เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮองเฮาก็อดมิได้ที่จะทอดถอนใจ ต้องยอมรับว่า นี่คือกลอุบายชั้นเลิศจริง ๆ หากจงเฟยมิใช่โลภไม่รู้จักพอ คิดทำร้ายนาง และมอบอีกสิ่งให้แก่นางกำนัลที่หน้าตางดงามนางหนึ่ง เช่นนั้นแล้วบัดนี้นางคง...โดดเด่นเป็นที่กล่าวขานอย่างแน่แท้! ซ่งรั่วเจินย่อมคิดถึงเรื่องนี้ ทว่าทางเลือกของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป อีกอย่าง แม้จะเลือกวิธีอื่น ก็ใช่ว่าเรื่องร้ายจะไม่แดงขึ้น ฮองเฮาอารมณ์ดีอย่างยิ่ง เมื่อเอ่ยจบแล้วก็เรียกคนให้นำของขวัญที่นางจัดเตรียมไว้ตั้งนานแล้วเข้ามาทันที “เมื่อวานนี้ในยามที่พวกเจ้าแต่งงานกัน ข้ามิได้เห็นกับตาตนเอง ทว่าข่าวที่ส่งกลับมาต่างเล่ากันว่าดียิ่งนัก” “นี่คือเครื่องประดับที่ข้าตั้งใจเลือกสรรเอง เหมาะสมกับวัยอายุของเจ้า สวมใส่แล้วงดงามยิ่งนัก” ซ่งรั่วเจินเห็นฮองเฮาทรงวางหีบเครื่องประดับใบใหญ่ใบหนึ่งลงตรงหน้านาง นางประคองไว้ด้วยสองมือ แม้ยังมิได้เห็นด้านใน แต่เพียงแค่หีบเครื่องประดับก็แลดูสูงค่ายิ่งนักแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนที่เปิดหีบเครื่องประดับเลย พรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องประดับงามตาทั้งสิ้น “เสด็จแม่ นี่มันมากเกินไปแล้ว” นา
“พระชายาฉู่อ๋อง ข้ารู้ดีว่าท่านเชี่ยวชาญในศาสตร์ลี้ลับเป็นที่สุด เสด็จแม่ของข้านั้นไร้ซึ่งหนทางเยียวยาจริงหรือ?” เหลียงอ๋องมองไปยังซ่งรั่วเจิน เขารู้สึกว่าซ่งรั่วเจินหาใช่ว่าจะจนปัญญาไม่ เพียงแต่ไม่ใคร่ประสงค์จะช่วย! ซ่งรั่วเจินมองเหลียงอ๋องตรงหน้า สมกับที่เป็นบุรุษเยี่ยงอสรพิษจริง ๆ นอกจากเอ่ยถ้อยคำเพียงสองประโยคเมื่อครั้งแรกเริ่ม เหลียงอ๋องก็เงียบงันไร้วาจาตั้งแต่ต้นจนจบ เขากำลังสังเกตอยู่ตลอดเวลา จวบจนยามนี้จึงเอื้อนเอ่ยวาจานั้นออกมา สุดท้ายแล้ว เหลียงอ๋องได้เข่นฆ่าผู้คนล้มตายมากมาย แม้แต่เช่ออ๋องยังพลอยเสียหายเพราะเขา จนต้องพิการไปชั่วชีวิต หาใช่บุคคลที่จะประมาทได้ไม่ เพียงแต่ว่า…นางก็ใช่ว่าจะรังแกได้โดยง่ายเช่นกัน! “เหลียงอ๋อง หม่อมฉันเคยบอกไปแล้วแต่แรกแล้วว่า เรื่องของเซียนโบตั๋นนั้น ข้าหาได้รู้แจ้งไม่ เพียงแต่เคยได้ยินคำเล่าลือมาบ้างเท่านั้น” “แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเมื่อครู่ ข้าเองก็อิงตามการพิจารณาจากประสบการณ์ก่อนหน้าเท่านั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีลูกหนอนที่ถูกนางพญาหนอนกลืนกินแทบทุกวัน” “รูปโฉมอันงดงามของตวนเฟย ล้วนอยู่บนร่างกายตวนเฟย ข้าเองก็จ
นางถึงขั้นเสียโฉม ถึงแม้ว่าต่อไปจะยังคงเป็นตวนเฟย แต่ผู้ใดไม่รู้บ้างว่าอยู่ในวังหลังหากไร้ใบหน้าอันงดงามก็เท่ากับไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้อีกแล้วเกรงว่าต่อไปฮ่องเต้ก็คงไม่มีทางมาหาตนเอง เช่นนั้นสถานการณ์ของนางยังเลวร้ายกว่าจงเฟยเสียอีก!ฮองเฮามองจงเฟยนิ่งๆ หาได้ประหลาดใจกับบทสรุปเช่นนี้ไม่ อย่างไรเสียจงเฟยก็ยังมีโอรสอย่างเช่ออ๋องถึงจะเห็นแก่หน้าของเช่ออ๋อง ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางส่งจงเฟยเข้าตำหนักเย็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าฮ่องเต้คำนึกถึงความรู้สึกในอดีตมาแต่ไหนแต่ไร หากวางแผนทำร้ายองค์ชาย บทลงโทษจะค่อนข้างรุนแรง แต่เพียงทำให้เสียโฉมก็เพียงแต่ลงโทษเท่านี้แล้ว“ฮองเฮา คราวนี้เจ้าได้รับความอยุติธรรมแล้ว”ฮ่องเต้มองไปทางฮองเฮา ยามนี้ฮองเฮาดวงตาแดงก่ำ ดูแล้วชวนให้คนสงสารยิ่งนัก“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่มอบความเป็นธรรมให้หม่อมฉันเพคะ”เห็นว่าฮองเฮาอ่อนโยนโอนอ่อน หาได้มีสิ่งใดไม่พอใจ ดวงตาฮ่องเต้ฉายแววพึงพอใจ ฮองเฮาคำนึกถึงภาพรวมเสมอมาแววตาจงเฟยเต็มไปด้วยความคับแค้น ต่อให้จงเฟยถูกกักบริเวณ นางก็ไม่มีทางปล่อยไปเด็ดขาด!ในเมื่อจงเฟยทำร้ายนางจนเป็นแบบนี้ นางก็จะทำให้ตวนเฟยเสียโฉมโดยสิ้นเชิง!ซ่งรั่
ทุกคนล้วนรู้ว่าหลังจากที่จงเฟยและตวนเฟยบูชาเซียนโบตั๋น คนทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นงดงามมากขึ้นเรื่อยๆทว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นการค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละวัน หากชั่วขณะนี้ พวกเขาได้เห็นความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองด้วยตาตัวเอง ดวงตาต่างก็ฉายแววตกใจออกมาผลลัพธ์ที่น่ากลัวถึงเพียงนี้ ฝ่ายหนึ่งได้ฝ่ายหนึ่งเสีย หากไม่ใช่คุณไสยแล้วจะเป็นอันใดได้อีก?วิถีธรรมะไม่มีทางดูดกลืนของของคนอื่นมาเสริมของของตัวเอง ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าความงามของตวนเฟยก็คือของบำรุงของจงเฟย!อาการของตวนเฟยเลวร้ายลงทุกขณะ จงเฟยกลับงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ!“คุณพระช่วย ตวนเฟยช่างอำมหิตจริงๆ บูชาเซียนโบตั๋นอะไรกัน เห็นได้ชัดว่าใช้ความงามของคนอื่นมาเป็นของบำรุงของตัวเองชัดๆ!”“ไม่แปลกเลยที่ตวนเฟยไม่ให้ทุบเซียนโบตั๋นนี่ หากทุบก็ทำให้พวกเราได้เห็นความจริงแล้วไม่ใช่รึ?”“ตวนเฟยช่างโหดร้ายโดยแท้ ผู้ใดไม่รู้ว่าในวังหลังฮองเฮาเป็นคนงามที่สุดแล้ว ถ้าฮองเฮาหลงกลบูชาเซียนโบตั๋น เช่นนั้นคนที่เกิดเรื่องในตอนนี้ก็คงเป็นฮองเฮาแล้ว!” หลิ่วกุ้ยเฟยอุทานด้วยความตกใจฮองเฮามองหลิ่วกุ้ยเฟยด้วยความประหลาดใจ นางประเมินสถานการณ์เป็นด้วย เห็นว่าสถานการณ์
ฉู่จวินถิงได้ยินดังนั้นก็ก้าวเข้ามาเหยียบหนอนตัวหนึ่งจนตาย ตวนเฟยพลันรู้สึกว่าความเจ็บปวดบนใบหน้าเหมือนจะบรรเทาลงเล็กน้อย แต่มีหนอนพิษมากมายปานนี้ เพียงเหยียบตายไปตัวเดียว ความรู้สึกของนางจึงไม่ชัดเจนนัก“เหลียงอ๋อง เจ้าลองฆ่าอีกสักหลายตัวลองดูซิ” ตวนเฟยกล่าวเหลียงอ๋องเห็นดังนั้นก็เหยียบตายไปหลายตัว ขณะที่ทุกคนสังเกตว่ารอยที่ราวกับรอยหนอนคลานบนใบหน้าของตวนเฟยหายไปบ้างแล้ว“สวรรค์ เป็นเพราะหนอนพิษพวกนี้จริงๆ หรือนี่!”“เซียนโบตั๋นนี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้จงเฟยมอบให้ฮองเฮา คงไม่ใช่ว่าจงเฟยท่าน...” หลิ่วกุ้ยเฟยมีสีหน้าแตกตื่นตกใจเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ฮองเฮาเห็นดังนั้นก็คุกเข่าลงทันที “ฝ่าบาท ท่านต้องมอบความเป็นธรรมให้หม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันถามตัวเองแล้วว่าไม่เคยทำผิดต่อจงเฟย นางกลับต้องการทำร้ายหม่อมฉัน!”“ตั้งใจส่งของแบบนี้มาให้หม่อมฉัน ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่!”“ฝ่าบาททรงปรีชา หม่อมฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะเพคะ!” จงเฟยคุกเข่าลงอย่างลนลาน “เซียนโบตั๋นนี้เป็นสิ่งที่หม่อมฉันอัญเชิญมาด้วยความศรัทธาจริงๆ มอบให้ฮองเฮาเพราะรู้สึกซาบซึ้งใจที่ทรงดูแลมานานหลายปี”“หม่อมฉันก็ไม่เข้าใจเหมือ
จงเฟยเดิมก็กังวลว่าจะถูกเปิดโปงเรื่องเซียนโบตั๋น ยามนี้เห็นว่าตวนเฟยไม่เชื่อซ่งรั่วเจิน ในใจก็นึกยินดี อยากให้สองฝ่ายขัดแย้งกันจนแตกหักใจจะขาด อย่างไรเสียก็ไม่มีผลเสียต่อนางขอแค่เรื่องเซียนโบตั๋นไม่ถูกเปิดโปง ไม่ว่าสุดท้ายตัดสินว่าเป็นผู้ใดวางยา นางล้วนยินดีชมดูทั้งสิ้นซ่งรั่วเจินเห็นว่าจู่ๆ จงเฟยก็โยนความขัดแย้งมาให้ตนเอง นางกวาดสายตาไปอย่างช้าๆ แววตาเย็นเยียบน่าขนลุก แฝงความเย็นเสียดกระดูกจงเฟยถูกจ้องจนสะท้าน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าซ่งรั่วเจินกับฉู่อ๋องค่อนข้างคล้ายกัน สายตาเปี่ยมจิตสังหาร แม้แต่นางก็ยังต้องตกใจ“ระหว่างหม่อมฉันกับเช่ออ๋องหาได้มีเรื่องเข้าใจผิดกันไม่ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีเรื่องขัดแย้งกับพระชายาเช่ออ๋อง แต่เรื่องก็จบไปนานแล้ว”“หม่อมฉันเข้าใจว่าเช่ออ๋องไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ที่แท้จงเฟยกับเช่ออ๋องก็ไม่พอใจเพราะเรื่องนี้มาโดยตลอด หม่อมฉันต้องขออภัยด้วยเพคะ”ซ่งรั่วเจินแสร้งเป็นประหลาดใจแล้วแสดงคารวะอย่างแช่มช้า น้ำเสียงกลับเย็นชากว่าเดิมหลายส่วน “จงเฟย เซียนโบตั๋นของท่านไม่มีปัญหา ไม่ได้หมายความว่าเซียนโบตั๋นของตวนเฟยจะไม่มีปัญหา”“ต่อให้อัญเชิญมาจากวัด แต่องค์หนึ่งไ
หรือว่า...นางยังหวังว่าจะพึ่งเซียนโบตั๋นช่วยให้นางเปลี่ยนไปเป็นเหมือนตอนแรกอีกงั้นหรือ!“พระชายาฉู่อ๋อง ข้าไม่มีความแค้นอันใดกับเจ้า ไยเจ้าต้องทำลายเซียนโบตั๋นของข้าด้วย!”ตวนเฟยมีสีหน้าร้อนใจ หลังจากที่ได้เซียนโบตั๋นมา ทุกครั้งที่นางบูชาก็จะเห็นด้วยตาตัวเองเลยว่าตัวเองงดงามขึ้นทุกวันไม่เพียงแต่ผิวพรรณเกลี้ยงละเอียด แม้แต่รูปร่างก็ดีขึ้นมาก นางไม่เชื่อว่าตนเองกลายเป็นเช่นนี้เป็นฝีมือของเซียนโบตั๋น จะต้องมีคนวางยาพิษอย่างแน่นอน!เห็นว่าตวนเฟยโยนความผิดมาให้ตัวเอง สีหน้าซ่งรั่วเจินฉายแววเย็นชาแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อตวนเฟยยืนยันว่าไม่ใช่ เช่นนั้นหม่อมฉันก็จะไม่พูดมากแล้ว”เดิมนางก็ไม่สนใจตวนเฟย แต่สถานการณ์ในวันนี้ ไทเฮาและฮ่องเต้ล้วนอยู่ด้วย ทั้งยังหันมาถามตนเองพอดี นางจึงพูดอะไรบ้างในเมื่อตวนเฟยไม่ต้องการก็ประหยัดแรงนางไปได้ไม่น้อยฮ่องเต้ขมวดคิ้วมุ่น “ตอนนี้เจ้ากลายเป็นแบบนี้แล้ว ยังจะไม่หาสาเหตุอีกรึ?”“ฝ่าบาท หม่อมฉันสามารถรับรองได้ว่าไม่ได้เป็นเพราะเซียนโบตั๋นเด็ดขาดเพคะ!” ตวนเฟยยืนกรานหนักแน่น “หม่อมฉันบูชาเซียนโบตั๋นด้วยความเลื่อมใส ท่านไม่มีทางทำร้ายหม่อมฉันหรอกเพคะ จะต้อ
จงเฟยเห็นทุกคนพูดถึงตัวเอง จิตใจก็อดจะประหม่าขึ้นมาไม่ได้ จึงกล่าวว่า “หม่อมฉันไม่รู้เลยว่าเป็นเรื่องราวอันใด พระชายาฉู่อ๋อง เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหลนะ!”ซ่งรั่วเจินแสร้งเป็นสงสัย “จงเฟยเพคะ หม่อมฉันเพียงพูดว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับเซียนโบตั๋น ไม่ได้พูดว่าเกี่ยวกับท่านเสียหน่อย เหตุใดจึงกลายเป็นพูดเหลวไหลไปเสียแล้ว?”จงเฟยมีสีหน้าแข็งทื่อ ทราบว่าตัวเองร้อนใจจนพลาดท่า ฝืนบังคับให้ตัวเองเยือกเย็นลง ทอดเสียงอธิบายว่า“ฝ่าบาท หม่อมฉันเห็นว่าสภาพเช่นนี้ของตวนเฟยช่างน่ากลัวนัก ประกอบกับหม่อมฉันยังมีเซียนโบตั๋นเหมือนกันพอดี ด้วยเหตุนี้พอได้ยินพระชายาฉู่อ๋องบอกว่าเกี่ยวข้องกับเซียนโบตั๋นจึงหวาดกลัวขึ้นมาเพคะ”ฮ่องเต้มองจงเฟยนิ่งๆ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แล้วกวาดสายตาไปทางซ่งรั่วเจิน “เจ้าบอกว่าเกี่ยวข้องกับเซียนโบตั๋น ไยจึงพูดเช่นนั้น?”เขาประจักษ์ในฝีมือของซ่งรั่วเจินมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือไทเฮาตามหาสิ่งของคราวก่อน หรือว่าตอนอยู่ในเขตล่าสัตว์ ล้วนแต่พิสูจน์ถึงความสามารถเชิงศาสตร์ลี้ลับของนางทั้งสิ้นช่วงนี้เขาเคยได้ยินตวนเฟยเอ่ยถึงเซียนโบตั๋นมาก่อน ทั้งยังขอมาจากฮองเฮาโดยเฉพาะอีกด
เมื่อมองใบหน้าของจงเฟยอีกครั้ง คิดดูแล้วก็คงเป็นเพราะช่วงนี้ตวนเฟยได้รับความโปรดปรานมาก จงเฟยจึงร้อนใจจนต้องการให้เกิดเรื่องกับตวนเฟยเร็วกว่าเดิมแต่เรื่องนี้กลับไม่เป็นผลดีต่อจงเฟย เดิมนั้นช่วงเวลาที่บูชายิ่งนานก็ยิ่งแสดงถึงความจริงใจ หน้าตานางผุดผ่องมากขึ้นทุกที คนก็งดงามขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายยังจะเหมือนกลายเป็นคนละคนแต่บัดนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้แล้วฉู่จวินถิงเห็นเจินเอ๋อร์สังเกตทุกอย่างอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ เขาก็ปิดปากไม่เอ่ยวาจาเช่นกัน เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน จงเฟยเลี่ยงความผิดไปไม่ได้อย่างแน่นอนอาศัยโอกาสนี้ตักเตือนคนที่อยู่เบื้องหลังหน่อยก็ดีเหมือนกัน!ฮ่องเต้ถูกเชิญมาอย่างรวดเร็ว หลังจากได้เห็นสภาพของตวนเฟยแล้ว สีหน้าก็พลันเคร่งขรึม“ผู้ใดวางยาตวนเฟยกันแน่? คนข้างกายตรวจสอบหมดหรือยัง?”“ทูลฝ่าบาท บ่าวถามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าสิ่งที่ตวนเฟยกินช่วงนี้เหมือนกับที่ผ่านมา หมอหลวงตรวจสอบสำรับของวันนี้และอาหารเหลือจากเมื่อวานที่ยังไม่ทันนำไปทิ้งเรียบร้อยแล้วก็หาได้พบพิษอันใดไม่” จางกงกงรีบร้อนรายงาน“คนในตำหนักได้ถามครบหรือยัง?”ฮ่องเต้มุ่นคิ้ว วังหลังเกิดเรื่องเช