Mag-log inบทที่ 45 หุบเขาวัดเสวียนคงและสวนต้นกุ้ยฮวา
หลังจากการศึกจบลง บ้านเมืองสงบเซียวป๋อเหวินได้มีเวลาของตัวเอง วันนี้เข้าจะพาฟางหนิงฮวาออกไปเที่ยวนอกเมืองสักหน่อย เขาเองก็ได้ยินชื่อเสียงเรื่องความงามของธรรมชาตินอกเมืองมานานแล้ว แต่ด้วยความที่ต้องยุ่งอยู่กับการศึกจึงไม่ได้มีเวลาออกไป วันนี้ว่างแล้วจึงเป็นเวลาที่เหมาสมพอดี
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองสามครั้งตั้งแต่เช้าตรู่ ฟางหนิงฮวาที่เพิ่งตื่นขึ้นมาได้ไม่นานกำลังนั่งแต่งตัวจัดเครื่องประดับอยู่ที่หน้ากระจกทองเหลืองเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบออกมาเปิดทันที เมื่อเห็นว่าเป็นเซียวป๋อเหวินก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติแล้วเช้าตรู่เช่นนี้เขาจะอยู่ที่ห้องหนังสือมิใช่หรือ
“ท่านแม่ทัพ มาหาข้าแต่เช้ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” หญิงสาวถาม
&nb
บทที่ 47 ร้านอาหารเสฉวนแห่งเมืองเสวี่ยคัง หนึ่งเดือนต่อมาร้านอาหารก็เปิด ฟางหนนิงฮวาเปิดร้านอาหารรูปแบบของเสฉวน เน้นอาหารรสชาติเผ็ดร้อนที่เซียวป๋อเหวินชอบ แถมยังมีหม้อไฟหม่าล่าซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่ของที่นี่อีกด้วย สร้างความฮือฮาในหมู่ชาวเมืองเสวี่ยคังเป็นอย่างอยิ่ง เมื่อได้ยินว่ามีร้านอาหารมาเปิดใหม่ผู้คนต่างก็อยากรู้อยากเห็น พากันแวะเวียนมาเดินผ่านหน้าร้านกันแต่ว่าก็ยังไม่มีใครกล้ามาลองกินดูสักคน จนเมื่อฟางหนิงฮวาเปิดหม้อน้ำแกงหม่าล่าออกก็ถึงกลับทำให้คนที่เดินไปมาอยู่หน้าร้านถึงกลับชงัก กลิ่นของน้ำแกงนั้นหอมเตะจมูกเป็นอย่างยิ่ง มีทั้งกลิ่นที่กลมกล่อมของมันวัวและกลิ่นเครื่องเทศที่หอมฟุ้ง ชาวเมืองที่อยู่แถวนั้นต่างก็กลืนน้ำลายกันเป็นแถว “นี่มันอาหารอะไรเนี่ย ข้าไม่เคยได้กลิ่นอะไรที่หอมเช่นนี้มาก่อนเลย” ชายวันกล
บทที่ 46 เริ่มต้นกิจการ “นี่...หัวหน้าองครักษ์กู้ ช่วงนี้ท่านแม่ทัพกำลังยุ่งอยู่หรือไม่” ฟางหนิงฮวาถาม นางมาดักรอหัวหน้าองครักษ์ที่ทางเดินไปห้องหนังสือของเซียวป๋อเหวิน “ช่วงนี้ท่านแม่ทัพค่อนข้างยุ่งน่ะ ต้องเตรียมเรื่องการฝึกทหาร ยิ่งตอนนี้มีการรับทหารใหม่เข้ามา งานก็เลยล้นมือ” หัวหน้าองครักษ์กู้ตอบ “เหตุใดเจ้าไม่ไปถามกับท่านแม่ทัพเอาเล่าหนิงฮวา” “ข้าไม่อยากรบกวนเขาน่ะ และข้าก็รู้ว่าท่านต้องตอบข้าทุกอย่างอยู่แล้ว” ฟางหนิงฮวายิ้มน้อย ๆ “เจ้านี่ฉลาดเอาเรื่อง ว่าแต่ถามหาท่านแม่ทัพมีธุระอันใดหรือ” หัวหน้าองครักษ์กู้ถาม “ข้าเพียงแต่อยากรู้ว่าช่วงที่ข้า
บทที่ 45 หุบเขาวัดเสวียนคงและสวนต้นกุ้ยฮวา หลังจากการศึกจบลง บ้านเมืองสงบเซียวป๋อเหวินได้มีเวลาของตัวเอง วันนี้เข้าจะพาฟางหนิงฮวาออกไปเที่ยวนอกเมืองสักหน่อย เขาเองก็ได้ยินชื่อเสียงเรื่องความงามของธรรมชาตินอกเมืองมานานแล้ว แต่ด้วยความที่ต้องยุ่งอยู่กับการศึกจึงไม่ได้มีเวลาออกไป วันนี้ว่างแล้วจึงเป็นเวลาที่เหมาสมพอดี เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองสามครั้งตั้งแต่เช้าตรู่ ฟางหนิงฮวาที่เพิ่งตื่นขึ้นมาได้ไม่นานกำลังนั่งแต่งตัวจัดเครื่องประดับอยู่ที่หน้ากระจกทองเหลืองเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบออกมาเปิดทันที เมื่อเห็นว่าเป็นเซียวป๋อเหวินก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติแล้วเช้าตรู่เช่นนี้เขาจะอยู่ที่ห้องหนังสือมิใช่หรือ “ท่านแม่ทัพ มาหาข้าแต่เช้ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” หญิงสาวถาม&nb
บทที่ 44 นำชัยชนะกลับมา การศึกจบลงอย่างราบรื่น เซียวป๋อเหวินและเหล่าทหารต่างกลับเข้าเมือง เหล่าทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีที่สูญเสียไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ขวัญและกำลังใจของพวกเขาหายไปแต่อย่างใด พี่น้องทหารต่างพยุงคนที่ได้รับบาดเจ็บกลับมา บ้างก็ขนร่างไร้วิญญาณของเพื่อที่ตายในสนามรบกลับมาฝังอย่างสมเกียรติ ฟางหนิงฮวารอเซียวป๋อเหวินที่หน้าประตูเมืองอย่างใจจดใจจ่อ พอเห็นเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีใจมาก ทำท่าจะกระโดดกอดเขาแต่ก็ต้องชะงักไว้เพราะอยู่ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย “ท่านนำชัยชนะกลับมาจริงๆ ด้วย” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความดีใจเป็นที่สุด นางไม่ได้ดีใจที่เขากลับมาเท่านั้นแต่ยังดีใจที่บัดนี้เขาสามารถปกป้องแผ่นดินเอาไว้ได้ “เป็นเพราะเครื่องรางของเจ้าที่คุ
บทที่ 43 อย่าคิดว่าจะมารุกรานกันได้ง่าย ๆ เซียวป๋อเหวินกับฟางหนิงฮวายืนดูอยู่บนกำแพงเมืองสังเกตสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เมื่อเห็นควันไฟปรากฏขึ้นที่ค่ายของพวกเฮยจั้งแล้วก็ให้สัญญาณกับเหล่าทหารให้เข้าโจมตีในทันที เขาเองก็เตรียมตัวลงจากกำแพงเมืองเช่นกัน “หัวหน้าองครักษ์กู้ เจ้าไปบอกให้คนของเราที่ตั้งขบวนอยู่ด้านหน้าเตรียมพร้อมโจมตี ข้าจะลงไปรวมตัวกับพวกเขาเร็ว ๆ นี้” เซียวป๋อเหวินเรียกองครักษ์คนสนิทมาสั่งการ “ขอรับท่านแม่ทัพ” หัวหน้าองครักษ์กู้รับคำในทันที ก่อนจะวิ่งลงกำแพงเมืองไปทำตามที่ผู้เป็นนายบอก เมื่อสั่งการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเซียวป๋อเหวินก็หันกลับมาทางฟางหนิงฮวาที่ตอนนี้ยืนอยู่เคียงข้างเขาไม่ห่าง เขายิ้มให้นางเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่ผ่อนคล
บทที่ 42 เปลี่ยนกลยุทธ์จากรับเป็นรุก ความมืดยามค่ำคืนเริ่มคลี่คลุมผืนฟ้าเหนือเมืองเสวี่ยคัง แสงแดดสุดท้ายของวันค่อย ๆ เลือนลับไปหลังแนวเขาด้านทิศตะวันตก เหลือเพียงเงามืดและแสงดาวที่ริบหรี่พาดผ่านขอบฟ้า ในจวนแม่ทัพ แผนการปฏิบัติการสำคัญได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบงัน หากแต่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม และความระทึกที่ค่อย ๆ ซึมลึกลงไปในจิตใจของทุกคนเซียวป๋อเหวินยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง มือกำแน่นอยู่ข้างลำตัว ในใจของเขาเต็มไปด้วยแผนการและความตื่นเต้น เขารู้ดีว่าการวางเพลิงค่ายของเฮยจั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกมันจัดกองลาดตระเวนกระจายตัวทั่วบริเวณป่าโดยรอบ การจะลอบเข้าไปโดยไม่ถูกพบตำเป็นต้องทำอย่างแนบเนียนที่สุดด้วยเหตุนี้เขาจึงสั่งการอย่างละเอียดให้กองทหารฝีมือดีของเมืองเสวี่ยคังจำนวนสิบห้าคนออกไปยังชายป่าใกล้แนวค่ายของศัตรู เป้าหมายคือจัดการกับทหารลาดตระเวนของพวกเฮยจั้งที่เดินเวรยามตามปกติ หากเป็นไปได้ ให้จับเป็นอย่างน้อยหนึ่ง







