“พี่รอง นังหนูฝูกับนังหนูหรงกลับมาแล้ว ท่านแม่ให้มาตามพวกพี่ไปที่บ้านใหญ่ รีบตามมาเร็วเข้า!”
นางหวางตะโกนเสียงดังอยู่ด้านนอก
นางหลี่เปิดประตูออกมา และเตรียมที่จะเดินตามนางหวางไป
แต่จมูกของนางหวางนั้นดีมาก นางรู้สึกว่ามีกลิ่นแปลกๆอยู่ในห้อง จึงรีบกระโจนเข้ามาในทันที
นางหลี่รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาทันที เพราะเกรงว่านางจะเห็นกระดูกไก่ที่อยู่ในโถดินเผา จึงรีบนางออกไป“น้องสาม เจ้าบอกว่าท่านแม่กำลังรออยู่ที่บ้านใหญ่ไม่ใช่เหรอ พวกเราไปกันเถอะ”
นางหวางมองสำรวจไปทั่ว แต่ก็ไม่พบอะไรที่น่าสงสัย
หรือว่าจมูกของนางผิดปกติไปแล้ว?
ทั้งๆที่นางได้กลิ่นของเนื้ออย่างชัดเจน และก็ยังเป็นเนื้อไก่อีกด้วย!
“ไปกันเถอะ”นางหวางยิ้มอย่างกลบเกลื่อน แต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะนางหลี่ดึงตัวเอาไว้ นางจะต้องพลิกห้องค้นหาอย่างแน่นอน
ซูหวั่นจ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังของนางหวาง และแอบก่นด่าว่าจมูกดีเหมือนสุนัขอยู่ลับๆ
โชคดีที่นางมือเท้าไวและเก็บทุกอย่างเข้าไปในพื้นที่จินตนาการอย่างทันท่วงที โดยที่กำชับให้ซูลิ่วหลางอยู่ในห้อง จากนั้นซูหวั่นก็เดินตามทั้งสองไปอย่างรวดเร็ว
บ้านใหญ่ กำลังวุ่นวายไปหมดในตอนนี้
ซูฝูกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของแม่เฒ่าเซี่ยงพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้น“ท่านย่า ข้าจะทำยังไงดี หากข่าวแพร่กระจายออกไปข้าจะเอาหน้าไปไว้ไหน ข้าจะต้องถูกจับลงในกรงหมูแล้วถ่วงน้ำตายอย่างแน่นอนเลย ฮือฮือ——”
โดยที่แม่เฒ่าเซี่ยงให้ความรักและทะนุถนอมซูฝูมาโดยตลอด
หลานสาวคนนี้เป็นเด็กที่น่ารัก พูดเอาใจเก่งและยังหน้าตาสะสวย แถมยังสามารถปีนป่ายสกุลใหญ่ได้อีกด้วย!
“เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจไป ค่อยๆพูด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”แม่เฒ่าเซี่ยงตบไหล่ซูฝูเบาๆ ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้เพราะซูฝู“มีย่าอยู่ทั้งคน เจ้าอย่ากลัวไปเลย ไม่มีใครกล้าเอาเจ้าไปใส่กรงหมูถ่วงน้ำหรอก”
ซูฝูร้องไห้สะอึกสะอื้น“ข้าท้อง ท้องกับท่านชายเจียงค่ะ”
“อะไรนะ!”
แม่เฒ่าเซี่ยงตกใจจนหน้าซีด และแผดเสียงออกมา จากนั้นก็มองไปยังท้องของซูฝูที่ยื่นออกมา
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อยู่ดีๆจะท้องได้ยังไง ท่านชายเจียงคือท่านชายที่อยู่ในเมืองคนนั้นใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”ซูฝูก้มหน้า และกัดริมฝีปากจนขาวซีด
การท้องก่อนแต่งเป็นความผิดที่ร้ายแรง จะต้องถูกจับใส่กรงหมูและถ่วงน้ำ นางกลัวเป็นอย่างมาก เพราะไม่อย่างนั้นแล้วก็คงไม่วิ่งกลับมาจากในเมืองแบบตื่นตระหนกแบบนี้หรอกนะ
และไม่ว่าแม่เฒ่าเซี่ยงจะลำเอียงสักแค่ไหน แต่นางก็รับรู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี โดยที่สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปตลอดเวลา
นางจางปาดน้ำตา แล้วพูดว่า“ท่านแม่ ที่อาฝูทำแบบนี้ก็เพราะเห็นแก่อนาคตของสกุลซูนะคะ สกุลเจียงเป็นแบบไหนใครๆก็รู้ ถ้าอาฝูสามารถแต่งเข้าไปได้ ต่อไปน้องสี่และเอ้อหลางจะต้องสอบเข้าราชการได้อย่างแน่นอนนะคะ”
ใบหน้าของซูฉางฝูตึงเครียด“ท่านแม่ ท่านแม่จะต้องคิดหาวิธีให้กับอาฝูนะครับ”
ใบหน้าของซูหรงกลมๆ และนางก็ดึงนางจางพร้อมกับออดอ้อนขึ้นมาเหมือนกัน“ท่านย่าคะ ท่านพี่ทำไปก็เพราะต้องการที่จะมัดใจท่านชายเจียงเอาไว้ คิดไม่ถึงเลยว่าท่านชายเจียงได้กินแล้วจะกลับคำแบบนี้ได้”
หากไม่ใช่เพราะตระหนักได้ว่าท่านชายเจียงจะไม่รับผิดชอบ พวกนางสองพี่น้องก็ยังคิดที่จะอยู่ที่บ้านของป้าไปอีกสักพักหนึ่ง
เพราะบ้านเกิดที่ห่างไกลนี้จะเทียบกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองใหญ่ได้ยังไงกัน!
“โอ๊ย!”
ที่ประตู นางหวางได้หยิกข้อมือของนางหลี่อย่างไม่รู้ตัว“นังหนูฝูท้อง?มิน่าล่ะทำไมถึงกลับมาเร็วขนาดนี้ พี่รอง พี่ว่าเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้น!”
นางหลี่ก็หน้าตาแข็งทื่อและตกตะลึงกับสถานการณ์นี้ด้วยเช่นกัน
“ใครอยู่ด้านนอก!”ซูฉางฝูเปิดประตูอย่างเต็มแรง และจ้องเขม็งไปที่นางหลี่และนางหวางอย่างดุดัน“พวกเจ้ามาที่นี่ทำไม?”
นางหลี่ตะลึงงัน“ท่านแม่เรียกพวกข้ามาไม่ใช่เหรอ?”
แม่เฒ่าเซี่ยงจะเรียกคนมาทำไมกัน เรื่องอื้อฉาวในครอบครัวไม่สามารถแพร่กระจายออกไปได้ ซึ่งเรื่องนี้มีคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ซูหวั่นดึงมือของนางหลี่เอาไว้ เพราะรู้ว่านางหลี่ถูกนางหวางหลอกเข้าให้เสียแล้ว จึงตะโกนเสียงดังออกมาว่า“ป้าสามบอกว่าพี่ใหญ่และพี่รองกลับมาแล้ว ท่านย่าเลยเรียกพวกข้ามาที่บ้านใหญ่ค่ะ ”
สีหน้าของนางหวางเปลี่ยนไปเล็กน้อย“นังเด็กนี่ พูดจาเพ้อเจ้ออะไรอยู่ ข้าไม่ได้เรียก......”
“ป้าสามคะ ที่แท้ท่านย่าก็ไม่ได้เรียกพวกข้านี่เอง งั้นพวกข้าจะกลับเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ!”ซูหวั่นพูดขัดจังหวะนางหวาง และรีบจูงมือที่เย็นเฉียบของนางหลี่กลับไปที่ห้องฝั่งตะวันออกทันที