เมื่อราชาปีศาจที่โหดเหี้ยม ถูกผนึกไว้โดยเทพสงครามองค์ก่อน นางสละชีวิตตนเองสร้างผนึกขึ้นมาและไม่มีใครสามารถจะปลดผนึกนี้ได้ แต่เวลาผ่านไปหลายหมื่นปีกับมีหญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญไปทำให้ผนึกนี้ปลดออก
View Moreตอนที่ 1
40,000 ปีก่อน บนโลกนี้มี เผ่ามนุษย์ เผ่าเทพ เผ่าปีศาจ เผ่ามนุษย์ ผู้อ่อนแอที่สุด อยู่ท่ามกลางระหว่างเผ่าเทพและเผ่ามารที่กำลังทำสงครามกัน เกิดความสูญเสียมากมายขนานับ ราชาปีศาจเฉาเฟิง ผู้นำเผ่าปีศาจนำทัพปีศาจนับแสนนาย บุกสวรรค์ที่เผ่าเทพอาศัยอยู่ เผชิญหน้าสู่รบเผ่าเทพ ซึ่งนำทัพด้วยเทพสงครามเย่วหมี การทำสงครามสู่รับกันอยากรุนแรงและกินเวลายาวนานต่างฝ่ายต่างสูญเสีย เผ่ามนุษย์ได้รับผลกระทบอย่างหนักชาวบ้านอดอยากล้มตาย แผ่นดินแห้งแล้ง ต้นไม้ไร้ดอกออกผล ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป เผ่ามนุษย์ต้องสูญสิ้นเป็นแน่ องค์เง็กเซียน ทรงทราบถึงความลำบากยากแค้นของเผ่ามนุษย์ ผู้อยู่ท่ามกลางระหว่าง 2 เผ่า จึงสั่งการให้เทพสงครามเย่วหมี รีบเร่งทำศึกให้จบโดยเร็วไม่เช่นนั้นความสูญเสียจะเพิ่มขึ้นแน่นอน "ท่านเทพสงครามเย่วหมี เราขอให้ท่านจงรีบเร่งทำศึกกำจัดราชาปีศาจเฉาเฟิงที่โหดร้ายและพวกทหารของเผ่าปีศาจนั้นให้หมดสิ้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด จงทำให้สุดความสามารถของท่าน เราเชื่อว่าท่านทำได้ เหล่าทวยเทพจงไปช่วยกันกำกัดเผ่าปีศาจให้สิ้นสาก !!" "รับด้วยเกล้า ข้าจะต้องเอาชนะและกำจัด พวกผองเผ่าปีศาจให้หมดสิ้นเจ้าค่ะ" "เราเชื่อใจเจ้า ท่านเทพสงครามเย่วหมี ถึงแม้ท่านจะเป็นสตรี แต่ความสามารถและความแข็งแกร่งองอาจเจ้าหาแพ้บุรุษไม่ จงรีบเร่งไป เราขอมอบทหารสวรรค์ให้เจ้าอีกหนึ่งแสนนาย ให้เจ้านำทัพกำจัดศัตรูและนำชัยกับมาให้จงได้" ร่างบางอรชร แต่ดูแข็งแกร่งและห้าวหาญในชุดอาภรณ์สีขาวทับด้วยเกราะทำศึกที่ดูประณีต สวมหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ดูโดดเด่นและสง่า โดดขึ้นหลังม้าคู่กายแล้วลอยออกไปเป็นลำแสงสีขาวพร้อมทหารสวรรค์หนึ่งแสนนาย ชั่วพริบตานางและทหารกองทัพสวรรค์มาถึงเขตแดนระหว่างเผ่าเทพ และเผ่าปีศาจซึ่งด้านล่างก็คือเผ่ามนุษย์ที่ไม่รู้อีโนอีเน้ ต้องทนรับเคราะห์รับความลำบากอยู่ด้านล่างนั้น "คิดจะกำจัดศตรูต้องกำจัดหัวหน้าก่อน ทหารสวรรค์จงฟังข้า เมื่อข้าให้สัญญาณให้พวกเจ้าตั้งค่ายกลดักมารแปดทิศ ข้าจะเผด็จศึกราชาปีศาจเฉาเฟิงเอง" "รับทราบ" ทหารสวรรค์นับแสนแสนนาย กล่าวพร้อมกันทำให้เสียงดังสนั่น สะเทือนกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า เผ่าปีศาจ "หึ มาแล้วสินะ ข้าจะดู นางจะต้านข้าได้นานสักแค่ไหน" "ขอนายท่านอย่าประมาท นางเป็นถึงเทพสงครามของเผ่าเทพ ชื่อเสียงและความเก่งกาจเป็นที่ล่ำลือ นายท่านโปรดระวังตนด้วยด้วยขอรับ" ไป่รุ่ย (ปีศาจนกดึกดำบรรพ์คนสนิทราชาปีศาจ) "ข้ารู้ จะแค่ไหนกันเชียว ได้เวลาแล้ว กองทัพเผ่าปีศาจจงฟังข้า จงอย่ากลัวตาย จงสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้า เผื่อปากท้องของเรา แล้วคนที่เผ่า จงเอาชัยกับมา บุก !!!!!" ทั้งสองเผ่าพุ่งเข้าหากันสู่รบฟาดฟันกันอยากเอาเป็นเอาตาย เสียงดาบกระทบดังกึกก้องทั่วฟ้า ไม่มีใครยอมใคร การทำศึกกินเวลาผ่านไป 3 วันแล้ว เบื้องล่างที่เผ่ามนุษย์นั้นบ้างที่ลุกเป็นไฟบ้านเมืองเสียหาย ผู้คนล้มตาม เด็กกำพร้าพ่อแม่เพราะภัยจากสงครามเบื้องบน "ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบจบศึก ต้องเข้าใกล้ราชาปีศาจเฉาเฟิงให้ได้" เทพสงครามเยว่หมี ใช่พลังและดาบคู่ใจ ฟาดฟันศัตรูจนนับไม่ถ้วน จนมาเผชิญหน้ากับราชาปีศาจเมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากัน "นี้สินะ เฉาเฟิง ราชาเผ่าปีศาจแววตาของเขาช่างดูโหดเหี้ยมยิ่งนัก" "วันนี้ข้าจะต้องบั้นคอเจ้าด้วยดาบของข้า หยุดความเหี้ยมโหดของเจ้าให้ได้" เทพสงครามกล่าวด้วยท่าทีที่ดูองอาจพลันปลายดาบชี้ไปที่ราชาปีศาจ "ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าช่างดูเย่อหยิ่งและองอาจยิ่งนัก ข้าจะดูว่าเจ้าจะทำได้อย่างที่พูดไหม" ไม่รอช้าทั้งสองต่างพุ่งเข้าหาฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ลำแสงสีขาวและสีน้ำเงินต่างพุ่งเข้าหากันอย่างไม่หยุดยั่ง ราชาปีศาจเฉาเฟิงผู้ซึ่งครอบครองพลังจากไฟโลกันต์ฟาดฝ่ามือออกไปพร้อมลูกไฟโลกันต์นั้น ถ้าใครได้โดนก็ยากจะมีชีวิตรอด แต่เทพสงครามนั้นใช้ความไวหลบหลีกได้อย่างคล้องเเคล้ว เทพสงครามนางชูดาบขึ้น พลัดปลายดาบก็ปราฏสายฟ้าอัคนี นางตวัดดาบแล้วฟาดสายฟ้าใส่ ราชาปีศาจเฉาเฟิงอย่างไม่ยั้ง แต่ก็หาได้ระคายเคืองไม่ ราชาปีศาจเฉาเฟิงใช้วิชาหลบหลีกจนหาตัวจับไม่ทัน เมื่อสายฟ้าหยุดลง ไฟโลกันต์ลูกใหญ่ก็พุ่งเข้าหาเทพสงครามอย่างรวดเร็ว นางรีบหลบอย่างไวแต่หาหลบทันไม่ ลูกไฟนั้นได้เฉียดนางไป ทำให้นางล้มลงได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง นางรีบฝืนกายลุกขึ้นยืนเพื่อไม่ให้เสียเวลา รวบรวมพลังและปล่อยดาบออกไปอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่ราชาปีศาจตั้งต้วได้ ด้วยความประมาทที่คิดว่านางจะบาดเจ็บอยู่ จึงไม่ทันระหว่างดาบก็พุ่งเข้ามาแทงตรงกลางอก ทำให้เฉาเฟิงเสียหลัก และสามารถหยุดราชาปีศาจได้สักชั่วคราว นางเห็นดังนั้นเผื่อไม่ให้เสียโอกาส จึงเรียกทหารสวรรค์ นางตะโกนอย่างสุดเสียง "ตั้งค่ายกล" ทหารสวรรค์ทั้งหลายได้ยินดังนั้นจึงรุจไป ล้อมรอบตั้งค่ายกลตามที่เคยฝึกฝนและล่ำเรียนมา และปล่อยพลังปราณเป็นลำแสงสีขาว ล้อมรอบราชาปีศาจไว้อย่างสุดกำลัง ด้านราชาปีศาจเฉาเฟิงเมื่อเห็นว่าตนเองกำลังเสียเปรียบจึงใช้ไฟโลกันต์แผดเผาออกไปทั้งที่ดาบยังปักคาอยู่ที่อก เหล่าทหารถึงมีจำนวนคนมากกว่าแต่ก็ไม่สามารถต้านทานไฟโลกันต์ของราชาปีศาจได้นานนัก เทพสงครามเห็นดังนั้นจึงคิดที่จะเสียสละดวงจิตของตนเองเพื่อผนึกราชาปีศาจไว้ ไม่รอช้านางรวมรวบพลังทั้งสองสาย คือพลังปราณทั้งหมดจากการบำเพ็ญตบะมานับหมื่นๆ ปี และพลังจากต้นจิตของนาง นางเรียกดาบคู่กายนางกับมาและปล่อยพลังทั้งหมดอย่างสุดกำลังพุ่งออกไปใส่ราชาปีศาจ "ข้าต้องทำวิธีนี้ ผู้คนทุกเผ่าถึงจะปลอดภัย ชีวิตผาสุขไร้กังวล" ร่างของนางทรุดลงกองกับพื้นอย่างหมดเรียวแรงเหม่อมองดูภาพตรงหน้า ไม่ทันที่ราชาปีศาจจะตั้งตัว พลังอันแข็งแกร่งมหาศาลนั้นพุ่งเข้าใส่ลำตัวเข้าอย่างจัง เหมือนเวลาจะหยุดลง ทุกสิ่งรอบๆตัว เหล่าทหารทั้งสองเผ่าต่างตะลึงอึึ้ค้าง ราชาปีศาจนิ่งเงียบตัวลอยอยู่กลางอากาศมีปรานพลังหมุนรอบตัว ชั่วอึดใจปราณพลังมหาศาลนั้นหมุนเร็วขึ้นและหนาขึ้นจนมองไม่ร่างของเฉาเฟิง พร้อมกับล่วงลงไปยังเขาอู่หลิงหยวน เผ่ามุษย์ซึ่งอยู่ห่างไกลนับหมื่นลี้ ทหารสวรรค์สองสามนายวิ่งไปหาเทพสงครามไต่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น "ข้าใช้พลังปราณทั้งหมดที่บำเพ็ญมา ผสานกับพลังจากต้นจิตของข้าต่อสู่กับราชาปีศาจ และตอนนี้สามารถผนึกราชาปีศาจเฉาเฟิงไว้ได้แล้ว และจะไม่มีผู้ใดปลดผนึกนั้นได้นอกจากข้า" "แต่ท่านใช้พลังปราณทั้งหมด และพลังจากต้นจิตเช่นนี้ ดวงจิตท่านจะแตกสลายไม่อาจเรียกคืน และท่านจะตายด้วยนะท่านเทพ" ใบหน้าซีดขาวยกยิ้มเจือดๆ "ข้ารู้ แต่มีแค่วิธีนี้ ที่สามารถหยุดราชาปีศาจได้ พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าเต็มใจ และต่อจากนี้ราชาปีศาจจะถูกผนึกตลอดไป" น้ำเสียงแหบและค่อย ๆ เบาลง พร้อมกับรางบางอรชรในชุดอาภรณ์ ทำศึกค่อยๆ สลายเป็นประกายสีขาวลอยตามลมไปบนฟากฟ้าไม่นานก็จางหายไป สร้างความเศร้าโศกาให้แก่พวงผองทหารที่เหลืออยู่ยิ่งนัก ทหารทุกนายต่างยืนไว้อาลัยให้แก่เทพสงครามเย่วหมีอย่างสุดซึง ฝั่งพวกเผ่าปีศาจ เมื่อเห็นว่าราชาของเผ่าตนเสียท่าถูกเทพสงครามผนึกไว้ จึงหนีหายกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง สงครามจบลง เผ่าเทพและมนุษย์อยู่อย่างสงบไร้กังวล เผ่าปีศาจได้กายเป็นที่รกร่างแห้งแล้ง บางตนล้มตายเพราะอดอยาก บางตนแฝงตัวอยู่ในเผ่ามนุษย์บำเพ็ญเพิ่มตบะกลับตัวสะสมความดี ปีศาจบางตัวแม้มีตบะสูงแต่ทำชั่วมักจะถูกเผ่าเทพตามล่าและจับตัวไปขังคุกสวรรค์ จนเวลาล่วงเลยไป..............ตอนพิเศษ สี่ปีผ่านไปทั้งสามเผ่าต่างอยู่กันอย่างสงบสุข แต่จะมีอยู่สถานที่หนึ่ง "ท่านอา" "ท่านอาหลิงเฮ่อต้องให้ข้าก่อน" "ท่านอา ให้นางไปก่อนก็ได้ขอรับข้าเป็นผู้ชาย ที่แข็งแกร่งย่อมต้องเสียสละให้สตรีก่อน" เสียงเจือยแจ้วขององค์ชายปีศาจน้อยวัยสามขวบกว่านามว่า " ลู่เฟย" "ใช่เจ้าค่ะท่านอา ต้องให้ข้าก่อนสิเจ้าค่ะ" เสียงองค์หญิงปีศาจน้อย "ลู่เอิน" จอมเอาแต่ใจ ปีศาจน้อยฝาแฝดชายหญิง วัยสามขวบกว่า ๆ ตัวอ้วนกลมแก้วยุ้ย น่ารักน่าชังตามติดหลิงเฮ่อที่มีศักดิ์เป็นอา ตลอดเพราะหลิงเฮ่อเลี้ยงมาตั้งเเต่เล็กค่อยตามใจและชอบหาของเล่นแปลก ๆ มาให้เจ้าปีศาจน้อยทั้งสอง "พอแล้วไม่ต้องแยกกัน อามีสองอัน นี้!! เห็นไหม" "เย้ เย้" เย้ เย้" เสียงปีศาจน้อยทั้งสองร้องอย่างดีใจ และเล่นอย่างสนุกสนาน หลิงเฮ่อใช้มือบีบแก้มเด็กทั้งสองเบา ๆ อย่างเอ็นดู "เจ้าก้อนแป้งของอา อาให้เล่นอีกหนึ่งชั่วยาม เสร็จเเล้วเราจะมาฝึกวิชาต่อจากเมื่อวาน ถ้าวันนี้ฝึกก้าวหน้าอาจะพาไปเที่ยวเผ่ามนุษย์" "เย้ เย้ ข้าอยากไปขอรับ" ลู่เฟยกระโดดร่างที่ตุ้ยนุ้ยดีใจ "อยากไปเดี๋ยวเจ้าต้องตั้งใจฝึกนะ" "ขอรับ" "ลู่เอิน เจ้าไม่อยาก
ตอนที่ 38 เฉาเฟิงกลับมาถึงเผ่าปีศาจ ไป่รุ่ยจึงจัดการทำแผลให้เจ้านาย ที่เอาแต่นิ่งเงียบใบหน้าเรียบเฉย ตั้งแต่ออกมาจากเผ่าเทพแล้ว "นายท่านบาดแผลไม่ลึกมากขอรับ" "ข้ารู้แล้วเจ้าออกไปเถอะ" "ขอรับ" ชายหนุ่มตอบองค์รักษ์ด้วยน้ำเสียงเงียบเฉยที่คนฟังแล้วก็ดูออกว่า เขากำลังโศกเศร้าอยู่ ไป่รุ่ยจึงปล่อยให้เฉาเฟิงได้อยู่คนเดียวก่อน ทว่าขณะที่ออกมาจากห้องบรรทม ก็พบกับครอบครัวของชีเหนียงที่มาไถ่ถามถึงชีเหนียงด้วยความเป็นห่วง ไป่รุ่ยได้แต่อึกอักไม่กล้าที่จะตอบ จึงเกิดเสียงเอะอะขึ้น ราชาปีศาจได้ยินดังนั้น เขาก็เปิดประตูออกมา "นางปลอดภัยดี เดี๋ยวข้าจะพาไปพบนาง" (พาครอบครัวนางไปนางอาจจะจำอะไรได้) เฉาเฟิงคิดในใจ เหตุการณ์เอะอะเมื่อครู่นี้จึงสงบลง เฉาเฟิงเลยเดินไปหาหลิงเฮ่อต่อ ก็เจอกับเฟยอวี่พอดี "นายท่านหลิงเฮ่อ ฟื้นแล้วขอรับ" เฟยอวี่แจ้งเฉาเฟิงด้วยความดีใจ เฉาเฟิงได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินให้เร็วขึ้น เมื่อเปิดประตูเข้าไป เฉาเฟิงก็เห็นคนที่พึ่งจะฟื้นยืนอยู่ จึงรีบเดินไปประคองส่งกับไปยังเตียงนอน "ท่านพี่ข้าหายแล้ว" "หายแล้วก็อย่าขยับมากเดี๋ยวแผลจะปริออกได้" "ขอรับ ข้ารู้แล
ตอนที่ 37 เผ่าเทพซีฮ่าวกลับถึงเผ่าเทพ รีบไปรายงานต่อองค์เง็กเซียนทันที ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าไป เทพสงครามเยวหมีนางก็เดินสวนออกมา "ท่านเทพสงครามเยว่หมี" ซีฮ่าวเอ่ยเรียกสตรีที่ดูท่าทางองอาจเบื้องหน้า นอกจากรูปร่างหน้าตา ก็คือบุคลิกที่สามารถดูออกได้ว่านางคือคนละคนกัน "เจ้าคือเทพสองครามซีฮ่าว ข้าจะไปพักที่ตำหนักเจ้า ขอตัวก่อน" นางพูดจบก็เดินกลับไปทันที ซีฮ่าวได้รายงานเรื่องราวต่าง ๆ แก่องค์เง็กเซียนทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน รวมถึงเรื่องที่หญิงมนุษย์คนนั้นก็คือเทพสงครามเย่วหมี "นางเล่าให้ข้าฟังทุกอย่างแล้ว นางจำทุกอย่างได้แม้ตอนที่เป็นเศษเสี้ยวดวงจิต" "ขอรับ แต่หญิงคนนั้น นางคือคนรักของราชาปีศาจเฉาเฟิงขอรับ" "......" องค์เง็กเซียนไม่ได้กล่าวอันใดออกมา ได้แต่เอามือลูบเครายาวๆ และยิ้มออกมา ซีฮ่าวกลับมายังตำหนัก ได้พบกับเทพสงครามเยว่หมี จึงได้พูดคุยกัน เยว่หมีจึงได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายรวมถึงหลิงเฮ่อ น้องชายของราชาปีศาจที่ตามหาดวงจิตนางเพื่อปลดผนึก "แล้วตอนนี้ชีเหนียงนางตายแล้วหรือขอรับ" "นางก็อยู่นี้ไง" เยว่หมี่ใช้นิ้วชี้จิ้มมาที่ตนเอง ใบหน้าซีฮ่าวบงบอกถึงความงุน
ตอนที่ 35 "ข้ารักเจ้า" นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เเล้วทุกอย่างก็มืดสนิท ชีเหนียงรู้สึกว่าตัวนางเองยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันว่างเปล่าไปหมด "นี้ข้าตายแล้วใช่ไหม" นางพูดคนเดียวแล้วทรุดเข่านั่งลงกับพื้น น้ำตาเริ่มรินไหลออกมา ไหล่บางสั่นไหวสะอื้นไห้ นึกภาพดวงตาที่แดงกร่ำของเฉาเฟิงเมื่อครู่นี้ได้ดี ท่ามกลางความเงียบในที่มืดแห่งนั้นนอกจากเสียงร่ำไห้ กับมีเสียงฝีเท้าคนเดินใกล้เข้ามา จนมาหยุดอยู่เบื้องหน้านาง ชีเหนียงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง "ท่าน…" "รอข้า" สิ้นคำพูดนางทุกอย่างสว่างจ้า ร่างโชกเลือดของชีเหนียงจู่ๆ ก็ลอยขึ้นมาพร้อมปราณพลังหมุนอยู่รอบกาย บาดเเผลที่โดนแทงนั้นเริ่มจางหายไป เสื้อผ้าอาภรณ์เปลี่ยนใหม่กลายเป็นชุดประจำตัวของนาง "เทพสงครามเย่วหมี" นางชูกระบี่ขึ้นฟ้าฉับพลันเกิดสายฟ้าวิ่งไปมาอยู่ที่ปลายดาบ นางฟาดกระบี่ใส่มารทั้งสอง จนเกิดแสงสว่างวาบไปทั่ว เมื่อเเสงสว่างนั้นดับลง มารทั้งสองเจ็บปวดราวถูกทัณฑ์อัคนีสักร้อยสาย นางหันใบหน้ามาทางราชาปีศาจ "ใช้ พลังไฟโกันต์ของเจ้าเเผดเผามันให้สิ้นซาก" เฉาเฟิงไม่รอช้าปล่อยพลังไฟโลกันต์ทำลายล้างไอมารและแผดเผาจื่อหยา
ตอนที่ 36 ฮวนชินค่อยๆ ลุกเขารวบรวมพลังทั้งหมดยกกระบี่ขึ้น อาศัยจังหวะที่เฉาเฟิงกำลังต่อสู่อยู่ไม่ทันได้สังเกต พุ่งกระบี่เข้าหาเฉาเฟิงทันที "ระวัง !!" เป็นจังหวะเดียวกับที่ซีฮ่าว เห็นฮวนชินพุ่งกระบี่ไปด้วยความเร็ว เขาจึงตระโกนอย่างสุดเสียง แต่จากจุดที่ซีฮ่าวอยู่ไกลจากตรงนั้นมากนักจึงไปขวางฮวนชินไม่ทัน หลิงเฮ่อเห็นเข้าพอดีจึงรีบเอาตัวเข้ามารับกระบี่แทน กระบี่ของฮวนชินแทงทะลุอกของหลิงเฮ่อทันที เฉาเฟิงเห็นหลิงเฮ่อถูกแทงต่อหน้าต่อตา เขาตกใจเป็นอย่างมาก รีบเข้าไปรับตัวหลิงเฮ่อเอาไว้แล้วใช้ไฟโลกันต์ฟาดใส่ฮวนชินเต็ม ๆ ซีฮ่าวจึงรีบมาต่อสู่ขัดขวางมารจื่อหยางต่อ "หลิงเฮ่อ !! หลิงเฮ่อ " เฉาเฟิงประคองเรียกน้องชายไม่หยุดปาก เลือดสดๆ เริ่มไหลทะลักออกจากบาดแผล พร้อมกับสติที่ใกล้จะเลือนลาง "ท่านพี่ข้าไม่เป็นไร" น้ำเสียงแผ่วเบาที่เล็ดลอดผ่านริมฝีปากที่ปนเลือดออกมา รอยยิ้มที่อ่อนแรงลง ส่งให้พี่ชายที่ตนรักและเคารพ "เจ้าต้องไม่เป็นอะไร เชื่อพี่ " เฉาเฟิงปลอบใจหลิงเฮ่อ ขณะที่เฟยอวี่องค์รักษ์ของหลิงเฮ่อมาถึงพอดี "ดูแลน้องข้าให้ดี" เฉาเฟิงออกคำสั่งต่อเฟยอวี่ เขาลุกขึ้นยืนเตรียมตัวออกไปสู่ต่อ
ตอนที่ 34 รุ่งเช้าวันใหม่ชีเหนียง ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบไปทั่วร่างกายพร้อมร่องรอยรักสีกุหลาบที่ชายหนุ่มทิ้งไว้บนเนินอกอิ่มทั้งสองข้าง นางหันมองหาคนที่นอนข้าง ๆ แต่พบกับความว่างเปล่า "เขาหายไปไหนนะ นี้ยังเช้าอยู่เลย" นางลุกจากเตียงนอนชำระร่างกายจนสะอาดเลือกสวมอารมณ์ชุดใหม่สีหวานขับผิวเนียนแลดูงดงาม ชีเหนียงออกจากห้องเดินตามหาเฉาเฟิงจนมาถึงโถงว่าการ "ไปไหนนะ ไหนบอกให้ข้าอยู่ในสายตา แต่ตัวเองดันหายไป" นางเดินเข้ามาในโถงว่าการกับพบแต่ความว่างเปล่า มีทหารปีศาจเฝ้าอยู่แค่สองคน นางกำลังจะเอ่ยถาม แต่แล้วกับได้ยินเสียงฝีเท้าคนกำลังเดินเข้ามา นางจึงหันไปทางต้นเสียงนั้น "พี่ชีเหนียง" เสียงเจ้าแฝดอาฉี อาเฟย ที่กำลังเดินเข้ามาหานาง โดยด้านหลังของทั้งสองยังมีลุงเกาที่กำลังเดินมาอีกคน "ลุงเกา อาฉี อาเฟย มาได้ยังไง"ชีเหนียงเอ่ยเรียกทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขแฝงไปด้วยความคิดถึง ทั้งสองฝ่ายเดินเข้าหากันจนถึงตัวก็กอดกันกลมและถามสารทุกข์สุขดิบตามปกติเหมือนที่เคยทำ"นี้มากันได้ยังไง""ก็สัตว์ปีศาจของพี่เฉาเฟิงไง" ชีเหนียงมองตามมือที่อาเฟยชี้ไปที่ทหารปีศาจคนหนึ่งที่พึงเดินตามหลั
ตอนที่ 33 ชีเหนียงรับสุราที่ชายหนุ่มส่งให้ ยกขึ้นดื่มอีกสองสามจอก ใบหน้าเริ่มร้อนพลาว นางพ่นลมออกทางปากดังฟู่ พร้อมกับนิ้วมือเรียวที่กำลังหยีแก้มตนเองเบาๆ ทั้งสองข้าง จนปีศาจหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างลอบขำนางอยู่เบาๆ "เจ้าเอาสุราแบบนั้นให้ข้ากินเหรอ" "แบบไหน" ปีศาจหนุ่มแกล้งทำไขสือ "ก็แบบนั้นไง" ชีเหนียงจ้องไปยังดวงตาคู่นั้น "สุราธรรมดา" "ทำไมข้ารู้สึกร้อนๆ " "เจ้าคออ่อน ไหนให้ข้าดูสิ" เฉาเฟิงจับมืทั้งสองของนางออกจากใบหน้า ใช้นิ้วหัวแม่เกลี่ยเเก้มเนียนวนไปมา แล้วมาหยุดที่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม เขามองอย่างถูกมนต์สะกด ใบหน้าหล่อค่อยๆเอนลงไป ริมฝีปากบางก็ถูกจูบอย่างอ่อนโยน เสียงบดจูบเริ่มดังยั่วเย้าทามกลางความเงียบสงัด ทั้งสองหนุ่มสาวต่างหายใจแรงจนได้กลิ่นเคล้าสุราจางๆ พาอารมณ์เริ่มพลุกพล่าน มือใหญ่เริ่มคลำดึงเสื้อผ้าผ่อนให้หลุดออกจากร่างเล็ก ขณะเดียวกันนางก็ทำเช่นเดียวกับเขา ระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งคู่ก็อยู่ในร่างเปลือยเปล่า ชายหนุ่มจูบหนักหน่วงและอ่อนนุ่มสลับไปมา เขาตักตวงความอ่อนหวานอย่างโหยหา ลิ้นร้อนพัวพันในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่โอบแผ่นหลังร่างบางจนอกบดบี้อยู่ก
ตอนที่ 31 โถงว่าการ "เจ้าเองหรือ คนเผ่าเทพ" "ใช่ข้าเอง" เทพสงครามซีฮ่าวกล่าวพร้อมยื่นสารของเผ่าเทพที่องค์เง็กเซียนทรงเขียนขึ้นมาด้วยตนเอง ส่งให้ไป่รุ่ยและไป่รุ่ยก็นำไปส่งให้เฉาเฟิงต่อเฉาเฟิงเปิดอ่านดูเนื้อความข้างในสารนั้นทุกบรรทัดจนจบอย่างพินิจและตั้งใจ ราชาปีศาจเมื่ออ่านจบก็ว่างสารจากเผ่าเทพลง "ข้ารับรู้แล้ว" ราชาปีศาจกล่าวกับเทพสงครามหนุ่ม หลิงเฮ่อและคนอื่นที่อยู่ในโถงว่าการงุนงงกับเหตุการณ์นี้ และสารจากเผ่าเทพนั้น ต่างหันไปหารือกันจนเกิดเสียงดัง "เงียบ!!!!" เฉาเฟิงตวาดเสียงดังลั่นทุกคนต่างเงียบ เหตุการณ์กับมาสู่ปกติอีกครั้ง ราชาปีศาจจึงส่งสารนั้นให้ไป่รุ่ย ไป่รุ่ยรับมาอย่างรู้งานเเละเริ่มเปิดอ่านให้ทุกคนที่อยู่ในโถงว่าการได้ฟังพร้อมเพียงกัน ด้วยเสียงอันดังฟังชัด เมื่อทุกคนได้ฟังต่างก็พอจะเข้าใจถึงเนื้อหาในสารนั้นแล้ว ต่างพูดคุยเเสดงความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับราชาปีศาจของตน และรู้สึกดีต่อคำขอโทษของคนเผ่าเทพ แต่ที่สำคัญที่สุดเพราะราชาปีศาจของตนยินดีที่จะให้อภัย ทุกคนเลยเห็นงามด้วย เพราะที่ผ่านมาเกิดสงครามและความยัดแย้งมาตลอดซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประช
"ซี๊ด…. ชีเหนียงเจ้า.." ชีเหนียวใช้มือที่ลูบใบหน้าชายหนุ่ม เลือนมารั้งตรงท้ายทอยเขาเเล้ว นางประกบปากลงจูบชายหนุ่มอย่างเร่าร้อน ส่งลิ้นเรียวเล็กเข้าไปสำรวจช่องปากเขา โดยที่มืออีกข้างก็ยังไม่ลืมหน้าที่ปลุกเร้าอารมณ์ จากลูบเร่าผ่านอาภรณ์ ตอนนี้เลือนมือลวงเข้าไปผ่านกางเกงชายหนุ่ม สัมผัสกับท่อนเนื้อลำใหญ่แข็งเต็มที่ ขนาดที่มือเล็กแทบจะกอบกำไม่รอบ นางผละจูบออกอย่างอ่อยอิ่ง ริมฝีปากจิ้มลิ้มโลมเล็มไปตามกรอบหน้าจนถึงใบหู สร้างความเสียวซ่านทั้งช่วงบนและล่างให้ชายหนุ่ม "ข้าก็คิดถึงเจ้า" นางกระซิบเสียงเเห่บพล่า ที่ใบหูจนชายหนุ่มขนลุกซู่กับเสียงของนาง ชายหนุ่มเอนหลังลงเล็กน้อยสองมือวางท้าวไปบนที่นอน ใบหน้าสวยเลือนลงมาหยุดอยู่ตรงแผ่นอก นางเริ่มขบเม้นไล่ลงมาเรื่อย จนใบหน้าอยู่ตรงกลางหว่างขา เฉาเฟิงแยกขาออกเพื่อให้นางนั่งได้ถนัดขึ้น ชีเหนียงมองแท่งร้อน ที่อยู่ไม่ไกลจากใบหน้ามีน้ำใสไหลเยิ้มที่ปลายหัวหยก มือเรียวค่อยๆ กอบกำจนเต็มทั้งสองมือ นางใช้นิ้วหัวแม่มือถูวน ที่ปลายหัวหยกนั้น เฉาเฟิงเงยหน้าพลูลมหายใจแรง เขารู้สึกวาบหวิวเสียวที่ปลายหัวหยก จนอยากจะร้องครางออกมา นางขยับใบหน้าให้ใกล้มากขึ้น
Comments