Share

แบ่งปันเนื้อหมูป่า

last update Huling Na-update: 2025-07-17 09:59:27

“พี่ใหญ่ได้มันมาจากไหนกันขอรับ”

เจียงหยวนเอ่ยถามพี่สาวด้วยใบหน้าใสซื่ออย่างใคร่รู้ว่าเจ้าหมูป่าตัวนี้พี่สาวของตนเขาได้มาได้อย่างไรกัน

“พี่ได้มาตอนที่ไปเก็บฟืนที่ชายป่าหลังบ้านเรานั่นแหละ มันวิ่งเข้ามาหาพี่เพื่อจะทำร้าย พี่ก็เลยจัดการฟาดมันจนตายแล้วค่อยหามกลับมาที่บ้านของเราอย่างไรเล่า”

“แต่ยังดีที่มันไม่ใช่หมูป่าตัวใหญ่มันยังเป็นเพียงลูกของหมูป่าเท่านั้น พี่จึงสามารถจัดการมันลงได้ แต่ถ้าพวกเจ้าทั้งสองพบเห็นพวกมันแล้วละก็จงวิ่งหนีให้เร็วที่สุดหรือไม่ก็รีบหนีขึ้นต้นไม้ในทันที”

“อย่าได้คิดจะเผชิญหน้ากับสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์แบบไหนก็ตามแต่ เข้าใจหรือไม่?”

เจียงหลินรีบเอ่ยบอกกับน้องทั้งสองของตนเองและยังสอนวิธีการเอาตัวรอดจากหมูป่าพวกนี้เผื่อวันข้างหน้าพวกเขาจะสามารถนำไปใช้ในการเอาตัวรอดจากสัตว์สี่เท้าพวกนี้ได้

“เจ้าค่ะ/ขอรับ”

ทางด้านเจ้าสองแฝดเองก็ตั้งหน้าตั้งตาฟังคำสอนของผู้เป็นพี่สาวกันอย่างเชื่อฟัง ก่อนที่พวกเจ้าสองแฝดจะเอ่ยรับคำของพี่สาวอย่างว่าง่าย

“ดีมาก แต่ในตอนนี้เสี่ยวหยวนเจ้าช่วยไปตามท่านป้าจางมาที่บ้านของเราให้พี่ใหญ่หน่อยได้หรือไม่”

“ได้เลยขอรับ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

จบคำพูดของเจียงหลิน น้องชายตัวเล็กน่ารักของนางก็รีบเอ่ยตอบรับคำของพี่สาวแล้ววิ่งไปยังบ้านของป้าจางในทันทีโดยไม่ต้องรอให้เจียงหลินได้บอกกล่าวสิ่งใดเพิ่มเติม

แต่กลับเป็นความน่ารักของเด็กน้อยที่ทำให้เจียงหลินอดที่จะเผยรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมาไม่ได้

“พี่ใหญ่แล้วข้าเล่าเจ้าคะ จะให้ข้าช่วยอะไรดีเจ้าคะ”

ทางด้านเจียงหลานเองเมื่อเห็นว่าพี่สาวของตนใช้งานน้องชายไปแล้วจึงอดรู้สึกอิจฉาแฝดผู้น้องไม่ได้ เด็กน้อยจึงได้เอ่ยถามกับพี่สาวพร้อมใบหน้าคาดหวัง

จนเจียงหลินนั้นรู้สึกขบขันกับความน่ารักเช่นนี้ของน้องสาวของตนเองเป็นอย่างมาก แต่เพื่อรักษาน้ำใจของน้องสาวเจียงหลินจึงได้คิดหางานให้อีกฝ่ายได้ทำเช่นเดียวกัน

“เช่นนั้นเสี่ยวหลานช่วยขนฟืนพวกนี้เข้าไปยังห้องครัวช่วยพี่ดีหรือไม่”

เจียงหลินเอ่ยบอกกับน้องสาวพร้อมกับชี้มือไปยังกองฟืนที่นางเพิ่งจะแบกลงมาจากเขาให้อีกฝ่ายได้รับรู้และเพื่อเป็นการถามความสมัครใจของเด็กน้อยตรงหน้าอีกด้วย

“ได้เลยเจ้าค่ะ ข้าทำได้”

ทางด้านเจียงหลานเมื่อได้ยินคำถามจากพี่สาวเด็กน้อยก็ไม่รอช้ารีบเอ่ยตอบรับคำพูดของพี่สาวในทันที

จากนั้นร่างเล็ก ๆ ก็เดินตรงไปยังกองฟืนที่กองอยู่ไม่ไกล แล้วเริ่มขนย้ายท่อนฟืนเข้าไปเก็บภายในห้องครัวช่วยพี่สาวของตนอย่างขยันขันแข็ง

เจียงหลินยืนมองภาพของน้องสาวตัวน้อยของตนเองด้วยใบหน้าแห่งความปลื้มใจที่เด็กน้อยเพียงเท่านี้กลับมีใจอยากจะช่วยเหลือนางทำงาน

น้องน้อยทั้งสองของนางช่างรู้ความยิ่งนัก ก่อนที่เจียงหลินจะเดินเข้าไปช่วยน้องสาวขนฟืนเข้าไปเก็บอีกแรงเช่นเดียวกัน

ทางด้านของเจียงหยวนเองในตอนนี้ร่างเล็ก ๆ ผอมแห้งก็วิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของนางจางเป็นที่เรียบร้อย

เด็กน้อยยืนหอบหายใจจากความเหนื่อยล้าเล็กน้อย จากนั้นเจียงหยวนน้อยจึงได้ส่งเสียงเรียกป้าจางผู้เป็นเจ้าของบ้านขึ้นมา

“ท่านป้าจางขอรับ อยู่หรือไม่?”

เสียงเล็ก ๆ ของเจียงหยวนที่ร้องเรียกหญิงวัยกลางคนอยู่หน้าบ้านนั้นเรียกความสนใจจากชาวบ้านคนอื่น ๆ อยู่ไม่น้อย และหนึ่งในนั้นก็คือนางจวนที่เป็นสหายของนางเจียงหลี่ป้าสะใภ้ของเจียงหลินรวมอยู่ด้วย

เพราะบ้านของนางจวนอยู่ติดกับบ้านของนางจางถัดมาเพียงหลังเดียวเท่านั้น ย่อมได้ยินเสียงของเด็กน้องเจียงหยวนที่กำลังเอ่ยเรียกนางจางอยู่หน้าบ้านได้อย่างชัดเจน

“มาแล้ว ๆ อ้าวเสี่ยวหยวนเองหรอกหรือ ว่าอย่างไรกันเด็กดี มีเรื่องอะไรให้ป้าช่วยอย่างนั้นหรือ”

นางจางที่กำลังทำอาหารกลางวันอยู่ภายในบ้านเมื่อได้ยินเสียงเรียกตนเองอยู่หน้าบ้าน ก็ได้รีบเดินออกมาดูว่าเป็นเด็กน้อยที่ไหน และเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยที่กำลังยืนเรียกตนเองอยู่หน้าบ้านนั้นคือเจียงหยวน

นางจางก็เร่งฝีเท้าเข้าไปหาร่างเล็ก ๆ ของอีกฝ่ายพร้อมกับเอ่ยถามเด็กน้อยเจียงหยวนในทันทีว่ามีเรื่องอะไรให้นางช่วยหรือไม่

“ท่านป้าจางพี่ใหญ่ให้ข้ามาตามท่านไปพบที่บ้านขอรับ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องสำคัญขอรับ”

เจียงหยวนน้อยเมื่อเห็นร่างท้วมของนางจางเดินออกมาถามไถ่ตนเองก็ไม่รอช้ารีบเอ่ยบอกถึงธุระที่ตนเองได้รับมาจากพี่สาวให้กับหญิงวัยกลางคนได้รับรู้ในทันทีเช่นเดียวกัน

“โอ้ว เสี่ยวหลินมีเรื่องอย่างนั้นหรือได้ ๆ เช่นนั้นพวกเราก็รีบไปที่บ้านของเจ้ากันตอนนี้เลย”

ทางด้านนางจางเมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องสำคัญก็รีบเอ่ยบอกกับเด็กน้อยตรงหน้า ก่อนที่นางจางจะรีบจูงมือของเจียงหยวนน้อยกลับไปยังบ้านของเขาในทันทีด้วยใจที่เป็นกังวล เกรงว่าอาจจะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้นกับสามพี่น้องอีกครั้ง

โดยที่สองป้าหลานนั้นไม่ได้รับรู้เลยว่าในตอนนี้ทางด้านหลังของตนนั้นได้มีนางจวนเดินตามหลังไปเพื่อดูเรื่องราวเช่นเดียวกัน

ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งจิบชาร่างของนางจางกับเจียงหยวนก็ได้เดินมาจนถึงหน้าบ้านของเด็กน้อยเป็นที่เรียบร้อย

แต่แล้วร่างของนางจางก็ต้องหยุดนิ่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน เมื่อเห็นว่าในตอนนี้ที่ด้านหน้าของนางนั้นมีร่างของหมูป่าอายุน่าจะประมาณสามสี่เดือนนอนแน่นิ่งอยู่

ยังไม่ทันที่นางจางจะได้เอ่ยถามเรื่องราวกับเด็กน้อยข้าง ๆ ร่างของสองพี่น้องบ้านเจียงอีกสองคนก็กำลังเดินออกมาจากห้องครัวตรงข้างบ้าน หลังจากที่ช่วยกันนำท่อนฟืนเข้าไปเก็บเสร็จพอดี

“เสี่ยวหลิน นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน แล้วร่างของหมูป่าตัวนี้มาได้อย่างไรกัน หรือว่ามันบุกเข้ามาทำร้ายพวกเจ้าถึงในบ้านอย่างนั้นหรือ”

นางจางที่รู้สึกตกใจและเป็นห่วงหลาน ๆ ทั้งสามของตนเองก็ถึงกับรัวคำถามใส่เจียงหลินด้วยความรวดเร็ว

“ท่านป้าจางเจ้าคะ พวกข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ หมูป่าตัวนี้ข้าล่ามันได้จากชายป่าหลังบ้านห่างออกไปไม่ไกลเจ้าค่ะ”

“พอดีมันพุ่งตัวเข้ามาจะทำร้ายข้า ข้าก็เลยใช้ไม้ฟาดมันจนตาย ก่อนจะลากมันกลับมาเป็นอาหารอย่างที่ท่านเห็นนี่แหละเจ้าค่ะ”

เจียงหลินที่เห็นท่าทางร้อนรนของหญิงวัยกลางคนตรงหน้าที่เป็นห่วงตนเองกับน้อง ๆ ก็รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่นางจะรีบเอ่ยบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาให้กับนางจางฟังโดยละเอียด

เมื่อนางจางได้ยินว่าเด็กสาวตรงหน้าล้มหมูป่าตัวขนาดกลาง ๆ ลงได้ด้วยตนเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อย ไม่ใช่ว่าตกใจเพียงแค่เด็กสาวสามารถล้มหมูป่าที่มีกำลังมหาศาลลงได้เพียงตัวคนเดียวเท่านั้น

แต่นางจางยังรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เด็กสาวถูกหมูป่าพุ่งเข้าทำร้ายอีกด้วย แต่เมื่อมองสำรวจไปทั่วทั้งตัวของเด็กสาวแล้วไม่พบบาดแผลใด ๆ หญิงวัยกลางคนจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ แต่ก็ยังอดที่จะเอ่ยตักเตือนเจียงหลินไปอีกหลายประโยค

“เสี่ยวหลิน คราวหน้าคราวหลังเจ้าอย่าได้สิ้นคิดเช่นวันนี้อีกเข้าใจหรือไม่ ถึงอย่างไรนั่นก็คือหมูป่าที่ดุร้าย หากวันหน้าเจ้าไม่โชคดีเช่นวันนี้แล้วน้อง ๆ ของเจ้าเล่าจะเป็นเช่นไร”

“เจ้าค่ะท่านป้าจาง เสี่ยวหลินจะจำเอาไว้ให้ดี วันหลังหากพบกับหมูป่าอีกข้าจะรีบวิ่งหนีให้สุดชีวิตเลยเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ข้าอยากให้ท่านป้ากับท่านลุงจางช่วยนำข้าวสารมาแลกเปลี่ยนกับเนื้อหมูป่าของข้าด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ”

เจียงหลินที่เห็นท่าทางเคร่งขรึมของนางจางก็รีบเข้าไปพูดจาออดอ้อนอย่างเอาใจ จากนั้นนางจึงได้เอ่ยถึงเรื่องสำคัญที่ตนเองให้น้องชายไปตามหญิงวัยกลางคนมาที่บ้านในวันนี้

“ไม่ต้องนำเนื้อพวกนี้มาแลกก็ได้ ป้ากับท่านลุงจางได้พูดคุยกันเอาไว้แล้วว่าจะนำข้าวสารมาให้เจ้ากับน้อง ๆ เอาไว้หุงทานกัน ส่วนเนื้อหมูป่าพวกนี้เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นอาหารในวันต่อ ๆ ไปเถิด”

นางจางเอ่ยบอกกับเจียงหลินอย่างใจดีและเอ็นดู แต่เจียงหลินกลับรู้สึกว่าไม่สมควร เพราะนางเองก็เป็นคนที่เติบโตมาด้วยความยากลำบาก เพราะอย่างนั้นนางจึงไม่คิด จะรับข้าวสารจากท่านป้าจางมาเปล่า ๆ อย่างแน่นอน

“จะได้อย่างไรกันเจ้าคะ?”

“ในเมื่อพี่จางไม่รับเช่นนั้นข้าขอรับไปทั้งหมดแทนท่านก็แล้วกันนะเจ้าคะ”

“!!!”

ในขณะที่เจียงหลินกับนางจางกำลังถกเถียงกันเรื่องหมูป่าอยู่นั้น จู่ ๆ แขกไม่ได้รับเชิญอย่างนางเจียงหลี่ก็ปรากฏตัวขึ้นจากทางด้านหลังของทั้งสี่คนด้วยฝีมือของนางจวนที่วิ่งแจ้นไปบอก พร้อมกับคำพูดที่แสดงออกถึงเจตนาที่มาในครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน

****************************************************************************************************************************************

ยังไม่ทันจะได้กินเนื้อเลย อิป้าข้างบ้านนี่ก็สาระแนเรื่องชาวบ้านเขาจริง ๆ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติมารับบทพี่สาวของเจ้าสองแฝดพร้อมกับมิติห้างสรรพสินค้า   การเข้าเมืองครั้งแรกของเจียงหลิน

    “พี่ใหญ่ ข้าขออุ้มเสี่ยวไป๋ได้หรือไม่ขอรับ”เจียงหยวนที่ชมชอบสัตว์ตัวเล็กน่าตาน่ารักอยู่แล้ว ก็อดใจไม่ไหวจนต้องเอ่ยขออนุญาตพี่สาวของตนเองเพื่อที่จะอุ้มเจ้าเสี่ยวไป๋ดูสักครั้ง“ว่าอย่างไรเล่าเสี่ยวไป๋ เจ้าจะให้เสี่ยวหยวนอุ้มดูสักครั้งหรือไม่?”เจียงหลินที่เห็นน่าตาออดอ้อนของน้องชายก็รู้สึกคันยุบยิบขึ้นมาภายในใจจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดเพื่อเป็นการถามความเห็นของอีกฝ่ายช่วยน้องชายอีกแรงหนึ่ง“เฮ้อ… ก็ได้ ๆ แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ”เสี่ยวไป๋ที่รู้สึกพ่ายแพ้ให้กับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังจ้องมองมาด้วยสายตาคาดหวังอย่าเต็มเปี่ยม ทำให้เขาต้องถอนหายใจออกมาด้วยความจำยอม ก่อนที่เขาจะเอ่ยอนุญาตอีกฝ่ายออกไป“เสี่ยวหยวน เสี่ยวไป๋อนุญาตให้เจ้าอุ้มได้ แต่แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ”เจียงหลินร้องขึ้นด้วยความยินดี จากนั้นนางจึงได้หันหน้ากลับไปเอ่ยบอกกับน้องชายตัวน้อยของตนเองที่ยังคงนั่งทำหน้าตาออดอ้อนอยู่ไม่ห่าง“ขอบรับพี่ใหญ่ ข้าจะอุ้มเจ้าให้เบามือที่สุดนะเสี่ยวไป๋”เจียงหยวนเอ่ยขอบคุณพี่สาวของตนเองจบ มือน้อย ๆ ของเขาก็ยื่นออกไปตรงหน้าเพื่อเตรียมรอรับร่างเล็ก ๆ

  • ทะลุมิติมารับบทพี่สาวของเจ้าสองแฝดพร้อมกับมิติห้างสรรพสินค้า   เสี่ยวไป๋

    ต้นยามเหม่าเจียงหลินก็ได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และพบว่าข้าง ๆ ตัวของนางในตอนนี้ได้มีเจ้าก้อนกลม ๆ กำลังนอนขดตัวหลับอยู่อย่างสบายใจ ริมฝีปากบางสวยจึงเผลอยกยิ้มด้วยความเอ็นดูในความน่ารักของมันไม่ได้เจียงหลินค่อย ๆ พาตัวเองลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับของเจ้าตัวเล็ก จนสามารถพาตัวเองลุกขึ้นจากเตียงนอนได้สำเร็จเมื่อเจียงหลินลงมายืนบนพื้นได้อย่างมั่นคงดีแล้วนางก็ได้เดินออกไปจากห้องนอนเพื่อไปเตรียมอาหารเช้าให้กับทุกคนในทันทีโดยอาหารเช้าในวันนี้เจียงหลินเลือกทำเป็นโจ๊กหมูสับ เพื่อให้ง่ายต่อการย่อยของเด็ก ๆ ส่วนอาหารมื้อเช้าของเจ้า เสี่ยวไป๋ เป็นชื่อที่นางตั้งให้กับเจ้าตัวเล็กในห้องนอนนั่นเองเจียงหลินทำหมูย่างให้กับเจ้าเสี่ยวไป๋แทน เพราะนางเองก็ไม่คิดว่าลูกพยัคฆ์จะสามารถกินอาหารหมากับแมวได้แต่ขนาดตัวของก็พอ ๆ กับแมวขนาดโตเต็มวัยอยู่ แต่มันก็ยังดูตัวเล็กในความรู้สึกของเจียงหลินอยู่เช่นเดิมถ้ามองจากรูปร่างของเจ้าเสี่ยวไป๋ในตอนนี้มันก็คงอายุได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้วอย่างแน่นอน ดังนั้นมันก็คงจะสามารถทานหมูย่างได้แล้วเมื่อคิดได้แบบนั้นเจียงหลินจึงได้เลือกทำหมูย่างให้มันน

  • ทะลุมิติมารับบทพี่สาวของเจ้าสองแฝดพร้อมกับมิติห้างสรรพสินค้า   เริ่มเปลี่ยนแปลง

    หลังจากที่เจียงหลินพูดคุยกับน้องทั้งสองจนเข้าใจกันดีแล้วนั้น ไม่นานนางจางที่ขายหมูจนหมดแล้วก็ได้กลับมาหาเจียงหลินอีกครั้งในช่วงปลายยามเซินเพื่อนำเงินกลับมามอบให้กับเด็กสาวอีกครั้ง และในการขายเนื้อหมูป่าในครั้งนี้ทำเงินให้กับเจียงหลินถึงห้าร้อยอีแปะ ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่มากสำหรับชาวบ้านยากจนเช่นพวกนางหลังจากที่นางจางมอบเงินให้กับเจียงหลินเสร็จเรียบร้อยนางก็ขอตัวกลับบ้านไปในทันที เพราะนางเองก็ยังมีงานบ้านรออยู่อีกมากไหนจะยังมีข้าวเย็นที่ยังไม่ได้ทำอีกเล่า เจียงหลินเองก็เข้าใจถึงเรื่องนี้ดี นางจึงคิดที่จะรบกวนหญิงวัยกลางคนไปมากกว่านี้ต้นยามโหย่วก็ถึงเวลาที่เจียงหลินจะต้องลงมือทำอาหารเย็นแล้ว และนี้ก็ยังเป็นครั้งแรกที่เจียงหลินต้องมาทำอาหารที่โลกแห่งนี้ แทนที่จะเป็นบ้านของตนเองในอีกที่แทนเพียงแต่ในตอนนี้ห้องครัวของนางยังคงขาดแคลนเครื่องมืออยู่มาก เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน เจียงหลินจึงได้เลือกหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับห่อใหญ่ออกมาห้าซองและนำไข่ไก่ออกมาอีกหนึ่งแผง ถ้วยอีกห้าใบ และสิ่งสุดท้ายที่สามารถนำออกมาได้ก็คือหม้อต้มเมื่อได้ของครบตามต้องการแล้วเจียงหลินจึงได้เริ่

  • ทะลุมิติมารับบทพี่สาวของเจ้าสองแฝดพร้อมกับมิติห้างสรรพสินค้า   บอกความจริง

    เจียงหลินใช้เวลาเก็บกวาดและล้างทำความสะอาดทั่วทั้งห้องครัวอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามจึงแล้วเสร็จในตอนนี้ภาพห้องครัวเก่า ๆ โทรม ๆ เมื่อหนึ่งชั่วยามก่อนหน้านั้น ในตอนนี้กลายเป็นห้องครัวที่ดูสะอาดขึ้นมาในทันทีแต่ภายในห้องนอกจากเตาดินเผาภายในห้องก็ไม่มีข้าวของเครื่องใช้อย่างอื่นเลย พวกหม้อ กระทะ ถ้วนชาม ช้อน เครื่องปรุงต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ยังไม่มีทั้งสิ้นแต่เจียงหลินก็ไม่ได้กังวลมากนัก เพราะนางมีข้าวของทุกอย่างครบอยู่ภายในมิติอยู่แล้ว จะติดก็เพียงแค่นางจะนำออกมาอย่างไรไม่ให้น้อง ๆ และท่านป้าจางสงสัยต่างหากเพราะเหตุนั้นเองนางจึงจำเป็นจะต้องหาตำลึงเงินมาไว้ในมือเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการนำข้าวของต่าง ๆ ออกมาได้อย่างไม่ต้องถูกสงสัยหลังจากที่ทำความสะอาดห้องครัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งในตอนนี้เจ้าสองแฝดเองก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา เจียงหลินจึงได้เดินกลับเข้าไปภายในห้องนอนใหญ่ที่ตกเป็นของตนเองแทนในตอนแรกนางตั้งใจจะให้น้องทั้งสองนั้นนอนที่ห้องนอนใหญ่ ส่วนตัวเองจะไปนอนห้องนอนที่เล็กลงกว่านี้แต่น้องทั้งสองของนางกลับไม่ยอมและยังบังคับให้นางนอนห้องนี้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ห้องนอนใหญ่ที่ถึงจะบอกว่ามันใหญ่

  • ทะลุมิติมารับบทพี่สาวของเจ้าสองแฝดพร้อมกับมิติห้างสรรพสินค้า   หมู่บ้านหนานเจียง

    เจียงหลินเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ชาวบ้านพากันใช้เดินทางจนในที่สุดก็ไปโผล่ที่ลำธารสายหลักของหมู่บ้านหนานเจียงแห่งนี้ได้ในที่สุดและตลอดทางที่นางเดินผ่านไปนั้นทั้งสองข้างทางก็เต็มไปด้วยต้นหญ้ารกบ้าง เตี้ยบ้าง บ้างก็มีผักป่าที่คนภายในหมู่บ้านไม่รู้จักและไม่กล้าเก็บมันกลับไปทำอาหารแต่สำหรับเจียงหลินที่รู้จักผักพวกนั้นแล้ว นางก็ไม่รอช้ารีบเก็บผักป่าพวกนั้นลงไปในตะกร้าเก่า ๆ ที่สะพายอยู่บนบ่าติดตัวมาด้วยอย่างขยันขันแข็งจนในที่สุดเจียงหลินก็เดินมาถึงลำธารที่เป็นเป้าหมายหลักในครั้งนี้ เมื่อมาถึงจุดหมายเป็นที่เรียบร้อย นางก็เริ่มมองสำรวจลำธารตรงหน้าในทันทีเพื่อหาดูว่ามีสิ่งใดที่น่าสนใจเหมาะสำหรับนำกลับไปทำเป็นอาหารเย็นของวันนี้ด้วยบ้าง และสายตาของเจียงหลินก็พบเข้ากับผักบุ้งน้ำที่เกิดขึ้นอยู่ตามริมฝั่งของลำธารสายนี้ที่มีจำนวนมากมายเป็นอย่างมาก แต่เมื่อนางมองเลยไปอีกเล็กน้อยที่มีต้นผักตบชวาขึ้นอยู่ไม่ไกล จู่ ๆ สายตาของนางก็สบเข้ากับเจ้าก้อนกลม ๆ สีขาวที่คล้ายกับลูกแมวตัวเล็กกำลังติดอยู่บนกอผักตบชวาเหล่านั้นด้วยความสงสารและนางเป็นคนที่รักสัตว์อยู่แล้วเจียงหลินจึงได้เร่งฝีเท้าเดินตรงไปยังริ

  • ทะลุมิติมารับบทพี่สาวของเจ้าสองแฝดพร้อมกับมิติห้างสรรพสินค้า   พวกท่านกลับไปเถอะ

    “ข้านะหรือเนรคุณ?”เจียงหลินเอ่ยสวนกลับนางเจียงด้วยน้ำเสียงไม่พอใจขึ้นมาถึงกับกล่าวหาที่ดูจะไม่สมเหตุสมผลของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย“ใช่! เจ้ามันเนรคุณ แทนที่ได้อาหารดี ๆ จะนำไปแบ่งให้กับท่านลุงของเจ้าที่อุตส่าห์เลี้ยงดูเจ้ากับน้อง ๆ มาตั้งหลายปี”“แต่นี่เจ้ากลับบอกให้พวกข้านำข้าวสารมาแลกเพื่อจะได้เนื้อหมูนี้ไปมันใช้ได้ที่ไหนกัน”นางเจียงที่ไม่ต้องการเสียข้าวสารแม้แต่เม็ดเดียวให้กับเจียงหลินจึงได้เอ่ยต่อว่าอีกฝ่ายโดยอ้างบุญคุณของสามีขึ้นมาเพื่อทำให้เด็กสาวตรงหน้ายอมมอบเนื้อหมูให้กับตนเองเปล่า ๆ เพื่อแทนคำขอโทษ“ท่านป้าสะใภ้นี่ช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตายิ่งนัก ในเมื่อท่านกล้ายกเรื่องบุญคุณขึ้นมาเช่นนี้ ข้าเองก็ขอยกบุญคุณที่ท่านพ่อท่านแม่เคยช่วยเหลือพวกท่านขึ้นมาพูดบ้างดีหรือไม่เจ้าคะ”“เงินสามตำลึงที่พวกท่านหยิบยืมจากท่านแม่ของข้า พวกท่านจะชดใช้ให้กับข้าเมื่อไหร่หรือเจ้าคะ?”“!!!”จบคำพูดของเจียงหลินใบหน้าของนางเจียงก็ตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที เพราะนางไม่คาดคิดว่าเด็กสาวน่าตายตรงหน้าจะกล้าเอ่ยทวงหนี้ตนเองต่อหน้าสองสามีภรรยาบ้านจางอย่างไม่ไว้หน้าตนเองเช่นนี้“ตำลึงอะไร?ข้าเคยหยิบยืมมารดาของเจ้ามา

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status