Share

บทที่ 18 หลอกล่อโจรขโมยของ

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-08-25 11:55:33

บทที่ 18 หลอกล่อโจรขโมยของ

“หม้อขนาดกลางใบละสี่สิบหยวน ทำจากวัตถุดิบชั้นดี ใช้ได้หลายสิบปีเลยครับ คุณลูกค้าลองดูก่อนได้นะ วันนี้ร้านเรายังมีอุปกรณ์ปะหม้อและกระทะที่รั่วด้วยนะครับ” ฟางหลู่เฉินเอ่ยถึงสินค้าที่น้องสาวนำออกมาขายด้วยความคล่องแคล่ว ชายหนุ่มไม่เคอะเขินเลยที่ต้องมานั่งขายของแบบนี้กับน้องสาว เพราะเขาคิดแค่ว่า ทำอย่างไรก็ได้ที่ให้น้องสาวเหนื่อยน้อยลง

“แล้วที่ปะหม้อมันใช้อย่างไรหรือ ราคาแพงหรือเปล่า” ลูกค้าคนนี้สนใจ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความกระตือรือร้น เพราะถ้าหากมีอุปกรณ์ปะหม้อที่ใช้ดี ก็จะทำให้ประหยัดเงินไปได้เยอะ และจะได้เอาเงินส่วนนั้นมาซื้ออาหารอย่างอื่น

“เดี๋ยวผมจะทำให้ดูนะครับ”

ฟางหลู่เฉินพูดจบก็จะสาธิตให้ลูกค้าดูตามที่น้องสาวสอนก่อนจะมาขาย ชายหนุ่มหยิบม้วนคล้ายกับกระดาษสีเงินออกมา ก่อนจะมองหน้าฟางเจียวเหมยเพราะตอนนี้ไม่มีหม้อที่ชำรุด ฟางเจียวเหมยเข้าใจทันที

เธอจึงตัดสินใจหยิบตะปูเพื่อเจาะรูก้นหม้อแล้วยื่นให้กับพี่ชาย นี่จึงทำให้ลูกค้าหลายคนตกใจมาก ไม่คิดว่าแม่ค้าร้านนี้จะกล้าลงทุนเจาะสินค้าของตัวเองแบบนี้

เมื่อได้หม้อที่มีรูรั่วมา ชายหนุ่มก็สาธิตอย่างช้า ๆ เมื่อเสร็จแล้วก็เทน้ำใส่เข้าไปในหม้อที่ปะแล้วและไม่มีน้ำรั่วออกมาแม้แต่หยดเดียว นั่นทำให้ลูกค้าหลายคนยอมควักเงินซื้อทันที 

การค้าวันนี้ที่สองพี่น้องช่วยกันขายของได้เงินมาไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งฟางเจียวเหมยแบ่งให้พี่ชายจำนวนหนึ่ง แต่ทว่าชายหนุ่มขอไม่รับไว้

“เก็บไว้เถอะ น้องต้องใช้เงินอีกเยอะ เอาเป็นว่าพี่ค่อยรับค่าจ้างหลังจากทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วจะดีกว่า” ฟางหลู่เฉินไม่คิดจะเอาเปรียบน้องสาว เพราะคิดว่าของทั้งหมดที่นำมาขาย ท่านตาคนนั้นมอบให้

ฟางเจียวเหมย เงินทั้งหมดที่ขายได้ก็สมควรจะเป็นของเธอคนเดียว

ส่วนเขาค่อยมารับเงินค่าจ้างก็แล้วกัน

“เงินส่วนนี้ก็ถือเป็นค่าแรงของพี่เหมือนกัน แต่หากพี่ยังไม่รับไป ถ้าอย่างนั้นก็เก็บไว้ที่ฉันก่อน ไม่แน่ว่าถ้าแม่เลี้ยงรู้ว่าพี่มีเงินติดตัว อาจจะโดนหล่อนแย่งชิงไปและจะทำให้การแยกตัวออกมาลำบากมากกว่าเดิม” ฟางเจียวเหมยพูดขึ้นมา เพราะกลัวว่าหากแม่เลี้ยงรู้ว่าพี่ชายมีเงิน หล่อนอาจจะแย่งไปแล้วจะไม่ยอมให้แยกตัวออกมา เพราะเห็นเขาเป็นคนหาเงินเข้าบ้านได้อย่างไรล่ะ

“อืม” ชายหนุ่มตอบกลับเพียงเท่านี้ ก่อนจะช่วยกันเก็บของกลับบ้าน

เย็นวันนี้บ้านสามหลี่ยังคงทำอาหารด้วยเนื้อ ซึ่งกลิ่นนี้ยังคงตลบอบอวลทั่วไปหมด ซึ่งบ้านที่ลำบากต้องกลืนน้ำลายมากที่สุดก็คือบ้านใหญ่หลี่นั่นเอง

“เอาอีกแล้วหรือเนี่ย พวกมันไม่คิดจะทำอาหารที่คนทั่วไปกินบ้างหรืออย่างไร แล้วยังไม่แบ่งมาให้พ่อแม่สามีอีก ช่างไร้น้ำใจสิ้นดี” ย่าหลี่ไม่วายบ่นออกมา แถมยังก่นด่าบ้านสามว่าไร้น้ำใจ ไม่ยอมเอาอาหารจานเนื้อมาแบ่งให้นางกับสามีกินบ้างเลย

“หล่อนก็กินแบบเงียบ ๆ ได้หรือไม่ บ้านสามจะไม่ให้อะไรพวกเราก็เพราะปากหล่อนเป็นอย่างนี้ไงล่ะ” ปู่หลี่แม้จะไม่ใช่คนดีมาก แต่การที่เห็นภรรยาบ่นแบบนี้ก็อดใจไม่ไหวที่จะสอดปากเข้ามาพูด นี่จึงทำให้ภรรยานั้นถลึงตาใส่อย่างโมโห

“ตาแก่ เงียบปากไปเลยนะ”

บ้านหลี่แม้อยากได้ของจากบ้านสามมาเป็นของตัวเอง แต่เวลานี้ยังไม่มีโอกาสเลยสงบเสงี่ยมและกินอาหารต่อ โดยไม่พูดถึงบ้านสามอีกเลย

กลับมาทางด้านของฟางเจียวเหมย หลังจากทำอาหารเสร็จแล้ว ทั้งหมดมานั่งกินข้าวด้วยกันที่แคร่หน้าบ้านเหมือนเดิม ซึ่งวันนี้สองแฝดยังไม่นอน จึงได้ออกมานั่งเล่นเหมือนกัน

“พรุ่งนี้ฉันจะพาทุกคนเข้าไปในเมืองนะ เตรียมตัวไว้ด้วยนะ” หลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว ฟางเจียวเหมยจึงบอกแม่สามีและน้องสาวของสามีให้รับรู้ว่าพรุ่งนี้ทุกคนจะต้องเข้าเมืองด้วยกันตามแผนที่เธอวางไว้

“ถ้าอย่างนั้นเจียวเหมยไม่ต้องเตรียมอาหารเช้าหรอกนะ อาหารเย็นนี้เหลือพอทีจะกินได้อีกมื้อ ถ้าจะทำก็มีเพียงข้าวต้มของสองแฝดเท่านั้น” หนิงหงชุนเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินว่าลูกสะใภ้จะพาทุกคนเข้าเมือง

“ไม่หรอกแม่ หากไม่ทำไว้ พอพวกเรากลับมาต้องหุงหาอาหาร

มันเสียเวลา อีอย่างตอนนี้ใครก็ไม่มาวุ่นวายกับบ้านเราเหมือนเมื่อก่อนแล้วนี่คะ จริงสิ วันนี้ฉันซื้อเนื้อตากแห้งและเนื้อแปรรูปแบบที่เราเอามากินส่งไปให้พี่อี้ข่ายด้วยนะ รวมถึงเสื้อผ้าอีกสามชุด แล้วก็เขียนจดหมายบอกให้สามีกลับมาบ้านด้วย”

เธอบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนกับคนไม่มีอะไร ทว่าสายตาของฟางเจียวเหมยเหลือบมองทางบ้านใหญ่ เพราะเวลานี้เธอเห็นว่ามีเงาตะคุ่มอยู่ข้างบ้าน นี่จึงทำให้รู้ว่าคนจากบ้านใหญ่เริ่มมาแอบฟังแล้ว จากนั้นจึงขยิบตาให้พี่ชายเพื่อส่งสัญญาณ

ฟางหลู่เฉินเข้าใจที่น้องสาวพูด จึงทำทีเสนอตัวมาเฝ้าบ้านให้

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พี่มาเฝ้าบ้านให้ดีไหม เจียวเหมยกับทุกคนจะได้เที่ยวอย่างสบายใจ” เขาพูดขึ้นเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย

“ไม่ต้องหรอก บ้านเรามีแค่อาหารและเงินไม่เท่าไร ส่วนเสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่คนละหกเจ็ดชุดนั้น ใครจะบ้ามาลักขโมยกัน พรุ่งนี้พี่ใหญ่เองก็ต้องไปกับพวกเรา” ฟางเจียวเหมยตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นเล็กน้อยเหมือนกัน เพื่อให้คนที่มาแอบฟังนั้นได้ยิน

“อืมเอาอย่างนั้นก็ได้ อย่างนั้นวันนี้พี่จะเอาถ้วยชามไปล้างเอง

แล้วจะมาเก็บไว้ให้ พรุ่งนี้เจอกันตอนเช้าเหมือนเดิม” ฟางหลู่เฉินตอบรับก่อนจะเริ่มเก็บถ้วยชามใส่กะละมังเพื่อที่จะเอาไปล้างที่เดิมเหมือนทุกวัน โดยมีหลี่เหว่ยเหลียนคอยช่วยด้วย

“เดี๋ยววันนี้ฉันไปด้วยดีกว่า ให้เสี่ยวเหลียนกับแม่อยู่ดูแลสองแฝดเถอะนะ” ฟางเจียวเหมยพูดขึ้น เธอมีแผนการในใจว่าจะต้องหาของบางอย่างให้เจอ นอกจากจะจับโจรได้แล้ว ยังได้ความสะใจอีกเล็กน้อย แค่นี้ก็พอจะทำให้สบายใจว่าจะไม่มีปัญหาตามมาหากต้องย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง

“ได้ค่ะพี่สะใภ้” หลี่เหว่ยเหลียนตอบรับอย่างว่าง่าย

จากนั้นเด็กสาวและแม่ของเธอจึงพาหลานสองคนเข้าห้องโดยมีฟางเจียวเหมยตามเข้ามาด้วย ก่อนจะบอกบางอย่างให้แม่และน้องสามีได้รับรู้ แล้วเดินออกมาเพื่อไปล้างถ้วยชามกับพี่ชาย

หลังจากล้างถ้วยชามเสร็จแล้ว ฟางเจียวเหมยก็ไปหาของบางอย่างกับพี่ชายสองคน พอได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ทั้งสองจึงกลับมาบ้านสามหลี่อีกครั้ง

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยอย่างที่วางไว้ ฟางหลู่เฉินจึงขอตัวกลับบ้านฟางทันที ..

เช้าวันต่อมา...

ฟางเจียวเหมยยังคงตื่นมาทำอาหารเช้าเหมือนอย่างเคย วันนี้ทุกคนต้องเข้าเมืองจึงต้องรีบกินอาหารแต่เช้า หลังจากเตรียมอาหารเสร็จแล้ว เธอจึงรีบบอกให้แม่และน้องสาวของสามีไปอาบน้ำเตรียมตัวไว้ก่อน และให้น้องสามีตักน้ำมาเพื่อเช็ดตัวให้ลูกน้อยทั้งสองเท่านั้น เพราะหลังกินอาหารแล้วเด็กทั้งสองจะต้องเช็ดตัวทำความสะอาด

“เรียบร้อยกันหรือยัง เราจะเข้าเมืองกันแล้วนะ” เสียงของฟางหลู่เฉินดังขึ้น พร้อมกับร่างของเขาเดินเข้ามาในรั้วบ้านสามหลี่

“เรียบร้อยแล้วค่ะพี่ใหญ่ เข้ามาด้านในก่อนสิคะ” ฟางเจียวเหมยส่งเสียงเรียกพี่ชายให้เข้ามาด้านในบ้าน จากนั้นสองพี่น้องก็ทำบางอย่างกับข้าวของที่อยู่ในห้องนี้ ก่อนที่หญิงสาวจะเดินเข้าครัวอีกครั้งเพื่อดูความเรียบร้อย

“ไปกันเถอะ เรามีเวลากันไม่นานเท่าไรนัก” หญิงสาวเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ต้องการนั้นเรียบร้อยดีแล้ว จึงเอ่ยปากบอกทุกคน

จากนั้นคนบ้านสามหลี่พร้อมกับฟางหลู่เฉินจึงเดินออกจากบ้านมุ่งหน้าไปขึ้นเกวียนเพื่อจะเข้าเมือง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่น

    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่นหลี่อี้ข่ายเมื่อรู้เรื่องว่าภรรยาเหมือนจะคลอดแล้วจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที พอมาถึงก็รู้ว่าภรรยาได้เข้าไปในห้องคลอดแล้ว เขาได้แต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้องคลอด จนทุกคนเวียนหัวไปหมดแล้วในตอนนี้“อาข่ายหยุดเดินแล้วมานั่งก่อนเถอะ ตาเวียนหัวไปหมดแล้ว” นายท่านผู้เฒ่ากงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเพราะเขาเวียนหัวไปหมดแล้วจากการเดินของหลานเขย“ครับ คุณตา”แต่ถึงแม้จะบอกอย่างนั้น หลี่อี้ข่ายก็ไม่ยอมนั่ง เขาเดินไปยืนเอาหน้าแนบประตูห้องคลอด เหมือนกับว่าจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องให้ได้ นั่นจึงทำให้ทุกคนส่ายหัวให้กับความตื่นเต้นของเขา ทั้ง ๆ ที่เคยมีลูกมาก่อนแล้วสองคนไม่นานประตูก็เปิดออกและมีคุณหมอก็ออกมาแจ้งข่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มว่า“ยินดีด้วยนะคะ คุณเจียวเหมยคลอดลูกแฝดชายหญิงค่ะ”“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอ” ชายหนุ่มรีบถามถึงอาการของภรรยาก่อนจนคุณหมอต้องอมยิ้ม เพราะเขาไม่ถามเลยว่าแฝดกี่คน‘ดูท่าว่าคนนี้จะรักภรรยามากจริง ๆ’ หมอคิดในใจ“ภรรยาคุณหลังจากที่คลอดลูกก็เพลียจนตอนนี้หลับไปแล้วค่ะ อาการปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ถามเหรอคะ ว่าคราวนี้ลูกแฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย

    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย“ฮือ ๆ ๆ ตาแก่นั่นตอนนี้ป่วยหนัก แต่ย่าไม่มีเงินพาไปหาหมอเพราะสะใภ้ใหญ่แอบเอาเงินที่มีไปให้บ้านเดิมยืม จนตอนนี้บ้านซ่งก็ยังไม่คืน แถมเมียอาจงพอเห็นสามีติดคุกก็หอบเงินที่มีหนีไปอีก ตอนนี้บ้านหลี่เราลำบากมาก แทบไม่มีอะไรกิน ตาแก่ทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหวสะดุดล้มหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินไม่ได้อีกและนอนป่วยอยู่ที่บ้าน กินน้ำต้มข้าวประทังชีวิตไปวัน ๆ ”ย่าหลี่พูดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ นางเคยบากหน้าไปขอจากลูกคนรอง แต่บ้านนั้นแทบจะไม่เปิดประตูต้อนรับนางเช่นกันหลี่อี้ข่ายได้ฟังอย่างนั้นก็หันไปสบสายตากับฟางเจียวเหมย เมื่อเธอพยักหน้าให้ เขาก็ออกคำสั่งกับคนที่เป็นทั้งสหายและลูกน้องคนสนิทของตนเองทันที“เผิงหยู่ นายเอารถฉันพาย่าไปรับปู่แล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล ค่ารักษาฉันจะจ่ายเองทั้งหมด อ้อ เอาอาหารแล้วก็ของใช้ไปให้เพียงพอสำหรับปู่กับย่าด้วยนะ คนอื่นไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงความร้ายกาจที่บ้านใหญ่มีต่อบ้านสามของเขา ครั้งนี้เขาขอทำเพื่อพ่อที่จากไป อย่างน้อยก็ได้กตัญญูแทนท่าน และเขาทำให้ปู่กับย่าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์“ครับเถ้าแก่” เผิงหยู่ขานรับทันที เขารู้สิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปัน

    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปันข่าวเรื่องที่ร้านหลี่ฟางจะตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารและของใช้ให้ชาวบ้าน ต่างกระจายไปทั่ว ไม่ว่าหมู่บ้านนั้นจะอยู่ลึกและกันดารแค่ไหน สามล้อพุ่มพวงก็เดินทางไปส่งข่าวหลังจากขายของหมดแล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตื่นเต้นดีใจ ทุกคนได้แต่อวยพรให้ร้านหลี่ฟางขายดีและร่ำรวยยิ่งกว่าเดิม พอนายท่านกงและนายท่านผู้เฒ่ากงทราบเรื่อง ทั้งสองก็มาช่วยลงขันด้วย โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากไร้ ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อเบื้องต้นจำนวน 50 ทุนและจะพิจารณาทุนให้เป็นการเฉพาะรายที่อยากเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย โดยจะคัดเลือกจากคนเรียนดีแต่ยากจนจริงๆ อีกครั้งในภายหลัง พอเรื่องนี้เข้าหูชาวบ้าน ทุกคนก็ยิ่งดีใจมาก เพราะหลายครอบครัวที่อยากส่งลูกหลานเรียนแต่ไม่มีเงิน“ขอบคุณตระกูลหลี่ ตระกูลฟาง และตระกูลกง นอกจากฉันจะไม่อดตายในหน้าหนาวปีนี้แล้ว หลานของฉันมีโอกาสได้เรียนต่อตามที่เขาตั้งใจไว้อีกด้วยขอบคุณจริงๆ”ยายเฒ่าคนหนึ่งหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อได้ยินประกาศจากรถสามล้อพุ่มพวง เนื่องจากเธออาศัยอยู่กับหลานชายและลูกชาย ซึ่งตอนนี้หลานชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากบ้านพวกเธอต่างยอม

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน

    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน“เป็นอย่างไรบ้าง อย่างที่คิดไหม” นายท่านผู้เฒ่ากงสอบถามทันทีด้วยสีหน้าร้อนรนปนตื่นเต้น เมื่อหลานทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน“เป็นอย่างที่คิดครับคุณตา เจียวเหมยตั้งท้องแล้วครับ แปดสัปดาห์แล้วครับคุณตา” หลี่อี้ข่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เพราะเวลานี้เขากำลังดีใจที่จะมีลูกเพิ่ม“จริงหรือ” หนิงหงชุนพอได้ยินว่าลูกสะใภ้ตั้งท้องอีกครั้งก็รีบวางหลานสาวเข้าคอกกั้น ก่อนจะวิ่งออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจส่วนนายท่านผู้เฒ่ากงปรากฏรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่“จริงครับแม่”หลี่อี้ข่ายตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้เขากำลังดีใจกว่าทุกคนในเรื่องนี้ ส่วนฟางเจียวเหมยนั้นไม่ต้องห่วง เธอนั้นมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งอบอุ่นหัวใจและดีใจก่อนจะเดินไปหาลูกน้อยทั้งสองคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในคอก“อาหมิง หนิงหนิง เราสองคนกำลังมีน้องแล้วนะ ดีใจไหม” ความดีใจนี้เธออยากจะบอกให้ลูกทั้งสองคนรับรู้“น้อนเหยอ” หลี่ลี่หนิงละทิ้งของเล่นในมือพร้อมกับเอียงคอถามด้วยท่าทีที่น่ารัก“ค่ะลูก หนูกำลังจะมีน้องรู้ไหม” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน ส่วนหลี่ชุน

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้ว

    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้วหลังจากเปิดใจกันวันนั้นฟางหลู่เฉินและหลี่เหว่ยเหลียนก็ได้เปิดตัวกับทุกคน ซึ่งทั้งสองครอบครัวต่างก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วย รวมถึงนายท่านผู้เฒ่ากงด้วย วันเวลาล่วงเลยจนอี้เสี่ยวม่านใกล้คลอดแล้ว ส่วนกงเฉิงเสวียนก็เดินทางไปกลับระหว่างสองเมืองเพื่อดูแลงานเองทุกที่ รวมถึงร้านรับซื้อหยกของเขาด้วย มีบางครั้งที่ฟางเจียวเหมยและสามีตามไปด้วยเพื่อหาซื้อหยกแล้วขายต่อให้พี่ชายอีกทั้งเวลานี้โรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ก็คืบหน้าไปมาก เพราะฟางเจียวเหมยทุ่มเงินไปกับส่วนนี้ไม่น้อย แม้การก่อสร้างจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ประสิทธิภาพและความคงทนแข็งแรงนั้นไม่ด้อยไปกว่าใคร เพราะทรัพย์สินพวกนี้เป็นอะไรที่สามารถเก็บกินระยะยาวหลายสิบปีและเธอตั้งใจจะทำเพื่อมอบไว้ให้ลูก ๆฟางเจียวเหมยและหลี่อี้ข่าย ตอนนี้ทั้งสองคนมีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้และเมืองใกล้ ๆ ไม่น้อย เพราะกิจการที่เจริญรุ่งเรืองไม่หยุดของทั้งคู่ ทำให้เป็นที่นับหน้าถือตาของกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าชาวบ้านธรรมดา จะกลายเป็นผู้มีเงินได้มากขนาดนี้อีกทั้งคุณนายหลี่อย่างฟางเจียวเหมย ยังมีฐานะเป็นหลานสาวของตระกูลกงที่มั่งคั่งและร่ำรวยระ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉิน

    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉินหลังจากส่งนายท่านกงขึ้นรถแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง รวมถึงกงเฉิงเสวียนที่เปิดกิจการใหม่ที่นี่ด้วยนั่นก็คือโรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ตามคำแนะนำของน้องสาวอย่างฟางเจียวเหมย ซึ่งเธอก็สร้างด้วยเหมือนกัน เพราะกิจกรรมพวกนี้ มันไม่ได้แย่งชิงลูกค้ากันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่ทุนน้อยและไม่มีที่ดินของตนเอง ซึ่งการที่ฟางเจียวเหมยให้พี่ชายคนนี้มาทำกิจการนี้ นั่นก็เพราะว่ากงเฉิงเสวียนมีเส้นสายในการขออนุญาตกับภาครัฐอย่างไรล่ะ หากเป็นตาสีตาสาเช่นเธอ ทุกอย่างคงจะยากน่าดูพอทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว นายท่านผู้เฒ่ากงก็หันมาเล่นกับสองแฝดด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของชายชราปรากฏให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ซึ่งเด็กน้อยแม้จะพูดไม่ค่อยชัดเพราะเริ่มหัดพูด แต่ก็พยายามโต้ตอบสื่อสารกับผู้เป็นทวดของทั้งสองคนอย่างร่าเริง“ฉันฝากสองแฝดหน่อยนะคะนายท่านผู้เฒ่า เดี๋ยวจะไปเตรียมอาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงของเด็กๆ วันนี้นายท่านต้องการรับประทานอาหารชนิดไหนคะ ฉันจะได้เตรียมไว้ให้” หนิงหงชุนพอเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้ว เลยฝากหลานทั้งสองไว้ให้นายท่านผู้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status