ซาลาเปาอย่างเดียวยังมีหมั่นโถวขายด้วย        ฟางหนิงฮวาไม่คิดว่าสวรรค์จะเข้าข้างตนเองถึงเพียงนี้ ชาติที่แล้วได้ทำงานที่ตัวเองรักนั่นก็คือการเป็นเชฟ พอตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ยังได้เกิดเป็นบุตรสาวร้านขายซาลาเปาอีก ช่างมีความสุขจริง ๆ นางคิดเล่น ๆ ว่าในภายภาคหน้าหากคุ้นเคยกับเมืองนี้และรู้เรื่องลู่ทางการทำมาหากินแล้วก็อยากจะขยายร้านซาลาเปาให้เป็นร้านอาหารที่โด่งดังที่สุดในเมืองถู่หยางพูดถึงร้านอาหารแล้วที่เมือ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-11
Baca selengkapnya

บทที่ 10 คำสั่งเสียจากวีรบุรุษ

ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หยางจื้อเจ๋อที่ประสบอุบัติเหตุรถเสียหลักพุ่งเข้าชนต้นไม้ข้างทาง เขาเสียชีวิตบนรถฉุกเฉินระหว่างที่นำตัวส่งโรงพยาบาล วิญญาณของเขาออกจากร่างแล้วนั่งมองตนเองนอนอยู่ในรถอย่างสิ้นหวัง        เขาเพิ่งอายุเพียงแค่สามสิบต้น ๆ กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นและใกล้ถึงจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในชีวิต อีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะถอนตัวจากเบื้องหน้าแล้วมาทำเบื้องหลังเป็นผู้กำกับอย่างเต็มตัว ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดสวรรค์ถึงไม่ให้เขามีโอกาสนั้น        พยาบาลที่อยู่ในรถฉุกเฉินต่างก็พยายามช่วยชีวิตเขาอย่างเต็มที่ แต่ในที่สุดก็สายไปเสียแล้ว เมื่อเสียงของเครื่องวัดสัญญาณชีพในรถพยาบาลดังยาวเป็นสัญญาณบอกว่าผู้ป่วยได้หมดลมหายใจ        เมื่อร่างของเขาถึงที่โรงพยาบาลได้ไม่นาน พ่อกับแม่ของเขาก็บินตรงมาจากต่างเมืองเพื่อมาดูอาการของลูกชาย พวกเขามีลูกชายเพียงคนเดียวและคาดหวังว่าเขาผู้นี้จะเป็นผู้สืบท
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-12
Baca selengkapnya
Sebelumnya
12
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status