อาเฟยยังคิดว่านี่คือกลุ่มของนักวิจัยที่จับเขามา แต่ที่เขาไม่เข้าใจก็คือทำไมต้องแต่งคอสเพลย์เป็นคนโบราณกันด้วย คิดว่าเขาจะกลัวกับคนแบบนี้หรือไง
"แต่งเหมือนซะด้วยนะ ดูซิเนี่ยขนาดผมก็ยังใส่วิกยาว" 'พลึ่บ' อาเฟยเดินไปข้างหลังผู้ชายร่างสูงก่อนที่กะจะดึงวิกออกแต่ปรากฏว่าร่างทั้งร่างของชายคนนั้นถอยกลับหลังเพราะแรงดึงของเขา "บังอาจนัก! กล้าดีอย่างไรถึงได้มาดึงผมข้าแบบนี้ เจ้าไม่ห่วงชีวิตของตัวเองแล้วสินะ!!" อ๋องหลีโมโหอย่างรุนแรงที่มีคนบังอาจมาจับเส้นผมของเขา ทั่วทั้งปฐพีไม่มีใครแม้แต่จะใช้มือลูบผมของเขาด้วยซ้ำ นอกจากคนรับใช้ที่คอยดูแลเส้นผมของเขาเท่านั้น [อะไรเนี่ย! ผมจริงเหรอ ลงทุนเหมือนกันแฮะ] อาเฟยไม่ได้สนใจกับคำตวาดของชายตรงหน้าเขายังคงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก การแสดงระดับออสก้าแน่ๆ อ๋องหลีเองก็กำลังงงกับการกระทำของโจรตัวเล็ก นอกจากจะไม่ยำเกรงเขาแล้ว ดูเหมือนว่าคนคนนี้จะไม่ห่วงชีวิตเลยด้วยซ้ำ "เลิกเล่นละครได้ละ ฉันรำคาญแล้วเนี่ย สรุปว่านายเป็นคนของกลุ่มไหนจ้างมาให้แสดงละครแบบนี้ มันน่าตลกจริงๆเลยแต่งตัวบ้าบออะไรเนี่ย" อาเฟยเท้าสะเอวใส่ชายแปลกหน้า เขารู้สึกว่าการแสดงพวกนี้มันเริ่มน่าเบื่อแล้ว "เจ้าพูดอะไรของเจ้า คำพูดช่างแปลกประหลาด หรือว่าเจ้าเสียสติไปแล้ว!" อ๋องหลีถามด้วยความสับสน ชายร่างแคระคนนี้ดูหน้าขัน ตัวก็เล็กสูงเพียงไม่กี่คืบ ไม่เหมาะกับการเป็นทหาร เหมาะกับการเป็นขันทีมากกว่า "ทหาร! ทหารที่อยู่ข้างนอกเข้ามาด้านในเดี๋ยวนี้!" อ๋องหลีเรียกทหารด้านนอกเข้ามาทันที ทันทีที่ทหารวิ่งมาพร้อมดาบในมือ จึงทำให้อาเฟยหัวเราะลั่นด้วยความตลก "นี่ถึงขนาดลงทุนสร้างฉากกันขนาดนี้เพื่อหลอกฉันงั้นเหรอ ประสาทแน่ๆ คนที่คิดแผนพวกนี้จะต้องเป็นคนโง่และบ้าจริงๆ" ในระหว่างที่ทั้งสองคนยืนโต้เถียงกัน หมอเกอ ซึ่งรับหน้าที่เป็นกุนซือในฐานทัพด้วย เดินเข้ามาในที่พักของท่านแม่ทัพ เขามองชายแปลกประหลาดอยู่ชั่วครู่หนึ่งจึงเดินเข้าหาท่านแม่ทัพเพื่อกล่าวคำพูด "ท่านอ๋องหลีขอรับ ถ้ารู้สึกว่าชายผู้นี้มีสิ่งที่พิเศษบางอย่างออกมาจากร่างกาย ข้าน้อยอยากให้นำไปขังไว้ก่อนขอรับ ข้าน้อยอยากตรวจสอบดูสักหน่อย" หมอเกอเดินมากระซิบกระซาบกับท่านแม่ทัพของเขา "แต่มันเป็นหัวขโมยนะท่านหมอ ถ้ายังเอามันไว้มันจะลักเล็กขโมยน้อยของในค่ายทหารเราหรือเปล่า" อ๋องหลีไม่เห็นด้วยกับความคิดของหมอเกอ "ข้ารู้สึกแบบนั้นจริงๆท่านอ๋อง ขอข้าพิสูจน์ดูสักระยะ หากข้าคิดผิด ข้าจะเป็นคนจัดการมันเอง" "ก็ได้ แต่มันขโมยของๆข้าไปจนป่านนี้ยังหาไม่เจอ มันต้องอยู่ข้างกายข้า เจ้าจะตรวจสอบอะไรก็ตรวจไป แต่ต้องให้มันอยู่ข้างกายข้าจนกว่าจะได้ของสำคัญของข้าคืน ไม่แน่มันอาจจะเอาของสำคัญของข้าส่งออกไปด้านนอกแล้วก็ได้ ยังไงซะก็ต้องยึดตัวมันไว้ก่อน" อ๋องหลีพูดกับท่านหมอเกอ เจ้าโจรแคระนี่มันเอาหยกประจำตัวของเขาไป เขาจะต้องเค้นถามมันให้ได้ว่ามันเอาหยกของเขาไปไว้ที่ไหน อาเฟยมองทั้งสองคนกระซิบกระซาบกัน คิดว่าเขาไม่ได้ยินหรือไง เขาได้ยินทุกคำพูดที่พูดกันนั่นแหละ ทำท่ากระซิบกระซาบกันทำไมทั้งๆที่คนนอกก็ได้ยิน [ประสาท] อาเฟยคิดในใจ "ต่อไปนี้เจ้าจะต้องอยู่ใกล้ชิดข้าเพื่อหาหยกมาคืนข้าให้ได้ ถ้าภายใน 7 วันเจ้าหาหยกมาคืนข้าไม่ได้ข้าจะให้เจ้าไปลงนรกซะ!" คำพูดของชายแปลกหน้าทำให้อาเฟยถึงกับขมวดคิ้ว จริงอยู่เขาเป็นคนถือหยกนั่นแต่ชายแปลกหน้าคนนี้ก็เห็นว่าหยกมันหล่นจะออกจากมือเขา แต่กลับคิดว่าเขาส่งหยกออกไปนอกกระโจม มันเอาตาไหนมอง อาเฟยส่ายหัวไปมากับการแสดงห้าบาทสิบบาท นักแสดงฝีมือห่วยแบบนี้ก็เอามาหลอกเขาได้ เขาไม่เชื่อตั้งแต่ยืนกระซิบกระซาบกันแต่เสียงดังจนได้ยินไปทั้งกระโจม มันเรียกว่ากระซิบตรงไหนกัน "อยากจะแสดงอะไรก็แสดงกันไปเถอะ น่ารำคาญจริงๆถอยไปซิ ฉันจะกลับแล้ว!" อาเฟยเดินไปแล้วผลักชายร่างสูงให้พ้นทาง ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจที่มีคนสามารถผลักแม่ทัพใหญ่อย่างท่านอ๋องหลีได้ "นี่เจ้า!" อ๋องหลีถึงกับโกรธ ที่ชายร่างเล็กคนนี้ไม่ได้สนใจต่ออำนาจของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่พอชายร่างเล็กคนนั้นไปจนถึงหน้ากระโจมก็ถูกทหารของเขาขวางกั้นไว้ไม่ให้ออกไปได้ "สั่งคนของคุณให้ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะพังกระโจมนี้ให้ไม่เหลือเลย" อาเฟยกัดฟันพร้อมหันกลับมาบอกกับชายผมยาวและคนที่ถูกเรียกว่าท่านหมอเกอ "เจ้าจะมากไปแล้วนะเจ้าโจรแคระ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกันถึงกล้าสั่งข้าแบบนี้ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะ" อ๋องหลีโกรธจนตัวสั่น แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ยอมสั่งทำโทษชายร่างเล็กคนนี้เสียที กลับยังต่อปากต่อคำจนถึงบัดนี้ "อยากจะบ้าก็ไปศรีธัญญา อย่ามาบ้าแถวนี้ได้ป่ะ ประสาท" อาเฟยพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าจะเดินออกไปอีกครั้งแต่ก็ยังโดนทหารใช้ดาบทั้ง สองทางกันไว้ไม่ให้ออกอยู่ดี "ได้เลย ไม่ให้ออกใช่ป่ะ แล้วอย่าเสียใจล่ะที่กล้าท้าทายอำนาจของอาเฟยคนนี้!"บรรยากาศในจวนอ๋องหลีเงียบสงบ เมื่อเจ้าของจวนอยู่ในอาการโศกเศร้า นั่งอยู่ในห้องด้วยท่าทีนิ่งเงียบ บนเตียงนอนยังคงเป็นว่าที่พระชายาของอ๋องหลี รอคอยการแก้พิษ "อ๋องหลีขอรับ ทหารที่ไปนำยามาถึงแล้วขอรับ"ทันทีที่ได้ยินเสียงทหารของตนรายงานว่าทหารที่ไปนำยามาถึงจวนเรียบร้อยแล้ว อ๋องหลีถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความดีใจ"ไปตามท่านหมอเกอมา!" อ๋องหลีออกคำสั่งทันที ท่านหมอเกออยู่ดูแลอาเฟยตลอด 2 วันที่ผ่านมา เพิ่งจะกลับไปพักที่ห้องรับรองที่เขาจัดให้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ทันทีที่ท่านหมอเกอมาถึง จัดการผสมยาแล้วจับกรอกเข้าไปในปากของอาเฟยทันที"เป็นยังไงบ้างท่านหมอเกอ คนรักของข้าจะหายหรือไม่""ตอนนี้แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วท่านอ๋อง เราทำทุกอย่างเต็มความสามารถแล้ว มันก็อยู่ที่ว่าร่างกายของว่าที่พระชายาจะสามารถซึมซับเอาตัวยาเข้าไปรักษาพิษได้มากน้อยแค่ไหน"คำพูดของท่านหมอเกอทำให้อ๋องหลีถึงกับเซ ไม่มีคำยืนยันจากท่านหมอเกอว่าอาเฟยจะฟื้น อ๋องหลีรีบถลาไปที่เตียงนอนพร้อมกับจับมือคนรักขึ้นแนบแก้มทันที"กลับมานะอาเฟย กลับมาหาพี่ พี่รู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนในโลกของพี่ พี่รู้ว่าเจ้าสามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ แต่ได้โปรดเถ
"อาเฟยลูก"เสียงนี้อีกแล้ว เสียงที่เหมือนแม่เรียกคำพูดเดิมที่เคยได้ยิน แต่เขาไม่รู้เลยว่าเสียงนี้มันคือเสียงใครกันแน่ คราวที่แล้วเสียงนี้เรียกเขาให้เดินตามไปจนในที่สุดเขาก็หลงเข้าไปในยุคโบราณ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบปีแล้ว เขายังคงได้ยินเสียงนี้อยู่อีก"อาเฟยลูก"อาเฟยลืมตาขึ้น ก่อนที่จะมองไปรอบๆ "อาเฟย" เสียงเรียกย้ำทำให้อาเฟยหันกลับไปมอง"แม่!" สิ่งที่เขาเห็นนั่นคือแม่ของเขาที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก แม่คนเดิมที่ใจดีของเขา"คนดีของแม่ เหนื่อยไหมลูก""ไม่เหนื่อยเลยครับแม่ ผมมีความสุขมากๆเลยที่ได้อยู่กับท่านพี่ แต่ทำไมตอนนี้บรรยากาศมันดูแปลกๆนะครับ มันเกิดอะไรขึ้น""มันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอก แม่แค่อยากถามลูก ว่าระหว่างชีวิตในยุคปัจจุบันของลูกกับชีวิตที่กำลังเป็นพระชายาของอ๋องหลี ลูกชอบชีวิตแบบไหน"อาเฟยคิ้วขมวดทันที นั่นสินะ เขาใช้ชีวิตกับอ๋องหลีมาเกือบ 1 ปี จนลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นคนในยุคปัจจุบันไม่ใช่ยุคอดีต ลืมตัวตนการเป็นอาเฟย ศักดินามนตรี ไปซะสนิทเลย "ทำไมแม่ถามผมแบบนี้ล่ะครับ หรือว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับยุคปัจจุบันแล้วเหรอ" น้ำเสียงที่เศร้าใจของลูกชายทำให้ผู้
ข่าวการแต่งตั้งพระชายาเป็นบุรุษเพศแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรฉิน ข่าวนี้ทำให้ชิงชิงไม่พอใจ นางคิดว่าท่านลุงของนางที่เป็นเสนาบดีจะสามารถช่วยบังคับให้ฮ่องเต้แต่งตั้งนางเป็นพระชายาของอ๋องหลีได้ แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่นางต้องการ กลับกลายเป็นตอนนี้มีพระราชโองการแต่งตั้งอาเฟยเป็นพระชายาอย่างถูกกฎหมาย ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้"พอเถอะนะชิงชิง ลุงพยายามแล้ว แต่ไม่สามารถขัดพระราชโองการของฝ่าบาทได้ ถ้าเรายังคัดค้านอยู่แบบนี้ตระกูลของเราคงไม่พ้นถูกประหารตามพระราชอาญาแน่นอน""แต่ท่านลุงเจ้าคะ ชิงชิงเสียศักดิ์ศรีในจวนอ๋องไปตั้งหลายปี ไม่มีใครอยากร่วมหอลงๆกับชิงชิง ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ล่ะเจ้าคะ"ชิงชิงร้องไห้ด้วยความเสียใจ ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นคู่หมั้นของอ๋องหลี ใช้ชีวิตอยู่ในจวนอ๋องหลีมานานหลายปี คอยปรนนิบัติพัดวีหลีฮูหยินไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่นี่คือสิ่งที่นางได้รับ ความอยุติธรรมที่อ๋องหลีไม่เคยสนใจใยดีกับความดีของนาง"แล้วเจ้าจะให้ลุงทำอย่างไร พระราชโองการแต่งตั้งอาเฟยก็ออกมาแล้ว ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเราทำก็เท่ากับขัดพระราชโองการเชียวนะ""ก็แล้วถ้าอาเฟยไม่ได้อยู่รับราชองค์การล
อ๋องหลีและอาเฟยยังคงใช้ชีวิตเยี่ยงคนรักในจวนอ๋อง ถึงแม้ข่าวนี้จะกระจายแพร่ไปทั่วแต่มันก็ไม่ได้มีผลเสียอะไร การรักกับบุรุษเพศด้วยกันมันไม่ได้ถือเป็นการผิดธรรมเนียมประเพณี เพียงแต่มันจะมีกลุ่มคนบางส่วนที่ต่อต้าน ซึ่งเอาเรื่องนี้ขึ้นทูลต่อฮ่องเต้ เพื่อให้ปลดตำแหน่งอ๋องหลีออกจากการเป็นอ๋อง "แล้วท่านพี่จะทำอย่างไรต่อไป" อาเฟยเอ่ยถามคนรัก เขาคิดว่าเรื่องนี้มันน่าจะหลุดไปกับชิงชิงแน่ๆ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะกลัว แถมตอนนี้ใบหน้าของอ๋องหลีก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจต่อราชโองการที่มาถึง"เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอก เรื่องแค่นี้พี่จัดการได้ ตำแหน่งอ๋องหลีของพี่ไม่ได้มาเพราะฝีปาก พี่ได้มาเพราะความสามารถ เพราะการนำทัพที่ตรากตรำสู้เพื่อราชวงศ์ฉินมาหลายปี พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าพี่ถูกปลดออกจากการเป็นแม่ทัพและตำแหน่งอ๋องหลี ใครจะเป็นคนนำทัพถ้ามีศึกสงครามเข้ามา""ผมมีแผนแล้วครับ ใช้แผนของผมรับรองว่าไม่มีใครกล้าปลดท่านพี่แน่นอน"อ๋องหลีมองหน้าคนรักก่อนจะยิ้มออกมา เจ้าแสนซนของเขาคงจะคิดเรื่องดีๆออกอีกแล้ว ตั้งแต่ที่อาเฟยมาอยู่กับเขา เขารู้สึกว่ามีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นในชีวิต เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวต่ออุปส
ถึงแม้โทษของหลีฮูหยินจะมีแค่การนั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ในห้องพระเท่านั้น แต่โทษนั้นมันไม่ได้ครอบคลุมไปสำหรับชิงชิง เมื่อสาวใช้มารายงานว่าท่านอ๋องยกการลงโทษนี้ให้กับอาเฟยทำให้ชิงชิงรู้สึกกลัว"ข้าจะทำเช่นไรดี ถ้าปล่อยให้มันเป็นผู้ลงโทษมันต้องลงโทษข้าจนตายหรือไม่ก็เสียโฉมแน่ๆ ข้าไม่อยากเจอสภาพแบบนั้น""เราต้องหนีเจ้าค่ะคุณหนู ไม่สามารถอยู่จวนอ๋องได้อีกแล้ว ถ้าคุณหนูยังอยู่ที่นี่จะต้องถูกลงโทษจนตายแน่ๆเลยเจ้าค่ะ"สาวใช้เสนอวิธีรอดแก่ชิงชิง"จะให้ข้าหนีไปที่ไหนเล่า บ้านข้าแตกสาแหลกขาดมาหลายสิบปีแล้ว ข้าถูกท่านย่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย มีความหวังที่จะขึ้นเป็นพระชายาของอ๋องหลี ถ้าข้าออกจากจวนข้าก็ไม่มีที่ไปเลย"ชิงชิงคิดหนักทันที การออกจากจวนอ๋องหลีก็เหมือนการให้นางไปตายอยู่ดี สตรีที่ไม่มีวิทยายุทธ ไม่มีผู้ชายคุ้มกะลาหัวจะอยู่ด้านนอกได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้เลยเช้าวันรุ่งขึ้น อาเฟยมาที่จวนหลังซึ่งเป็นที่พักของหลีฮูหยินและชิงชิง "ข้าแปลกใจนะเนี่ย ข้านึกว่าเจ้าจะหนี แต่ไม่ยักหนีแฮะ แสดงว่ารู้ตัวใช่ไหมว่าวันนี้ข้ามาที่นี่ด้วยเหตุอะไร เจ้ายอมรับโทษของเจ้าแล้วหรือยัง"อาเฟยดัดแปลงประโยคให้ชิ
ทันทีที่ทหารทั้งสองคนตายด้วยความผิดที่ลักพาตัวคนรักของอ๋องหลี ทำให้อาเฟยถึงกับตกใจ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนเข้มแข็ง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นใครตายต่อหน้าต่อตาสยดสยองขนาดนี้ ทำให้อ๋องหลีต้องหมุนเอาตัวอาเฟยเข้ามาซบอกเพื่อไม่ให้เห็นภาพตรงหน้า"กลัวก็ไม่ต้องดู พี่ขอโทษนะที่มาช้าจนเกินไป เกือบทำให้เจ้าเป็นอันตราย" "ไม่เป็นไรเลย ผมไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่ผมไม่เข้าใจเลยทำไมพวกเขาจึงต้องจงเกลียดจงชังผมนัก ผมไม่เคยไปทำอะไรให้พวกเขาเลย" "ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว พี่อธิบายทุกอย่างให้กับท่านย่าฟังหมดแล้ว หลังจากกลับไปพี่จะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นพระชายา มันจะได้สิ้นเรื่องสิ่งราวไปเสียที""ได้ยังไงล่ะ พระชายาแต่งตั้งผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ผมเป็นผู้ชายจะเป็นพระชายาได้อย่างไร ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีการตัดชายเสื้อ แต่ผมก็คิดว่ามันไม่สมควร""ตัดชายเสื้อหรือ?"อ๋องหลีงงกับคำพูดของอาเฟยจึงเอ่ยถามขึ้น"ที่บ้านผม ถ้ามีบุรุษกับบุรุษรักกัน ชาวจีนจะเรียกกันว่าตัดชายเสื้อ"ถึงแม้จะไม่เข้าใจกับคำพูดของอาเฟยได้สักเท่าไหร่ แต่อ๋องหลีก็เลือกที่จะดึงเอาโจรแคระของเขาเข้าสู่อกกว้างเพื่อปลอบขวัญ"ถึงแม้เจ้าจะได้เป็นพระชายาหรือไม่ก็ตาม แต่เจ