Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80) / บทที่ 17 สองพี่น้องช่วยกันหาเงิน

Share

บทที่ 17 สองพี่น้องช่วยกันหาเงิน

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-08-25 11:55:16

บทที่ 17 สองพี่น้องช่วยกันหาเงิน

หลังจากจัดร้านเสร็จแล้ว ฟางเจียวเหมยจึงเอ่ยถามพี่ชายถึงเรื่องราคาสินค้าที่เธอนำออกมาจากมิติเพื่อให้พี่ชายช่วยคิดราคา “พี่ใหญ่ พี่คิดว่าเนื้อหมูแปรรูปพวกนี้ เราขายห่อละเท่าไรดี”

เมื่อวานที่เธอขายให้ลูกค้าคนนั้นไปเพราะร้อนเงินและอยากได้เงินมาซื้อบ้านกับร้านค้า จึงไม่รู้ว่าที่ขายไปนั้นราคาถูกแสนถูกเสียเหลือเกิน

“ขายปลีก สามารถขายห่อละยี่สิบห้าหยวนเลยทีเดียว เพราะปริมาณสองชั่งขาดเหลือเล็กน้อย ราคานี้ไม่แพงหรอก และที่สำคัญกรรมวิธีการผลิตมาต้องใช้เวลาและถ้าเป็นเนื้อหวานมันต้องมีน้ำตาลผสมด้วย ซึ่งสิ่งนี้ราคาแพงมาก น้องก็น่าจะรู้” ชายหนุ่มหยิบสินค้าขึ้นมาแล้วพิจารณาไปมา ก่อนบอกราคาที่เหมาะสม

“เมื่อวานฉันขายลูกค้ารายหนึ่งไปเพราะความอยากได้เงินมาซื้อบ้านและร้านนี้ ฉันขายส่งเขาห่อละสิบสามหยวนค่ะ เขาซื้ออย่างละร้อยห่อ รวมแล้วแปดร้อยห่อ พี่ว่าฉันขายถูกไปหรือไม่ ฉันไม่ค่อยรู้ราคาเรื่องนี้น่ะ” ฟางเจียวเหมยสารภาพกับพี่ชาย อีกอย่างต่อให้มาอยู่ในร่างนี้ ก็ไม่เคยรู้ราคาขายสินค้ามาก่อนนั่นเอง

“ถ้าถามพี่ ราคาที่น้องขายนั้นน้อยไป น้องสามารถขายได้ในราคาร้อยห่อ ห่อละยี่สิบหยวน เพราะลดมาจากราคาปลีกห้าหยวน หากน้องจะลดราคาหั่นครึ่งอย่างนั้น น้องควรจะขายในปริมาณที่มากกว่า แต่รวม ๆ แล้วแปดร้อยห่อ พี่คิดว่าห่อละสิบเจ็ดหยวนกำลังดี ถ้าหนึ่งพันห่อหรือมากกว่านั้นค่อยขายสิบห้าหยวน ของซื้อของขายจำพวกอาหาร ราคาไม่นิ่งอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับการสั่งแต่ละรอบ”

ชายหนุ่มบอกกล่าวน้องสาวอย่างอ่อนโยน และอธิบายว่าควรขายราคาเท่าไร ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงรู้ราคา เพราะเขาเคยมารับจ้างขายของให้ร้านเถ้าแก่ในเมืองมาก่อนยังไงล่ะ จึงทำให้เขาเชี่ยวชาญในเรื่องราคาอย่างมาก

หลังจากจัดร้านเรียบร้อยแล้ว ฟางเจียวเหมยจึงพาพี่ชายไปยังบ้านที่ซื้อไว้ แม้ครั้งนี้ชายหนุ่มจะไม่ถามเหมือนตอนที่อยู่ร้านค้า แต่ก็มีสีหน้าตื่นตระหนกกับขนาดบ้านที่น้องสาวซื้อ ซึ่งมันใหญ่กว่าบ้านที่อาศัยอยู่ในเวลานี้อย่างมาก

“เดี๋ยวฉันจะเอาเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่าง ๆ ออกมาไว้แต่ละห้อง หลังจากนี้ฉันจะเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าออกมาด้วย ทุกอย่างจะอำนวยความสะดวกสบายให้เราทั้งหมด ต่อไปหากสร้างบ้านใหม่ค่อยทำห้องน้ำในตัวเพื่อความสะดวกสบาย ตอนนี้ก็ใช้รวมกันไปก่อนก็แล้วกัน” ฟางเจียวเหมยพูดขึ้นเมื่อเดินดูในบ้านทั่วทั้งหมดแล้ว 

“ไม่เป็นไรหรอก ลำบากกว่านี้เราก็เคยอยู่มาแล้ว เรารีบจัดบ้านกันเถอะ จะได้ไปหาเงินในตลาดมืด แล้วจะได้ไปส่งของและจดหมายให้กับน้องเขย อี้ข่ายจะได้รีบกลับมา” ฟางหลู่เฉินบอกกับน้องสาว เขาคิดว่าบ้านหลังนี้ก็สะดวกสบายกว่าบ้านที่เคยอยู่เสียอีก ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการหาเงินให้ได้ก่อน เพื่อใช้เป็นใบเบิกทางในการทำอย่างอื่น จึงเร่งให้น้องสาวจัดบ้านแล้วรีบไปตลาดมืดอย่างที่ตั้งใจไว้จากนั้นฟางเจียวเหมยก็นำของออกมาจากมิติ สองพี่น้องจึงช่วยกันจัดบ้านอย่างแข็งขัน แต่ก็ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงเหมือนกัน

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฟางเจียวเหมยจึงเขียนจดหมายหาสามีเพื่อบอกให้เขากลับมาบ้านด่วน โดยในจดหมายไม่บอกถึงเหตุผลที่ให้เขากลับมา แค่บอกว่าให้กลับมาด่านเท่านั้น นอกจากนี้ยังจัดเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้สามชุด รวมถึงอาหารแห้งและเนื้อแปรรูปแบบต่าง ๆ ส่งไปให้

อีกด้วย

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สองพี่น้องจึงออกมาจากบ้านและมุ่งหน้าไปยังไปรษณีย์ทันที เมื่อส่งของเสร็จแล้วจึงเข้าตลาดมืดเพื่อขายของ

“แม่ดูสิ เห็นหรือไม่ว่าอาสะใภ้สามกับนังเสี่ยวเหลียนใส่เสื้อผ้าใหม่อีกแล้ว” คราวนี้ไม่ใช่หลี่ฉีหลินที่พูดขึ้น แต่กลายเป็นหลี่เชียนหยู่ ลูกสาวคนเล็กของลุงใหญ่และซ่งเจียฮุยเอ่ยขึ้นมา เมื่อพาแม่มาแอบดูบ้านสามหลี่ ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่

“นั่นสิ พวกมันมีเงินมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ ไหนจะซื้อเนื้อมาทำอาหารทุกวันอีก ต่อให้บ้านมีเงิน แต่ก็ไม่มีใครกล้าซื้อเนื้อราคาแพงมาทำกินทุกมื้อหรอกนะ ช่างใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายซะจริง ๆ แล้วมาบอกว่าไม่มีเงินส่งให้บ้านใหญ่” ซ่งเจียฮุยเห็นด้วยกับคำพูดลูกสาวคนเล็กและการที่ซื้อเนื้อมาทำกินสองวันติดต่อกันแบบนี้หากไม่มีเงินก็แปลกแล้ว

“ทำตามอย่างที่พี่รองพูดดีไหมแม่ หาจังหวะให้บ้านสามออกไปข้างนอก หรือไม่อย่างนั้น ก็อ้างว่าย่าให้ไปซื้อของในเมืองดีไหม เราจะได้เข้าไปค้นดูว่าในบ้านนั้นมีอะไรบ้าง เราจะได้ยึดเอามาหมดเลยไงแม่”

หลี่เชียนหยูพูดอย่างอยากได้ของในบ้านสามหลี่ อีกอย่างเธอเองก็ไม่ชอบฟางเจียวเหมยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเธอและฉู่เยี่ยนจะวางแผนกลั่นแกล้งจนอีกฝ่ายตกน้ำได้อย่างไร

“เอาเถอะ เรื่องนี้ค่อยวางแผนกันอีกที รอดูว่าเย็นนี้นังเจียวเหมยจะซื้อของอะไรมาอีกหรือเปล่า” ซ่งเจียฮุยเอ่ยออกมา หล่อนหวังจะเห็นก่อนว่าฟางเจียวเหมยนั้นจะซื้อของอะไรกลับมาอีกหรือไม่ วันนี้ได้ข่าวว่าไปในเมืองกับพี่ชายด้วยนี่นา

พอแอบดูอีกสักพักและเห็นว่าไม่มีอะไร สองแม่ลูกจากบ้านใหญ่จึงหมุนตัวกลับบ้านด้วยความหงุดหงิดเพราะอยากได้อยากมีของคนอื่นแต่หาจังหวะไปแย่งชิงมาเป็นของตัวเองไม่ได้

คล้อยหลังทั้งสองกลับไป หลี่เหว่ยเหลียนที่แอบดูทั้งสองคนอยู่จึงกระซิบกับแม่ทันที

“เป็นไปอย่างที่พี่สะใภ้พูดเลยแม่ เมื่อเช้าก็พี่ฉีหลินมาแอบดู ตอนนี้ก็เป็นป้าสะใภ้กับพี่เชียนหยู่ ถ้าเราทำให้อีกฝ่ายอิจฉามากกว่านี้ แล้วเราจะได้แยกบ้านอย่างที่พี่สะใภ้บอกใช่ไหมคะ” เด็กสาวรู้สึกฮึกเหิมเมื่อรู้ว่าป้าสะใภ้ใหญ่และคนบ้านใหญ่มาแอบดู แบบนี้แล้วความหวังที่จะได้แยกบ้านคงใกล้เข้ามาแล้ว

“เห็นเจียวเหมยบอกว่าจะเป็นอย่างนั้น และแม่หวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น” หนิงหงชุนเอ่ยออกมาอย่างกังวลใจเล็กน้อย

“ต่อให้ร้ายแรงก็ต้องยอมค่ะ แล้วแม่ก็เลิกใจอ่อนได้แล้ว แม่ไม่เห็นเหรอว่าบ้านใหญ่ทำกับพวกเราอย่างไรบ้าง ตอนที่พ่อตาย ต่อให้ฉันยังเด็กแต่ก็จำได้ดีว่าพวกเรานั้นไปอ้อนวอนบ้านใหญ่อย่างไร เพื่อขอเงินพาพ่อไปรักษา แต่อย่าพูดเลยค่ะ ยิ่งพูดฉันยิ่งโมโห ถ้าหากแม่ยังเห็นใจบ้านใหญ่หรือยังใจอ่อนแบบนี้ ไม่แน่คงเป็นฉันที่ต้องตาย แล้วเรื่องที่พี่สะใภ้ตกน้ำเกือบตาย แม่ไม่คิดบ้างหรือว่าบ้านใหญ่มีส่วนรู้เห็น ถึงทุกคนจะบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เรื่องนี้ฉันยังเชื่อเหมือนเดิมพี่สะใภ้ถูกบ้านใหญ่แกล้ง!!”

เด็กสาวพยายามเตือนสติแม่ว่าอย่าใจอ่อน และให้นึกถึงเรื่องในอดีตที่บ้านสามพบเจอมา และคิดรวมถึงทบทวนเรื่องที่ฟางเจียวเหมยตกน้ำนั้นเพราะอะไร ทุกเรื่องทำให้เธอไม่สามารถมองบ้านใหญ่ในทางที่ดีได้เลย!!

“ต่อไปแม่จะไม่ใจอ่อนอีก และจะให้ลูก ๆ และลูกสะใภ้เป็นคนตัดสินใจ แม่จะคอยอยู่ข้าง ๆ เอง” หนิงหงชุนเอ่ยขึ้นเอ่ยขึ้นเมื่อลูกสาวพูดจบประโยค ถ้าหากหลี่อี้ข่ายกลับมาเร็ว ๆ ก็น่าจะดีกว่านี้ เธอจะยกการตัดสินใจทั้งหมดให้กับลูกชายคนโตและยกให้เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว

กลับมาทางด้านของฟางเจียวเหมยและฟางหลู่เฉิน หลังจากที่ทั้งสองคนไปส่งของให้หลี่อี้ข่ายแล้วก็มุ่งหน้าเข้ามาตลาดมืดทันที

วันนี้นอกจากจะมีอาหารจำพวกของสดแล้ว ฟางหลู่เฉินยังแนะนำให้น้องสาวเอาอุปกรณ์เครื่องครัวออกมาขายอีกด้วย เพราะเป็นที่ต้องการของแม่บ้านอย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นจริง เพราะเพียงวางสินค้าไม่นานก็มีกลุ่มแม่บ้านมามุ่งดูและสอบถามเกี่ยวกับสินค้าหลายคนเลยทีเดียว

“พ่อค้า แม่ค้าวันนี้มีอุปกรณ์ในครัวมาขายด้วยหรือจ๊ะ หม้อใบนี้เท่าไรกัน” ลูกค้าที่มาซื้อเนื้อหมู พอเห็นมีของจำพวกกระทะ หม้อ และอุปกรณ์เครื่องครัวก็อดที่จะถามอย่างสนใจไม่ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่น

    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่นหลี่อี้ข่ายเมื่อรู้เรื่องว่าภรรยาเหมือนจะคลอดแล้วจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที พอมาถึงก็รู้ว่าภรรยาได้เข้าไปในห้องคลอดแล้ว เขาได้แต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้องคลอด จนทุกคนเวียนหัวไปหมดแล้วในตอนนี้“อาข่ายหยุดเดินแล้วมานั่งก่อนเถอะ ตาเวียนหัวไปหมดแล้ว” นายท่านผู้เฒ่ากงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเพราะเขาเวียนหัวไปหมดแล้วจากการเดินของหลานเขย“ครับ คุณตา”แต่ถึงแม้จะบอกอย่างนั้น หลี่อี้ข่ายก็ไม่ยอมนั่ง เขาเดินไปยืนเอาหน้าแนบประตูห้องคลอด เหมือนกับว่าจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องให้ได้ นั่นจึงทำให้ทุกคนส่ายหัวให้กับความตื่นเต้นของเขา ทั้ง ๆ ที่เคยมีลูกมาก่อนแล้วสองคนไม่นานประตูก็เปิดออกและมีคุณหมอก็ออกมาแจ้งข่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มว่า“ยินดีด้วยนะคะ คุณเจียวเหมยคลอดลูกแฝดชายหญิงค่ะ”“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอ” ชายหนุ่มรีบถามถึงอาการของภรรยาก่อนจนคุณหมอต้องอมยิ้ม เพราะเขาไม่ถามเลยว่าแฝดกี่คน‘ดูท่าว่าคนนี้จะรักภรรยามากจริง ๆ’ หมอคิดในใจ“ภรรยาคุณหลังจากที่คลอดลูกก็เพลียจนตอนนี้หลับไปแล้วค่ะ อาการปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ถามเหรอคะ ว่าคราวนี้ลูกแฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย

    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย“ฮือ ๆ ๆ ตาแก่นั่นตอนนี้ป่วยหนัก แต่ย่าไม่มีเงินพาไปหาหมอเพราะสะใภ้ใหญ่แอบเอาเงินที่มีไปให้บ้านเดิมยืม จนตอนนี้บ้านซ่งก็ยังไม่คืน แถมเมียอาจงพอเห็นสามีติดคุกก็หอบเงินที่มีหนีไปอีก ตอนนี้บ้านหลี่เราลำบากมาก แทบไม่มีอะไรกิน ตาแก่ทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหวสะดุดล้มหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินไม่ได้อีกและนอนป่วยอยู่ที่บ้าน กินน้ำต้มข้าวประทังชีวิตไปวัน ๆ ”ย่าหลี่พูดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ นางเคยบากหน้าไปขอจากลูกคนรอง แต่บ้านนั้นแทบจะไม่เปิดประตูต้อนรับนางเช่นกันหลี่อี้ข่ายได้ฟังอย่างนั้นก็หันไปสบสายตากับฟางเจียวเหมย เมื่อเธอพยักหน้าให้ เขาก็ออกคำสั่งกับคนที่เป็นทั้งสหายและลูกน้องคนสนิทของตนเองทันที“เผิงหยู่ นายเอารถฉันพาย่าไปรับปู่แล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล ค่ารักษาฉันจะจ่ายเองทั้งหมด อ้อ เอาอาหารแล้วก็ของใช้ไปให้เพียงพอสำหรับปู่กับย่าด้วยนะ คนอื่นไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงความร้ายกาจที่บ้านใหญ่มีต่อบ้านสามของเขา ครั้งนี้เขาขอทำเพื่อพ่อที่จากไป อย่างน้อยก็ได้กตัญญูแทนท่าน และเขาทำให้ปู่กับย่าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์“ครับเถ้าแก่” เผิงหยู่ขานรับทันที เขารู้สิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปัน

    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปันข่าวเรื่องที่ร้านหลี่ฟางจะตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารและของใช้ให้ชาวบ้าน ต่างกระจายไปทั่ว ไม่ว่าหมู่บ้านนั้นจะอยู่ลึกและกันดารแค่ไหน สามล้อพุ่มพวงก็เดินทางไปส่งข่าวหลังจากขายของหมดแล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตื่นเต้นดีใจ ทุกคนได้แต่อวยพรให้ร้านหลี่ฟางขายดีและร่ำรวยยิ่งกว่าเดิม พอนายท่านกงและนายท่านผู้เฒ่ากงทราบเรื่อง ทั้งสองก็มาช่วยลงขันด้วย โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากไร้ ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อเบื้องต้นจำนวน 50 ทุนและจะพิจารณาทุนให้เป็นการเฉพาะรายที่อยากเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย โดยจะคัดเลือกจากคนเรียนดีแต่ยากจนจริงๆ อีกครั้งในภายหลัง พอเรื่องนี้เข้าหูชาวบ้าน ทุกคนก็ยิ่งดีใจมาก เพราะหลายครอบครัวที่อยากส่งลูกหลานเรียนแต่ไม่มีเงิน“ขอบคุณตระกูลหลี่ ตระกูลฟาง และตระกูลกง นอกจากฉันจะไม่อดตายในหน้าหนาวปีนี้แล้ว หลานของฉันมีโอกาสได้เรียนต่อตามที่เขาตั้งใจไว้อีกด้วยขอบคุณจริงๆ”ยายเฒ่าคนหนึ่งหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อได้ยินประกาศจากรถสามล้อพุ่มพวง เนื่องจากเธออาศัยอยู่กับหลานชายและลูกชาย ซึ่งตอนนี้หลานชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากบ้านพวกเธอต่างยอม

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน

    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน“เป็นอย่างไรบ้าง อย่างที่คิดไหม” นายท่านผู้เฒ่ากงสอบถามทันทีด้วยสีหน้าร้อนรนปนตื่นเต้น เมื่อหลานทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน“เป็นอย่างที่คิดครับคุณตา เจียวเหมยตั้งท้องแล้วครับ แปดสัปดาห์แล้วครับคุณตา” หลี่อี้ข่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เพราะเวลานี้เขากำลังดีใจที่จะมีลูกเพิ่ม“จริงหรือ” หนิงหงชุนพอได้ยินว่าลูกสะใภ้ตั้งท้องอีกครั้งก็รีบวางหลานสาวเข้าคอกกั้น ก่อนจะวิ่งออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจส่วนนายท่านผู้เฒ่ากงปรากฏรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่“จริงครับแม่”หลี่อี้ข่ายตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้เขากำลังดีใจกว่าทุกคนในเรื่องนี้ ส่วนฟางเจียวเหมยนั้นไม่ต้องห่วง เธอนั้นมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งอบอุ่นหัวใจและดีใจก่อนจะเดินไปหาลูกน้อยทั้งสองคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในคอก“อาหมิง หนิงหนิง เราสองคนกำลังมีน้องแล้วนะ ดีใจไหม” ความดีใจนี้เธออยากจะบอกให้ลูกทั้งสองคนรับรู้“น้อนเหยอ” หลี่ลี่หนิงละทิ้งของเล่นในมือพร้อมกับเอียงคอถามด้วยท่าทีที่น่ารัก“ค่ะลูก หนูกำลังจะมีน้องรู้ไหม” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน ส่วนหลี่ชุน

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้ว

    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้วหลังจากเปิดใจกันวันนั้นฟางหลู่เฉินและหลี่เหว่ยเหลียนก็ได้เปิดตัวกับทุกคน ซึ่งทั้งสองครอบครัวต่างก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วย รวมถึงนายท่านผู้เฒ่ากงด้วย วันเวลาล่วงเลยจนอี้เสี่ยวม่านใกล้คลอดแล้ว ส่วนกงเฉิงเสวียนก็เดินทางไปกลับระหว่างสองเมืองเพื่อดูแลงานเองทุกที่ รวมถึงร้านรับซื้อหยกของเขาด้วย มีบางครั้งที่ฟางเจียวเหมยและสามีตามไปด้วยเพื่อหาซื้อหยกแล้วขายต่อให้พี่ชายอีกทั้งเวลานี้โรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ก็คืบหน้าไปมาก เพราะฟางเจียวเหมยทุ่มเงินไปกับส่วนนี้ไม่น้อย แม้การก่อสร้างจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ประสิทธิภาพและความคงทนแข็งแรงนั้นไม่ด้อยไปกว่าใคร เพราะทรัพย์สินพวกนี้เป็นอะไรที่สามารถเก็บกินระยะยาวหลายสิบปีและเธอตั้งใจจะทำเพื่อมอบไว้ให้ลูก ๆฟางเจียวเหมยและหลี่อี้ข่าย ตอนนี้ทั้งสองคนมีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้และเมืองใกล้ ๆ ไม่น้อย เพราะกิจการที่เจริญรุ่งเรืองไม่หยุดของทั้งคู่ ทำให้เป็นที่นับหน้าถือตาของกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าชาวบ้านธรรมดา จะกลายเป็นผู้มีเงินได้มากขนาดนี้อีกทั้งคุณนายหลี่อย่างฟางเจียวเหมย ยังมีฐานะเป็นหลานสาวของตระกูลกงที่มั่งคั่งและร่ำรวยระ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉิน

    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉินหลังจากส่งนายท่านกงขึ้นรถแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง รวมถึงกงเฉิงเสวียนที่เปิดกิจการใหม่ที่นี่ด้วยนั่นก็คือโรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ตามคำแนะนำของน้องสาวอย่างฟางเจียวเหมย ซึ่งเธอก็สร้างด้วยเหมือนกัน เพราะกิจกรรมพวกนี้ มันไม่ได้แย่งชิงลูกค้ากันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่ทุนน้อยและไม่มีที่ดินของตนเอง ซึ่งการที่ฟางเจียวเหมยให้พี่ชายคนนี้มาทำกิจการนี้ นั่นก็เพราะว่ากงเฉิงเสวียนมีเส้นสายในการขออนุญาตกับภาครัฐอย่างไรล่ะ หากเป็นตาสีตาสาเช่นเธอ ทุกอย่างคงจะยากน่าดูพอทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว นายท่านผู้เฒ่ากงก็หันมาเล่นกับสองแฝดด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของชายชราปรากฏให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ซึ่งเด็กน้อยแม้จะพูดไม่ค่อยชัดเพราะเริ่มหัดพูด แต่ก็พยายามโต้ตอบสื่อสารกับผู้เป็นทวดของทั้งสองคนอย่างร่าเริง“ฉันฝากสองแฝดหน่อยนะคะนายท่านผู้เฒ่า เดี๋ยวจะไปเตรียมอาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงของเด็กๆ วันนี้นายท่านต้องการรับประทานอาหารชนิดไหนคะ ฉันจะได้เตรียมไว้ให้” หนิงหงชุนพอเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้ว เลยฝากหลานทั้งสองไว้ให้นายท่านผู้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status