Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน / ตอนที่ 1 ทะลุมิติสู่เพิงไม้ผุพัง  

Share

ตอนที่ 1 ทะลุมิติสู่เพิงไม้ผุพัง  

last update Last Updated: 2025-12-05 17:47:32

ตอนที่

1

ทะลุมิติสู่เพิงไม้ผุพัง

       “อ๊ะ!!! ซุปฟักทองของฉัน”

      มี่มี่ เชฟสาวผู้โด่งดังจากช่องรีวิวอาหารออนไลน์ ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับความรู้สึกหนักอึ้งทั่วร่าง และกลิ่นเหม็นอับคล้ายราที่ลอยอยู่ในอากาศ ไม่ใช่กลิ่นหอมของเนยและพริกไทยที่คุ้นเคยอีกต่อไปและตอนนี้เธอไม่ใช่มี่มี่อีกต่อไป ตอนนี้คือ หลินหว่านเอ๋อร์ สตรีที่เป็นหม้ายเพราะสามีทิ้งไปมีภรรยาใหม่แถมยังทิ้งลูกไว้สองคนให้นางเลี้ยงเพียงลำพัง

       ความทรงจำมากมายของร่างเก่าไหลบ่าเข้ามาในห้วงความคิดของมี่มี่ อย่างรวดเร็ว ทำให้เธอรับรู้ถึงความเจ็บปวดและความอัปยศที่หว่านเอ๋อร์ต้องเผชิญ การถูกสามีทอดทิ้งอย่างเลือดเย็นเพื่อไปอยู่กับสตรีคนใหม่ที่ร่ำรวยกว่า มิหนำซ้ำยังทิ้งหนี้สินและลูกน้อยไว้ให้ภรรยาเก่าแบกรับความยากลำบาก นี่คือเหตุผลที่ร่างนี้เลือกจบชีวิตลงด้วยความสิ้นหวัง

       “ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารอะไรอย่างนี้” มี่มี่ในร่างกายของหลินหว่านเอ๋อร์สบถในใจอย่างเดือดดาล

       “สามีสารเลว!!! ญาติชั่ว!!! หว่านเอ๋อร์เจ้าไม่ต้องกังวลไปในเมื่อข้าเข้ามาอยู่ในร่างของเจ้าแล้ว ข้าจะไม่มีวันให้ใครมาเหยียบย่ำร่างกายของเจ้าได้อีก ลูกๆ ของเจ้าก็คือลูกของข้า ข้าจะดูแลให้ดีที่สุด”

       “แต่ตอนนี้ข้าต้องทำอะไรก่อน ฉันข้าต้องทำอย่างไรต่อไป” หลินหว่านเอ๋อร์พึมพำกับตัวเองอย่างสับสน การสลับคำว่า ข้ากับฉัน ยังคงเกิดขึ้นบ่อยครั้งเพราะสมองของเธอยังประมวลผลระหว่างสองยุคไม่ทัน แต่สัญชาตญาณสำคัญที่สุดของเชฟก็สั่งการทันที

       “ต้องหาอะไรกินก่อน!!!”

       ร่างกายนี้อ่อนแอเกินไปจนน่าใจหาย ซ้ำยังส่งเสียงร้องประท้วงจากความหิวโหยอย่างรุนแรง

       ขณะที่หลินหว่านเอ๋อร์พยายามพยุงตัวลุกขึ้นยืน เสียงเล็กๆ สองเสียงก็ทำให้เธอต้องหยุดชะงัก ริมประตูมีเด็กชายและเด็กหญิงสองคนยืนมองนางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงและระมัดระวัง

       เด็กชายคนโต อาเป่า วัยเจ็ดขวบ ใบหน้าเล็กๆ ซูบผอมจนเห็นโหนกแก้ม ดวงตาคู่โตฉายแววฉลาดเกินวัย แต่เต็มไปด้วยความกังวล เขายืนกอด อาเหมย ผู้เป็นน้องสาวไว้แน่น เป็นเหมือนเสาหลักเล็กๆ ที่พร้อมจะปกป้องน้องจากอันตรายทุกอย่าง แม้กระทั่งจากผู้เป็นแม่ของตนเอง

       “ท่านแม่” อาเป่าเอ่ยเสียงเบาหวิว

       “ท่านแม่ตื่นแล้ว...”

       “ท่านแม่ ข้าหิว...ฮือๆ ๆ” อาเหมยวัยสี่ขวบพูดไปร้องไห้ไป พลางเอามือลูบท้องตัวเองอย่างน่าสงสาร

       หลินหว่านเอ๋อร์รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบอัดจนเจ็บปวดเมื่อเห็นสภาพของเด็กๆ ทั้งสองพวกเขาผอมแห้งจนน่าใจหาย ความรักและความสงสารจากสัญชาตญาณความเป็นแม่ก็พุ่งพล่านขึ้นมาทันที

       หลินหว่านเอ๋อร์ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ แม้จะยังมึนๆ อยู่เล็กน้อย เมื่อนางเดินไปถึงเด็กน้อยสองคนนางยื่นมือออกไปพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุด

       “ไม่ต้องกลัวนะลูก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แม่คนนี้จะไม่ยอมให้พวกหนูต้องหิวอีกแล้ว” นางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงอย่างที่ร่างเดิมไม่เคยทำได้

      

พุดดิ้งไข่ลูกรัก : อาหารจานแรก

หลินหว่านเอ๋อร์พาลูกๆ เข้าไปในห้องครัวเก่าๆ ที่มแต่คราบเขม่าดำปี๋ นางค้นหาวัตถุดิบอย่างเชฟที่กำลังอยู่ในช่วงล่าสมบัติ เธอพบข้าวสารเก่า ไข่ไก่ สามฟอง นมแพะที่เหลือติดก้นหม้อและน้ำผึ้งป่าสีเข้าในไหเล็กๆ ที่ซ่อนไว้

“เยี่ยม แค่นี้ก็พอสำหรับเมนูนี้” หลินหว่านเอ๋อร์พึมพำด้วยความตื่นเต้น

       แม้จะไม่มีมีดเชฟราคาแพง ไม่มีเตาอบไฟฟ้า แต่ฉันคือเชฟมี่มี่นะ ปลายจวักของฉันไม่เคยพ่ายแพ้ต่อวัตถุดิบขาดแคลน ความมั่นใจที่มากล้นฉายชัดในแววตา

       ขณะที่หลินหว่านเอ๋อร์กำลังจะลงมือจัดการกับวัตถุดิบ เสียงร้องไห้ของอาเหมยก็ดังขึ้นอีกครั้ง

       “ฮือๆ ๆ ท่านแม่ ข้าหิวจนท้องจะขาดแล้ว หิวๆ ๆ ท่านแม่ทำอาหารให้ข้าหน่อย ฮือๆ ๆ ข้าหิวเหลือเกิน” เด็กหญิงวัยสี่ขวบโผเข้ากอดขาผู้เป็นแม่ งอแงด้วยความหิวโหยที่สะสมมานานหลายวันจนสุดจะทานทนไหว

       อาเป่า ผู้เป็นพี่ชาย แม้จะไม่ได้ร้องไห้ แต่ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัดและคอยลูบหลังน้องสาวเพื่อปลอบโยนอย่างเงียบๆ

       หลินหว่านเอ๋อร์รีบคุกเข่าลงกอดลูกสาวตัวน้อยไว้ “โอ๋ๆ ๆ ลูกรัก ไม่ร้องนะจ๊ะ แม่กำลังจะทำอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกให้พวกหนูกินเดี๋ยวนี้แหละ อดทนอีกนิดเดียวเท่านั้นนะ”

       นางจัดการกับวัตถุดิบอย่างเชี่ยวชาญ นำไข่มาตีผสมกับนมแพะและน้ำผึ้งอย่างพิถีพิถัน แม้จะไม่มีเครื่องตีหรือเครื่องกรองทันสมัย แต่นางก็ใช้ตะเกียบไม้คู่เก่าและผ้าตาข่ายเก่าๆ ที่นางพบมาทำงานแทนได้อย่างน่าทึ่ง การกระทำที่คล่องแคล่วและมั่นใจนี้แตกต่างจากหลินหว่านเอ๋อร์คนเดิมอย่างสิ้นเชิง

       “นี่คือเคล็ดลับนะ อาเป่า” หลินหว่านเอ๋อร์หันไปพูดกับลูกชายที่มองนางอย่างไม่กะพริบตา

       “ถ้าอยากให้มันเนียนนุ่มเหมือนเมฆ ต้องตีให้เข้ากัน แต่ไม่ถึงกับเป็นฟอง”

       เมื่อส่วนผสมพร้อม นางนำมันไปนึ่งด้วยไฟอ่อนๆ บนเตาดินเผาเก่าๆ อย่างใจเย็น การควบคุมความร้อนด้วยเตาโบราณเป็นเรื่องท้าทาย แต่ความชำนาญในวิชาชีพก็ช่วยให้นางทำได้สำเร็จ

       ไอน้ำที่ลอยออกมาจากหม้อนึ่งไม่ได้มีแค่ความร้อน แต่ยังเต็มไปด้วย กลิ่นหอมหวานของนมและไข่ที่อบอวลไปทั่วเรือนเก่าๆ

       หลินหว่านเอ๋อร์ตักพุดดิ้งไข่ใส่ชามดินเผาสองใบและนำไปวางตรงหน้าลูกทั้งสอง

       อาเหมยหยุดร้องไห้เพราะได้กลิ่นหอม รีบคว้าช้อนไม้ขึ้นตักเข้าปากคำใหญ่ทันที ดวงตาของเด็กหญิงเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจระคนดีใจ รสชาติหวานมันละมุนลิ้นและอบอุ่นนั้นเติมเต็มความว่างเปล่าในท้องของสาวน้อยอย่างอิ่มเอมใจ

       “อร่อยเจ้าค่ะ ท่านแม่ มันอร่อยมาก ข้าไม่เคยกินอะไรอร่อยเช่นนี้” อาเหมยพูดเสียงอู้อี้ จนแก้มป่องไปด้วยความสุข และเลิกสนใจอาการร้องไห้งอแงไปในทันที

       อาเป่าที่เฝ้ามองน้องสาวกินอย่างมีความสุข ค่อยๆ ตักพุดดิ้งเข้าปาก สีหน้าของเขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขากินอย่างตั้งใจจนหมดชาม พุดดิ้งไข่จานนี้ทำลายกำแพงความระแวงในใจของเด็กชายผู้ระมัดระวังไปได้มากทีเดียว เขามองผู้เป็นแม่ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงอีกต่อไป แต่เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความหวัง

       หลินหว่านเอ๋อร์มองเด็กๆ ทั้งสองด้วยความเอ็นดู นางรู้ว่านางได้สร้างสายสัมพันธ์แรกกับเด็กทั้งสองคนแล้ว

       จากนี้ไป ข้าจะทำให้พวกเจ้าอิ่มไม่โหยหิวอีกแล้ว ช่างน่าสงสารเหลือเกิน หลินหว่านเอ๋อร์คิดขึ้นมาคนเดียวในใจของนาง

     

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 14 เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง (2)

    ตอนที่14เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง (2) หลินหว่านเอ๋อร์สวมชุดเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน นางจูงมืออาเป่าสะพายถุงผ้าขนาดใหญ่ เดินเข้าไปในตลาดด้วยความมั่นใจเพื่อเฟ้นหาวัตถุดิบพิเศษสำหรับเมนูเปิดร้าน ก่อนออกมา นางได้ขอให้จงซิ่น ซึ่งมาดูผลงานของคนงาน ช่วยดูแลอาเหมยเป็นการชั่วคราว “อาเป่า” นางกระซิบ “วันนี้เราต้องหาพริกไทยดำเม็ดเล็กและสมุนไพรใบหยกมาให้ได้นะเพื่อทำน้ำซุปของเรา” “ได้ขอรับท่านแม่ ข้าจะถามทุกร้านที่คิดว่ามีเลยขอรับ” “เยี่ยมมากเลยลูก ช่างเป็นลูกชายที่ช่วยแม่ได้เก่งที่สุดเลยลูก” “ข้าอยากทำอาหารเก่งเหมือนท่านแม่ขอรับ” อาเป่ากล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย “เจ้าต้องทำอาหารเก่งเหมือนแม่แน่ๆ เดี๋ยวแม่สอนให้ลูกทุกอย่างเลย” อาเป่ายิ้มให้กับแม่แล้วก็เดินนำหน้ามารดาเพื่อตามหาเครื่องเทศที่มารดาต้องการ เมื่อเดินไปถึงแผงขายเครื่องเทศที่ใหญ่ที่สุด หลินหว่านเอ๋อร์กำลังจะเอ่ยปากสั่งซื้อ ทันใดนั้นเสียงตะโกนกึกก้องก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “พ่อค้า เครื่องเทศชั้นดีทั้งหมดที่เจ้ามี ข้าเหมาหมด” นายจ้างจู เจ้าของร้านบะหมี่ชื่อดังในย่านนั้น ปรากฏตัวขึ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 14 เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง

    ตอนที่14เนรมิตเรือนไม้ทำเลทอง หลินหว่านเอ๋อร์ในเรือนไม้ที่แม้จะดูใหญ่โตแต่ก็ยังว่างเปล่า นางใช้กระดานไม้ที่หามาได้วางบนโต๊ะกลาง แล้วใช้ถ่านวาดผังโครงสร้างภายในร้านด้วยสีหน้าจริงจัง “เอาล่ะลูกรัก” นางกล่าวกับอาเป่าและอาเหมยที่นั่งมองแม่อย่างสงสัย “ร้านของเราจะต้องไม่เหมือนร้านอื่นๆ ในเมืองนี้” นางลากเส้นแบ่งพื้นที่ในครัวอย่างชัดเจน “ตรงนี้จะเป็นส่วนเตรียมวัตถุดิบต้องสะอาดและมีแสงสว่างเพียงพอ ส่วนตรงนี้จะเป็นส่วนทำอาหารซึ่งต้องอยู่ใกล้กับช่องระบายอากาศและเตา” หลินหว่านเอ๋อร์อธิบายการออกแบบเตาใหม่ที่นางวางแผนไว้ “ท่านแม่จะก่อเตาแบบพิเศษ ที่ใช้ฟืนน้อยลงแต่เก็บความร้อนได้ดี ทำน้ำซุปและน้ำแกงของเรามีรสชาติคงที่ตลอดทั้งวัน” นางยังจะสั่งให้ช่างทำชั้นวางเครื่องปรุงให้แยกจากกันอย่างเป็นระเบียบตามประเภท โดยเน้นเรื่องความสะอาดและถูกสุขลักษณะเป็นหลัก อาเป่าในฐานะผู้จัดการการเงินตัวน้อย นั่งถือสมุดบันทึกและพู่กันด้วยท่าทางเคร่งขรึม เมื่อเห็นแม่วาดผังและสั่งการให้ซื้อวัตถุดิบราคาแพง เขาก็รีบท้วงขึ้นทันที “ท่านแม่ขอรับ” อาเป่าชี้ไปที่รายการซื้อไม้ชั้น

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 13 เรือนไม้ทำเลทอง

    ตอนที่13เรือนไม้ทำเลทอง รถม้าของพวกเขาแล่นเข้าสู่ตลาดใหญ่ในเมืองและสุดท้ายก็เลี้ยวเข้าสู่ซอยเล็กๆ ที่มีกลิ่นอับชื้นและดูเก่าแก่ เมื่อถึงจุดหนึ่ง จงซิ่นก็หยุดรถม้า แล้วชี้ไปยังห้องแถวไม้เก่าๆ ที่เอียงกระเท่เร่เล็กน้อย ซึ่งอยู่ติดกับกองลังไม้และกองขยะของร้ายขายเนื้อที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา “ท่านจงซิ่น” หลินหว่านเอ๋อร์ถึงกับทำหน้าเหยเกด้วยความผิดหวัง “ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะว่านี่คือ เรือนไม้ทำเลทอง ข้าว่ามันเป็น เรือนไม้ทำเลซ่อนมากกว่านะเจ้าคะ” จงซิ่นมองตามที่นางชี้ แล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อยอย่างที่ไม่ได้ยิ้มมานาน “แม่นางหลินเข้าใจผิดแล้วขอรับ” เขาผายมือไปยังเรือนไม้อีกหลังที่อยู่ถัดจากห้องแถวโทรมๆ ไปเพียงหนึ่งคูหา “เรือนไม้ทำเลทองที่แท้จริงอยู่ที่นั่นขอรับ” หลินหว่านเอ๋อร์หันไปมองตามมือของจงซิ่น แล้วต้องอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เรือนไม้หลังนั้นใหญ่กว่าห้องแถวที่นางเห็นในตอนแรกถึงสามเท่า มันเป็นอาคารสองชั้นที่สร้างด้วยไม้ชั้นดี มีหน้าต่างบานใหญ่กรุกระจกใสสะอาด และมีป้ายไม้เนื้อดีแขวนอยู่ด้านหน้า “นี่คือทำเลทองท

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 12 เป็นที่สนใจ  

    ตอนที่12เป็นที่สนใจ คุณชายเว่ยกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่ทำให้หลินหว่านเอ๋อร์ใจหายวาบ “แม่นางสามารถใช้หนี้ได้ในพริบตาเดียว และยังมีฝีมือการทำอาหารได้อร่อยล้ำลึกจนข้าเองก็อยากลิ้มรส...” เว่ยจื่อเหยียนเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับใช้สายตาที่ไม่บอกก็รู้ว่าเขากำลังหมายถึงทั้งอาหารที่ลิ้มรสและหมายถึงคนทำบะหมี่ไข่มังกร คำพูดของเขาทำให้หลินหว่านเอ๋อร์หน้าแดงเล็กน้อย แต่นางก็เก็บอาการไว้ทันที นางตระหนักได้ว่าตนเองถูกบุรุษสูงศักดิ์ถึงสองคนจับจ้อง นางหันกลับไปเผชิญหน้ากับจงซิ่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระแวง “ท่านจงซิ่น” หลินหว่านเอ๋อร์กดเสียงต่ำ “เจ้านายของท่านต้องการส่วนแบ่งอะไรจากข้ากันแน่” “ต้องการให้อาหารของเจ้าเป็นที่รู้จักอย่างไรเล่า” จงซิ่นตอบนางแล้วก็มองดูลูกๆ ของนางที่กำลังเกาะขาของนางอยู่ อีกคนก็มองหน้าจงซิ่นสลับกับเว่ยจื่อเหยียน “เอาล่ะข้าตกลงที่จะเปิดร้านของข้าที่เรือนไม้ทำเลทองของนายท่านของท่านแต่ข้ามีเงื่อนไข” “เงื่อนไขอะไรขอรับ” จงซิ่นที่กำลังรอคำตอบจากหลินหว่านเอ๋อร์ เว่ยจื่อเหยียนก็พูดแทรกขึ้นมา “ข้าต้องขอตัวก่อนแม่นางหลิน เมื่อไหร่ที่เ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 11 เงินลงทุน

    ตอนที่11เงินลงทุนหลินหว่านเอ๋อร์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบาสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นางลุกขึ้นอย่างเงียบๆ และเดินไปยังที่ซ่อนเงินที่ขุดไว้ใต้พื้นดิน นางนำถุงผ้าออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อคลี่ดูเงินที่รวบรวมมาได้ นางก็นับจำนวนอย่างละเอียด“บะหมี่ที่ขายได้เมื่อวาน ค่าแรงที่จงซิ่นให้มันมากมายเหลือเกิน และดวงตาของหลินหว่านเอ๋อร์เบิกกว้างเมื่อเห็นก้อนเงินแท้ที่สลักอย่างสวยงาม วางอยู่ปะปนกับอีแปะ นางจำได้ว่าเงินก้อนนี้เป็นของลูกค้าที่ยกบะหมี่ชามสุดท้ายให้กับอาเหมย “ลูกค้าลึกลับผู้สั่งบะหมี่คนนั้น เขาเป็นใครกันแน่และเหตุใดจึงให้ก้อนใหญ่เกินความจำเป็นเช่นนี้ เขาต้องการอะไร” ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเชฟสาวทะลุมิติมา แต่นางก็เก็บความสงสัยไว้ก่อนเพราะความจำเป็นในการเริ่มต้นชีวิตใหม่นั้นสำคัญกว่าความสงสัยในตอนนี้นางตัดสินใจซ่อนเงินก้อนนั้นไว้ในตัวเพื่อใช้เป็นทุนสำรองและเริ่มปลุกลูกๆ“อาเป่า อาเหมย” หลินหว่านเอ๋อร์เรียกลูกทั้งสองของนางที่ตอนนี้กำลังนอนงัวเงียไม่ยอมตื่นอาจจะเป็นเพราะเมื่อวานเด็กทั้งสองช่วยงานแม่อย่างหนักและเหนื่อยมากๆ นางยื่นแก้มไปแนบกับแก้มของบุตรชายและบุตรสาวเบ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสองที่ยากจน   ตอนที่ 10 ราตรีกาลอันตราย (2)  

    ตอนที่10ราตรีกาลอันตราย (2) นักเลงเสี่ยวซ่านกำลังก้มดูรองเท้าที่เปื้อนขี้หมาอย่างรังเกียจ ขณะที่ไอ้หู่กำลังจะเริ่มปฏิบัติการงัดประตู ฉัวะ!!! เงามืดที่ว่องไวดุจสายฟ้าก็พุ่งลงมา จงซิ่นเคลื่อนไหวราวกับนักล่าผู้สง่างาม คราวนี้เขาใช้เทคนิคที่เน้นความเฉียบขาดเพื่อปิดปากพวกมันทันที ตูม!!! จงซิ่นใช้สันมือที่แข็งแกร่ง กระแทกเข้ามาที่จุดรวมเส้นประสามบริเวณคอของนักเลงไอ้หู่ที่กำลังยื่นมือไปเกาคอตัวเองอย่างแม่นยำ ร่างของมันล้มพับลงไปกองกับพื้นโดยไม่มีแม้แต่เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด จงซิ่นหมุนตัวอย่างรวดเร็ว นักเลงเสี่ยวซ่านกำลังจะร้องโวยวายด้วยความตกใจ “แกเป็นใครวะ” ผัวะ!!! จงซิ่นใช้ฝ่ามือกระแทกที่กระพุ้งแก้มของมันอย่างรุนแรงแต่รวดเร็ว ทำให้เสี่ยวซ่านลิ้นพันกันและไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ จากนั้นจึงใช้เท้าเกี่ยวขาให้ล้มลง โดยจงใจให้เท้าเปื้อนขี้หมาเหยียบใบหน้าของไอ้หู่ที่สลบไปแล้ว ก่อนจะใช้ฝ่ามือกระแทกที่ท้ายทอย มันไม่ได้ตั้งตัว ก็แน่นิ่งไปในทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที จงซิ่นจัดการมัดร่างนักเลงทั้งสองไว้กับลำต้นหลิวอย่างร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status