ห้าปีก่อน... เขาเป็นเพียง "คนรักในมหา’ลัย" ที่เธอเลือกจะจากไปอย่างไร้คำลา ห้าปีให้หลัง... เขากลับกลายเป็นมาเฟียผู้มีอิทธิพลที่สุดในวงการ — และวันนี้ คนที่เคยทำร้ายหัวใจเขา กลับต้องมาฝึกงานในบริษัทของเขาเอง "คิดจะหนีฉันอีกเหรอ ภัทร?" "ฉันไม่ได้ตั้งใจ..." "แต่ใจฉันมันตั้งใจจะเอาคืนเธอทั้งชีวิต" ระหว่างแค้นกับรัก...ใครจะรอดจากเกมอันตรายครั้งนี้?
View Moreเสียงลมหายใจของตัวเองดังชัดเจนในความเงียบ ภัทรมองป้ายชื่อหน้าห้องประชุมที่เขียนว่า “President Way Akirah Vattanakul” พลางสูดลมหายใจลึกจนสุด ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาในหัวราวกับหนังม้วนเก่าที่ใครเปิดซ้ำ
ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นชื่อ “เวย์” ไม่ได้อยู่บนป้ายทองคำในตึกสูงแบบนี้ แต่เป็นชื่อในโทรศัพท์ ที่เขาปล่อยให้ดังอยู่นานก่อนกดปิดเสียง...และหายไปจากชีวิตอีกฝ่ายโดยไม่มีคำลา ภัทรยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือเคาะประตูเบาๆ “เข้ามา” เสียงทุ้มเย็นตอบรับจากด้านในสั้นและเฉียบจนหัวใจของเขากระตุกวูบ เขาผลักประตูเข้าไปอย่างช้าๆ แสงแดดยามบ่ายลอดผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่กินพื้นที่เกือบทั้งผนัง ทอแสงสีทองสะท้อนโต๊ะทำงานไม้เข้มและเฟอร์นิเจอร์หรูเรียบทุกชิ้นในห้อง และชายคนนั้น…นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานกลางห้อง สูทสีดำสนิทขับให้ร่างสูงสง่ากว่าที่เคยเห็น ใบหน้าคมเฉียบภายใต้แว่นตากรอบบางดูสุขุมจนแทบมองไม่ออกว่าในใจคิดอะไร เวย์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในห้อง ดวงตาคมเข้มใต้คิ้วหนาแฝงประกายบางอย่างที่อ่านไม่ออก “นักศึกษาฝึกงาน?” เวย์ถามสั้น เสียงเรียบไม่ต่างจากตอนอยู่ในห้องประชุมเมื่อเช้า ภัทรพยายามยิ้ม มือกำแฟ้มแน่นจนข้อนิ้วขาว “ครับ ผมชื่อภัทร มาจากมหาวิทยาลัย—” “ไม่จำเป็นต้องแนะนำมาก ฉันรู้แล้วว่ามาจากที่ไหน” คำพูดนั้นทำให้ภัทรนิ่งงัน เขารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่าย “จำได้” — แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ เวย์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาคมจับจ้องไม่วางราวกับกำลังอ่านใจคนตรงหน้า “ห้าปีไม่เจอกัน นายดูโตขึ้น...แต่ก็ยังพูดน้อยเหมือนเดิม” เสียงหัวใจภัทรดังอยู่ในหู เขาพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบที่สุด “คุณเปลี่ยนไปมากครับ” “แน่นอน” เวย์ยิ้มเย็น “บางคนต้องเปลี่ยน...เมื่อถูกทิ้งไว้กับความว่างเปล่า” ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้ง ภัทรหลบตา เขาอยากพูดคำขอโทษ อยากอธิบายว่าทำไมวันนั้นถึงเลือกจากมา แต่เมื่อเห็นสีหน้าเรียบนิ่งของเวย์ คำทุกคำกลับติดอยู่ในลำคอ “ฉันไม่คิดว่านายจะมีหน้ากลับมาเหยียบที่นี่” เวย์พูดต่อเสียงต่ำ “แต่ในเมื่อมาถึงแล้ว...ก็อยู่ให้ได้” “ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณลำบากใจ” ภัทรตอบเบาๆ แต่เสียงนั้นกลับสั่นจนตัวเองยังได้ยิน “ฉันไม่ได้ลำบากใจ แค่กำลังคิดว่าจะเริ่มเอาคืนจากตรงไหนก่อนดี” คำพูดนั้นเย็นเฉียบกว่าลมในห้อง ภัทรเงยหน้าขึ้นมอง เขาเห็นเพียงดวงตาที่เคยอบอุ่น บัดนี้กลับแข็งกระด้างราวเหล็กเย็น “ผมรู้ว่าคุณเกลียดผม แต่ผมกลับมาเพราะอยากแก้ไข ไม่ใช่หนีอีกแล้วครับ” เวย์หัวเราะในลำคอเบาๆ “คำพูดดีนะ แต่ฉันไม่เชื่อคำสัญญาเก่าๆ ของคนที่เคยเดินหนีทั้งน้ำตา นายจะพิสูจน์ได้ยังไง...ว่าคราวนี้มันต่าง?” ภัทรกลืนน้ำลายฝืด เขาไม่มีคำตอบ มีเพียงสายตาที่สั่นระริกกับหัวใจที่เต้นแรงจนแทบทะลุอก เวย์ลุกขึ้นเต็มความสูง เดินอ้อมโต๊ะมาหยุดตรงหน้า ภัทรเงยหน้ามองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งกลัว ทั้งดีใจ ทั้งเจ็บ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แบบเดิมลอยแตะปลายจมูก — กลิ่นเดียวกับที่เคยกอดกันในคืนฝนตกเมื่อหลายปีก่อน “ตั้งแต่พรุ่งนี้ มาประจำที่ฉันโดยตรง” เสียงเวย์เยือกเย็น “ครับ?” “อยากเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่เหรอ ก็มาเริ่มตรงนี้สิ ใต้สายตาฉันเอง” ภัทรเม้มปากแน่น สุดท้ายก็พยักหน้า “ครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด” เวย์ยิ้มบางๆ — รอยยิ้มที่ทั้งเจ็บปวดและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน “ฉันหวังว่าจะไม่เหมือนตอนนั้น...ที่นายบอกว่าจะไม่หนี แล้วก็หายไป” เขาหันหลังกลับ เดินไปที่หน้าต่าง เงาแดดยามเย็นทอดลงบนพื้นข้างเท้า ภัทรมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไม่หยุด การกลับมาครั้งนี้...อาจไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ที่ง่าย แต่มันคือโอกาสสุดท้าย — ที่เขาจะ “ขอรักอีกครั้ง” จากคนที่เขาไม่เคยลืม ---เสียงฝนเริ่มโปรยปรายอีกครั้งในค่ำคืนที่มืดสนิทไฟถนนส่องสลัวสะท้อนลงบนผิวน้ำที่ขังตามพื้นทาง ภัทรขับรถช้า ๆ ตามโลเคชันที่ส่งมาทางข้อความ เสียงหัวใจของเขาเต้นแรงจนน่ากลัว> “โกดังเดิม...”ที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่เขาและเวย์ใช้หลบหนีจากโลกภายนอกในวัยเรียน — ตอนนั้นยังเป็นเพียงโกดังร้างริมแม่น้ำ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นที่นัดพบของใครบางคนที่ต้องการเปิดโปง “ความจริง”เขาจอดรถตรงลานด้านหน้า ความเงียบปกคลุมจนได้ยินเพียงเสียงฝนกระทบหลังคาเหล็ก ภัทรสูดหายใจเข้าลึก ก่อนผลักประตูเหล็กขึ้นกลิ่นสนิมและฝุ่นเก่าตีเข้าจมูก แสงไฟนีออนกระพริบอยู่มุมหนึ่งเผยให้เห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่“มาคนเดียวจริง ๆ ด้วยสินะ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นภัทรหรี่ตา “คุณเป็นใคร?”ชายคนนั้นหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนเดินออกจากเงามืด — ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏชัด“ธันวา?” ภัทรเอ่ยชื่อออกมาแทบไม่เชื่อสายตา“ไม่ได้เจอกันนานนะ” เขายกยิ้มบาง “ฉันเคยเตือนแล้วว่าอย่ากลับมายุ่งกับเวย์อีก”ภัทรขมวดคิ้วแน่น “คุณเป็นคนส่งข้อความมาเหรอ”“ใช่ แต่ฉันไม่ได้อยากเจอนายเพราะคิดถึงหรอกนะ” ธันวาเดินเข้าใกล้ช้า ๆ “ฉันอยากให้นายรู้ ว่าสิ่งที่นายกำลังโดน ม
เช้าวันถัดมา เมืองทั้งเมืองยังเปียกชื้นจากฝนเมื่อคืน ท้องฟ้าขมุกขมัวราวกับสะท้อนอารมณ์ของใครบางคนเวย์นั่งอยู่ในห้องทำงานชั้นบนสุดของตึก “เวธานี กรุ๊ป” แสงสว่างลอดผ่านบานกระจกสูง เส้นผมที่ยุ่งเล็กน้อยและรอยเคราจางบนกรามทำให้ใบหน้าของเขาดูเหนื่อยล้า แต่แววตากลับยังเฉียบคมเหมือนเดิมโต๊ะทำงานของเขามีแฟ้มเอกสารกองหนึ่งวางอยู่ — เอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของรามทั้งหมด รวมถึงรายชื่อพนักงานเก่าและธุรกรรมในอดีตเสียงเคาะประตูดังขึ้น“เข้ามา” เวย์พูดโดยไม่เงยหน้าประตูเปิดออก ธันวาเดินเข้ามาพร้อมโน้ตบุ๊กในมือ “ฉันตามที่นายสั่งไว้เมื่อคืน เอกสารบางส่วนของรามถูกลบจากระบบกลาง แต่ฉันเจอสำเนาที่ซ่อนในเซิร์ฟเวอร์ของผู้ร่วมทุนฝั่งยุโรป”เวย์เงยหน้าขึ้นทันที “มีอะไรอยู่ในนั้น?”ธันวายื่นหน้าจอให้ดู ภาพข้อมูลการโอนเงินจำนวนมหาศาลปรากฏขึ้น — และชื่อผู้รับกลับเป็นชื่อของ “ภัทร อรรถกูล”ห้องเงียบสนิท“ไม่ใช่…” เวย์พึมพำเสียงเบา “มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่”“นายแน่ใจเหรอว่าเขาไม่ได้รู้เห็น?” ธันวาถามตรง ๆเวย์หลุบตา “ฉันรู้จักภัทร…เขาไม่ใช่คนแบบนั้น”“แต่นายก็เห็นเองแล้วนี่เวย์ หลักฐานมันอยู่ตรงหน้า”เวย์หัน
เสียงคลื่นกระทบแนวเสาไม้ดังสลับกับเสียงลมทะเลที่พัดแรง ราตรีนี้มืดกว่าทุกคืน แสงไฟจากเสาไฟริมท่าเรือกระพริบเป็นจังหวะคล้ายจะดับทุกเมื่อเวย์ยืนพิงรถหรูที่จอดอยู่ใกล้โกดังเก่าริมน้ำ ดวงตาคมมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง ชุดสูทสีดำแนบตัวทำให้เขาดูทั้งอันตรายและทรงอำนาจในเวลาเดียวกันในมือของเขามีปืนสั้นซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุม — ไม่ใช่เพราะเขาชอบใช้ความรุนแรง แต่เพราะคืนนี้ เขาไม่รู้ว่าใครจะเป็นศัตรูไม่นาน รถอีกคันแล่นเข้ามาจอด ภัทรก้าวลงมาด้วยสีหน้ากังวล“เวย์ นายไม่ควรมา”“ฉันสัญญากับนายแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบโดยที่ฉันไม่รู้ความจริง”ภัทรกัดริมฝีปากแน่น “แต่รามมันไม่ใช่คนที่เราจะรับมือได้ง่าย ๆ มันต้องมีแผน มันไม่เรียกเรามาเพราะอยากคุยเฉย ๆ แน่”“ฉันรู้…” เวย์ตอบเสียงเรียบ “แต่นายก็รู้เหมือนกันว่าฉันไม่เคยหนี”เสียงฝีเท้าดังแว่วขึ้นจากในโกดัง ก่อนที่ประตูเหล็กขนาดใหญ่จะค่อย ๆ เปิดออก เสียงเหล็กเสียดสีกับพื้นคอนกรีตดังลั่นรามก้าวออกมาจากความมืด เสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนขึ้นถึงศอก ใบหน้ายิ้มเย็นอย่างเคย“ดีใจนะที่มาทั้งคู่” เขาพูดเสียงเรียบ “ฉันไม่ชอบคุยผ่านคนอื่น”เวย์ก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้า
เสียงฝนตกกระทบกระจกในเช้าวันใหม่ ภัทรยืนมองหยดน้ำไหลลงตามบานหน้าต่าง สะท้อนใบหน้าของเขาที่เหมือนมีบางสิ่งซ่อนอยู่ในแววตา“ภัทร” เสียงของเวย์ดังขึ้นจากด้านหลังชายหนุ่มหันกลับไปมอง เห็นเวย์ถือถ้วยกาแฟร้อนสองแก้ว เดินเข้ามาวางไว้บนโต๊ะ “นายไม่ได้นอนทั้งคืนใช่ไหม”ภัทรยิ้มบาง “แค่คิดเรื่องงานนิดหน่อย”“หรือเรื่องข้อความเมื่อคืนจากราม?” เวย์ถามตรง แววตาคมจับจ้องไม่วางภัทรนิ่งไปทันที รอยยิ้มเล็กหายไปจากใบหน้า“เวย์…ฉันไม่อยากพูดถึงเขา”“แต่นายต้องพูด เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของเขาอีกต่อไป มันเกี่ยวกับเราด้วย” เสียงเวย์เข้มขึ้นภัทรหลบสายตา มือกำแน่น “มันเป็นเรื่องในอดีต เรื่องที่ฉันอยากลืมไปแล้ว”“อดีตที่เกี่ยวกับราม?”“…ใช่”ห้องเงียบลง เหมือนทุกเสียงหายไป เหลือเพียงความจริงที่เริ่มไหลย้อนกลับเข้ามาในหัวของภัทรเขานั่งลงบนโซฟา สูดลมหายใจลึก “สมัยนั้น ฉันยังไม่ได้ทำงานกับบริษัทนี้…ฉันเป็นแค่เด็กฝึกงานในเครือของราม เขาช่วยฉันหลายอย่าง ทำให้ฉันได้โอกาสในวงการธุรกิจ…แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป หลังจากฉันรู้ว่าเขาใช้ข้อมูลบริษัทไปทำเรื่องผิดกฎหมาย”เวย์ขมวดคิ้ว “นายรู้เรื่องนั้น?”“ฉันไม่ได้ตั้งใจ
เช้าวันต่อมา เมืองทั้งเมืองยังคงหมุนไปเหมือนเดิม แต่สำหรับภัทร มันเหมือนทุกอย่างกำลังเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง — พร้อมกับความจริงที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปเวย์ยืนอยู่ริมหน้าต่างชั้นบนสุดของตึก “เวธานี กรุ๊ป” เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดกระดุมคอออกหนึ่งเม็ด เส้นผมยังชื้นจากไอน้ำหลังอาบน้ำ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากโต๊ะทำงาน เขาเหลือบมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอเพียงแวบเดียวก่อนจะกดรับสาย“ว่าไง ธันวา”เสียงทุ้มต่ำของเพื่อนสนิทดังจากปลายสาย “รามเคลื่อนไหวแล้ว มันเริ่มดึงหุ้นฝั่งเอเชียเข้ากลุ่มตัวเอง นายแน่ใจเหรอว่าจะไม่ลงมือก่อน?”เวย์นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบ “ยัง…ฉันอยากรู้ก่อนว่ามันต้องการอะไรจริง ๆ”“มันไม่ได้อยากได้แค่ธุรกิจเวย์…แต่มันอยากได้ภัทรด้วย นายไม่รู้เหรอ?”มือของเวย์กำโทรศัพท์แน่น เสียงเย็นลงทันที “พูดอีกทีสิ”“ฉันเห็นมันส่งคนไปเฝ้าแถวบริษัทของภัทรเมื่อคืน นายควรรีบตัดสินใจ”เวย์เงียบไปอีกครั้ง ดวงตาคมเต็มไปด้วยประกายแห่งความโกรธ“ขอบใจ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะวางสาย แล้วเดินตรงไปที่ห้องทำงานของภัทรภัทรกำลังจัดเอกสารอยู่เมื่อเวย์เปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว“ภัทร
คลับส่วนตัวกลางเมืองถูกประดับด้วยแสงนีออนสีฟ้าอมม่วง เสียงเพลงเบา ๆ คลอไปกับแสงไฟสลัว แต่ความรู้สึกของเวย์และภัทรกลับเต็มไปด้วยความกดดันราวกับอากาศรอบตัวหนาแน่นขึ้นเวย์เดินนำ ภัทรอยู่ข้างหลัง มือใหญ่ของเขายังแน่นอยู่กับมือของภัทร“ภัทร…อย่ายอมให้ความกลัวเข้ามาครอบงำ จำไว้ว่าฉันอยู่ตรงนี้” เวย์กระซิบเสียงต่ำภัทรพยักหน้า กำมือแน่น “ฉันรู้…แต่ก็กลัวเหมือนกัน”ทั้งคู่ก้าวเข้ามาในห้องโถง คลับหรูเต็มไปด้วยนักธุรกิจและคนสนิทของรามและตรงกลางห้องนั้น…รามนั่งอยู่บนเก้าอี้สูง ดวงตาคมจับจ้องเข้ามาทันทีที่เห็นเวย์“เฮ้…เวย์ ธันวากรณ์ มาหรือเปล่า?” รามพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา “นานแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน”เวย์นิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น“ราม…ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเคลียร์ทุกอย่าง”“อ้อ เคลียร์?” รามหัวเราะในลำคอ “นายคงยังจำเรื่องเก่าได้สินะ…เรื่องที่นายคิดว่าฉันทำร้ายภัทร”เวย์ก้าวเข้าไปใกล้ทีละก้าว“อย่าพูดชื่อภัทรอย่างนั้นอีก…ทุกอย่างที่นายทำ ฉันจะล้างแค้น”รามยักไหล่เหมือนไม่กลัว“ก็เอาเลย…นายมาแล้วนี่ เรามาสนุกกันหน่อย”ภัทรขยับเข้าใกล้เวย์ มือเกร็งแน่น“เวย์…ระวังนะ”“ฉันรู้…นายไม่ต้องห่วง”
Comments