LOGINฮูหยินผู้เฒ่าได้รับรู้เรื่องการกลั่นแกล้งอนุเยว่ฉีของเอ้อหลิงก็โกรธเคืองเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลัวว่าอันเยว่ฉีอาจตั้งครรภ์ อย่างไรอนุเยว่ฉีก็ร่วมห้องกับท่านกั๋วกงทุกคืน
ฮูหยินผู้เฒ่าอยากสั่งสอนเอ้อหลิงให้หลาบจำ แต่ตัวของอนุเอ้อหลิงเต็มไปด้วยบาดแผลจากการถูกฟาดแส้ หญิงชรารู้สึกเห็นใจจึงไม่ได้ลงโทษอะไรมาก ทั้งยังช่วยหายาขนานดีมารักษาให้เอ้อหลิง
เพียงแต่เอ้อหลิงไม่ใช่คนดีอะไร นางทรมานกับการรักษาบาดแผลทุกวัน และทรมานกับความเคียดแค้นทุกคืน ร่างกายที่เคยงดงามขาวเนียน ยามนี้กลับเกิดบาดแผลใหญ่ ต่อไปจะต้องกลายเป็นแผลเป็นน่าเกลียด จะให้นางทำใจได้อย่างไร
ยามนางงดงามหมดจด ท่านกั๋วกงยังไม่เคยเรียกใช้ ไม่ต้องคิดถึงว่าภายภาคหน้านางน่าเกลียดจะเป็นเช่นไร แม้แต่เห็นหน้าท่านกั๋วกงก็อาจไม่มีวันได้เห็นแล้ว ยิ่งคิดอนุเอ้อหลิงยิ่งทรมานใจ คิดแค้นวางแผนเอาคืน ไม่สนใจน้ำใจของฮูหยินผู้เฒ่า
ช่วงหลังมานี้ อันเยว่ฉีมักจะทำหน้าท
ปีนั้นอดีตฮ่องเต้ไร้ขุนพลมากความสามารถ จึงยอมให้องค์หญิงใหญ่แต่งกับคนเถื่อนผู้เก่งกาจจากทางเหนือ และแต่งตั้งให้เป็นกั๋วกง ออกรบรักษาเมือง เป็นทัพหน้าให้กับอี้โจวแม้จะมีตำแหน่งไม่ต่ำต้อย มีความสามารถสูงส่ง แต่พวกชนชั้นสูงในเมืองหลวงก็ยังคงดูแคลนชาติกำเนิดของราชบุตรเขยตลอดมาหงเจี้ยนหยางมีหน้าตาเหมือนกับมารดา แต่เขาก็ได้รูปร่างสูงใหญ่จากบิดาด้วย ต่อให้เขาจะเก่งกาจและเป็นจอหงวนบู๊ฟ้าประทาน หญิงสาวสูงศักดิ์ในเมืองหลวงก็ไม่มีผู้ใดอยากแต่งให้เขา“อ้อ แต่ว่าท่านกั๋วกงยังบาดเจ็บอยู่ ไม่อาจใช้ข้อมือได้ ปีนี้คงไม่ได้ลงแข่งขันแล้วกระมัง น่าเสียดาย ปีนี้ข้าคงต้องเสียสละรับชัยชนะเอาไว้แล้ว” ขุนนางในชุดแดงยังคงดูถูกดูแคลนหงเจี้ยนหยางต่อไปชายหนุ่มได้แต่ยืนให้เขาประณาม โดยไม่อาจโต้ตอบได้แม้แต่คำเดียว หรือบางทีเขาอาจจะไม่ค่อยเข้าใจคำกระทบกระทั่งที่อัครมหาเสนาบดีพูดก็เป็นได้ แต่อันเยว่ฉียอมไม่ได้ ต่อให้จะกลัวมากเพียงใดนางก็ดันเขาไปอยู่ด้านหลัง แ
“ลุงหลิน! นี่ท่านบังคับรถม้าอย่างไรกัน” ชายหนุ่มโมโหจนต่อว่าคนขับรถม้าอย่างไร้เหตุผล“ไม่ใช่ความผิดของลุงหลินหรอก เจ้าอย่าโมโหเลย ข้าไม่เป็นไร อุบัติเหตุไม่มีใครห้ามได้” อันเยว่ฉีเอ่ย“ไม่ใช่อุบัติเหตุขอรับนายท่าน แต่มีคนจงใจขุดหลุมและใช้หญ้าแห้งพรางไว้ขอรับ” คนขับรถม้าอธิบายจากด้านนอกหงเจี้ยนหยางขมวดคิ้ว แม้เลือดบนจมูกของเยว่เอ๋อร์จะยังคงไหลไม่หยุด แต่เขากลับฉีกแขนเสื้อให้นางถือสำหรับซับเลือด ก่อนจะรวบเอวหญิงสาว ถีบผนังรถม้าจนกระเด็น และรีบกระโดดออกจากตัวรถม้าทันทีเขาเป็นขุนพลที่มากความสามารถ การจะถูกหมายชีวิตย่อมเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เขาจะไม่ได้มีอำนาจทหารอยู่ในกำมืออีกแล้ว แต่การมีอยู่ของเขาก็ยังคงทำให้หลายคนไม่สบายใจ“ปล่อยข้าลงเถิด อย่าฝืนใช้ข้อมือ..” อันเยว่ฉีพูดหลังจากออกมายืนนอกรถม้าแล้ว นางพยายามดึงมือเขาออกจากเอว ด้วยเป็นห่วงว่าหากเขาอุ้มนางไว้ อาการ
“เอ่อ..เอานี่ไปด้วย คือ..กุนซือจางบอกว่าเจ้ากับเขาจะออกไปนอกจวนด้วยกัน” ลู่เยียนหรงพูด พร้อมกับส่งถุงผ้าขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือที่บรรจุบางสิ่งไว้จนเต็ม“นี่อะไร” อนุเยว่ฉีถาม“เงินอย่างไรเล่า เจ้าคิดจะออกไปข้างนอกโดยไม่พกเงินหรือ” ลู่เยียนหรงพูดเสียงดุ“ข้า..พอมีเงินอยู่บ้าง อีกอย่าง..”“เจ้าคิดว่าเจ้าโง่นั่นจะพกเงินไปด้วยหรือ เจ้าดูแคลนความโง่ของเขาเกินไป รับไปเถิด จะได้ไม่อับอายขายหน้าหรือต้องอดตายระหว่างทาง”“..ขอบใจ” อันเยว่ฉีเอ่ยขอบคุณและยอมรับถุงเงินมาแต่โดยดี เมื่อนึกถึงครั้งหนึ่งที่อดีตแม่ทัพหงผู้นั้นเคยมอบถุงเงินที่มีเหรียญทองแดงเพียงไม่กี่เหรียญให้ตัวเอง“อืม” ลู่เยียนหรงมอบเงินให้อันเยว่ฉีเรียบร้อยก็เชิดหน้าสวยๆ กลับไปโดยไม่แม้แต่จะปรายตามองบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนาง สาวใช้ขบวนใหญ่ต่างทำตัวไม่ถูกเพ
ริมฝีปากเล็กที่พยายามบดเบียดดูดดื่มแทบจะแย่งชิงลมหายใจของเขาทั้งหมดนั้น ราวกับเป็นสายน้ำนุ่มลื่นที่คอยกระชากอารมณ์ของเขาให้ขึ้นลงตามการขยับของนางในอกของหงเจี้ยนหยางสั่นสะเทือนคล้ายแผ่นดินไหวทุกครั้งที่หญิงสาวยื่นเรียวลิ้นนุ่มเข้ามาให้เขาดูดชิมความหวาน เขาพยายามปลอบใจตัวเองไม่ให้รู้สึกมากเกินไป พยายามนึกถึงว่าริมฝีปากนั่นเคยน้ำลายไหลเปื้อนเสื้อนอนของเขาทุกคืน แต่สุดท้ายก็ห้ามตัวเองไม่ไหวเสือดำตัวใหญ่เอื้อมมือไปตระกองกอดร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอด จุมพิตตอบกลับอย่างหิวโหย ปลายลิ้นทั้งสองพัวพันดูดดื่ม ไม่รู้ว่าใครเป็นคนจูบหนักหน่วงกว่ากัน แต่ไม่มีใครยอมใครอันเยว่ฉียกมือคล้องคอเขาไว้ ในปากก็พันลิ้นของเขาเล่นคล้ายกันกำลังเล่นเกมใช้ลิ้นผูกเชือก ในใจหวังว่าจะใช้การผูกพันนี้มัดเขาให้มองนางผู้เดียวตลอดไปหงเจี้ยนหยางถูกความหอมหวานของลิ้นอุ่นชักจูงจนพลุ่งพล่านราวทะเลเดือด เนื้อตัวร้อนผ่าว ในท้องน้อยเดือดจนแทบระเบิดออกมา
เอ้อหลิงเงยหน้าขึ้นมองท่านกั๋วกงด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้าและทำท่าทางสำนึกผิด“เอ้อหลิงสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ เอ้อหลิงขังตัวเองในห้องมาเกินแปดวันแล้ว วะ..วันนี้เอ้อหลิงก็มาเพื่อให้นายท่านให้อภัยเจ้าค่ะ” อนุเอ้อหลิงรีบคว้าจับแขนของท่านกั๋วกงเอาไว้ บีบน้ำตาไหลอาบแก้มราวกับสั่งได้ ท่าทางน่าสงสารยิ่ง“สำนึกผิดก็ดีแล้ว ลุกขึ้นเถิด ข้าให้อภัย ต่อไปก็อย่าทำอีก” หงเจี้ยนหยางลุกขึ้น แต่ไม่ยอมพยุงอนุเอ้อหลิงด้วย“เอ่อ..นายท่าน..ช่วยพยุงเอ้อหลิงได้หรือไม่เจ้าคะ” เอ้อหลิงหน้าด้านเอ่ยออกมาในที่สุดอันเยว่ฉีโกรธจัดแทบจะพุ่งตัวออกไปเพื่อหยุดหงเจี้ยนหยาง“ให้สาวใช้ของเจ้าช่วยเถิด ข้าอยู่ในช่วงรักษาข้อมือ ไม่สะดวกช่วยเหลือ” ท่านกั๋วกงกลับปฏิเสธได้อย่างหมดจด ไม่ต้องรอความช่วยเหลือของอันเยว่ฉีชายหนุ่มกลับไปวิ่ง ไม่สนใจร่างบอบบางที่ยังคงนั่งบนพื้น ไม่ได้หันไปมองด้
ฮูหยินผู้เฒ่าได้รับรู้เรื่องการกลั่นแกล้งอนุเยว่ฉีของเอ้อหลิงก็โกรธเคืองเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลัวว่าอันเยว่ฉีอาจตั้งครรภ์ อย่างไรอนุเยว่ฉีก็ร่วมห้องกับท่านกั๋วกงทุกคืนฮูหยินผู้เฒ่าอยากสั่งสอนเอ้อหลิงให้หลาบจำ แต่ตัวของอนุเอ้อหลิงเต็มไปด้วยบาดแผลจากการถูกฟาดแส้ หญิงชรารู้สึกเห็นใจจึงไม่ได้ลงโทษอะไรมาก ทั้งยังช่วยหายาขนานดีมารักษาให้เอ้อหลิงเพียงแต่เอ้อหลิงไม่ใช่คนดีอะไร นางทรมานกับการรักษาบาดแผลทุกวัน และทรมานกับความเคียดแค้นทุกคืน ร่างกายที่เคยงดงามขาวเนียน ยามนี้กลับเกิดบาดแผลใหญ่ ต่อไปจะต้องกลายเป็นแผลเป็นน่าเกลียด จะให้นางทำใจได้อย่างไรยามนางงดงามหมดจด ท่านกั๋วกงยังไม่เคยเรียกใช้ ไม่ต้องคิดถึงว่าภายภาคหน้านางน่าเกลียดจะเป็นเช่นไร แม้แต่เห็นหน้าท่านกั๋วกงก็อาจไม่มีวันได้เห็นแล้ว ยิ่งคิดอนุเอ้อหลิงยิ่งทรมานใจ คิดแค้นวางแผนเอาคืน ไม่สนใจน้ำใจของฮูหยินผู้เฒ่าช่วงหลังมานี้ อันเยว่ฉีมักจะทำหน้าท







