共有

บ้านท่านตาท่านยาย

作者: l3oonm@
last update 最終更新日: 2025-06-20 00:28:40

เช้านี้ทั้งสามแม่ลูกเตรียมของไปบ้านท่านตาค่อนข้างมาก ลู่จื้อนำขี้เถ้าในครัวมาทาหน้าของทุกคน ชาวบ้านจะได้ไม่สงสัยกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของบ้านตน

ทั้งสามต้องเดินเท้าหนึ่งชั่วยามจงจะถึงบ้านท่านตา พอใกล้ถึงปากทางเข้าหมู่บ้านลู่จื้อจึงนำของออกมาจากมิติ แล้วทุกคนช่วยกันถือเข้าไป

“ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ อยู่หรือไม่เจ้าคะ” นางจินหรูตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน

เมื่อเห็นบ้านท่านตานางจึงได้รู้ว่าทำไมมารดาถึงอยากจะช่วยเหลือบ้านท่านตาเหลือเกิน บ้านของท่านตาไม่ต่างจากบ้านที่นางอยู่มากนัก อย่าว่าพายุเลยลมหนาวมาจะอยู่กันอย่างไร

“มาแล้วขอรับ” คนมาเปิดประตูเป็นเด็กผู้ชายผอมหัวโต นี่คงเป็นจินฉือน้องเล็กของบ้านแน่

“ฉือเออร์หรือ ข้าน้าจินหรูของเจ้า พ่อเจ้าอยู่หรือไม่”

“เข้ามาก่อนขอรับ ท่านพ่อ ท่านพี่ ท่านแม่อยู่นาขอรับ ข้าอยู่บ้านดูแลท่านปู่ท่านย่าที่ไม่สบายขอรับ” นางจินหรูได้ยินว่าบิดามารดาไม่สบายก็รีบวางของแล้วเข้าไปหาทันที

ในห้องนอนของท่านตาท่านยายนั้น ท่านตานอนซมเพราะพิษไข้มีท่านยายคอยดูแลอยู่ข้างๆ

“ฉือเออร์ใครมา”

“ท่านแม่ ลูกอกตัญญูกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” นางจินหรูพุ่งตัวเข้าไปสวมกอดมารดาไว้แน่น ทั้งสองกอดกันร้องไห้เสียงดัง

“นี่เพ่ยเออร์กับจื้อเออร์สินะ มาหายายใกล้ๆ หน่อย” เกาเจินเรียกหลานทั้งสอง

“ลู่เพ่ย/ลู่จื้อ คารวะท่านยายขอรับ/เจ้าค่ะ”

“เด็กดี เด็กดี โตเพียงนี้แล้ว”

“ท่านแม่ให้ใครไปตามหมอมาดูอาการท่านพ่อหรือยังเจ้าคะ” นางจินหรูเอ่ยถาม

“พ่อเจ้ากินยาต้มแล้ว แต่ก็ไม่ดีขึ้น พี่ชายเจ้าอยากจะพาไปหาหมอในเมืองแต่ก็จนใจ” นางเกาเจินเอ่ยได้เพียงเท่านั้นก็ถอนหายใจ เพราะเงินในบ้านไม่เหลือแล้ว ทุกคนก็หมดปัญญารอเพียงแค่สวรรค์เมตตาเท่านั้น

“ฉือเออร์เจ้าไปตามพ่อเจ้ากลับมาที บอกน้าเจ้าจะท่านปู่ไปหาหมอในเมือง” จินฉือรีบวิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว

ลู่จื้อจึงออกไปต้มข้าวให้ท่านตาท่านยายก่อนเพราะนางเห็นถ้วยที่วางไว้มีเพียงแค่น้ำข้าวเท่านั้น

จินเจ๋อได้ข่าวว่าน้องสาวมาก็รีบกลับมาบ้าน พร้อมกับทุกคนที่อยู่ที่แปลงนา

“น้องสาวเจ้ามาได้อย่างไร”

“ท่านพี่ ใยไม่ส่งข่าวเรื่องท่านพ่อให้ข้าเล่าเจ้าคะ” สองพี่น้องที่ไม่เจอกันนานก็จ้องมองกันด้วยน้ำตาเอ่อคลอ

ลุงใหญ่จินนั้นร่างกายซูบผอม ดูอายุมากกว่าอายุจริงเพราะทำงานหนัก แล้วยังไม่มีอาหารดีๆ กินอีก ป้าสะใภ้ก็เช่นกัน

“ท่านแม่ให้ทุกคนกินข้าวก่อนเถิดเจ้าค่ะ เดี๋ยวต้องรีบพาท่านตาไปหาหมออีก” ลู่จื้อเอ่ยแทรกก่อนที่พี่น้องจะร้องไห้กันอีกครั้ง

ทั้งหมดจึงได้กินข้าวที่เรียกว่าข้าวได้จริงๆ เสียที

“เจ้าเอาอะไรมามากเช่นนี้” พี่สะใภ้เอ่ยตำหนิ เพราะนางรู้ว่าน้องสามีก็ไม่ได้อยู่อย่างสบายเช่นกัน

ลู่จื้อค่อนข้างพอใจกับครอบครัวนี้ นางไม่เห็นแววตาความโลภเมื่อมองของที่แม่ของนางนำมาให้ มีเพียงสายตารู้สึกผิดที่เป็นภาระให้มากกว่า

หลังจากกินข้าวเสร็จจินเจาออกไปเช่าเกวียนเพื่อพาท่านตาไปหาหมอ คนที่ไปมีท่านลุงจินเจ๋อ จินเจา ลู่เพ่ยและลู่จื้อ สี่คนเท่านั้น ที่เหลือรออยู่ที่บ้านกับท่านยาย

หมู่บ้านหนานไฉห่างจากเมืองเฉียงไห่สามสิบลี้ ใช้เวลาเดินทาง สองชั่วยามทั้งหมดจึงรีบออกเดินทางจะได้ไม่กลับถึงมืดค่ำเกินไป กว่าจะเดินทางถึงโรงหมอก็ยามอู่แล้ว (11.00-12.59น.) ลู่จื้อฝากให้ท่านหมอฉีดูอาการของท่านตา นางและพี่ชายทั้งสองคนออกไปซื้อของให้บ้านท่านตา

ไม่ใช่ว่านางใจดีจะซื้อให้ทุกอย่างแต่ตอนนี้นางคงต้องช่วยเรื่องเสื้อผ้า ผ้าห่ม ข้าวสารก่อน เพราะเสื้อผ้าของทุกคนเหมือนนางเมื่อก่อนเลย ตอนที่นางทำอาหารข้าวสารในบ้านก็ไม่มีแล้ว มีเพียงหัวมันอีกแค่ไม่กี่หัว

จินเจาที่เห็นลู่จื้อซื้อของก็ตกใจอ้าปากค้างไปเลย ลู่เพ่ยต้องตบไหล่แล้วบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่น้องสาวของตนใช้เงินเก่ง

ลู่จื้อแวะซื้อซาลาเปาสิบห้าลูกก่อนจะกลับไปที่โรงหมอ เมื่อเดินผ่านร้านถังหูลู่ นางจึงนึกถึงจินฉือเลยซื้อไปถึงสิบไม้ ตอนส่งให้จินเจาเขารับไปด้วยมือไม้สั่นเพราะตนไม่เคยได้กินเลย

ตอนที่กลับถึงโรงหมอท่านตานั้นได้สติแล้ว หมอฉีจึงจัดยาอย่างดีให้ลู่จื้อ (เขาหวังว่าลู่จื้อจะเอาโสมแดงมาขายให้อีกเพราะตอนนี้ชื่อเสียงของร้านยาของเขาดังไปถึงเมืองหลวง)

“ลำบากพวกเจ้าแล้ว” ท่านตาจินหานน้ำตาคลอมองหลานทั้งสองที่ตนไม่ได้พบนาน

“ลำบากอันใดเจ้าคะ เป็นหน้าที่ของพวกข้าอยู่แล้ว” ลู่จื้อยิ้มน้อยๆ มองท่านตาของนางที่ยังมีใบหน้าซีดขาวอยู่

เมื่อจินเจาเอาเกวียนมารับท่านตาที่หน้าโรงหมอท่านตากับท่านลุงก็ต้องตกใจกับข้าวของที่ลู่จื้อซื้อเกือบจะเต็มเกวียนยังดีที่หลานสาวเหลือที่ว่างให้ทุกคนได้นั่งกลับหมู่บ้าน

เมื่อถึงหมู่บ้านหนานไฉก็เข้ายามโหย่วแล้ว (17.00-18.59น.) ทั้งสามคนแม่ลูกจึงไม่กลับหมู่บ้านหนานชุน ครอบครัวท่านตาจึงได้กินข้าวเย็นที่มีอาหารจานเนื้อในรอบเกือบปี จินฉือเมื่อเห็นถังหูลู่ก็ยิ้มหวานขอบคุณลู่จื้ออย่างน่าเอ็นดู จินฉืออายุสิบหนาวแล้วแต่ดูเหมือนเด็กอายุเพียงแปดหนาวเท่านั้น

ลู่จื้อแอบหยดน้ำจิตวิญญาณลงไปในโอ่งน้ำกินในบ้านด้วย แต่ทุกคนที่ดื่มไปนั้นไม่รู้เขาคิดแต่เพียงว่าวันนี้มีความสุขที่นางจินหรูกลับบ้านและได้กินอาหารดีดี

จินเจายกห้องของตนให้กับนางจินหรูกับลู่จื้อ ส่วนลู่เพ่ย จินเจา นอนในห้องโถงกลางบ้านแทน วันนี้ทุกคนไม่ต้องนอนหนาวเพราะลู่จื้อซื้อผ้าห่มผืนหนามาให้ครบทุกคน แถมทุกคนยังได้ชุดใหม่คนละสองชุดแม้จะเป็นผ้าฝ้ายเนื้อหยาบแต่ทุกคนก็สุขใจเพราะไม่ได้มีชุดใหม่มาสองปีแล้ว

“ท่านลุงใหญ่ ข้าอยากให้ท่านไปขายปลาที่เหลาอาหารหมานอี้เจ้าค่ะ” นางเพราะนางไม่มีเวลาจับปลาไปส่งพอดี

“ปลาจับยากนักจื้อเออร์ มิมีผู้ใดที่จับปลาเป็นๆ ได้ไปส่งที่เหลาอาหารหรอก” เขาถอนหายใจออกมา แม้รู้ว่าสิ่งนี้จะทำเงินให้ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีความสามารถที่จะทำ

ในหมู่บ้านหนานไฉมีแม่น้ำสายเดียวกันกับหมู่บ้านหนานชุน นางเลยจะสอนวิธีจับปลาให้ท่านลุงในวันพรุ่งนี้นางจึงให้เงินท่านลุงหนึ่งตำลึงไปสั่งทำรถเข็นเพราะหากขายปลาคงจะไปยืมบ้านอื่นใช้ตลอดไม่ได้

จินเจ๋อถึงกับน้ำตาไหลที่หลานสาวช่วยบ้านตนมากขนาดนี้ เพียงข้าวของที่นางนำมา ทั้งยังหาซื้อมาเพิ่มไหนจะพาท่านพ่อไปรักษาที่โรงหมอ เขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนนางเช่นใดแล้ว

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   แคว้นฉีช่างเล็กนัก

    จ้าวหยวนเป็นคนที่นำของขวัญจากเมืองหลวงมาส่งให้ลู่จื้อ เพราะเขาต้องมารับผักกับสุราอยู่แล้วตอนนี้ครอบครัวรองจางทั้งสี่นั่งมองกล่องของขวัญตรงหน้า แต่ละคนต่างก็มีความคิดของตนเอง ลู่จื้อไม่ได้คิดมากขนาดนั้นเพราะนางคิดว่าพวกเขารู้ว่าเป็นวันเกิดนางจึงส่งมาให้ นางเริ่มแกะของทั้งหมดออก มีทั้งรอยยิ้มบนใบหน้างามกับคิ้วที่ขมวดจนยุ่งเหยิงส่วนมากจะเป็นผ้าไหมหลายพับที่นิยมกันในเมืองหลวง เป็นหลินตงหยางส่งมาให้ พร้อมกำไลหยกขาวมันแพะอีกสองวงเนื้องามไม่น้อยเลย"จื้อเออร์สองชิ้นนี้ของผู้ใด" นางจินหรูชี้ไปที่กล่องไม้ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่สองใบข้างหน้าลู่จื้อนางเปิดออกมาพร้อมรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม ทำให้ภายในห้องโถงดูสดใสขึ้นทันตา แต่ลู่เพ่ยที่เห็นเช่นนั้นถึงกับลูบแขนที่ขนกำลังลุกอยู่"เป็นของคุณชายเซียวหนึ่งกล่องกับรองผู้ตรวจการเจ้าค่ะ"ทั้งสามมองอย่างสงสัย เซียวซีซวนส่งมาให้ทุกคนย่อมเข้าใจได้ แต่โจวหรงเฉิงส่งมาให้สร้างความแปลกใจให้ทุกคนยิ่งนัก เพราะเขากับลู่จื้อดูจะไม่ถูกชะตากันอย่างไรก็บอกไม่ถูก"คุณชายเซียวส่งโฉนดจวนที่พักในเมืองหลวงใกล้กับสำนักศึกษามาให้เจ้าค่ะ ส่วนของรองผู้ตรวจการโจวส่งตั๋วเงินห้าพัน

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   สอบผ่านถงเซิงกันแล้ว

    ลู่จื้อนางนั้นยังไม่รู้เรื่องที่บิดาของนางหลุดปากว่านางเป็นคนทำยาทั้งหมดเองสงครามชายแดนเหนือหลังจากที่มีการคัดเลือกชาวบ้านไปเป็นทหารแล้วนั้น ผ่านมาได้นับเดือนข่าวสารที่ได้ยินมาช่วงนี้นับว่าเป็นข่าวดี ทหารแคว้นฉู่ถอยทัพกลับไปตั้งหลักใหม่ห้าร้อยลี้ นับว่าทำให้ทุกคนพอหายใจได้คล่องขึ้นอีกเพียงแค่ไม่ถึงเดือนลู่เพ่ยก็ใกล้จะได้สอบแล้ว ลู่จื้อซื้อเรือนพักใกล้กับสถานศึกษาให้พี่ชายทั้งสองและเด็กในตระกูลอู๋ได้พัก นางให้ภรรยาอู๋กังไปคอยดูแลทุกคนนางอยากให้ทุกคนได้กินของที่ได้มาจากในมิติ เพราะหลังจากที่ลู่เพ่ยกินแต่ของที่ปลูกในมิติมันทำให้ความจำของเขาดีขึ้นมาก จึงเป็นเหตุผลหลักที่ต้องซื้อบ้านพักให้ทุกคนออกมาอยู่ข้างนอกแทนหากจะให้คนทำอาหารไปส่งที่สำนักศึกษาทุกวันก็ดูจะยุ่งยากมากเกินไป และหากสหายของพวกเขาขอกินด้วย คงเก็บเรื่องที่ตระกูลจางสายรองเป็นเจ้าของผลผลิตที่กำลังเป็นที่กล่าวขานอยู่ คงไม่ได้อีกต่อไปแล้ววันสอบก็มาถึงอย่างรวดเร็ว วันนี้ครอบครัวรองจาง ตระกูลจินและตระกูลอู๋ ออกมาส่งทั้งสี่คนที่สนามสอบ“ท่านพี่ ตั้งใจสอบนะเจ้าคะ” ลู่จื้อให้กำลังใจลู่เพ่ย“ไม่ต้องกดดันตนเองกันนัก หากครั้งนี้ไม่ผ่

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   หรือเจ้าอยากรับนางไปเป็นอนุ

    เมื่อเป็นเซียวซีซวนเจรจาการค้าครั้งนี้ก็นับว่าผ่านไปโดยง่าย ลู่จื้อขายยาแก้ไข้ ยาห้ามเลือด และยาบำรุงร่างกายให้ ที่มียาห้ามเลือดเพิ่มมาเพราะการค้าครั้งนี้ส่งเข้ากองทัพชายแดนเหนือทั้งหมดจากสภาพสงครามที่โจวหรงเฉิงได้ไปพบมา ทหารบางคนไม่อาจทนสภาพอากาศที่หนาวเหน็บของทางเหนือได้ ทำให้ล้มป่วย ยาที่เขาแบ่งไปจากเซียวซีซวน เมื่อให้ทหารที่ล้มป่วยได้ลองกินผลคือเกินคาด ทหารคนนั้นไม่จำเป็นต้องรับยาครั้งที่สองเลย เขาจึงต้องการยาของลู่จื้อส่งไปให้กองทัพตอนนี้ทั้งสองกลับออกไปด้วยอารมณ์ที่ต่างกัน เซียวซีซวนนั้นอารมณ์ย่อมเบิกบานเพราะการค้าครั้งนี้โจวหรงเฉิงต้องนำเงินส่วนตัวของตนมาออกเพิ่มให้กับทางกองทัพเพราะปากที่ดีของเขานั้นเองโจวหรงเฉิงแม้จะได้ยากลับไปแต่อารมณ์ยามที่เดินออกจากเรือนไปก็แทบจะฆ่าคนได้ด้วย"เจ้ามีความสุขมากรึ" โจวหรงเฉิงหันไปถลึงตาใส่เซียวซีซวน"ก่อนมาข้าเตือนเจ้าแล้ว ข้าทำการค้ากับนางมาหลายเดือนย่อมรู้ว่าควรพูดเช่นไร" เซียวซีซวนยิ้มอย่างยียวน"หรือเจ้าอยากรับนางไปเป็นอนุ" เซียวซีซวนรีบกระโดดปิดปากโจวหรงเฉิง พวกตนยังเดินออกมา เจ้าบ้านยังไม่ปิดประตูเลย"เจ้าพูดอันใด หากนางมาได้ยิน เหอะ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน

    โจวหรงเฉิงเดินทางไปชายแดนเหนือแล้ว ทางที่พักผู้อพยพก็จัดการได้อย่างเรียบร้อย ยาที่จางหมินนำไปให้ก็ได้ผลชะงัด จนหมอที่มาตรวจในกระโจมพัก ต่างถามหาไม่เว้นวัน แต่จะให้ไปถามเซียวซีซวนใครจะกล้าเรื่องนี้จึงไม่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวรองจาง ข้าวและผักผลไม้ที่เซียวซีซวนรับไปจากลู่จื้อทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ในเมืองหลวง แม้จะสอบถามทางตระกูลเซียวก็มิได้คำตอบผลจากที่กินเข้าไปเป็นประจำทำให้คนในตระกูลเซียวมีสุขภาพที่แข็งแรง ที่เห็นชัดจนคนในเมืองหลวงนั่งไม่ติดก็คือ ท่านผู้นำตระกูลเซียวอายุเกือบเจ็ดสิบหนาวแล้ว เขาล้มป่วยต้องนอนติดเตียงมาเกือบสองปี หลังจากที่กินของที่หลานชายส่งมาได้ห้าเดือนก็ลุกขึ้นมาเดินไปเกือบจะเหมือนตอนที่ยังไม่ล้มป่วยช่วงแรกคนในตระกูลคิดว่าเพราะสวรรค์เมตตาที่ฮองเฮากับฮูหยินผู้เฒ่าเซียวทำบุญค่าธูปเทียนอยู่เป็นประจำ จนเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันกับคุณชายน้อยเซียวที่มักจะเจ็บป่วยบ่อยๆ ก็กลายมาเป็นเด็กแข็งแรงสามารถวิ่งเล่นได้เช่นเด็กคนคนอื่นๆแม้ของที่ส่งมาให้ทางตระกูลเซียวจะได้ไม่มาก ทางตระกูลเซียวยังมีน้ำใจแจกจ่ายให้กับตระกูลใหญ่ที่มีความสัมพันธ์ดีต่อกัน ปากต่อปากทำให้บางตระกูลเริ่ม

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   รองผู้ว่าการนครหลวง

    เวลาล่วงผ่านมานับเดือน ตระกูลจินเริ่มนำผักดองออกมาวางขาย แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รสชาติที่แปลก ราคาที่จับต้องได้ ทำให้ชื่อเสียงของผักดองตระกูลจินเป็นที่ชื่นชอบในเวลารวดเร็วโรคระบาดทางชายแดนทางชายแดนเหนือก็ควบคุมไว้ได้ ชาวบ้านที่อพยพมาก็เริ่มเดินทางกลับบ้านเกิดของตน ตระกูลอู๋ได้ยินข่าวก็ไม่คิดจะกลับไป ถึงแม้จางหมินจะยินดีให้พวกเขาไถ่ตัว เพราะความเป็นอยู่ของพวกเขาในครอบครัวรองจางนับว่าดีกว่าที่ผ่านมามาก อีกทั้งด้วยสำนึกในพระคุณของผู้เป็นนายจึงยินดีที่จะอยู่ต่อจางหมินก็มิได้เอาเปรียบในเมื่อเห็นถึงความดีที่ทุกคนตั้งใจคนทำงานยังฉีกสัญญาขายตัวทิ้งแล้วเปลี่ยนทั้งหมดให้เป็นลูกจ้างแทน จินเจาก็ได้เริ่มเข้าเรียนในสำนักศึกษาแล้ว ทั้งหมดจึงคิดจะลองเข้าร่วมการสอบถงเซิงในอีก สามเดือนข้างหน้าแต่ข่าวใหม่ที่ทำให้คนทั้งแคว้นเริ่มหวาดกลัวคือข่าวทั้งสองแคว้นที่ทำศึกกันมานาน แม้จะพักรบช่วงพายุหิมะไปแล้ว เพียงไม่นานแคว้นฉู่ก็เริ่มเข้ารุกรานอีกครั้ง ไฟสงครามครั้งนี้ดูจะต่อสู้จนล้มตายไปข้างทหารแคว้นฉีอพยพคนออกจากพื้นที่ จึงทำให้เมืองอื่นเริ่มเตรียมตัวแล้วเช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีการรบเช่นนี้เกิดขึ้น เพียง

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ให้สหายโดนเสียบ้าง

    ลู่จื้อเดินเข้าไปในห้องโถง นอกจากเซียวซีซวนแล้วนางยังพบบุรุษอีกคนนั่งอยู่กับท่านพ่อท่านแม่ของนางด้วย“จื้อเออร์เจ้ามาแล้ว คุณชายเซียวกับคุณชายหลินมารอพบเจ้า” จางหมินพูดกับบุตรสาว“คารวะคุณชายเซียว คุณชายหลินเจ้าค่ะ” ลู่จื้อมองพิจารณาหลินตงหยาง ด้วยอยากรู้ว่าทำงานอันใดถึงได้ถูกพิษเกือบตายหลินตงหยางมองแม่นางน้อยตรงหน้า เขายอมรับว่านางเป็นสตรีโฉมสะคราญล่มเมืองคนหนึ่ง แต่ที่เขาแปลกใจคือ ท่าทางของนางจะบอกว่าเป็นคุณหนูในตระกูลใหญ่ก็ดูจะไม่เกินจริง ช่างขัดกับนางที่เป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านเมื่อได้ฟังบทสนทนาของสหายกับนางก็พอจะเข้าใจว่าเหตุใดสหายของตนถึงได้มีอาการทำไหน้ำส้มแตกเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าสตรีในเมืองหลวงจะหาที่งามกว่านี้มิได้ ท่าทางของนางคำพูดที่กล่าวออกมาล้วนมั่นใจไม่มีความเขินอายเยี่ยงสตรีในห้องหอแล้วยิ่งพูดเรื่องเงินดวงตาของนางราวกับมีดวงดาวนับพันอยู่ในนั้น นางจะยิ้มแย้มจนเขาอดขนลุกแทนสหายมิได้ เหมือนกับนางสามารถควบคุมทุกสิ่งไว้ในมือได้อย่างนั้น“คุณหนูจาง สหายของข้าอยากขอบคุณเจ้าเรื่องยาถอนพิษ” ลู่จื้อมองหีบใส่ของกำนัลที่เซียวซีซวนนำมาอย่างพอใจ“มิเป็นไรเจ้าค่ะ ข้าบังเอิญเจอหมอเทวดาแ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status