แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“นางย่อมเป็นคนใจดีและใจกว้าง นางเป็นคุณหนูตระกูลฉิน ฐานะไม่ต่ำกว่าเจ้า แต่เพราะข้ายอมรับเจ้า เจ้ากลับมีจิตใจคับแคบ เทียบกับนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย และไม่มีวาสนาพอรับน้ำใจของนางได้!”

หลินจือเยว่คว้าสร้อยข้อมือไปและสวมไว้ที่ข้อมือตนเอง

ซ่งรั่วเจินยกคิ้วขึ้น คดีไขได้แล้ว เป็นฉินซวงซวงจริง ๆ ด้วย!

“ฮูหยินซ่ง เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบ!”

หลินรั่วหลานร้อนใจมาก สองปีนี้นางนำเงินของตระกูลซ่งไปใช้ชีวิตอย่างสบาย ออกไปที่ใดก็มีแต่คนอิจฉา นางใช้ชีวิตกินดีอยู่สบายจนเคยชินแล้ว ไหนเลยจะยอมกลับไปใช้ชีวิตลำบากแบบเดิมได้?

หากซ่งรั่วเจินไม่แต่งงานเข้ามา จวนหลินโหวก็จะว่างเปล่า อย่าว่าแต่ชีวิตที่กินดีอยู่สบายเลย เงินที่มีก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง แม้แต่เงินที่จะจ่ายให้คนรับใช้ก็ไม่มี

“ความสัมพันธ์ของสองตระกูลดีเพียงนี้ จะขาดสะบั้นเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้ได้อย่างไร? เยว่เอ๋อร์ยังหนุ่ม เพียงแค่หลงผิดไป รอให้เวลาผันผ่านย่อมรู้ว่ารั่วเจินต่างหากที่เป็นคู่ครองที่ดี”

หลิ่วหรูเยียนปัดมือของหลินรั่วหลานออก “ไม่จำเป็น ลูกสาวของข้าไม่จำเป็นต้องอดทนรอให้ใครกลับใจ การหมั้นหมายล้มเลิกแต่เพียงเท่านี้ เราทั้งสองต่างก็เป็นคนที่มีศักดิ์ศรี แยกจากกันด้วยดีเถิด”

“ท่านโหวเป็นคนที่มุ่งมั่นในรักจริง พวกเราในฐานะผู้ใหญ่ เหตุใดถึงไม่ส่งเสริมเขาให้ได้สมใจหวัง? นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีของเมืองหลวงเช่นกัน”

“ส่งแขก”

ภายใต้การขับไล่ไสส่งของหลิ่วหรูเยียน หลินรั่วหลานและหลินจือเยว่ทำได้เพียงจากไป

“ลูกชายของนางตั้งใจจะแต่งงานกับฉินซวงซวงอยู่แล้ว แต่นางยังพูดว่าต้องคิดให้รอบคอบ แม่ไม่เคยคิดว่าจวนหลินโหวจะมีเล่ห์เหลี่ยมมากมายเช่นนี้เลย!”

หลิ่วหรูเยียนยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ หากไม่เห็นแก่หน้าตาของตระกูลซ่ง นางคงจะถือไม้กระบองไล่ตะเพิดพวกเขาให้ออกไปเสีย

“นึกถึงคราแรกที่หลินจือเยว่มาสู่ขอ เขามีท่าทีถ่อมตัวมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้สร้างผลงานมีความสำเร็จ กลับหยิ่งผยอง แม่คิดว่าเขาก็คงมิใช่คนดีอะไร โชคดีที่เจ้าไม่ได้แต่งเข้าไป มิฉะนั้นคงจะทำลายชีวิตเจ้าทั้งชีวิต!”

“ท่านแม่ ท่านไม่จำเป็นต้องโกรธเพราะคนเช่นนี้ คนทำอะไรไว้สวรรค์ย่อมมองเห็น ผู้ที่ทรยศไม่ซื่อสัตย์ไม่มีทางมีจุดจบที่ดีหรอกเจ้าค่ะ”

ซ่งรั่วเจินมีแววตาเจ้าเล่ห์ นางสังเกตเห็นว่าหลังจากที่พวกเขาถอนหมั้น โชคชะตาของหลินจือเยว่ก็เริ่มเปลี่ยนไป

เดิมทีนางไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับพระเอกนางเอกมากนัก เพราะในฐานะที่เป็นตัวประกอบที่ต้องตายอย่างน่าสังเวช การเข้าใกล้พวกเขาจะทำให้เกิดความโชคร้าย แต่เหตุการณ์หลาย ๆ อย่างในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่นางหลีกเลี่ยงได้แล้วจบกันไป เห็นได้ชัดว่าฉินซวงซวงเพ็งเล็งมาที่พวกเขาตลอดเวลา

เลือกสิ่งของแบบนี้ให้พี่ชายรองของนาง และยังให้คนมาฝังสิ่งที่มีผลกระทบต่อโชคชะตาของคนในตระกูลที่ใต้สระบัว...

เจ้าไม่ทำร้ายข้า ข้าก็ไม่ทำร้ายเจ้า แต่เมื่อเจ้ามารังแกถึงหน้าประตู ข้าก็ไม่มีทางยอมอดทน!

จนกระทั่งกลับมาที่ห้อง ซ่งรั่วเจินจึงรู้สึกเหนื่อยล้า ร่างกายนางรู้สึกอ่อนแรง หลังจากทะลุมิติมาก็เกิดเรื่องมากมาย รอให้นางได้นอนพักผ่อนดี ๆ สักคืน วันพรุ่งนี้ค่อยไปหาคนมาชำระบัญชีแค้นแล้วกัน

“ข้าได้ยินว่าหลินโหวมาเพื่อขอโทษ แต่คุณหนูก็ยังไม่ยอมให้อภัย ไม่รู้ว่าเหตุใดต้องแสดงท่าทางเช่นนั้น ตอนนี้หลินโหวกลับไปแล้ว คุณหนูก็คงจะแต่งไม่ออกแล้วมิใช่หรือ?” เพ่ยหลานบ่นออกมา

“เพ่ยหลาน เจ้าพูดอะไรของเจ้า? วันนี้หลินโหวกับฉินซวงซวงมารังแกคุณหนู เหตุใดถึงต้องทนรับความอัปยศนี้เอาไว้ด้วย?”

“คุณหนูของเราเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ ก่อนหน้านี้มีบุรุษหลายคนในเมืองหลวงมาสู่ขอ บัดนี้วันแต่งงานกลับเข้าประตูพร้อมกับภรรยาที่ตำแหน่งเท่ากัน นี่คือการเหยียดหยามชัด ๆ !”

เฉินเซียงโกรธมาก ทั้งใจล้วนเป็นห่วงซ่งรั่วเจิน “ฉินซวงซวงผู้นั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ข้าได้ยินคนใช้ของนางบอกว่าตอนท่านโหวยังอยู่ที่ชายแดน นางก็ไปเกาะแกะพัวพันกับท่านโหวแล้ว”

“ครั้งนี้ท่านโหวพานางกลับมาด้วย เป็นคุณหนูตระกูลฉินอันใดกัน ข้าคิดว่านางไม่รู้จักคำว่ายางอายเลยสักนิด!”

“แล้วจะทำอย่างไรได้? บุรุษมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้ท่านโหวพึ่งสร้างความดีความชอบ ได้เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้เชียวนะ!”

“หากไม่ใช่เพราะการหมั้นที่จัดขึ้นก่อน เกรงว่าคุณหนูคงไม่มีโอกาส นอกจากนี้แม่นางฉินยังเป็นคุณหนูตระกูลฉิน ฐานะไม่แย่ หากคุณหนูยอมทน ในเมืองหลวงใครจะไม่ชื่นชมว่าเป็นคนใจกว้าง?”

“ตอนนี้ที่ทำให้เรื่องใหญ่โต พรุ่งนี้ในเมืองหลวงคงจะเล่าลือว่าคุณหนูเป็นคนขี้อิจฉา เกรงว่าคงแต่งออกได้ยากแล้ว”

เพ่ยหลานเบะปากไม่ใส่ใจ “ข้าว่าเจ้านั่นแหละที่โง่เขลา จนตอนนี้ยังมองสถานการณ์ไม่ชัดเจนอีกหรือ นายท่านหายตัวไป คุณชายใหญ่กับคุณชายรองต่างก็เกิดเรื่อง คุณหนูในตอนนี้ย่อมไม่อาจเปรียบเทียบกับในอดีตได้”

ซ่งรั่วเจินฟังการสนทนาข้างนอก ดวงตาเป็นประกายเย็นชา วันนี้เกิดเรื่องมากมายเกินไป นางจึงไม่มีเวลาไปจัดการกับพวกคนกินบนเรือนขี้บนหลังคาพวกนี้เลย!

ตั้งแต่ตอนที่นางพึ่งทะลุมิติมา ก็ได้ยินแต่สาวใช้คนนี้พูดเสียดสี ในฐานะที่เป็นสาวใช้คนสนิท ทว่ากลับพูดช่วยคนอื่นตลอด ช่างมีฝีปากเสียจริง!

“เพียะ!”

ซ่งรั่วเจินผลักประตูออกแล้วก้าวเดินไปอย่างองอาจ ก่อนจะยกมือขึ้นตบหน้าเพ่ยหลาน!

“กล้าดีอย่างไร? เรื่องของเจ้านายเป็นเรื่องให้เจ้าพูดแทรกแทรงได้เช่นนั้นหรือ?”

เฉินเซียงเห็นซ่งรั่วเจินโกรธ ก็รีบกล่าวว่า “คุณหนู อย่าโกรธไปเลยเจ้าค่ะ เพ่ยหลานชอบพูดจาเหลวไหล”

เพ่ยหลานกุมใบหน้าที่ถูกตบ ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่สะทกสะท้าน อย่างไรคุณหนูก็เป็นคนอ่อนโยน มิชอบเอาความ หากทำผิดจริงก็แค่ถูกหักเงินเดือนไม่กี่วัน

“คุณหนู บ่าวหวังดีต่อคุณหนูนะเจ้าคะ หลินโหวเป็นสามีที่ดี หากคุณหนูปฏิเสธก็จะไม่มีโอกาสอีก บ่าวกลัวว่าคุณหนูจะนึกเสียใจทีหลัง”

“เพ่ยหลาน เจ้าก็ติดตามข้ามาหลายปีแล้ว แต่ก่อนข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีจิตใจกว้างขวางเช่นนี้ ตอนนี้เจ้าก็อายุมากแล้ว ข้าจะจัดหาคู่ให้เจ้าเอง”

ซ่งรั่วเจินหัวเราะเยาะ พลางยิ้ม “พ่อบ้านตระกูลหลิ่วก็มิเลวเลย เจ้าก็ไปเป็นฮูหยินรองของเขาแล้วกัน ด้วยฐานะของเจ้า ได้แต่งให้เขาถือว่าแต่งงานกับคนที่ฐานะสูงกว่าแล้ว ไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากแน่”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเพ่ยหลานก็เปลี่ยนไปทันที “คุณหนู จะทำเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ? พ่อบ้านหลิ่วแต่งงานแล้ว ซ้ำยังมีฮูหยินรองแล้วสองคน...”

“ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ คำพูดนี้เจ้าไม่ได้พูดเองหรือ? เจ้าใจกว้างเช่นนี้ย่อมไม่ถือสา พ่อบ้านหลิ่วเองก็เป็นบ่าวที่เกิดในตระกูลหลิ่ว ตำแหน่งก็ไม่ใช่ต่ำต้อย”

“เจ้าแต่งไปก็แค่ดูแลเขาและภรรยาเขาให้กินอยู่ใช้สอยไม่ขาด แม่นางคนอื่นคงจะหึงหวง แต่เจ้าไม่เป็นเช่นนั้น เช่นนี้แล้วก็เหมาะสมดีมิใช่หรือ?”

เพ่ยหลานรีบคุกเข่าลง “คุณหนู บ่าวผิดไปแล้ว บ่าวไม่อยากแต่ง...”

“เพียะ!”

ซ่งรั่วเจินยกฝ่ามือตบหน้าไปอีกครั้ง สายตาเย็นเยียบดุจคมมีด “เจ้าช่างมีฝีปากโดยแท้ ยามปกติข้าดูแลเจ้าอย่างดี เจ้าก็กลายเป็นคนไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี เรื่องที่ข้าตัดสินใจไปแล้วเจ้ามีสิทธิ์ปฏิเสธหรือ?”

“คุณหนู บ่าวภักดีต่อคุณหนูอย่างแท้จริง คุณหนูทำเช่นนี้กับบ่าวได้อย่างไรเจ้าคะ?”

เพ่ยหลานร้องไห้แสดงความน่าสงสาร ทว่าถูกซ่งรั่วเจินบีบคางไว้ “ปกติเจ้าแอบลักเล็กขโมยน้อย ข้าก็ไม่อยากจะเอาเรื่อง ตอนนี้เจ้ายิ่งใจกล้ามากขึ้น รับเงินของฉินซวงซวงลับหลังข้า เจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน?”

“คุณหนู บ่าวไม่ได้ทำนะเจ้าคะ! บ่าวภักดีต่อคุณหนูอย่างแท้จริง ไม่มีใจเป็นอื่น!” เพ่ยหลานตาเบิกกว้างด้วยความตระหนก ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ทั้ง ๆ ที่นางปิดบังไว้อย่างดีแล้ว เหตุใดคุณหนูถึงรู้ได้?
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1602

    “เรื่องวันนี้หากไม่ใช่เพราะเจ้าจงใจหาเรื่องใส่ตัว เรื่องราวก็คงไม่มาถึงจุดนี้ อัครเสนาบดีเดิมทีควรจะเป็นกำลังช่วยเหลือของข้า บัดนี้ทุกอย่างถูกเจ้าทำลายหมดสิ้นในคราวเดียวแล้ว!”เหลียงอ๋องคิดถึงความอัปยศที่ได้รับในห้องทรงพระอักษรวันนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะนางสตรีผู้นี้ประทานให้ เขาอยากบีบคอนางให้ตายไปเสียพ้น ๆ!หลายปีที่ผ่านมา เขาเก็บซ่อนกรงเล็บมาตลอด เพื่อรอวันจะได้ทำให้ผู้คนทั้งใต้หล้าได้ตื่นตะลึงบัดนี้เมื่อปีกของเขาแข็งแรงขึ้น จนเริ่มมีตัวตนโดดเด่นในสายพระเนตรของเสด็จพ่อแล้ว แต่เพราะตัวถ่วงชิ้นนี้ทำให้เขาตกอยู่ในภาพพจน์เลวร้ายตั้งแต่เริ่มต้นเขาเข้าใจเสด็จพ่อของตนเองดี สีพระพักตร์ในวันนี้ ชัดเจนว่าทรงล่วงรู้บางสิ่งแล้ว!ฉีชิงอีรับรู้ถึงความอึดอัดจากการขาดอากาศหายใจอันน่าสะพรึงกลัว โดยเฉพาะตอนที่สายตาสบเข้ากับนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอาฆาตคู่นั้น นางรู้สึกหวาดกลัวเสียยิ่งกว่าตอนที่ถูกถังเสวี่ยหนิงกรีดหน้าในคุกเสียอีกสองมือของนางพยายามแกะมือของเหลียงอ๋องออก ในใจพลันตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องราวที่ผ่านมานางไม่เคยคิดเลยว่าท่านอ๋องของตนเองที่ร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยง่ายจะม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1601

    ซ่งรั่วเจินพร้อมคนอื่นเข้าใจแจ่มแจ้งทันที ดูเหมือนว่าในท้องพระโรงเองก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นไม่น้อยกู้ฮวนเอ๋อร์อดสงสัยไม่ได้ “ข้าได้ยินว่าอัครเสนาบดีถังสุขุมรอบคอบและระมัดระวังมาตลอด ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏช่องโหว่ร้ายแรงใด ๆ มาก่อน เป็นขุนนางซื่อสัตย์ที่ใครต่างก็ชื่นชม”“แต่มาตอนนี้กลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หรือว่า…ภายในเองก็มีปัญหาเช่นกัน?”ฉู่อวิ๋นกุยเหลือบสายตามองพวกฉู่จวินถิงสองคนด้านข้าง เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วเช่นกันมิน่าเล่าก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนถึงได้นิ่งสงบไม่สะทกสะท้านถึงเพียงนั้น เสด็จพี่ไม่เคยทำศึกใดโดยไม่เตรียมการล่วงหน้า ต้องเป็นเพราะเตรียมการทุกอย่างไว้เสร็จสรรพแล้วอย่างแน่นอน“ฮวนเอ๋อร์ เจ้าจงไปกำชับห้องเครื่อง เย็นนี้ปรุงอาหารรสเลิศให้มากหน่อย จะได้รั้งเสด็จพี่และพี่สะใภ้ให้ร่วมโต๊ะรับประทานสำรับเย็นพร้อมกัน” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยพร้อมรอยยิ้มฮวนเอ๋อร์พยักหน้ารับ “เพคะ หม่อมฉันจะไปเองเดี๋ยวนี้”เห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ออกไปแล้ว ฉู่อวิ๋นกุยถึงจะเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ขึ้น คงลือกันทั่วเมืองหลวงแล้ว”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยเห็นเหลียงอ๋องในสายตา จนบัดนี้เพิ่งตร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1600

    ผู้คุมเหล่านั้นเข้าใจในทันที และหนึ่งในนั้นก็กุมท้องของตนเองและกล่าวว่า “ท้องของข้าเจ็บปวดนัก พวกเจ้ารีบพาข้าไปหาหมอก่อนเถิด”“ได้ ๆ ๆ รีบพาเขาไปหาหมอเร็ว!”......ซ่งรั่วเจินกำลังรอฟังข่าวอยู่ที่เรือนกับกู้ฮวนเอ๋อร์ อีกทั้งยังให้ไป๋จื่อไปซื้ออาหารมาให้อีกด้วย“ญาติผู้พี่ ข้าก็มิรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ตั้งครรภ์ จู่ ๆ ก็อยากกินนั่นกินนี่อยู่ร่ำไป ไม่กินก็ไม่ได้”กู้ฮวนเอ๋อร์เขินอายเล็กน้อย แม้ว่าปกตินางจะช่างกินอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นตะกละตะกลามเช่นนี้เริ่มตั้งแต่ไม่กี่วันมานี้ นางก็ช่างกินมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ของที่ไม่ชอบกินก่อนหน้านี้ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นเอร็ดอร่อยขึ้นมาทันตา“ไหนเลยจะเป็นเจ้าที่อยากกิน เป็นเด็กในท้องที่อยากกินต่างหาก”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “อยากกินอะไร ก็ต้องให้เขาลองชิมดู”กู้ฮวนเอ๋อร์ก็หัวเราะเช่นกัน “ท่านอ๋องก็พูดเช่นนี้เหมือนกัน ญาติผู้พี่ พวกท่านปฏิบัติต่อข้าดีเหลือเกิน”“เจ้าเป็นถึงพระชายาอวิ๋นอ๋อง อาหารชั้นเลิศอะไรที่กินไม่ได้บ้างเล่า? ขอเพียงแค่เจ้าชื่นชอบ ก็สั่งให้คนไปซื้อมาให้ก็พอ แต่ก็อย่ากินมากเกินไป ประเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้”

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1599

    “ใครกันจะมีเวลาว่างมาโกหกเจ้า? นี่เป็นข่าวจากในพระราชวัง เจ้าอย่าคิดเพ้อฝันกลับไปจวนอัครเสนาบดีอีกเลย!”“สร้างบาปสร้างกรรมเองแท้ ๆ อยู่ดีไม่ว่าดีไปผลักพระชายาอวิ๋นอ๋องเข้า ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว มีจุดจบเช่นนี้ก็เพราะหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น!”“ประตูจวนเหลียงอ๋องก็มิอาจเข้าได้อีกแล้ว ต่อไปเกรงว่าคงเป็นได้แค่สาวแก่ผู้หนึ่งเท่านั้น ข้าว่าท่าทางอำนาจบาตรใหญ่ หยิ่งยโสเช่นนี้ จะต้องผิดใจกับใครหลายคนเป็นแน่”“เมื่อได้เข้าพระราชวังจะมีคนสั่งสอนนางเอง และคาดว่าคงจะอยู่รอดได้อีกไม่นาน”บรรดาผู้คุมต่างมองหน้ากัน ถังเสวี่ยหนิงถูกจับเข้ามาเป็นเวลาสั้น แต่พวกเขาได้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่าหญิงผู้นี้สร้างปัญหามากมายเพียงใดหากเข้าพระราชวังไปอยู่กองซักอาภรณ์ คนในนั้นเชี่ยวชาญในการปรับตัวไปตามสถานการณ์ เมื่อรู้ว่าถังเสวี่ยหนิงผิดใจกับคนมากมาย เกรงว่าหากมีคนสั่งแค่ไม่กี่คำ ก็มีหลากหลายวิธีที่จะทำให้ถังเสวี่ยหนิงตายได้เลยถังเสวี่ยหนิงส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง “ช่วงนี้ถึงแม้ว่าข้าจะทำให้ท่านพ่อโกรธก็จริง แต่ท่านพ่อมิอาจตัดขาดบุตรสาวอย่างข้าเป็นแน่!”“ตราบใดที่ท่านพ่อยังเป็น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1598

    ซ่งรั่วเจิน กู้ฮวนเอ๋อร์ บัญชีแค้นนี้ยังไม่จบหรอก!“ถังเสวี่ยหนิง เจ้าอย่าได้ลำพองใจไปเลย! ข้าต้องถูกโบยสามสิบไม้แล้ว เรื่องที่เจ้าจะเข้าไปในจวนเหลียงอ๋องได้หรือไม่นั้นก็ค่อยว่ากันอีกที!”ฉีชิงอีเหลือบเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของถังเสวี่ยหนิง ภายในใจก็พลันเดือดดาล คาดไม่ถึงว่านังสารเลวผู้นี้จะยังกล้าหัวเราะเยาะนาง!ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเยาะเบา ๆ “ข้าเป็นคนของท่านอ๋องแล้ว เหตุใดถึงจะเข้าจวนอ๋องมิได้เล่า?”ท่านพ่อของนางเป็นถึงอัครเสนาบดี!ตราบใดที่นางมีสถานะขั้นนี้อยู่ เรื่องการแต่งงานครั้งนี้ย่อมไม่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้!ฉีชิงอีก็เริ่มไม่แน่ใจ หากท่านอ๋องช่วยขอความเมตตาแทนนางจริง ๆ เหตุใดนางถึงยังถูกโบยอีกเล่า นี่คงจะมิใช่ว่าท่านอ๋องมิได้ทูลขอความเมตตาให้นางใช่หรือไม่?ด้วยนิสัยของเหลียงอ๋อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ย่อมทำให้เขาเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงไม่แน่ว่าเขาจะตำหนินาง และอาจไม่ไปทูลขอความกรุณาต่อฮ่องเต้เพื่อลดโทษให้แก่นางถังเสวี่ยหนิงก็คิดถึงจุดนี้อยู่เหมือนกัน ภายในใจจึงแอบรู้สึกลำพองใจ“เดิมทีเรื่องราวในวันนี้ก็เป็นความผิดของเจ้าอยู่แล้ว เจ้าดึงดันที่จะก่อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1597

    ในคุกหลวงฉีชิงอีกับถังเสวี่ยหนิงถูกขังไว้ในคุกเดียวกันถังเสวี่ยหนิงร้องโอดครวญไม่หยุด นางรู้สึกว่าก้นของตนเองถูกเฆี่ยนจนแตก ความเจ็บปวดอันรุนแรงถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งร่างของนางสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด“พวกเจ้ารีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า!”“ท่านพ่อของข้าเป็นอัครเสนาบดี เขาได้เข้าพระราชวังเพื่อทูลขอความเมตตาแทนข้าแล้ว อีกไม่นานก็จะต้องปล่อยข้าออกไป หากข้าเกิดเป็นอะไรตอนที่อยู่ในคุก พวกเจ้าคงจะรับผลที่ตามมามิไหวเป็นแน่!”เพียงแต่ เมื่อเผชิญกับอำนาจคุกคามของถังเสวี่ยหนิง ผู้คุมกลับทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน และมิได้สนใจโดยสิ้นเชิงพวกเขาเป็นคนของฉู่อ๋อง คนที่ฉู่อ๋องสั่งให้จับนาง แล้วตอนนี้จะมาสั่งให้พวกเขาไปตามหมอมาให้นาง ช่างเพ้อฝันเสียจริง ๆ!ฉีชิงอีเห็นถังเสวี่ยหนิงเอะอะโวยวายไม่หยุด ก็อดจะรำคาญมิได้ “เจ้าหยุดโวยวายเสียทีได้หรือไม่? เจ้าไม่เห็นหรือว่าเรียกตั้งนานขนาดนี้ มีใครสนใจเจ้าบ้างเล่า?”ถังเสวี่ยหนิงเดือดดาลขึ้นมาทันที “หากมิใช่เพราะเจ้าจงใจผลักข้า ข้าจะไปผลักพระชายาอวิ๋นอ๋องได้อย่างไรกัน?!”“เรื่องราวในวันนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเจ้าคิดใส่ร้ายข้า ทำให้ข้าถูกเฆี่ยนตี คา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status