공유

บทที่ 10

작가: จี้เวยเวย
เฉินเซียงตกตะลึง “คุณหนู นี่อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่เจ้าคะ?”

“เจ้าดูสิ ชุดที่นางใส่อยู่เป็นผ้าแบบเดียวกับคนใช้ของฉินซวงซวง คนรู้ก็รู้ว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของข้า แต่คนไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของนาง!”

ซ่งรั่วเจินมองด้วยสายตาเย็นชา ตอนที่อ่านนิยายนางก็รู้เรื่องนี้แล้ว เหตุผลที่ฉินซวงซวงรู้เรื่องของตัวเอกคนเดิมได้ดี เพราะนางได้วางคนเอาไว้ใกล้ตัวนางเอกมานานแล้ว

เมื่อคิดดูอย่างละเอียด เพ่ยหลานก็คือสาวใช้ที่ ‘ท่านน้าคนดี’ ของนางเลือกมาให้โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ตั้งแต่ที่นางทะลุมิติมา ก็ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ตัวเอกหลังจากแต่งงานกับหลินโหวเพียงสองปีก็เสียชีวิต

ก่อนหน้านี้ที่อ่านนิยายนางไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพียงคิดว่าไม่ได้รับความรักจากสามี และทำงานหนักเพื่อจวนหลินโหวจนป่วย แต่ตอนนี้พอคิดถึงวิธีการที่โหดร้ายและเพ่ยหลานที่อยู่ข้างกาย เกรงว่าอาจมีสาเหตุการตายที่น่าสงสัยกว่านั้น มิใช่เพราะร่างกายอ่อนแอ แต่เพราะมีคนไม่อยากให้นางมีชีวิตอยู่ต่างหาก!

คนชั่วช้าเช่นนี้ต้องรีบจัดการออกไปโดยเร็ว!

“พวกเจ้า นำตัวเพ่ยหลานไปตระกูลหลิ่ว!” ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้นสั่งให้คนมาปิดปากเพ่ยหลานแล้วส่งตัวออกไป

“คุณหนูเจ้าคะ เพ่ยหลานถูกฉินซวงซวงซื้อตัวไปแล้วจริงหรือ? ฉินซวงซวงเพิ่งกลับมามิใช่หรือเจ้าคะ? นางจะซื้อตัวเพ่ยหลานได้อย่างไร?”

ดวงตาของเฉินเซียงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ แต่เมื่อคิดอย่างละเอียดก็รู้สึกหวาดกลัว ฉินซวงซวงที่ดูอ่อนแอกลับมีวิธีการที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้อย่างไร?

“เจ้าคิดว่าข้าพูดเหลวไหลหรือ?” ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ แล้วถามกลับ นางรู้ว่าเฉินเซียงภักดีต่อตัวเอกคนเดิม น่าเสียดายที่สุดท้ายก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดี กลับเป็นเพ่ยหลานที่กลายเป็นคนของฉินซวงซวงเต็มตัวและมีชีวิตสุขสบาย

เฉินเซียงส่ายหน้า เอ่ยอย่างโกรธจัด “บ่าวก็คิดว่าวันนี้นางพูดจาน่ารำคาญ ปากก็ช่วยพูดแทนจวนหลินโหว แต่บ่าวไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าถ้าถูกฉินซวงซวงซื้อตัวไปแล้ว เช่นนั้นมิใช่ว่าควรหาวิธีหยุดยั้งไม่ให้คุณหนูแต่งงานไปมิใช่หรือเจ้าคะ?”

“เหตุใดพอตอนนี้ไม่แต่งไป พวกเขากลับร้อนใจ?”

“เพราะพวกเขาเสียดายเงินของตระกูลซ่ง เจ้าก็เห็นสภาพจวนหลินโหวในยามนี้ บัญชีแทบไม่มีเงินเลย แม้ฉินซวงซวงจะเป็นคุณหนูตระกูลฉิน แต่ฮูหยินฉินเป็นภรรยาคนใหม่ นางไม่ได้รับการยกย่องในตระกูลมากนัก”

“ตอนนี้นางแต่งงานกับหลินโหว สินสอดย่อมไม่มาก หลินจือเยว่ยังประกาศต่อหน้าขุนนางทั้งหมดว่าจะรับใช้ราชสำนัก ไม่ยอมรับทองคำและสมบัติล้ำค่าที่ฮ่องเต้พระราชทาน ทำให้ได้ชื่อเสียงที่ดีว่าเป็นคนสุจริต”

“ชื่อเสียงภายนอกฟังดูดี แต่การจะใช้ชีวิตก็ต้องใช้เงินไปทุกที่ จึงวางแผนไว้ที่ข้า คิดว่าข้าจะทนยอมรับการเสียเปรียบนี้อย่างบื้อใบ้”

เมื่อซ่งรั่วเจินเล่าความจริงออกมา เฉินเซียงก็รู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง “คุณหนู โชคดีที่คุณหนูไม่ได้แต่งออกไป หลินโหวช่างกินคนไม่เหลือกระดูกจริง ๆ ! เขาไร้ยางอายถึงเพียงนี้ วันนี้ยังมีท่าทางหยิ่งยโสเช่นนั้นอีก คนเช่นนี้คู่ควรต่อการเป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนักหรือ?”

“ไม่ต้องกังวล ข้าก็ยังไม่ได้แต่งออกไปนี่” ซ่งรั่วเจินตบไหล่เฉินเซียง พลางยิ้มบาง ๆ

“คุณหนู เพ่ยหลานทำเรื่องทรยศลืมบุญคุณเช่นนี้ การส่งนางไปแต่งงานเช่นนี้ไม่ง่ายไปหรือเจ้าคะ?” เฉินเซียงยังไม่สามารถยอมรับได้ พวกนางเติบโตมากับคุณหนูตั้งแต่เล็ก ไยจึงทรยศคุณหนูเพียงเพราะเงินแค่เล็กน้อยได้เล่า?

“ในเมื่อนางถูกซื้อตัวไปแล้ว ต่อให้ทุบตีและขายนางออกไปก็จะถูกตระกูลหลิ่วหรือฉินซวงซวงซื้อตัวกลับไป ถึงตอนนั้นข้าก็จะถูกใส่ร้ายป้ายสีอีก เกรงว่าจะทำให้ชื่อเสียงที่ข้าเป็นคนขี้อิจฉาและใจแคบเป็นจริง”

“ตอนนี้ในจวนเรากำลังมีเรื่องมากมาย มีสายตาหลายคู่จับจ้อง ไม่สู้ส่งนางกลับไปตระกูลหลิ่วเสีย ภรรยาของพ่อบ้านหลิ่วไม่ใช่คนที่อยู่ด้วยง่าย ๆ พวกเราไม่ต้องลงมือเอง นางก็ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นแน่”

ในดวงตาซ่งรั่วเจินมีประกายเย็นวาบ ท่านน้าส่งเพ่ยหลานมาอยู่ข้างกายนาง ตอนนี้นางก็ส่งคนกลับไปอย่างครบสามสิบสอง!

นอกจากนี้ พูดถึงพ่อบ้านหลิ่วผู้นี้ก็มีความน่าสนใจ คนอื่นอาจไม่รู้ แต่นางรู้ว่าเหตุผลที่เขาสามารถเป็นพ่อบ้านตระกูลหลิ่วได้ในอายุแค่นี้ ไม่ใช่เพราะความสามารถโดดเด่น แต่เพราะมีความลับบางอย่าง

ท่านน้าโจมตีพวกเขาอย่างต่อเนื่อง โศกนาฏกรรมของครอบครัวนางเอกมีส่วนมาจากคนผู้นั้นไม่น้อย ตอนนี้นางมาแล้ว นางจะเอาคืนอย่างสาสม!

“จริงสิ เก็บของของนางให้เรียบร้อย แล้วส่งของขวัญเพิ่มเติมจากข้าไปพร้อมกันเลย!”

“จำไว้นะ ของสิ่งนี้ส่งให้ถึงมือเพ่ยหลาน อย่าเปิดเอง”

เฉินเซียงสงสัยว่ามีอะไรอยู่ข้างใน แต่เมื่อได้ยินคำพูดของคุณหนูก็รีบล้มเลิกความคิด แค่รู้สึกว่าท่าทางของคุณหนูจริงจังมาก นางจึงไม่กล้าทำตามใจตนเอง

ทั้ง ๆ ที่เป็นคุณหนูที่คุ้นเคย แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดในวันนี้กลับรู้สึกเหมือนว่าคุณหนูเปลี่ยนไป ในอดีตเพ่ยหลานก็ทำเรื่องผิดพลาดไม่น้อย นางทนดูไม่ไหวจึงเอ่ยเตือนคุณหนูอยู่บ่อยครั้ง ทว่าคุณหนูก็ให้อภัยเพราะเห็นแก่ท่านน้า นานวันเข้านางก็ไม่พูดเตือนอีก

แต่วันนี้...ช่างสะใจเสียจริง!

เช้าวันต่อมา ซ่งรั่วเจินตื่นแต่เช้าตรู่ ตั้งใจจะไปหาไต้ซืออวิ๋นสุ่ยเพื่อสะสางเรื่องราว แต่ไม่คิดว่าจะมีคนมาเยือนเช้ากว่า

“น้องหญิง ข้าได้ยินเรื่องเมื่อวานแล้ว ดูสิ เรื่องนี้ใหญ่โตมากจนทั้งเมืองหลวงรู้กันหมด แม้ว่าการที่หลินโหวจะแต่งงานกับแม่นางตระกูลฉินพร้อมกันจะไม่เหมาะสม แต่รั่วเจินประกาศถอนหมั้นที่หน้าจวนหลินโหว มันผิดธรรมเนียมเกินไปแล้ว เช่นนี้จะให้จวนหลินโหวเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“ตอนนี้ทุกคนต่างพูดว่ารั่วเจินขี้อิจฉา ไม่มีความใจกว้าง ทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย แล้วจะทำอย่างไรต่อไปดี?”

หลิ่วเฟยเยี่ยนมีสีหน้ากังวล พูดปลอบโยนอย่างใจดี “ข้าได้ยินว่าฮูหยินผู้เฒ่าหลินและหลินโหวมาขอโทษเมื่อวานนี้ สองปีที่ผ่านมาพวกเจ้าก็เข้ากันได้ดี เหตุใดต้องไม่พอใจกันเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ด้วย?”

“หลินโหวเป็นสามีที่ดีขนาดนี้ หลายตระกูลต่างอิจฉา รั่วเจินกลับทำให้ความมั่งคั่งมหาศาลนี้หลุดมือไป เจ้าไม่คิดว่าสิ้นคิดไปหน่อยหรือ?”

“น้องหญิง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว หลินโหวมีคนรักอยู่แล้ว ต่อให้รั่วเจินแต่งงานไปก็ไม่ได้รับการใส่ใจ ในเมื่อทำให้เรื่องใหญ่โตขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นก็ถอนหมั้นให้จบไปเถิด”

หลิ่วหรูเยียนโบกมือ นางนอนไม่หลับทั้งคืน ครุ่นคิดตลอดทั้งราตรี ทว่าไม่เสียใจที่ยกเลิกการหมั้นครั้งนี้ เพียงแค่รู้สึกไม่ยุติธรรมแทนรั่วเจิน

นางเสียเวลาไปกับหลินโหวถึงสองปี เสียช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต และโทษตนเองในฐานะแม่ที่มองผิดไป คิดว่าจวนหลินโหวเป็นที่พึ่งพิงที่ดี

หลิ่วเฟยเยี่ยนเห็นหลิ่วหรูเยียนไม่หวั่นไหว ก็แปลกใจ “พี่หญิง ท่านเป็นอะไรไป? ข้าทำเพื่อรั่วเจินนะ หากพลาดการหมั้นหมายครั้งนี้ ต่อไปนางจะทำอย่างไร?”

“นางยังเด็ก อาจสับสนและแยกไม่ออกก็เท่านั้น แต่ท่านจะเลอะเลือนไม่ได้ ต้องคำนึงถึงนางให้ดี”

“ท่านน้าไม่ต้องเปลืองน้ำลายพูดมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะไม่แต่งเข้าจวนหลินโหว” ซ่งรั่วเจินเดินเข้ามาพร้อมพูดด้วยเสียงเย็นชา

หลิ่วเฟยเยี่ยนเห็นซ่งรั่วเจินก็แสดงท่าทางเป็นมิตรทันที “รั่วเจิน เจ้ามาพอดี น้าคิดเพื่อเจ้าอย่างจริงใจ สตรีอย่างไรก็ต้องแต่งงาน สองปีมานี้เจ้ายุ่งอยู่แต่ในจวนหลินโหว ทุกคนต่างคิดว่าเจ้าเป็นฮูหยินของหลินโหว ตอนนี้การหมั้นยกเลิกไปแล้ว เกรงว่าจะไม่มีใครต้องการเจ้า”

“ไม่สู้เจ้าอดทนกล้ำกลืนไปก่อน? มีฮูหยินผู้เฒ่าหลินคอยหนุนหลังให้ก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติได้มิใช่หรือ”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1354

    “ตอนนั้นข้าได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ เกือบทะเลาะต่อยตีกับสวีปินคนนั้น แต่ฟ่านหัวหรงห้ามไว้”สีหน้าคุณชายใหญ่สกุลลู่เคร่งขรึมลงไป “มิน่าเล่า คนดีย่อมคบคนดี คนชั่วย่อมคบคนชั่ว คบหากับคนชั่วกลุ่มนี้ เขาจะดีได้อย่างไร?”“เมื่อแรกเจ้าสมควรต่อยตีพวกเขาแรงๆ สักที หลังกลับมาแล้วก็แจ้งพวกเรา สวีปินไอ้ชั่วคนนั้นข้าเองก็รู้จัก ไม่ใช่คนดีอะไร!”ลู่เป่ยชวนพยักหน้า บัดนี้เขานึกเสียใจภายหลังหากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ เมื่อแรกก็ควรให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ เอ่ยเตือนพี่หญิงไม่ให้ฟ่านหัวหรงไปอยู่รวมกับคนชั่วเหล่านี้ นี่ก็เกิดเรื่องไม่ผิดไปดังคาดทุกคนได้เห็นฟ่านหัวหรงรีบเข้ามาอย่างว่องไวฟ่านหัวหรงคิดไม่ถึงเลยว่าเพียงมาถึงก็จะได้พบการต้อนรับยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความกังวลทวีคูณยิ่งขึ้น“หัวหรงคารวะท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่”ใต้เท้าลู่มองเขาด้วยสีหน้าเย็นชาแวบหนึ่ง ภายในสายตาเปี่ยมความเยาะหยัน “ฟ่านโหวงานยุ่ง ถึงขั้นมีเวลามาที่สกุลลู่ของพวกเรากระนั้นรึ?”“ท่านพ่อ ลูกเขยไม่เข้าใจความนัยของท่าน”ฟ่านหัวหรงเผยสีหน้าจริงใจ “ลูกเขยได้รับคำสั่งให้ไปทำธุระที่คูเมืองอื่น วันนี้เพิ่งกลับถึงเมืองหลวง ได้ยิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1353

    “ไอ้สารเลวคนนั้นถึงขั้นกล้ามา?”ใต้เท้าลู่ได้ยินข่าวการมาของฟ่านหัวหรงแล้ว สีหน้าเย็นชาลงไป“มาแล้วก็ดี ประเดี๋ยวฉิงเสวี่ยเห็นแล้วเขาจะไม่สบอารมณ์ ไม่สู้รีบตัดให้ขาดไป ให้เขาเขียนหนังสือหย่า แยกย้ายจากไปด้วยดี!”ลู่ฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วย “ก่อนหน้านี้สาบานต่อหน้าพวกเรา จะดีต่อฉิงเสวี่ย ปรากฏว่าลับหลังกลับทำเรื่องพรรค์นี้ นางแพศยาคนนั้นตั้งครรภ์ลูกของเขาแล้ว ยังคิดจะหลอกฉิงเสวี่ยไปตลอด!”“ข้ารู้สึกไม่คุ้มค่าแทนฉิงเสวี่ยจริงๆ เมื่อแรกทั้งๆ ที่เลือกคุณชายน้อยสกุลต้วนไว้ให้ฉิงเสวี่ย แต่เขาตามตอแยไม่เลิกรา”“แต่งงานได้เพียงไม่นานก็เลิกทะนุถนอมแล้ว คำพูดของผู้ชายไม่น่าเชื่อถือจริงๆ!”เพียงสิ้นเสียงของลู่ฮูหยิน ใต้เท้าลู่และลูกชายสองสามคนของสกุลลู่ต่างมองหน้ากัน ครู่ต่อมาอยากอธิบาย แต่นึกถึงอารมณ์ของลู่ฮูหยิน แต่ละคนล้วนเลือกจะเงียบปากลง“เพราะฉิงเสวี่ยไม่ตั้งครรภ์มาโดยตลอด จึงรู้สึกผิดต่อเขาอยู่ในใจ เพื่อรักษาอาการป่วย แต่ไหนแต่ไรมาไม่รู้นางกินน้ำแกงยาไปมากน้อยเพียงใด”“ข้าที่เป็นแม่ล้วนเห็นอยู่ในสายตา ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อแรกฉิงเสวี่ยรู้สึกผิดต่อเขา ยังคิดเสนอให้เขารับอนุจิตใจดีมาคนหนึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1352

    “เกิดเรื่องใดขึ้น?” ฟ่านหัวหรงขมวดคิ้วเอ่ยถาม“ท่านโหว ฮูหยินแท้งขอรับ”ฟ่านหัวหรงเบิกตากว้าง ใบหน้าเปี่ยมความเหลือจะเชื่อ “อะไรนะ?”“เมื่อหลายวันก่อนตอนฮูหยินไปเดินเล่นกับฮูหยินน้อยสกุลเมิ่งไม่ทันระวังลื่นตกบันได ตอนนั้นสกุลลู่เชิญหมอหลวงมา ทุ่มเทไปไม่น้อยถึงสามารถรักษาเด็กเอาไว้ได้”“คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ วันนี้ก็เกิดความเปลี่ยนแปลง หมอหลวงรับมือไม่ทัน ไม่อาจรักษาเด็กเอาไว้ได้ขอรับ”พ่อบ้านเผยสีหน้าเจ็บปวดระคนเสียดาย เขารู้ท่านโหวและฮูหยินเฝ้ารอลูกคนนี้มากเพียงใดแต่งงานกันมาหลายปีในที่สุดก็ท้องแล้ว กลับตายไปเช่นนี้ ใครจะสามารถยอมรับได้เล่า?“ฮูหยินตั้งครรภ์ตั้งแต่ยามใด?”ฟ่านหัวหรงตึงเครียดขึ้นมา ต่อให้เขาจากไประยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงครึ่งเดือน เหตุใดก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินฉิงเสวี่ยพูดเรื่องตั้งครรภ์เลยเล่า?“ฮูหยินตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว ท่านโหวไม่รู้หรือขอรับ?”คราวนี้คนงุนงงกลับกลายเป็นพ่อบ้าน ก่อนหน้านี้ทั้งๆ ที่ฮูหยินเชิญหมอมาตรวจแล้ว เพราะคนไม่ค่อยสบาย ไม่อยากอาหารมาโดยตลอดจนกระทั่งได้ยินว่ามีข่าวดี ฮูหยินดีใจอย่างมาก ต่อมาฮูหยินตั้งใจสั่งคนเตรียมมื้อเย็นอู้ฟู่ อีกทั้งยัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1351

    ภายในสายตาชุยอิงเอ๋อร์สะท้อนไอแค้น นางไม่รู้ว่าลู่ฉิงเสวี่ยคนนั้นมีดีอันใด ก็แค่ชาติกำเนิดสูงศักดิ์อยู่บ้างไม่ใช่หรือ?เว้นเสียแต่เรื่องนี้ นางไม่มีแม้แต่ความใจกว้างอันเป็นพื้นฐานของนายหญิง ทั้งๆ ที่แต่งงานกันมาหลายปีแล้วกลับยังไม่อาจตั้งครรภ์ ยังขอให้หัวหรงครองคู่กับนางไปชั่วชีวิตอีกด้วยหญิงริษยาเช่นนี้ควรถูกหย่า แต่หัวหรงกลับปกป้องนางอยู่ตลอดทว่า...ต่อให้ปกป้องลู่ฉิงเสวี่ยแล้วอย่างไร?ตอนนี้นางตั้งครรภ์เลือดเนื้อของฟ่านหัวหรง รอเด็กคนนี้คลอดออกมา นางไม่เชื่อหรอกว่าตนเองจะเข้าประตูใหญ่ของสกุลฟ่านไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ฟ่านหัวหรงคิดว่าเขาปกปิดไว้ดีมากแล้ว แท้จริงแล้วลู่ฉิงเสวี่ยรับรู้การมีตัวตนของนางตั้งนานแล้วหญิงคนนั้นภายนอกสง่างาม ท่าทางสูงศักดิ์และไม่ต่อสู้แย่งชิง ไม่รู้ว่าบัดนี้หลบไปร้องไห้จนกลายเป็นเช่นไรแล้ว!ถึงตอนนั้นลูกของนางสืบทอดกิจการของสกุลฟ่าน ต่อให้นางเข้าบ้านได้เป็นเพียงอนุ แต่ด้วยฝีมือของนาง จะต้องสง่างามยิ่งกว่านายหญิงที่ไม่อาจคลอดลูกได้อย่างนางแน่!คิดได้ดังนี้ ชุยอิงเอ๋อร์หัวเราะออกมา ยกมือโอบคอของฟ่านหัวหรง เป็นฝ่ายมอบริมฝีปากหอมให้“ขอเพียงภายในใจท่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1350

    จากนั้นฮูหยินผู้เฒ่าลู่ ลู่ฮูหยินไปจนถึงลู่ฉิงเสวี่ยได้รู้ข่าวนี้ ภายในใจรู้สึกตกตะลึง“พวกเขาถึงขั้นกลับมาแล้ว?” ลู่ฮูหยินหรี่ตาลง พูดด้วยความโมโห “วันนี้ข้าจะหักขาไอ้สารเลวคนนั้น!”“เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม ฟังความเห็นของฉิงเสวี่ยก่อน”ฮูหยินผู้เฒ่าลู่เห็นท่าทางโมโหจะไปตีคนด้วยตนเองของลูกสะใภ้ ภายในสายตาสะท้อนความระอาลูกสะใภ้คนนี้ดีไปหมดทุกอย่าง ก็แค่วู่วาม ต่อให้เป็นนายหญิงสกุลลู่มาหลายปีเพียงนี้ อุปนิสัยกลับไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดลู่ฮูหยินหันหน้ามองทางลู่ฉิงเสวี่ยแล้วถามว่า “ฉิงเสวี่ย เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“ข้าอยากฉวยโอกาสในวันนี้หย่ากับพวกเขา ให้ทุกคนช่วยข้าปิดบังข่าวลูกในท้อง ให้เขาคิดว่าไม่มีเด็กคนนี้เจ้าค่ะ”สีหน้าลู่ฉิงเสวี่ยเผือดซีด สายตากลับมุ่งมั่น นางไม่อยากอดทนอีกต่อไปแล้วอันที่จริงนับตั้งแต่ได้รู้ว่าถูกหักหลัง นางก็ไม่เคยคิดจะกลับมาคืนดีกัน เพียงแต่เพราะความรู้สึกผูกพันตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงไม่อาจตัดขาดได้ในทันทีดังนั้นนางจึงใช้เวลาระยะหนึ่ง มองดูเขาหลอกตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า มองดูฟ่านหัวหรงคอยตีสองหน้าอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสอง ในที่สุดตอนนี้นางก็ตัดใจได้อย่างสมบูรณ์แล้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1349

    ลู่เป่ยชวนดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปของมารดาตน รู้สึกเอือมระอาอย่างอดไม่ได้เขาคุ้นชินกับท่าทางเช่นนี้ของมารดาตนแล้ว แต่พี่สะใภ้อาจยังไม่คุ้นชินกระมังจากนั้น ซ่งรั่วเจินกลับพูดราวกับมีศัตรูคนเดียวกันก็มิปาน “ท่านป้า ข้าคิดว่าท่านพูดถูกแล้ว ชายใจทรามลืมบุญคุณคนพรรค์นี้ สมควรสั่งสอนดีๆ จะปล่อยให้เขามีจุดจบที่ดีไม่ได้เป็นอันขาดเจ้าค่ะ!”“หากไม่ใช่เพราะเขา ญาติผู้พี่ก็ไม่ต้องลำบาก เขาไม่เพียงหลอกญาติผู้พี่ ยังทำผิดต่อความเชื่อใจที่พวกท่านมอบให้เขาอีกด้วยเจ้าค่ะ”“ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเสด็จพ่อให้เขาออกไปทำงานราชการ เขากลับพาสาวงามไปด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าทำงานหรือเป็นคนดีก็ทำไม่ได้!”ลู่ฮูหยินคิดไม่ถึงเลยว่าซ่งรั่วเจินจะพูดจาเช่นนี้ ตอนแรกชะงักไป ต่อมาใบหน้าเผยรอยยิ้ม“เจินเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้ป้าได้พบเจ้าไม่บ่อยนัก คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นแม่นางฉลาดมากคนหนึ่ง”“ครั้งนี้ขอบคุณเจ้าที่ช่วยญาติผู้พี่เจ้า ข้าไม่รู้จะตอบแทนเจ้าเช่นไร พอดีสองวันนี้ข้าได้โสมร้อยปีมา เจ้าเอากลับไปบำรุงร่างกายดีๆ เถอะ”ลู่ฮูหยินคิดว่าเมื่อครู่เห็นซ่งรั่วเจินรักษาอาการป่วยให้ฉิงเสวี่ย สีหน้ากลายเป็นขาวซีด มองออกว่าเสีย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status