Share

บทที่ 15 เข้าใจกันมากขึ้น

Penulis: sanvittayam
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-05 16:31:04

บทที่ 15 เข้าใจกันมากขึ้น

ซ่งเฟยหลงถือผ้าขนหนูผืนนั้นมาให้หลินเพ่ยหลัน เขาเอาวางใส่มือเธอไว้แล้วพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน “ในเมื่อพ่อซื้อให้เป็นของขวัญ ทำไมเพ่ยหลันไม่เก็บไว้ใช้เองละ เอามาให้พี่ทำไม พี่น่ะใช้อะไรก็ได้ ไม่ต้องใช้ของดีขนาดนี้หรอก”

“ได้ยังไงกันคะ พี่เป็นคนที่ทำงานหาเงินมาดูแลครอบครัว ดูแลฉัน ฉันก็ต้องดูแลพี่กลับเหมือนกัน ถ้าพี่อยากให้ฉันสบายใจ พี่ก็รับไว้เถอะ” หลินเพ่ยหลันพูดออกมาอย่างจริงจัง

การที่เธอทำแบบนี้ก็เป็นเพราะอยากจะตอบแทนเขาบ้าง เพราะตั้งแต่มาอยู่ในร่างนี้ ที่ผ่านมาชายหนุ่มก็ดูแลเธออย่างดีตลอด ทั้งยังปกป้องเธอจากทุกคนแม้กระทั่งแม่ของเขาเอง

“ขอบคุณครับ พี่จะรับไว้เพื่อให้เพ่ยหลันสบายใจ”

ซ่งเฟยหลงตอบกลับเมื่อรู้เหตุผลของเธอ จากนั้นจึงหยิบคืนมาก่อนจะพาดผ้าขนหนูขึ้นบ่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

ส่วนหลินเพ่ยหลันก็ออกมาจากห้องเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนร่วมกับจ้าวจินเยว่และซ่งชุนเป้ย เมื่อกินอาหารเช้าแล้วทุกคนก็ไปทำงานที่คอมมูนตามปกติ

หลินเพ่ยหลันยังคงเข้ามิติทุกครั้งที่มีโอกาส ถ้าเป็นไปได้เธอก็จะหาเวลาเข้าทุกวันและหยิบของที่จำเป็นต้องใช้ออกมา

ส่วนมากก็จะเป็นอาหารสดเพราะเป็นที่สงสัยน้อยกว่า บางวันที่เอาเนื้อไก่ออกมาข้างนอกเพื่อทำอาหาร ก็จะบอกกับคนบ้านซ่งว่ามีเด็กในหมู่บ้านเข้าป่าไปจับไก่มาได้แล้วเอามาขายให้

เวลาเครื่องเทศหมดหญิงสาวก็จะเอาออกมาใช้ ส่วนมากแล้วเรื่องการจัดการต่าง ๆ ในครัวเป็นเธอดูแล จึงไม่เป็นที่สงสัยมากนัก ส่วนเงินก็เป็นเงินที่สามีมอบให้ไว้ใช้จ่าย

ชีวิตของหลินเพ่ยหลันในบ้านซ่งนั้นเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จ้าวจินเยว่กับซ่งชุนเป้ยต่างก็ชอบเธอมากขึ้น ส่วนซ่งชุนเหยาที่เป็นพี่ใหญ่ของบ้านนั้น เขาเป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่แล้ว อีกอย่างเขายังเป็นคนใจดีด้วย จะมีก็แต่แม่สามีที่ยังคงมีความรู้สึกไม่ดีกับสะใภ้ตาบอดอย่างเธออยู่ แต่ก็ยังดีที่ช่วงนี้ไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกันมากนักเพราะพ่อสามีป่วย

ส่วนความสัมพันธ์ของหลินเพ่ยหลันกับซ่งเฟยหลงก็ค่อย ๆ ใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดทั้งสองก็เริ่มพูดเปิดใจกันมากขึ้น

เนื่องจากซ่งเฟยหลงเป็นคนเอาอกเอาใจภรรยาเก่ง เวลากลับมาจากทำงานบางครั้งเดินผ่านดอกไม้ ก็มักจะเด็ดมาให้เสมอเพราะอยากให้ภรรยาได้กลิ่นดอกไม้หอม ๆ บ้าง บางครั้งเห็นคนขายของป่าหรือขนมก็ซื้อมาฝากเธอเสมอ

ส่วนหลินเพ่ยหลันเองก็คอยดูแลปรนนิบัติชายหนุ่มอย่างดีเช่นกัน

“คริคริ น่าอิจฉาพี่สะใภ้สามจังเลย มีสามีที่เอาใจใส่แบบนี้” ซ่งชุนเป้ยพูดขึ้นอย่างล้อเลียน

“นั่นสิ พี่ว่าตั้งแต่เพ่ยหลันตกน้ำในครั้งนั้น อาเฟยก็ดูจะเอาใจใส่มากขึ้นนะเนี่ย”  จ้าวจินเยว่พูดเสริมขึ้นอีกคน

“พี่สะใภ้ ชุนเป้ยพูดอะไรก็ไม่รู้” หลินเพ่ยหลันพูดออกมาอย่างเขินอาย เธอก็รู้สึกว่าสนิทกับเขามากขึ้นจริง ๆ

 ส่วนซ่งเฟยหลงก็รู้สึกสะกิดใจกับคำพูดของจ้าวจินเยว่และซ่งชุนเป้ยไม่น้อย เขาเองก็รู้สึกว่าหลังจากที่หลินเพ่ยหลันฟื้นมาจากการตกน้ำคราวนั้นก็ดูจะเปลี่ยนไปมาก

จากที่คอยแต่ทำท่าหวาดกลัวทุกคน วันๆ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานบ้าน ก็เปลี่ยนเป็นพูดคุยกับคนอื่นมากขึ้นและมีความสดใสมากขึ้น และไม่มีความหวาดกลัว อีกแม้จะโดนแม่ของเขาบ่นด่าเธอก็ทำเป็นไม่ใส่ใจเท่านั้น

อาการป่วยของซ่งตงลี่หรือพ่อซ่งนับวันก็ยิ่งหนักขึ้น ตอนพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หมอก็บอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่และได้จัดยาสมุนไพรมาให้

“แม่คะ ยานี่...” หลินเพ่ยหลันที่คุ้นชินกันการใช้ยาปัจจุบันจึงไม่ค่อยรู้เรื่องการต้มยา อีกทั้งตาของเธอก็มองไม่เห็นจึงพูดขึ้นมาอย่างลังเล นางหยางเจี่ยเห็นอย่างนั้นจึงไม่ได้ไว้ใจให้เธอไปต้มยาให้

“เรื่องต้มยานี่เธอไม่ต้องยุ่ง ฉันจัดการเอง เดี๋ยวต้มยามาผิด ๆ ถูก ๆ สามีฉันเป็นอะไรมากไปกว่าเดิมอีกจะแย่เอา อีกอย่างหากเธอได้รับอันตราย เดี๋ยวอาเฟยจะไม่พอใจอีก เธอจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ” นางหยางเจี่ยบอกกับหลินเพ่ยหลัน ในขณะที่กำลังหอบห่อยาไปหลังบ้านเพื่อต้มให้สามีกิน

“ค่ะ แต่ถ้าแม่มีอะไรให้ช่วย เรียกฉันได้ตลอดเลยนะคะ ฉันจะรออยู่แถวนี้” หลินเพ่ยหลันตอบกลับไปพร้อมกับส่งห่อยาไปข้างหน้า เพื่อจะยื่นให้แม่สามี

“ไม่ต้องมาอยู่เกะกะลูกตาแถวนี้ สามีของฉัน ฉันดูแลเองได้ เธอมีหน้าที่ต้องทำงานบ้านก็ทำเสียให้เรียบร้อย” นางหยางเจี่ยบอกออกมาคล้ายกับรำคาญ

“ค่ะ” หลินเพ่ยหลันพยักหน้าก่อนเดินจากไป แต่ทว่า..

“เดี๋ยว กลับมานี่ก่อน ฉันมีเรื่องจะให้เธอทำอย่างหนึ่ง” นางหยางเจี่ยเรียกอีกฝ่ายไว้ เมื่อคิดอะไรได้ขึ้นมา

“ค่ะ แม่บอกมาได้เลย ฉันยินดีทำทุกอย่าง” หลินเพ่ยหลันตอบพร้อมพยักหน้ารับด้วยความยินดีที่แม่สามียอมให้เธอช่วยเหลือ

“ฉันจะให้เธอไปยืมกระเป๋าน้ำร้อนที่บ้านเหลียวให้หน่อย ของบ้านเรามันเก่ามากแล้ว ฉันกลัวน้ำมันจะซึมออกมาลวกสามีของฉันน่ะ ไปให้ได้ไหมล่ะ” นางหยางเจี่ยพูดขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ

เมื่อได้รู้ว่าแม่สามีต้องการกระเป๋าน้ำร้อน หลินเพ่ยหลันก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าในมิติของเธอเองก็มีกระเป๋าน้ำร้อนเช่นกัน ดังนั้นจึงได้บอกกับแม่สามีไปว่า

“ไม่ต้องไปยืมใครหรอกค่ะ ฉันมีกระเป๋าน้ำร้อนอยู่ในหีบตอนที่ขนของมาจากบ้านเดิมเดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปเอามาสิ จะรอช้าอยู่ทำไม ของจำเป็นต้องใช้เดี๋ยวนี้ ตอนนี้สามีฉันหนาวจะตายอยู่แล้วไม่เห็นหรือไง” นางหยางเจี่ยพูดเสียงดังโดยลืมว่าสะใภ้คนนี้มองไม่เห็น

“ค่ะ ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

หลินเพ่ยหลันตอบกลับและรีบเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง จากนั้นก็นั่งลงที่เตียงแล้ว ก็นั่งคิดว่าไม่เพียงแค่กระเป๋าน้ำร้อนเท่านั้นที่เธอต้องการ ทว่าเธอคิดอยากที่จะช่วยพ่อสามีขึ้นมา

  “พ่อสามีไปหาหมอและกินยาสมุนไพรแบบนี้มาหลายวันแล้วแต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ไข้หวัดใหญ่นี่หากเป็นแล้วก็สามารถแพร่ระบาดไปยังทุกคนในบ้านได้ ถ้าติดหวัดทุกคนคงลำบากแน่ ๆ  ในห้างนั้นมีร้านขายยาอยู่ที่ชั้นหนึ่ง เดี๋ยวเราเอายายุคปัจจุบันออกมาให้พ่อสามีกินดีกว่า”

เมื่อคิดออกแล้วจึงลูบไปที่จี้ผีเสื้อที่สร้อยข้อมืออีกครั้ง จากนั้นเธอก็ไปโผล่ในห้างสรรพสินค้าที่คุ้นเคย

หญิงสาวรีบเดินตรงไปยังแผนกเครื่องใช้สำหรับบุคคลก่อน เพื่อที่จะไปหยิบเอากระเป๋าน้ำร้อนมา จากนั้นก็เดินไปที่ร้านขายยาก่อนจะอ่านฉลากยาแล้วเลือกยาที่ตรงกับอาการมา มีทั้งยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ และไม่ลืมยาพาราเซตามอลที่ถือเป็นยาครอบจักรวาล เมื่อได้ครบแล้วก็รีบออกมาจากมิติทันที

แต่ทว่าพอกลับมายังโลกภายนอกแล้ว เธอกลับมาเป็นคนตาบอดมองไม่เห็น ทำให้ไม่รู้ว่ายาไหนเป็นยาไหนเพราะกระปุกคล้าย ๆ  กัน หลินเพ่ยหลันจึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี คิดหาทางอยู่นานจึงได้คำตอบว่า

“รอให้พี่เฟยหลงกลับมาก่อนแล้วค่อยปรึกษากับเขาดีกว่า อีกอย่างถ้าเราเอายาไปให้แม่สามี แม่คงไม่เชื่อใจเราแน่ ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำก็คือเอากระเป๋าน้ำร้อนไปให้ก่อนจะดีกว่า” พูดกับตนเองเสร็จเธอก็วางกระปุกยาไว้บนเตียงและรีบเดินออกไปจากห้องเพื่อนำกระเป๋าน้ำร้อนไปให้แม่สามี

“ทำไมช้าจัง นี่ฉันต้มน้ำร้อนจนเดือดตั้งนานแล้ว” นางหยางเจี่ย ตวาดใส่เมื่อเห็นลูกสะใภ้ตาบอดกำลังถือกระเป๋าน้ำร้อนเข้ามา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ 5 ปีผ่านไปซ่งเจียหยวนกับซ่งเจียอี้ ตอนนี้อายุได้ห้าขวบแล้ว เป็นวัยที่เริ่มกระตือรือร้นและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พอที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก หลินเพ่ยหลันเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม จึงตัดสินใจชวนลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนไปเยี่ยมพ่อที่กองทัพเช้าวันนั้น หลินเพ่ยหลันเตรียมตัวอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างพร้อมสำหรับการเดินทาง จัดเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและอาหารว่างไว้ให้ลูก ๆ พร้อมทั้งเตือนพวกเขาให้ปฏิบัติตัวดี ๆ เมื่อไปถึงที่กองทัพ เป็นสิ่งที่เธอทำเองทั้งหมด ใช่แล้ว เธอเลี้ยงลูกแฝดทั้งสองคนด้วยตัวเอง แม้นายท่านผู้เฒ่าทั้งสองจะเคยส่งพี่เลี้ยงมาให้ แต่เธอก็ปฏิเสธไปเพราะอยากใกล้ชิดกับลูกๆ มากกว่าใคร ๆ “แม่ครับ เราจะได้เจอพ่อเมื่อไหร่ครับ” เสียงใส ๆ ของซ่งเจียหยวนถามด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้เขาอยู่ในชุดทหารที่ลุงๆ ซื้อมาฝาก“เย็นนี้ก็ได้เจอแล้ว พ่อจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่เห็นพวกเรามาเยี่ยม” หลินเพ่ยหลันตอบพร้อมกับยิ้มให้ลูกชายลูกชายทั้งสองของเธอดีใจกันมาก ที่ได้ยินข่าวว่าจะได้ไปเยี่ยมพ่อที่กองทัพ พวกเขาต่างกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ และไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นไว้ได้

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทส่งท้าย  ครอบครัวสมบูรณ์

    บทส่งท้าย ครอบครัวสมบูรณ์หลินตงยืนนิ่งไม่พูดอะไร เขารู้ว่าเขาคงไม่มีทางเลือก เขาต้องทำเพื่อเอาตัวรอดจากการถูกฆ่า“ต้องทำแบบนี้... ถ้าไม่ทำ... ฉันตายแน่ ฉันไม่ผิด” หลินตงพูดขึ้นมาเบา ๆ“ตายก็ยังดีกว่าทำแบบนี้!” นางหลิวอี้ตวาดเสียงดัง ก่อนจะวิ่งไปหยิบมีดที่วางอยู่บนโต๊ะในครัว แล้วตรงเข้ามาหาหลินตง“แกไม่รู้แกทำผิดหรืออย่างไร ลูกสาวตัวเองไม่ใช่ตัวช่วยที่จะเอามาขัดดอก แกตายซะเถอะ” นางหลิวอี้พูดจบก็เอามีดไล่ฟันไปที่สามีหลินตงตกใจและกระโดดหลบอย่างรวดเร็ว “นังบ้า จะฆ่ากันเลยเหรอ หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เขายืนสั่นด้วยความกลัวมีดในมือของภรรยา“แกทำให้ชีวิตของพวกเรามันพังหมดแล้ว พังหมด ไม่เหลืออะไร” นางหลิวอี้ยังคงกราดเกรี้ยว ทั้งที่มีดในมือสั่นไปตามอารมณ์ “แม้แต่กับลูกสาวของตัวเองแกก็ยังทำแบบนี้ได้ นี่แกเป็นพ่อประสาอะไร”“แล้วแกล่ะ ตั้งแต่แต่งกับฉันมา แกเคยช่วยอะไรฉันบ้างไหม มีแต่ใช้เงินไปวัน ๆ ที่เสี่ยวหรงมันต้องเป็นแบนี้ แกก็มีส่วนเหมือนกัน”หลินตงตะโกนสวนกลับ และขยับหลบมีดที่ภรรยาเหวี่ยงมาหาเขาอีกครั้ง “หากเป็นไปได้ ฉันก็จะไม่ทำแบบนี้เลย แต่มันไม่มีทางเลือก”นางหลิวอี้สบถคำหยาบคาย “แกจะหนี

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 64 จากลากันอีกครั้ง

    บทที่ 64 จากลากันอีกครั้งหลินเพ่ยหลันยิ้มบาง ๆ และพยักหน้าเล็กน้อยเธอรู้สึกโล่งใจที่ปัญหาในวันนี้จบลงได้โดยไม่เกิดความรุนแรง เธอหันกลับเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ซ่งเฟยหลงดูแลเรื่องราวที่เหลือซ่งเฟยหลงมองตามหลังภรรยาของเขาด้วยความรักและความห่วงใย เขารู้ว่าคนท้องไม่ควรเครียด และเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้หลินเพ่ยหลันได้มีความสุขและสบายใจในช่วงเวลานี้เมื่อหลินเพ่ยหลันเข้าไปพักผ่อนในบ้าน ซ่งเฟยหลงก็หันกลับมามองชาวบ้านที่ยังคงยืนอยู่รอบ ๆ เขายิ้มและกล่าวกับพวกเขาอย่างสุภาพ “ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและสนับสนุนครอบครัวของเรานะครับ ผมขอให้ทุกคนกลับบ้านกันอย่างสงบสุข”ชาวบ้านพยักหน้ารับและเริ่มทยอยกลับบ้าน บรรยากาศที่ตึงเครียดเริ่มกลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้งหลังจากที่เรื่องวุ่นวายทุกอย่างผ่านพ้น บ้านซ่งก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ทุกคนในครอบครัวรู้สึกโล่งใจและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุข ในช่วงเทศกาลตรุษจีน บ้านซ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่นพวกเขาใช้เวลาร่วมกันอย่างเต็มที่ ทั้งการไปไหว้พระที่วัด เพื่อขอพรให้ปีใหม่นี้เต็มไปด้วยความสุขและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งกินอาหารมงคลร่วมกัน แ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 63 จบปํญหา

    บทที่ 63 จบปํญหาเมื่อหลินตงเอ่ยปากขอเงินจากหลินเพ่ยหลัน แต่หญิงสาวกลับมีท่าทีลังเลไม่ตอบรับในทันที หลินเพ่ยหลันมองไปยังแม่เลี้ยงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล‘กลัวว่าเงินที่ให้ไป พ่อกับน้องของเพ่ยหลันจะไม่ได้ใช้น่ะสิ แม่เลี้ยงคนนี้คงจะยึดไปหมดแน่ ๆ’ เธอยืนคิดอยู่ในใจว่าจะให้ไปดีหรือไม่ นางหลิวอี้เห็นดังนั้นก็โวยวายขึ้นมาทันที“หลินเพ่ยหลัน แกมันคนอกตัญญู พ่อของแกมาขอเงินแค่นี้ก็ไม่ยอมให้เหรอ จะต้องให้พ่อและน้องของแกอดตายก่อนใช่ไหม” น้ำเสียงของนางหลิวอี้เต็มไปด้วยความโกรธและเกรี้ยวกราด เธอพูดเสียงดังเพื่อกดดันอีกฝ่าย“ทุกคนดูสิหลินเพ่ยหลันที่ทุกคนเคยชื่นชมนักหนา พอร่ำรวยแล้วก็ไม่ยอมให้เงินพ่อของตัวเองเลย พ่อของเธอไม่มีเงินจนจะอดตายอยู่แล้ว” นางหลิวอี้พูดเสียงดัง พรัอมกับหันไปมองชาวบ้านที่เริ่มมารวมตัวกันด้วยความสงสัยชาวบ้านบางคนเริ่มซุบซิบและมองไปทางหลินเพ่ยหลันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป“จริงเหรอ หลินเพ่ยหลันทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอ” เสียงพูดคุยเบา ๆ เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆหลินเพ่ยหลันรู้สึกอับอายและเสียใจมากที่ถูกแม่เลี้ยงของตัวเองใส่ร้ายเช่นนี้ เธอจึงพยายามจะอธิบาย “ฉันไม่ได้หมายความว่าอ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 62 บ้านหลินมาอีกแล้ว

    บทที่ 62 บ้านหลินมาอีกแล้ว“ขอบใจนะอาเฟยที่สานฝันแทนพ่อ แค่นี้พ่อก็ภูมิใจในตัวลูกมากแล้วล่ะ แต่ถ้าหากมันลำบาก ก็อย่าหักโหมเกินไปนักนะ ความก้าวหน้าสำคัญก็จริง แต่ว่าความสุขของตัวเองก็สำคัญเหมือนกันนะลูก” ซ่งตงลี่พูดขึ้นมาอย่างห่วงใย “ครับพ่อ” ซ่งเฟยหลงพยักหน้ารับคำ “แล้วเพ่ยหลันละ เป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นู่นสบายดีไหม” คราวนี้เป็นนางหยางเจี่ยที่หันมาถามลูกสะใภ้ โดยซ่งตงลี่ก็หันมาเพื่อรอฟังคำตอบด้วยหลินเพ่ยหลันยิ้มให้พ่อแม่ของสามี ก่อนจะเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง “ฉันสบายดีค่ะ อยู่ที่บ้านตระกูลจง ฉันได้ช่วยงานคุณตากับคุณลุงที่ห้างสรรพสินค้าของตระกูลด้วย ทุกอย่างก็ราบรื่นดีค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าพวกพี่ก็ไม่ค่อยได้พบกันบ่อยน่ะสิ คนหนึ่งอยู่ชายแดน คนหนึ่งอยู่ปักกิ่ง” ซ่งชุนเป้ยถามขึ้นมาอย่างกังวล เธอเห็นใจพี่ชายกับพี่สะใภ้ไม่น้อยที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน“ใช่แล้ว ช่วงแรก ๆ พี่เฟยหลงฝึกหนักมาก แล้วยังมีภารกิจที่ต้องไปทำนอกกองทัพอีก พวกเราก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร มีพักหลัง ๆ ที่พี่เฟยหลงพอจะว่างได้กลับมาปักกิ่ง และพี่ก็ไปหาพี่เฟยที่เมืองชายแดนบ้าง ตอนนี้คุณตาจัดรถพร้อมคนขับไว้ให้โดยเฉพาะ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 61 ท้อง 4 เดือนแล้ว

    บทที่ 61 ท้อง 4 เดือนแล้ว“แล้วนี่จะมาอยู่กี่วันล่ะ อยู่นาน ๆ นะ แม่จะทำของอร่อยให้กิน” นางหยางเจี่ยถามขึ้นมา เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรลูกชายกับลูกสะใภ้ก็ต้องกลับไปที่ปักกิ่ง แต่ก็อยากให้อยู่ด้วยกันสักหลายวันก่อน“นี่ก็เป็นเวลานานแล้วที่ผมกับเพ่ยหลันไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ตรุษจีนปีที่แล้วที่ไม่ได้กลับมา ก็เพราะว่าผมมีภารกิจที่ชายแดน ครั้งนี้พวกเราจึงตัดสินใจว่าจะพักอยู่ที่บ้านหลายวันหน่อย เพื่อเป็นการชดเชยให้กับครอบครัวครับ” ซ่งเฟยหลงตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ดี ๆ จะได้มาด้วยพี่ขายของด้วย เพราะตอนนี้ที่ร้านยุ่งมาก ฮ่า ๆ” ซ่งชุนเหยาพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุข“ที่ร้านยุ่งมากเหรอคะ” หลินเพ่ยหลันขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ“จะให้ไม่ยุ่งได้อย่างไรล่ะคะพี่สะใภ้ ตอนนี้พี่ใหญ่ขยายร้านค้าไปในเมืองใกล้ ๆ อีกสองสาขา แต่ละวันแค่วิ่งไปเติมสินค้าแต่ละสาขาก็แทบจะไม่มีเวลาแล้ว ยังดีที่ตอนนี้ซื้อรถยนต์แล้วและมีลูกจ้างที่ขยันและซื่อสัตย์ ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ท่าจะแย่” ซ่งชุนเป้ยเป็นคนตอบคำถามนี้ของพี่สะใภ้ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ตอนนี้กิจการของบ้านซ่งเป็นไปได้ดีมาก ซ่งชุนเหยาได้ขยายสาขาร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status