Share

ตอนที่6 พบเจอ

last update Last Updated: 2025-09-02 18:09:18

ซูหนี่ห์เดินออกมาก็เห็นมารดาและป้าฮุ่ยเหมย นั่งหน้าเครียดอย่างวิตกกังวลรออยู่ นางจึงรีบร้องตะโกนออกไปอย่างร่าเริง

“ท่านแม่!!ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ” ซูเจียวพอได้ยินเสียงซูหนี่ว์ก็รีบหันไปมองอย่างโล่งอก

“หนี่ว์เอ่อร์เป็นอย่างไร เจ้าพบเจออะไรหรือไม่?” ซูเจียวที่สำรวจบุตรสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเป็นห่วง ถามขึ้นด้วยความร้อนรน

“ไม่เห็นเจออะไรเลยเจ้าค่ะ จวนหลังนี้ออกจะน่าอยู่ข้าชอบ อีกอย่างทางการประกาศขายไม่แพง ท่านแม่ข้าอยากซื้อได้หรือไม่เจ้าค่ะ?”

“หะ!!เจ้าแน่ใจนะ” ซูเจียวตกใจคาดไม่ถึงว่านางจะอยากซื้อจวนหลังนี้ขึ้นมาจริงๆ

“แน่ใจเจ้าค่ะ ถ้าหากว่าท่านแม่กลัว ให้ข้ามาอยู่คนเดียวก่อนก็ได้เจ้าค่ะ แล้วเดี๋ยวข้าจะแวะไปหาท่านแม่บ่อยๆ ดีหรือไม่เจ้าค่ะ” 

“ไม่ได้!! เจ้าอยู่ที่ไหนแม่ก็ต้องอยู่ที่นั้น เพียงแต่ว่าเจ้าไม่เจออะไรจริงหรือ?” ซูเจียวอดหวาดระแวงไม่ได้ จะเป็นไปได้อย่างไร นางโกหกหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่นางต้องโกหกนี่ แล้วทำไมคนที่มาที่จวนหลังนี้ทุกคน ถึงเจอกับวิญญาณร้าย แต่กับนางและบุตรสาวกลับไม่เจออะไรแปลกเสียจริง

พอทั้งสามสาวเดินออกมาหน้าจวน เจ้าหน้าที่และท่านลุงลู่กัง ก็หันมามองพร้อมกันด้วยความประหลาดใจ ที่เห็นพวกนางเดินออกอย่างปกติดี

“ข้าสนใจซื้อจวนหลังนี้ เรามาทำสัญญากันเลย” ซูเจียวแจ้งเจตจำนงทันที

“หาาาา….!!!” เจ้าหน้าที่ตกใจสุดขีด ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ คนปกติดีๆ ที่ไหนอยากจะซื้อบ้านผีสิง ที่มันแปลกประหลาดเกินไปแล้“

ท่านไปทำสัญญาซื้อขาย แล้วเอาไปให้ข้าที่จวนสกุลไป๋ข้าจะให้ค่าเสียเวลากับท่านอย่างแน่นอน” ซูเจียวคิดว่าราคาที่ประกาศขายก็ไม่ได้แพงมากนัก หากบุตรสาวของนางอยากได้นางก็จะซื้อให้

“ได้ๆ ขอรับ” เจ้าหน้ารีบวิ่งไปล๊อกประตู แล้วกระโดดขึ้นหลังม้า ควบตะบึงไปทางที่ว่าการอย่างรวดเร็ว คำว่าค่าเสียเวลามันโดนใจเขาจริงๆ

‘ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่ ข้ารักท่านแม่ที่สุด” ซูหนี่ว์กอดแขนซูเจียวแล้วเอาศีรษะถูไถไปมาอย่างออดอ้อน ซูเจียวยกยิ้มด้วยความเอ็นดู

“ไม่ต้องมาอ้อนหากเจอดี อย่าวิ่งร้องไห้ขี้มูกโป่งมาแล้วกัน” ซูเจียวบีบแก้มของบุตรสาวเบาๆ อย่างเอ็นดู 

 //////////////////////////////

ข่าวการซื้อจวนสกุลจ้าว โด่งดังเพียงยังไม่ถึงข้ามวัน ยามนี้ไม่มีใครไม่พูดถึงสองแม่ลูกสกุลไป๋ ที่ใจกล้าซื้อจวนผีสิง ข่าวนี้ทำเอาผู้คนสนอกสนใจกันเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่จวนเฉินอ๋อง ที่มีชุนไห่รีบวิ่งกระหืดกระหอบ เข้ามารายงานจนเกือบหน้าทิ่ม

“ท่านอ๋อง มีข่าวใหม่พะยะค่ะ” ชุนเต๋อเหลือบมองน้องชาย อย่างตำหนิ ที่วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาไม่ให้เกียรติท่านอ๋องเลยสักนิด ดีนะที่ท่านอ๋องมองไม่เห็น ไม่งั้นถูกทำโทษแน่

“ข่าวใหม่อะไรของเจ้า” เฉินอ๋องเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ

“ข่าวที่ว่าแม่นางไป๋กับบุตรสาว วันนี้ได้ไปซื้อจวนร้างผีสิงของสกุลจ้าวพะยะค่ะ” ชุนไห่รายงานอย่างเหนื่อยหอบ

“จริงรึชุนไห่!! เป็นไปได้อย่างไร สองแม่ลูกนั่นไม่รู้เรื่องที่ว่าจวนหลังนั้นมีวิญญานร้ายรึ?” ชุนเต๋ออดตั้งคำถามขึ้นมาไม่ได้ เพราะทุกคนในเมืองหลวงไม่มีใครไม่รู้ ว่าจวนหลังนั้นมีวิญญาณร้ายอาศัยอยู่

“จากที่ข้าไปสอบถามมา เจ้าหน้าที่จากทางการบอกว่า เขาได้เปิดประตูให้ทั้งสองแม่ลูกเข้าไป พวกนางก็เดินไปสำรวจภายในจวน แล้วก็กลับออกมาแบบปกติดีทุกอย่าง”

“น่าสนใจ” เฉินอ๋องพึมพำเบาๆ

“ชุนไห่เจ้าคิดว่า เรื่องวิญญาณภูตผีที่จวนสกุลจ้าว อาจมีคนกุเรื่องนี้ขึ้นหรือไม่?” ชุนเต๋อเริ่มวิเคราะห์เรื่องราวความน่าเป็นไปได้

“ตอนนี้ข้าก็ไม่แน่ใจแล้วละท่านพี่ หากจวนหลังนั้นมีผีจริง เหตุใด แม่นางไป๋และบุตรสาวไม่หวาดกลัวเลยสักนิด หรือว่าพวกนางมีของดี ที่ผีอาจจะกลัวไม่กล้าออกมา” ชุนไห่คิดว่า อาจเป็นไปได้ที่พวกนางมีของดี

ระหว่างสนทนากันอย่างออกรส ทหารยามที่เฝ้าอยู่หน้าจวนก็เข้ามารายงาน “ท่านองครักษ์ชุนไห่ มีคนมาขอพบท่านขอรับ นางบอกว่ามาจากจวนสกุลไป่”

“ให้นางเข้ามา” ชุนไห่คิดว่าต้องเป็นบ่าวรับใช้ ที่เขาไปติดสินบนและตกลงกันไว้เรื่องอาหาร จึงรีบบอกให้รีบเข้ามา

แต่ชุนไห่ก็ต้องตกตะลึงเพราะคนที่ก้าวเข้ามา พร้อมกับบ่าวรับใช้คนนั้น เป็นแม่นางน้อยหน้าตางดงาม ชุนไห่เผลอมองซูหนี่ว์โดยที่ตาไม่กระพริบ นี่คุณหนูไป๋มาด้วยตัวเองแบบนี้คงรู้แล้วสินะ ส่วนสาวใช้นางนั้นก็หิ้วที่ใส่อาหารยืนอยู่ด้านหลังอย่างสงบเสงี่ยม

“คารวะเฉินอ๋อง หม่อมฉันไป๋ซูหนี่ว์เพคะ” เฉินอ๋องพอได้ยินเสียงหวานใสก้องกังวาน ก็ลืมตาขึ้นมาอย่างลืมตัว แต่แสงสว่างที่กระทบกับดวงตาของเขาอย่างกระทันหัน ทำให้เขาต้องหลับตาลงอีกครั้ง นี่มันเกิดอะไรขึ้นดวงตาของเขา10ปีแล้วที่มืดมนมองไม่เห็น แต่เมื่อครู่แสงสว่างปะทะเข้ามาในดวงตาของเขา เฉินอ๋องใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นดีใจ ความรู้สึกมีความหวังในการมองเห็นกลับมาอีกครั้ง เขาค่อยๆ ลองลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ยามนี้เหงือเขาผุดขึ้นเต็มใบหน้า เลือดในกายเย็นเฉียบ ภาพสาวน้อยที่งดงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า ชัดเจนในสายตาของเขา งดงามดั่งเซียนน้อยที่มาเยือนยังโลกมนุษย์ เฉินอ๋องแทบลืมหายใจ นี่เขามองเห็นนาง เฉินอ๋องลองมองไปรอบๆ ห้อง สวรรค์ดวงตาเขามองเห็นเป็นปกติ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่!!

“ไม่ต้องมากพิธี เจ้ามาหาชุนไห่รึ?” ซูหนี่ว์แอบมองเฉินอ๋องที่ลุกขึ้นมานั่งตัวตรง จากที่นอนเอนหลังอยู่บนตั่ง บุรุษผู้นี้หน้าตาถือว่าหล่อเหล่าสง่างามดั่งลูกรักพระเจ้า รูปร่างสูงใหญ่ โครงสร้างใบหน้ารับกันอย่างลงตัว ผิวขาวละเอียดเหมือนไม่เคยโดนแสงแดดเลยซักนิด 

“เพคะ แต่ที่จริงหม่อมฉัน อยากมาเจรราบางอย่างกับท่านอ๋องด้วยเพค่” ซูหนี่ว์รู้สึกอึดอัดกับการใช้คำพูดที่ไม่คุ้นชิน 

“ว่ามาเถอะเราอนุญาต” เฉินอ๋องพยายามระงับอาการตื่นเต้นดีใจเอาไว้อย่างยากลำบาก

“คือว่าท่านองครักษ์ชุนไห่ ได้ไปติดสินบนกับบ่าวของหม่อมฉัน ให้แอบแบ่งอาหารออกมาแบ่งขาย ซึ่งเป็นการไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง” ซูหนี่ว์พูดไปก็แอบสังเกตสีหน้าเฉินอ๋องไปด้วย เท่าที่อ่านนิยายมาเชื้อพระวงศ์หากพูดไม่ถูกหูอาจถูกโบยต้องระวังเอาไว้

“เจ้าอยากให้เราลงโทษ คนของเราใช่หรือไม่?” ชุนไห่หันไปมองชุนเต๋อพี่ชาย ท่านอ๋องเริ่มพูดคุยสนทนากับสตรีตั้งแต่เมื่อใดกัน แต่ว่า10ปีมานี้ท่านอ๋องก็ไม่เคยสนทนากับสตรีใด นอกจากพระมารดา

“ก็ไม่เชิงหรอกเพค่ะ เพียงแค่หม่อมฉันอยากจะทำให้มันถูกต้อง โดยไม่ต้องหลบซ่อน วันนี้หม่อมฉันก็เลยเตรียมอาหารมาให้ลองชิม หากว่าท่านอ๋องและคนของท่านชอบ เราก็มาทำสัญญาการค้าแบบเปิดเผยไปเลยเพค่ะ”

“หะ..?? ชุนเต๋อ ชุนไห่ มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ

“สัญญาการค้า อย่างนั้นหรือ?” เฉินอ๋องไม่คิดว่านางจะอยากทำการค้า

“ใช่แล้วเพค่ะ หากว่าท่านอ๋องถูกใจ ในรสชาติของอาหาร และอยากให้จัดส่งทุกวันมาที่จวนของท่าน หม่อมฉันก็ถือว่านั้นคือการค้าแบบหนึ่ง หม่อมฉันชอบทำอาหารจึงอยากเริ่มทำการค้า ต่อไปอาจเปิดโรงเตี๊ยมด้วย ท่านอ๋องจะลองเสวยอาหารดูหรือไม่เพค่ะ” ซูหนี่ว์คิดว่าหากได้จวนอ๋องช่วยออกหน้า อาหารของนางต้องขายดีแน่

“ได้เราจะลองชิมดู ชุนเต๋อพาเราไปที่โต้ะ”

“ขอรับ”

ซูหนี่ว์เห็นองครักษ์ข้างกายเฉินอ๋อง ตรงเข้ามาช่วยพยุงจับแขนของเขาพาเดินไปนั่งที่โต้ะ ก็ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ แต่ก็ปัดความสงสัยนั้นออกไป

“คุณหนูไป๋ขออภัยที่ข้ามองไม่เห็น รบกวนคุณหนูไป๋ป้อนอาหารข้าได้หรือไม่?”

“......??????” ชุนเต๋อ ชุนไห่ ซูหนี่ว์

“แต่ว่าท่านอ๋องก็มีคนสนิทช่วยป้อนอยู่นี่เพค่ะ”

“อาหารที่คุณหนูไป๋เป็นคนทำ ข้าอยากให้คุณหนูไป๋เป็นคนป้อนและอธิบายข้าไปด้วย ว่ามันคืออาหารชนิดใดเพราะข้าไม่สามารถมองเห็น หากว่าเจ้าไม่อยากทำการค้ากับข้าก็ไม่เป็นไร” น้ำเสียงที่ฟังดูน้อยใจและคล้ายตัดพ้อกลายๆ เอ่ยขึ้น

เฮ้อนี่มันเด็กสามขวบชัดๆ เอาแต่ใจเกินไปแล้ว ซูหนี่ว์เริ่มรู้สึกโมโหขึ้นมาบ้าง ไม่ทำการค้าด้วยก็ไม่เห็นเป็นไร ท่านตาและท่านแม่มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย การมาครั้งนี้นางเพียงอยากเริ่มทำการค้า และทำในสิ่งที่ใจรักก็เท่านั้น ที่จริงนางก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนในราชวงศ์เท่าใดนัก

เฉินอ๋องเห็นนางเงียบไปก็เริ่มใจเสีย นี่เขาพูดเกินไปหรือไม่? หากนางไม่พอใจไม่อยากทำการค้า และไม่มาที่นี่อีกเขาจะทำอย่างไร 

“หม่อมฉันทูลลาเพค่ะ” ซูหนี่ว์ย่อตัวเอ่ยลา และหมุนตัวเดินออกไปทันที เฉินอ๋องที่เห็นเช่นนั้นก็รีบลุก เพื่อที่จะคว้าแขนของนาง แต่เพราะพอร่างของนางห่างไกลออกไป ดวงตาของเขาก็เริ่มกลับมามืดมนอีกครั้ง 

“โครม!!” เสียงของเฉินอ๋องล้มลงกระแทกพื้น ทำให้ร่างที่กำลังจะก้าวพ้นประตูหันกลับมา ซูหนี่ว์ตกใจรีบวิ่งกลับมาดูอย่างเป็นห่วง

“ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้างเพค่ะ” พอนางกลับมายืนอยู่ใกล้ๆ เขาก็กลับมามองเห็นได้เป็นปกติอีกครั้ง นี่มันแปลกเกินไปแล้ว ระหว่างที่เฉินอ๋องล้มลงไปหางคิ้วจึงกระแทกกับเก้าอี้ ยามนี้เลือดไหลเต็มใบหน้า สององครักษ์รีบประคองเขาไปที่เตียง 

“ให้หม่อมฉันทำแผลให้นะเพค่ะ” ซูหนี่ว์ที่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกผิดและสงสารขึ้นมา

“ได้”

ชุนไห่รีบวิ่งไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมายื่นให้ซูหนี่ว์ ซึ่งนางก็รับมาแล้วเริ่มลงมือทำแผลให้เฉินอ๋อง

“เจ็บหรือไม่เพค่ะ หม่อมฉันจะทำเบาๆ” ไป๋ซูหนี่ว์รู้สึกผิดนิดๆ ที่เป็นสาเหตุให้เขาได้รับบาดเจ็บ 

“เจ้าทำไปเถอะข้าไม่เจ็บ”

เฉินอ๋องมองนางที่ทำแผลให้อย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ใจก็เต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ เหตุใดเวลานางอยู่ใกล้เขา เขาถึงมองเห็น นางเป็นใครกันแน่ หากนางจากไปดวงตาของเขา ก็คงกลับมามองไม่เห็นเหมือนเดิมสินะ

“ข้าตกลงทำสัญญาการค้ากับเจ้า เจ้าจะคิดค่าอาหารเท่าไหร่ก็ระบุลงไปในสัญญา เพียงแต่ข้ามีข้อแม้ ให้เจ้ามาส่งอาหารด้วยตัวเองได้หรือไม่?”

“ไม่ใช่ว่าไม่ได้เพค่ะ แต่บางครั้งหม่อมฉันก็มีอย่างอื่นต้องทำ อีกอย่างอาจดูไม่ดีหากหม่อมฉัน จะเข้าออกจวนอ๋องเป็นว่าเล่น ชาวบ้านได้เอาหม่อมฉันไปนินทา”

“ข้าไม่ขอปิดบังเจ้า ข้ามองไม่เห็นมา10ปีแล้วเพราะถูกพิษ เพียงแค่เจ้ามาอยู่ใกล้ ดวงตาข้าก็กลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งข้าก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะสาเหตุใด”

“จริงเหรอเพค่ะแปลกจริง อืมงั้นเอาเป็นว่าหม่อมฉันจะพยายาม มาส่งให้ได้ด้วยตัวเองแล้วกันนะเพค่ะ หากมีครั้งไหนไม่ได้มาส่ง ก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า แต่ว่าถ้าหากมีข้อครหาเกิดขึ้น ท่านอ๋องต้องรับหม่อมฉันเป็นชายา ตกลงหรือไม่เพค่ะ?”

“นี่เจ้า….” เฉินอ๋องที่ได้ยินเช่นนั้นก็อดเขินอายไม่ได้ เกิดมาเพิ่งเคยพบสตรีเกี้ยวพาเขาเป็นครั้งแรก นางเป็นสตรีเช่นไรกันเกี้ยวพาบุรุษ โดยปราศจากการเขินอายเลยสักนิด

“หม่อมฉันเย้าท่านอ๋องเล่นเพค่ะ” ซูหนี่ว์เหลือบตามองเฉินอ๋องที่ยามนี้ หน้าแดงลามไปจนถึงใบหูก็แอบขำอยู่ในใจ บุรุษผู้นี้ยามเขินอายน่ารักจริงๆ

 

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่45 คลอดลูก

    สองเดือนต่อมาอยู่ๆ ฮ่องเต้ก็เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียนอยากหนัก จนเขาลุกไม่ไหวที่ออกมาว่าราชกิจในท้องพระโรง หมอหลวงจึงรีบมาตรวจอาการก็ยังหาสาเหตุไม่พบ มีเพียงซูหนี่ว์ที่พอจะเดาได้ว่าเขาเป็นอะไร ก่อนนางจะให้หมอหลวงตรวจอีกคนเพื่อยืนยันความแน่ใจ หลังจากตรวจอาการของฮองเฮา หมอหลวงก็เผยยิ้มด้วยความยินดี“ยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงตั้งครรภ์ได้ราวสองเดือนแล้ว”“ขอบคุณท่านหมอหลวง ที่จริงข้าก็พอจะรู้อยู่บ้างเพียงแต่อยากตรวจเพื่อความแน่ใจ สงสารแต่ฝ่าบาทที่ต้องมาแพ้ท้องแทนข้าเช่นนี้”“เดี๋ยวก็คงหายพ่ะย่ะค่ะ หากเรารู้สาเหตุก็ไม่ต้องกังวลเพียงแค่หาอะไรให้ฝ่าบาทเสวย บรรเทาอาการคลื่นไส้พ่ะย่ะค่ะ” ซูหนี่ว์พอจะรู้อาการพวกนี้อยู่บ้าง เพียงแต่นึกสงสารเขาเท่านั้นเองที่ต้องมาทรมานแทนนาง ซูหนี่ว์จึงเอ่ยเบาๆ กับลูกในท้องว่า “อย่าทรมารบิดาเจ้ามากนักสงสารเขาบ้างเถอะ” เหมือนเด็กในท้องนางจะรับรู้ได้ถึงสิ่งที่นางบอก อาการของฮ่องเต้จึงเริ่มทุเลาลงอย่างน่าเหลือเชื่อ โชคดีที่ช่วงนี้ราชกิจในท้องพระโรง ก็ไม่ต้องมีอะไรให้ต้องกังวล เหล่าขุนนางเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ต้องยอมทำตามเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ที่ฮองเฮาเสนอขึ้น ท

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่44 ท้องพระโรง

    ข่าวจากทางราชสำนักออกติดประกาศ ฮ่องเต้สละราชบัลลังก์และแต่งตั้งเฉินตงหยางเป็นฮ่องเต้ ส่วนซูหนี่ว์ถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ทำเอาฮือฮากันทั้งเมืองหลวง ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีเปลี่ยนแปลงมากมาย หลายคนคอยจับตาและฟังข่าวว่าจะเกิดเหตุอันใดต่อไป เช้าวันต่อมาการประชุมในท้องพระโรงก็เริ่มขึ้น เหล่าขุนนางทยอยกันเข้ามาในท้องพระโรงอย่างเป็นปกติเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไปเมื่อขันทีประกาศการมาของฮ่องเต้และฮองเฮา “ฮ่องเต้เสด็จ ฮองเฮาเสด็จ”เหล่าขุนนางรีบคุกเข่าถวายพระพรกันอย่างพร้อมเพรียง แต่สีหน้าทุกคนก็บ่งบอกถึงความแปลกใจ ที่เห็นว่ามีฮองเฮามาร่วมด้วย“ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”“ถวายพระพรฮองเฮา ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”“ลุกขึ้นเถิด” ฮ่องเต้เอ่ยขึ้นอย่างผ่อนคลาย แต่ก็แอบสังเกตสีหน้าของเหล่าขุนนางเฒ่าว่าเป็นแบบใด ซูหนี่ว์ฮองเฮาแม้ใบหน้าจะดูเรียบนิ่ง แต่แอบสังเกตมองเหตุการณ์ทุกอย่างไม่ให้รอดพ้นสายตา ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์พวกนี้หากวันนี้กล้าหาเรื่องนางละก็ จะจัดให้ชุดใหญ่เลยทีเดียว“ทูลฝ่าบาท” ขุนนางกรมพิธีการหยุดชะงัก เมื่อฮ่องเต้ยกมือห้ามให้เขาหยุด“ก่อนที่ท่านจะพู

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่ 43 ย้ายเข้าวัง

    สามวันต่อมาการจัดทำโรงทานแจกอาหารก็มาถึง ซูหนี่ว์ให้องครักษ์ที่เป็นทหารยี่สิบคนช่วยทำ เพราะพวกเขาคล่องแคล่วและเรียนรู้ได้ไวมาก จึงคิดจะดึงพวกเขาไว้ที่จวนส่วนทหารอีกแปดสิบคนนางส่งไปอยู่ที่วังหลวง นางจะทำโรงทานสามวัน วันแรกนางตั้งใจจะทำโจ๊กทรงเครื่อง น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ซึ่งนางคิดว่าดูเรียบง่ายและสะดวก อีกทั้งนางยังใส่หมูสับและไข่ เครื่องปรุงนางก็ให้คนหั่นเตรียมไว้ หากมีใครอยากจะใส่ขิง ต้นหอมผักชีซอยและกระเทียมก็สามารถใส่ได้ ก่อนนางจะยกหม้อโจ๊กมาตั้ง นางก็ให้ถิงถิงและชิงอีตั้งโต้ะเหมือนทุกครั้งเพื่อบวงสรวงอาหาร แต่ครั้งนี้นางให้ซูเจียว เฉินอ๋อง ชุนไห่ ชุนเต๋อ และบ่าวในจวนมาจุดธูปไหว้ด้วยเช่นกัน นางไม่รู้ว่าดวงวิญญาญจะจากไปเมื่อใด แต่เพราะวันนี้เป็นประหารชีวิตของสองตระกูล นางคิดว่าดวงวิญญาณอาจจะสลายและจากไป ซูหนี่ว์มองเห็นท่านปู่ ท่านย่า ท่านพ่อ และบ่าว ยืนมองนางและทุกคนด้วยสายตาอิ่มเอิบอย่างมีความสุข“ท่านปู่ ท่านย่า ท่านพ่อ และดวงวิญญาณทุกดวงขอให้ไปสู่ภพที่ดีนะเจ้าคะ”“ซูหนี่ว์ขอบใจเจ้ามาก เจ้าเองก็ดูแลตัวเองให้ดี ปู่ได้เห็นเจ้าเติบโตมาดีเช่นนี้ถึงตายก็ไม่เสียดายแล้ว” จ้าวซีห่าวเอ่ยขึ

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่42 ทำลูก

    เช้าวันต่อมาทางราชสำนักจากวังหลวงได้ส่งทหารมาปิดประกาศความผิดของสองตระกูลหลี่และตระกูลเซี๊ยะโทษฐานเป็นกบฏ ยึดทรัพย์ตระกูลเซี๊ยะเข้าวังหลวง ส่วนทรัพย์สินของตระกูลหลี่ยึดทรัพย์เป็นกองกลาง ซึ่งชายาเฉินในฐานะทายาทที่เหลืออยู่ของสกุลจ้าว จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้นางต้องการทำโรงทาน และบริจาคข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับผู้ยากไร้ เพื่อสร้างบุญกุศลให้กับวิญญาณที่จากไป ในท้องพระโรงฮ่องเต้ประกาศแต่งตั้งเฉินอ๋องขึ้นเป็นรัชทายาท ซึ่งก็ไม่มีผู้ใดคัดค้านแต่อย่างใด ที่จริงเฉินอ๋องไม่อยากรับตำแหน่งเพราะเขาอยากใช้ชีวิตอิสระนอกวังมากว่า แต่เพราะตำแหน่งรัชทายาทจะว่างไม่ได้ เขาจึงต้องรับตำแหน่งนี้ไปชั่วคราว หลังจากเสร็จกิจจากท้องพระโรง เฉินหลงฮ่องเต้และเฉินอ๋องก็มายังห้องทรงอักษร ที่มีไท่ซ่างหวงและซูหนี่ว์รออยู่ ซูหนี่ว์อยากวางรากฐานให้ราชวงศ์มีความมั่นคง นางไม่อยากแทรกแซงการเมืองการปกครอง แต่นางต้องอยู่ที่นี่ต่อไปและต้องมีลูก นางจะต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องแม้จะดูไม่ค่อยเหมาะสมก็ตาม“เอาละเรามาเริ่มกันเลย ลูกสะใภ้เจ้าก็อย่าเป็นกังวล เป็นเพราะข้าต้องการให้เจ้ามามีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็นว่าจะเอาอย่างไร

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่41กระชับความสัมพันธ์

    ฮ่องเต้สั่งให้ทหารจับกุมคนที่ส่วนเกี่ยวข้อง และเก็บกวาดทำความสะอาดรอบบริเวณ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยกับซูหนี่ว์“ในฐานะที่ข้าเป็นฮ่องเต้ ข้าต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ข้าเองก็มีส่วนผิด เพราะฉะนั้นข้าจะให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป” ซูหนี่ว์มองหน้าเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น“ตระกูลหลี่สมควรถูกประหารเช่นเดียวกับตระกูลจ้าวเมื่อสิบห้าปีก่อน ติดป้ายประกาศความผิดของสกุลหลี่ว่าเคยใส่ร้ายสกุลจ้าวและโทษฐานเป็นกบฏ ยึดทรัพย์สินทั้งหมดมาให้หม่อมฉัน หม่อมฉันจะทำโรงทานแจกอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้กับผู้ยากไร้ ส่วนตระกูลเซี๊ยะ ตัดสินโทษประหารเช่นเดียวกัน ยึดทรัพย์สินทั้งหมดเข้ากองคลัง”“ได้ข้าจะจัดการตามนี้” ฮ่องเต้รับคำอย่างไร้ข้อโต้แย้ง ลูกสะใภ้เขาคนนี้ทั้งเก่งกาจและฉลาดเฉลียว เป็นบุญและวาสนาของชาวเป่ยเซียงจริงๆ“งานวันนี้ย้ายไปที่อุทยานเถิด หม่อมฉันให้ท่านตาและท่านแม่จัดเตรียมไว้รอแล้วเพคะ” ซูหนี่ว์เอ่ยยิ้มๆ “หะ…นี่เจ้า” ฮ่องเต้ถึงกับพูดไม่ออก นางวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างรอบคอบจริงๆ ลูกสะใภ้ผู้แสนดี“ขออภัยทุกท่านที่ต้องมาเจอเหตุการณ์อย่างในวันนี้ เพื่อเป็นการชดเชย หม่อมฉันได้จัดเตรียมอาหารและสุราที่อุทย

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   ตอนที่40 ต่อสู้

    การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นอย่างดุเดือดไม่มีใครยอมใคร ผ่านไปหลายกระบวนท่าเฉินอ๋องก็ยังไม่สามารถสยบฉีอ๋องลงได้ ฉีอ๋องดูแข็งแกร่งดั่งหินผา มีพละกำลังลมปราณอย่างล้นเหลือ วรยุทธก็เหนือชั้นกว่าเฉินอ๋องหลายเท่า แต่เฉินอ๋องก็สู้ยิบตาไม่ถอย จังหวะต่อมาฉีอ๋องหมุนตัวหลบ และสะบัดฝ่ามือกระแทกลงไปบนหน้าอกของเฉินอ๋องอย่างแรง แรงกระแทกทำให้เฉินอ๋องกระอักเลือดออกมาอย่างมากมาย เขาเซถอยหลังไปหลายก้าว เฉินอ๋องรู้สึกปวดร้าวไปทั่วหน้าอกกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ฉีอ๋องที่เห็นเป็นโอกาสก็ปล่อยพลังปราณใส่เขาทันที คราวนี้แรงกระแทกของพลังทำเอาร่างเฉินอ๋องกระเด็นลอยขึ้นไปบนอากาศ ทุกคนแทบลืมหายใจตกตะลึงมองภาพนั้นตาค้าง ซูหนี่ว์ที่เห็นเช่นนั้นหัวใจก็แทบหยุดเต้น ความโกรธแล่นเข้าสู่จิตใจจนยากจะระงับ รีบพุ่งทะยานไปรับร่างเฉินอ๋องก่อนที่จะร่วงกระแทกลงพื้น “ท่านอ๋อง!!!!” นางร้องออกไปอย่างสุดเสียง หัวใจบีบอัดอย่างรุนแรง ระหว่างที่นางพุ่งไปรับร่างของเขา แสงสีทองก็เปล่งประกายเจิดจ้าออกมาจากร่างของซูหนี่ว์ จากนั้นปีกสีทองคล้ายปีกนก ก็งอกออกมาจากกลางหลังของนาง ซูหนี่ว์รับร่างของเฉินอ๋องเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะอุ้มร่างของเขาบินกลับมาตร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status